:::CIVIC CLUB THAILAND:::

ทริปแรกแห่งปี 53  วันที่ 8-11 มกราคม 2553 ผมแบ่งออกเป็น 4 ตอนเพื่อความรวดเร็วในการโหลดภาพ นะครับ
     ตอนที่ 1 อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง     http://www.welovecivic.com/forum/index.php/topic,51535.0.html
     ตอนที่ 2 ขุนแม่ยะ                        http://www.welovecivic.com/forum/index.php/topic,51661.0.html
     ตอนที่ 3 ขุนวาง - ล่องแพแม่วาง      http://www.welovecivic.com/forum/index.php/topic,51837.0.html
     ตอนที่ 4 พระพุทธบาท 4 รอย

ตอนที่ 4 พระพุทธบาท 4 รอย

จากตัวเมืองเชียงใหม่ที่หลักกิโล 18+700 กม. ไปตามถนนสาย 107 เชียงใหม่-ฝาง เลยแยกแม่ริมไป แต่ยังไม่ถึงแม่มาลัย จะมีทางแยกซ้ายเล็ก ๆ เข้า ตำบล"สะลวง" (ทางหลวงชนบทหมายเลข 3010) ถ้าเข้ามาเจอป้ายแบบนี้แล้วรับรองไม่หลงแน่ ๆ

แต่สามารถเข้าได้หลายทาง จากทาง แม่มาลัยก็ยังได้

ขับรถตามทางหลวง 3010 ไปเรื่อยๆ ผ่านคลองชลประทาน - ไร่หอมหัวใหญ่ - วัดศรีประกาศ ถึงหลักกิโลเมตรที่14-15 ที่บ้านสันป่ายาง จะมีทางแยกซ้ายมือ

ให้เลี้ยวซ๊ายตามป้ายที่เขียนว่าไปวัดพระพุทธบาทสี่รอย จากตรงนี้เหลือระยะทางอีกประมาณ17กิโลเมตร ขึ้นดอยตลอด 

แต่ถ้าตรงไปจะไปออกเส้น 1095 เส้นนี้ไปปายครับ

ประมาณอีก 4-5 กม. จะถึงวัด ป่าสองข้างทางจะเป็นดังในรูป ต้นไม้ส่วนใหญ่สูง 30-50 เมตร ขนาดลำต้นหลายคนโอบ ดูแล้วชื่นใจ จริง ๆ  ถ้าป่าเมืองไทยเป็นแบบนี้มาก ๆ รับรองไม่มีอุทกภัยแน่ ๆ

ถนนที่ขึ้นเขาออกจะแคบ เวลารถสวนกันต้องชลอ เป็นอย่างนี้ตลอดทาง

เวลาผ่านไปเกือบชั่วโมง สำหรับระยะทาง 31 กม.จากแยก 107 เข้ามา เราขึ้นมาถึงวัดพระพุทธบาท 4 รอย โดยสวัสดิภาพ

และเนื่องจากวันนี้เป็นวันจันทร์ ยังไม่มีนักท่องเที่ยวมาเลย ทำให้การเดินทางรวดเร็วมากขึ้น บนลานจอดรถมีรถเราเพียงคันเดียว

ท้องฟ้าปลอดโปร่ง สีฟ้าเข้มจัดมาก ๆ ฟ้าอย่างนี้ไม่สามารถเห็นได้ในกรุงที่มีควันรถยนต์มากมาย

นาค 7 เศียรที่บันไดทางขึ้นวิหารพระพุทธบาท วัดนี้อยู่ในเขตตำบลสะลวง อำเภอแม่ริม

เราจุดธูป-เทียนกล่าวคำสักการะ พระพุทธบาทขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้ง 4 พระองค์ ด้านล่างของวิหารนี้ เสร็จจากนั้นจึงจะขึ้นไปปิดทองรอยพระพุทธบาทข้างบน

วางดอกไม้ที่นำมาจากด้านล่าง วางบูชาที่รอยพระพุทธบาททั้งสี่

จากวิหารพระพุทธบาท มองข้ามลำธารไปยังเนินข้างหน้า จะเห็นพระอุโบสถของวัดทรงจตุรมุข งดงามตั้งอยู่บนเนินตรงข้าม

พรุ่งนี้มาต่อนะครับ ง่วงแล้ว....ไปละ  ..ฟิ้วววววว

ตอนผมไป ฟ้าครึมมากๆ  ลุงทีไปโชคดีจัง ท้องฟ้าเปิด

ด้านหลังของวิหารพระพุทธบาท จะมีศาลาอีกแห่งประดิษฐานด้วยพระพุทธรูป ที่สมมติเป็นพระพุทธเจ้าหลายสิบองค์

ด้านในของศาลา

มองออกจากศาลานี้ จะเป็นวิหารครอบพระพุทธบาท และที่ไกลออกไปด้านหลังคือพระอุโบสถหลังใหม่

เราเดินลงจากวิหารทางบันไดนาค อ้อมข้ามสะพานไปยังพระอุโบสถหลังใหม่

ที่เชิงทางขึ้นด้านซ้ายมือ จะมีศาลาของพระแม่ธรณีบิดมวยผม

เดินขึ้นมาตามทางลาด ขึ้นมาข้างบนจะเป็นลานกว้าง จอดรถได้เป็นร้อยคัน แต่ต้องถ่ายย้อนแสง

ยังต้องเดินขึ้นบันได เป็นเขตวิสุงคามสีมา มีคานห้อยลูกนิมิตที่เตรียมงานฝังอีกไม่นานทั้ง 8 ลูก  และเมื่อเข้าไปในพระอุโบสถ จะเห็นพระประธาน พร้อมทั้งลูกนิมิตลูกเอก

หลังจากไหว้พระและปิดทองลูกนิมิตลูกเอกแล้ว เดินออกจากพระอุโบสถ มองตรงไปข้างหน้าก็เป็นวิววิหารพระพุทธบาท

แข่งเที่ยวไม่ทันลุงเทพแล้วนะครับ   :'( :'(

^
^
^
เดือนกุมภานี้ ยังไม่มีโปรแกรมนะครับ.....จะไปไหนชวนด้วยครับ

พระอุโบสถอันงดงามนี้ กว้างยาวด้านละ 35 เมตร ใช้ทุนทรัพย์ในการสร้างถึง 40.1 ล้านบาท ยังไม่ได้ทำพิธีผูกพัทธสีมา - ฝังลูกนิมิต

ในวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 4 ของทุกปี ศรัทธาสาธุชนจะเดินเท้าระยะทาง 18 กิโลเมตรขึ้นไปสรงน้ำพระพุทธบาทสี่รอยและปฏิบัติเป็นประเพณีตั้งแต่โบราณจนถึงปัจจุบัน โดยประเพณีสรงน้ำพระบาทสี่รอยนี้ได้เริ่มมาตั้งแต่ พ.ศ.2472 โดยครูบาเจ้าศรีวิชัย เป็นผู้ริเริ่มเป็นต้นมา

ภาพนี้ 1 ในสมาชิกทัวร์ กำลังนั่งคุยกับพญานาคหรือเปล่า ???

กำแพงแก้วด้านนี้เขาเรียกกันว่า "นาคเกี้ยว"

ได้เวลาอำลาพระอุโบสถที่แสนจะงดงาม สวย และ ดี ไม่จำเป็นต้องใหญ่โตมโหฬารอันใด

เดินกลับลงมาตรงที่จอดรถ ข้างบันไดนาคทางขึ้นพระวิหาร ผมไม่ลืมแวะเข้าไปกราบพระบัวเข็มที่ผมนับถือ "พระอุปคุต" หรือ "พระบัวเข็ม" องค์พระอรหันต์เจ้าผู้ประทานโชคลาภและคุ้มภัยทั้งปวง เป็นพระที่เป็นที่นิยมของชาวอินเดีย พม่า มอญและคนไทยทางเหนือมาช้านาน

เราลงจากดอยแวะแม่ริมซื้อสตรอเบอรี่สด กลับเข้าถึงตัวเมืองประมาณบ่ายโมงกว่า ๆ ทานอาหารกลางวันที่ร้านข้าวซอยฟ้าฮ่าม

แวะช๊อปที่วนัสนันท์ มีเราช๊อปอยู่พวกเดียวไม่มีทัวร์อื่นเลย ออกจากนี่ สาว ๆ ขอแวะที่ตลาดต้นพยอมเพื่อซื้อไส้อั่ว+น้ำพริกหนุ่ม

แล้วรถก็ไปส่งเราที่ Airport บ่ายสามกว่า ทิ้ง "เจ้าบี" ไว้กับรถตู้ ให้ไปส่งที่สถานีรถไฟ เพราะมันแอบเกาะล้อรถไฟตามมา ไม่ทันได้จองตั๋วเครื่องบินล่วงหน้า ...555

หกโมงเย็นคณะเราถึงท่าอากาศยานดอนเมืองโดยสวัสดิภาพ เช้ารุ่งขึ้นอีกวัน "เจ้าบี" ถึงจะตามมา

*** คราวหลังจะตามต้องจองล่วงหน้า 2 เดือน จำไว้ ***

ค่าใช้จ่ายทั้งทริปต่อคนไม่รวมค่าของฝาก 5,060 บาท ส่วนเจ้าบี 3,600 กว่า ๆ แต่ซื้อของฝากน่าจะมากกว่าคนอื่น

พบกันใหม่ทริปหน้านะครับ

รูปสวยเหมือนได้ไปเที่ยวอีกครั้งเลยครับลุงที  ปีก่อนผมขี่มอไซค์จากเชียงใหม่ไปพระบาทสี่รอย สนุกมากมาย  :)

ผมโดนคุณลุงทีหลอก บอกเราว่าจะกลับ 3 ทุ่ม ที่ไหนได้ 4 โมงเช็คอิน 6 โมง(เย็น)ถึงบ้าน
ดีนะเลื่อนตั๋วรถไฟได้ทัน รถออก 4 โมงครึ่ง ถึงบ้าน 6 โมง(เช้า)เหมือนกัน

ขอบคุณอีกครั้งครับ สำหรับการดูแลเป็นอย่างดี  :)

ก็ลุงทีเค้าเอาตัวนำโชคไปด้วยไง เลยโชคดีตลอดทริปนี้   :-[

 :) :)