หัวข้อ: ### รบกวนถามเรื่อง หม้อเคตตาไลท์ หน่อยครับ ไม่รู้ว่าผมขาดทุนรึป่าว ### เริ่มหัวข้อโดย: welove_coupe ที่ 20 กุมภาพันธ์ 2007, 16:22:23 เกร่นนินึงนะครับ พอดีว่าผมไปทำปลายมา รวมติดตั้ง 3,400 (ไม่มียี่ห้อครับ) แล้วช่างแนะให้ตัดเคต ออกน่ะครับ จะได้โล่งขึ้นอีกนิด ตอนแรกคิด 400 ต่อไปมา เหลือ 200 ผมก็เลยทำ พอเสร็จแล้วจ่ายไป 3,600 แล้วจะกลับจึงขอของเดิมกลับ ก็ได้มาแต่พักปลาย แต่เคตขอช่างเก็บไว้ บอกว่าเราเอาไปก็ไม่ได้ใช้ และเห็นบอกว่าตอนที่ตกลงคือต้องให้เคตเค้าไปด้วยน่ะครับ(จริงๆไม่ได้คุยเลยครับ)
จริงๆแล้วผมก็ไม่ได้ใช้หรอกครับ แต่อยากทราบว่ามันขายได้ราคาเท่าไหร่เหรอครับ หรือเค้าจะเอาไปทำอะไรได้อีกเหรอครับ เพราะเห็นว่าเค้าอยากจะได้เหลือเกินเลย รบวานถามทุกท่านด้วยนะครับ ผมขับ civic coupe 98 ครับ หัวข้อ: Re: ### รบกวนถามเรื่อง หม้อเคตตาไลท์ หน่อยครับ ไม่รู้ว่าผมขาดทุนรึป่าว ### เริ่มหัวข้อโดย: welove_coupe ที่ 20 กุมภาพันธ์ 2007, 16:27:52 อีกอย่างนะครับ เวลาตรวจสภาพจะมีผลมั้ยครับ ลืมคิดตอนตัดเลยนะเนี่ย :'(
หัวข้อ: Re: ### รบกวนถามเรื่อง หม้อเคตตาไลท์ หน่อยครับ ไม่รู้ว่าผมขาดทุนรึป่าว ### เริ่มหัวข้อโดย: welove_coupe ที่ 20 กุมภาพันธ์ 2007, 22:24:01 ท่านใดพอจะทราบบ้างมั้ยครับ ว่าเค้าจะเอาไปทำอะไรต่อได้ กับจะตรวจผ่านรึปล่าวน่ะครับ ขอรบกวนด้วยครับ
หัวข้อ: Re: ### รบกวนถามเรื่อง หม้อเคตตาไลท์ หน่อยครับ ไม่รู้ว่าผมขาดทุนรึป่าว ### เริ่มหัวข้อโดย: Ayothaya ที่ 20 กุมภาพันธ์ 2007, 23:47:56 เรื่องราคาผมไม่แน่ใจครับ ... แต่เรื่องแคตเนี่ยส่วนตัวผมว่าเสียเปรียบครับ เพราะแคตเนี่ยร้านพวกนี้เอาไปขายแน่ๆ
แต่เรานีสิ เกิดไม่พอใจจะใสกลับไปเหมือนเดิมก็ไม่มีของแล้ว ก็ต้องกลับไปซื้อใหม่ ... ยังไงรบกวนช่วยบอกชื่อร้านด้วยได้ไหมครับ หัวข้อ: Re: ### รบกวนถามเรื่อง หม้อเคตตาไลท์ หน่อยครับ ไม่รู้ว่าผมขาดทุนรึป่าว ### เริ่มหัวข้อโดย: best again ที่ 21 กุมภาพันธ์ 2007, 13:47:58 แคตนี่ เห็นเค้ารับซื้อกัน หลายร้อยเหมือนกันน่ะครับ
ผมว่าโดนแร้วครับ แบบว่าขายเองได้เยอะกว่า ส่วนวัสดุที่ พวกรีไซร์เคิล ต้องการในแคตก็น่าจะเป็น ไทเทเนียม ที่เป็นส่วนประกอบ ในแคตอ่ะ ครับ กก.ละหลายบาททีเดียว แต่ แคตรถญี่ปุ่นจะมีไทเทเนียมอยู่น้อย พวกรถยุโรปจะมีเยอะหน่อยแร้วแต่ยี่ห้ออ่ะครับ บางยี่ห้ออาจจะรับซื้อกันหลายพันเรยก็มีครับ ส่วนเอาแคตออกแร้ว ท่อน่าจะเหม็นขึ้นครับ เพราะถอกตัวกรองไอเสียออก ในกรณีที่แคตเริ่มตันแร้วก็จะรู้สึกว่ารถวิ่งดีขึ้น แต่ถ้าเอารถใหม่เกียร์ออโต้ ด้วยกัน เดิมๆทั้งคู่ คันนึงตัดแคตออก อีกคันไม่ตัด ผมเชื่อว่า คันที่ตัดแคตน่าจะวิ่งสู้คันที่ไม่ตัดไม่ได้ เพราะมันโล่งเกินไป อันนี้เป็นความคิดของผมน่ะครับ ใครรู้มากกว่าผมชี้แนะด้วยครับ ราคาแคตใหม่ ลองไปถาม 0 ดูสิครับ ผมว่า แพงมากแน่ๆ ครับ หัวข้อ: Re: ### รบกวนถามเรื่อง หม้อเคตตาไลท์ หน่อยครับ ไม่รู้ว่าผมขาดทุนรึป่าว ### เริ่มหัวข้อโดย: welove_coupe ที่ 21 กุมภาพันธ์ 2007, 17:55:52 :'( ตัดแล้วแย่ลงเหรอครัยบเนี่ย เศร้าเลยครับ 2 ต่อเลย แล้วเหม็นอีกเหรอครับเนี่ย ผมก็ว่านึกว่าอุปทานไปเอง ตอนลองเบ้ลเครื่องเล่นน่ะครับ
เรื่องขาดทุนไม่เท่าไหร่ครับ แต่ไม่น่าบอกว่าจะแรงขึ้นเลยครับ เสียความรู้สึกเลยครับ :-X ขอบคุณ คุณ Ayothaya และ คุณ best again นะครับ ผมขับ auto ด้วยครับ แล้วตอนนี้ผมจะแก้ยังไงดีน๊า " ตอนนี้มีโครงการจะใส่กรองเปลือยซะด้วย ใส่แล้วจะดีขึ้น หรือ แย่ลงล่ะครับเนี่ย ถามอีกนิดนะครับบ " ;D หัวข้อ: Re: ### รบกวนถามเรื่อง หม้อเคตตาไลท์ หน่อยครับ ไม่รู้ว่าผมขาดทุนรึป่าว ### เริ่มหัวข้อโดย: manop ที่ 21 กุมภาพันธ์ 2007, 19:22:48 ไส้ในของหม้อพักมีส่วนผสมของ แพลตินั่ม อยู่ครับ เนื่องจากแพลตินั่มสามารถสะท้อนความร้อนได้น่าจะดีที่สุด หมวกของพวกนักบินอวกาศก็ทำมาจากแพลตินั่ม หรือที่เรียกว่า ทองคำขาว ครับ ราคาของไส้ในไม่รู้ว่าถ้าหลอมออกมาแล้วจะเหลือเป็นเงินเท่าไหร่เพราะว่าทองคำราคา 11150 ราคาของแพลตินั่มก็น่าจะอยู่ที่ 20000 ต่อ1บาท หรือ 20000 ต่อ 15.244 กรัมครับ ที่พอจะรู้เรื่องราคาของแพลตินั่มเพราะผมเปิดร้านขายทองครับ แต่เรื่องไส้ในของหม้อ แคตนั้นไม่รู้จริงๆว่าถ้าเอามาหลอมและจะเหลือน้ำหนักเท่าไหร่
หัวข้อ: Re: ### รบกวนถามเรื่อง หม้อเคตตาไลท์ หน่อยครับ ไม่รู้ว่าผมขาดทุนรึป่าว ### เริ่มหัวข้อโดย: welove_coupe ที่ 22 กุมภาพันธ์ 2007, 08:46:54 :o ราคาแพงกว่าทองอีกเหรอครับ อืมแสดงว่าของ civic ES ต้องมีแยะแน่เลยครับ เห็นที่ rcweb ให้ตั้ง 10,000 แหนะ ความรู้ใหม่ครับๆๆ ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: ### รบกวนถามเรื่อง หม้อเคตตาไลท์ หน่อยครับ ไม่รู้ว่าผมขาดทุนรึป่าว ### เริ่มหัวข้อโดย: natpakorn ที่ 22 กุมภาพันธ์ 2007, 14:06:36 มีเพื่อนๆถามหลายคนได้ถามเกี่ยวกับเรื่องนี้ทางข้อความส่วนตัว จึงคิดว่าน่าจะโพสไว้สำหรับเพื่อนคนอื่นๆที่สนใจเกี่ยวกับการโมดิฟาย ES 1.7 แบบ Light tuning (เป็นความรู้ที่ได้มาจากประสบการณ์จากการลองผิดลองถูก และความรู้ที่ได้มาจากเพื่อนๆในทีม Saba A da และอื่นๆ)
การเปลี่ยนแค่หม้อพักปลายสำหรับ ES 1.7 แนะนำให้ใส่ท่อไส้สักประมาณไม่เกิน 2.2 นิ้วครับสำหรับ NA 1.7 ส่วนขนาดของท่อทั้งเส้นผมว่าเดิมๆมันก็ดีอยู่แล้วนะครับเพราะเหมาะสมกับการใช้งานในชีวิตประจำวัน แต่ถ้าอยากแรงขึ้นในช่วงรอบสูงก็ขยายให้ใหญ่ได้แต่อย่าให้ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางของท่อทั้งเส้นใหญ่เกินเพราะมันจะไม่ดี แต่ถ้าระบบไอเสียยิ่งโล่งยิ่งดี... เรื่องนี้สำคัญมากครับ ใหญ่ส่วนใหญ่ โล่งส่วนโล่งนะครับ แยกแยะให้ถูก เพราะที่ผ่านมาหลายๆคนเข้าใจว่าถ้าท่อโล่งไป คือไม่มีแคท หรือ พักกลาง จะทำให้รถวิ่งไม่ดี โดยเฉพาะเกียร์ออโต้... แต่จริงๆแล้วมันกลับทำให้รถวิ่งดีขึ้นครับ เรื่องของเกียร์ไม่เกี่ยวกันครับ เพราะเกียร์ Auto ก็เปลี่ยนเกียร์ลากรอบได้เหมือนเกียร์ธรรมดาครับ) อีกอย่างนึงที่สำคัญมากๆ!!! ช่างตามร้านท่อก็คือช่างที่เอาความรู้จากประสบการณ์แค่การทำท่อ แต่ไม่ได้หมายความว่าช่างเหล่านั้นจะรู้จริงนะครับ เพราะช่างรู้แต่ Theoryเก่าๆเป็นสิบปีมาแล้ว แต่ไม่เคยได้ลองทำกับรถตัวเองจริงๆ คือเค้าก็เอาความรู้จากที่ได้ยินมา หรือ ความรู้เก่าๆจากคนอื่น แต่ไม่เคยได้ทดลองทำกับรถตัวเองจริงๆจังๆสักเท่าไหร่ครับ เป็นส่วนน้อยมากๆที่ช่างจะทดลองกับรถตัวเอง ช่างทำท่อมาหลายปีก็จะยึดแต่ Theory เก่าๆที่เคยลองทำกับรถเมื่อ สิบปีมาแล้วที่แรงม้าน้อยๆ ก็เลยมั่วเอามาเหมารวมกับรถรุ่นใหม่ๆด้วย รถสิบปีที่แล้วพวกรถบ้านใช้งานทั่วไป แรงม้าไม่ถึง 100 ทำท่อไปก็เท่านั้น ไม่ได้แรงขึนสักเท่าไหร่ ผิดกับรถสมัยนี้ที่แรงม้ามากขึ้นเช่น ES 1.7 130hp การทำท่อจึงเห็นผลได้มากขึ้น แต่ช่างท่อตามร้านทั่วไปก็ยังยึดแต่ Theory เก่าๆเดิมๆไม่พัฒนา ผมเจอช่างตามร้านท่อหลายต่อหลายคนแล้วที่แนะนำมั่วเกี่ยวกับการทำท่อ บางทีก็หลอกขายของเช่น พวก พักกลาง Missile , พักกลางไส้เกลียว อะไรพวกนี้ เพื่อนๆอย่าไปเชื่อมันนะครับ และเวลาเปลี่ยนหม้อพักแล้ว ก็เก็บของเดิมกลับด้วย อย่าไปให้ช่างท่อนะครับ เพราะเค้าเอาไปขายต่อได้ครับ ท่อแต่ละประเภทก็จะมีข้อดีต่างกันไป - ท่อไส้ตรง จะทำให้รอบสูงๆนั้นระบายไอเสียได้ไม่อั้น คือความเร็วปลายจะดีมาก เหมาะกับคนที่ขับรถเร็วๆ แต่เสียงจะดังครับ - ท่อไส้ย้อน หรือท่อพวกทรง Mugen วน จะทำให้อัตราเร่งรอบต่ำดี รอบสูงจะกลางๆ คือเหมาะกับการขับช้าๆแซงนิดหน่อย ไม่เน้นความเร็วปลาย ข้อดีที่เห็นได้ชัดคือเสียงไม่ดัง จะเอาพักกลางออก หรือ เอาแคทออกก็ได้หมดครับ ยิ่งเอาออกมากเท่าไหร่ก็ยิ่งดี เพราะจะไม่อั้นการระบายของไอเสีย แต่จะเกิดผลเสียต่อเมื่อ ES 1.7 ไปขยายขนาดท่อทั้งเส้นให้ใหญ่เกินไปเช่น 2.5 นิ้ว ทั้งเส้น จะทำให้ท่อใหญ่ไปทำให้อากาศไหลออกได้ช้า เหมือนกับสายยางที่มีขนาดของความกว้างของเส้นผ่าศูนย์กลางใหญ่ๆจะทำให้น้ำไหลออกมาไม่แรง แต่ถ้าขนาดของสายยางกำลังดีจะทำให้น้ำไหลออกได้แรงครับ... ท่อขนาด 2.5 นิ้วเหมาะกับเครื่องพวก B16A ขึ้นไป ที่เป็นแคมคู่ DOHC แรงม้ามาก ก็เลยมีไอเสียมากตามกันไป จึงทำให้เหมาะสมกับ 2.5 นิ้วครับ ไม่เหมือนกับ ES 1.7... ย้ำอีกทีกันลืม... จำไว้ว่าขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางของท่อทั้งเส้นใหญ่เกินไม่ดี แต่ถ้าระบบไอเสียยิ่งโล่งยิ่งดี... ใหญ่ส่วนใหญ่ โล่งส่วนโล่งนะครับ แยกแยะให้ถูก เพราะที่ผ่านมาหลายๆคนเข้าใจว่าถ้าท่อโล่งไป คือไม่มีแคท หรือ พักกลาง จะทำให้รถวิ่งไม่ดี โดยเฉพาะเกียร์ออโต้... แต่จริงๆแล้วมันกลับทำให้รถวิ่งดีขึ้นครับ เรื่องของเกียร์ไม่เกี่ยวกันครับ เพราะเกียร์ Auto ก็เปลี่ยนเกียร์ลากรอบได้เหมือนเกียร์ธรรมดาครับ คำถามเรื่องการทำท่อแล้วกินน้ำมันมั้ย? จากประสบการณ์ การที่กินน้ำมันล้วนแล้วแต่เกิดจากการที่เราขับแล้วมันส์เลยลากรอบมากขึ้นนั้นเองครับ เพราะหากเปลี่ยนพักปลายแล้วจะทำให้รถวิ่งดีขึ้น และอากาศก็จะดูดเข้าได้เร็วขึ้นทำให้รถโดยรวมวิ่งดีขึ้น ไม่ได้ทำให้รถกินน้ำมันขึ้นแต่อย่างใด... และเสียงดังขึ้นเลยทำให้คิดไปเองว่ากินน้ำมันครับ รถผมทำท่อตรง(ท่อสูตร) ยังกินน้ำมันพอๆกับท่อเดิมๆเลยครับ ถ้าขับช้าก็กินน้อย ถ้าอัดมากๆก็กินเยอะครับ คือจริงๆแล้วมันกินพอๆกันครับขึ้นอยู่กับนิสัยการขับมากกว่าครับ จริงๆแล้วการทำท่อแล้วรถวิ่งดีขึ้นนั้นทำให้สามารถใช้รอบเครื่องยนต์ได้ต่ำลงด้วย(นิดหน่อยอาจสังเกตไม่เห็นครับ แต่ถ้ามองที่ความเร็วปลายจะเห็นได้ชัด) การที่ใช้รอบได้ต่ำลงแล้วได้ความเร็วเท่าเดิมนั้นก็จะทำให้กินน้ำมันน้อยลงครับ สมมุตินะครับ ... รถ ES คันหนึ่งทำท่อไอเสีย ความเร็วปลายได้ 225km/h ที่รอบสูงจุดหนึ่ง ซึ่งในรอบเครื่องยนต์นั้นรถ ES 1.7เดิมๆได้ความเร็วปลายเท่ากับ 210km/h หมายความว่ารถคันนั้นสามารถใช้ความเร็ว 210km/h ตอนทำท่อแล้ว โดยที่ใช้รอบเครื่องยนต์ที่ต่ำกว่าตอนที่ยังไม่ได้ทำท่อ ก็ทำให้กินน้ำมันน้อยลงเพราะใช้รอบต่ำลงครับ เพื่อนๆคนไหนมี XO AUTOSPORT ฉบับ JULY 2004 Vol 8 No.93 หน้าปกเป็น EVO7 2 คัน ลองไปเปิดดูครับ ที่คอลัม XO TEST ที่เอา รถ Mitsubishi Galant Royal มาทดสอบบน DYNO เกี่ยวกับการทำท่อวิธีต่างๆ ตั้งแต่ เดิมๆ , ท่อท่อพักปลายอย่างเดียว, และ เอาพักกลาง กับ แคทออก แล้วขยายขนาดท่อทั้งเส้นให้ใหญ่ขึ้น(ซึ่งเหมาะสมกับรถเครื่องเทอร์โบ 4G63T VR-4) แล้วเอากราฟแรงม้า แรงบิด และ เวลา Quater Mile มาวัดกันว่าแบบไหนดีสุด และเวลาต่างกันแค่ไหน!! เวลา Quater mile ของท่อเดิมๆที่เคยได้ 17.73 วินาที หลังจากทำท่อแบบสุดๆแล้วก็เร็วขึนเป็น 16.39 วินาที ลองไปเปิดอ่านเล่มนี้ดูได้นะครับ เป็นอีกเล่มที่ให้ความรู้เกี่ยวกับการทำท่อไอเสียแบบมีหลักฐาน และกราฟแรงม้ายืนยันผลลัพธ์ที่ได้มาจากการทำท่อไอเสีย ขอให้สนุกกับ Light Tuning ครับ Pug 71, Saba A da www.sabaada.com (เป็นความรู้ที่ได้มาจากประสบการณ์จากการลองผิดลองถูก และความรู้ที่ได้มาจากเพื่อนๆในทีม Saba A da และอื่นๆ) หัวข้อ: Re: ### รบกวนถามเรื่อง หม้อเคตตาไลท์ หน่อยครับ ไม่รู้ว่าผมขาดทุนรึป่าว ### เริ่มหัวข้อโดย: welove_coupe ที่ 22 กุมภาพันธ์ 2007, 15:29:57 ขอบคุณมากๆๆ ครับ คุณ natpakorn กระจ่างเลยครับ :D
จริงๆทุกวันนี้ก็เปลืองขึ้นจริงๆครับ เพราะเสียงมันน่าลากเนี่ยล่ะครับ ;D ดีจังวันนี้นอนหลับลงแล้วครับ ขอบคุณนะครับ |