หัวข้อ: สอบถามเพื่อนๆ / อาจารย์ ผู้มีความรู้ เรื่องความร้อน EK2000 เริ่มหัวข้อโดย: chinphan ที่ 20 มกราคม 2011, 10:15:48 รถผมเวลาวิ่งใช้ความเร็วสูง ประมาณ 100 - 120 ความร้อนจะขึ้นสูง เข็มจะขึ้นไปถึงปลายเกือบ ฮีท
ผมล้างหม้อนําแล้วตามที่เพื่อนแนะนำมา และ เช็ควาล์วนําแล้ว พัดลมทำงานปรกติ ครับ คงเหลือแต่ ใบพัดปั้มนํายังไม่ได้ถอดดูเท่านั้น หัวข้อ: Re: สอบถามเพื่อนๆ / อาจารย์ ผู้มีความรู้ เรื่องความร้อน EK2000 เริ่มหัวข้อโดย: @rt_ek ที่ 20 มกราคม 2011, 17:54:35 - ลองเช็ค เทอร์โมสตั๊น ควบคุมพัดลมดู ว่าสั่งงานช้าหรือป่าว
- ดูว่าพัดลม หมุนช้ามาย แรงลมเบาไปหรือป่าว หัวข้อ: Re: สอบถามเพื่อนๆ / อาจารย์ ผู้มีความรู้ เรื่องความร้อน EK2000 เริ่มหัวข้อโดย: chinphan ที่ 21 มกราคม 2011, 16:43:57 ขอบคุณ
หัวข้อ: Re: สอบถามเพื่อนๆ / อาจารย์ ผู้มีความรู้ เรื่องความร้อน EK2000 เริ่มหัวข้อโดย: vom2525 ที่ 23 มกราคม 2011, 21:04:24 ถูกต้องเลย แต่ถ้าจะให้เหนียว ผมใส่พัดลม (เป่า) หน้าหม้อน้ำอีกตัว ทำงานพร้อมพัดลมแอร์ ชัวร์ดีอยู่เลย
หัวข้อ: Re: สอบถามเพื่อนๆ / อาจารย์ ผู้มีความรู้ เรื่องความร้อน EK2000 เริ่มหัวข้อโดย: srithanon ที่ 23 มกราคม 2011, 23:07:56 อาการความร้อนขึ้นสูง ขณะใช้ความเร็วรถตั้งแต่ร้อยกม/ชม ขึ้นไป สาเหตุหนึ่งเนื่องมาจากระบบหม้อน้ำ ถ่ายเทระบายความร้อนไม่ทัน อาจจะมาจากสาเหตุที่ในระบบน้ำหล่อเย็นมีอากาศเข้าไปอยู่ในระบบน้ำหล่อเย็น ในการถ่ายน้ำเปลี่ยนน้ำ แล้วไล่อากาศออกไม่หมด ที่เคยพบบ่อยๆ เมื่อมีการถ่ายน้ำของหม้อน้ำรถ ปกติเจ้าขอองรถจะทำเอง และจะทำในขณะที่เครื่องยนต์เย็นหรือนำในหม้อน้ำเย็น แล้วเปิดน๊อตที่อยู่ใต้หม้อน้ำ ให้น้ำไหลออก แล้วเติมน้ำใส่หม้อน้ำใหม่แล้วปล่อยออกอีก เพื่อไล่คราบสนิมออกมา บางท่านก็เอาท่อสายยางใส่ที่ช่องฝาหม้อน้ำ ให้น้ำไหลลงสู่ช่องถ่านน้ำด้านล่าง หลังจากนั้นก็ใส่น๊อตปิดท่อถ่ายน้ำ เติมน้ำให้เต็มหม้อน้ำแล้วปิดฝาหม้อน้ำ บางท่านก็พอมีความเข้าใจ ยังไม่ปิดฝาหม้อน้ำ สตาร์ทเครื่องยนต์ให้เครื่องยนต์ทำงาน แล้วคอยดูน้ำในหม้อน้ำลดลงหรือไม่ พอลดลงก็เติมอีกให้เต็ม แล้วก็ปิดฝา ถามว่าทำถูกต้องหรือไม่ ก็เกือบถูก พลาดไปหน่อย
การถ่ายน้ำหม้อน้ำรถ ควรจะกระทำในขณะที่เครื่องยนต์มีความร้อนหลังจากที่ขับมาและดับเครื่อง( อย่าเพิ่งแย้งว่าเขาทำกันขณะที่เครื่องยังเย็น) เพราะว่าในขณะที่เครื่องยนต์ทำงานหรือขับมาจากธุระ และจอดรถดับเครื่อง ในขณะนั้นการระบายน้ำท่อาศัยการทำงานของปั้มน้ำ ทำให้น้ำไหลวนนำเอาสิ่งที่เป็นคราบสนิทที่อยู่ในระบบน้ำขณะนั้น กระจายในระบบน้ำ หากเราถ่ายน้ำออกในช่วงเวลานั้น จะทำให้คราบสนิมไหลออกมาได้มาก ก็ดูว่ามันเสื่ยงกับความร้อนของน้ำที่จะเปิดเอาออกมา แต่หากรู้วิธีปฏิบัติก็ทำได้ปลอดภัย กล่าวคือเมื่อดับเครื่องยนต์แล้ว ห้ามเปิดฝาหม้อน้ำ แต่ให้เอาคีมปากยาว บิดขันน๊อตที่ถ่ายน้ำของหม้อน้ำ ที่อยู่ใต้หม้อน้ำ หมุนออกมาให้หมด ให้น้ำค่อยๆไหลออก น้ำจะไม่พุ่งเท่าใด เพราะไม่มีแรงดันของอากาศที่เข้าทางฝาเติมน้ำของหม้อน้ำ เพราะเราไม่ได้เปิดฝาหม้อน้ำ เมื่อน้ำไม่ไหลออกจากหม้อน้ำ ค่อยเปิดฝาหม้อน้ำ แล้วขันน๊อตปิดช่องระบายน้ำเข้าที่เดิม แล้วใช้น้ำสะอาดใส่หม้อน้ำให้เต็ม แล้วสตาร์ทเครื่องยนต์ให้เครื่องติดอีกครั้ง เพื่อให้ระบบปั้มน้ำทำการปั้มน้ำให้ไหลวนไม่อีกครั้ง สักนาทีก็ได้ เสร็จแล้วก็ดับเครื่องยนต์ถ่ายน้ำ ช่วงนี้ที่หม้อน้ำยังเปิดฝาอยู่ น้ำไม่มีแรงดันของความร้อน ให้เปิดน๊อตถ่ายน้ำที่ใต้หม้อน้ำอีกครั้ง ให้น้ำไหลออกให้หมด เครื่องยนต์บางรุ่นมีปลั๊กถ่านน้ำที่เสื้อสูบของเครื่องยนต์ หากมีก็ทำการขันออกเปิดน้ำที่ค้างอยู่ในเสื้อสูบออกให้หมด แล้วขันน๊อตปิดเข้าที่เดิม ในกรณีที่ต้องการไล่เอาคราบสกปรกคราบสนิมออกจากหม้อน้ำอีกวิธีหนึ่ง ก็คือการใช้ปืนฉีดน้ำล้างภายในหม้อน้ำ ที่มีการใช้แรงดันของลมช่วย ก็ให้ถอดท่อยางของหม้อน้ำด้านบนและล่างออก แล้วให้ปืนฉีดน้ำฉีดน้ำเข้าทางที่เติมน้ำที่ฝาหม้อน้ำเปิดอยู่ แล้วฉีดน้ำพร้อมแรงดันของลมที่ต่อร่วมกันกับท่อปืนฉีดน้ำ ไล่สิ่งสกปรกออก แต่ขั้นตอนนี้ไม่จำเป็นสักเท่าใด ความสำคัญอยู่ตรงการเติมน้ำและวิธีไล่อากาศออกจากระบบน้ำให้ห้องน้ำเสื้อสูบและหม้อน้ำ หลังจากที่ทำการปิดน๊อตถ่ายน้ำที่ใต้หม้อน้ำ แล้วเติมน้ำให้เต็ม หลังจากที่เติมน้ำให้เต็มแล้ว ให้ใช้มือบีบที่ท่อน้ำของหม้อน้ำด้านบน หลายๆครั้ง ดูน้ำที่เติมเต็มหม้อน้ำจะลดลง เมื่อลดลงให้เติมน้ำให้เต็มแล้วสตาร์ทเครื่องยนต์ (ฝาหม้อน้ำยังเปิดอยู่) วอร์มเครื่องยนต์ให้มีอุณหภูมิของเครื่อง หรือพัดลมหม้อน้ำทำงาน หากน้ำในหม้อน้ำลดลงให้เติมน้ำให้เต็ม และหากเครื่องยนต์บางรุ่นมีน๊อตสกรูสำหรับเปิดไล่อากาศจากระบบน้ำในหม้อน้ำ ก็ให้ทำการขันเปิดไล่อากาศอีกครั้ง พอน้ำในระบบไหลพุ่งออกอย่างต่อเนื่อง ไม่ขาดตอน ก็ให้ขันปิด แล้วเติมน้ำให้เต็มหม้อน้ำอีกครั้งพร้อมปิดฝาหม้อน้ำ และเติมน้ำในหม้อพักน้ำให้อยู่ในระบบที่กำหนด ช่วงนี้ให้เราทำการขับรถออกไปวิ่งสักระยะหนึ่งว่าความร้อนขึ้นเมื่อเครื่องยนต์มีความเร็วสูงหรือไม่ หากไม่มีการรั่วของอากาศจากท่อยางของหม้อน้ำและระบบน้ำหล่อเย็น ที่ต่อไปใช้งาน เช่นที่ท่อยางเล็กๆที่ไปหล่อเลี้ยงที่ตัวโรตารี่โซลินอยวาวล์ ที่อยู่ติดกับตัวเรือนปีกผีเสื้อ บางครั้งรั่วมีตระกรันที่เข็มขัดรัดสายบริเวณนั้น ทำให้อากาศรั่วเข้าในระบบน้ำหล่อเย็นในขณะที่เครื่องยนต์มีอุณหภูมิสูง ทำให้ระบบน้ำมีอากาศเข้าไปแทนที่ส่วนหนึ่ง ทำให้เครื่องยนต์มีความร้อนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ในขณะที่ใช้ความเร็วสูง อยากจะให้ท่านเจ้าของกระทู้ไปทำการล้างหม้อน้ำใหม่อีกครั้ง ตามที่แนะนำมา และอีกประการหนึ่ง อยากให้นำรถไปให้ช่างเปิดฝาครอบวาวล์ แล้วให้ช่างขันน๊อตฝาสูบใหม่ทุกตัวให้แน่น เพราะเคยมีจากประสบการซ่อมที่ปะเก็นฝาสูบหลังจากที่ใช้มานานเกิดสภาพการขยายตัวของโลหะฝาสูยและเสื้อสูบ ทำให้เกิดไม่สนิท ทำให้อากาศแรงดันในห้องสูบเร็ดรอดเข้ามาในระบบน้ำหล่อเย็น เมื่อใช้ความเร็วสูงๆก็ยิ่งทำให้ผ่านได้สะดวกเพราะแรงดันที่ความเร็วรอบสูงจะมาก ก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดอาการความร้อนขึ้นสูงในขณะใช้ความเร็วรถสูงๆ....srithanon หัวข้อ: Re: สอบถามเพื่อนๆ / อาจารย์ ผู้มีความรู้ เรื่องความร้อน EK2000 เริ่มหัวข้อโดย: chinphan ที่ 27 มกราคม 2011, 11:22:08 ขอบคุณมากครับผมจะลองไปทำดู
หัวข้อ: Re: สอบถามเพื่อนๆ / อาจารย์ ผู้มีความรู้ เรื่องความร้อน EK2000 เริ่มหัวข้อโดย: tikky ที่ 28 มกราคม 2011, 08:18:44 ****ลองดูน้ำมันเครื่องด้วยนะครับ ว่าแห้งป่าว******* ของผมเป็นเหมือนกันตอนวิ่งตั้งแต่ 100 ขึ้นไป เกความร้อนวิ่งตามไมเลย เช็คน้ำมันเครื่อง เกือบแห้ง เติมน้ำมันเครื่องลงไป ความร้อนปกติครับ........ปล.ของผมพอความร้อนขึ้นถึง เกือบ ไฮ แอร์ตัดไม่ทำงานมีแต่ลมออก...... ลองดูนะครับ...
|