หัวข้อ: วิธีการเลือกฟิล์มกรองแสงติดรถยนต์ ที่กันความร้อนได้ดี.... เริ่มหัวข้อโดย: nunrose ที่ 06 กรกฎาคม 2010, 10:33:14 ก่อนจะตัดสินใจเลือกฟิล์มกรองแสงที่สามารถกันความร้อนได้ดีนั้น ควรจำเป็นต้องรู้เรื่องของพลังงานความร้อนเสียก่อน เพื่อสามารถเปรียบเทียบคุณสมบัติของฟิล์มกรองแสงแต่ละรุ่นได้อย่างถูกต้อง
พลังงานความร้อนจะดวงอาทิตย์ที่ส่องมายังโลก แบ่งได้เป็น 3 จำพวกใหญ่ ๆ ได้แก่ 1) รังสีในช่วง UV เป็นคลื่นรังสีที่เป็นอันตรายผิวหนังของมนุษย์ คิดเป็น 3% ของพลังงานความร้อนทั้งหมด เช่น ฟิล์มกรองแสง HI-KOOL ทุกๆตัว สามารถกัน UV ได้ 99% นั้นหมายถึง กันความร้อนได้เพียง 3%เท่านั้น ซึ่งฟิล์มกรองแสงติดรถยนต์สามารถป้องกันรังสี UV ได้ 99% เป็นมาตรฐานอยู่แล้ว เช่น ฟิล์มกรองแสง HI-KOOL เป็นต้น 2) รังสี Visible light เป็นรังสีหรือแสงที่เราสามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ให้แสงสว่างที่มนุษย์ต้องการและความร้อนที่มนุษย์ไม่ต้องการ ดังนั้นการใช้ฟิล์มกรองแสงติดรถยนต์ที่ป้องกันความร้อนจากรังสี Visible light นี้ จะทำให้แสงสว่างที่ส่องผ่านเข้ามาน้อยลงไปด้วย เช่น หากมีฟิล์มกรองแสงที่สามารถกันความร้อนจากรังสี Visible light ได้ถึง 100% นั้นหมายถึง ไม่มีแสงสว่างผ่านเข้ามาได้เลย (มืดสนิท) ซึ่งในความจริงเป็นไปไม่ได้ หรือถึงแม้ว่าจะสามารถป้องกันรังสี Visible lightได้มาก (ฟิล์มกรองแสงสีเข้ม) ก็สามารถกันความร้อนได้เพียง 44 % ของความร้อนทั้ง หมดเท่านั้น 3) ตัวที่สำคัญคือ รังสีในช่วงอินฟราเรด (Infrared) หรือ คลื่นความร้อนนั้นเอง เป็นรังสีที่มีความร้อนสูงเป็นประโยชน์ต่อสิ่งมีชีวิต แต่ก็มีโทษในเรื่องของความร้อน คิดเป็น 53% ของความร้อนทั้งหมด เพราะฉะนั้นฟิล์มกรองแสงที่ดียิ่งค่าป้องกันรังสีอินฟราเรด (Infrared) มาก ก็สามารถป้องกันความร้อนได้มากเช่นกัน ในเรื่องของการสะท้อนแสง ค่าสะท้อนแสงของฟิล์มกรองแสงขึ้นอยู่กับ ความเงาของโลหะในเนื้อฟิล์ม(ปรอท) ยิ่งฟิล์มกรองแสงที่มีความเงามาก นั้นหมายถึง ฟิล์มกรองแสงนั้นสามารถสะท้อนแสงออกและกันความร้อนได้ดีมากเช่นเดียวกัน แต่หากโลหะในเนื้อฟิล์ม(ปรอท) กระทบกับแสงจากหลอดประหยัดไฟ ซึ่งมีคลื่นแสงที่สั้นมาก เช่นหลอดประหยัดไฟสีเหลืองที่ติดตามห้างต่างๆ เป็นต้น ก็อาจทำให้เกิดเป็นสีรุ้ง แต่ไม่เกิดขึ้นเมื่ออยู่กลางแสงแดด(แสงอาทิตย์) หรือเกิดน้อยมากจนสังเกตไม่เห็น เกณฑ์การตัดสินใจ ในการเลือกฟิล์มกรองแสงติดรถยนต์ 1. เปรียบเทียบคุณสมบัติของฟิล์มกรองแสงติดรถยนต์ 2. เลือกยี่ห้อฟิล์มกรองแสงติดรถยนต์ที่ได้มาตรฐาน 3. เลือกร้านหรือช่างในการติดตั้ง ที่มีคุณภาพ 4. ความชอบ รสนิยม ความเหมาะสม และปัจจัยอื่น ๆ (ส่วนบุคคล) อ้างอิง : http://hikoolfilm.blogspot.com/2010/07/blog-post.html หัวข้อ: Re: วิธีการเลือกฟิล์มกรองแสงติดรถยนต์ ที่กันความร้อนได้ดี.... เริ่มหัวข้อโดย: thetik ที่ 06 กรกฎาคม 2010, 11:18:05 ::) ::) ::) ::)น่าสนจัยดีครับ
หัวข้อ: Re: วิธีการเลือกฟิล์มกรองแสงติดรถยนต์ ที่กันความร้อนได้ดี.... เริ่มหัวข้อโดย: nunrose ที่ 06 กรกฎาคม 2010, 21:41:51 ::) ::) ::) ::)น่าสนจัยดีครับ ขอบคุณที่ชอบน่าค่ะ...... :-* :-* :-* หัวข้อ: Re: วิธีการเลือกฟิล์มกรองแสงติดรถยนต์ ที่กันความร้อนได้ดี.... เริ่มหัวข้อโดย: vitipong33 ที่ 28 มกราคม 2013, 14:23:54 1) รังสีในช่วง UV เป็นคลื่นรังสีที่เป็นอันตรายผิวหนังของมนุษย์ คิดเป็น 3% ของพลังงานความร้อนทั้งหมดฟิล์มกรองแสง HI-KOOL ทุกๆตัว สามารถกัน UV ได้ 99% ซึ่งหมายถึง กันรังสี UV ได้เกือบทั้งหมด แต่เป็นเพียง 3% ของความร้อนทั้งหมดเท่านั้น ฟิล์มกรองแสงติดรถยนต์ที่ดีต้องสามารถป้องกันรังสี UV ได้ 99% ซึ่งเป็นมาตรฐานอยู่แล้ว เช่น ฟิล์มกรองแสง HI-KOOLทุกตัว เป็นต้น รังสียูวี ถึงแม้จะไม่ได้มีความร้อนมากนัก แต่ก็สำคัญเพราะ ยูวีเป็นรังสีที่ก่อให้เกิดมะเร็งผิวหนัง และทำให้อุปกรณ์ภายในรถสีซีดจาง
2) รังสี Visible light เป็นรังสีหรือแสงที่เราสามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าคิดเป็น 44% ของรังสีความร้อนทั้งหมด ให้แสงสว่างที่มนุษย์ต้องการและความร้อนที่บางครั้งมากเกินไปจนมนุษย์ไม่ต้องการ ดังนั้นการใช้ฟิล์มกรองแสงติดรถยนต์ที่ป้องกันความร้อนจากรังสี Visible light นี้ จะทำให้แสงสว่างที่ส่องผ่านเข้ามาน้อยลงไปด้วย เช่น หากมีฟิล์มกรองแสงที่สามารถกันความร้อนจากรังสี Visible light ได้ถึง 100% นั้นหมายถึง ไม่มีแสงสว่างผ่านเข้ามาได้เลย (มืดสนิท) ซึ่งในความจริงเป็นไปไม่ได้ หรือถึงแม้ว่าจะสามารถป้องกันรังสี Visible lightได้มาก (ฟิล์มกรองแสงสีเข้ม) ก็สามารถกันความร้อนได้เพียง 44 % ของความร้อนทั้งหมดเท่านั้น 3) ตัวที่สำคัญคือ รังสีในช่วงอินฟราเรด (Infrared) หรือ คลื่นความร้อนนั้นเอง เป็นรังสีที่มีความร้อนสูงเป็นประโยชน์ต่อสิ่งมีชีวิต คิดเป็น 53% ของความร้อนทั้งหมด เพราะฉะนั้นฟิล์มกรองแสงที่ยิ่งป้องกันรังสีอินฟราเรด (Infrared) ได้มาก ก็สามารถป้องกันความร้อนได้มากเช่นกัน โดยมากฟิล์มกรองแสงที่มีราคาสูง จะสามารถป้องกันรังสีอินฟราเรดได้สูงถึง 97% ซึ่งหมายถึงตัดความร้อนในส่วนของอินฟราเรดไปได้เกือบหมด แต่จะเหลือความร้อนในส่วนของ visible light อีก 44 % และ uv อี 3% ฉะนั้นถึงจะกันอินฟราเรดได้เกือบหมดแต่หากแสงส่องผ่านเข้ามาเยอะ รถของท่านก็ยังร้อนอยู่ นี่คือเหตุผลที่ทำไมเวลาติดฟิล์มใสๆ แพงๆ แต่ยังสู้ฟิล์มเข้มและเงาไม่ได้ |