:::CIVIC CLUB THAILAND:::

คุยคุ้ย Civic => Civic Club Car Knowledge => คลังความรู้คู่รถ => ข้อความที่เริ่มโดย: tonsoodteen ที่ 14 ธันวาคม 2010, 22:31:13



หัวข้อ: เครื่องดับกลางอากาศ(ปรึกษาครับ)
เริ่มหัวข้อโดย: tonsoodteen ที่ 14 ธันวาคม 2010, 22:31:13
คือ ขับมาปกติ แล้วอยู่ดีๆก็ดับเลยครับ
อาการเคยออกมาแล้ว แต่ก็ยังขับได้ แต่เริ่มเป็นหนักแล้วครับ
พอผมดึงสายตรงเรกกูเรทที่ต่อไปตรงคอรวมไอดีออก ก็พอสตาร์ทติดแล้วก็วิ่งได้ (วิธีนี้มีช่างบอกมาอีกทีครับ)

มันน่าจะเป็นที่อะไรครับ ถ้าเป็นที่เมนรีเลย์ผมจะได้ลอง D.I.Y ตามในกระทู้ดูอ่ะครับ

ปล.ผมสังเกตุดูลองบัดกุญแจแล้วไม่มีเสียงติ๊กอ่ะครับ

รบกวนด้วยนะครับ :-[


หัวข้อ: Re: เครื่องดับกลางอากาศ(ปรึกษาครับ)
เริ่มหัวข้อโดย: Regis100 ที่ 14 ธันวาคม 2010, 22:53:44
คือ ขับมาปกติ แล้วอยู่ดีๆก็ดับเลยครับ
อาการเคยออกมาแล้ว แต่ก็ยังขับได้ แต่เริ่มเป็นหนักแล้วครับ
พอผมดึงสายตรงเรกกูเรทที่ต่อไปตรงคอรวมไอดีออก ก็พอสตาร์ทติดแล้วก็วิ่งได้ (วิธีนี้มีช่างบอกมาอีกทีครับ)

มันน่าจะเป็นที่อะไรครับ ถ้าเป็นที่เมนรีเลย์ผมจะได้ลอง D.I.Y ตามในกระทู้ดูอ่ะครับ

ปล.ผมสังเกตุดูลองบัดกุญแจแล้วไม่มีเสียงติ๊กอ่ะครับ

รบกวนด้วยนะครับ :-[
ลองที่เมนรีเลย์ก็ได้ครับลองทำไม่ยาก ถ้าตอนบิดกุจแจไม่ได้ยินเสียงติ๊กๆ แต่ถ้าเป็นที่เมนรีเลย์ส่วนมากจะเป็นอาการสตาทยากครับดับกลางอากาศไม่ค่อยเจอแต่ก็เป็นไปได้ครับ ที่ดับกลางอากาศแบบนี้ส่วนมากป็นที่คอยล์จุดระเบิดอ่ะร้อนๆถึงดับ แต่พอบอกว่าดึงสายตรงเรตกูเรเตอร์ออก ผมก็ยัง งง
เอางี้ครับถ้าดับลองวิธีใหม่เอาผ้าชุบน้ำเย็นๆมาวางที่จานจ่ายตรงคอย์ลจุดระเบิดครับแล้วดูว่าสตาทติดไม๊
ลองดูครับ


หัวข้อ: Re: เครื่องดับกลางอากาศ(ปรึกษาครับ)
เริ่มหัวข้อโดย: tonsoodteen ที่ 14 ธันวาคม 2010, 22:57:52
ลองที่เมนรีเลย์ก็ได้ครับลองทำไม่ยาก ถ้าตอนบิดกุจแจไม่ได้ยินเสียงติ๊กๆ แต่ถ้าเป็นที่เมนรีเลย์ส่วนมากจะเป็นอาการสตาทยากครับดับกลางอากาศไม่ค่อยเจอแต่ก็เป็นไปได้ครับ ที่ดับกลางอากาศแบบนี้ส่วนมากป็นที่คอยล์จุดระเบิดอ่ะร้อนๆถึงดับ แต่พอบอกว่าดึงสายตรงเรตกูเรเตอร์ออก ผมก็ยัง งง
เอางี้ครับถ้าดับลองวิธีใหม่เอาผ้าชุบน้ำเย็นๆมาวางที่จานจ่ายตรงคอย์ลจุดระเบิดครับแล้วดูว่าสตาทติดไม๊
ลองดูครับ
ขอบคุณครับ เดี๋ยวจะลองทำดูครับ ลืมบอกไป ถ้ามันดับแล้วจะสตาร์ทติดยากอยู่เหมือนกันครับ  แต่ยังไงจะลองทำตามที่พี่แนะนำดูครับ ชอบคุณครับ :-*


หัวข้อ: Re: เครื่องดับกลางอากาศ(ปรึกษาครับ)
เริ่มหัวข้อโดย: Regis100 ที่ 14 ธันวาคม 2010, 23:08:53
ขอบคุณครับ เดี๋ยวจะลองทำดูครับ ลืมบอกไป ถ้ามันดับแล้วจะสตาร์ทติดยากอยู่เหมือนกันครับ  แต่ยังไงจะลองทำตามที่พี่แนะนำดูครับ ชอบคุณครับ :-*
ลองดูครับ :-\ :-\ :-\


หัวข้อ: Re: เครื่องดับกลางอากาศ(ปรึกษาครับ)
เริ่มหัวข้อโดย: srithanon ที่ 15 ธันวาคม 2010, 11:20:57
กำลังขับรถอยู่ดีๆเครื่องดับโดยไม่ทราบสาเหตุ   อาการดังกล่าวนี้ก็มีหลายสาเหตุ แต่ในขั้นตอนนี้เราจะมองไปที่ประเด็นของระบบไฟจุดระเบิดก่อนว่าเกิดอะไรขึ้น  ช่างบางคนก็บอกว่าเกิดจากจานจ่ายไม่มีไฟสูงออก อันมาจากสาเหตุของตัว Coil ที่ทำหน้าที่สร้างไฟสูงเกิดการช๊อทเทินของขดลวด เมื่อมีความร้อนจากการใช้งาน ทำให้ไฟสูงที่ออกจานคอยนี้ไม่มีทำให้ไม่มีไฟไปจ่ายให้กับหัวเทียน  ก็พอมองประเด็นว่าน่าจะถูกต้อง  แต่ก็ไม่แน่เสมอไป เพราะบางครั้งไม่ได้เกิดจากการช๊อทเทินของขดลวดของตัว Coil สร้างไฟสูงเท่านั้น  มันต้องมีองค์ประกอบในการสร้างสัญญาณไฟสูง ที่ป้อนให้กับวงจรตัวช่วยจุดระเบิด  ก็ต้องตรวจสอบกันไปที่ละสเต็ป
ขอย้อนมาที่ท่านเจ้าของกระทู้สักหน่อย  อยากจะให้ตรวจสอบเรื่องไฟสูงที่ปลายสายของหัวเทียนเส้นหนึ่งเส้นใดก็ได้  หลังจากที่เครื่องยนต์ดับกลางอากาศ ว่ามีไฟออกที่ปลายสายที่เข้าหัวเทียนหรือไม่ โดยดึงสายไฟที่ต่อเข้ากับหัวเทียนออก แล้วหาไขควงที่มีด้าพลาสติคเป็นฉนวน เอาปลายไขควงเสียบเข้าไปที่หัวจุ๊ปของสายหัวเทียน  แล้วนำมาวางใกล้ๆกับเหล็กบอดี้ของเครื่องยนต์ หรือกราวด์ตัวถังรถยนต์ ให้มีความห่างสักประมาณสักครึ่งเซ็นต์ แล้วลองสตาร์ทเครื่องดู ว่ามีประกายไฟออกหรือไม่  หากปรากฏว่ามี  ก็แสดงว่าระบบไฟจุดระเบิดทำงานถูกต้อง จะได้มองประเด็นอื่นที่จะต้องตรวจสอบต่อไปสมมุติว่าไม่มี ก็จะทำให้การตรวจเช็คและซ่อมได้ง่ายขึ้น  ในกรณีอย่างนี้อยากจะให้ใช้การตรวจสอบแบบตาดูหูฟังกับการตรวจสอบเบื้องต้น    ประการแรกหากคิดว่าเป็นที่ตัว Coil    อันมาจากความร้อน ก็ลองเปิดฝาครอบจานจ่าย    แล้วดูที่ตัวCoil ว่าอยู่ตรงไหน หากพบก็ลองเอาผ้าชุบน้ำเย็นๆ โป๊ะที่ตัว Coil สักครู่  แล้วปิดฝาครอบจานจ่าย แล้วลองสตาร์ทเครื่องยนต์ ว่าเครื่องยนต์ติดหรือไม่  สมมุติว่ามันติด บางท่านก็บอกว่าเป็นที่ตัว Coil แน่นอน เอาล่ะไม่ว่ากัน  ในการตรวจสอบแบบตาดูหูฟัง บางครั้งก็ใช้ได้ บางครั้งก็ไม่ตรงเหตุ  เพราะการตรวจสอบการทำงานของตัวสร้างไฟสูง ในทางอีเลคทรอนิคส์ ยังไม่ตรวจสอบในขณะที่เกิดเครื่องยนต์ดับจากการใช้งานขณะนั้น   แต่ที่กล่าวมาข้างบนมันเป็นหลีกการง่ายๆหรือเบื้องต้น ที่ท่านเจ้าของรถพึงจะกระทำได้  ไม่ใช่ช่าง  หากเป็นช่างก็จะต้องตรวจการทำงานของสัญญาณที่ถูกสร้างขึ้นที่ตัวจานจ่ายแล้วส่งไปให้ กล่อง ECU ที่มีทั้งสัญญาณ G และ NE ที่มาจากการกำหนดองศาจุดระเบิดและสัญญาณวัดรอบเครื่องยนต์  ที่มีวงจรสร้างสัญญาณนี้ในตัวเรือนจานจ่าย ผมคงไม่ต้องอธิบายการทำงานเพราะมันจะยืดยาวไป
หลังจากที่ ECU รับสัญญาณ G แล้ว มันก็จะส่งสัญญาณ IGT  เป็นสัญญาณที่เป็นอินพุทให้กับวงจรตัวช่ายจุดระเบิดทำงาน ทำให้มีไฟสูงเกิดขึ้นที่ตัว Coil  ดังนั้นเราจึงจำเป็นที่จะต้องตรวจสัญญาณที่ว่านี้ถูกส่งไปที่อินพุทของวงจรตัวช่วยจุดระเบิดหรือไม่  บางครั้งในขณะที่ขับรถยนต์ในระหว่างเดินทาง ก็เกิดสัญญาณที่ว่านี้ไม่มีมาจากกล่อง  ECU ทำให้เครื่องยนต์ดับกลางอากาศ ก็เพราะวงจรสร้างไฟสูงไม่ทำงานและไม่มีไฟสูงจ่ายให้กับหัวเทียน  มีรถของท่านเจ้าของรถสองสามท่านที่มาให้ผมช่วยตรวจซ่อมอาการที่ว่านี้ หลังจากที่นำไปให้ที่อู่อื่นๆซ่อมแล้วแก้ปัญหาไม่ตก แต่ละอู่ก็ลงความเห็นว่า ตัวจานจ่ายเสีย ผลสุดท้ายเมื่อมาให้ผมตรวจแก้ ปรากฏว่าที่ตัวกล่อง ECU มีวงจรที่สร้างสัญญาณ IGT เสียก็ซ่อมไปให้ก็ใช้ได้ตามปกติ 
ในความเป็นจริงอาการที่เกิดขึ้นที่ท่านเจ้าของกระทู้เล่ามา ก็ไม่ได้หมายความว่าจะเกิดกับเรื่องที่ผมมาเล่าให้ฟัง เท่านั้นมันก็เกิดชึ้นได้หลายอย่าง ในเรื่องของระบบอีเลคทรอนิคส์ จะเอาเป็นกฎตายตัวไม่ได้ ก็ต้องแก้กันไปที่ละสเต็ป  แต่จากประสบการณ์ที่เคยซ่อม มันก็เป็นไปได้ทั้งเรื่องของตัว Coil ไฟสูงเสีย     และในเรื่องที่ผมเอามาเล่าให้ฟัง ก็รับฟังและเก็บเป็นข้อมูลในการแก้ไข ที่มีได้หลายสาเหตุกับอาการที่เกิดขึ้น  ก็ขอเสริมเพิ่มเติมอีกนิดว่า อาการที่เกิดขึ้นกับรถที่กำลังขับไปอยู่ดีๆ เครื่องยนต์ก็ดับดังที่ผมกล่าวข้างบนว่า สาเหตุส่วนหนึ่งมาจากตัวกล่อง ECU ไม่ส่งสัญญาณ IGT มาให้ตัวช่วยจุดระเบิดที่จานจ่าย  อาการนี้จะเพิ่มความถี่ที่เกิดขึ้น จนในที่สุดก็สตาร์ทไม่ติดเลย  แถมวันดีคืนดีขับรถไปตายเอาบนสะพานที่มีการจรคับคั่ง ก็ให้คิดว่าโชคดีไปในวันนั้น
 ก็ขอย้อนมาที่ท่านเจ้าของกระทู้ ที่บอกว่าในขณะที่เครื่องยนต์ดับแล้วลองดึงสายท่อยางที่ต่อจากท่อไอดีมาเข้าที่ตัวเร็คกูเลเตอร์ของท่อรางหัวฉีดออก แล้วทำให้พอสตาร์ทได้ง่ายขึ้น    ผมว่ามันไม่น่าจะเกี่ยวข้องกันสักเท่าใด ทั้งนี้เพราะการที่คุณดึงเอาสายที่ว่านี้ออก มันจะมีผลแค่เพิ่มอากาศที่เข้าห้องไอดีมากขึ้น และเป็นอากาศที่เข้าโดยตรงไม่ผ่านลิ้นปีกผีเสื้อในขณะที่ลิ้นยังปิดอยู่  ถือว่าเป็นการช่วยลิ้นอากาศเพิ่มอากาศมากขึ้น ทำให้การสตาร์ทเครื่องยนต์ติดง่าย คงไม่เกี่ยวข้องกัน
สำหรับเรื่องของรีเรย์หลัก ที่ท่านเพื่อนสามชิกให้ข้อแนะนำไว้ ผมก็ขออนุญาตเสริมเพิ่มเติมให้อีกสักหน่อย  หลายๆครั้งที่มีปัญหาแบบนี้เกิดขึ้น บางครั้งก็มีส่วนที่เจ้าตัวรีเรย์หลักนี้เสีย อาจจะเสียที่ตัวของมัน ตราบใดก็ตามที่มีเรื่องของเส้นลวดที่พันบนแกนเหล็กไม่ว่าจะเป็นตัวรีเรย์ ทรานฟอร์เมอร์ และรีเรย์แบบต่างๆ สิ่งที่มันจะเกิดขึ้นได้ก็มีสองอย่าง  อย่างแรกก็เรื่องการช๊อทเทินของขดลวดที่พัน ประการที่สองก็เห็นจะเป็นเรื่องหน้าคอนแท็คที่สึก แต่อาการเสียที่มันแสดงออก ไม่ใช่เหตการณ์ที่เรากำลังกล่าวถึง     ส่วนใหญ่เป็นเรื่องของการสตาร์ทรถ หากรีเรย์ที่ว่านี้เสียมันจะทำให้ไม่มีไฟไปจ่ายให้กับปั้มติ๊กและระบบการสตาร์ทเครื่องยนต์ ก็อย่ามองข้ามปัญหานี้ไป อาจจะใช่หรือไม่ใช่ก็ไช่ก็ได้
เมื่อกล่าวมาถึงตอนนี้ก็ต้องวกกลับไปที่กล่อง ECU ที่หลังจากมันได้สัญญาณการสตาร์ทเครื่องยนต์ และเครื่องยนต์ติด ที่วงจรส่วนหนึ่งของ ECU จะทำหน้าที่ลู๊ปกราวด์   ของรีเรย์เปิดวงจร ที่จ่ายกระแสไฟโวลเต็จไปให้ปั้มติ๊กให้ทำงานตลอดที่เครื่องยนต์ยังติดและทำงานอยู่  ในขณะที่สวิชกุญแจมาอยู่ในตำแหน่ง ON (หลังจากกดสตาร์ท)  หากการต่อลู๊ปกราวด์ที่มาจากกล่อง ECU เสียหรือไม่มี ก็ทำให้ปั้มติ๊กไม่ทำงาน เครื่องยนต์ก็ดับกลางอากาศได้เช่นกัน  แต่อาการนี้ยังไม่เคยตรวจพบ อยากตัดออกไปกับประเด็นที่เกิดขึ้น  ก็คงจะแนะนำได้แค่นี้ก่อนนะครับ ส่วนระบบอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับปัญหานี้
ยังไม่มีปัจจัยบอกเหตุว่าจะเป็นที่ระบบอื่นๆ  ก็ขอให้โชคดีครับ??.srithanon


หัวข้อ: Re: เครื่องดับกลางอากาศ(ปรึกษาครับ)
เริ่มหัวข้อโดย: @rt_ek ที่ 15 ธันวาคม 2010, 11:24:07
ลองที่เมนรีเลย์ก็ได้ครับลองทำไม่ยาก ถ้าตอนบิดกุจแจไม่ได้ยินเสียงติ๊กๆ แต่ถ้าเป็นที่เมนรีเลย์ส่วนมากจะเป็นอาการสตาทยากครับดับกลางอากาศไม่ค่อยเจอแต่ก็เป็นไปได้ครับ ที่ดับกลางอากาศแบบนี้ส่วนมากป็นที่คอยล์จุดระเบิดอ่ะร้อนๆถึงดับ แต่พอบอกว่าดึงสายตรงเรตกูเรเตอร์ออก ผมก็ยัง งง
เอางี้ครับถ้าดับลองวิธีใหม่เอาผ้าชุบน้ำเย็นๆมาวางที่จานจ่ายตรงคอย์ลจุดระเบิดครับแล้วดูว่าสตาทติดไม๊
ลองดูครับ

ระวังไฟดูด...เน้อ  ;)


หัวข้อ: Re: เครื่องดับกลางอากาศ(ปรึกษาครับ)
เริ่มหัวข้อโดย: Regis100 ที่ 15 ธันวาคม 2010, 11:37:40
ระวังไฟดูด...เน้อ  ;)
ดูดก็เสียวซิครับ ;D


หัวข้อ: Re: เครื่องดับกลางอากาศ(ปรึกษาครับ)
เริ่มหัวข้อโดย: desperado ที่ 15 ธันวาคม 2010, 12:21:00
 ;)
ถอดกล่อง ECU ออกมาแกะออกดูว่ามันมีอุปกรณ์อีเล็คทรอนิคส์ตัวไหนเสื่อมสภาพบ้าง(ดูด้วยตาเปล่าได้)
ส่วนมาก ก็ คาปาซิเตอร์แบบมีขั้วจะเสื่อมสภาพก่อนตัวอื่นๆ
จุดสังเกตุ จะมีกรดไหลซึมออกมาจากตัวมันจะไปกัดทำลาย ลายวงจรทำให้ระบบไม่ต่อเนื่อง ต่อบ้าง ไม่ต่อบ้าง(ติดบ้าง ไม่ติดบ้าง)
***ถ้าเป็นที่ ECU จะหลับกลางอากาศ แน่ๆ...***
 ;)


หัวข้อ: Re: เครื่องดับกลางอากาศ(ปรึกษาครับ)
เริ่มหัวข้อโดย: tonsoodteen ที่ 15 ธันวาคม 2010, 18:24:44
ขอบคุณทุกท่านครับ เดี๋ยวจะลองทำตามจากง่ายไปหายากก่อนเลย

 :-*


หัวข้อ: Re: เครื่องดับกลางอากาศ(ปรึกษาครับ)
เริ่มหัวข้อโดย: tonsoodteen ที่ 16 ธันวาคม 2010, 21:27:30
มาส่งข่าวหน่อยครับ

วันนี้ลองขับไปแวถบ้านไม่ถึง2 กม.แล้วดับอีกแล้ว

เลยลองมา D.I.Y.เมนรีเลย์ดู ตามกระทู้ของพี่(Regis100)

และลองขับดูในระยะทางใกล้ๆประมาณ 5-6 กม. ปรากฎว่าไม่ดับครับ

เดี๋ยวจะลองระบะทางซัก20 กม.ขึ้นดูอีกทีครับ ว่าจะเป็นอย่างไร



ขอบคุณคุณพี่ๆที่แนะนำครับผม  ขอบคุณพี่ Regis100 อย่างมากเลยครับ D.I.Y. พี่สุดยอดเลยครับ :-*



หัวข้อ: Re: เครื่องดับกลางอากาศ(ปรึกษาครับ)
เริ่มหัวข้อโดย: Regis100 ที่ 16 ธันวาคม 2010, 23:29:09
มาส่งข่าวหน่อยครับ

วันนี้ลองขับไปแวถบ้านไม่ถึง2 กม.แล้วดับอีกแล้ว

เลยลองมา D.I.Y.เมนรีเลย์ดู ตามกระทู้ของพี่(Regis100)

และลองขับดูในระยะทางใกล้ๆประมาณ 5-6 กม. ปรากฎว่าไม่ดับครับ

เดี๋ยวจะลองระบะทางซัก20 กม.ขึ้นดูอีกทีครับ ว่าจะเป็นอย่างไร

ขอบคุณคุณพี่ๆที่แนะนำครับผม  ขอบคุณพี่ Regis100 อย่างมากเลยครับ D.I.Y. พี่สุดยอดเลยครับ :-*


ลองดูครับอากาศร้อนๆเลยเหมาะมาก แล้วลองดับเครื่องแล้วลองสตาทใหม่ดูครับว่าติดง่ายไม๊ ถ้ายังดับอยู่ก็ค่อยมาว่ากันอีกที แต่ขอให้อย่าดับอีกครับ อันตราย
อ้อเมนรีเลย์ถ่ายรูปลงกระทู้เมนรีเลย์ด้วยจะดีมากครับจะได้เห็นรูปแบบการติดตั้งรีเลย์ใหม่แต่ล่ะแบบ :-* :-*