:::CIVIC CLUB THAILAND:::

มีซีวิคคันไหนติดแก็สแล้วบ้างคับ เอามาแบงบันความรู้กันหน่อยคับ

พอดีของผมเอาไปติดอยู่ ถ้าได้ก่อนจะมาอัพเพิ่มให้

ถ้าใครใช้อยู่ก็Commentไว้ได้เลยคับป๋ม  :D

ห่ะๆ กำลังอยากได้ ข้อมูลเลย

ลิ้งนี้เลยคับ

http://www.pantown.com/board.php?id=15060&area=1&name=board27&topic=314&action=view

โอ้วว พระเจ้าจอร์จ ติดแล้วเป็นไงกันมั่งคับบอกหน่อย

ผมติดมาแล้วอัตราเร่งดี (น้องๆน้ำมัน) ค่าใช้จ่ายลดลงครึ่งหนึ่ง
ไม่มีปัญหาใด อันนี้ขึ้นอยู่กับร้านที่ติดนะครับ
ว่าฝีมือ ประสบการณ์ ของผมโชคดีที่ไม่มีปัญหา
พอใจมากรู้อย่างนี้ติดตั้งแต่น้ำมันลิตรละ15-16 แล้ว
เพื่อนๆ สนใจไปศึกษาที่ www.gasthai.com ก่อน
civic ตัวใหม่เค๊าก็ติด LPG แล้วแต่เป็นระบบหัวฉีด(แพงหน่อย)
ส่วนรถผม 1.6 หัวฉีด ปี95
ติดแบบ fix mixer  ถัง 55 ลิตร มัลติวาล์ว
มี Auto switch เปลี่ยนน้ำมันเป็นแก๊สของ Autronic
และหม้อต้มของ Autronic จากอิตาลี
ค่าติดตั้ง 17000  LPG นะ
ผมใช้แล้วประทับใจมาก
ขอบอกเพื่อน ๆ ไว้เลือกร้านดีๆนะ
ทุกวันนี้เงินเหลือจากเดิม 2000/เดือน

โชคดีครับ
 ;D ;D ;D ;D ;D

มีรูปไหมครับ อยากเห็นงานที่ติดตั้งจัง เพื่อจะไปติดให้ที่บ้านบ้าง อิอิ  

แล้วที่มีข่าวละครับที่ว่าแก็สระเบิดอ่ะเพระอะไรกันแน่

สนใจมานานแล้ว  น่าจะเอารูปมาให้ดูหน่อยนะครับ  ตอนนี้สู้ราคาน้ำมันไม่ไหวแล้ว

สนใจมาก ศึกษามานานแล้ว แต่ยังไม่ได้ ตัดสินใจ
๘อบคุณสำหรับ คำแนะนำ ครับ

หลังจากศึกษาอยู่นานพอสมควร ไม่ว่าจากในเวป จากปากคนที่ใช้ คนรู้จัก หรืออู่ต่างๆนาๆ ประกอบกับน้ำมัน30บาท แล้วทนไม่ไหว เห็นว่าสมควรแก่เวลาสักที ก็เลยไปติด

รถผมเป็น Honda Civic Dimension Year 2003 VTEC Auto

วิ่งไปแล้ว 40,000 กว่าโล

ระบบนี้ใช้ติด เลือกเป็น ระบบดูดธรรมดา หรือที่เขาเรียกว่า Mixer หรือ Fix Mixer

ทำไมถึงเลือกระบบนี้ ทำไมไม่ติดหัวฉีด

ครับ

อย่างแรก ก็คงต้องเป็นเรื่องงบประมาณ (อันนี้ไม่ได้ออกเอง ที่บ้านออก แต่ก็ให้งบไม่เยอะ และไม่ยากที่จะลงทุนมากจนเกินไป ก็เลือกระบบนี้)

อย่างที่สอง เรื่องการคุ้มทุน การติดระบบดูด จะคุ้มทุนเร็วกว่าระบบหัวฉีด (แต่ถ้ามีงบมากหน่อยก็ไม่ว่ากัน)

อย่างที่สาม ใกล้บ้าน การติดแก็สอันนี้สำคัญ ถ้าเราติดไกล เวลามีปัญหา ต้องมาขับไปให้เขาแก้ เช่น เบาดับบ้าง กินแก็สบ้าง รั่วบ้าง จูนให้วิ่งบ้าง (ถ้าจูนเป็นก็ไม่มีปัญหา) ถ้าไกลจนเกินไปก็ไม่คุ้ม

ครับ มาดูกันว่าราคากับอุปกรณ์กับราคาเป็นยังไงบ้าง

ของผมนี้ติดไปทั้งหมด 15,500 บาท พร้อมแก็สให้ฟรีอีกหนึ่งถัง (ราคาอันนี้ไม่ตายตัว อาจจะมีขึ้นหรือลงกว่านี้ ราคานี้ไม่สามารถเอามาวัดกันได้ว่าแพงหรือไม่ครับ อยู่ที่ความพอใจและผลงานจากอู่ซะมากกว่า)

อุปกรณ์ก็คงมีหม้อต้มพร้อมอุปกรณ์ต่างๆเช่นสายไฟ Switchสับน้ำมันเป็นแก็ส(อันนี้เป็นManual) ข้อต่อ และท่อต่างๆ หัวเติมแก็ส ถังแก็ส(ขนาด58ลิตร ของSiam Gas ครับ)

(http://i58.photobucket.com/albums/g265/honda03/000_0073copy.jpg)

(http://i58.photobucket.com/albums/g265/honda03/000_0074copy.jpg)

(http://i58.photobucket.com/albums/g265/honda03/100_1751copy.jpg)

(http://i58.photobucket.com/albums/g265/honda03/100_1766copy.jpg)

(http://i58.photobucket.com/albums/g265/honda03/100_1760copy.jpg)

(http://i58.photobucket.com/albums/g265/honda03/100_1762copy.jpg)

เห็นที่เติมแก็สหรือเปล่าครับ

(http://i58.photobucket.com/albums/g265/honda03/100_1759copy.jpg)

อยู่นี่ไง

(http://i58.photobucket.com/albums/g265/honda03/100_1756copy.jpg)

(http://i58.photobucket.com/albums/g265/honda03/100_1758copy.jpg)

หลังจากครั้งแรกติดเสร็จก็ลองวิ่งดูเลย ปรากฎว่าStartยากมาก เนื่องจากมันยังไม่ชิน ก็เลยไปถามที่อู่ เขาให้ Start น้ำมันก่อนแล้วเร่งเครื่องเกิน 2000 รอบแล้วสับเป็นแก็ส ก็ยังStartยาก(ทั้งๆที่เป็นน้ำมัน และอาจจะเป็นเพราะว่าเครื่องเย็นด้วย) ปรากฎว่าใช้เวลานานมากว่าจะติด

หลังจากนั้นลองวิ่ง ปรากฎว่าครั้งแรกที่วิ่ง ต่างจากน้ำมันมากครับ ทั้งอืดและหนืบ(เรื่องหนืบ อาจจะเกิดจากล้อใหญ่ด้วยครับ) ลองวิงขึ้นสะพาน ปรากฎว่าแรงไม่ค่อยดี อืด และความเร็วอันที่100 ก็วิ่งไม่ได้แล้ว อีกเรื่องไฟEngineมันโชว์ครับ (อันนี้ผมพูดจริงๆนะ ถ้าเกิดไม่คิดว่าให้มันโชว์จะดีกว่า เพราะอะไร เพราะว่าไฟเอ็นจิ่นดัวนี้มันจะเป็นตัวเช็คว่าเครื่องเรามีการทำงานผิดปกติหรือไม่ กล่องมันทำงานดีหรือไม่ เราใช้แก็สมันก็ต้องโชว์เป็นธรรมดาเพราะว่ามันผิดระบบของมันที่มาจากที่ผลิดจากการทำงาน (แต่อาจจะใส่กล่องหลอกกล่องEngineไม่ให้มันโชว์ได้ ก็แล้วแต่ครับ) ของผมคงต้องลองไปอีกสักพักนึง (เวลากลับไปใช้น้ำมัน ไฟEngineมันไม่โชว์ครับ แสดงว่าเครื่องยังปกติ) กลิ่นแก็สในห้องโดยสาร ไม่มีเลยครับ ให้ใครๆนั่งก็บอกว่าไม่มีกลิ่นครับ

ลองวิ่งเสร็จ มันก็เย็นแล้ว วันรุ่งขี้นเอารถไปให้อู่จูน ปรากฎว่าเรื่องการStartยังยากเหมือนเดิมแต่ดีขึ้นกว่าเดิม(และสังเกตว่าทุกครั้งที่เครื่องเย็นจะStartยาก ซึ่งก่อนติดแก็ส ไม่เคยเป็นแบบนี้) ผมก็ใช้Startน้ำมันและสับไปเป็นแก็สเหมือนครั้งแรก ก็ใช้ได้ไม่มีปัญหา ขึ้นบนทางด่วนลองวิ่งดู ปรากฎว่าตีนต้นดีขึ้น(ถึงแม้ว่าจะเทียบน้ำมันไม่ได้ แต่ก็ดีว่าครั้งแรก) คราวนี้เรื่องความเร็วที่ได้ตอนแรกว่าอั้นอยู่ที่ 100 km/hr หลังจากนั้นจูนครั้งที่สอง ก็วิ่งได้ 120 km/hr อยากจะลองว่าวิ่งได้มากกว่านี้หรือไม่ แต่ปรากฎว่าวันนี้รถบนทางด่วนเยอะมาก เลยยังไม่ได้ลองมากกว่านี้ แต่คงต้องลองดูทางยาวๆว่าได้มากกว่านี้หรือไม่

แต่คิดว่าถ้าได้ลองยาวๆอีกนิดคงรู้ว่าต้องจูนอีกหรือไม่ คิดว่าไม่เกินอีกสักครั้งสองครั้งคงไม่มีปัญหาแล้ว

บางคนคิดว่าติดแล้วไม่ต้องมีจูนไม่ต้องปรับ แต่จริงๆไม่ใช้ ต้องมาให้เขาตั้งอย่างน้อยๆสองถึงสามครั้ง (ถ้าเป็นหัวฉีดหรือระบบที่มีคอมฯตั้งได้ คงไม่มีปัญหา แต่ผมต้องใช้จูนมือ)

เคยมีคำถามที่ว่า กลัวหรือไม่ติดแก็สจะเกิดการระเบิด

ครับ ถ้ามันระเบิดกันง่ายๆ ก็คงตายกันทั่วบ้านทั่วเมืองแล้วครับ เพราะว่ารถส่วนใหญ่ที่ติดก่อนหน้าที่เป็นแท็กซี่ วิ่งกันเกลือนไปเลย ตอนแรกก็คิดกลัวเหมือนกัน แต่ลองมาศึกษาดู และดูจากข้อต่อหรือวาวล์ต่างๆ เยอะมากนะครับ ไม่ใช่ง่ายๆที่จะรั่วได้

แต่สาเหตุที่รั่วก็อาจจะมีได้ครับ เช่นเกิดจากการประกอบ การเสื่อมของอุปกรณ์(ในกรณีที่ใช้นาน) ประกอบกับเกิดการชน หรือระบบไฟในรถเกิดรั่ว ซึ่งเป็นไปได้เมื่อใช้ไปนานๆ ก็ทำให้ประกายไฟในรถวิ่งไปที่แก็สที่รั่วอยู่ทำให้เกิดได้ และในกรณีที่ชนแล้วระเบิด คงต้องแรงมากๆไม่งั้นชนเบาๆธรรมดา ไม่น่าที่จะระเบิดได้

ครบทั้งหมดของข้อมูลนี้ได้มาจากประสบการณ์ของผมเท่านั้น การติดอาจจะต้องศึกษาดูในหลายๆเรื่อง ที่สำคัญ พร้อมเมื่อไรติดเมื่อนั้นเป็นดีที่สุด สำหรับการใช้งานเป็นยังไงบ้างหรือว่ามีการเพิ่มเติมอะไร ไว้ผมจะมาUpให้เพิ่มเติมอีกที

ที่เหลือคงต้องดูจากเพื่อนๆคงอื่นๆที่มาแชร์ความรู้เกี่ยวกับเรื่องการติดแก็ส ว่าเขาติดไปแล้วเป็นไงกันครับ

ขอบคุณสำหรับข้อมูลดี ๆ พร้อมภาพ ปรากรอบ นะกั๊บ ....!!!  ;)

ข้อมูลปึ้กมากครับ
ถ้าได้ลองทางยาว ๆ ก็มาบอกกันบ้างนะครับ เป็นข้อมูลจริงจากผู้ใช้จริง

ชัวร์กว่าโฆษณาเยอะ

กำลังคิด ;D

มาเก็บข้อมูล

ครับ หลังจากที่ครั้งแรก(ที่ยังไม่ได้จูน ที่บอกว่าไม่ค่อยวิ่ง) แก็สเติมเต็มถังวิ่งไปไม่กี่โล(จำไม่ได้) แต่คำนวนออกมาตก 3.60 บาทต่อลิตร ซึ่งตกใจมาก(ครั้งแรกเพิ่งเติมแก็ส ยังไม่ได้ไล่ลม และวิ่งยังไม่หมดถัง) แต่ก็ลืมไปว่ายังไม่ได้จูนอะไรเลย ก็เลยหายตกใจไป หลังจากที่เอาไปจูนมาครั้งแรก (ที่บอกว่าตอนแรกวิ่งได้ไม่เกินร้อย) วันนี้พอดีได้มีทางยาวๆให้วิ่งดู ครั้งความรู้สึกของแก็สกับน้ำมันนี้ขอบอกตรงๆว่าต่างกันมาก ความรู้สึกของน้ำมัน มันจะวิ่งทันใจ แต่แก็สออกหนืบหน่อย (อาจจะเป็นที่ล้อด้วยก็ได้ หลายๆเหตุครับ) วันนี้ก็ลองดู 0-100 (ใม่ได้วัดว่ากี่วินาที)  แต่ความรู้สึกมันบอกว่าใกล้เคียงน้ำมัน ซึ่งก็เป็นที่น่าพอใจ หลังจากนั้นก็ทดสอบว่าความเร็วสูงสุดได้เท่าไร วันนี้เท่าที่ลองดูก็ได้ 160 กม/ชม ซึ่งถ้ากดอีกนิดน่าจะได้มากกว่านั้น ซึ่งถ้าเป็นการใช้งานในเมืองน่าจะไม่มีปัญหา ต่างจังหวัดก็คงไม่มีปัญหาเช่นกัน แต่ว่าช่วง 120-160 มีความรู้สึกว่าอืดมาก กว่าจะได้เอาเรื่องอยู่เหมือนกัน ถ้าเป็นน้ำมันคงไม่นาน แต่แก็สใช้เวลานานมากพอสมควร(การขับแก็สไม่เหมาะกับคนที่ใจร้อน อันนี้บอกตรงๆ คิดว่าติดแล้ววิ่ง จริงแล้ววิ่งนะคับ แต่ออกจะอืดกว่าน้ำมัน) หลังจากวันนี้ลองดูแล้ว วิ่งไปร้อยกว่าโล เติมน้ำมันไปสองร้อยกว่าบาท (สองอันนี้จำไม่ได้ว่าเท่าไร) แต่คำนวนออกมา อันนี้จำได้ว่าตก 1.60 บาทต่อลิตร ซึ่งเห็นความแตกต่างมากจากก่อนจูนและหลังจูน ซึ่งจริงๆอาจจะได้น้อยกว่านี้อีก คิดว่าคงต้องให้ทางอู่ลองดูว่าจะทำอย่างไงได้บ้าง แต่ในความเห็นส่วนตัว ว่ากินแก็สเท่าไร ลิตรละกี่บาท ลิตรนึงวิ่งได้กี่โล อันนี้มันขึ้นอยู่กับองประกอบหลายๆอย่าง เช่น อาจจะเกิดมาจากการจูนแก็ส อาจจะเกิดจากการจราจรติดบ้าง โล่งบ้าง วิ่งต่างจังหวัดบ้าง องค์ประกอบของรถ เช่นความสมบูรณ์ของเครื่อง หรือช่วงล่างต่างๆก็ล้วนแต่ทำให้เห็นค่าแตกต่างกันทั้งนั้น ถ้าจะให้ดี ต้องเอามาหลายๆครั้ง(บางทีไม่จำเป็นต้องหมดถังก็ได้)แล้วเอามาหารด้วยห้า ก็จะได้ค่าประมาณออกมาครับ

สำหรับปัญหาของผม ในเรื่องเบาดับ ช้าดับ ทางชันดับ อืด ไม่วิ่ง ตอนนี้ไม่มี มีแต่ปัญหาคือ Start ติดยาก ไฟ engine โชว์ และก็เรื่องSwitchเวลาเปลี่ยนน้ำมันเป็นแก็สยังไม่ค่อยดี พร้อมกับเกย์วัดน้ำมันเวลาปรับเป็นแก็ส ถึงจะใช้งานได้จริง แต่ก็ไม่ตรงตามที่ถังด้านหลัง คงต้องค่อยๆปรับกันไป อีกสักระยะคงได้อะไรที่แน่นอนกว่านี้ครับ

และวันนี้ได้กับพูดคุยกับบางคนที่พอรู้เกี่ยวกับระบบเครื่องยนต์ พูดไปพูดมาก็ไปพูดถึงเรื่องการติดแก็สในรถ จุดนึงที่น่าสนใจและไม่ควรมองข้ามเกี่ยวกับเรื่องกรองแก็ส(บางคนเป็นกรองแยก แต่ของผมกรองที่หม้อมต้มเลยครับ) ซึ่งกรองแก็สก็คล้ายๆกับกรองเครื่องยนต์ทั่วไป ทำหน้าที่กรองสิ่งสกปรก ไม่ให้ไปสู่เครื่องได้ และก็ควรเปลี่ยนเช่นเดียวกับกรองอากาศซึ่งไม่ควรละเลยตรงนี้ เพราะอาจจะทำให้เครื่องพังได้

อีกเรื่องเกี่ยวกับเรื่อง เบาดับ อืด ไม่วิ่ง Blackfire อันนี้ได้มาจากอู่โดยตรง(อู่อื่นยังไงไม่รู้ครับ) ถ้าต้องการให้เรื่องต่างๆที่พูดมาไม่เกิดขึ้น ต้องตั้งให้แก็สหนาหน่อย จะทำให้อาการต่างๆที่พูดมาไม่เกิดขึ้น (จริงๆส่วนต่างจากราคาแก็สกับน้ำมันก็น่าจะช่วยได้แล้ว ไม่ต้องไปห่วงว่าจำนวนโลที่วิ่งจะได้มาน้อยเท่าไรหรอกครับ เอาเท่าทีคุณประหยัด แต่ยังวิ่งได้ก็พอ)


สำหรับเรื่องปัญหาต่างๆคงต้องแก้กันไป ถ้ามีอะไรเปลี่ยนแปลง ไว้ผมจะมาเพิ่มเติมอีกทีนะครับ ^_^

มาให้ข้อมูลครับ

ของเพื่อนผมติดแก๊สเหมือนกัน

เค้าบอกว่า โลละ 1.2 บาทครับ ถ้ารถติดก้อ 1.5 บาทอ่ะครับ มันเป็นพวกเท้าหนักด้วยจิ  ;D

ดีครับ ถ้าเพื่อนๆคนอื่นๆได้ยังไงก็มาแชร์ความรู้กันได้ครับ

ปล. ผมก็เปงประเภทเท้าหนักเหมือนกาน  :D

กำลังชั่งใจอยู่ :D

กำลังศึกษาอยู่เหมือนกัน   ;D

ไปติดร้านไหนมาครับ....เมลล์มาบอกหน่อยสิ..ง comblizzer@hotmail.com ขอบคุณมากๆครับ...

ผมติดแถวบ้านครับ เขาเป็นอู่แท็กซี่ ปกติเขารับติดเฉพาะคนรู้จักครับ แต่คนอื่นรับติดหรือเปล่าอันนี้มะแน่ใจและเรื่องราคาเขาให้พิเศษเพราะอยู่แถวบ้านและรู้จักกัน ไว้ผมจะถามดูก่อน แล้วเดี๋ยวเอามาบอกอีกทีนะครับ

และรายงานเพิ่มเติม

เรื่องไฟ Engine โชว์ที่หน้าปัดเวลาใช้แก็ส ตอนแรกก็เห็นว่าเป็นเรื่องใหญ่ ไฟไม่น่าโชว์ แต่เท่าที่ขับมา รถก็ไม่มีอาการสั่น ไม่เบาดับ ไม่กินแก็ส(อันนี้ต้องดูอีกสักพัก) ขับไม่อืด เร่งขึ้นเวลาขึ้นทางชัน(แต่จะหนืบกว่าน้ำมันหน่อยนะครับ) 
ก็เลยไม่ได้กังวลแล้ว และคิดว่าเวลามันขึ้นไฟEngine ก็คิดว่ามันเป็นโหมดใช้แก็ส แค่นี้ก็จบ ถ้าสมมติว่าใช้น้ำมันแล้วขึ้นซิ อันนี้น่ากลัว แต่เท่าที่ลองมา เวลาขับน้ำมัน ก็ไม่มีปัญหาเรื่องไฟโชว์ครับ

เรื่องStartยาก ตอนแรกก็สงสัยว่าทำไมถึงstartยากทั้ งๆที่ตอนก่อนติดไม่ว่าเครื่องเย็นยังไงก็ไม่มีปัญหาstartได้ ก๋ได้ทดสอบดู เวลาขับถ้าใช้แก็สแล้วดับเครื่องแล้วจะมาstartใหม่(หลังจากดับเครื่องแล้วทิ้งไว้ข้ามคืน)จะstartไม่ได้ครับ คราวนี้ก็ลองดูขับด้วยแก็สแต่หลังจากที่ขับแก็สเสร็จ ก็ดับเครื่องทิ่งไว้แป็บนึง แล้วStartน้ำมันwarmเครื่องไว้5นาที โดยใช้Autotimerตั้งไว้ที่ห้านาทีแล้วมันก็ดับ ปรากฎว่าวันรุ่งขึ้นมาStart ติดทันทีเลยครับ คราวนี้ไม่แน่ใจก็ลองอีกสองหรือสามครั้ง
ปรากฎว่าถ้าดับเครื่องแล้วwarmด้วยน้ำมันก่อนดับเครื่อง แล้วสามารถที่จะแก้ปัญหาstartยากได้ครับ (สำหรับคนอื่นหรือคันอื่นที่เขาติดเป็นยังไงอันนี้ผมไม่รู้นะครับ)

เรื่องSwitchสับจากน้ำมันเป็นแก็ส ผมใช้เป็นManualครับ บางคนจะเจอปัญหาว่าเวลาสับจากน้ำมันเป็นแก็สในขณะที่วิ่ง บางคันจะดับ หรือเบาแล้วดับ ของผมไม่เป็น อันนี้เกิดมาจากการตั้งแก็สให้หนาและการจูนจากอู่ด้วยครับ สำหรับSwitchอันน้ผมคิดว่าผมคงใช้ไปอีกสักระยะหรือไม่เปลี่ยนก็ได้ จริงๆเรื่องนี้ผมขอแนะนำ จูนแก็สให้หนาจะช่วยได้มาก และถ้าเกิดว่าจะไม่ให้เกิดปัญหาอันนี้ ควรวิ่งน้ำมันไปสักระยะ สังเกตที่เกย์ความร้อนเครื่อง ถ้าได้ระดับปกติที่เครื่องเคยเป็น ก็สับได้เลย หรือไม่ก็อีกวิธีนึงwarmเครื่องสักพักนึง หลังจากได้เครื่องอุ่นสักพัก ก็เร่งเครื่องสักสองถึงสามพันรอบแล้วสับจากน้ำมันเป็นแก็สได้เลย หลังจากสับให้เร่งเครื่องเบาๆอีกนิด แค่นี้ก็น่าจะไม่มีปัญหาว่าสับน้ำมันเป็นแก็สแล้วจะดับไงครับ

อันนี้เสริมนิดนึงเรื่องบ่าวาวล์ จริงๆโดยปกติถ้าเราใช้น้ำมัน มันก็จะเลี้ยงอยู่ที่บ่าวาวล์อยู่แล้ว ถ้าในกรณีใช้แก็ส มันจะทำให้บ่าวาวล์แห้ง แล้วจะทำให้เครื่องพังได้ มันมีวิธีแก้ครับ อันแรกก็อย่างที่ผมได้บอกได้ว่าstartน้ำมัน วิ่งน้ำมันบ้าง หรือดับเครื่องหลังจากใช้แก็สแล้วStartน้ำมันทิ่งไว้สักสี่ห้านาทีแล้วดับเครื่อง ก็จะทำให้บ่าวาวล์ไม่แห้ง กรณีที่สอง ใส่ออโต้ลูบ(อันนี้ไม่แน่ใจว่าพิมพ์ถูกหรอเปล่า)โดยจะมีกระปุกคล้ายกระปุกน้ำมันพวงมาลัยพาวเวอร์แต่จะเล็กกว่า ซึ่งเขาจะต่อเข้าที่บ่าวาวล์เรา เวลาเราใช้แก็ส มันก็จะเลี้ยงบ่าวาวล์พร้อมกับแก็สไปด้วย แต่อันนี้มีข้อเสียคือ มันจะเหมือนมอเตอร์ไซด์ มันจะมีควันขาวออกมา ยิ่งกดเร่งมันก็จะออกมา(อันนี้ตั้งได้หรือเปล่า ยังไม่แน่ใจต้องดูอีทีนึงครับ)

อันนี้สำคัญ  อย่าขึ้เหนียวน้ำมันเครื่อง เป็นไปได้ใช้น้ำมันสังเคราะห์(รถผมใช้ครับเบอร์5W40ของShell) หรือกึ่งสังเคราะห์จะได้ทำให้เครื่องของเราลื่นขึ้น ไม่งั้นจะทำให้เครื่องทำงานหนักกว่าเดิม(ในกรณีใช้แก็ส) จะทำให้เครื่องโทรมเร็วและพังเร็วกว่าใช้น้ำมันครับ

ครับ การติดแก็ส อันนี้ผมพูดจริงๆจากใจเลยนะครับ ติดอู่ใกล้บ้าน(ที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้)เพื่อว่ามีปัญหาเรื่องเบาดับ หรืออื่นๆจะได้ให้เขาดูได้ทัน และก็การจูนแก็ส ถ้าจะเอาไม่กินบาทก็สามารถทำได้แต่ก็จะเกิดปัญหาว่าวิ่งอืด เบาดับ blackfire กินแก็ส ถ้าเอาวิ่ง ปัญหาต่างๆที่พูดมาจะไม่เกิด(ส่วนblackfireอันนี้ต้องศึกษาอีกทีนึงนะครับ) จริงๆอย่าไปขี้เหนียวแก็ส ราคาแก็สถ้าเทียบกับน้ำมันมันต่างกันตั้งสามเท่า (แก็ส 9.55 บาทต่อลิตร) จูนให้รถวิ่งน่าจะดีกว่า แต่ถ้าชอบประหยัด เป็นคนไม่ใจร้อน ไม่เท้าหนัก ก็แล้วแต่ให้เขาตั้งได้ แต่ปัญหาต่างๆนี้เกิดแน่นอน (สำหรับแก็สระบบหัวฉีดอันนี้เท่าที่ได้ยินว่าเร่งดีกว่าแบบดูดหรือมิกเซอร์ แต่ความคุ้มทุนและราคาติดตั้งต่างกันเยอะครับ) การติดแก็สอาจจะดูจากในเวปว่าเขาไปติด

รถผม civic 2004 1.7 vtec ครับ ผมติดแก๊สมาหลายเดือนแล้ว ใช้ไม่มีปัญหาครับ การวิ่งใช้งานจะอืด หรือไม่
อยู่ที่การจูนครับ ถ้าจะให้วิ่งดีก็จูนปล่อยแก๊สให้มาก แต่ถ้าต้องการประหยัดก็ปล่อยแก๊สน้อย ก็จะประหยัดแก๊ส
ของผมเฉลี่ยในเมืองตกกิโลละ 1.10 บาทครับผมวิ่งแถวสาทร ปิ่นเกล้า เพชรเกษม  ถ้านอกเมืองก็ไม่ถึงบาทครับ
เรื่องไฟเครื่อง รถผมไม่โชว์ครับ สามารถทำได้ เห็นช่างที่ติดให้รถผมเค้าใช้ต่อสายไฟยังไงม่ายรู้ครับ
แต่ของผมจะเปลี่ยนเป็นแก๊สที่รอบประมาณ 3,700 รอบครับ ก็ใช้วิธีเหยียบคันเร่งก่อบออกรถ หรือไม่ก็ออกตัวแล้วเร่งเครื่องแรงหน่อยก็ได้  เรื่องไฟโชว์สามารถแก้ได้ครับลองปรึกษาช่างดูครับ

ดีครับ มาแชร์ความรู้กัน และเป็นประโยชน์แก่เพื่อนๆในคลับด้วยครับ  :D

เพิ่งติดมาได้ 2 อาทิตย์ครับ  Civic2002 1.7 AT Exi
ติดแบบ Fix mixer    หม้อต้ม Tomasetto, ถังสหมิตร 58 ลิตร, เปลี่ยนท่อร่วมไอดีเป็นสแตนเลส
 - วิ่งในเมือง รถค่อนข้างติด  (221 กม. เติมไป 311 บาท)
 - อาทิตย์ที่ผ่านมา วิ่งไปชลบุรี (เขาเขียว, อ่างศิลา) ความเร็วเฉลี่ย 110 - 120 กม. (241 กม. เติมไป 216 บาท)
 
 แรงต้น ดีมาก  แต่แรงปลาย จะอืดที่ 110 km/hr. สตาร์ทด้วยน้ำมัน แล้วเปลี่ยนเป็นแก็ส auto
 ไม่มีปัญหาเรื่องการ start ครับ  ทีเดียวติด..  คุ้มมากๆ

เท่าที่ผมลองคำนวนดูก็ถือว่าประหยัดพอสมควร ของผมยังกินกว่า(แต่ยังไม่ได้จูนครั้งที่สอง) อย่างที่บอก ถ้าประหยัดตีนปลายจะอืดหน่อย(แต่แก็สส่วนใหญ่ก็แบบนี้ครับ) ยังไม่มีโอกาสลองทางยาวๆดู ไว้จะมาเล่าให้ฟังครับ ไงขอบคุณเพื่อนๆที่แชร์ความรู้กันนะครับ  :D

เก็บ..

ของผม CIVIC 2005 RX โหลดลง 2 นิ้ว เกรงว่าเวลาติดตั้งถังและเติมแบบเต็มๆ ตูดจะห้อยหรือป่าว แฟนก็ยุให้ติดอยู่ แล้วLPG กับ NGV ไหนดีกว่ากัน(แบบรวมๆนะ)

เรื่องแรก ตูดจะห้อยหรือป่าว ถ้าใส่แรกๆถังขนาด 55 ลิตร ตูดจะไม่ห้อย ในกรณีที่โหลด น่าจะห้อยนะครับ เพราะว่าเมื่อใส่ถังแก็สลงไป มันก็จะหนักขึ้นเนื่องจากถังแก็ส(เปล่า)น้ำหนักมันก็น่าจะประมาณ15กิโล(มะแน่ใจแต่น่าจะใกล้เคียง) ยังไม่รวมน้ำหนักหลังเติมอีกอ่ะครับ สำหรับรถที่ท้ายห้อย วิธีแก้ก็ง่ายๆ ใส่ตัวเสริมที่หัวโช้ค บางทีเขาจะเรียกว่าสเปเซอร์เสริมหัวโช้ค ถ้าไม่งั้นก็ใส่ยางหนุนเอาก็ได้ครับ แต่ต้องให้มันห้อยก่อนค่อยเสริมจะดีกว่านะครับ เพราะตอนที่มันยังไม่ทรุดตัวของโช้คถ้าเราใส่ก่อนเราก็จะไม่รู้ว่ามันทรุดหรือไม่  สำหรับรถโหลด ก็คงเหมือนไม่โหลดคือเสริมอย่างที่บอกตอนแรก ถ้ารถที่โหลดมีการเอาโช้คไปทำstud(ตัวปรับระดับโช้ค)มา ก็สามารถที่จะปรับขึ้นลงได้เลย

คราวนี้มาถึงเรื่อง LPG & NGV อันไหนดี

ผมเองก็ไม่สามารถฟันธงได้ว่าอันไหนดีกว่ากัน แต่เป็นว่าสาเหตุที่ผมติด LPG เนื่องจากหาที่เติมง่าย ไม่ว่าจะอยู่ในเมืองหรือต่างจังหวัด(อันนี้สำคัญ ถ้าหาเติมไม่ได้ก็ลำบาก ถึงแม้จะใช้สองระบบก็ตาม) ราคาส่วนต่างจากแก็สกับน้ำมันต่างกันมาก(นี้ก็คืออีกเหตุผล เมื่อเดินทางต่างจังหวัดประหยัดเงินไปเยอะ) ราคาค่าติดตั้งถูกกว่าNGV(ถ้าLPGระบบหัวฉีด ราคาใกล้เคียง NGV แล้วแต่ร้าน) ส่วนร้านอันนี้ไม่ทราบว่าร้านไหนดี ต้องไปศึกษาจากเวปต่าง ส่วนนอกเหนือจากนี้หาอ่านได้ก่อนหน้านี้ที่มีเพื่อนๆโพสไว้นะครับ

save file thank  

แน่นปึ๊ก

วันนี้เพิ่มเติมอีกครับ

เรื่องแรกก็คงเป็นเรื่องแบตเตอรี่ คิดว่าไม่น่าจะเกี่ยวกับแก็สได้ แต่จริงๆเกี่ยว เพราะว่าเวลาตอนสตาร์ทtต้องใช้ไฟเพื่อให้ไดสตาร์ท แต่ปรากฎว่าเมื่อวานจะไปหาลูกค้าตอนเช้าดันสตาร์ทไม่ติด ก็เลยมาเปิดดูแบตเตอรี่ น้ำแห้งหมดทุกช่อง ซึ่งปกติไม่น่าที่จะเป็นไปได้เพราะว่าดูบ่อยมาก โดยอาทิตย์นึงครั้งนึงไม่น่าที่จะแห้งขนาดนี้ พอดีที่บ้านมีน้ำกลั่นอยู่พอดีเลยใส่ลงไป หลังจากนั้นก็สตาร์ทติด ก็เลยโล่งใจ คิดว่าน่าจะเกิดจากการสตาร์ทแช่เวลาติดแก็สช่วงแรกๆ การสตาร์ทแช่ทำให้แบตเตอรี่เดือดเร็วกว่าปกติ ทำให้น้ำในแบตฯระเหยออกไป เลยทำให้หมด (ยังเสียวอีกตัวคือไดสตาร์ท ไม่แน่ใจว่าจะอีกนานหรือเปล่าถึงจะพัง แต่ก็มะมีปัญหา มันซ่อมได้)

เรื่องที่สอง เรื่องถังแก็สหลังรถ

(http://i58.photobucket.com/albums/g265/honda03/100_1848copy.jpg)

อันนี้ต้องขอบอกว่าด้วยความเป็นมือใหม่ในเรื่องแก็สทำให้ไม่รู้ในตรงนี้ ที่ถังแก็สจะมีวาวล์สองตัว ตัวแรกเป็นสีแดง อีกตัวเป็นสีเขียว ซึ่งเวลาเติมแก็สเราต้องเปิดวาวล์สีเขียวเพื่อให้แก็สเข้าแล้วหลังจากเติมแก็สเสร็จต้องปิด ถ้าไม่ปิดมันจะรั่วออกมาตามหัวเติมแก็ส ซึ่งหัวเติมแก็สก็จะมีวาวล์เล็กๆๆมากอยู่ตัวนึง ซึ่งถ้าเกิดว่ามันรั่วขึ้นมา แล้วลืมปิดวาวล์ตัวนี้ สามารถที่จะทำให้แก็สในรถหมดได้เลยนะครับ (อันนี้ได้มาจากเพื่อนๆกันและกับคนขับแท็กซี่)

เรื่องสุดท้ายคงเป็นเรื่องอาการเบาดับ ตอนแรกที่บอกว่าไม่มีอาการอะไร เมื่อวานเจอครับ อยู่ดีๆก็เบาไปเฉยๆเลยแต่ไม่ดับ ก็เลยเอาไปให้อู่ดู ก็เลยรู้ว่าเกี่ยวกับ Mixer ที่ไอดีมันหลวม เวลาเขาใส่ต้องเอายางรองไว้ด้วย ซึ่งเวลาขยับหรือรถกระเทือนมันก็สามารถที่จะเคลื่อนได้ และก็อาจจะทำให้อากาศเข้ามากจนเกิดไปทำให้เกิดการเบาดับได้ เดี๋ยวอันนี้ไปให้อู่เขาดูได้เรื่องไงแล้วมาบอกกันนะครับ

เพิ่มเติม สำหรับอัตรากินน้ำมัน ของผมคงอยู่ที่ ลิตรบาทหกสิบสตางค์  ซึ่งบางคนอาจจะว่าแพง แต่สำหรับผมนะผมว่าน้ำมันตอนนี้ลิตรละสามสิบบาท น้ำมันรถผมกินลิตรละสามบาทกว่า(ผมเองก็เป็นประเภทเท้าหนักซะด้วย) ยังไงก็ถือว่าประหยัดครับ และได้มีโอกาสได้คุยกับเพื่อนผม เขาใช้นีโออยู่ ปรากฎว่าเขากินลิตรละเก้าสิบหน้าสตางค์ ผมก็ตกใจถามว่าทำไมถึงถูกจัง เขาบอกว่าเขาติดระบบหัวฉีดมา ผมบอกเขาว่าของผมกินอยู่ที่ลิตรละ1.60 เขาบอกว่าถ้าวิ่ง ส่วนใหญ่ก็จะกินราวๆนี้ ก็เลยโอเคตรงกับที่อู่เขาบอกมาในตอนแรกครับป๋ม

อยากให้เพื่อนๆได้รู้เรื่องเกี่ยวกับการติดแก็สว่าเป็นยังไงบ้าง ความประหยัดเป็นยังไงถ้าได้ติด รวมไปถึงอยากให้เพื่อนๆที่ติดไปแล้วแฃร์ความรู้ตรงนี้ เพื่อให้คนที่ยังไม่มีความรู้เกี่ยวกับแก็สจะได้เข้าใจ สำหรับผมถ้าได้เรื่องเพิ่มเติมยังไง ไว้จะมาเล่าให้ฟังอีกทีนะครับ  :D

ผมติดแก็สมา 1 เดือนครึ่งแล้ว พยายามหาเหตุและผลของการติดตั้งว่าดี หรือ ไม่ดีอย่างไรจะได้มาคุยกับเพื่อน ๆ ในคลับครับ เริ่มจาก รถปี2005 เครื่อง 1700 exi ตีเฮดเดอร์ หม้อพักกลาง 1 ใบ และปลายไส้ตรง2นิ้ว 1 เส้น เท่านั้นในส่วนที่ทำกับรถ ส่วนเรื่องการติดแก็สนั้นมีดังนี้ครับ
23/6/06 .... รับรถที่ติตแก็สเรียบร้อยแล้ว ผมเลือกระบบหัวฉีดเพราะต้องใช้รถคันนี้อีกอย่างน้อย 4 ปีครับ ยี่ห้อ โวทรานส์ ราคา 29,900 ร้าน... ( ดูในweb gasthai.com ) ปรากฏว่าใช้งานดีในระดับที่ผมรับได้ครับ คือ 3 ถังแรก ต้องกลับไปร้านเพื่อจูนให้ระบบเข้าที่ เมื่อระบบดีแล้วก็ต้องลองของกันหน่อยนะว่าดีจริงหรือเปล่า
1. ความเร็วสูงสุดที่ทำได้ 180 บนโทเวย์ ยังเหลือๆแต่รถเยอะครับ แต่ความเร็วขนาดนี้ปกติไม่ขับครับโดยจะใช้ความเร็ว 120-140 เป็นประจำมากกว่าน่าจะเหมือนเพื่อนๆน่ะแล้วก็เมื่อขับเกิน160 จะรู้ว่ากลัวต...
2. ผมใช้รถวันละประมาณ 120 ก.ม. ปกติเติมน้ำมัน 3วัน 1ถัง 1,050 - 1.180 บาท แต่พอมาใช้แก็สถังผม 58 ลิตร เติมได้สูงสุดประมาณ 49.74 ลิตร เหลือเพียง 3 วัน 1ถัง 330 - 400 บาท โดยเติมแก็สได้ 34 -41 ลิตรที่ต้องเติมก่อนหมดถังเพราะ ปั้มต้องดูด้วยว่าน่าเข้าไปเติมหรือไม่
3.ปัญหาของรถรุ่นนี้คือรอบเดินเบาครับจะไม่นิ่งซี่งผมก็เจอมาเหมือนกันในช่วง 2 สัปดาห์แรก แต่ตอนนี้ยังไม่เกิดปัญหานี้กับผมอีก
4. ตอนนี้ติดแก็สวิ่งมาได้ประมาณ 8000 ก.ม.แล้วยังไม่มีปัญหาอื่น ๆ พอดีเห็นเพื่อน ๆ ในคลับสนใจระบบนี้อยู่กันมากเลยต้องเข้ามาแชร์ความรู้กันเพื่อช่วยให้รู้มากขึ้น (จะได้ไม่ถูกหลอก...หลอนในส่วนของการติดแก็สในรถ)

ที่ผมติดมาก็คุยกับเพื่อน ๆ แล้ว ( อันนี้แล้วแต่ความเห็นของแต่ละบุคคล ห้ามลอกเลียนแบบหรือทำซ้ำมิฉะนั้นท่านจะมีเงินเหลือในกระเป๋า ฮ่า.... ;D ;D

ครับดีครับ เล่าสู่กันฟัง จะได้เอาไปเป็นข้อมูลการติดแก็สหรือคนที่ติดอยู่แล้วจะได้adaptข้อมูลมาใช้ได้ครับ  :D

วันนี้มาUpเพิ่มเติม หลังจากที่ติดแก็สไป จูนไปสี่ครั้ง

โดยครั้งที่1-2 อู่จูน ครั้งที่ 3-4 จูนเอง
ผลที่ได้เป็นดังนี้

1กิโลเมตรใช้เงินจำนวน(บาท)

ครั้งที่ 1 - 1.66
ครั้งที่ 2 - 2.26
ครั้งที่ 3 - 1.64
ครั้งที่ 4 - 1.63

โดยสี่ครั้งนี้แก็สยังไม่หมดถัง เอาเกณท์ที่ 100 กิโลเมตรเป็นหลัก อาจจะบวกลบนิดหน่อยครับ

ซึ่งผลที่ออกมาได้ขึ้นอยู่ปัจจัยหลายๆอย่าง บางคนอาจจะประหยัดกว่านี้ก็ได้ เพราะของผมเปลี่ยนล้อเป็นขอบ 17 นิ้ว ใส่แผ่นDampที่ประตูทั้งสีบาน+ฝากระโปรงหลัง+แผงลำโพงหลัง สำหรับแผ่นDampทำไมถึงเกี่ยว เพราะว่าแผ่นนึงน้ำหนักไม่ใช่น้อยๆเมื่อติดเข้าไป นี่เล่นไปหกแผ่น(อ่วมเหมือนกัน)ก็ทำให้น้ำหนักรถเพิ่มขึ้นได้ สำหรับความเร็วที่ทำได้คงที่ๆ140 กม/ชม ซึ่งพอดียังไม่มีโอกาสเดินทางไปต่างจังหวัด ถ้ามีโอกาสยังไงมาเล่าให้ฟัง และถ้ามีอะไรจะมาเพิ่มเติมนะครับ

ผมติดมาแล้วครับแต่ไม่ได้เป็นสมาชิกอยากแลกเปลี่ยนรถรุ่นนี้เหมือนกัน รถผมES2001 ติดแบบ ฟีมิก ถัง64 ลิตร ใช้ไป 2 ถัง ถังที่2 วิ่งได้ 320 กม.เติมไป 453 บาท 45 ลิตรครับ เฉลี่ยไม่ถูกครับ ถ้าเอา จำนวนบาทตั้งแล้วหารด้วยกิโลที่วิ่งได้1.4ครับแต่ถ้าเอาจำนวนที่วิ่งได้ตั้งแล้วหารด้วยจำนวนลิตรก็จะได้ 7.1 ความเห็นส่วนตัวผมว่ามันกินแก๊สครับ(แต่ผมยังไม่เคยไปให้ช่างจูนตั้งแต่ทำมาเลย)และที่ผมเซงก็คือไฟอินจิ้นมันโชว์ไม่รุ้ทำยังไงจะหายเพราะว่าผมกลัวกล่องECUมันเช็คว่าส่วนผสมไม่ถูกต้องก็จะทำการตัดการทำงานของระบบเครื่องยนต์อื่นๆทำให้รถวิ่งไม่ออกครับ ยังไงก็แลกเปลี่ยนกันนะครับ อีเมลครับ chuaviroj@hotmail.com

ครับ ดีครับ จะได้มาแชร์ความรู้กันว่าแต่ละคันที่ติดไป วิ่งแตกต่างกันยังไง ปัญหาเป็นยังไงกันบ้าง

สำหรับเรืองไฟEngineโชว์ กำลังพยายามอยู่(ของผมเป็นมิกเซอร์)ที่จะหาวิธีทำให้มันไม่โชว์

อีกเรื่องนึงที่ผมทำประจำและได้ผล

เวลากลับถึงบ้าน ผมใช้แก็สวิ่งมา ผมจะดับเครื่อง ทิ้งไว้แป็บ แล้วสตาร์ทน้ำมันทิ้งไว้ห้านาที(ของผมมีAuto Timerอีกตัว ใช้ตั้งแต่รถคันเก่า ตั้งไว้ที่ห้านาที) เพื่อที่จะให้น้ำมันวิ่งไปเคลือบที่บ่าวาวล์ มันจะได้ไม่แห้ง เพราะใช้แก็สนานๆอาจจะทำให้แห้งและอาจจะทำความเสียหายให้แก่เครื่องได้ครับ

อีกเรื่องนึงคือเรื่องสตาร์ท ช่วงแรกๆมีปัญหาเรื่องนี้ ผมก็เลยสังเกตว่าทำไม ก็ได้คำตอบอย่างที่ผมเขียนไว้ด้านบน คือสตาร์ทน้ำมันทิ้งไว้สักหน่อย เวลาตอนเช้ามาสตาร์ทก็ทำให้สตาร์ทง่ายขึ้น (ถึงแม้จะสตาร์ทด้วยน้ำมันก็ตาม และสำหรับผมไม่ค่อยสตาร์ทแก็ส ส่วนใหญ่สตาร์ทน้ำมันตลอดครับ)

เพิ่มเติมครับ โดยก่อนหน้านี้ได้ลองจูนอีก ปรากฎว่ากินโลละ 1.82 บาท งงมากและอืดด้วย

หงุดหงิดก็เลยจูนอีกทีและวันนี้พอดีได้มีโอกาสวิ่งนอกเมือง เลยถือโอกาสทดสอบไปเลย

ผลที่ได้เป็นที่น่าพอใจ  ครั้งนี้ปรากฎว่ากินโลละ 1.47 บาท ซึ่งถ้าเทียบอัตราการวิ่งก็ไม่อืดกว่าตอนแรก เผลอๆจะวิ่งกว่า

และประหยัดกว่าเดิมด้วยซ้ำ สำหรับผลในเมืองยังไงหลังจูนครั้งนี้ละลองมาเล่าให้ฟังอีกทีนะครับ

(ผมเอาเกณท์ที่ 100 กิโลเมตรเป็นหลัก อาจจะมีบวกลบนิดหน่อยครับ)

คุณต้นครับ แนะนำว่าลองเพิ่มตัว lambda control ไหมครับ จะได้ไม่ต้องไปจูนบ่อยๆ เพราะเพื่อนผมติดมาไม่มีปัญหาเลย
ส่วนถ้าเป้นหัวฉีด จะยิ้งได้กำลังเหมือนเบนซิน แต่ราคาแรงอยู่

ครับ คิดอยู่เหมือนกัน ตอนนี้เก็บตังก่อง พอดีใข้ไปเยอะ :'(

ไว้ถ้าติดไงแล้วมาเล่าให้ฟังนะครับ  :D

ผมก็ดูๆ อยู่เนี่ยะครับคุณต้น

หายไปนานเลยครับ พอดีไม่ค่อยว่างติดงานอ่ะคับ เลยมะได้อัพ วันนี้มาUpกันหน่อยครับ

เรื่องการสตาร์ท
ตอนนี้ไม่มีปัญหาแล้วครับ สตาร์ทน้ำมันแล้วswitchเป็นแก็ส หรือสตาร์ทด้วยแก็สเลย ติดดีครับ อาจจะมีบางครั้งที่ยาก แต่รวมๆสตาร์ทง่ายครับ

อัตราสิ้นเปลืองกับความเร็วสูงสุดที่ทำได้
หลังจากรายงานไปล่าสุดได้ที 1.47 ก็ได้มีการจดมาเรื่อยๆ มากบ้างน้อยบ้างอยู่ที่การจราจร ที่ได้ก็มี 1.66,1.73,1.59 บาทต่อโล

พอดีวันนี้มีโอกาสได้เดินทางไปต่างจังหวัดก็เลยลองดูสักกะหน่อย ความเร็วสูงสุดที่ได้คือ 150 กม/ชม แต่ช่วง 140-150 จะอืดหน่อย แต่150ก็อั้นแล้ว แต่คิดว่าน่าจะกดได้แต่ไม่เอาดีกว่า เดี๋ยวเป็นไรขึ้นมาแย่เลย
ความเร็วเฉลี่ยอยู่ที่ 130-150 กม/ชม  คราวนี้ผลที่ได้ว่าโลนึงใช้กี่บาท ผลจากการคำนวนออกมาคือ 1.37 บาทต่อโล ซึ่งสำหรับผม ผมคิดว่าพอใจนะครับ เพราะว่าในเมืองกินกว่านี้และความเร็วที่ทำก็ได้อย่างที่หวัง (จริงถ้าขับแบบ 90-110น่าจะได้มากกว่านี้ แต่ผมอัดดูอ่ะคับ) และเทียบกับตอนใช้น้ำมัน น้ำมันแพงกว่าเยอะครับ คิดเป็นสามบาทกว่าต่อโล ยังไงก็คุ้มครับ

สำหรับคนที่กำลังคิดว่าจะติดแต่กลัวว่าเครื่องจะเสีย ถ้าคุณประหยัดจากน้ำมันแล้วเอาเงินนั้นมาบำรุงดีๆก็น่าจะใช้งานได้อีกนาน รถเราไม่ได้ใช้แบบแท็กซี่ เพราะว่าแท็กซี่วิ่ง24ชม และที่สำคัญ น้ำมันเครื่องต้องเป็นสังเคราะห์ ถึงจะทำให้เครื่องลื่นขึ้นและรักษาเครื่องไปในตัว ส่วนอื่นๆ คงไม่มีอะไรครับ

ติดก่อนคุ้มก่อนนะครับ รอไปติดตอนแก็สลอยตัว คราวนี้จะเสียใจว่าทำไมไม่รีบติดตั้งแต่ตอนแรกครับ :D
 

Civic 1.7 Exi ปี 2005 ติดแบบ Fix Mixer มาได้ 2 เดือนครับ

อัตราสิ้นเปลือง : ในเมือง 1.10 บาท/กม.
                       : นอกเมือง 0.85 บาท/กม.

อัตราเร่ง          : ต้นอืดกว่าน้ำมัน เล็กน้อย ขอย้ำว่าเล็กน้อย แต่ปลาย 160-170 สบายๆ

อุปกรณ์            : หม้อต้ม Hana ของเกาหลี แต่เอา Solenoid ตัดแก็สของอิตาลีมาต่อผสม, ถัง 58 ลิตร ของ Metal Mate,สวิทช์แบบ Manual สับไปสับมาได้ตามต้องการ ถ้านึกอยากจะอัดก็สับน้ำมันแล้ว Kick down เลย, หัวเทียนเปลี่ยนเป็นแบบ 3 เขี้ยวทั้งสี่หัว

การใช้งาน       : - ไม่มีกลิ่น
                         - สตาร์ทด้วยน้ำมันได้ปกติ
                         - เครื่องร้อนสตาร์ทแก็สได้ปกติ (ทีเดียวติด แต่เวลาบิดกุญแจเปิดแล้วต้องหมุนสตาร์ทเลย) แต่การสตาร์ทและก่อนดับทุกครั้ง สับไปใช้ระบบน้ำมันดีกว่า
                         - เวลาขับไม่ควร kick down แบบโหดๆเพราะอาจทำให้ Back fire แล้วท่อไอดี รวมถึงกรองอากาศกระจุยได้.....ลดความเสียหายได้โดยการเปลี่ยนท่อไอดีเป็นเสตนเลส แต่จะมีผลข้างเคียงทำให้เกิดอาการรอบเดินเบาไม่นิ่ง หรือ มีอาการรวนอื่นๆ เมื่อใช้ระบบน้ำมัน
                         - ข้อสุดท้ายถือเป็นข้อเสีย เพราะคุณจะไปโน่น ไปนี่โดยไม่ค่อยไตร่ตรองอะไรมากอีกต่อไป..... LPG เป็นคำตอบของผม

ครับ แชร์ประสบการณ์กัน จะได้เป็นประโยชน์แก่เพื่อนๆที่สนใจติดแก็สครับ  :D

 ;Dรีบติดดีกว่าครับ ;D

ความสามารถยังไม่ถึงครับ  :)

วันนี้เพิ่มเติมครับ หลังจากที่ทดลองใช้ไปได้สักพัก ก็มีการจูนอย่างที่เล่าให้ฟังในตอนแรก และอาการEngineโชว์ในตอนแรกก็ยังปรากฎอยู่

ซึ่งเมื่อวานมีเหตุ ปรากฎว่าไปธุระกับที่บ้าน ลงทางด่วนอยู่ดีๆเบาดับไปเฉยๆ(โชคดีที่ว่าไม่มีรถจี้ตูดมา ไม่งั้นตูมแน่) ก็สตาร์ทน้ำมันไปต่อ แต่จริงๆอาการนี้มันไม่ได้เกิดมาก่อนหน้านี้(คือช่วงที่รายงาน) แต่มันเกิดขึ้นเมื่อสองสามวันก่อน คืออาการของมันคือเบาสั่นแต่ไม่ดับในตอนแรก ซึ่งรอบที่เข้าเกียร์(อัตโนมัติ) ต่ำกว่าห้าพันรอบ สะท้านไปทั้งคัน

เมื่อเช้านึกว่าอาการจะหาย พอดีมีธุระตอนเช้าก็เลยสตาร์ทจากน้ำมันแล้วสับไปเป็นแก็ส ซึ่งก่อนหน้านี้ก็ไม่มีปัญหา แต่พอวันนี้ดับเลยครับ(ขนาดเลี้ยงรอบไว้ก็ไม่อยู่) งุงิมาก เลยเอาเข้าไปที่อู่(ซึ่งอยู่แถวบ้านพอดี) แล้วบอกอาการกับช่างว่าเบาสั่น แล้วมีเบาดับด้วยเมื่อวาน ช่างก็ดู ตอนแรกก็ตั้งที่หม้อต้ม เสร็จก็ตั้งที่วาวล์ส่งเข้าMixer(Power Value) ก็ยังมีอาการเบาดับ สักพักช่างก็เดินไปหยิบอุปกรณ์มาซึ่งเท่าที่เห็นมีไขขวงตัวเล็กกับประแจเบอร์(ประมาณ)10-11 แล้วเอาไปไขที่ใต้กรองอากาศ ปรากฎว่าอยู่ดีๆเครื่องก็เร่งดังขึ้นมา เขาให้ผมดูว่ากี่รอบ ตอนแรกอยู่เกือบสองพัน เขาก็ตั้งไปตั้งมาอยู่ที่พันรอบพอดี คราวนี้ลองเข้าเกียร์ ปรากฎว่ารอบตกลงเยอะมาก ผมก็เลยบอกช่างว่าเอารอบสูงกว่านี้นิดนึง เขาก็ตั้งอยู่ที่ประมาณพันสองร้อยรอบ ปรากฎว่ารอบเครื่องดังแต่เวลาเข้าเกียร์smoothมาก ไม่กระชากเหมือนตอนแรก(ตอนแรกรอบต่ำมาก) หลังจากนั้นก็ลองใช้งานจริง ซึ่งเป็นที่น่าแปลกใจเรื่องแรก คื่อเรื่องไฟเอ็นจิ้น ปรากฎว่าวันนี้วิ่งทั้งวัน ไม่โชว์เลยครับ ปกติแค่เหยียบแซง ไฟเอ็นจิ้นจะโชว์ทันที ไม่ว่ารอบเครื่องเร็วหรือช้า สิ่งที่ได้ต่อมาคืออัตราเร่ง เหมือนตอนขับน้ำมันเลยครับ แค่แตะเบาๆวิ่งฉิ่วเลย วันนี้มีโอกาสไปหาลูกค้า ขากลับลองบนโทล์เวล์ ปรากฎว่าวิ่งมันมาก เหมือนน้ำมัน เร่งแซงไฟก็ไม่โชว์ และที่สังเกตุอีกอย่างนึงคือ แก็สกินไม่เหมือนตอนแรก นึกว่าจะกินกว่าเก่าแต่ดูที่เกย์ถังแก็ส เมื่อเทียบกับก่อนจูนรู้สึกว่าประหยัดกว่า(อันนี้ผมคงต้องลองเรื่องอัตราการกินน้ำมันอีกที) และตอนสุดท้ายดับเครื่อง จะมีอาการสะท้านนิดๆ ซึ่งอาการนี้เป็นอาการของการตั้งไฟแก่(รอบเครื่องสูง) ครับอย่างที่หลายๆคนเคยโพสไว้(บางเวปเกี่ยวกับแก็ส) ว่าการจูนแก็สที่ทำให้ไฟเอ็นจิ้นไม่โชว์ ไม่จำเป็นต้องใส่กล่องหลอก แต่ถ้าส่วนผสมทุกอย่างเช่น ปริมาณแก็ส ปริมาณอากาศ (และอันนี้ส่วนตัวผม การตั้งไฟ(รอบเครื่อง) ) ที่สมดุลกัน ทำให้อาการไฟเอ็นจิ้นไม่โชว์ และแถมยังวิ่งได้เหมือนตอนขับน้ำมัน

ช่วงนี้โชคดีที่ราคาน้ำมันลง แต่สำหรับผมลงขึ้นตอนนี้ก็ไม่สนใจแล้ว เพราะว่าตัดสินใจที่จะมาใช้แก็ส ซึ่งก็ยืนยันเหมือนคนอื่นๆว่ารู้ยังงี้ติดไปตั้งนานแล้ว

และเพิ่มเติมอีกเรื่องนึงคือเรื่องนี้สำคัญมากคือ เวลาสตาร์ทควรสตาร์ทด้วยน้ำมันแล้วค่อยสับไปเป็นแก็ส ถ้าเป็นไปได้รอสักพักเพื่อให้น้ำมันไปเลี้ยงที่วาวล์ก่อน และเวลากลับถึงบ้านไม่ได้ไปไหน ดับแก็สและรอสักแป๊บแล้วสตาร์ทน้ำมันไว้สักห้านาทีเป็นอย่างน้อยเพื่อให้น้ำมันไปเลี้ยงวาวล์ไม่ให้เสียเร็วครับ(แต่จริงๆมันก็กร่อนตอนเราใช้แก็สแล้ว ยังไงก็ต้องทำใจครับ) :D

สุดยอกมากเลยครับ ขอขอบคุณคนตั้งกระทู้นี้ และคนตอบกระทู้นี้ มีความรู้เรื่องแก๊สเพิ่มขึ้นอีกเยอะเลยครับ แต่ขอถามอีกอย่างหนึ่งครับว่า การติดแก๊สแบบดูด กับแบบหัวฉีดแบบไหนจะดีกว่ากันทั้งเรื่องการจูน ปัญหาต่างๆ และแบบไหนที่เครื่องจะอืดมากกว่ากัน ขอบคุณครับ ;)

จริงๆเท่าที่มีคนบอกและคุยหลายๆคน เขาบอกว่าระบบหัวฉีดดีกว่า เนื่องจากใช้คอมฯในการจูนซึ่งความเที่ยงตรงแน่นอน ประหยัดกว่าแบบดูด วิ่งกว่า แต่ไม่ใช่ว่าไม่มีข้อเสีย ระบบหัวฉีดถ้าเกิดรวนเกี่ยวกับระบบไฟขึ้นมาก็มีปัญหาเหมือน ค่าติดตั้งแพง(จริงๆจะว่าแพงก็ไม่ใช่ เพียงแต่ว่าการคุ้มทุนมันใช้เวลานานกว่าติดแบบดูด)

สำหรับระบบดูด (ซึ่งผมใช้ระบบนี้อยู่) ข้อดีคือค่าติดตั้งไม่แพง ไม่จุกจิกในเรื่องระบบไฟ และคุ้มทุนเร็ว ข้อเสียก็มีเช่นกัน เท่าที่ประสบมาก็คือการจูนที่ไม่เที่ยง ทำให้รถอืดบ้าง กินแก็สบ้าง ไฟเอ็นจิ้นโชว์บ้าง อะไรประมาณนี้

เท่าที่ตอนนี้ลองใช้มาได้เดือนกว่าๆ ก็กว่าจูนได้ที่ก็เล่นเอาเหนื่อยเหมือนกัน แต่ถ้าถามว่าผมติดแบบดูดแล้วคุ้มไหม ผมว่าถ้าเอาค่าน้ำมันมาเทียบค่าแก็สยังไงก็คุ้ม(ให้กินโลละสองบาทยังประหยัดกว่าเยอะ) ที่สำคัญเวลาติดตั้งดูอู่ดีๆ สอบถามหลายๆร้าน อย่าเอาแต่ถูกเข้าว่า ถามหลายๆคนว่าที่ไหนดี จะได้ไม่เสียใจกับปัญหาครับ

ครับหายไปนานทีเดียว รายงานผลต่อดีกว่าครับ หลังจากใช้ไปได้สักพักนึงก็เริ่มเกิดปัญหาครับ คือรอบเดินเบาไม่นิ่ง บทรอบจะสูงก็สูงซะเลย บทจะต่ำก็ต่ำซะเกือบดับ ตอนแรกที่เกิดปัญหาก็ไม่ได้สนใจอะไร คิดว่าขับได้ก็ขับ แต่ว่าคราวนี้ไม่ไหว ก็เลยให้อู่เก่าจูน คราวนี้อย่างที่เคยบอกไปคือการจูนรอบให้สูงขึ้นโดยยกปีกฝีเสื้อ(อยู่ที่ก่อนไอดี) ขอบอกเลยว่าวิธีนี้ไม่ควรทำอย่างยิ่ง สาเหตว่าทำไมไว้เดี่ยวจะเล่าให้ทีหลัง คราวนี้ก็เล่าต่อ ก็เริ่มงุงิว่าทำดีหว่า เริ่มรวนไปกันใหญ่ กินแก็สก็เริ่มแปลกๆ การวิ่งก็แปลกๆ เคลียดมาก คราวนี้ไม่เอาเข้าไปอู่เก่าแล้วครับ ผมก็เลยลองไปศึกษาที่ www.gasthai.com เสร็จแล้วก็ลองอ่านๆกระทู้ที่เกี่ยวกับซีวิคที่ติดแก็ส ก็อ่านไปเรื่อยๆแบบเจาะลึกกว่าเก่า ปัญหาที่เจอ(ระบบมิกเซอร์แบบของผม)คือ รอบเดินเบาไม่นิ่ง ไฟเอ็นจิ้นโชว์ Backfire คราวนี้ก็เริ่มเจาะลึกไปเรื่อยๆก็เจอว่า มีอุปกรณ์อยู่ตัวนึงที่ทำหน้าที่เหมือนพาวเวอร์วาวล์(ปรับทางเดินแก็สเข้าเครื่อง)แต่มีกล่องคุมซื่งชื่อเรียกคือ Stepping Motor หรือ Lamda มาคราวนี้ก็เลยอ่านว่าจริงๆแล้วมันทำหน้าที่อย่างไร เท่าที่ได้จากในเวปคือ

เหตุและผลที่มีการติดตั้ง Lambda & Stepping motor พอกล่าวได้ดังนี้
การติด Mixer ในระบบดูด ธรรมดา
1. มีการจูนหลายครั้ง เพื่อปรับแต่งส่วนผสมอากาศ+แก๊ส
2. อาจมีการเกิด Backfire ได้
การติด.ในระบบ Lambda & Stepping motor
1.ไม่ต้องมีการจูนบ่อย (ครั้งเดียวจบ) เพราะ Program computor จูน
2.อัตราส่วนผสมที่ดี เพราะ Copy กล่อง ECU น้ำมันมาใช้กับ ECU แก๊ส ทำให้การจ่ายแก๊สแม่นยำ
โดยเจ้า Stepping motor เป็นตัว Control อัตราส่วนผสม Gas + O2
3.การเกิด Backfire น้อยมากๆๆๆ

บางเหตุผลก็เพื่อ เลียนแบบวิธีการผสมไอดีแบบตอนเป็นโหมดน้ำมันครับ

บางเหตุผลก็แบบนี้คือ  อัตราเร่งดีขึ้น อัตราสิ้นเปลือง ประหยัดขึ้น

(ซึ่งต้องขอขอบคุณสำหรับข้อมูลตรงนี้มากๆเลยครับ)

คราวนี้ก็ว่ากันต่อ ก็เลยลองหาไปเรื่อยๆเกี่ยวกับเรื่องนี้ ก็มีหลายคนในเวปที่ติดตัวนี้ แต่ผมต้องการช่างที่เกี่ยวกับซีวิคโดยตรง ก็ไปเจออยู่ในกระทู้นึง (ซึ่งจะบอกชื่อตอนสุดท้ายอีกทีครับ) ผมก็เลยโทรไปคุยกับเขาและเล่าอาการที่รถผมเป็นให้เขาพัง ซึ่งตอนแรกเขาก็บอกผมว่าทำไมไม่ติดหัวฉีดไปเลย ผมเองก็ตอบไปตรงๆว่าเราอยากที่จะประหยัดและก่อนหน้านี้ผมก็เอารถไปติดอู่เดิมก็ไม่มีปัญหาอะไรก็เลยเอารถผมไปติด และเขาก็ได้เล่าต่อมาว่าซีวิครุ่นนี้ต้องยอมรับว่าจูนยาก รอบเครื่องไม่นิ่ง เกือบทุกคัน ที่ไม่ได้ติดหัวฉีดมา ก็ควรใส่Stepping Motor ผมก็ตัดสินใจได้สักวันสองวัน คิดว่าดีกว่าเอาเงินไปทำอย่างอื่น ผมก็เลยโทรไปนัดเขาโชคดีที่ร้านเขาวันนั้นว่างพอดี

ต้องบอกเลยครับว่าไกลจากบ้านผมพอสมควร แต่เมื่อเราต้องหามืออาชีพในรุ่นนี้ ผมก็ต้องไปครับ พอไปถึงร้าน สิ่งหนึ่งที่เห็นคือ รถฮอนด้าเต็มไปหมด(ซึ่งมารู้ทีหลังว่าเขาคลุกคลีฮอนด้ามาพอสมควร เรียกว่าช่างซ่อมเฉพาะทางก็ได้)  นี่ก็เป็นรูปร้านที่ผมไปมา

(http://i58.photobucket.com/albums/g265/honda03/001/13102006050.jpg)

(http://i58.photobucket.com/albums/g265/honda03/001/13102006052.jpg)

(http://i58.photobucket.com/albums/g265/honda03/001/13102006053.jpg)

(http://i58.photobucket.com/albums/g265/honda03/001/13102006051.jpg)

(http://i58.photobucket.com/albums/g265/honda03/001/13102006054.jpg)



หลังจากนั้นผมก็คุยกับเขาแล้วให้เขาใส่stepping motor ซึ่งผลที่ออกมาคือหม้อต้มผมมีปัญหา หม้อต้มผมเป็นของเกาหลี(ไม่รู้ยี่ห้อ) ปัญหาคือเวลาจูนบางก็บางไป หนาก็หนาไป เวลาใส่stepping motorแล้วจูนที่notebookมันฟ้องเลยครับ ก็จูนได้สักพักจนนิ่ง เขาก็ลองบอกว่าให้เอาไปใช้ก่อน แต่ว่าหม้อต้มนี้คิดว่าไม่เหมาะกับรถรุ่นนี้(ซึ่งผมก็เห็นด้วย) ผมก็ลองดูได้สักวันสองวัน ปรากฎว่ารอบเดินเบายังมีอยู่และอยู่ดีๆดับไปเฉยๆ ผมก็เลยกลับเข้าไปให้เขาจูนอีกรอบ ซึ่งเขาก็จูนจนเครียดพอสมควรแต่ผมก็บอกว่าไหนๆก็ไหนๆแล้วเปลี่ยนหม้อต้มใหม่แล้วกันจะได้จบๆไปเพราะเบื่อกับปัญหาเดินเบาไม่นิ่ง แต่เขาบอกว่าเขาอยากลองก่อนถ้าได้ก็ดีไปจะได้ไม่ต้องเสียเงินเพิ่ม ลองไปเกือบสองชั่วโมง ปรากฎว่าเป็นอย่างที่ผมคาดไว้คือต้องเปลี่ยนหม้อต้ม ซึ่งหม้อต้มใหม่ชองผม ผมเลือกของโตมาโซโต๊ หลังจากที่เปลียนเสร็จผมก็ให้เขาดูที่มิกเซอร์ของผม ว่ามิกซ์เท่าไร ซึ่งอู่เก่าเขาใส่ให้ผม 22 มิลฯ เขาก็เลยเปลี่ยนให้เป็น 26 มิล และก็ลองจูนไปจูนมาก็นิ่งได้ในระดับนึง เขาก็บอกว่าให้ผมลองกลับไปใช้ดูอีกที เพราะว่าจูนบางทีไม่ใช่ครั้งเดียวจะได้ที่ อาจจต้องมีอีกสักครั้งสองครั้ง ผมก็ลองกลับไปใช้ดู แต่เท่าที่สังเกตคือมีปัญหาเรื่องรอบนิดหน่อย ซึ่งผมเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไม แต่เบาดับไม่เป็น ก็ลองไปได้อีกสักพักก็กลับไปให้เขาดูอีกรอบ ซึ่งผมลืมบอกเขาไปว่าผมได้มีการยกปีกผีเสื้อก่อนที่จะมาทำที่นี้เพี่อให้รอบสูงขึ้นจะได้ไม่ดับ ซึ่งเขาก็ตกใจและบอกว่าการทำแบบนี้นไม่ดี เพราะปีกผีเสื้อรุ่นนี้ใช้กล่องคุม เมื่อตำแหน่งของมันเปลี่ยนจากเดิมค่าก็เปลี่ยน กล่องมันก็พยามให้ได้ค่าเดิมที่มาจากโรงงาน เมื่อไม่ได้มันก็พารวน เผลอๆจะเข้าsafe modeเอาดื้อๆ หลังจากนั้นเขาเองก็เลยเอาปีกผีเสื้อออกมาล้างทำความสะอาดและตั้งให้ได้ค่าปกติ(ที่ใกล้เคียงกับโรงงานที่สุด) และก็ใส่ลงไป คราวนี้เมื่อปีกผีเสื้อกลับสู่ตำแหน่งเดิม การจูนใหม่ก็ต้องเริ่มขึ้นอีกครั้ง เนื่องจากค่ามันต้องเปลี่ยน ซึ่งเขาใช้เวลาจูนไปพอสมควร เพื่อให้แน่ใจว่ารอบเดินเบานิ่ง ไม่ดับกลางทาง ไม่Backfire ไฟเอ็นจิ้นไม่โชว์ แล้วเขาก็จูนให้ผมจนสำเร็จ ผมก็ลองกลับเอามาใช้งานอีกครั้งนึง ผลที่ได้คืออาการเบาดับ ดับกลางทาง ไฟเอ็นจิ้นโชว์ Backfire ไม่เกิดขึ้นครับ และผลที่น่าดีใจอีกสองอย่างคืออัตราเร่งและการกินแก็ส เอาเรื่องอัตราเร่งก่อน หน้านี้ต้องค่อยพะวงว่าจะเร่งแซงไหวหรือเปล่า ตอนนี้ไม่เป็นแล้วครับ นิ่มขึ้น รอบนิ่งขึ้น(อาจจะมีหนืดๆหน่อยในตอนแรกๆที่ออกตัว) แต่ถ้าปลายแล้ววิ่งเหมือนน้ำมันเลยครับ คราวนี้ก็มาเรื่องอัตราการกินแก็ส(แก็สยังไม่หมดถัง คำนวนที่วิ่งไป 202กิโลเมตร) กินอยู่ที่ 1.28 บาท/กม (ซึ่งการวิ่งของผมมีทั้งวิ่งเร็วบ้าง ช้าบ้าง รถติดบาง ทางยาวบ้าง ทางสั้นบ้าง ) ซึ่งก่อนหน้านี้ได้เต็มที่ก็แค่ 1.40 กว่าแค่นั้นเองแถมยังไม่ค่อยวิ่งด้วย(ซึ่งก่อนหน้านี้ระยะทางเท่าๆกัน)

คราวนี้ก็มาถึงตำแหน่งการติดหม้อต้มใหม่กับStepping Motor ถ้าได้ดูจากรูปในตอนแรกๆ(ประมาณหน้า1)ให้สังเกตมุมขวาใกล้กับกระบุกน้ำมันพาวเวอร์ให้ดีเดิมจะอยู่ดำแหน่งตรงนั้นซึ่งการว่างก็อยู่ตำแหน่งที่ออกเฉียงๆหน่อย และนี่ก็อีกความรู้นึงที่ผมได้คือ การวางหม้อต้ม ต้องว่าขนาดกับรถไม่ควรวางควางหรือทะแยง ทำไมหรอ ก็เพราะว่าในหม้อต้มจะมีแผ่นไดอะเพรมซึ่งกั้นอยู่เป็นห้องๆ เมื่อรถวิ่งก็ไม่มีอะไร แต่ถ้าเราเบรกและต่ำแหน่งการวางแบบควางหรือทะแยงจะทำให้แผ่นไดอะเพรมนี้เคลื่อน ทำให้หม้อต้มไม่นิ่ง ซึ่งผมก็เพิ่งรู้ก็ตอนเปลี่ยนหม้อต้มและก็เลยย้ายตำแหน่งให้มาอยู่ที่ใต้ท่อแอร์ และอีกความรู้นึงคือหม้อต้มยิ่งใกล้stepping motorหรือpower valveและใกล้มิกเซอร์ยิ่งดี ทำไมหรือครับ ก็ระยะทางของแก็สที่วิ่งไปจากหม้อต้มน้อยลงทำให้แก็สผ่านใกล้stepping motorหรือpower valveและเข้าไปสู่มิกเซอร์อย่างเร็วทำให้ต่อเนื่องไม่เกิดการสะอึกขึ้นครับ และนี่คือรูปหลังเปลี่ยน

(http://i58.photobucket.com/albums/g265/honda03/001/100_2567copy.jpg)

อันนี้คือตัว Stepping Motor (หรือเรียกง่ายๆว่าพาวเวอร์จูนด้วยกล่องจากคอม)

(http://i58.photobucket.com/albums/g265/honda03/001/100_2568copy.jpg)

อันนี้คือหม้อต้มใกล้ๆStepping Motor อยู่ใต้ท่อแอร์

(http://i58.photobucket.com/albums/g265/honda03/001/100_2570copy.jpg)

ครับที่เล่ามาทั้งหมดนี้ผมต้องออกตัวก่อนนะครับ ผมไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียกับอู่เขา ผมเพียงแค่อยากเอาความรู้ที่เกียวกับการติดแก็ส ปัญหาหลังจากติด วิธีแก้ ที่ผมเจอและแนวทางต่างๆมาให้เพื่อนๆที่อยู่ในซีวิคคลับด้วยกับเพื่อไปแนวทางศึกษาว่าควรติดหรือไม่อย่างไรคุ้มไหม ต้องยอมรับว่าสมัยนี้เล่นรถค่อนข้างดีกว่าสมัยก่อน เมื่อก่อนผมเล่นรถ ไม่มีเวปไม่มีคลับ กว่าจะคลำทาง หาของแต่ง ก็โดนพวกเอาแต่กำไรขายของซะแพง เข็ดจนไม่อยากแต่งไปเลย และเดี๋ยวนี้ทางเลือกค่อนข้างกว้างและราคาไม่แพงเหมือนก่อน ที่สำคัญคือการบริการและคุณภาพของสินค้าว่าเป็นอย่างไร ขอให้ดีใช้ได้ไม่แพง รับรองรุ่งครับ

สำหรับคนที่จะติดต่อหรือให้เขาแก้ไขก็โทรไปได้ตามเบอร์ที่อยู่ในรูปนะครับ สำหรับชื่อ คุณพากษ์ หรือ คุณยุทธ ก็ได้ทั้งสองคนครับ ลองโทรไปคุยกับเขาถ้ารถมีปัญหา จะทำหรือไม่อยู่ที่คุณตัดสินใจเองครับ  :D

 ;D น่าสนใจนะครับ  :D

อยากติดบ้างจัง  ??? ???

ผมเป็น นึ่ง คนที่เคยใช้แก๊ส ขอบอกว่า แรกๆ(ต้อนที่เริ่มติดใหม่ๆ) อยากจะถอดออกครับ มีปัญหา จุกจิกมาก เครื่องสั่นเวลาเบา สตาร์ต้องใช้น้ำมัน มี  อาการ แบคไฟร์ (หมายถึงระเบิดในห้องเผาไหม้) จนกรองกระดาษ ทะลุ !!!  แต่พอใช้ไป 2-3 ถัง ไม่เคยคิดว่าจะกลับมาใช้ น้ำมันอีกเลยครับ ผิดกันเลยครับ แก๊ส ทั้งเหยีบ ทั้งกระทืบ ยังไง ก็ไม่เคยรู้สึกว่าเปลื้องแก๊สครับ เจอทางโล่งๆๆ เป็นต้อง 140-150 ตลอดทางครับ CITY ปี 98 วิ่งได้เท่านี้ล่ะครับ ส่วนเรื่องความปลอดภัยไม่ต้องพูดถึง ครับ ผมว่าไม่ต่างกันครับ เพราะถ้าชนท้ายจริงๆ ผมว่ามันถึงถังน้ำมันก่อนครับ แถมถังน้ำมันบางกว่าถังแก๊สซะอีก
ตอนนี้หันมาใช้ civic 2.0 el ตอนเติมน้ำมันถังแรก เริ่มรู้ว่า นรกมีจริง ครับ  1200 แก๊ส เติม 350 เต็มที่ วิ่งได้ 450 โล พอๆกับน้ำมัน ตัว 2.0 el  เลยครับ
(ที่เปลี่ยนรถนี้เพราะว่า คันเก่าซ่อม ทุกเดือนครับ ก็เลยเปลี่ยนครับ ) ผมว่า ถ้าวิ่งได้ ซัก 1-2 หมื่อนโลกะว่าจะไปติดแก๊สอยู่เหมือนกัน เพราะว่าวันหนึ่งวิ่ง 2-3 ร้อยโล/วัน เริ่มรู้สึกว่า เงินหายไปเยอะเหมือนกัน ครับ
แต่แนะนำนะครับ ผมติดร้านแรก แต่แก้ 6-7 ร้านครับ เพราะคนรู้เรื่องแก๊สนี่ผมว่าน้อยมากครับ ถ้าจะติด แนะนำ ให้ลองไปดูรถที่ติดแล้วจริง แล้วลองถามเจ้าของดูรถดูว่า ร้านที่ไปดูติดแล้วเป็นไงบ้าง มีปัญหาจุกจิกเยอะไหม ถ้าเขาบอกมี เปลี่ยนครับ อย่าได้เสี่ยงไปลองติดนะครับ


ข้อความนี้เป็นความเห็นส่วนตัวนะครับ

ครับ ผมเห็นด้วยกับความเห็นนี้อย่างนึงคือเรื่องการแก้ปัญหาไม่รู้จบอันเนื่องจากอู่ขาดประสบการณ์ในการติดตั้งแก๊ส รู้แบบงูๆปลาๆแล้วมาติดให้ลูกค้า อันนี้ผมเจอมากับตัวถึงได้รู้ซึ้งถึงคำว่าการเลือกร้านที่มีฝีมือหน่อยหรือชำนาญเฉพาะรุ่นนี้ แต่ต้องบอกว่าเป็นความโชคดีของผมที่เจอร้านใหม่แล้วปัญหาจบ(กว่าจะจบเล่นเอาเครียดไปเลย) และอีกปัญหานึงที่ลืมเล่าให้ฟังเกี่ยวกับการติดแก๊ส(พอดีเมื่อคืนพิมพ์นานเลยลืมข้อนี้ไป)คือความสะเพร้าของอู่ที่ไม่ได้มาตราฐาน ผมเจออะไร กิ๊บล็อกเบาะหลัง(มันจะอยู่ตรงเบาะหลังด้านบนเวลาเรายกออก) เล่นทำผมฟังหมดไปทั้งสามตัว ต้องซื้อใหม่เกือบสามร้อยกว่าบาท(รวมvat) ไม่เพียงแค่นั้น กิ๊บต่างๆที่มีก็หายจนหมด ผมต้องไปหาซื้อมาใส่ใหม่ น็อตที่ล็อกเบาะสี่ชุดเหลือแค่สอง และเอาน็อตไม่ได้เรื่องมาใส่ ที่รู้เพราะว่าผมลองเอาค้ำหลังใส่รถผมก่อนที่จะขายให้ลูกค้าว่าใส่ได้ทั้งรถที่ติดแก๊สกับไม่ติดแก๊ส รื้อดูถึงได้รู้ และอีกปัญหาที่ตามมาอีกอย่างนึงคือ ตัวกรองอากาศ ที่ผมพูดนี่นะไมใช่ไส้กรอง อันนี้ไม่เป็นไร แต่ตัวพลาสติกด้านบนและล่างที่ครอบไว้บนปีกผีเสื้อ เป็นรอยไม่มีชิ้นดี เจาะไม่ได้เรื่อง รูน็อตยึดก็แตกหมด จนไม่สามารถถอดหรือใส่ได้เวลาจะเอากรองอากาศมาเบา ผมจึงต้องให้ร้านที่ไปแก้งานเบิกออกมาราคา1,500บาท และรอยต่างๆภายในรถที่ไม่ได้เกิดจากการติดแก็สอู่เก่า ทุกวันนี้ผมเจ็บใจตัวเองทื่ไม่ได้ศึกษาให้แน่ก่อนหรือไม่ก็หาร้านมือฉมัง แพงหน่อยแต่ปัญหาจบ ทำไปทำมา ติดแก็สมาเป็นมิกเซอร์ แก้งานไปมา ทั้งเสียเวลา  ทั้งค่าน้ำมัน  ค่าของ เผลอๆได้แก็สระบบหัวฉีดพอดี

ครับสำหรับคนที่คิดจะติด ก็ต้องศึกษาให้แน่ว่ามีปัญหาอะไรหรือเปล่า ดูร้านมีcomplainหรือไม่ สำหรับคนที่ติดแล้วมีปัญหา ก็ต้องพยายามหาร้านที่แก้งานให้จบเพราะว่าเสียเงินไปไม่ใช่น้อยในการติดแก็สแล้วยังใช้ไม่คุ้มทุนที่ติดไปเลย ผมโชคดีที่แก้งานจบ ตอนนี้สบายใจแล้วครับ และบอกตรงๆว่าโค-ตะ-ระคุ้ม ไม่งั้นรู้งี้ ติดมันตั้งนานแล้วครับ  :D

ผมมีเรื่องที่น่ากลัวกว่านี้อีกนะครับ เดี๋ยวคืนนี้ จะมาเล่าให้ฟังนะครับ ขอตัวไปทำงานก่อนนะครับ เดี๋ยวไม่มีเงินซื้อ ม่าม่า กิน อ่ะ

แก๊ซนี้ถือเป็นวัตถุไวไฟรึป่าวคะ

ใช่ครับ  :)

มาตามสัญญา ครับ เรื่องที่จะเล่านี้เกิดกับรถผมเองครับ ผมติดแก๊สมา 1 ปี กับ 6 เดือน  ขับไปเรื่อยๆ ไม่มีปัญหาแต่ประการใดครับ แต่มีอยู่วันหนึ่ง ตอนเช้าลงจากบ้านมา สตาร์รถ ได้ยินเสียงระเบิดเบาๆ ครับ ที่ห้องเครื่อง จากนั้นก็ใช้งานเป็นปกติ ธรรมดา อกีประมาณ 1-2 สัปดาห์ เกิดอาการเบาแล้วสั่น เอาไปจูนหลายครั้งก็ไม่หาย เลยเปลี่ยนร้านใหม่ ครับ พอไปถึง ก็บอกว่า พี่ครับ พี่ช่วยดูรถผมหน่อยสิ ครับ  รถผมเบาสั่น แก้ที่อื่นแล้วไม่หาย พี่ช่วยดูให้หน่อยได้ไหม ครับ พอเปิดฝากระโปงออกมา ช่างเห็นเครื่องกับการติดตั้ง ช่าง ร้อง จ๊าก ไปติดที่ไหนมา ผม งง กับเสียงร้อง ช่างที่นี้ สงสัยได้เปลี่ยนร้านใหม่อีกแล้วเรา(คิดในใจ)  พี่ช่างบอกว่า สายน้ำมันรั่วอยู่หรือป่าว ติดมานานแค่ไหนแล้ว ผม งง เลยถามว่าที่ไหนหรือครับ พี่ไม่เห็นเลย เขา ชี้ลงไปที่สายน้ำมัน ระหว่างสายช่างที่ติดตั้งที่แรก เขาตัดหัวฉีดไม่เป็น เลยใช้วิธีตัดปั๊มติ๊ก กับตัดสายน้ำมันแล้วใส่วาวล์คั่นระหว่างสายให้ ช่างที่ใหม่นี่บอกว่า ขับมาได้ไง อันตรายมากๆๆๆๆๆๆๆ เลยครับ ดีที่ไฟไม่ไหม้รถ ตาย น้ำมัน มันรั่วอยู่ คุณ รู้หรือป่าว 
คุณคิดว่าผมจะรู้ไหมครับ เพราะสายมันอยู่หลังฝาสูบอ่ะ ครับ กำ
เล่าให้ฟังนี้ให้ เพื่อนๆ พี่ๆ ดูให้ดีก่อนติดตั้งนะครับ ร้านไหนช่างน้อยๆ รถน้อยๆ ยิงต้องดูให้ดี ครับ

ฟังดูแล้วน่ากัวเหมือนกันอ่ะ(รถเราจะเจอบ้างป่าวหว่า เดี่ยวว่างๆต้องเอาไปเช็คสักหน่อยและ) ก็ยังดีที่คนปลอดภัย รถไม่เสียหาย ก็ถือว่าเป็นความโชคดีแล้วครับผม ยังไงก็อย่างที่เขาบอก จะติดก็ดูร้านให้ดีๆ เป็นดีที่สุดครับ  :)

ถ้ารถคันไหนติดแก๊ซ น่าจะมีข้อความไว้ที่ข้างรถว่า "วัตถุไวไฟ" ใครที่ได้เห็นและอ่านข้อความที่รถจะได้ระมัดระวัง

จริงๆไม่ต้องขนาดนั้นก็ได้ครับ ส่วนมากที่เขาติดแบบนั้นเป็นรถประเภทส่งแก็สตามปั้มหรือส่งรถส่งแก็สตามสถานที่ที่บริษัทจัดส่ง รถบ้านแค่ติดสติกเกอร์LPGเขาก็รู้แล้วครับ :)

กระทู้นี้ไม่จำกัดCIVICรุ่นไหนนะครับ

ทั้ง EF,EG,EK,ES,FD

สามารถเล่าสู่กันฟังได้ จะได้เป็นประโยชน์แก่เพื่อนๆคนอื่นๆที่คิดจะติดแก็สด้วยครับ

หลังจากครั้งที่แล้วทำได้อยู่ที่ 1.28 บาท/กม หลังจากนั้นผมก็เติมเต็มอีกคราวนี้จับใหม่ ได้อยู่ที่ 1.19 บาท/กม(คราวนี้จับกีโลอยู่ที่ 249.10 กม และแก็สยังเหลืออยู่อีกประมาณ 20 กว่าๆจากเกย์วัดแก็สที่ถังหลังรถ) ก็รู้สึกว่าดีกว่าตอนแรก วิ่งไปทั่ว ทั้งในเมืองและนอกเมืองครับ ก็เลยเอามาฝากกันครับ

ผมติด NGV ครับ รุ่นเตารีด 93 ก็ OK นะครับ 200 กม./1 ถัง (120 บาท)

ดีครับ แชร์กัน เป็นคันแรกที่commentที่ติด NGV ยังไงๆก็ประหยัดครับ(แต่ว่าอาจจะต้องเติมบ่อยหน่อยเนื่องจากถังจุได้ไม่ค่อยเยอะและไม่เหมาะกับเดินทางต่างจังหวัดเนื่องจากหาที่เติมยาก)

วันนี้เพิ่มเติมเกี่ยวอัตราการกินแก็ส

พอดีมีโอกาสเดินทางไปต่างจังหวัด โดยก่อนไปเติมเต็มถังแก็สแล้ววิ่งไปพัทยา และวิ่งไปในรอบๆเมือง แล้วกลับมา

กรุงเทพปรากฎว่าอัตราการกินแก็สอยู่ที่ 1.20 บาทกมต่อลิตร (วิ่งไป 302.40โล เติมแก็สหลังกลับมาจาก 363.20 บาท)

ความเร็วที่ใช้อยู่ที่ 140-160 กมต่อชั่วโมงครับ

วันนี้เพิ่มเติมสำหรับคนที่ใช้Stepping Motor

บังเอิญว่าแบตเตอรี่รถผมมันเสื่อม ผมเลยเปลี่ยนลูกใหม่ คราวนี้อาการเดิมที่บอกว่าสั่นก็กลับมา ตอนแรกก็ตกใจมาก ว่าทำไมแค่เปลี่ยนแบตฯแค่นี้ก็เป็นอาการเดิม และด้วยความที่ไม่ว่าง ผมก็ทนใช้ไปวันกว่าๆ  พอดีวันนี้ช่วงเช้าว่างก็เลยเอารถไปให้เขาดู ขณะที่ขับอาการที่บอกว่าสั่นมันก็หาย วิ่งปกติเหมือนเดิม ผมก็ยังงงๆว่าจะเป็นอีกหรือเปล่า ปรากฎว่ามันก็ไม่เป็น พอดีถึงร้านผมก็เล่าให้เขาฟังว่าอาการสั่นเกิดขึ้น แต่ก่อนหน้านั้นไม่เป็น ผมมีการเปลี่ยนแบตฯลูกใหม่ เขาบอกว่าขณะที่เราเอาขั่วแบตฯออกหรือเปลี่ยนแบตฯใหม่ อาการนี้จะเกิดขึ้นสักพัก(แต่ไม่นาน)เนื่องจากกล่องที่คุมStepping Motorมันresetเมื่อเอาขั่วแบตฯออกหรือเปลี่ยนแบตฯใหม่ และอาการก็จะกลับมาเป็นปกติเหมือนกับตอนที่ตั้งเอาไว้ก่อนหน้านี้ครับ ซึ่งก็เป็นจริงอย่างนั้นเพราะหลังออกจากร้านมาก็ไม่มีอะไรปกติดี

ที่เล่ามาก็เพราะว่าผมไม่รู้(เพราะร้านเขาไม่ได้บอก)และเพื่อคนที่ใช้ตัวนี้จะได้ไม่ต้องตกใจเหมือนผมครับ  :D

ผมติด LPG มาได้ประมาณ 4-5 เดือนแล้วครับ ของผมเป็น 1.7 ปี2004 ครับ ติดแบบหัวฉีดของ Autronic ซึ่งผลออกมาดีมากครับ แทบไม่ต่างจากน้ำมันเลย อัตราการกินแก๊สเฉลี่ยอยู่ที่ กิโลละ1บาทใน กทม ครับ และ กิโลละ60ตัง ในตจว ครับ ใน 1 เดือน ผมลดค่าใช้จ่ายได้ประมาณ 3500-4000 บาทครับ ปัญหาไม่พบครับ มีตอนวันแรกเท่านั้นครับที่มีเบาดับบ้าง ก็เข้าไปเช็คด้วยคอมแป๊ปเดียวครับ หลังจากนั้นก็ไม่เกิดปัญหาอีกเลยครับ เผื่อเป็นข้อมูลในการตัดสินใจให้กับ เพื่อน พี่ น้อง ได้ครับ

ข้อมูลอันนี้ดีมากเลยครับ เท่าที่ผมคุยมา หัวฉีดของ Autronic ค่อนข้างใช้ดีกับฮอนด้ามากที่สุด รวนน้อยที่สุดเท่าที่เขาเจอกันครับ

ติดแล้วจบอย่างงี้น่าดีใจแทนครับ(บางคนติดมา แก้แล้วแก้อีก)  :D
 
ปล. อยากติดหัวฉีดเหมือนกัน แต่งบหมดและ  :'( คงต้องทนใช้ หม้อต้ม+Stepping ต่อไปครับ  :)

วันนี้ผมมาเพิ่มเติมสองเรื่อง

เรื่องแรกเรื่องSwitch Gas จากเดิมที่เป็น Mannual (ถ้าอ่านมาแต่ต้นจะรู้ว่ากว่าจะเปลี่ยนก็เอาเรื่องเหมือนกัน)ตอนนี้เปลี่ยนมาใช้แบบ Auto แล้วนะครับ เป็นของ Hana และก็ได้ความรู้มาอีกอย่างนึงคือ ไม่ใช่ว่าจะเอา Switch Auto มาติดกันง่ายๆ ต้องดูด้วยว่าถังแก็สใช้แบบไหน เพราะถ้าไม่ยังงั้นระดับเกย์แก็สจะไม่ตรงกับถังครับ และงานติดตั้งที่ออกมา ถือว่าน่าพอใจพอสมควรครับ (ร้านนี้เป็นร้านเดิมที่ผมเอามาแก้งานกับเขาครับ)

(http://i58.photobucket.com/albums/g265/honda03/001/100_2854copy.jpg)

เรื่องที่สองคือเรื่องGround Wire ถ้าคุณดูตั้งแต่แรกๆ คุณจะสังเกตเห็นผมติดGround Wireมาก่อนซึ่งไม่เหมือนกับรูปที่ผมจะเอามาให้เพื่อนๆดูกัน เรื่องมีอยู่ว่าพอดีช่วงที่แก็สมันรวน ผมให้ร้านใหม่เขาแก้งาน ตอนนั้นงุงิ แก็สก็มีปัญหา Ground Wire ก็ช่วยอะไรไม่ค่อยได้ ผมก็เลยถอดออกยกชุด (อันนี้ต้องบอกก่อนว่าแบบเก่าติดมา5จุดแบบไม่มีความรู้เรื่องนี้)
พอดีเมื่อวานผมไปหาลูกค้าและผมได้รู้จักคนในViosคลับว่าคนนี้ติดGround Wireดีและเห็นผล ผมเองก็นึกอยากจะลอง (เพราะก่อนหน้านี้ติดมาไม่เห็นผลอะไรเลย)ก็เอาน่า เงินก็ไม่เท่าไร อยากลองดูว่าจริงอย่างที่ลูกค้าผมบอกหรือเปล่า ผมก็ลองไปให้เขาติด Ground WireของCivic ESนี้เขาจะไม่มีสำเร็จ เขาต้องวัดรถนะตอนที่ติดตั้งเลย ซึ่งใช้เวลาพอสมควร(ประมาณช่วงกว่าๆ พอดีบ้านเขาอยู่ใกล้ๆCentral รัตนาธิเบต ผมก็เลยถือโอกาสไปเดินเล่นซะเลย อิอิ)  ซึ่งผมให้เขาติดGround Wire พร้อมด้วย Volt Stabilizer ซึ่งตัว Volt นี้เขาทำเองนะครับ(เก่งจริงๆ) 

ซึ่งจุดที่เขาติดมีทั้งหมดแปดจุดได้แก่

1. ลิ้นปีกผีเสื้อ (อันนี้ผมให้ร้านแก็สใส่วันนี้เพราะว่าพอดีจะใส่Swith Auto ต้องรื้อยาว เขาเลยให้สายมาด้วย ถ้าไม่งั้นเขาก็ติดให้ได้ครับ)
2. เสื้อสูบ
3. ฝาสูบ
4. Firewall
5. คานหน้า
6. ไดชาร์จ
7. คอมแอร์
8. รางหัวฉีด (จุดต่ออันนี้จะต่อไปถึงจุดลิ้นปีกฝีเสื้ออีกเส้นนึงจั้มกันครับ)

หลังจากติดเสร็จก็Startเครื่องดู(เขาบอกว่าบางคนติดแก็สมา จะรวนตอนแรก ต้องเอาไปที่ร้านจูนหลังติดGround Wire แต่ของผมไม่เป็นครับ และจุดรางหัวฉีดกับจุดปีกฝีเสื้อผมมาใส่ทีหลัง) ผลที่ได้วิ่งดีขึ้นครับ  :o ปกติมันจะออกนืดๆหน่อยเวลาใช้แก็ส แต่ก็เห็นทันตาจริงๆครับ และพอดีวันนี้เอาไปทำSwitchแล้วก็เลยเอาสายที่บอกไปให้เขาใส่ให้ หลังจากทำเสร็จก็กลับ ลองวิ่งดู ต้องบอกว่าเหมือนน้ำมัน เผลอๆดีกว่าน้ำมันครับ  ::) ตอนแรกผมก็ไม่แน่ใจ นึกว่าผมอาจจะเหยียบหนักไปป่าว แต่ดูความเร็วก็เป็นปกติที่เคยวิ่ง แต่ทำไมมันแรงขึ้น และผมก็ได้มีโอกาสลองบนทางด่วน ซึ่งก่อนหน้าใส่ตัวนี้จะทำความเร็วให้ถึง 100 กม/ชม นี่ยากมาก แต่วันนี้งงเลยครับ แป็บเดียว แล้วความเร็วก็เร่งขึ้นเรื่อยๆ เรื่อยๆ พอดีจังหวะรถเยอะเลยไม่ได้ลองความเร็วสูงสุด ไว้มีโอกาสมาโพสบอกกันอีกทีนะครับ

(http://i58.photobucket.com/albums/g265/honda03/001/100_2832copy.jpg)

(http://i58.photobucket.com/albums/g265/honda03/001/100_2831copy.jpg)

ก็ไม่มีอะไร แค่อยากเอาความรู้ ประสบการณ์ที่เจอมาแชร์เพื่อนๆก็เท่านั้น

สำหรับเรื่องที่สอง บางคนอาจจะเห็นผล บางคนอาจจะไม่เห็นผล ก็ขึ้นอยู่ที่วิจารณญานในการตัดสินใจนะครับ

เดี๋ยวจะหาว่าผมมาโปรโมทให้เขา ผมไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียอะไรกับเขา แค่อยากเอาสิ่งดีๆมาให้เพื่อนๆได้ชมกันครับ

 :D

(http://img156.imageshack.us/img156/3223/sv400008qk0.jpg)
รถes 02 Vtec /MT ติดแบบมิกเซอร์ธรรมดามากๆ หม้อฮานา ถังเขียวแดง58ลิตร สวิทปรับแก๊สคันโยกธรรมดา
เวลาสับ รถกระตุกๆหน่อย เกจ์แก๊สใช้ตัวเดียวกันกับเกจ์น้ำมัน ติดมาได้3วันกำลังหาค่าเฉลี่ย ตีนปลาย160ยังไปได้อีกเยอะ แต่ตอนจอดนิ่งรอบกระตุกบ้างบางครั้งที่แอร์ทำงาน ปิดแอร์เครื่องเดินนิ่งมากกกก อัตราเร่งไม่ต่างจากน้ำมัน
ใช้มิกขนาด 26 มิมฝังในท่อรอยต่อระหวางกลองอากาศสองลูก บอกช่างจูนตามที่เครื่องต้องการ ไม่เอาบางมาก ขอให้เติมถูกกว่าน้ำมันพอในระยะทางเท่าๆกัน
วันหน้าจะถ่ายรูปแบบละเอียดๆมาให้ชมครับ

(http://img155.imageshack.us/img155/7514/civic5mg7.jpg)
กำลังจะหุ้มถังแบบนี้ครับ
อยากถามอีกว่า พี่ๆที่ติดมาแล้วใช้น้ำมันกันบ้างหรือเปล่าครับ รถติดมา3วันใช้แก๊สตลอดไม่ได้ใช้น้ำมันเลยจะมีปัญหาอะไรหรือเปล่า สตาทแก๊ส ขับแก๊ส ดับแก๊ส

จริงๆแล้วควรที่จะสตาร์ทน้ำมันแล้วswitchเป็นแก็สจะได้มีน้ำมันเลี้ยงไว้หน่อยนะครับ

และอีกอย่างนึง ถ้าโช้คดีก็ไม่เป็นไร ถ้าโชคไม่ดี เวลาstart(ด้วยแก็ส)จะเกิดBackfireได้ ทำให้กรองอากาศแตกหรือไม่ก็ไอดีฟังได้ครับ

เกียร์ธรรมดานี้จะวิ่งกว่าเกียว์ออโต้มากครับ เวลาเร่งแซงก็มันกว่า ประหยัดน้ำมันกว่า

ปัญหาเรื่องจอดนิ่งรอบกระตุก เกิดมาจากช่วงจังหวะแก็สส่งไปไม่ทัน ทำให้เกิดอาการเหมือนกับสะอึกไปสักนิดนึงแล้วก็กลับมาครับ
บางครั้งจะรู้สึกว่าเวลาวิ่งเร็วๆไม่เป็นไร แต่ว่าถ้าเมื่อไรที่ลดความเร็ว(เบรกแบบกระทันหัน หรือเบรกแบบสุดๆ)แล้วจะให้วิ่งต่อมันก็จะสะอึกนิดนึง จริงๆแล้วระบบมิกซ์นี้น่าจะติดStepping Motorจะช่วยอาการกระตุกดีขึ้น(เคยเจอมาแล้วกะตัว ตอนแรกมะเชื่อ ตอนนี้อาการพวกนี้ไม่มีให้เห็นแล้วครับ) ตัวStepping Motorมันจะช่วยจ่ายแก็สเพิ่มขึ้นในขณะที่รอบต่ำ ทำให้ไม่เกิดอาการกระตุก แต่ระบบพาวเวอร์วาวล์มือหมุนนี้ต้องช่างมีประสบการณ์เพื่อปรับให้มันดีขึ้น แต่อย่าลืมอย่างนึงนะครับ รถสมัยนี้กล่องมันฉลาด โดยเฉพาะCivic Dimension นี้มันฉลาดมาก ลองสังเกตุรถคุณดีๆนะครับ บางทีจูนแรกๆอาการก็ดีขึ้น แต่ใช้ไปนานๆก็จะเกิดอาการแบบนี้คือกระตุกเมื่อรอบต่ำบ้าง แอร์ตัดบ้าง (รถผมเป็นรถปี 03 เคยเป็นอาการนี้ แก้ไม่ตกจริงๆ จูนให้ดีได้ไม่ถึงอาทิตย์ เดี๋ยวก็กลับอาการเดิม และเท่าที่คุยกับเพื่อนๆที่ใช้รุ่นนี้ ก็เป็นอาการเดียวกัน) ถ้าอาการจูนแล้วจบก็ไม่มีปัญหา แต่มิกซ์เปล่าๆไม่Stepจะมีปัญหาอีกอย่างนึง(ไม่รู้คนอื่นเป็นป่าว) ของผมแค่เปลี่ยนน้ำมันเครื่อง รถรวนไปทั้งคัน(ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ไม่มีเลย) งุงิมาก

ยังไงก็ตามถ้าอาการที่ผมพูดมาทั้งหมดไม่เกิดขึ้นก็จะดีมาก เพราะถ้าเกิดขึ้น นั้นจะทำความรำคาญให้คุณ หลังจากนั้นก็จะเกิดความเครียดในการใช้ และถ้าแก้ไม่ตกก็ต้องถอดออก หรือบางทีต้องรื้อระบบเพื่อทำใหม่ สำหรับคนที่ติดแล้วไม่มีปัญหาก็ดีไป ถ้าใครคิดจะติดหรือมีปัญหา ต้องศึกษาให้มากๆ ไม่งั้นไม่ใช่แค่รำคาญอย่างเดียว เครื่องจะพาพังก่อนเวลาอันควรครับ  :)

วันนี้มีเพิ่มเติมหลายเรื่องเลยครับ หลังจากที่หายไปหลายวัน

เนื่องจากถังแก็สเป็นระบบวาวล์แยกซ้ายขวา ไม่ใช่ระบบมัลติวาวล์(ระบบนี้จะมีตัวตัดแก็สในตัวเมื่อเกิดอุบัติเหตุ) เราก็ได้ความรู้จากคนรู้จักกันว่าใครจะใส่นะ จริงๆผมเองก็ยังลังเลอยู่ แต่ก็เพื่อความปลอดภัย ผมก็เลยใส่เพิ่มไป

อันนี้เป็นรูปก่อนใส่ซีลินอยตัดแก็ส

(http://i58.photobucket.com/albums/g265/honda03/100_1848copy.jpg)

รูปนี้หลังใส่แล้ว

(http://i58.photobucket.com/albums/g265/honda03/001/100_3289copy.jpg)

อันนี้ซูมใกล้ๆให้เห็น(ตัวที่เป็นสีทองอยู่บนเกย์วัดแก็ส)

(http://i58.photobucket.com/albums/g265/honda03/001/100_3290copy.jpg)

(วันที่ถ่ายเป็นวันนี้ แต่ติดมาหลายวันก่อนครับ รู้สีกว่าหลังติดauto switchแก็สได้สักอาทิตย์มั้งครับ)

หลังจากติดเสร็จก็มาดูเรื่องตัววัดแก็สที่ถังแก็สครับ มันไม่ตรงกับ auto switch ก็ไม่ได้สนใจอะไร นึกว่าไม่มีปัญหาอะไร ก็กลับไปใช้งานปกติ ปรากฎว่าวิ่งไปหลายวัน วิ่งไปสองร้อยกว่าโล auto switch ไม่ตรง กำเลยครับ ติดมาตั้งหลายตัง ดันไม่ตรง ก็เลยกลับไปให้ที่ร้านเขาดู เปลี่ยนชุดใหม่ก็แล้วก็ไม่ตรง คราวนี้สงสัยก็เลยเปลี่ยนเกย์วัดแก็สที่ถังปรากฎว่าใช้ได้ เสร็จก็ลองติดลงไปใหม่ ใช้ไปอีกทีคราวนี้หมดเกือบหมดถังแต่ที่เกย์วัดแก็สที่ถังและauto switch มันอยู่ที่ 40% (ทั้งที่ก่อนหน้านี้กิโลที่เคยจับไว้ ถ้าในเมืองต้องประมาณไหน ผมจะจำได้) ผมก็เลยกลับไปที่ร้านอีกทีนึง ปรากฎเช็คอีกที(ที่ร้านยังงงเลยครับบอกว่ามะค่อยเจอ) เช็คไปเช็คมาบอกว่าลูกลอยถังแก็สค้าง  ??? กำเลยคราวนี้  :'( อะไรกันหว่า ไม่เคยเจอเหมือนกัน ก็เลยถามว่าพอจะมีวิธีแก้ได้ไหม วิธีคือต้องถอดลูกลอยออกมาแล้วเช็คดูถ้าเสียหรือค้างต้องเปลี่ยนตัวใหม่ แต่ใช้ว่าจะถอดออกมาง่ายๆนะครับ ต้องรอแก็สหมดถังก่อนถังจะถอดออกมาได้ ทำไงละ เพิ่งเติมมาเต็มถัง ผมก็เลยกลับมาใช้หลายวัน ยังหงุดหงิดมากที่อะไรก็ดีวิ่งก็ดี แต่ดันมาเจออะไรแบบนี้ ผมก็เลยใช้ไปอีกหลายวัน และเมื่อสองวันก่อน ได้มีโอกาสไปแถวปทุมวัน(เป็นแหล่งขายอุปกรณ์เกี่ยวกับแก็ส) ผมก็เลยกะว่าจะไปจอดที่ลานจอดแล้วเดินหาดู แต่ก็กลัวบอกถังเขาไม่ถูกว่าเป็นยังไง(ซื้อมาผิดรุ่นใส่ไม่ได้คราวนี้กำเลย) จังหวะพอดีผ่านอยู่ร้านนึงเขาขายอุปกรณ์และหน้าร้านมีที่จอด ผมก็เลยจอดแล้วเปิดถังให้เขาดูว่าต้องการลูกลอยของถังรุ่นนี้ เขาก็ดู(และถาม)ว่ากี่ลิตร แล้วเขาก็ไปหยิบลูกลอยมา ผมเองถามเขาว่าถ้าใส่ไม่ได้เปลียนไดหรือเปล่า เขาบอกว่าเปลี่ยนได้ ผมก็จ่ายเงินไป (ลูกลอยตัวนึง 550 บาท จริงๆราคามันน่าจะถูกกว่านี้ แต่เห็นเราขับรถมา เห็นเป็นฮอนด้าด้วย มันเลยโคกเต็มที่ แต่ว่าคิดไปคิดมา หาที่จอด เดินก็ร้อน ยังต้องเสียค่าที่จอดอีก คิดไปคิดมาซื้อเสร็จได้ของแพงหน่อย(มะมาก)แล้วไปเลยจะดีกว่า หลังจากวันที่ไปซื้อก็ยังไม่มีเวลา ไปหาลูกค้าบ้างอะไรบ้าง พอมาถึงวันนี้ กะว่ายังไงๆต้องไปที่อู่แก็สให้ได้ ดูจากกิโลที่วิ่งก็คิดว่าอีกไม่นานน่าจะหมด ก็ตอนเช้าไปหากลูกค้า เกิดอาการครับ ขับไม่ออก ปกติขับแก็สวิ่ง140-160 นี่ยังสบาย อยู่ดีๆวิ่ง80แล้วเร่งไม่ขึ้น จังหวะแซงบนทางด่วน(ดีนะรถหลังไม่เร็ว) ผมเลยswitchเป็นน้ำมัน คราวนี้วิ่งฉิวเลยครับ(แต่ก็ยังต้องยอมรับว่าแก็สวิ่งสู้น้ำมันไม่ได้จริงๆ)ก็วิ่งมาถึงลูกค้า พอเสร็จก็โทรไปที่ร้านแก็สบอกว่าอาการเป็นแบบนี้ เขาก็บอกว่าแก็สใกล้หมดถังแล้ว ผมก็เลยนัดพี่เขาเข้าไปเปลี่ยนลูกลอยพอดี มีอยู่จังหวะนึงพอดีถึงซอยที่ติดอู่ พอดีผมอยากกินกาแฟ ผมเลยสตารท์น้ำมันแล้วสับเป็นแก็สอีกทีเพื่อความแน่ใจว่ามันจะหมดจริง(เพื่อเวลาเปิดลูกลอยออกมามัน แก็สจะได้ไม่ฟุ่งออกจากถังมาเลอะท้ายรถ) ทิ้งไว้แป๊บเดียวเองครับ คราวนี้สะอึกเหมือนเจ้าเข้าครับ ได้ผล ;D ผมก็เลยขับไปที่ร้านแก็สให้เขาเปลี่ยน

นี่เป็นรูปลูกลอยแก็สครับ(ตัวที่เสีย ตัวที่ดีใส่ไปถ่ายไม่ทัน)

(http://i58.photobucket.com/albums/g265/honda03/001/100_3270copy-1.jpg)

มันจะประกอบไปด้วยสามส่วนคือ
เบอร์ 1 น่าจะเป็นแม่เหล็กซึ่งทำหน้าที่บอกเกย์แก็ส
เบอร์ 2 เป็นเฝืองระหว่างแกนลูกลอยกับแกนที่บอกเกย์แก็ส
เบอร์ 3 เป็นลูกลอยที่ใช้บอกระดับ

การทำงานมันเป็นแบบนี้ เมื่อเวลาแก็สหมด(แรงดันของแก็ส) ลูกลอยจะตกลงมา เมื่อเวลาเติมแก็สเติม มันก็จะลอยขึ้นมาขณะเติม โดยแรงดันของแก็สไปดันลูกลอยซึ่งมีแกนเหล็กที่มีเฝืองอยู่กับเฝืองของแกนแม่เหล็ก เมื่อลูกลอยขึ้นมันจะดันเฝืองให้หมุนทำให้แม่เหล็กในเบอร์1ทำงานแล้วมันจะทำให้เกย์วัดแก็ส(ในตัววัดก็มีแม่เหล็กเช่นกัน)ขึ้น(เวลาหมดก็สลับกัน) คราวนี้ก็ลองเอาออกมาลองดูด้วยตัวเอง(เทสสักหน่อยจะได้รู้ว่าอะไรเสีย) คราวนี้ลองดูกลับหัวแม่เหล็กมันก็ขึ้นลงดี แต่กลับไปอีกด้านนึง(ซึ่งเป็นตำแหน่งที่ถูกต้องเมื่อตอนถอดออกมา) ปรากฎว่าผิดจริงๆ ซึ่งลองเอามาเทสกับอันใหม่ ตัวใหม่ไม่มีปัญหา ซึ่งก็ทำให้สบายใจหลังจากนั้นก็ให้เขาใส่

อันนี้คือรูที่ใส่ลูกลอย(เกย์วัดแก็ส)

(http://i58.photobucket.com/albums/g265/honda03/001/100_3271copy-1.jpg)

แล้วก็ใส่ไป(แต่กว่าจะส่ได้ก็เล่นซะแย่) แต่ก็ใส่ได้ด้วยดีครับ คราวนี้ก็มีอย่างนึงที่สงสัยคือตรงแกนที่มีลูกลอย ของผมมันตรง แต่ตัวที่เสียมันหยัก ซึ่งได้คำตอบจากช่างว่า ที่ตรงหรือหยักมันขึ้นอยู่กับถังแก็ส ซึ่งของผมซื้อมาตรงรุ่นแล้ว ก็เลยสบายใจใส่แล้วให้เขาเช้คเรื่องรั่วให้เรียบร้อย กันปัญหาที่จะเกิดขึ้นดีกว่าให้มันเกิด แล้วก็ลองเติมดู ปรากฎว่าจากที่เกย์เสีย(อันเก่า) ใช้ได้เป็นปกติ  ;D ดีใจมากๆ จะได้ใช้งานสักทีต้องกังวล คราวนี้ก็ยังมีอีกนิดว่าถ้าใช้ไปมันจะลดหรือเปล่า ปรากฎว่ามันลด(ซึ่งเกย์ที่เสียวิ่งไปเป็นร้อยกว่าโล ลดไปนิดเดียว) ซึ่งเมื่อเทียบก่อนเสียและระยะที่วิ่งไป(จำเอาครับ)ถือว่าถูกต้อง คราวนี้มาดูที่auto switchก็ลดเหมือนกัน ก็โล่งอกไป ถือว่าแก้หาย แต่เล่นเอาซะเหนื่อยเลยครับ แค่ลูกลอยแก็ส นึกว่าจะใส่ง่ายๆ แต่ใส่ยากโครต

ครับก็เป็นประสบการณ์ที่ไม่เคยเจอ(ซึ่งในเวปเกี่ยวกับแก็ส บางคนเจอเหมือนกัน)ก็ต้องว่ากันไป แก้ได้ก็ดีไปก็ไม่ได้ก็ว่ากันอีกทีนึง ซึ่งวันนี้ผมก็ได้ความรู้เพิ่มเติมและเอามาฝากเพื่อนในเวปกันด้วยครับ  :D

ร้านที่ไปแก้ร้านสุดท้ายที่บอกใช่ร้านของคุณยุทธ คอปเตอร์ หรือป่าวครับ พอดีผมก็กะว่าจะไปติดเหมือนกันแต่ของผมเป็นตัว 2.0 กำลังหาข้อมูลร้านที่ชำนาญๆ อยู่เหมือนกันครับ

ใช่ครับผม  :D

หลังจากที่หายไปนาน มาUpนิดนึง

พอดีช่วงปีใหม่ผมได้มีโอกาสเดินทางไปทางภาคเหนือ โดยจุดมุ่งหมายคือที่เชียงใหม่

ก่อนเดินทางได้มีการเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง(ใช้แบบสังเคราะห์) เปลี่ยนกรองอากาศ เปลี่ยนกรองน้ำมันเครื่อง และเช็คความพร้อมของรถเพื่อที่จะเดินทาง

ก่อนเดินทางก็เติมน้ำมันเต็มถัง(กันเต้น) และก็เติมแก็สเต็มถัง น้ำมันอยู่ที่ประมาณ800-900 บาท แก็สอยู่ที่ 400 กว่าบาท

เดินทางช่วงเช้า ก็สะดวกดีไม่ค่อยมีรถ ความเร็วที่ทำได้อยู่ที่ 140-160 Km/hr (บางช่วงก็เหลือแค่120 Km/hr)

เดินทางจากกรุงเทพฯ ไปหมดที่จังหวัดตาก ระยะทางประมาณสี่ร้อยกว่าโล (เกือบเกลี่ยงถัง) ก็กะว่าจะเติมที่จังหวัดตาก

หาข้อมูลอย่างดี ปรากฎว่าไปรอ เขาบอกว่าต้องรอถึง20คิว ไม่ไหว ขับน้ำมันวิ่งไปถึงลำปาง แล้วเติมเต็มถัง ปรากฎว่าเติม

แก็สเต็มอยู่ที่ 500 นิดๆ ก็วิ่งขึ้นเชียงใหม่ ขณะที่อยู่ที่นั้นก็ได้มีการใช้แก็สสลับน้ำมันเพื่อให้เครื่องไม่แห้ง

ขากลับก็เติมจากเชียงใหม่เต็มถังอยู่ที่ 400 กว่าบาท คราวนี้ก็วิ่งด้วยแก็สยาวถึงจังหวัดชัยนาทเข้านครสวรรค์(ไม่รู้จำสลับ

กันหรือเปล่า) เติมใช้เวลาเกือบ40นาที (หัวจ่ายมีสองหัว รอคิวเป็นยี่สิบคัน) ครั้นจะไม่เติมก็ไม่ไหวแล้ว และเห็นว่าเป็น

ขากลับก็เอาสักหน่อย รอจนเติมเต็มถัง ก็อยู่ที่ 400 กว่าๆเช่นกัน ก็วิ่งกลับกรุงเทพฯด้วยแก็สหลังเติม ก็มาถึงกรุงเทพฯ

ปรากฎว่าน้ำมันเหลือครึ่งถังแก็สเหลือครึ่งถัง  น้ำมันใช้ไป900กว่า(เหลือครึ่งถัง)  แก็สเติมไป 1,700 บาท(เหลือครึ่งถังเช่น

กัน) น้ำมันพร้อมแก็สอยู่ที่ 2,600 บาท คำนวนได้คือ 1 บาทต่อกิโลเมตร สำหรับถามผมว่าประหยัดหรือเปล่า ถ้าเป็นน้ำมัน

ด้วยความเร็วที่ผมขับ รับรองว่าคงมากกว่านี้แน่นอน อย่างน้อยๆต้องมี 3,000-4,000 บาท ซึ่งจริงๆถ้าความเร็วไม่เกิน120

km/hr ผมคิดว่าน่าจะประหยัดกว่านี้ แต่อย่างว่าครับบางช่วงบางทีต้องทำเวลาหน่อย ก็ได้ผลออกมาแบบนี้ครับ สำหรับผลที่

ได้สำหรับผมคิดว่าน่าพอใจเลยทีเดียวครับ

รถผมขับรถใช้งานปกติ ไม่เกิน120/km นอกเมืองตลอด จะเติมแก๊สเต็มถังตลอดเวลา

การกินแก๊สถือว่าประหยัดมาก es02 
เติมแก็สเต็มถัง 58ลิตร 
แก็สลิตรละ  10.50 บาท/ลิตร (ตจว)
เป็นเงิน 609บาท วิ่งได้ 580 กิโลเมตร (บวกลบ10กิโล) ไม่เกิน600กิโล แก็สหมดถังดับต้องสับเป็นน้ำมัน
เฉลี่ยแล้ว อยู่ที่ 609บาท หาร 58ลิตร เท่ากับ 10.5 กิโล/ต่อแก็ส 1ลิตร
เฉลี่ยเป็นเงิน  580กิโล หาร 609บาท เท่ากับ 0.95 บาท/ต่อ 1กิโลเมตร

ใช้งานมาได้3เดือนกว่าๆแล้วครับ ประหยัดอย่างไม่น่าเชื่อ เพราะจะเติมแบบนี้ตลอดและได้ตัวเลขกิโลอย่างนี้ทุกครั้ง
ไม่รู้ว่าจะเกี่ยวกันกับหม้อต้มหรือเปล่า เพราะรถคันเก่าวีออสก็อัตตราการกินแก็สก็เท่าๆกัน วีออสจะประหยัดกว่านี้หน่อย

และรถพี่ชายผม ซีวิคตาโต ปี96 ติดแก็สมาเหมือนกันร้านเขาใส่หม้อยี่ห้ออะไรไม่รู้ใบใหญ่ๆ กินแก็สอยู่ที่ 1.4-1.5บาทต่อลิตร ยังกินแก็สมากกว่า es ผมอีกเลยอยากให้ลองเปลื่ยนแค่หม้อต้มดูว่ามันจะต่างกันมั้ย ก็เลยหาซื้อหม้อ"ฮานา"ที่ผมใช้อยู่ แต่หาไม่ได้ร้านบอกของขาดเลยได้หม้อของ "เมจิก" ใบเล็กๆมาใช้ดู ติดตั้งเปลื่ยนหม้อเสร็จให้ช่างจูนอย่างละเอียดใช้งานไป1เดือนให้ผ้าหม้อต้มเข้าที่แล้วมาจูนอีก ตอนนี้ใช้งานมาได้2เดือนกว่า อัตตราการกินแก็สประหยัดมากขึ้น
อยู่ที่ 0.9-1.0 บาท/ต่อกิโลเมตร ถือว่าประหยัดจริงๆครับ
อย่างที่เล่ามาจากประสบการณ์จริง เพื่อนที่ไปติดแก็สผมก็เลยแนะนำหม้อ ฮานาและเมจิก อย่างเดียวเลย แต่ไม่รู้ร้านเข้าจะใส่ให้หรือเปล่า เพราะจะเพิ่มราคาต้นทุนให้ทางร้าน
อย่างไรก็ขอแนะนำนะครับสำหรับคนรักการอยากลอง 2ยี่ห่อนี้ใบนึงราคาประมาณ3พันบาท
แต่ผมอยู่นี้จะหายากหน่อย(ตจว)    ;) ;) ;)

ขอบคุณสำหรับทุกๆข้อมูลที่แชร์กันนะครับ จะได้เป็นความรู้คู่ Welovecivic ต่อไปด้วยครับ

วันนี้มาเพิ่มเติม พอดีเมื่อสองสามวันที่ผ่านมาต้องเดินทางไปต่างจังหวัด เป้าหมายคือจังหวัดขอนแก่น

ปกติผมจะเอารถ 4WD ดีเซลอีกคันไป จำนวนกีโลที่วิ่ง ประมาณ 900 กว่าโล ค่าน้ำมันไปกลับเจอไป 3,300 บาท(ความเร็วที่วิ่งอยู่ที่ 140 กม/ชม)

คราวนี้ลองเอารถผมไปเอง โดยจำนวนโลใกล้เคียงกันครับ(ประมาณ 991.6 กม) ความเร็วก็อยู่ที่ 120-140 กม/ชม เช่นเดียวกับคัน 4WD ผลที่ได้คือแก็สเติมไปทั้งหมดเป็นจำนวนเงิน 1,100 บาท(ยังเหลือแก็สให้วิ่งอีกสองสามวันนะครับ) คำนวนออกมาตกอยู่ที่ 1,15 บาท/กม บางคนอาจจะบอกว่าไม่ประหยัด(สำหรับคนที่ติดแก็สแล้วประหยัดกว่า)แต่สำหรับผมถ้าเทียบกับ 4WD อีกคันแล้วถือว่าคุ้มมาก และที่สำคัญวิ่งด้วย ไม่ต้องกลัวเวลาแซงครับ  :D

เรื่องก็มีอยู่ว่าพอดีจำได้ว่าครบ10000โลพอดี ก็กะว่าจะเอาเข้าไปที่อู่ที่เขาทำแก็สเพื่อที่จะไขขี้แก็ส(น้ำเหลวๆดำๆอยู่ที่หม้อต้ม) เพื่อที่จะทำให้ขึ้แก็สไม่ตันที่หม้อต้ม หลังจากถ่ายเสร็จ(ใช่เวลาไม่นาน) ก็นึกขึ้นได้ว่ารถใช้ไปหกหมื่นกว่าโลแล้วผมเองก็คิดว่าสมควรเวลากับการเปลี่ยนน้ำมันเกียร์(ออโต้)สักที เพื่อที่จะได้ยืดอายุของมันออกไปให้เสียช้าลง ซึ่งตอนแรกก็กะว่าจำแค่ถ่ายแล้วเปลี่ยนเท่านั้น แต่ว่าพอดีร้านเขาบอกว่าที่ร้านมีเครื่องเปลี่ยนน้ำมันเกียร์(ออโต้)พอดีและราคาอยู่ที่พันกว่าบาท(ซึ่งข้างนอกทั่วๆไปต่ำๆก็อยู่ที่สองพันขึน) เห็นแล้วก็สมควรล้างพร้อมเปลี่ยนน้ำมันเกียร์(ออโต้)ซะเลย มาดูกันว่าเขาทำกันยังไง

หน้าตาของเจ้าเครื่องทำความสะอาดเกียร์อัตโนมัติครับ

(http://i58.photobucket.com/albums/g265/honda03/001/Flower/100_4445copy.jpg)

รูปนี้เขากำลังจะยกเพื่อสอดสายเข้าไปในระบบเกียร์

(http://i58.photobucket.com/albums/g265/honda03/001/Flower/100_4444copy.jpg)

ก่อนอื่นเขาจะต้องยกรถแล้วเอาสายใส่ต่อเข้าไปกับระบบเกียร์(สายน้ำมัน)เพื่อให้การถ่ายได้ประสิทธิภาพ

(http://i58.photobucket.com/albums/g265/honda03/001/Flower/100_4446copy.jpg)

โดยเบอร์ 1 สีแดงเป็นน้ำมันเข้า

เบอร์สองเป็นสีดำ ซึ่งเป็นน้ำมันที่เสียออกมา

จากนั้นเขาก็เริ่มทำการสตาร์ทเครื่อง

(http://i58.photobucket.com/albums/g265/honda03/001/Flower/100_4447copy.jpg)

ซึ่งถ้าสังเกตจากเบอร์สามน้ำมันเกียร์ยังใสอยู่ครับ

(http://i58.photobucket.com/albums/g265/honda03/001/Flower/100_4448copy.jpg)

หลังจากนั้นได้ทำการเข้าเกียร์เพื่อให้น้ำมันวนเข้าเครื่องและกลับไปเข้าเกียร์ สีที่ได้เป็นสีดำที่เบอร์สี่ ซึ่งหมายความว่ามีความสกปรกของเกียร์เกิดขึ้น ซึ่งอันนี้ถ้าแค่ถ่ายออกเฉยๆก็จะไม่สามารถทำความสะอาดออกได้ขนาดนี้

ซึ่งเขาก็ได้เข้าทั้งเกียร์ถอย เกียร์เดินหน้าทุกๆเกียร์ ซึ่งใช้เวลาประมาณชั่วโมงนึง(ช่างเขาบอกว่ายิ่งนานยิ่งดี จะได้สะอาดครับ)  หลังจากล้างเสร็จผมก็ไปทำธุระต่อ ซึ่งผลออกมาตกใจเลยครับ วิ่งดีกว่าตอนแรก เกียร์เปลี่ยนนิ่มกว่าเดิม กดKick Downเบาๆ แซงได้สบาย(กว่าตอนแรกที่ไม่ได้ทำความสะอาด) 

ก็ผลที่ออกมาก็เป็นที่น่าพอใจครับ สำหรับใครที่ต้องการทำความสะอาดเกียร์ ก็ติดต่อไปที่ร้านเขาได้เลยนะครับ ช่างที่นี้เขาฝีมือทั้งนั้นครับ  :D

พอดีผมมีโอกาสไปขอนแก่น(ซึ่งเมื่อไม่กี่อาทิตย์ก่อนผมก็ได้ไปมาแล้วครั้งนึง) ก็เลยเอาผลมาฝาก แต่ก่อนฝากต้องบอกข้อมูลนิดนึงครับ สำหรับครั้งนี้ที่ไป ได้มีการเช็คลมยาง ซึ่งเดิมแค่ 26 ปอนด์ คราวนี้ให้เขาเติม 31 ปอนด์ (ลมยางเป็นไนโตรเจน) ซึ่งเท่าที่วิ่งดูก็รู้สึกว่าวิ่งดีแต่โดดกว่าเดิมเนื่องจากลมยามเปลี่ยนแต่ก็ไม่มาก คราวนี้มาถึงกิโลที่ได้คือ 903 กิโลเมตร จำนวนเงินที่เติมไปทั้งหมด 1,032 บาท ความเร็วที่ใช้ก็ยังคงเท่าเดิมคือ 120-140 km/hr โลนึงกินอยู่ประมาณ 1.14 บาท ซึ่งผลที่ได้ต่างจากครั้งที่แล้ว(แต่ไม่มาก) อาจจะเพราะว่าจำนวนกิโลที่วิ่งได้และการเช็คลมยางที่มากกว่าเดิม แต่ก็คงที่ว่าบาทกว่าๆ ซึ่งสำหรับบางคนอาจจะไม่ประหยัด แต่สำหรับผมคิดว่าวิ่งและแรง ถูกกว่าน้ำมัน แค่นี้ก็พอใจแล้วครับ  :D

ได้ข้อมูลเพียบเลยครับ
เท่าที่ได้ข้อมูลมาก็มีปัญหากันพอสมควรกว่าจะเข้าที่เข้าทางนะครับ
แต่ที่น่าสนใจอยู่ต้องที่ความประหยัดนี่แหละครับคือประเด็น
.....
ขอบคุณนะครับสำหรับข้อมูลและคำแนะนำดีๆ

ผมชอบประโยคนี้ครับว่า "แต่ที่น่าสนใจอยู่ต้องที่ความประหยัดนี่แหละครับคือประเด็น" เพราะการติดแก็สนั้นจะทำให้ค่าใช้จ่ายประหยัดกว่าน้ำมันพอสมควร ซึ่งคนที่คิดจะติด ต้องรู้ว่าใช้รถระยะทางเท่าไรต่อวัน เดือนนึงค่าน้ำมันเท่าไร ถ้าเมื่อติดแก็สเมื่อเทียบกับน้ำมัน จะทำให้ประหยัดเงินได้เท่าไร ใช้เวลาเท่าไรถึงจะคุ้มค่าที่เราติดไป ซึ่งการติดแก็สไม่ใช่ว่าจะจบกันง่ายๆ บางคันไม่จบ พารถมีปัญหาเอาด้วยซ้ำ และที่สำคัญอย่างยิ่ง เมื่อเราจะประหยัดค่าแก็ส ควรที่จะหาร้านที่ชำนาญ(จริงๆ)ในเฉพาะรุ่นนั้นๆ ซึ่งแม้ว่าอาจจะแพงเมื่อเทียบกับร้านอื่น แต่คุณจะได้ความประหยัดและความจบในเรื่องของงาน ไม่ต้องมานั่งแก้ไปแก้มาหลายๆครั้งเหมือนที่ผมหรือเพื่อนๆบางคนเจอครับ  :D

ว่าจะไปติดเสานี้แหละครับ

คงเปงแบบดูด+สเตปมอเตอ

เอาตังไปเท่าไรดีหว่า???

คร่าวๆ ประมาณสองหมื่นกว่าบาทครับ ถ้าจะให้ชัวร์ๆ ก็โทรไปถามที่ร้านอีกทีจะได้ไม่พลาดครับ  :D

ผมเป็นนักศึกษาปี2 เพิ่งได้มีโอกาสเข้าเว็บบอร์ดนี้เป็นครั้งแรกครับ
ผมยังขับรถไม่เป็นครับ แต่กำลังจะได้มีรถใช้เร็ว ๆ นี้เป็นรุ่น Honda Civic Modulo 1.8 cc คิดว่าจะฝึกขับให้ชำนาญและเรียนรู้เรื่องเครื่องยนต์ไปพร้อม ๆ กัน แต่ตอนนี้ผมยังไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับรถยนต์เลย

ผมมีคำถามที่อยากขอความกรุณาจากผู้รู้ช่วยตอบด้วยนะครับ
คือว่า

1. จำเป็นหรือไม่ ที่ควรจะใช้ระบบน้ำมันเบนซินให้เกิดความเคยชินกับรถ ก่อนจะเปลี่ยนมาติดตั้งระบบแก๊ส
2. รถยนต์ป้ายแดงที่ออกมาจากศูนย์ใหม่ ๆ สามารถติดตั้ง LPG ระบบหัวฉีด ได้เลยรึเปล่าครับ?
3. Civic Modulo 1.8 cc ติดตั้งระบบแก๊สเหมือนหรือต่างจาก Civic รุ่นอื่น ๆ ไหมครับ
4. ความหนืบที่จะเจอเมื่อติดตั้งระบบแก๊ส  หากติดตั้งระบบหัวฉีดจะเจอด้วยหรือเปล่าครับ

ขอความกรุณาผู้รู้ช่วยตอบข้อสงสัยผมด้วยนะครับ
ขอบคุณมากครับ

ครับ Honda Civic Modulo 1.8 cc  เป็นรถที่ค่อนข้างใหม่พอสมควร เท่าที่เคยอ่านเจอในเวปที่เกี่ยวกับการติดแก็ส ก็เห็นมีการติดบ้างแล้ว แต่มีปัญหาหรือไม่อย่างไรไม่สามารถตอบได้เพราะไม่ได้สัมพัสกับตัวเอง

1. ถ้ากลัวเรื่องประกัน ก็รอประกันหมดแล้วค่อยติดแก็สก็ไม่มีปัญหา แต่ว่าการติดแก็สถ้าจะให้ได้สมบูรณ์จริงๆ เครื่องไม่มีปัญหา ก็ควรที่จะติดตั้งแต่รถยังใหม่ๆ ไม่ใช่รอรถเก่าแล้ว(หลายๆปี)แล้วค่อยมาติด เพราะว่าการเอารถเก่ามาติด ไม่รู้ว่าเกิดปัญหาอะไรเกี่ยวกับเรื่องเครื่องหรือยัง ถ้าติดไปแล้วมีปัญหากับเครื่อง จะไปโทษแก็สว่าเป็นตัวการเปล่าๆ เคยเห็นแท็กซี่ไหมครับ เขาติดกันตั้งแต่ป้ายแดงด้วยซ้ำ ซึ่งเขายังไม่กลัวที่จะมีปัญหาเลยครับ
2. จริงๆแล้วติดได้เลยครับ เพียงแต่ว่าคุณควรถามเรื่องประกันเกี่ยวกับเครื่องกับที่ศูนย์ว่าหมดประกันหรือไม่ ถ้าติดไป ก็อาจจะทำให้การรับประกันเครื่องหมดไปด้วย (อันนี้ต้องถามดูนะครับ)
3. การติดก็คล้ายๆกันครับ แต่จะแตกต่างกันว่าระบบการติด จะติดหัวฉีดหรือระบบดูด(พร้อมตัวStepping Motor)
สำหรับเรื่องการติด หลังติดไปแล้วมันจะมีค่าของเครื่องที่แตกต่างกัน ก็ต้องจูนให้พอดี มากไปก็ไม่ดี น้อยไปก็ไม่ดี ต้องพอดี
การจูนค่าต้องใช้คนที่มีประสบการณ์เกี่ยวกันรถรุ่นนั้นๆด้วย เพื่อที่จะได้ไม่มีปัญหาในการใช้งานต่อไป
4. ความหนืบของแก็สมีมากกว่าน้ำมันแน่นอน ซึ่งน้ำมันลื่นไหลดีกว่า เท่าที่ผมใช้รถผมเองก็หนืบตอนตีนต้น แต่ตีนปลายก็ไม่มีปัญหา แต่ระบบที่ผมติดเป็นแบบ Mixer+Stepping Motor คือระบบดูดแล้วใช้ตัวมอเตอร์ควบคุมเวลาเราหยีบคันเร่งโดยถ้าเราหยีบแรงมันก็จะเปิดขึ้น เวลาไม่เหยียบมันก็จะไม่ขึ้น ส่วนหัวฉีดเขาจะเจาะตรงที่ไอดี(อันนี้ไม่แน่ใจต้องลองถามเขาดู) ซึ่งเขาจะเจาะตรงลงไปเพื่อที่จะฝังหัวฉีดเพื่อให้แก็สเข้าส่งตรงถึงเครื่องโดยตรงกว่าระบบดูด ซึ่งแน่นอนว่าจะทำให้อัตราการเร่งดีกว่าระบบดูดแน่นอน(แต่ว่ายังไงแก็สก็ยังอื่ดกว่าน้ำมันแน่นอนในช่วงต้นครับ) 

ไม่ว่าจะเป็นระบบดูด(หมายถึงแบบมีมอเตอร์ควบคุม)และแบบหัวฉีด ก็ต้องใช้คนเป็นคนตั้งค่าทั้งนั้น อาจจะแรงขึ้นหรืออืดลงก็อยู่ที่คนตั้ง แต่อย่างว่านะครับ ถ้าเขาตั้งเครื่องแรง รถมันจะวิ่งขึ้น อัตราเร่งดีขึ้น แต่กินน้ำมัน ส่วนถ้าตั้งอืด รถจะประหยัด แต่ว่าอัตราการเร่งไม่ดี เวลาแซงก็เอาเรื่องอยู่พอดู(อันนี้เจอมากับตัว)

การติดแก็สต้องติดเพราะว่าเราต้องการประหยัดจริงๆ ไม่ใช่ว่าติดตามเทรน เพราะว่าการติดแก็สจะทำให้ประกันต่างๆของเครื่องหมดไป ถ้าคุณวิ่งวันนึงเกิด100กมต่อวัน ติดไปก็คุ้มทุนที่ติดเร็ว แต่ถ้าวิ่งแล้ววันนึงไม่ถึง50โล ผมว่าน้ำมันน่าจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่าครับ

สำหรับข้อมูลที่ผมให้นี้ เกิดมาจากประสบการณ์ที่กว่าจะได้ใช้แก็ส(ถ้าคุณอ่านมาตั้งแต่แรก)ก็จะรู้ว่าเหนื่อยมากๆ แต่ว่าช่วงที่เหนื่อยก่อนจะใช้ได้ขนาดนี้ ผมก็ได้ความรู้มาพอสมควร ซึ่งเป็นประโยชน์แก่ตัวผมเองไม่น้อย แล้วก็สามารถเอามาแบ่งปันเพื่อนๆให้รู้เกี่ยวกับการติดแก็ส เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาหรือเกิดปัญหาแล้วหาทางแก้ได้ครับ  :D

แก๊ส ไม่มีอันตรายอะไรใช่ไหมครับ

จริงๆแล้วไม่ว่าจะเป็นแก็สหรือน้ำมัน ก็มีอันตรายๆเหมือนกันถ้ามันระเบิด ขึ้นอยู่กับการใช้งานและการดูแลรักษา เพื่อไม่ให้เกิดอันตราย ที่เกิดเรื่องระเบิดต่าง ถ้ามีการติดแก็สเมื่อไรก็จะเป็นข่าวทันที่ ทั้งๆที่จริงๆแล้วเกิดจากน้ำมันใช่ว่าจะไม่มี แต่ว่าไม่ค่อยได้เอาข่าวมาเปิดเผยก็เท่านั้น ทุกวันนี้ที่เราอยู่กันท้องถนน ก็อยู่ใกล้ระเบิดเวลาดีๆทุกๆวัน อะไรหรอครับ ก็รถแท็กซี่ไง ทำไมพวกนี้ถึงไม่ระเบิดละครับ ถ้ามีก็ตายกันหมดแน่ครับ แต่เท่าที่เคยคุยกับคนขับแท็กซึ่อยู่เรื่องนึงที่ว่าเป็นอันตรายก็คือ การรั่วของแก็สที่เข้ามาในตัวรถ ซึ่งรั่วออกมาตามข้อต่างๆ เวลาขับแอร์จะดูแก็สที่รั่วออกมาเข้าไปแล้วพ่นออกมาพร้อมความเย็นแล้วเราก็สูดเข้าไป เมื่อเวลานานๆเข้าก็ทำให้เกิดอันตรายกับร่างกายได้ แต่คุณต้องอย่าลืมนะครับว่านั้นคือรถแท็กซี่ ไม่ใช่รถบ้านอย่างเราๆ ทำไมหรอครับ ก็เพราะว่ารถบ้านอย่างเราๆติดแก็สด้วยระบบที่ดีกว่า ร้านที่มีชื่อเสียง ซึ่งร้านที่มีชื่อเสียงเขาจะไ :)ม่เอาชื่อเสียงที่เขาทำมา มาเสียงกับแค่เรื่องแค่นี้ ปีนึงอย่างน้อยๆก็ควรเอาเข้าไปเช็คข้อต่อต่างๆสักครั้งหรือสองครั้ง เพื่อเช็คดูว่าเกิดการรั่วต่างๆของแก็สหรือไม่ ซึ่งถ้าข้อต่อไม่รั่วก็จะไม่เกิดอันตราย รถแท็กซี่เขาวิ่งกัน24ชมไม่ได้พัก ถ้าพักก็จะทำให้เขาขาดรายได้ทันที จุดนี้ผมคิดว่าเมื่อไม่ได้พักก็จะทำให้ไม่ได้มีการเช็คข้อต่อต่างๆ เวลารั่วคนที่รับกรรมก็คือคนขับและผู้โดยสาร แต่อย่างรถบ้านเราขับไปทำงานแล้วก็กลับบ้าน มีการพักมากกว่าแท็กซี่เยอะ เมื่อไม่ค่อยได้ใช้งานเยอะข้อต่อต่างๆก็ไม่เสื่อมเร็วเหมือนแท็กซี่

ครับการติดแก็สก็เพื่อความประหยัด(เงินในกระเป๋าคุณ) คุณติดเร็วมาเท่าไรก็คุ้มทุนมากเท่านั้น แนวโน้มน้ำมันมีแต่ขึ้นไม่มีลง ก็ลองชั่งใจดูนะครับ  :)

ขอแนะนำหน่อยแล้วกันนะครับ เท่าที่อ่านข้อมูลของ Civic ตัวใหม่เนี่ย
บางคัน เครื่องยนต์อสจจะมีปัญหา ถ้าเป็นไปได้ควรขับน้ำมันไปก่อน
เพราะบางครั้งถ้ามีปัญหาจริง ๆ ศูนย์แก้ไขไม่ได้ เค้าอาจจะโทษว่าเป็นที่
ไปดัดแปลงติดแก๊สมาก็ได้ครับ (ขอเน้นนะครับว่าบางคัน และบางศูนย์ด้วย)

ใช่ครับ ตามที่ข้างบนนี้บอกเลยครับ  :)

วันนี้มาupdateกันนิดนึงนะครับ

พอดีช่วงสงการนต์ได้มีโอกาสเดินทางไปต่างจังหวัด โดยจุดหมายคือจังหวัดน่าน เติมแก็สเต็มถังในตอนแรก(แล้วยังมีการติดน้ำมันไว้สักหน่อยกันเต้นครับ) แล้วก็เดินทางทันที สำหรับช่วงทางตรงไม่มีปัญหา และสำหรับปั้มแก็สอันนี้ต้องขอบอกว่าไม่ต้องกังวล เดี๋ยวนีเปิดกันมากกว่าแต่ก่อนครับ แต่ปัญหามันเกิดขึ้นตอนขึ้นเขา ช่วงแรกๆก็ไม่มีปัญหาอะไร เนื่องจากรถยังไม่ค่อยเยอะ คราวนี้มีอยู่ช่วงนึงรถเยอะมาก ตามกันติดๆแล้วก็เป็นทางขึ้นเขาที่ชันพอสมควร ตอนแรกก็ไม่คิดอะไร บังเอิญเผลอไปมองที่เกย์วัดความร้อนเครื่อง กำเลยครับ ความร้อนขึ้นสูงมากเกือบสุด แรกวิ่งก็ไม่มี ตอนแรกก็ปิดแอร์เพื่อที่จะวิ่ง แต่ก็ไม่ลง ก็เลยเอะใจสลับไปใช้น้ำมันแล้ววิ่งดู พักเดียวเองครับ เกย์ความร้อนมันลงมาโดยไม่มีอะไรเกิดขึ้นทั้งๆที่ขับเปิดแอร์ด้วยซ้ำ แล้วหลังจากนั้นก็จอดพักรถเพื่อมาดูน้ำที่หม้อพัก ก็ไม่มีปัญหาน้ำยังคงอยู่ในระดับของมัน หลังจากพักก็เดินทางไปที่พระธาตุเพื่อที่จะไปขอพรแล้วก็พักอยู่อีกสองวัน ซึ่งช่วงสองวันนี้มีการสลับแก็สกับน้ำมันเป็นระยะเพื่อให้เครื่องไม่แห้งจนเกินไป มาถึงวันกลับช่วงแรกๆก็ไม่มีปัญหา เดินทางได้สะดวก พอมาถึงนครสวรรค์แค่นั้นแหละ รถติดมากเลยครับ มีอุบัติเหตุเป็นพักๆ ซึ่งแรกๆก็ไม่มีปัญหาอะไร ขับจนตะวันลับตา คราวนี้เริ่มมืด รถก็ยังคงติดอยู่ อยู่ดีๆผมก็เอะใจเรื่องความร้อนที่ขึ้นตอนขึ้นเขา ผมเลยมองไปดูที่เกย์ความร้อน มันขึ้นอีกแล้วครับ กำเลยทีเนี่ยะ ทำไงดีหว่า พอดีเจอปั้มผมเลยจอดสักพักแล้วลองวิ่งดูอีกที ก็หายครับ สงสัยผมคงต้องเช็คเรื่องน้ำดูโดยเฉพาะวาวล์น้ำตันหรือเปล่าแล้วจะมาเล่าให้ฟังอีกทีครับ

วันนี้มาแล้วครับ เรื่องความร้อนที่ผมเล่ามาก่อนหน้านี้ก็ทำพิษผมจนได้ บังเอิญวันนี้ผมไปหาลูกค้า นัดไปช่วง11โมง ก็ไปตามนัดปกติ ขณะที่จอดอยู่ก็นึกถึงความร้อนที่เกิดขึ้นเมื่อตอนไปต่างจังหวัด ก็เหลือบมองไปที่เกย์วัดความร้อนครับ กำ ความร้อนมันดันขึ้นครับ แต่ว่าขึ้นขนาดไหนลองดูรูปเอานะครับ

(http://i158.photobucket.com/albums/t93/anodite_studbar/DSCF0724copy.jpg)

หลังจากนั้นพอดีลูกค้ามาผมก็ดับเครื่องแล้วไปทำรถให้ลูกค้า เสร็จแล้วก็โทรไปหาอู่ประจำว่าความร้อนมันขึ้นมาก ไม่รู้ว่าเกี่ยวกับแก็สหรือเปล่า ร้านเขาบอกว่าไม่เกี่ยวแน่นอนแล้วเขาก็แจ้งมาว่าน่าจะเป็นที่วาวล์น้ำและควรเช็คพัดลมหน้าเครื่อง(มันมีสองตัว ตัวแรกเป็นพัดลมสำหรับเครื่อง อีกตัวเป็นพัดลมสำหรับแอร์) ซึ่งหลังจากนั้นผมก็ได้เดินทางไปที่ร้านเขา ซึ่งขณะที่ผมเดินทางไปก็สังเกตว่าความร้อนขึ้น ก็เริ่มสงสัยว่าเกิดจากแก็สหรือเปล่า ก็เลยสลับไปใช้น้ำมัน ซึ่งผลที่ออกมาก็คือเป็นเหมือนเดิม คราวนี้ผมลองปิดแอร์ดู ความร้อนลงครับ ตอนแรกก็ไม่เชื่อ คิดว่าไม่น่าจะเกี่ยวกัน ผมก็เลยลองดูอีกที เปิดแอร์วิ่ง ใช้สลับทั้งแก็สและน้ำมัน ปรากฎว่าความร้อนขึ้น แล้วก็ลองดูอีกทีปิดแอร์และวิ่งทั้งสองอย่างเหมือนตอนแรก ความร้อนลงครับ เมื่อไปถึงอู่เขาผมก็บอกอย่างที่เป็น เขาก็ให้ช่างเช็ค ซึ่งตัวแรกที่เจอคือพัดลมหน้าเครื่องเสียไปหนึงตัว

(http://i158.photobucket.com/albums/t93/anodite_studbar/DSCF0735copy.jpg)

แล้วก็วาวล์น้ำมันค้างเลยต้องเปลี่ยนเป็นตัวที่สอง(ตัวซ้ายคือตัวที่เสีย ตัวขวาคือตัวใหม่) ราคาวาวล์น้ำตัวนี้พร้อมเปลี่ยนอยู่ราคาราวๆ หกร้อยกว่าๆถึงเจ็ดร้อยกว่าๆ

(http://i158.photobucket.com/albums/t93/anodite_studbar/DSCF0728copy.jpg)

หลังจากนั้นก็เอาพัดลมใหม่มาเปลี่ยน(ราคาอยู่ประมาณสองพันกว่าบาทพร้อมค่าแรง) แล้วก็ตามมาด้วยวาวล์น้ำ มันอยู่ตรงไหน อยู่ตรงนี้ครับ (ใต้ท่อยาง)

(http://i158.photobucket.com/albums/t93/anodite_studbar/DSCF0726copy.jpg)

หลังจากนั้นช่างก็แกะเอาวาวล์(ที่เป็นสปริง)ออกมาแล้วเปลี่ยนตัวใหม่ โดยผมแจ้งให้ช่างเขายาซีลีโคลนสำหรับกันน้ำรั่วให้ด้วย

(http://i158.photobucket.com/albums/t93/anodite_studbar/DSCF0730copy.jpg)

ซึ่งหลังจากเปลี่ยนเสร็จก็ได้สตารท์ดู พัดลมทำงาน ก็เช็คความร้อนสักพักนึง ก็ไม่ขึ้นเหมือนตอนแรก

คราวนี้ก็นึกขึ้นได้ว่าน้ำมันพวงมาลัยพาวเวอร์นี้ใช้มาได้สักระยะแล้ว(เจ็ดหมื่นกว่าโล) ซึ่งช่างที่รู้จักกันเขาบอกว่าจริงๆแล้วสี่หมื่นโลก็ควรจะเปลี่ยน เพื่อที่จะให้น้ำมันมันลื่น ทำให้ระบบเกี่ยวกับพวงมาลัยไม่ต้องทำงานหนัก จะได้ถนอมตัวนี้ให้ใช้ได้นานๆ ผมก็เลยให้ช่างเขาทำการเปลี่ยนให้ด้วย (อยู่ที่ สามร้อยกว่าถึงสี่ร้อย แล้วแต่รุ่น)

(http://i158.photobucket.com/albums/t93/anodite_studbar/DSCF0739copy.jpg)

ซึ่งหลังจากที่เปลี่ยนเสร็จก็ลองหมุนพวงมาลัยดู เบากว่าเดิมมากเลยครับ มันลื่นแบบบอกไม่ถูก เหมือนตอนใหม่ๆเลยครับ

หลังจากทำอะไรเสร็จ ผมก็ขับรถไปหาลูกค้าต่อ ซึ่งผลที่ออกมาคือความร้อนไม่ขึ้น เป็นปกติเหมือนตอนแรกครับ ทั้งที่ขากลับรถติดกว่าตอนขาที่จะไปอู่เขาสักอีก หลังจากเสร็จก็ขับไปถึงบ้าน ผมก็สังเกตตลอด ความร้อนก็ไม่ขึ้น อยู่ในระดับไม่เกินครึ่ง

ครับอันนี้ผมต้องขอบอกเพื่อนๆนิดนึงเกี่ยวกับเรื่องความร้อน ถ้าเกิดว่ารถคุณความร้อนขึ้น(แบบเกย์ด้านบน) ให้คุณหาที่พักรถแล้วดับเครื่อง เปิดฝากระโปรงทิ้งไว้สักพักนึง อย่าฝืนวิ่งต่อ แต่ถ้าจำเป็นต้องไปหาอู่ ก็จอดไว้สักพัก แล้ววิ่งไปหาอู่ แล้วควรปิดแอร์ด้วย เพื่อทีเครื่องจะได้ไม่ฉุดกำลังจนเกินไป

อย่านิ่งนอนใจนะครับ ความร้อนนี้ถ้ามันสูงมาก(หรือฮีท) เครื่องพังคราวนี้แหละไม่ใช่แค่พันนะครับ มันจะเป็นหมื่นๆ แล้วเดี๋ยวหาว่าไม่มาบอกกันนะครับ  :D

ลืมไปสำหรับ New Civic 2007 ที่มีปัญหาว่าติดแก็สแล้วไม่จบ

ผมได้สอบถามกับช่างใหญ่แล้วว่าเคยติดรุ่นนี้หรือไม่ ซึ่งเขาบอกว่าเคยแล้ว แล้วผมก็ถามว่าจบ(ไม่มีปัญหา)หรือเปล่า ซึ่งเขาก็บอกว่าจบแน่นอน ซึ่งเท่าที่ผมถามระบบที่เขาใช้เป็นของAutronic และติดระบบแบบหัวฉีด

สำหรับใครที่สนใจก็ลองติดต่อไปที่ร้านนี้ได้เลยครับ

อย่างนึงนะครับ ก็อย่างที่เคยบอกไป ถ้าคิดจะประหยัด ก็ควรลงทุนสักนิด อย่าเห็นแก่ของถูก หรือว่าที่นั้นถูกกว่า แล้วคุณมานั่งแก้หลายๆหน ไม่คุ้มหรอกครับ ทำให้จบไปทีเดียวดีกว่า เวลาไม่ได้ว่าง รถต้องใช้ทุกวัน ติดแก็สไปจะให้ประหยัด แต่ดันมีปัญหา แค่คุณวิ่งเข้าวิ่งออกร้านเขาแค่นี้ก็กลุ้มไม่คุ้มกับเงินคุณแล้ว อย่าคิดมาก จะติดก็ติดเพราะว่าอยากประหยัด คุ้มกับเงินที่เสีย อย่าเสียเงินเสียเวลาอย่างที่ผมเคยเจอเลยครับกะผม  ;D

ขอขอบคุณ พี่anodite_studbar  มาตั้งกระทู้มาแชร์แลกเปลี่ยนความรู้กัน ผมอยากลงกราวด์ไวร์ แบบพี่มั่งค่าติดตั้ง อยู่ที่ประมาณกี่บาทครับ.???

อ่อแล้วผมเห็นด้วยอีก 1 อย่างครับติดแก๊สนี่ รถอยู่กับเรานานครับ อย่เห็นแก่ของถูกเลยครับ น่าจะรวบรวมเงินก้อนแล้วก็.....จบเลยดีกว่า จะได้ไม่มีปัญหาจุกจิกตามมา เก็บไอ้ค่าตรงนั้น ไว้ดูแลรักษารถเราดีกว่าครับ แล้วก็น่าจะหาอู่ที่มีไบมาตรฐานการติดตั้งจาก แก๊สไทยยานยนต์นะครับ จะเวิร์คมาก ผมเคยเห็นมา 2 ที่

1.ที่ เอส เอส ออโต้ เซอร์วิส อยู่แถวๆ ลาดกระบังครับ ร้านนี้ มาตรฐานติดตั้ง 4 ดาว

2.ร้านนี้ เป็นเต๊นท์ รถ อยู่บริเวณถนนรัตนาธิเบศร์ เยื้องๆ กันกับ ห้างโรบินสัน หรืออะไรสักอย่าง จะมีป้ายใหญ่ๆว่าติดแก๊สทุก ระบบร้านนี้มาตรฐานติดตั้ง 5 ดาวครับ  สำหรับใครที่อยู่ใกล้ๆ 2 ย่านนี้ลองปรึกษากับช่างทั้ง 2 ที่ดูนะครับ ขอคำแนะนำเขา จบแน่นอนครับ ราคาก็ตามท้องตลาดทั่วไปเลยครับไม่ได้สูงกว่าอย่างที่คิดไว้

ด้วยความยินดีครับ สำหรับGround Wireที่ผมติดตั้ง พอดีคนที่เขาติดตั้งไปบวช สึกประมาณเดือนพฤษภาคม(ช่วงกลางๆเดือน) ถ้าสนใจก็โทรไปหาเขาเดือนหน้านะครับที่ 081-9356955 ชื่อคุณเต้ (บอกเขาว่าคุณต้นแนะนำมาครับ)
แต่ผมเคยได้ยินคุณเต้พูดให้ฟังเกี่ยวกับNew Civicว่าเครื่องNew Civicติดตั้งค่อนข้างยาก เนื่องจากห้องเครื่องเล็ก แต่ถ้าจะถามว่าติดได้หรือไม่ เขาก็บอกว่าไม่ใช่ว่าไม่ได้ แต่อาจจะไม่เรียงเหมือนของ Dimension ยังไงลองโทรไปคุยกับเขาดูนะครับ ^_^

ของผมก็ติดมาแต่เป็นเเบบ NGVแบบหัวฉีด ราคาค่อนข้างแพง แรกก็เจอปัญหาเหมือนกัน คือเดินเบาดับ รอบไม่นิ่ง แต่ตอนนี้ก็หายแล้ว แต่ก็มีบ้างนานๆ ที ต้องให้ที่อู่จูนให้ ใช้มาประมาณ ปีเศษๆแล้ว ล่าสุดก็เพิ่งไปเปลี่ยนยางรองโช๊คใหม่ เนื่องจากเสื่อมสภาพ ส่วนอัตราเร่งก็ลดลง แต่ก็ยังเหยียบ 130-140 สบาย ๆ นอกจากขึ้นเขา ถ้านั่งเกิน 3 คนขอบอกว่า ไม่ไหว ต้องเปลี่ยนน้ำมัน เติมเต็ม 140 กว่า ๆ วิ่งได้เฉลี่ย ประมาณ220-240 กม. ถ้าเหยียบ 120 จะได้ 200 (เคยลองดู)  ก็ฝากเพื่อน ๆ ไว้ช่วยการตัดสินใจละกัน กับที่น้ำมันจะกลับไปแตะ30  :o :o :o

"ถ้านั่งเกิน 3 คนขอบอกว่า ไม่ไหว ต้องเปลี่ยนน้ำมัน" ครับปัญหานี้ผมก็เจอเหมือนกันครับ ก็คงต้องทำใจเหมือนกัน ได้อย่างต้องเสียอย่างครับ  :-[

วันนี้เพิ่มเติมนิดนึง เรื่องก็มีอยู่ว่าหลังๆนี้ล้อหลังซ้าย(เมื่อมองจากท้ายรถ)เวลาขับแล้วมีอาการเสียงดังเมื่อบดถนน(แม้ว่าจะใช้ลมไนโตรเจนก็ตาม) แล้วมีอยู่วันนึงเกิดอาการลำคาญหนักก็เลยให้ร้านยางที่รู้จักกันดู ปรากฎว่าเกิดอาการกินยางด้านในซ้าย ซึ่งจริงๆแล้วอาการนี้ไม่น่าจะเกิดขึ้น ผมก็ไม่ได้เอะใจอะไร จนกระทั้งหลังๆนี้เริ่มดังขึ้นมาก(เวลาใช้ความเร็ว) ผมก็เลยเอาไปให้ที่Shell Autosurf แถวบ้านดูแล้วแจ้งอาการให้เขา เขาบอกว่าควรจะตั้งศูนย์ใหม่(ศูนย์หลัง) ซึ่งผมเองก็คิดว่าไหนๆก็ไหนๆแล้วตั้งศูนย์หน้าพร้อมกันไปเลย แล้วเลยสลับเอายางในออกมาด้านนอก(ทั้งสี่ล้อ) หลังจากสลับเสร็จก็ถ่วงล้อแล้วก็ตั้งศูนย์ ซึ่งขณะที่ตั้งศูนย์ก็ถามไปด้วย ซึ่งศูนย์หน้าไม่ค่อยมีปัญหา แต่หลังเขาบอกผมว่าแคมเบอร์ล้อเปลี่ยนไปพอสมควร ซึ่งจริงๆแล้วไม่น่าจะเปลี่ยนขนาดนี้ ซึ่งเขาก็แจ้งผมมาว่าเนื่องจากผมโหลดรถทำให้อาการนี้เกิดขึ้นได้ แต่ผมบอกไปว่าผมไม่ได้โหลดแต่ที่ท้ายมันห้อยเกิดจากผมติดแก็สแล้วถังอยู่ด้านหลัง ซึ่งเขาก็บอกว่าเป็นไปได้ว่าน้ำหนักของถังประกอบกับปริมาณของแก็สที่เติม(ทุกครั้งจะเติมเต็มทุกครั้ง)แล้วก็ของที่อยู่ท้ายรถ(เป็นเครื่องมือต่างๆ)ทำให้ท้ายห้อย อาการท้ายห้อยเกิดจากโช้คอัพรับน้ำหนักถังแก็สอยู่ แล้วเมื่อโช้คอัพรับน้ำหนักมากกว่ามาตราฐานที่กำหนดไว้ของรถ ก็จะะมีผลกับแคมเบอร์ล้อเปลี่ยนด้วย ซึ่งเมื่อนานเข้ามันก็จะเปลี่ยน เมื่อเปลี่ยนก็จะเกิดอาการกินยางเกิดขึ้น แล้วผมก็ถามว่าผมใส่ค้ำล่างหลังนี้จะมีผลหรือไม่ เขาก็บอกว่าจริงๆแล้วเมื่อใส่ค้ำล่างหลังนี้จะไม่เปลี่ยนง่ายๆขนาดนี้เนื่องจากว่าบูททั้งสองข้างถูกล็อกไว้แน่นพอสมควรแล้วก็ยังบอกอีกว่าถ้าไม่ใส่ เผลออาจจะไปมากกว่านี้ แต่ว่าผลของน้ำหนักถัง ทำให้โช้คทรุดัว เมื่อทรุดลงไปช่วงล่างก็ทำงานหนักขึ้น โดยเฉพาะหลัง ก็เลยเกิดอาการนี้ขึ้น

สำหรับเพื่อนๆที่ติดแก็สแล้วควรมีการเช็คศูนย์ล้อหลังด้วยนะครับ ถ้าเป็นไปได้หกเดือนครั้งก็จะดี จะได้ไม่เกิดอาการแบบผม แล้วคนที่ติดแก็สไม่ควรโหลดรถ เพราะว่าจะทำให้เกิดปัญหาต่างๆ ไม่ใช่แค่ผมเจอเท่านั้น อาจจะมากกว่านี้ด้วยซ้ำ ซึ่งผมเองก็ไม่อยากให้เจออาการแบบนี้ สำหรับโช้คนี้ผมคงต้องทำอะไรสักอย่างนึกเพื่อไม่ให้มันทรุดตัวไปมากกว่านี้ ไว้ผมไปแก้อาการท้ายทรุดแล้ว จะมาเล่าให้เพื่อนๆฟังอีกนะครับ  :)

ถึงคุณ Adonine 
  ขอเรียนปรึกษาหน่อยครับ ปกติผมใช้รถประมาณ 50 - 60 กม. เสาร์ - อาทิตย์ วิ่งทางไกลบ้าง
ผมอยู่อยุธยา ตจว.ที่วิ่งประจำคือ อย.- กทม.- ราชบุรี ทางไกลที่ไปทุกปีในช่วงต้นเดือน พค.คือ
ตราด และจันทบุรี (พาเด็กๆไปเที่ยวนะครับ) บางครั้งก็ลงใต้ ไปสุราษฎร์ฯ หรือ กระบี่
ผมใช้ ES-05 ใช้มา 1 ปี 7 เดือน ระยะทางประมาณ 4 หมื่นกว่า จะเปลี่ยนมาใช้แก๊สบ้าง
ควรเลือก NGV หรือ LPG ดี  (ภรรยาผมอยากให้ใช้ NGV เธอบอกว่าเผื่อระยะยาว)
 :-[ :-[ :-[

จริงๆแล้วระหว่างNGVหรือLPGว่าอันไหนน่าติดกว่ากันนั้นเป็นเรื่องที่ตอบยาก เอาเป็นง่ายๆว่าถ้าเกิดว่าระยะทางที่คุณผ่านมีปั้มแก๊สระหว่างNGVและLPGว่าอันไหนมีมากกว่ากัน ถ้าทางที่คุณไปอันไหนมีมากกว่าก็ติดอันนั้นได้เลย(เช้คเส้นทางและปั้มแก็สได้ที่ www.gasthai.com ครับ) แต่ว่าการที่คุณติดแก็สไปจะทำให้ประกันเครื่องที่มีอยู่กับศูนย์อันนี้หมดทันที ซึ่งคุณต้องทำใจยอมรับให้ได้ก่อนที่จะติด แล้วก็ปัญหาต่างๆที่จะตามมาไม่ว่าจะเป็นเครื่องสะดุด อืด เบาดับ ในระยะแรกของการติด ซึ่งเมื่อติดแรกๆต้องมีการจูนเพื่อให้ได้ค่าที่เหมาะสมกับรถของคุณและสไตล์การขับของคุณด้วย อย่างนึงที่NGVไม่น่าติด(ในความคิดของผมนะ)คือเรื่องถังบรรจุ เวลาเติมแก็สจะเติมได้น้อยกว่าของLPG(เมื่อเทียบถังขนาดเท่ากัน) และถังก็หนักกว่า ซึ่งอันนี้ได้ยินมาจากคนรู้จัก และหลายๆคนที่เป็นแท็กซี่ที่ติดไป จริงๆนะครับผมของพูดตรงๆถ้าเกิดว่ามีงบ(ถ้าเทียบเท่าเอ็นจีวี) เอาESคุณไปติดเป็นระบบหัวฉีดแล้วใช้ถังใหญ่ขึ้นมาหน่อยเช่นมาตราฐานคือ55-58ลิตร อาจจจะเพิ่มเป็น 60-70 ลิตรได้ แต่ถ้ามากอาจจะทำให้โช้คทรุดได้(ของผมใช้58ยังทรุดเหมือนกัน) ครับนี่คงเป็นคำแนะนำนึงที่คุณลองเอาไปตัดสินใจดูครับ

ครับวันนี้มีข้อมูลเพิ่มเติมครับ เมื่อคราวก่อนผมได้พูดถึงเกี่ยวกับว่าโช้คอัพของผมทรุด ซึ่งเกิดมาจากน้ำหนักของถังแก็ส ซึ่งเวลาขับคนเดียวก็ไม่ค่อยมีปัญหา แต่ว่าตอนที่มีคนนั่งท้าย บางครั้งมีสัมภาระท้ายรถด้วยแล้ว ท้ายทรุดพอสมควร ซึ่งทำให้เวลามันทรุดตัวตอนวิ่ง จะทำให้กระแทกกันระหว่างล้อกับซุ้มด้านในของล้อหลังได้ ผมเองก็ไม่ค่อยสบายใจสักเท่าไร ต้องมาคอยระวังซึ่งมันก็ไม่ใช่เรื่อง ผมเองพอดีวันนี้ว่าง ก็เลยเอารถไปทำ ซึ่งร้านที่ผมเอาไปทำก็เป็นที่รู้จักของคนในคลับCivicดี คือ ร้านพรเทพโช้คอัพ โดยเจ้าของคือพี่ใหม่(คนเก่ง) ก่อนหน้าที่ผมจะเข้าไป ผมก็ได้โทรไปสอบถามก่อนว่ามีรถเยอะหรือไม่ เพราะว่าปกติแล้วร้านพี่เขางานค่อนข้างจะเยอะ สำหรับคนที่จะเข้าไปควรจะโทรไปเช็คก่อน จะได้ไม่เสียเวลาครับ ก็ไปถึงผมก็แจ้งพี่เขาว่าของผมทรุดอยากให้หนุนโช้คให้สูงขึ้นหน่อยเพื่อเวลาบรรทุกคนหรือสัมภาระจะได้ไม่กระแทก พี่ใหม่ก็ได้ให้ช่างจัดการให้โดยพี่เขาแนะนำว่าให้หนุนเป็นพลาสติกแข็งเพื่อที่เวลากระแทกจะได้ไม่มีเสียง(ถ้าหนุนด้วยสเปเซอร์อลูมิเนียม นอกจะแข็งแล้วจะทำให้เกิดเสียงเวลากระแทกครับ)คราวนี้ก็มาดูกัน

ความสูงเดิมก่อนที่จะทำ(ภาพอาจจะไม่ค่อยสวยสักเท่าไร พอดีเอากล้องมือถือถ่ายครับ ลืมเอากล้องดิจิตอลติดตัวไปครับ)

(http://i158.photobucket.com/albums/t93/anodite_studbar/15052007010copy.jpg)

หลังจากนั้นเขาก็ได้ยกรถเพื่อถอดโช้คออกมา

(http://i158.photobucket.com/albums/t93/anodite_studbar/15052007011copy.jpg)

อันนี้เป็นส่วนประกอบของโช้ค

(http://i158.photobucket.com/albums/t93/anodite_studbar/15052007012-2.jpg)

1. เป็นแกนโช้คพร้อมสปริง
2กับ3 เป็นเป้าพลาสติกที่หัวโช้ค

คราวนี้มาดูว่าลักษณะของตัวหนุนหัวโช้คเป็นอย่างไร

(http://i158.photobucket.com/albums/t93/anodite_studbar/15052007015copy.jpg)

จะสังเกตได้ว่าเป็นสีดำคล้ายๆยาง แต่จริงๆแล้วไม่ใช้ยาง แต่เป็นพลาสติกชนิดนึงซึ่งมีความแข็งกว่ายางพอสมควร

เขาก็จะเอามาใส่ตรงเป้าที่รูปก่อนหน้านี้ (เบอร์2)

(http://i158.photobucket.com/albums/t93/anodite_studbar/15052007014copy.jpg)

หลังจากนั้นเขาก็เอาเบอร์ 3 มาประกบกับเบอร์ 2 ที่แกนหัวโช้ค แล้วเขาก็จะเอาปล็อกลมล็อกที่หัวโช้คเพื่อที่จะให้สปริงและเป้าที่แกนหัวโช้คไม่หลุดออกจากกัน หลังจากนั้นเขาก็เอาโช้คไปใส่ที่รถตามเดิม (ใช้เวลาอยู่ประมาณชั่วโมงนิดๆ เร็วมากครับ ช่างเขาเก่งจริงๆครับ)
ซึ่งก่อนที่จะประกอบผมก็ได้ให้ช่างดูว่าโช้คมีอาการผิดปกติหรือไม่ เช่นรั่วเป็นต้น ซึ่งอาการรั่วไม่มีครับ มีแต่อาการนิ่มตามสแตนดาดของโช้คซึ่งช่างยังบอกว่าใช้ได้อยู่ครับ(ซึ่งรถผมใช้มาประมาณสามปีกว่าไม่เคยโมโช้คครับ)

คราวนี้ก็มาดูความสูงหลังหนุนหัวโช้ค

(http://i158.photobucket.com/albums/t93/anodite_studbar/15052007016copy.jpg)

จะสังเกตได้ว่าสูงกว่าเดิมมากพอสมควร ซึ่งทั้งพี่ใหม่และช่างของเขาก็บอกว่าใช้ไปอีกสักพักนึงก็จะเข้าที่(คือมันจะทรุดลงมาอีกนิดนึง น่าจะประมาณครึ่งนิ้วหรือหนึ่งนิ้วครับ) และอีกจุดนึงที่ผมสังเกตได้คือเรื่องล้อที่แบะออก ซึ่งตอนโช้คทรุดแบะออกพอสมควรจนสังเกตได้ ซึ่งหลังจากหนุนแล้วก็สังเกตได้ว่าล้อที่แบะออก หุบเข้าไปกว่าเดิม(ถึงแม้จะไม่มาก แต่ก็หุบเข้าเกือบจะเท่าล้อหน้าอย่างเห็นได้ชัด) หลังจากนั้นผมก็ได้กลับบ้าน ซึ่งกะว่าก่อนกลับผมจะเอาไปตั้งศูนย์หลังเพื่อที่จะได้ไม่เกิดอาการกินยางเกิดขึ้น ซึ่งขณะที่ขับกลับ ก็สังเกตได้ว่าหลังสูงขึ้นกว่าเดิม อาจจะกระด้างขึ้นเล็กน้อย หลังจากนั้นผมเองก็ได้เอาไปตั้งศูนย์(ที่ร้านประจำ) ซึ่งตอนแรกกะว่าจะตั้งแค่หลังอย่างเดียวก็พอ เพราะว่าก่อนหน้านี้ได้ตั้งด้านหน้าไปแล้ว แต่ว่าทางช่างที่รู้จักกันเขาบอกว่าควรที่จะตั้งทั้งหน้าและหลัง เพื่อที่จะได้ค่าที่เหมาะสมและที่สำคัญก่อนหน้านี้ผมตั้งไปเมื่อเร็วๆนี้เอง เขาเลยไม่คิดเงิน(แต่ผมก็มีทิปให้ช่างเขานิดหน่อยครับ)

(http://i158.photobucket.com/albums/t93/anodite_studbar/15052007017copy.jpg)

ซึ่งการตั้งค่านี้ใช้คอมพิวเตอร์เป็นตัวตั้ง และสังเกตได้ว่าหลังค่อนข้างที่จะเพี้ยนพอสมควร ดูจากค่าของตัวเลขที่เป็นสีแดง และค่าที่เป็นลบด้วย(ทั้งสองข้าง) แล้วช่างเขาก็จัดการตั้ง(ใช้เวลาพอสมควร)จนกระทั้งได้ค่าที่เหมาะสมทั้งหน้าและหลัง โดยค่าที่หน้าจอคอมฯทั้งหน้าและหลังนี้จะเป็นสีเขียวโดยมีเครื่องหมายบวกข้างหน้า ซึ่งนั้นก็หมายความว่าได้ค่าที่เหมาะสมแล้วครับ ก็หลังจากตั้งเสร็จ ก็กลับเข้าบ้าน ซึ่งระหว่างทางก็ได้ลองทดสอบดูเล็กน้อย ซึ่งช่วงล่างก็แน่นขึ้นทั้งหน้าและหลัง(กว่าก่อนตั้ง)

ครับสำหรับคนที่ใส่ถังแก็สแล้วห้อย จะเอาไปให้พี่ใหม่เขาทำ ร้านเขาอยู่แถวๆอุดมสุขก่อนถึงถนนศรีนครินทร์(บางนา) ก็โทรไปสอบถามพร้อมราคาทำได้ที่เบอร์ 081-723-0639 ครับ (สำหรับการแนะนำร้านนี้ผมไม่ได้มีส่วนได้หรือส่วนเสียอะไรกับร้าน เห็นว่าเป็นประโยชน์แก่เพื่อนๆที่สนใจเท่านั้นครับ)

เปลี่ยนไปเลยอย่าลังเล น้ำมันใกล้จะ 35 แล้ว (รัฐบาลบอกไม่เกิน)  เเค่ 30 ก็จะอ๊วกแว้ววววว

 ^
 ^
 ^
ผมคงไม่ต้องพูดอะไร นอกจากว่า ถะๆๆถูกต้องคร้าบบบบบบบบบ  ;)

พี่ผมรบกวนหน่อยครับแล้วหัวเทียนกี่ ก.ม. เปลี่ยนครับกรองอากาศด้วย
ขอบคุณร่วงหน้าครับ

มีอีกอย่างครับท้ายรถผมเวลาวิ่งมันส่ายๆยางก็ดังมากไม่รู้ว่าเป็นอาการเดียวกับพี่หรือป่าว
กล้มใจเหมือนกัน

จริงๆแล้วถ้าเป็นรถน้ำมันเขาจะเปลี่ยนหัวเทียนทุกๆ 40000 โล และกรองอากาศที่ 20000 โล

คราวนี้รถเราเป็นแก็ส เครื่องมันจะร้อนขึ้น พวกหัวเทียนอายุก็จะสั้นลง ควรจะเปลี่ยนที่ 20000 โล เพื่อว่าเวลาจูนเครื่องระบบไฟจะได้นิ่งไม่กระชากหรือสะอึกเวลาKickdown สำหรับกรองอากาศผมจะเปลี่ยนทุกๆหมื่นโล คือน้ำมันเครื่องผมใช้แบบสังเคราะห์ ทุกครั้งที่เปลี่ยนน้ำมันเครื่อง ผมจะเปลี่ยนกรองใหม่ทันที เพื่อที่จะให้อากาศที่จะเข้าเครื่องเข้าได้โล่งขึ้นโดยตัวกรองที่สะอาด(ของใหม่)จะกรองพวกฝุ่นต่างๆไม่ให้เข้าเครื่องครับ


ยางดังอันนี้ผมเองก็ไม่แน่ใจ อาจจะเป็นที่ยางก็ได้ว่าอาจจะหมดอายุของมัน หรือว่าอาจจะเป็นเพราะว่ารับน้ำหนักมากทำให้ยางทำงานหนักกว่าปกติ ก็ทำให้ยางเสื่อมเร็วได้ สำหรับพี่ใช้วิธีสลับหน้ายางใหม่หมดคือเอายางด้านในออกมาใช้ด้านนอกและถ่วงใหม่ทั้งหมดพร้อมตั้งศูนย์ใหม่หมด ตอนนี้เสียงก็หายแต่ก็ยังมีแต่ไม่มากเหมือนแต่ก่อน และอาจจะเป็นเพราะว่าพี่เอารถไปเสริมหัวโช้คทำให้ท้ายสูงขึ้นมาด้วย ทำให้ล้อไม่ทำงานหนักเหมือนตอนแรก อาการเสียงก็เลยลดลงไปครับ

ผมขอขอบคุณ อาจารย์anodite_studbar มากๆเลยครับ(ขออนุญาติเรียกอาจารย์นะครับตามความรู้สึก)

กระทู้นี้เป็นกระทู้ที่ให้ความรู้กับคนที่ไม่รู้ได้อย่างดีจริงๆ

แหม เรียกซะแก่เลยครับ จริงๆแล้วที่เปิดกระทู้นี้ก็เพื่อแชร์ความรู้ให้กับคนในคลับหรือคนที่ใช้รุ่นต่างของCivic เพื่อที่จะมาแชร์ความรู้กันเพื่อจะได้ไม่เกิดปัญหาแบบที่ผมเจอ กว่าที่ผมจะได้ความรู้มาฝากเพื่อนๆกันก็เล่นเอาเหนื่อยพอสมควร บางครั้งลองผิดลองถูก กว่าจะได้ก็เล่นเอาแย่ ก็ยังไงก็ยินดีที่จะเอาความรู้เกี่ยวกับแก็สที่เจอมาฝากเพื่อนๆให้ได้รู้กัน และถ้าเกิดว่ามีการUpdatedอะไรเกี่ยวกับแก็สแล้วเห็นว่าเป็นประโยชน์สุดๆ ผมจะเอามาฝากเพื่อนๆกันครับผม  :)

จากที่ผมได้อ่ามมา4หน้าแล้วผมขอถามว่า

1.ติดLPG แบบหัวฉีด ดีที่สุดใช่ป่าวครับ
2.แล้วเรื่องของยี่ห้อถัง,หม้อต้ม อันนี้ใช้ของอะไรดีที่สุดครับ
3.ถ้าติดแก๊สแล้วใช้ถังโดนัทดีรึป่าวครับ
4.Lamda มันคืออะไรครับ ติดแล้วมันดีกว่าไหมครับ
5.ติดแก๊สแล้วต้องทำโช๊คใหม่รึป่าว

ถามเยอะไปหน่อยนะครับ :-[ คือว่าผมกำลังเก็บข้อมูลเพื่อที่จะให้เกิดปัญหาน้อยที่สุดกับเครื่องอ่ะครับ
รบกวนหน่อยนะครับพี่ ขอบคุณครับ :D

1. จริงๆแล้วระบบหัวฉีดเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด การจูนค่อนข้างนิ่ง การจ่ายของแก็สค่อนข้างสม่ำเสมอเหมือนระบบน้ำมันแบบหัวฉีด แต่ก็ต้องได้ช่างที่ค่อนข้างมีฝีมือในการจูนเช่นเดียวกับระบบดูดครับ
2. สำหรับถังก็มีหลายๆยี่ห้อแล้วแต่ว่าจะใช้ยี่ห้ออะไรหรือขนาดเท่าไร(ซึ่งซีวิคถังน่าจะอยู่ราวๆไม่เกิน60ลิตร เพื่อจะได้ไม่หนักจนเกินไปครับ) สำหรับหม้อต้ม ถ้าเป็นแบบระบบดูด(Mixer)ยี่ห้อเดียวคือโทมาเซโต้เท่านั้น ถ้าเป็นหัวฉีดก็ใช้ระบบของAutronicครับ(เท่าที่จำได้ครับ)
3. จริงๆใส่ได้ก็ดีครับ จะเก็บของได้เหมือนเดิมแต่ว่าจะทำให้ยางอะไหล่ไม่มีทีเก็บ เวลายางแตกจะมีปัญหาได้ ถ้าไม่ได้คิดมากเรื่องพื้นที่ก็ติดแบบถังทั่วไปแล้วก็ตีตู้ปิดแค่นี้ก็สวยแล้วครับ แต่ว่าถ้าจะตีตู้เครื่องเสียงแบบเต็มท้ายรถ คงต้องใช้ถังแบบโดนัท แต่ว่าถังแบบโดนัทมีข้อจำกัดเรื่องการจุของแก็สและผมไม่แน่ใจว่าเดี๋ยวนี้เขาให้จดทะเบียนได้หรือยัง(อันหลังนี้ต้องไปศึกษาอีกทีครับ)
4. Lamda หรือ Stepping Motor คือพาวเวอร์ที่ทำงานด้วยระบบไฟฟ้า ปกติที่ใช้ระบบดูดเวลาเราจะจูนแก็สเข้าเครื่องเราต้องปรับหมุนด้วยมือ ซึ่งความเทียงตรงนั้นต้องใช้ความรู้สึกซึ่งบางครั้งก็มีปัญหาเรื่องไม่นิ่งทำให้เครื่องรวนได้ แต่ว่าถ้าเป็น Lamda เวลาจูนจะจูนโดยคอมฟิวเตอร์ โดยก่อนที่จะจูนเขาจะโหลดค่าตอนเป็นน้ำมันเข้าไปที่คอมพิวเตอร์ก่อน หลังจากนั้นเขาจะจดค่าไว้ แล้วเวลาเป็นแก็สเขาจะจูนให้ใกล้เคียงกับน้ำมัน ซึ่งตรงนี้สำคัญเพราะว่าถ้าจูนมากไปก็กินแก็ส จูนน้อยไปก็ไม่วิ่งหรือบางทีอาจจะBack Fireได้ และอีกอย่างนึงคือเวลาใช้วาวล์ธรรมดา มันจะทำงานตลอดเวลาไม่ว่ารถวิ่งหรือไม่วิ่ง แต่ถ้าเป็นLamda จะเปิดก็ต่อเมือวิ่งหรือเหยียบคันเร่งเท่านั้น และเมื่อต้องการเร่งแซงก็จะเปิดมากขึ้น ทำให้เวลาแซงไม่ต่างจากน้ำมัน ซึ่งวาวล์ธรรมดาจะเปิดมากขึ้นไม่ได้ ทำให้แซงไม่พ้น อืดบ้าง บางครั้งแก็สมาไม่พอทำให้ดับได้หรือสะอีกได้ครับ
5.ถ้าเดิมไม่มีปัญหาเรื่องการทรุดตัวก็ไม่จำเป็น แต่ว่าถ้าทรุดตัวมากกว่าเดิมก็ควรเสริมเพื่อที่เวลามีคนนั่งท้าย ท้ายจะได้ไม่ห้อย
คราวนี้จะรู้ได้ยังไงว่าทรุดลงไปเท่าไร ง่ายๆครับ ก็เอาตลับเมตรวัดไว้ก่อนที่จะติดแก็สว่ากี่นิ้ว หลังจากติดแก็สกี่นิ้ว แล้วใช้ไปทรุดลงไปกี่นิ้ว ถ้ามากก็เสริมหัวโช้ค ถ้าอยากให้แข็งหน่อย ก็อัดแก็สเป็นไนโตรเจน แค่นี้โช้คด้านท้ายก็ไม่ยวบแล้วครับ

ครับไม่มีปัญหา ก็ตอบได้เท่าที่ผมรู้และยินดีที่จะแชร์ความรู้ให้เพื่อนๆที่คิดจะติดได้ทราบกัน

ถ้าติดแล้วยังไงก็มาเลาให้ฟังกันบ้างนะครับ  :)

ขอบคุณมากครับพี่ ถ้าติดแล้วผมจะมาเล่าให้ฟังนะครับ
ลืมถามอีกข้อนึงครับ สายกราวด์ ที่พี่ติดมากี่บาทครับ :)

สำหรับGround Wire+Volt Stabilizerราคาอยู่ที่ 1,600 บาท(ราคาพร้อมติดตั้ง)
ติดต่อได้ที่ 081-935-6955 คุณเต้ ครับ

ผมแนะนำถังของmatalmate ครับ ผมใช้อยู่มีตัวตัดแก๊สอัตโนมัตและเป็นถังที่มีรอยต่อเชื่อมของถังแค่รอยเดียว
ผ่านการทดสอบมาหลายแบบทั้งปืนยิงไฟเผานั้งยางถังก็ไม่ระเบิดแต่มันจะพ่นแก็สออกมาจนหมดยังไงลองหาข้อมูลเพิ่มดูนะครับ

อ.anodite_studbarครับผมมีเรื่องมารบกวนอีกแล้วครับ
คือตอนนี้รถผมเวลาจอดติดไฟแดงเหมือนรอบเครื่องมันต่ำมากบางทีก็เกือบจะดับ
ทั้งที่เพิ่งจะตั้งรอบมาได้ไม่กี่เดือนคือก่อนหน้านี้เคยเป็นมาครั้งนึงช่างก็ตั้งรอบให้ก็หายพอวิ่งสักสองสามเดือนก็เป็นอีก
พี่พอจะรู้วิธีตั้งรอบไหมครับ  ตอนช่างเขาตั้งให้ก็ไม่ได้ดูว่าเขาตั้งตรงไหน
คือว่าไม่อยากเสียเวลาวิ่งไปที่อู่บ่อยๆเราน่าจะตั้งเองได้
ขอบคุณครับ :-[

ครับป๋ม


ครับ ผมเองก็ไม่ทราบว่าระบบที่คุณติดมาเป็นระบบดูด(Mixer)หรือระบบหัวฉีด(Injection)

ถ้าเป็นระบบดูดแบบพาวเวอร์วาวล์(ตัวปรับแก็สเข้าเครื่อง)เวลาตั้งต้องใช้ความชำนาญในการตั้ง ซึ่งอันนี้ถึงให้ตั้งดียังไงก็จะเป็นเหมือนเดิม อาการนี้ผมเคยเจอคือ ตั้งแล้วแรกๆเครื่องก็ไม่มีปัญหาอะไร แต่เมื่อใช้ไปหรือได้มีการเปลี่ยนน้ำมันเครื่องหรือทำอะไรเกี่ยวกับเครื่องเล็กน้อย ที่ช่างตั้งไว้ตอนแรกค่ามันจะหายทันที อาการที่จะเป็นต่อมาคือรอบสวิง ตั้งไว้สูงอยู่ดีๆก็ต่ำลงเฉยๆ บางครั้งจอดเฉยๆถึงกับดับไปทั้งๆที่ติดรถอยู่ ซึ่งบอกได้เลยว่าถ้าเครื่องเป็นระบบวีเทค ให้คุณตั้งดียังไง เครื่องก็จะกลับมาหาค่าเดิมของมัน ซึ่งค่าเดิมของมันไม่สัมพันธ์กับค่าของแก็ส ถ้าเป็นระบบนี้คงต้องให้ช่างเขาดู เราไม่สามารถจูนให้นิ่งได้ แต่ถ้าอยากจูนคงต้องหมุนดูว่าเครื่องนิ่งแค่ไหน แต่วิธีนี้ผมไม่แนะนำ ยังไงระบบนี้ก็ไม่เหมาะกับวีเทคแน่นอน

แต่ถ้าระบบดูดแล้วมีLamdaหรือStepping Motor(คือระบบพาวเวอร์วาวล์ปรับโดยคอมพิวเตอร์) เวลาจะตั้งค่าแก็ส เขาจะโหลดค่าเครื่องที่เป็นน้ำมันเข้าไปในNotebookก่อน แล้วสลับเป็นแก็ส แล้วหลังจากนั้นก็ปรับให้ใกล้เคียงกับน้ำมัน ซึ่งระบบนี้ถ้าเป็นวีเทคอาการที่บอกว่าเครื่องเบามาก เบาดับ หรือว่ารอบสวิงจะไม่เกิดขึ้นอีก แต่ก็ต้องอยู่ที่ช่างจูนด้วยนะครับ

ถ้าคุณติดระบบหัวฉีดมาอยู่แล้ว คงต้องให้ช่างเขาเช็คอีกทีเพราะว่าจริงๆแล้วระบบหัวฉีดนั้น เวลาจูนต้องใช้คอมฯในการทำ เพื่อให้ได้ค่าแน่นอน แต่บางครั้งช่างบางคนก็เอาไม่อยู่ ซึ่งเท่าที่ทราบมาก็เกี่ยวกับว่าการใช้หัวฉีดผิดเบอร์ หรือตั้งค่าไม่ดี ซึ่งซีวิคถ้าผมจะแนะนำให้ใช้ระบบหัวฉีดแบบจบคงต้องเป็นของAutronicจะเนียนกว่าและจบกว่า

ถ้าไม่อย่างงั้นคุณก็ไปร้านที่ผมไปติดมาให้เขาแก้ดู เพราะว่าซีวิครุ่นนี้เขาแก้จบมาหลายคันแล้ว ถึงจะราคาสูงหน่อยแต่ตัดปัญหากวนใจได้เยอะครับ

ขอบคุณมากครับ
ผมลืมบอกไปว่าผมเพิ่งไปถ่ายน้ำมันเครื่องกับน้ำมันเกียร์มาแล้วก็เป็นเลยรถผมเรื่องexiครับแก็สระบบดูด(Mixer)
ถ้าผมไปติดStepping Motorอาการนี้จะหายไปเลยใช่ใหมครับพี่ไปติดมาเท่าไหร่ครับ

กะแล้วว่าต้องทำอะไรเกี่ยวกับเครื่อง ก็เป็นอย่างที่ผมบอกไปจริงๆ เครื่องEXIระบบดูดรุ่นESนี้ต้องขอบอกว่าแม้ว่าจะไม่แรงเท่าวีเทค แต่ก็ใช้กล่องเป็นตัวควบคุมเช่นกัน ซึ่งถ้าจูนไม่ดีหรือเปลี่ยนน้ำมันเครื่องอย่างที่ผมได้กล่าวไว้ตอนแรกก็จะเกิดปัญหาได้(ถ้าเพื่อนๆเคยอ่านตั้งแต่แรกๆก็จะรู้ว่าผมเองก็เจอปัญหานี้) ถ้าติดStepping Motorก็จะช่วยได้เยอะครับ แต่ผมเพิ่มความรู้ให้อีกนิดนึง ไม่ใช่ว่าStepping Motorจะใช้ได้กับหม้อต้มแก็สทุกตัว บางตัวจูนไม่นิ่งก็เกิดจากหม้อต้มได้ แต่ลองเอาไปให้เขาใส่ดูจะช่วยได้เยอะขึ้นครับผม  :)

ขอบคุณอ.anodite_studbarอีกครั้งคับถ้าแก้ไขแล้วหายหรือไม่หายจะกลับมาบอกครับ :-X
หมอanodite_studbarฟันธง :-[

ครับยังไงก็มาเล่าความคืบหน้าให้ฟังกันบ้างนะครับ :)

วันนี้ไปตั้งรอบเครื่องมาช่างเขาบอกว่าถ้าเข้าไปยุ่งกับตัวเครื่องเมื่อใดมันก็จะเป็น
ก็เลยถามช่างเขาว่าถ้าจะเพิ่มStepping Motorจะช่วยให้อาการนี้หายไปหรือไม่
ช่างเขาบอกว่าไม่หายต้องเป็นแบบหัวฉีดถึงจะไม่เป็นผมก็เลยไม่ติดเพิ่มอาศัยพอเป็นทีก็จูนทีก็ได้(แย่จัง)
ค่าติดตั้งStepping Motor  3000บาท ก็เก็บไว้กินขนมดีกว่า :-\

ครับผม  :-[

วันนี้เพิ่มเติมข้อมูลที่เป็นประโยชน์หลายเรื่องอยู่พอสมควรครับ

ปกติก่อนหน้านี้หลายเดือนก็ไม่มีปัญหาในการขับขี่(หลังจากเปลี่ยนวาวล์น้ำไปแล้ว) พอดีสองสามวันที่ผ่านมาผ่านมารู้สึกว่ารถวูบๆเป็นบางครั้ง และวันนี้(ตอนบ่าย)ขับอยู่ดีๆรถก็ดับไปซะงั้น(ตอนความเร็วต่ำ) ผมก็สตาร์ทแล้วขับต่อ ช่วงที่ขับอยู่ผมก็นึกหลายๆอย่างว่าหลายเดือนนี้ก็ใช้รถไปเยอะเหมือนกันประกอบกับว่าน้ำมันเครื่องก็ใกล้ถึงอายุที่จะต้องเปลี่ยนแล้ว ประกอบกับว่าเดี๋ยวอีกไม่กี่วันนี้ต้องเดินทางไปต่างจังหวัดและอีกเรื่องนึงคือเรื่องหัวเทียน จำได้ว่าผมเคยเปลี่ยนตอนห้าหมื่นโลกว่า(ช่วงมาติดStepping Motor)

(http://i158.photobucket.com/albums/t93/anodite_studbar/DSCF1386copy.jpg)

ตอนนี้วิ่งไปเจ็ดหมื่นกว่าโลก็เลยกะว่าจะถือโอกาสเปลี่ยนทั้งชุดเลย

โดยคราวนี้เลือกน้ำมันเครื่องของ PTT Super Synthetic  0W-40 (เห็นเขาบอกว่าดีนักดีหนาก็เลยลองสักหน่อย)

(http://i158.photobucket.com/albums/t93/anodite_studbar/DSCF1363copy.jpg)

ก่อนอื่นก็คงต้องถ่ายน้ำมันเครื่องก่อน ให้สังเกตที่สีของน้ำมันเครื่องที่ออกมา ทั้งๆที่เป็นสังเคราะห์(และใช้เกือบๆจะครบระยะ เหลืออีกสักประมาณพันกว่าโล) สีออกมาค่อนข้างออกไปทางดำขุ่น ซึ่งผมจำได้ว่าตอนที่เติมไปน้ำมันเครื่อง(Shell Synthetic 5W-40)ตอนแรกสียังใสกว่านี้เยอะมาก เมื่อก่อนนี้ผมขับน้ำมัน ครบหมื่นโลผมก็ถ่าย สีที่ออกมารู้สึกว่าจะใสกว่านี้เยอะ ทำให้รู้เลยว่าเวลาเราใช้แก็สเป็นเชื้อเพลิงทำให้น้ำมันเครื่องเสื่อมคุณภาพเร็ว(คิดถูกแล้วที่เปลี่ยน และคิดถูกที่ใช้Synthetic ตั้งแต่เปลี่ยนจาก5,000 โลแรก)

(http://i158.photobucket.com/albums/t93/anodite_studbar/DSCF1360copy.jpg)

หลังจากนั้นช่างก็ถอดกรองน้ำมันเครื่องแล้วเปลียนตัวใหม่โดยเปลี่ยนแหวนตัวใหม่(ที่มากับกรอง)ด้วย หลังจากที่ถ่ายน้ำมันเก่าออกหมดก็ปิดจุกโดยเปลี่ยนแหวนรองตัวใหม่ด้วยครับ

หลังจากนั้นก็ถึงขึ้นตอนการเติมน้ำมันเครื่อง ให้สังเกตที่สีของน้ำมันเครื่องยี่ห้อนี้รุ่นนี้นะครับ สีที่ออกมาค่อนข้างใส่มาก(เดี๋ยวตอนหมื่นโลผมจะเอามาเปรียบเทียบให้ดูอีกทีว่าหลังจากใช้งานแล้ว สีของน้ำมันเครื่องตัวนี้ที่ใช้แล้วหมื่นโลเป็นยังไง)

(http://i158.photobucket.com/albums/t93/anodite_studbar/DSCF1362copy.jpg)

หลังจากเติมน้ำมันเครื่อง(ใหม่)เสร็จ(ซึ่งใช้พอดี4ลิตร) ผมก็ยังคงไม่ให้เขาสตาร์ท เพราะว่าต้องเปลี่ยนกรองอากาศใหม่กับหัวเทียนก่อน เวลาสตาร์ทเครื่องจะได้จำค่าใหม่ทั้งหมด เป็นผลดีครับ

ก็ให้ช่างเขาถอดออกแล้ว(บังเอิญมีค้ำโช้คก็เลยต้องยกขึ้นเพื่อที่จะใส่อันใหม่ลงไป)

(http://i158.photobucket.com/albums/t93/anodite_studbar/DSCF1364copy.jpg)

ซึ่งหลังจากนั้นช่างเขาอันเก่าออกมา แล้วผมก็เอาอันใหม่ให้เขาใส่ให้ทันที

(http://i158.photobucket.com/albums/t93/anodite_studbar/DSCF1365copy.jpg)

และนิดนึงสำหรับเรื่องกรองอากาศ ปกติเขาจะให้เปลี่ยนกันทุกๆสองหรือสามหมื่นโล(ถ้าจำไม่ผิด) แต่ว่าด้วยรถผมใช้แก็ส ทุกครั้งที่ผมเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง ผมจะเปลี่ยนกรองอากาศใหม่ทันที โดยไม่มีการเป่าแล้วเอากลับมาใช้ใหม่ ซึ่งกรองอากาศที่ใช้ผมจะใช้กรองผ้า ไม่ใช้กรองสแตนเลด เนื่องจากกรองผ้าจะกรองฝุ่นได้ดีกว่ากรองสแตนเลด สำหรับกรองอากาศตัวนี้ผมใช้ของเทียม ซึ่งราคาไม่เกิน250 บาท(ถ้าเป็นของแท้ก็หลายตังอยู่เหมือนกัน) ซึ่งรถแก็สนี้ผมต้องขอบอกว่าอากาศเป็นส่วนสำคัญมากสำหรับระบบดูด ถ้ากรองดีก็จะทำให้เครื่องไม่โทรมเร็ว แต่ถ้ากรองไม่ดี ฝุ่นลงไปได้ง่าย ปัญหาเครื่องฟังเร็วก็จะเกิดขึ้น

อันนี้เป็นกรองที่ใช้แล้ว(เกือบจะครบระยะ) จริงๆดูจากภาพแล้วเหมือนยังใหม่ แต่ถ้ามองใกล้ๆแล้วจะเห็นว่าฝุ่นเกาะผ้ากรองไว้หนาพอสมควร ถึงแม้ว่าจะเป่าฝุ่นออกก็ยังคงเหลือคราบฝุ่นไว้ที่กรอง ซึ่งผมเองก็คิดว่าถึงยังไงเปลี่ยนใหม่น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่าสำหรับรถแก็สครับ

(http://i158.photobucket.com/albums/t93/anodite_studbar/DSCF1367copy.jpg)

คราวนี้มาถึงเรื่องต่อไปก็คือเรื่องหัวเทียน คราวนี้หัวเทียนที่ผมให้เขาเปลี่ยนเป็นหัวเทียนของ NGK รุ่นแพลตินั่ม (สี่หัวราคาประมาณหกร้อยกว่าบาท) จริงๆแล้วกะว่าจะเอาอีเรเดียมใส่ลงไปซะเลย แต่ว่าด้วยความที่เป็นรถแก็ส มันจะเผาไหม้ได้เร็ว คิดว่าแค่นี้ก็น่าจะโอเค(แต่ว่าไว้ถ้ามีโอกาสคราวหน้าจะลองดูครับ)

(http://i158.photobucket.com/albums/t93/anodite_studbar/DSCF1371copy.jpg)

หัวรุ่นนี้เป็นแบบเข็มครับ

(http://i158.photobucket.com/albums/t93/anodite_studbar/DSCF1370copy.jpg)

หลังจากนั้นช่างก็รื้อฝาพร้อมหัวเทียนเก่าออกมาครับ

(http://i158.photobucket.com/albums/t93/anodite_studbar/DSCF1372copy.jpg)

หลังจากนั้นก็เอาตัวใหม่ใส่ลงไปแทนตัวเก่าทั้งสี่หัว(สำหรับคนที่อยากเปลี่ยนหัวเทียนเอง ให้ใช้ปล็อกไขหัวเทียนเบอร์16 ครับ)

(http://i158.photobucket.com/albums/t93/anodite_studbar/DSCF1374copy.jpg)

ช่างเขาประกอบไป ผมก็เลยเอาหัวเทียนเก่ามาดู

(http://i158.photobucket.com/albums/t93/anodite_studbar/DSCF1378copy.jpg)

เท่าที่ดูจากสภาพยังคงเผาไหม้ดี และไม่ใช้แค่หัวเดียวนะครับ เผาไหม้ดีทั้งสี่สูบเลยครับ

(http://i158.photobucket.com/albums/t93/anodite_studbar/DSCF1384copy.jpg)

ช่างเขาก็เดินมาดูเขาก็ถามผมว่ามีสลับไปใช้น้ำมันบางครั้งใช้ไหม ผมก็บอกว่าใช้แล้วถามว่าเขารู้ได้ยังไง เขาก็ให้ข้อมูลที่น่าสนใจตรงนี้ว่า ดูจากสภาพหัวเทียน(ของผม)แล้วไม่ดำเหมือนรถที่ใช้แก็สเพียวๆ ถ้าเป็นพวกนั้นสีจะดำและไหม้กว่านี้เยอะมาก และข้อสำคัญคือสีของการไหม้นี้ยังบ่งบอกถึงสภาพของเครื่องด้วยว่ายังคงสมบูรณ์ ไม่มีอาการหลวมในเครื่อง ซึ่งอันนี้ผมได้จากการที่บางครั้งผมไปธุระหรือว่าบางครั้งที่ว่างๆ ผมจะสตาร์ทน้ำมันเลี้ยงไว้ เพื่อให้วาวล์ไม่แห้ง(ซึ่งทำมาตั้งแต่ตอนแรกๆที่เคยโพสไว้) ซึ่งผลที่ได้วันนี้ก็เป็นที่น่าพอใจว่าเครี่องเรายังสภาพดีอยู่ครับ

หลังจากที่เปลี่ยนครบทุกอย่าง ผมก็เอากุญแจให้ช่างเขาสตาร์ทเพื่อจะดูว่าเป็นยังไงบ้าง ผลที่ออกมาคือเครื่องนิ่งมาก(กว่าตอนแรก) เงียบขึ้นมาก แม้แต่ช่างเองยังออกปากเลยครับว่าเงียบขึ้น ซึ่งผมเองก็ยืนดูแล้วสังเกตจากการสั่นของเครื่อง นิ่งอย่างที่ช่างบอกจริงๆครับ

พอดีหลังจากเปลี่ยนก็มีไปธุระนิดหน่อย มีโอกาสได้ขึ้นทางด่วน(ช่วงสั้นๆ แต่ทางโล่ง) ก็เลยลองอัดดู รู้สึกว่าขึ้นเร็วดี ทันใจ ที่สำคัญที่รู้สึกได้คือเครื่องลื่นมากครับ บางทีอะไรที่เราคิดว่าเล็กๆน้อยๆไม่สำคัญ แต่ว่าเมื่อทำมาแล้วก็รู้สึกดีครับ

สำหรับผลการใช้งาน โดยเฉพาะทางไกลที่กำลังจะไปอีกไม่กี่วันนี้หลังจากที่เปลี่ยนไปแล้วว่าอัตราการวิ่งและกินเป็นยังไง จะเอามาฝากกันอีกทีครับ  :)

ถ้าดีจะลองเปลี่ยนมาใช้บ้าง
แต่ที่ผมเคยอ่านในหนังสือgasเขาบอกว่ารถที่ใช้แก๊สนำมันเครื่องจะไม่ค่อยดำเพราะการเผาใหม้หมดจดกว่าไม่รู้ว่าจริงหรือป่าว
ผมก็เพิ่งเปลี่ยนมาเหมือนกันแต่ใช้เป็นกึ่งสังเคราะ(พอดีญาติทำอยู่hondaเขาเอามาให้ใช้free)ก็เลยต้องใช้ไปก่อน กรองอากาศก็ใช้ของเทียม(เพราะเปลี่ยนบ่อยจ่ายไม่ใหว)หัวเทียนก็ใช้แบบธรรมดาหัวละ80บาท
พี่ช่วยดูหน่อยครับระยะการเปลี่ยนของผม ok ใหมครับ
น้ำมัน ทุก 5000โล
หัวเทียน  10000โล
กรองอากาศ 10000โล
พี่ครับแล้วน้ำมันเฟืองเกียร์กี่โลถ่ายทีอะครับ
ขอบคุณครับ อ.

ดีแล้วครับ ยิ่งเปลี่ยนเร็วมากเท่าไร ก็จะทำให้เครื่องโทรมช้าลงมากเท่านั้น สำหรับรื่องน้ำมันเครื่องไม่ค่อยดำเมื่อใช้แก็ส อันนี้ผมไม่ทราบนะครับ เพราะว่าก่อนหน้าที่ผมจะใช้แก็สก็ใช้Syntheticมาตั้งแต่ป้ายแดง ครบทุกๆหมื่นโลผมจะต้องถ่ายออก สีของน้ำมันเครื่องที่ออกมาไม่ดำเท่ากับตอนที่เป็นแก็ส เอาไว้ตอนครบหมื่นโลต่อไปลองเทียบสี่น้ำมันว่าก่อนเปลี่ยนแล้วหลังเปลี่ยนเป็นยังไง แค่นี้ก็จะทราบแล้วครับว่าดำจริงหรือเปล่า สำหรับระยะการเปลี่ยนทุกอย่างโอเคหมดครับ จริงๆแล้วหัวเทียนน่าจะสองหมื่นโลเปลี่ยนก็ยังได้นะครับ แต่ถ้ามีงบก็จัดไป และเป็นผลดีกับระบบไฟเครื่องด้วยนะครับ สำหรับน้ำมันเกียร์จริงๆถ้าถ่ายได้ทุกๆสามหมื่นโลก็จะดีมาก จะทำให้ความสึกหรอของเกียร์น้อยลงและทำให้การเข้าเกียร์ลื่นขึ้นครับป๋ม  :)

ขอบคุณสำหรับคำแนะนำครับ

เมื่อก่อนใช้ volvo 940 GLT  ของป๊ะป๋า ครับแล้วมันรับประทานน้ำมันมากไปหน่อยเลย เอาไปติดก๊าซ ระบบหัวฉีด ประมาณ 31,xxx บาท แถวๆบางใหญ่ ตรงข้ามกลับโชว์รูมนิสสันเจ้าของชื่อช่างเปี๊ยก ติดมาตั้งแต่ พ.ค. 06  ถึงทุกวันนี้  ก็ไม่มีปัญหาอาไรเลย  อาจจะเป็นที่ระบบหัวฉีดมีกล่องควบคุมแล้วจูนด้วย โน๊ตบุค เวลาจ่ายก๊าซมันจะจ่ายตามรอบเครื่องถ้ากดมากก็จ่ายมาก  กดน้อยก็จ่ายน้อย  แล้วเคยลองกดไปประมณ 220 มันก็ไปได้นะ ไม่มีสะดุด รู้สึกดีกว่าน้ำมันอีก

แต่ตอนนี้พึ่งซื้อ ES ต่อมาจากน้าเลยเอา volvo คืนป๋าไปแล้ว  เด๋วรอน้ำมันขึ้นประมาณ 31 บาทก่อน ติดLPG แน่ๆๆ

**แนะนำถ้าพี่ๆจาติดเอาเป็นระบบหัวฉีดดีกว่า  อาจจะแพงแต่ระยะยาวมันคุ้มกว่าลงทุนครั้งเดียวจบ**

เมื่อหลายปีก่อนตอนที่ผมใช้ 940 จำได้ว่าประมาณปี 95-96  น้ำมันตอนนั้นลิตรละเก้าบาทกว่าถึงสิบบาท แล้วหลังจากนั้นอีกสักพักนึงราคาน้ำมันปล่อยลอยตัวเป็นลิตรละสิบหกบาทกว่า และประกอบกับแอร์เสียบ่อย,อะไหล่แพง,การติดแก็สยังไม่เหมือนตอนนี้ ผมก็เลยตัดสินใจขายไป(แบบว่าราคาหายทีเป็นล้านเลยครับ) ทั้งๆทีตัวบอดี้รถกับช่วงล่างอะไหล่ต่างๆยังคงสภาพดีมากๆ ถ้าเกิดว่าวันนี้ยังคงใช้อยู่ ผมคงเอาไปติดแก็สเหมือนกัน แต่ว่าถ้าใช้อยู่คงไม่ได้ใช้ESคันนี้แน่ ซึ่งผมขอบอกจริงๆว่าก่อนหน้าที่ใช้Volvo ผมใช้ Honda City มาก่อน ซึ่งยอมรับว่าเป็นอะไรที่ผูกพันกับฮอนด้ามานานมาก(ตั้งแต่ฮอนด้าเปิดตัวใหม่ๆในเมืองไทย) มาวันนี้ผมเลือกESคันนี้ ขอบอกเลยว่าใช้มาไม่เคยจุกจิก ไม่มีปัญหา คันนี้ทำเงินให้ผมอย่างที่ไม่คาดคิด มามีปัญหาตอนติดแก็ส ซึ่งแก้จบก็สบายใจไม่มีปัญหาอะไร ซึ่งถ้าเกิดว่าจะเปลี่ยนรถอีก คงเล่นฮอนด้าต่อไปตราบเท่าที่กำลังทรัพย์พอจะสู้ไหวครับ

สำหรับเรื่องระบบที่จะติด ก็คงอยู่ที่กำลังทรัพย์แต่ละคนว่าเหมาะกับแบบไหน แต่อย่างที่เคยพูดไว้และที่commentข้างบนได้บอกไปคือถ้าติดได้ ก็น่าจะติดระบบหัวฉีดไปเลย ตอนนี้ราคาน้ำมันก็สามสิบแล้ว(ไม่รวมถึงแก็สโซฮอล)และแนวโน้มน่าจะเข้าใกล้35-40เข้าไปทุกที คุณติดช้ามากเท่าไร ก็จะคุ้มช้ามากเท่านั้น ติดระบบไหนก็ได้ ขอให้ติดร้านที่เก่งและมีความรับผิดชอบงานที่ติดไปและบริการหลังการขาย คุณจะได้ไม่ต้องมานั่งบวดหัวอย่างที่ผมเคยเจอครับ  :)

วันนี้เพิ่มเติมข้อมูลการใช้งานนิดนึงนะครับ

หลังจากที่ได้เปลี่ยนน้ำมันเครื่องไปก็ได้มีการจับกิโลในเมืองดู  ซึ่งผลที่ได้คือ 1.31 บาทต่อโล(กิโลเมตรประมาณสองร้อยกว่าโล พอดีจดไว้แล้วหายครับ) และหลังจากเปลี่ยนก็ได้มีการวิ่งไปหาลูกค้าและที่ต่างๆ ไม่ว่าจะขึ้นสะพาน แซง เร่ง ซึ่งผลที่ได้คือลื่นกว่าเดิมมา ขึ้นเนินหรือสะพานสูงไม่อืดเหมือนตอนแรก(ซึ่งน้ำมันเครื่องใกล้หมดอายุแล้ว)

และเมื่อวันเสาร์พอดีมีโอกาสเดินทางไปต่างจังหวัด ต้นทางคือกรุงเทพ ปลายทางคือขอนแก่น ไปกลับอยู่ที่ 894.8 โล แก็สเติมไปทั้งหมด 1135.26 บาท ซึ่งผลที่ได้คือ 1.27 บาทต่อโล บางคนอาจจะดูว่าทำไมห่างจากเมืองไม่เยอะ จริงๆแล้วน่าจะห่างกว่ากันหรือเหลือที่โลละบาท แต่ด้วยคราวนี้ไปกันทั้งหมดห้าคน แต่ละคนน้ำหนักก็พอสมควร(บางคนก็เกิน80 มีผมเบาที่สุดคนเดียว) ซึ่งยังไม่รวมของเต็มท้ายรถอีก และความเร็วที่กดได้คือ 120-150 กม/ชั่วโมง ซึ่งเร่งแซงตลอดทาง ครั้งนี้ต้องยอมรับว่าประหยัดน้อยกว่าก่อนหน้านี้ แต่ว่าด้วยความลื่นของเครื่องประกอบกับคนเยอะและกดแซงได้ดั่งใจ ก็เลยไม่ค่อยมีปัญหาสักเท่าไร และก็ด้วยคันนี้มีค้ำโช้คถึงห้าตัวและล้อ17นิ้ว ก็ทำให้รถวิ่งนิ่งขึ้นแต่ก็ทำให้กินแก็สเยอะขึ้น ถ้าเป็นรถสแตนดาดล้อสิบห้าเดิมๆไม่ได้แต่งอะไร ผลที่ได้น่าจะประหยัดกว่านี้อีกสักหน่อย แต่สำหรับผมแค่นี้ผมก็พอใจแล้วครับ ถ้าเทียบกับคัน4WDที่บ้านอีกคันนึงเป็นดีเซลไปกลับระยะทางเท่ากัน กินน้ำมันอยู่ที่ 3,800 บาท(ถ้าคิดต่อโลด้วยการใช้ความเร็วเท่าคันนี้และระยะทางที่เท่ากัน ก็จะตกอยู่ที่ 4.25 บาทต่อโล)ซึ่งก็เป็นค่าใช้จ่ายที่สูงพอสมควร(และคิดน้ำมันที่27บาท แล้วลองคิดดูว่าถ้า30บาทต่อลิตรอะไรจะเกิดขึ้นในระยะที่เท่ากัน)

ครับนี่ก็เป็นผลที่ได้ก็เลยเอามาฝากกัน ซึ่งถ้าใครมีโอกาสได้เดินทางไกล ก็ลองจับกิโลดูว่าเป็นยังไงบ้าง ถ้าได้ยังไงก็มาเล่าสู่กันฟังบ้างนะครับ  :)

ขอคำแนะนำหน่อยครับ อยากจะติดมั่งแล้ว สนใจเป็น ngv หัวฉีดครับ fd 1.8 E ครับ ร้านที่ไหนงานติดดีๆ ช่างเก่งๆ มั่งครับ ไม่โกงด้วยเพราะไม่ค่อยจะมีความรู้ด้านนี้มากนัก อยากติดมากๆ ตอนนี้เพราะเสียดายค่าน้ำมันครับ

สำหรับ NGV อันนี้ผมไม่แน่ใจ เพราะว่าร้านที่ผมไปติดเขาเป็นแบบ LPG ซึ่งถ้าเป็น LPG ร้านที่ผมติดนี้รับรองงานได้ว่าจบจริง และเท่าที่ถามๆคนที่เคยแนะนำไปก็ไม่มีปัญหาหลังการติดนะครับ สำหรับราคาคงต้องคุยกันอีกที ถ้าจะให้ชัวร์สำหรับ NGV อาจจะต้องเข้าไปศึกษาใน www.gasthai.com ดูนะครับ

ที่เลือก ngv แถวบ้านปั้มเพียบ และโปรผ่อน 0 %
ไงก็ขอบคุณครับ จะเข้าไปศึกษาดู

ของผม EK เครื่อง D16Y8  ติดหัวฉีด autronic ใช้หัวฉีดเบอร์ jet18 ก่อนติดรถวิ่งมาแล้ว 270000 กม. ความสิ้นเปลืองน้ำมันเดินทางไกลประมาณ12- 13 กม.ลิตร ส่วนแก้สประมาณ 11 กม.ลิตร ใช้ถังแกสขนาด 64 ลิตรของ metalmate เติมแก้สเต็มได้ 58 ลิตร(ถังตัด) วิ่งได้ 600 กม.กว่าๆ ปัญหาอย่างอื่นยังไม่พบ   แต่ตอนนี้กำลังแก้ไขแท่นยึดถังแก้สใหม่เพราะจะเปลี่ยนลำโพงเครื่องเสียงดันไปติดถังแก้สพอดี

เทคนิคที่แนะนำ ก่อนทำการติดตั้งต้องปรับแต่งระบบน้ำมันให้เป็นปรกติดีเสียก่อน ถ้าระบบน้ำมันเดิมมีปัณหามาแก้ที่แก้สก็จะไม่จบโดยเฉพาะระบบหัวฉีด จะพากันรวนไปทั้งหมด ผมลงทุนซื้อรุ่นนี้มาติดแก้สใช้ เพราะเห็นว่าประหยัดดีครับบอดี้ก็ยังไม่ล้าสมัยราคารถก็ไม่แพงยังรับได้ครับ

ขอบคุณมากเลยครับ เพราะรุ่นEKตัวนี้เท่าที่ทราบยังไม่เคยมีใครติดเป็นระบบหัวฉีดเลย ซึ่งคันนี้เป็นคันแรกจริงๆ และสิ่งนึงที่น่าสนใจและเป็นประโยชน์จริงๆสำหรับรุ่นนี้(และรุ่นอื่นๆ)คือ

ก่อนทำการติดตั้งต้องปรับแต่งระบบน้ำมันให้เป็นปรกติดีเสียก่อน ถ้าระบบน้ำมันเดิมมีปัณหามาแก้ที่แก้สก็จะไม่จบโดยเฉพาะระบบหัวฉีด จะพากันรวนไปทั้งหมด  

ซึ่งประโยคนี้เป็นประโยคสำคัญอย่างยิ่งที่จะทำให้เวลาติดแก็สไปแล้วจะได้ไม่มีปัญหาในอนาคตครับ  :)

สู้ค่าน้ำมันไม่ไหว ES01 EXI เลยไปติดมาแล้วครับ LPG ติดหัวฉีด autronic ใช้หัวฉีดเบอร์ jet18
งานติดตั้งโดยรวม โอเค ดีครับ งานเรียบร้อยดี ในระดับที่รับได้
วิ่งไม่ต่างจากน้ำมันเลย (ไม่รู้คิดไปเองอะป่าว ผมว่าวิ่งดีกว่าน้ำมันอีก)
แต่ตอนที่เปลี่ยนจากแก๊สเป็นน้ำมัน(ที่รอบเดินเบา+จอด) ปกติรอบเครื่องอยู่ 750
แต่ช่วงเปลี่ยน รอบตกเป็น 550-600 ประมาณซัก 10-20 วินาทีได้
ใครใช้อยู่ ช่วยตอบหน่อย ว่าปกติคุณเป็นอะป่าว
ขอบคุณครับ
 :D

ผมก็ติดมาแล้วครับ  ;)
ตอนนี้วิ่งกิโลละ 1 บาทครับ ขับความเร็วระหว่าง 100-140Km/H
วิ่งมาจะหมื่นโลแล้วครับ ไม่มีปัญหาอะไร
ผมใช้ตาโตครับเครื่อง1.8
ติดระบบดูดพร้อมแลมด้า
ไม่มีอาการสะอึกเลยครับ

ต้องไปเพิ่มlamdaบ้างแล้ว :-[

Civic ES'04 ติด Autronic Jet 15 ติดที่ Highway Motor Car by Yooth Copter
อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเดิม วิ่งระยะทางไกล 12-13 กม/ลิตร กม ละ 2.15 บาท
อัตราสิ้นเปลืองแก๊ส วิ่งระยะทางไกลเช่นกัน 9-10 กม/ลิตร กม ละ 1.03 บาท
หมายเหตุ : ยังไม่ได้จูน ใช้ค่ามาตรฐานโรงงานอยู่
รอบเดินเบาอยู่ที่ 400-550
หวังว่า ถ้าจูนแล้ว อัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงและรอบเดินเบาคงดีขึ้น
อัตราเร่งปกติ เหมือนน้ำมันทุกประการ ตามที่ทางร้านบอกก่อนติดตั้ง

ปล. ถ้าจูนแล้วจะมารายงานอีกครั้ง

ไม่ได้เข้ามาหลายวันก็มีเพื่อนๆ Updated หลายๆคนที่ติดแก็สไปแล้ว ต้องขอขอบคุณมากนะครับที่มาแชร์ข้อมูลตรงนี้ อย่างๆน้อยๆก็เป็นประโยชน์สำหรับคนที่สนใจติดแก็ส อย่างน้อยๆจะได้ไม่คิดโง่ๆอย่างผมที่ไปเห็นแก่ของถูกแล้วต้องมานั่งแก้แล้วแก้อีกจนเกือบจะเป็นโรคเครียดครับ นี่ดีที่เจอร้านที่มีฝีมือก่อน ไม่งั้นไม่ถอดแก็สออก ก็คงขายรถทิ้งไปเล่นรถเล็ก เพราะว่ารถเล็กประหยัดกว่า แต่ก็ดีใจที่ติดแล้วทุกวันนี้ค่อนข้างโอเค(มากๆครับ) เท่าที่คำนวนมา เอาเฉพาะถึงตอนแก้งาน ตอนนี้ติดแก็สคุ้มทุนไปแล้วครับ หลังจากนี้ไปคงเป็นกำไรใช้แล้วครับ ท่านใดสนใจติดก็อย่าช้าครับ แนวโน้มน้ำมันก็จะมีแต่ขึ้น ยิ่งช้ามากเท่าไร ก็จะยิ่งทำให้คุ้มทุนช้ามากเท่านั้นครับ

ถึงคุณ ES01 328
ที่คุณบอกว่า "แต่ช่วงเปลี่ยน รอบตกเป็น 550-600 ประมาณซัก 10-20 วินาทีได้ " ระบบที่คุณติดไปเป็นระบบ "ติดหัวฉีด autronic ใช้หัวฉีดเบอร์ jet18 "  ผมว่าน่าจะลองเช็คอยู่สองอย่างนะครับ อย่างแรกคงเป็นเรื่องการจูน เพราะว่าเรื่องรอบตกตรงนี้เท่าที่จำได้ว่าระบบนี้นิ่งมาก รอบไม่ต่ำขนาดนี้ครับ และอีกเรื่องคงเป็นเรื่องเบอร์ของหัวฉีด จำได้ว่าไม่ใช่เบอร์นี้ แต่อันนี้ผมก็ยังไม่แน่ใจ แต่จำได้ว่าไม่ใช้เบอร์นี้แน่นอน น่าจะเป็นเบอร์15 หรือ 20 อะไรประมาณนี้ แต่ก็ยังไม่confirmครับ ลองจูนดูก่อนแล้วกันนะครับผม

ถึงคุณ nanmaster
ก็เป็นข้อมูลดีๆสำหรับรุ่นตาโต และที่สำคัญจะได้รู้ว่ารุ่นนี้ติดLamda(Stepping Motor) แล้วติดได้ไม่มีปัญหา เครื่องนิ่งกว่าติดแบบมือจูนครับ

ถึงคุณ hodo_ebola
ติดไปเถอะครับ อย่าไปประหยัดเลย บางทีเราซื้ออะไรยังมากกว่านี้ตั้งเยอะ แค่นี้ผมว่าไม่แพงหรือครับ แต่ที่สำคัญไม่ใช่ที่ตัวของ แต่เป็นที่ร้านที่เขาจูนหลังจากใส่ Stepping Motor ว่าเขาจูนเก่งขนาดไหน แต่อย่างน้อยๆก็ดีกว่ามือจูนแน่นอนครับ
ผมขอConfirm

ถึงคุณ Black Hole
ร้านที่คุณไปติด ผมคงไม่ต้องพูดอะไรอีกแล้วเพราะว่าเขาเก่งเรื่องของฮอนด้าอยู่แล้ว และโดยเฉพาะES ติดแล้วจบเกือบทุกคัน งานรับผิดชอบดี ชื่อเสียงเขาก็ดีเช่นกัน

เท่าที่ผมอ่านจากค่าที่คุณได้ เป็นค่าที่ยังไม่ได้จูน เอาค่ามาตรฐานโรงงานมาใช้ แต่ถ้าได้จูนไปสักนิดนึง จากในเมือง  กม ละ 2.15 บาท จะเหลืออยู่ที่ 1.10-1.30 บาท และต่างจังหวัด จาก  กม ละ 1.03 บาท น่าจะเหลืออยู่ที่ไม่เกิน 0.80-0.90 บาท(ค่าที่ผมบอกไปนี้ เป็นค่าที่ได้จากรถที่เดิมๆ ล้อเดิมๆ ไม่ได้โหลด Standardจากโรงงานครับ) แต่ว่าถ้ามีการเปลี่ยนล้อจาก 15 เป็น 17  ,มีการโหลด หรือมีการใส่อะไรต่างๆ ก็จะทำให้ค่าเปลี่ยน(มากขึ้นอีกนิด)  ครับถ้าจูนมาแล้วผลเป็นยังไงบ้างก็มาเล่าให้ฟังกันบ้างนะครับ

ยังไงผมต้องขอขอบคุณเพื่อนๆทุกคนที่มาแชร์ตรงนี้กัน อย่างน้อยใครมีปัญหาอะไรเอามาบอกกัน เพื่อที่จะได้ระบบแก็สที่ไม่มีปัญหา(หรือปัญหาน้อยที่สุด)ต่อไปในอนาคตสำหรับ CIVIC ครับ

คัดลอกมาจาก www.gasthai.com

ก.)ใช้น้ำมันเครื่องเกรดไหนดี?
ในปัจจุบัน โดยจากมาตฐาน API-AMERICAN PETROLEUM INSTITUTE และ SAE - SOCIETY OF AUTOMOTIVE ENGINEERS ซึ่งเป็นที่นิยมใช้เป็นแหล่งอ้างอิง
ใช้เกรด API SJ, API SL และ API SM ส่วนค่าความหนืดใช้ SAE 40 จะเป็นเกรดเดี่ยวหรือเกรดรวมก็ได้
แต่ถ้าในกรณีเครื่องยนต์เริ่มหลวม(กินน้ำมันเครื่องมากกว่า 1 ลิตร/4,000 กม.)มีควันจากปลายท่อไอเสียสีขวาอมฟ้า แนะนำให้ใช้ SAE 50
----ตัวเลขตัวหน้าเช่น 0W40, 10W40, 20W50 ตัวเลข 0 เลข 10 เลข 20 บอกถึงอุณหภูมิแวดล้อมเครื่องยนต์ เนื่องจากประเทศไทยอยู่ในเขตร้อน อุณหภูมิไม่เคยติดลบถึง -18 องศา C จึงไม่ต้องให้ความสำคัญมากนัก ให้ดูที่ตัวเลข 40 และ 50 ตัวหลังดีกว่าครับ เพราะอุณหภมิปรกติอยู่ที่ 30C' ถึง 40C' จึงเหมาะที่จะใช้ SAE 40 หรือ SAE 50 ดังที่ได้กล่าวมาแล้วครับ

ข.)ควรเปลี่ยนถ่ายเมื่อไร?
เปลี่ยนถ่ายเมื่อน้ำมันเครื่องเริ่มสูญเสียคุณสมบัติหลัก เช่น เกิดฟองอากาศในน้ำมันเครื่องอย่างถาวร ความหนืดลดลงจากปรกติที่เคยมี เกิดสารแขวนลอยในเนื้อน้ำมัน เกิดฟอสฟอรัสจากการสันดาป ฯลฯตามที่ได้กล่าวมานี้ น้ำมันเครื่องเกรด API SJ ที่ประกาศใช้ตั้งแต่ ปี คศ.1996 มีคุณสมบัติทานทนต่อความเสื่อมเหล่านี้ ได้มากกว่า 10,000 กม. สำหรับเกรดที่สูงกว่า เช่น API SL ประกาศใช้ ปี คศ.1999 และ API SM ประกาศใช้ ปี คศ. 2004 ตามลำดับ จะเห็นได้ว่าเกรดคุณภาพ API ยิ่งเป็นปัจจุบันมากขึ้น
เกรดคุณภาพก็จะสูงขึ้น ระยะเวลาการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันก็เพิ่มมากขึ้น

ค.)ทำไมเครื่องยนต์ที่ใช้ LPG เป็นเชื้อเพลิงจึงมีระยะเปลี่ยนถ่ายยาวนานกว่า
เนื่องจากเชื้อเพลิง LPG มีการสันดาปที่สมบูรณ์กว่า สิ่งสกปรกที่เกิดจากการเผาไหม้จึงกว่า แม้กระทั้งฝุ่นคาร์บอนที่ปนเปื่อนมาจากการชะล้างยังน้อยกว่า LPGอยู่ในสภาพก็าซจึงไม่ไปทำละลายสารเครือบหล่อลื่นที่มากับน้ำมันเครื่อง ทำให้ลดการสึกหรอ เช่น แหวน ผิวกระบอกสูบ แบริ่งต่างๆ เป็นต้น

แถมอีก 2 ลิงค์ครับ
http://www.gasthai.com/article/viewdata.asp?id=206
http://www.gasthai.com/article/viewdata.asp?ID=207

Up Date เพิ่มเติมนะครับ หลังจากใช้ไปได้ 1-2  อาทิตย์ เริ่มประสบปัญหา
คือตอนออกตัว บางครั้งมีอาการเหมือนเครื่องจะดับ แต่ก็ไม่ดับ ไปต่อได้ แต่ตอนที่ขับอยู่ปกติดี
ไม่มีปัญหา วิ่งดี ทำได้สูงสุด 180 km/h บนคู่ขนานปินเกล้า-นครชัยศรี ยังได้อีก แต่ใจไม่ถึงพอ
ก็เลยถอนคันเล่งซะก่อน ก็เลยเข้าไปที่ร้านให้เค้าจูนใหม่ ทั้งรอบเดินเบาและ ออกตัว ช่างบอกว่า
น่าจะเป็นที่แก๊สท่วมอะครับเนื่องจากที่เค้าจูนไว้ให้ทีแรก เค้ากลัวว่ามันจะอีด ก็เลย เผื่อไว้นิดหน่อย
หลังจากจูนก็ไม่มีปัญหาอะไร ส่วนรอบเครื่องที่ตกตอนที่เปลี่ยนจากแก๊สเป็นน้ำมัน มันก็หายแล้ว
ผลที่ได้คือความประหยัดครับ ปกติ เติมน้ำมัน อาทิตย์ละ 1200-1500 ตอนนี้เติมแก๊ส อาทิตย์ละ
500-700 เองครับ คิดดูแล้วกัน คุ้มป่าว

มีคำถามครับ
พอจะมีใครทราบมั้ยว่า ทำไมอัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเมื่อใช้แก๊สมีมากกว่าน้ำมัน
เช่น น้ำมัน 12-13 กม/ลิตร
        แก๊ส     9-10 กม/ลิตร
ช่วยแชร์หน่อยครับ

 ::)ผมก็เป็นครับ คุณใช้รุ่นไหนเหรอ อัตราการสิ้นเปลีอง เท่าๆ กะผมเลยอะ ทั้งน้ำมันและแก๊สเลย
แต่กรณีของผมเนี่ย สงสัยเป็นที่ เหยียบหนักกว่าเดิมอะ เพราะคิดว่าแก๊ส มันถูก :-[

ES'05 ขับปกติครับ

ของผมก็เป็นแบบนี้เหมือนกันครับ คิดว่าแก็สถูกก็เลยเหยียบอัดเต็มที่ครับ

 ;D ;D ;D
แบบว่าเมื่อก่อนเติมน้ำมันที่นึงก้อ 1,000 แต่เดียวนี้เติมแก๊สครั้งละ 350-400 เอง
เมื่อก่อนขับไม่ให้เกิน 3 พันรอบ หรือ 120 แต่เดียวนี้ แตะ 160 ทุกวันเลย ;D ;D ;D

คุณอาanodite_studbarครับเมื่อวานเอารถไปสตัทปรับเกลียวข้างหน้ามาแล้วข้างหลังอัดแก๊สกึ่งนำมันที่ร้าน MOEYE มาอาการโยนตัวของโช๊คหลังหายไปเลยอาการเวลาเจอทางขรุขระเวลาวิ่งมาเร็วๆแล้วแฉลบก็หายไปวิ่งนิ่งกว่าเดิมเยอะท้ายก็หายห้อยแล้วค่อยยังชั่วหน่อย

เล่นเรียกผมซะแก่เลย ผมยังมะแก่นะครับ  ;) ครับการโมโช้คก็จะทำให้อาการโยนของรถลดลงได้และอีกอาการนึงคืออาการท้ายห้อยก็จะไม่ห้อย เนื่องจากโช้คได้อัดแก็สให้ได้ระดับที่ต้องการ ซึ่งก็จะทำให้ท้ายไม่ห้อยครับ

สำหรับรถผมยังไม่มีโอกาสได้เอาโช้คไปทำ พอดีไม่ค่อยว่า ไว้ว่างๆกะจะไปทำซะหน่อย คงจะเป็นแถวๆอุดมสุข แต่ไปร้านนี้คงต้องไปเช้าสักหน่อย ถ้าไปสายมะได้ทำแน่ครับ ไว้ถ้าอัดโช้คใหม่ทั้งหมดจะมาเล่าให้ฟังอีกทีนะครับ

ขอบคุณข้อมูลตรงนี้มากๆ เพื่อเป็นประโยชน์แก่คนอื่นๆที่เกิดอาการท้ายห้อย จะได้หาวิธีต่างๆกันไป ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับงบแต่ละคนครับป๋ม  :)


ผมก็ใกล้เคียง 160 เหมือนกัน แต่ว่าต้องทางโล่งๆนะครับ ถ้ารถติดก็ไม่ได้เหมือนกัน

ก็อาศัยว่าค่อยๆให้มันขึ้น แล้วเกิน120 เมื่อไร ใส่เต็มที่ครับ นี่ดีว่ารถผมแม็ก 17 นะครับ ถ้า 15 เดิมๆ ฮืม มันกว่านี้แน่  ;)

วันนี้มีข้อมูลเกี่ยวกับ Stepping Motor หรือ Lamda Control ว่าจริงๆแล้วข้างในมันจะเป็นยังไง

เรื่องก็มีอยู่ว่าวันหยุดที่ผ่านมา พอดีผมได้ไปธุระหลายที่ แต่อยู่ๆก็เกิดอาการเหมือนคันเร่งหาย รอบวูบไปเฉยๆ ก็เลยคิดว่าเป็นที่แก็สแน่เลย ดันอยู่เลนขวาบนทางด่วนซะด้วย รถมันก็จี้ติดเลย ทำไงดีล่ะ ก็เลยสับเป็นน้ำมัน แค่นั้นแหละครับ รถพุ่งขึ้นผิดหูผิดตาจริงๆ(อันนี้ต้องขอบอกเลยว่าแก็สกับน้ำมันแต่กันที่ความลื่นของมันนี้เอง) หลังจากลงทางด่วนผมก็ลองสตาร์ทแล้วเร่งคันเร่งเพื่อที่จะเป็นแก็ส แต่ว่าอาการวูปก็ปรากฎอีก คราวนี้ทำไงละ พอดีช่วงวันหยุดไม่ว่างก็เลยไม่ได้เข้าไปร้านแก็ส หลังจากวันหยุดสามสีวัน ผมก็ไปที่ร้านให้เขาเช็คให้ ตอนแรกผมก็คิดว่าซีลินอยที่ถังแก็สมันตัด เช็คแล้วก็ทำงาน แต่แก็สไม่มา เปิดมิกเซอร์ดู ดันเจอเทปกาว ไม่รู้ดูดเข้าไปเมื่อไร คราวนี้เอาออกเสร็จแล้วใช้น้ำยาทำความสะอาดที่ปีกผีเสื้อหน่อย  หลังจากนั้นก็ลองอีก ก็ไม่ได้ผล แม้แต่ลองเปลี่ยนมาใช้วาวล์ธรรมดา ก็ใช้ไม่ได้ คราวนี้ผมก็เลยให้ช่างเปลี่ยน Stepping Motor ตัวใหม่ ซึ่งหลังจากนั้นก็ลองสตาร์ท ซึ่งผลที่ได้หายครับ และยังลองเอาตัวเก่าสลับลงไปดู ปรากฎว่าไม่เห็นผล แสดงว่าตัวเก่าเสีย มอเตอร์อาจจะเสียได้ ซึ่งตัวนึงก็ตกอยู่ประมาณพันกว่าบาท ซึ่งเท่าที่ได้สอบถามกับเจ้าของร้านว่าทำไมเสียเร็วจัง เขาก็บอกว่าบางครั้งบางตัวก็อาจจะใช้ได้นาน บางตัวก็ไม่นาน ซึ่งผมเองก็ไม่รู้ทำไงดี ก็คงต้องเสียเงินเปลี่ยน แต่หลังจากเปลี่ยนเสร็จ ไหนๆก็ไหนๆแล้ว ก็เลยให้เขาจูนใหม่ให้ซะเลย ซึ่งหลังจากนั้นขับออกมาก็โอเคครับ ไม่มีปัญหาอะไรเหมือนตอนแรก ก็แสดงว่าที่เสียคือ Stepping Motor จริง

คราวนี้มาดูรูปกันครับ

อันนี้คือรูปของ Stepping Motor หรือ Lamda Control (ตัวที่เสียแล้ว)

(http://i158.photobucket.com/albums/t93/anodite_studbar/DSCF2207copy.jpg)

คราวนี้แกะออกมาดูว่ามีอะไรบ้าง ซึ่งประกอบได้สองส่วน

ส่วนแรกนี้เป็นส่วนเปิดปิดวาวล์โดยไฟฟ้า โดยคำสั่งมาจากกล่องที่จูนไว้ให้เปิดหนา หรือเปิดบางให้ใกล้เคียงน้ำมันครับ

(http://i158.photobucket.com/albums/t93/anodite_studbar/DSCF2200copy.jpg)

ส่วนนี้คือทำหน้าที่ให้แก็สผ่าน เข้าไปสู่มิกเซอร์

(http://i158.photobucket.com/albums/t93/anodite_studbar/DSCF2197copy.jpg)

(http://i158.photobucket.com/albums/t93/anodite_studbar/DSCF2199copy.jpg)

มอเตอร์จะทำงานให้สปริงยืดตัวหรือหดตัวตามรอบเครื่อง เพื่อที่ให้ได้แก็สที่เหมาะสม ไม่เหมือน Power valve ที่เราตั้งแล้ว เวลาหนาไปหรือบางไป มันทำอะไรไม่ได้ ต้องใช้มืออย่างเดียว ซึ่งถ้าเป็น Dimension โดยเฉพาะวีเทคแล้วด้วย ใช้คำเดียวว่านรกครับ ผมเจอมาแล้ว เข็ดเลยครับ

(http://i158.photobucket.com/albums/t93/anodite_studbar/DSCF2195copy.jpg)

และหลังจากเปลี่ยน Steping Motor แล้ว ผมก็จำได้ว่า Central Lock ประตูผมเสีย ผมก็เลยให้เขารื้อดู ซึ่งรูปร่างหน้าตาดังรูปครับ

(http://i158.photobucket.com/albums/t93/anodite_studbar/DSCF2112copy.jpg)

ซึ่งตัวมอเตอร์จะมีเพืองข้างในซึ่งเพื่องจะทำงานได้เมื่อมอเตอร์ทำงาน แล้วมันก็จะล็อกหรือปลดล็อก

แล้วคุณเชื่อหรือไม่ครับ ตัวมอเตอร์คล้ายๆมอเตอร์รถเด็กเล่นเลยครับ

(http://i158.photobucket.com/albums/t93/anodite_studbar/DSCF2254copy.jpg)

แต่จริงๆ มอเตอร์นี้เป็นมอเตอร์รอบจัดเพื่อทำหน้าที่ล็อกหรือปลดล็อกประตู เมื่อต่อเข้าแกนกลอนประตู มันก็จะชักขึ้นลง

แต่เมื่อมอเตอร์นี้เสีย มันก็ไม่ล็อกและไม่ปลดล็อกใดๆทั้งสิ้น ผมก็เลยเปลี่ยนใหม่เลยครับ ราคาอยู่ประมาณ 4-5 ร้อยบาท(พร้อมค่าแรง) ซึ่งผมเองตอนแรกก็คิดว่าเป็นพัน แต่ถ้าราคาแค่นี้เปลี่ยนใหม่ดีกว่า จะได้ไม่มีปัญหา มานั่งกังวลว่าประตูล็อกหรือยัง

ซึ่งก็เป็นอะไรที่ไม่น่าจะเจอก็เจอ ก็เลยเอามาเล่าสู่กันฟังครับป๋ม  :-[

ใช้แก๊สแล้วมีกลิ่นรึเปล่าครับพี่ เช่นกลิ่นแก๊สที่ออกจากท่อไอเสีย จากฝากระโปรง
ขอบคุณครับ

สำหรับรถผมไม่มีครับจะมีก็ตอนเติมแก๊สแล้วเขาดึงหัวเติมออก(หรือบางทีก็จะเป็นกลิ่นแก๊สที่ออกมาจากคนขับเวลาท้องอืดอะครับ)ล้อเล่นครับ

กลิ่นจากฝากระโปรง เท่าที่ผมเปิดมาก็ยังไม่เคยได้กลิ่นเลยนะครับ ส่วนท่อไอเสีย พอดีไม่ได้สังเกต แต่เท่าที่ยืนท้ายรถตอนใช้แก็ส ก็ไม่มีกลิ่นแก็สออกครับผม

กลิ่นจากท่อไอเสีย ขึ้นอยู่กันสภาพเครื่องและการจูนแก๊สครับ สังเกตุจาก TAXI เก่า ๆ จะได้กลิ่น
ส่วนจุดอื่นๆ ไม่มีกลิ่นแน่นอนครับ ถ้ามีแสดงว่าแก๊สรั่ว อันตรายครับ

ใช่ครับ อันนี้เห็นด้วย ระบบการติดแก็สของรถแท็กซี่เก่าๆ ไม่เหมือนกับระบบแก็สที่เราใช้ๆกันอยู่ ซึ่งความปลอดภัยสูงกว่า อุปกรณ์ต่างๆใช้ของค่อนข้างดี การติดตั้งจะเนียนกว่า เพราะฉะนั้นเรื่องการรั่ว หรือการมีกลิ่นแทบจะไม่เกิดเลยกับรถที่ติดด้วยคนมีประสบการณ์ แต่ก็อย่าไว้วางใจ ถ้าเป็นไปได้ หลังจากการติดแก็สไปสัก1ปี ควรเข้าไปที่อู่ที่คุณติดตั้งเช็ครอยต่อต่างๆว่ามีการรั่ว หรือซึมหรือไม่ ซึ่งถ้าคุณติดกับร้านไหน ให้ไปเช็คกับร้านนั้น ส่วนใหญ่เขาไม่คิดเงินครับเพราะเป็นหน้าที่ที่เขาจะต้องเช็คให้เราอยู่แล้ว แต่ถ้าเกินสองหรือสามปีขึ้นไป อุปกรณ์ต่างๆอาจจะหมดประกัน(ส่วนมากจะประกันแค่1ปี) อาจจะมีค่าใช้จ่ายในการเช็คบ้าง แต่ส่วนใหญ่ไม่แพงครับผม

 :-[
รถผม Civic dimension2002 1.7 EXI Mag 17"
ติดแก๊สมาแล้ว 5 เดือน จากร้าน พี่ชัยหมากกระจาย ติดมาแล้วไม่มีปัญหาอะไร เพราะที่ร้านนี้ใช้ คอมพิวเตอร์ปรับจูน
ผมติดระบบ FixMixzer + Ramda Control ราคา 15,000 + 6,000 =21,000 ( หาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ WWW.Gasthai.com ว่า Ramda Control มีประโยชน์ยังไง)
อัตราบริโภค แก๊ส ในเมือง 1.50 บาท ต่อ 1 กิโลเมตร ต่างจังหวัด..ประมาณ 1.00 บาท  ต่อ 1 กิโลเมตร
ถ้าสงสัยว่ารถคุณกินแก๊สมาก ควรตรวจเช้คที่กรองอากาศ อาจมีฝุ่นมากเกินไป ทำให้อากาศเข้ามาน้อย เลยกินแก๊สมาก ให้ลองทำความสะอาดกรองอากาศ สัก เดือนละครั้ง หรือขึ้นอยู่กับสภาพถนนที่คุณวิ่งในแต่ละวัน หรือมีปัญหาสงสัยเกี่ยวกับเรื่องแก๊ส ไม่รู้จะติดที่ไหนดีก็เชิญหาข้อมูลเพิ่มเพื่อช่วยในการตัดสินใจได้ที่ WWW.Gasthai.com ครับ คงมีประโยชนืกับเพื่อนๆบ้าง :-X

จุดนี้เป็นจุดสำคัญครับ เนื่องจากระบบดูดนี้ต้องใช้อากาศเป็นส่วนผสมหลัก เพราะฉะนั้นกรองอากาศควรทำความสะอาดบ่อยขึ้นหรือไม่ก็เปลี่ยนทุกครั้งที่ถ่ายน้ำมันเครื่อง จะช่วยให้อากาศที่เข้าไปสะดวกขึ้น สำหรับผมก็จะเปลี่ยนทุกๆหมื่นโล(เปลี่ยนทุกๆครั้งที่เปลี่ยนน้ำมันเครื่องครับ)

ขอบคุณทุกข้อมูลมากครับ จะได้เป็นประโยชน์แก่คนที่ติดแล้วเจอปัญหาหรือว่าคงที่ยังไม่ติด แต่กำลังจะติด จะได้มีทางเลือกได้ว่าจะใช้ระบบใดดีครับผม  :)

ขอถามหน่อยนะครับ กรองอากาศของศูนย์ ถ้าจะทำความสะอาดเองที่บ้านนะ ทำอย่างไงอะครับ  ::) มันต้องใช้เครื่องเป่าลมใช่ป่าว
ไม่เคยทำเลย เคยแต่ให้ศูนย์ ทำให้นะ :-[

ครับ ก็เอาไขควงสีแชก หรือไม่ก็ประแจตัวทีเบอร์10ไขที่น็อตออก แล้วยกขึ้นมา หลังจากนั้นจะเจอกรอง ก็เองกรองมาเป่า โดยใช้ไดเป่าผมเป่าก็ได้ครับ ใช้ลมเย็นเป่านะครับ ปรับให้แรงสุด ก็ออกแล้วครับ แต่ถ้ามีเครื่องดูดฝุ่นที่บ้าน ก็สามารถดูดกรองได้เหมือนกัน หรือถ้าจะให้สะดวกที่สุดคือไปที่ปั้ม แล้วให้เขาใขเป่าให้แล้วทิปให้เขาสักยี่สิบหรือสามสิบบาท แค่นี้ก็โอเคครับป๋ม  :)

ขอบคุณมากครับ คิดแต่ว่าไม่มีปั๊มลม จะทำเองได้ไง
ลืมไปว่ามีเครื่องดูดฝุ่นนี่นา เย็นนี้ลองเลย เพราะหยุด 3 วันนี้ คงวิ่งเกิน 500 โล แน่นอน

ครับป๋ม  :)

 ผมติดมาประมาณ 3 เดือนแล้ว ติดแบบหัวฉีดนะคับ ค่าติดตั้งประมาณ 30000 บาท แต่อัตราเร่งไม่แพ้นำมันเลย

วิ่งที่ กทม. ตก กม.ละประมาณ 1.3-1.5 บาท ต่างจังหวัด 0.9-1.0 บาทถือว่าคุ้มจริงๆลดค่าใช่จ่ายไปได้เยอะมาก
:)

ดีครับ สมาชิกใหม่ครับ พอดีอ่านติดตามกระทู้นี้มาเป็นเวลา พอสมควร เลยได้เวลาตัดสินใจติด gas แล้วครับ ค่าน้ำมันตกเดือนละ 5 - 6 พันบาท ไม่ไหวแล้วครับ วันนี้เพิ่งเอารถไปทิ้งไว้ให้ที่อู่เค้าทำครับ พอดีเป็นพี่ ๆ ที่รู้จักกันมาก่อน เลยกะว่าลองกับเค้าซะหน่อย (จาไว้ใจได้มั้ยนี่ อิอิ)  ได้ผลยังไงเดี๋ยวจะมาแชร์ ให้ฟังกันนะครับ


Civic  02 --> Fix Mixer หม้อต้ม HANA ถัง 58 ลิตร มัลติวาล์ว (งบน้อยครับ เลยติดแบบดูด)

ปล. กระทู้นี้ดีนะครับ ได้ประโยชน์มากเลย ช่วยในการตัดสินใจได้เยอะ

ไม่อยู๋เฝ้ารถ นิดนึงเหรอครับ ได้ดูด้วยว่าเค้าทำไรบ้าง เป็นความรู้ดีนะ ไว้ตอนดูแลรถ จะได้รู้ว่าเค้าทำไรกะรถเราตรงไหน ทำอย่างไง
เผื่อว่าเกิดปัญหาบางอย่าง แล้วต้องแก้ไขด้วยตัวเอง จะได้พอทำได้อะครับ

เห็นด้วยอย่างแรงครับ ตอบผมไปติดผมอยู่ดูเกือบทั้งวันเลย แบบว่าเพื่อความมั้นใจน่ะครับ

จะได้กระตุ้นให้ช่างทำให้เราดีๆด้วยครับ
 >:(

ขอบคุณครับที่แนะนำ แต่พอดีว่าต้องมาทำงานอ่ะครับ แล้วอีกอย่างคือ ผมจะได้รถ พรุ่งนี้ครับ วันเดียวไม่เสร็จ เพราะ อู่พี่เค้าไม่ใหญ่มาก มีลูกน้องแค่คนเดียวครับ
แล้วเมื่อเช้าเห็นว่ามีติดอยู่อีกคันนึง ก้ออาศัยว่าพี่คนนี้รู้จักกันดีครับ เห็น ES เค้าก้อติดมาแล้วหลายคัน พอเห็นผลงานบ้าง เมื่อเช้าก้อฝากฝังกันไว้ ก้อหวังว่าจะลองเชื่อใจกันดูครับ .....
แล้วเป็นไงจะมาเล่าความคืบหน้าให้ฟังกันนะครับ :-[

ติดถูกมากเลยครับ  :P ไม่ทราบว่าติดที่ไหนมาครับ  ::) เพื่อเพื่อนๆคนไหนสนใจ จะได้มีแนวทางได้นะครับ  :)

อัตราการกินแก็สถือว่าโอเค รถวิ่งใกล้เคียงน้ำมันมากครับป๋ม ดีใจด้วยนะครับ  :)


เยี่ยมเลยครับ  ไม่ว่าติดระบบไหนก็ตาม ขอให้หลังติดมาไม่มีปัญหาอย่างที่ผมเจอก็โอเคเลยครับ



เห็นด้วยกับความคิดทั้งสองนี้เลยครับ เวลาติดแก็สจริงๆแล้วถ้าอู่เป็นอู่รู้จักหรืออู่ที่ไม่เรื่องมาก เขาจะไม่หวงการติดแก็สของเขา และบางครั้งเราสามารถดูในขณะที่ติดได้ว่าเกิดอะไรกับรถเราบ้าง แล้วตอนติดแก็สมีอุปกรณ์อะไรบ้าง ส่วนสำคัญที่สุดคือประสบการณ์ของช่าง เพราะว่าถ้าช่างไม่มีประสบการณ์ที่ดี ช่วงที่ติดแก็สก็จะทำความเสียหายแก่ตัวรถได้ ตอนที่ผมติด(หลังจากร้านแรก)ผมดูตั้งแต่ต้นจนจบ โชคดีว่าเจ้าของเขาไม่หวงความรู้ตรงนี้ และที่สำคัญเราควรมีช่างติดแก็สที่สนิทกันสักคนที่มีประสบการณ์มากๆ เพื่อที่เวลาหลังจากติดแล้วเราจะได้ให้เขาแก้ได้ถูก พูดง่ายๆช่างคนไหนทำรถให้เรา ก็ตามช่างคนนั้น เวลาเจอปัญหา เขาจะได้แก้ให้เราถูกครับ

ก็เป็นอะไรที่ดีมากสำหรับการแชร์เกี่ยวกับเรื่องแก็ส  หลังจากติดแล้วเจอปัญหาอะไรก็มาเล่าสู่กันฟังได้ จะได้เป็นประโยชน์แก่เพื่อนๆใน welovecivic.com ครับ

ผมติดที่ร้าน speed gas คับอยู่แถววงเวียนพระราม 5

ตั้งแต่ติดมายังไม่มีปัญหาเลย ถ้าสนใจเข้าไปหาข้อมูลได้ที่ http://www.gasthai.com คับ

 :)

ร้านเดียกันเลยอะครับ Autronic Jet No.18 เค้าติด 31,000.- ไม่ใช่เหรอ เดียวเพื่อน ๆ จะสับสนครับ เปลี่ยนวาว เพิ่มตามยี่ห้อที่เปลี่ยน ผมเปลี่ยนใช้ของอิตาลี่ จำชื่อไม่ได้เพิ่ม 1,000.- (มั้งจำไม่ได้ละบิล หายไปแล้ว) เป็น 32,000.- ถังแคปซูล ครับ
ของคุณใช้ ES หรือป่าว อยากจะคุยด้วยซักหน่อยนะ อยากรู้ว่าที่ผมคิดมากอยู่ เป็นเหมือนกันหรือป่าวอะครับ

สวัสดีตอนเช้าครับ  ใช้แล้วครับผมใช้ 1.7 Vtec ปี 2004 ครับ ขอโทษด้วยครับพอดีราคาที่ให้ไปผมประมาณอ่ะครับไม่ได้บอก

ละเอียด รวมแล้ววันนั้นผมจ่ายไป 32200 บาทครับ (ค่าติดตั้ง+เปลี่ยนวาล์ว=32000 ,ค่าเติม gas 200 บาท)

 :-[
 

สวัสดีครับของผมซีวิคไดเมนชั่น 2003 ติดแบบฟิกมิก 28 มม.รูเตาแก๊สครอบปากผีเสื้อ+แลมด้าหม้อโทมาเซโต้อัตราเร่งด้อยกว่าน้ำมันหน่อยกินแก๊สอยู่ที่10กม/ล(ต่างจังหวัด) อยากทราบว่าใครติดแก๊สรุ่นนี้แล้วย้ายมิกบ้างผลออกมาเป็นไงอัตราเร่งดีขึ้นหรือเปล่าครับ

----------------ผมติด ngv แบบหัวฉีด ประหยัดโครต---------------------------------

เนื่องจากผมไม่เคยใช้เอ็นจีวี ผมอยากได้ความรู้จากเพื่อนๆที่ติดไปนิดนึง เพราะว่าการได้ข้อมูลจากการใช้งานจริงๆของคนขับ ดีกว่าไปหาจากที่อื่นครับ แล้วบางข้อมูลน่าจะเป็นประโยชน์แก่คนอื่นที่สนใจครับ

เรื่องอื่นๆคงคล้ายๆกับของ LPG เพราะว่าการติดระบบ NGV ส่วนใหญ่จะใช้ระบบแบบหัวฉีดอยู่แล้ว

แต่เรื่องที่ไม่ทราบคือ

1. ไม่ทราบว่าถังที่เติมเป็นขนาดเท่าไรครับ แล้วจำนวนที่เติมได้กี่ลิตรต่อถัง
2. หลังจากใส่ถังแล้ว เนื่องจากได้ยินว่าถังจะหนักกว่าถังของLPG ไม่ทราบว่าใส่ถังไปแล้ว ท้ายทรุดลงจากเดิมเยอะหรือเปล่าครับ
3. การจูน ไม่ทราบว่าการจูนใช้เวลากี่ครั้งที่เข้าไปจูน หรือว่าจูนครั้งแรกแล้วได้เลยครับ
4. การเช็คเรื่องระบบแก็ส ระบบNGVเขาจะให้เช็คทุกๆกี่หมื่นโลครับป๋ม

เพราะข้อมูลพวกนี้ จะได้มาจากคนที่ติด และใช้ระบบนี้เท่านั้นจึงจะทราบ ถ้าใครทราบก็ขอข้อมูลตรงนี้นิดนึงนะครับป๋ม

ขอบคุณครับ

ตั้งแต่คิดมาคุณวิ่งไปประมาณกี่กิโลแล้วอะครับ แล้วเคยเข้าไปที่อู่อีกหรือป่าว แบบไปตรวจเช็ค ต่างๆ อะครับ
แล้วได้แจ้งขนส่งปะ
ขอบคุณครับ :-[

ติดเรียบร้อยแล้วครับ ตั้งแต่วันเสาร์ที่ผ่านมา วันนี้วันพุธซัดไป 402 กิโลแล้วครับ(ช่วงทดสอบ ผมขับไปมาทั้งวันเลย หุหุ) ผมติดแบบ Fix Mixer หม้อต้ม HANA ถัง 58 ลิตร มัลติวาล์ว หัวตัดแก๊ส HANA (ไอ้ตรงที่อยู่ตรงถังอ่ะครับ ไม่รู้ว่าเรียกถูกป่าว) ไม่ได้ติดแลมด้านะครับ

ติดมาวันแรกก้อเติมแก๊สเต็มถัง แล้วเมื่อวานตอนเย็น ก้อได้เวลาเติมอีกรอบครับ(ยังไม่หมดนะครับ แต่ผมเติมไว้ก่อน เหลืออีกประมาณ 1 ขีด ดูจากถังนะครับ) ผลคือ ถังแรก 402 กิโล เติมไป350 บาท แก๊ส ลิตรละ 9.75 ครับ (ไม่รู้ว่าอย่างนี้เรียกว่าประหยัดหรือยังครับ คำนวนไม่เป็น) ผมวิ่งเฉลี่ยที่ความเร็ว 110 กิโล/ชม.


ติดมาวันแรกครับ ก้อลองขับกับช่าง ขับไปขับมา ทดสอบระบบ ทุกอย่างเรียบร้อยดีครับ แต่พอจ่ายเงินเรียบร้อย ผมก้อขับวน ๆ แถวอู่ครับ หาร้านเครื่องเสียง เพราะผมต้องย้ายแอมป์ จากข้างหลังมาไว้ใต้เบาะในรถครับ กะว่าจะทำให้เสร็จ ๆ ไปทีเดียวเลย  ขับวนได้ประมาณ 5 กิโล ครับ ปรากฎว่าเครื่องดับครับ (ซวยแล้วสิ) ผมก้อฉลอเข้าข้างทาง แล้วสับเป็นน้ำมัน start ใหม่ ผลคือ ไม่ติดครับ ลองใหม่ ก้อไม่ติดครับ (เอาละสิ) สับกลับไปเป็นแก๊ส ก้อไม่ติดครับ ได้เวลาโทรหาช่างแล้วครับ เค้าก้อบอกให้ผมลองเปิดกรองอากาศดู ปิดวาล์วแก๊ส start น้ำมัน กะว่าเอาให้พอขับกลับไปที่อู่ให้ได้ ผลคือ ทำทุกอย่างก้อยัง start ไม่ติด ช่างเค้าเลยบอกว่าเดี๋ยวมาดูให้


หลังจากรอประมาณ ครึ่ง ชม. ช่างก้อมาครับ เค้าก้อเช็คดู เช็คไปเช็คมา ปรากฎว่า ฟิวส์สวิท สับเปลี่ยนเชื้อเพลิงขาดครับ (มันขาดได้ไง) พอดีช่างเอามาเผื่อเลยเปลี่ยนไป แล้วสิ่งที่คิดว่าจะจบ มันไม่จบครับ พอใส่สวิทตัวใหม่เข้าไป มันก้อขาดอีกครับ (เอะ เริ่มงง) เลยต้องใช้วิธีต่อตรง ไม่ผ่านฟิวส์ เพื่อให้ start ติดแล้วขับกลับไปที่อู่ได้ก่อนครับ


หลังจากถึงอู่แล้ว ช่างก้อไล่สายดู ปรากฎว่าสายไฟที่ต่อจากในห้องเครื่องเข้ามาที่สวิทส์ มันขาดเส้นนึงครับ คือไอ้ที่หุ้มมันขาดครับ ทำให้ตัวทองแดงมันโดนกับตัวรถ ทำให้มันช็อต (สันนิฐานว่า มันน่าจะขาดตอนดึงสายไฟจากห้องเครื่องเข้ามาในตัวรถแน่ ๆ แล้วมันไปสีกับตัวถังครับ) อ่ะ ก้อจัดการเปลี่ยนเส้นใหม่ไป


ครับ หลังจากนั้น ขับมาจนถึงวันนี้ ยังไม่มีปัญหาใด ๆ ครับ ส่วนอัตราเร่งก้อคล้าย ๆ กับเพื่อน ๆ ครับ คือ ต้นอืด แต่ปลายนี่เร่งดีทีเดียว


สรุปคือ จะมาแชร์ปัญหาให้เพื่อน ๆ ฟังครับว่า ถ้ารถ start ไม่ติด สับเป็นน้ำมันแล้วก้อไม่ติด ให้ลองดูแถว ๆ สวิทส์ดูก่อนนะครับ ว่าฟิวส์ขาด หรือ สายไฟหลุดหรือเปล่า เป็นการแก้ปัญหาเบื้องต้นครับ อืมใช่ รถรุ่นนี้ถ้า start น้ำมันเวลาเปิดสวิทส์ มันจะมีเสียงปั้มติ๊กทำงานดัง อืออออออ(ต้องฟังดี ๆ ครับ ไม่รู้คันอื่นเป็นรึป่าว แต่ของผมมันจะมีเสียงครับ) ตอนที่ฟิวส์มันขาด ผมสับไป start น้ำมัน เวลาบิดสวิทส์ มันไม่มีเสียงนี้ครับ (เลยสันนิฐานได้ว่า สวิทส์เสีย เพราะมันไม่ตัดกลับไปที่ระบบ น้ำมัน เพราะไม่ได้ยินเสียงปั้มติ๊กทำงานครับ)

ตอนนี้พอใจครับ กับการทดลองมา 3-4 วัน ไม่มีอาการดับแต่อย่างใด ขับได้สบายตลอดทางครับ (ไม่รู้มันจะดีเฉพาะตอนแรก ๆ รึป่าว) ต้องลองดูกันซักเดือนครับ ยังไม่รู้ว่าจะเจอปัญหาอะไรอีกป่าว แล้วจะมาเล่าให้ฟังนะครับ

ผมวิ่งไปประมาณ 5000 โลแล้วครับ ยังไม่เคยเข้าไปตรวจ check เลย

อาศัยดูเองอ่ะครับ แล้วเรื่องแจ้งที่ขนส่ง ผมว่าไม่ต้องแจ้งก็ได้นะครับ

เพราะถ้าแจ้งไปแล้วมันจะลงมันบันทึกในสมุดด้วยว่าเป็นรถดัดแปลง

แล้วมันจะเสียราคาเวลาขายต่อ แต่ก็ต้องอยู่ที่รถของคุณด้วยว่ามีอายุกี่ปีแล้ว

 ถึงเวลาต้องเข้าไปตรวจสภาพที่ขนส่งรึป่าว  ของผมประมาณ 3 ปีก็เลยยังไม่ต้องตรวจอ่ะครับ
 ::)

จากกระทู้ด้านบน อยู่ที่ความละเอียดของช่างในการร้อยสาย อู่ที่ผมไปติดเค้าจะใช้เทปพันสายไฟ พันทับสายทั้งหมดที่ต้องร้อยจากห้องเครื่องเข้ามาในห้องโดยสาร เพื่อความสะดวกในการทำงานและยังเป็นการป้องกันสายขาดใน หรือถลอก แบบที่คุณ kapoloboy
เจอมา (ผมแอบถามเค้า ว่าพันทำไมอะ ::) แบบว่าเห็นเค้าพันไม่สวย ก็เลยถาม เผื่อว่าถ้ามันอยู่กะเราถาวร จะได้ให้พันใหม่ซะ  ;D)

วิ่งเยอะแบบนี้ ใกล้จะคุ้มแล้วมั้งเนี่ย  ;Dรถผม 6 ปีแล้ว เรื่องตรวจสภาพคงต้องอาศัย ตรอ. ที่คุยกันง่าย ๆ เอา ผมเป็นห่วงเรื่องประกันชั้น1 ไม่รู้มันจะมีปัญหาไรป่าวอะดิ ส่วนเรื่องตรวจ check ผมก็ยังไม่เคยเข้าไปเลยอะ เลยอยากถามคนอื่นดู ว่าเข้าไปกันบ้างป่าว
ขอบคุณครับผม :D

มารายงานกันต่อครับ ตอนนี้ติดแก๊สมาได้ 1 อาทิตย์กับอีก 3 วันแล้วครับ เติมไป 3 ถังแล้ว ถังแรก เติม 350 บาท วิ่งได้ประมาณ 400 โล ถังที่ 2 เติม 380 บาท  วิ่งได้ ประมาณ 400 โลเหมือนกันครับ ผมดูที่ถัง ยังเหลืออีก 1 ขีด ก่อนจะถึงตัว E ครับ (ถัง 58 ลิตร) ถังที่ 3 กำลังใช้อยู่ ก็พอใจกับอัตราการใช้แก๊สมากครับ (ประหยัดไปหลายเลย แต่ต้องดูกันต่อไปครับ กลัวว่าจะดีแค่ตอนต้น ๆ หุหุ)

และแล้วผมก้อเจอปัญหาแล้วครับ วันก่อนจอดลงไปซื้อของประมาณ 15 นาที แต่ไม่ได้ดับเครื่องเพราะ น้าพาลูกไปด้วย (น้องเพิ่ง 5 เดือนเองครับ หลับอยู่ จะพาไปหาหมอ เลยเปิดแอร์ทิ้งไว้ให้)  หลังจากซื้อของเสร็จ เดินกลับมาที่รถ ปรากฎว่า ความร้อนขึ้นครับ ถึงตัว H เลย (เอาหล่ะสิ)  ผมนึกถึงคุณ anodite_studbar ทันที เรื่องที่พี่เค้าเคยบอกไว้ในกระทู้ ผมเปิดกระโปรง .... เอ้ย ฝากระโปรงรถหน่ะ เปิดมาก้อพบว่า พัดลมหม้อน้ำมันไม่ทำงานครับ นิ่งไปเลย .....  :o   สรุปก็เสียเงินเปลี่ยนกันไปตามระเบียบครับ


เลยอยากฝากเพื่อน ๆ ไว้ว่า ช่วงนี้อากาศมันร้อนมากครับ หมั่นเช็ครถ เช็คพัดลมหม้อน้ำ แอร์ น้ำหม้อน้ำ บ้างก้อดีนะครับ จะได้ใช้รถกันได้อย่างสบาย ๆ ครับ ไม่ต้องมาคอยห่วงกับปัญหา ผมถามช่างที่ติดแก๊สเค้าบอกว่า เวลาใช้แก๊สความร้อนมันจะสูงกว่าใช้น้ำมัน ทำให้พัดลมมันทำงานหนักขึ้น โอกาสที่จะเสียก็มีมากขึ้นด้วย (แต่กรณีของผมมันได้อายุการใช้งานมันพอดีมั้ง มันถึงเสีย ไม่น่าเกี่ยวกับแก๊ส) ก็หมั่นตรวจเช็คกันหน่อยละกันนะครับ

ครับโชคดีที่เจอปัญหาก่อนนะครับ ไม่อย่างนั้นความร้อนที่มากถึงขั้นHeat จะทำความเสียหายให้แก่เครื่องได้ ถ้าเกิดว่าเปลี่ยนพัดลมไปแล้วความร้อนยังขึ้นสูงอีกนะครับผม ให้เช็คที่วาวล์น้ำ(อยากรู้ว่าเป็นยังไง ลองกลับไปดูหน้าก่อนๆนะครับ) เพราะว่าวาวล์น้ำนี้ มันก็มีอายุเหมือนกับพัดลมเหมือนกับอุปกรณ์ตัวอื่นของรถ ใครจะเจอก่อนใครเท่านั้นเองครับ

และอีกเรื่องที่สำคัญคือเรื่องน้ำยาหม้อน้ำ ถ้าเกิดว่าระดับน้ำยาหรือน้ำในหม้อน้ำไม่ลดก็ไม่มีปัญหา แต่ถ้าลด ควรเติมด้วยน้ำยาหม้อน้ำ(อาจจะเป็นของฮอนด้าหรือยี่ห้ออื่น)ซึ่งการเติมน้ำยาหม้อน้ำนี้ นอกจากลดความร้อนของน้ำแล้ว น้ำยาตัวนี้จะช่วยให้ไม่เกิดสนิมด้วยนะครับ

สำหรับคนที่เจอปัญหาอะไรเกี่ยวกับแก็ส ก็สามารถที่จะแชร์ความรู้ตรงนี้ได้ ไม่ว่าปัญหาจะเกิดจากตัวรถ อู่ที่ติดตั้ง หรืออื่นๆ ก็มาเล่าสู่กันฟังได้ เพื่อจะได้เป็นข้อมูลให้แก่คนที่เข้ามาศึกษาและเราทุกๆคนในWelovecivic.comครับ

กำลังหาข้อมูลอยู่ครับ อ่านใน Gasthai  ข้อมูลเยอะมาก    อ่านจนมึน   :o   สรุปแล้วช่วยแนะนำร้านให้หน่อยครับ โซนบางกะปิ จะได้เข้าไปหาข้อมูลต่อ  ( มีใครเคยไปทำที่ PCT gas แล้วบ้าง )
 

 8)
ผมอยู่ที่ อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช  ครับ  ผมกำลังจะไปทำงานชั่วคราวที่อยู่แถวสะพานแดง ก็ประมาณ 3-4 เดือนครับ  อยากติดแก็สเหมือนกัน แบบหัวฉีดครับ  ตอนนี้ใช้ Honda Civic Vtec 1.7 ปี 2003 ครับ  ผมได้รับข้อมูลมาว่าควรติดตั้งที่ กทม. เทคโนโลยีและความวางใจได้น่าจะดีกว่า  ใครทราบบ้างมั้ยว่าแถวนั้นมีอู่ที่ไว้ใจได้  ติดตั้งดีๆ มี มั่งรึเปล่าครับ  ช่วยแนะนำหน่อยนะครับ  ผมไม่อยากติดไกล กลัวมีปัญหา  หรือถ้าไกลหน่อยก็แถวๆ โซนนั้นก็ได้ครับ  ส่วนราคาใครทราบบ้างว่าประมาณเท่าไหร่ครับ    8)

 8)
ถ้าแถวโซนนั้นไม่มีก็เอาสถานที่ๆ มันไกลนิด แต่ชัวร์ก็ได้ครับ
 8)

มะรู้จักอะแถวไหนเหรอ สะพานแดง  ::)
แนะนำว่าถ้าเจอร้านที่น่าสนใจ ลองเข้าไปดูการติดตั้งของเค้าก่อน ว่าเป็นไง เรียบร้อยมั้ย อยู่นาน ๆ ก้อได้ เผื่อมีรถที่มีปัญหาเข้ามาจะได้ดูด้วยว่ามีปัญหาไร แล้วร้านเค้าสนใจมั้ย ส่วนราคาระบบหัวฉีดก้ออยู่ประมาณ 3 หมื่นต้น ๆ ถึง เกือบ ๆ 5 หมื่อนนะครับ แล้วแต่ร้าน

ใกล้จะได้เข้าแก๊งแล้ว แล้วไงจะมาแชร์ข้อมูลที่นี่ครับ

จะติดแล้วเหรอ ติด LPG หรือ NGV ละ  :D เก็บข้อมูลมาเยอะพอแล้วใช่ปะ
(ผมที่คุยกะคุณที่ร้านพี่ใหม่นะ จำได้ป่าว ใช่คนเดียวกันป่าวหว่า ES03 ปลายท่อ 2 รูอะ)

ระบบน้ำมันมีปัญหาเช่นกันหรือป่าวครับ หรือว่าเป็นที่แก๊สอย่างเดียว
แนะนำให้ลองวิ่งน้ำมันดูก่อน ถ้าเป็นซ่อมให้หายก่อน แล้วค่อยใช้แก๊น เพราะถ้าใช้แก๊สแล้วอาการจะเห็นชัดกว่า
แต่ถ้าเป็นที่แก๊สอย่างเดียว จูนใหม่ หายครับ ถ้าร้านที่ไปติด จูนแล้วไม่หาย คงต้องเสียเงินให้ร้านอื่นจูนให้แล้วอะ
เผื่อว่ามือไม่ถึง ติดร้านไหนมาอะครับรบกวนตอบทาง PM นะครับ เดี๋ยวร้านเค้าจะหากินไม่ได้อะ ผมจะเก็บไว้เป็นข้อมูล

ส่วนตัวผมตอนนี้มีปัญหาเครื่องสั่นในรอบเดินเบา แล้วรอบก้อตกด้วย คงต้องเข้าไปให้เค้าดูอีกครั้งแล้ว  :P
แล้วก้อเวลาจอดอยู่สับมาเป็นน้ำมัน เหมือนเครื่องจะดับในบางครั้ง   :( แล้วก้อวันอาทิตที่ผ่านมาขับน้ำมันจากวัดไร่ขิง
มาพุทธมณฑล (บ้าน) พอใกล้ ๆ ถึง ลองสลับเป็นน้ำมันดู ตอนจอดข้างทาง เครื่องดับเฉยเลย งงจัง เป็นไรป่าวหว่า :P

ผมกำลังติดอยู่ครับ เอลพีจีหัวฉีด แต่ตอนนี้ยังไม่ได้รถเลย ผมขัดไอดีไอเสียด้วย จะแรงหรือจะแย่เดี๋ยวมาบอกกัน

ใช่แล้วครับ ผมโอ๋เองครับ ผมจำได้ครับ แค่เห็น 328 ก็รู้แล้วว่าเป็นคุณ เดิมๆ 328

กำลังจะติด Autronic ที่ร้าน LN Gas ที่ถนนรามคำแหง (สุขาภิบาล 3)
นัดอู่ไว้เสาร์นี้

ถามเพิ่มเติมหน่อยครับ ถังที่เขาจะให้เป็น 58 Lites ถ้าจะเพิ่มขนาดถังมันจะดีไหมครับ
เพราะเอาไว้เผื่อช่วงเดินทางไกลกลับบ้านที่ต่างจังหวัด ไม่อยากจอดเติม เพราะเห็นราคาเพิ่มขนาดถังมัน 1000-2000 เอง
รบกวนผู้รู้หน่อยนะครับ

สะพานแดงอยู่ใกล้ๆกันสามเสนครับพ้ม...ช่วยแนะนำร้านหน่อยนะคร้าบ...

ครับ ก็ดีใจที่มาแชร์ข้อมูลกัน ทำให้บางข้อมูลที่ผมไม่เคยเจอหรือไม่เคยรู้ก็ได้ทราบด้วยและก็เป็นประโยชน์แก่เพื่อนๆคนอื่นเช่นกันครับ  :)


ครับ สงสัยต้องตั้งชื่อว่า Civic Gas Gang Club ครับ  ;)

ยังไงถ้าติดแก็สแล้วก็มาแชร์กันนะครับป๋ม  :)


ครับเรืองระบบหัวฉีด เท่าที่ได้ยินมาและเท่าที่อ่านมาส่วนใหญ่ก็ไม่มีปัญหาตรงนี้ พอดีวันนี้ผมได้เจอเพื่อนพ่อผม เขาเพิ่งเอาSeries 5ปี94 ไปติดแก็สระบบหัวฉีดมา จำได้ว่าติดหัวฉีดยี่ห้อAutronic และถังแก็สขนาด75ลิตร(ซึ่งก่อนหน้านี้เขาก็เคยเอา accordปี95 ไปติดมาแล้วแต่เป็นระบบMixer) ซึ่งถังแรกน่าจะเป็นถังทดสอบระบบแก็สว่ากินเท่าไร และดูว่ามีอะไรเกี่ยวกับเครื่องหรือไม่ ซึ่งจากการที่ได้คุยกับเจ้าของรถ ก็ทราบว่าเกิดปัญหาเรื่องการเดินเบาเหมือนกัน ก็คงต้องใช้จนหมดถังหรือไม่ก็เอาเข้าไปให้เขาจูนอีกที ก็จะได้ความเที่ยงตรงขึ้น การจูนบางครั้งบางคันอาจจจะทำแค่ไม่กี่ครั้ง แต่บางคันก็อาจจะต้องจูนหลายครั้ง ก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายๆอย่างโดยเฉพาะอย่างยิ่งตัวเครื่องว่าสภาพเก่าขนาดไหน ซึ่งถ้าใหม่ๆ(ไม่เกิน50000โล) แล้วเอาไปติด ก็จะเกิดปัญหาน้อยกว่าจำนวนกิโลที่มากขึ้น สำหรับเพื่อนพ่อเขาคงต้องเอาเข้าไปจูนอีกทีนึง คราวนี้ก็จะรู้ว่าเป็นยังไงบ้าง ทั้งเรื่องอัตราการกินน้ำมันและก็เรื่องเดินเบาแล้วจะเอามาเล่าสู่กันฟังครับ

สำหรับของคุณ เท่าที่ดูจากปีรถ สถาพรถน่าจะยังไม่เก่า และเท่าที่คุณบอกว่าล้างตัวเดินเบาแล้วยังมีอาการอีก ก็คงไม่ใช้เกี่ยวกับตัวเดินเบาแล้วครับ ถ้าจูนแล้วไม่จบอีก คงต้องเช็คระบบเครื่องเกี่ยวกับพวกสายแวคค่ำ(ไม่แน่ใจว่าพิมพ์ถูกหรือเปล่า)ต่างๆว่ามีการรั่วหรือไม่ เพราะอาการนี้ผมเคยได้ยินจากเพื่อนพ่อที่เขาใช้ Accord 95 ซึ่งตอนเขาเอาไปติดแรกๆ เขาเองก็จูนจนนิ่งแล้วก็ยังมีอาการเบาอีก ทั้งล้างตัวเดินเบาก็แล้วอะไรก็แล้วก็ไม่หาย แต่ต้องขอบอกก่อนว่าเพื่อนพ่อคนนี้เขารู้เกี่ยวกับเรื่องเครื่องพอสมควร ก่อนหน้าที่เขาอยู่เมืองไทย เขาเคยเป็นช่างของรถที่บริษัทนึงที่เมืองนอก ซึ่งบริษัทนี้ก็ค่อนข้างดัง ทำให้เขารู้เรื่องเกี่ยวกับรถพอสมควร(ซึ่งบางความรู้ผมก็ได้มาจากเขาเหมือนกัน) แล้วมีอยู่วันนึงเขาเจอสายเส้นนึงรั่ว รู้สึกว่าเป็นสายแวคค่ำ(ไม่แน่ใจว่าจะเป็นสายลมหรืออะไรประมาณนี้มั่ง)รั่ว เขาก็เปลี่ยนสายเส้นนั้น หลังจากนั้นอาการเบาก็หาย แล้วก็จูนนิ่งมาจนวันนี้ครับ แต่รถเขาเป็นรถเก่า เป็น10 ปีแล้วมันก็น่าที่จะมีปัญหาเกี่ยวกับสายต่างๆได้ แต่ว่าในกรณีของรถคุณ รถใหม่มาก ผมว่าน่าจะลองจูนดูอีกสักพักนึง ถ้าเบาก็จูนแรงขึ้นมาอีกนิดนึงก็ไม่น่าจะมีปัญหา แต่ว่าค่าจริงๆที่จะจูนจะได้มาจากค่าของรถยนต์ตอนที่ใช้น้ำมัน ถ้าเป็นแก็สน่าจะต้องใกล้เคียงน้ำมันครับ ยังไงก็ลองดูนะครับ

ปล. ไม่ทราบว่าหัวฉีดที่ใช้เป็นระบบอะไรอ่ะครับ :-[


ครับ คันนี้น่าสนใจเกี่ยวกับการขัดไอดีไอเสีย ไม่ทราบว่าหลังจากทำแล้วผลเป็นยังไงบ้าง ยังไงถ้าติดเสร็จก็เล่าสู่กันฟังนะครับป๋ม   :)

ใกล้สามเสนครับ  ถ้าไม่อยากบอกหน้ากระทู้ก็เมล์มาก้อได้ครับ  kornkitj@hotmail.com

ครับUpข้อมูลเพิ่มนิดนึง(จริงๆแล้วถ่ายน้ำมันเครื่องหลายวันแล้วแต่พอดีลืมโพส ก็เลยเอามาฝากกันครับ)

ถ้าจำไม่ผิดเมื่อวันที่ 12มิถุนายน2550(หน้า5) ผมได้มีการพูดถึงเรื่องของสีของน้ำมันเครื่องว่าหลังจากใช้ไปแล้วเป็นยังไงบ้าง

อันนี้คือกิโลของคราวที่แล้ว

(http://i158.photobucket.com/albums/t93/anodite_studbar/DSCF1386copy.jpg)

อันนี้คือกิโลเมตรล่าสุด(ที่เปลี่ยนน้ำมันเครื่อง)

(http://i158.photobucket.com/albums/t93/anodite_studbar/anodite_1/DSCF2967copy.jpg)

อย่างแรกที่จะดูกันก็คือเรื่องของสีน้ำมันเครื่อง

คราวที่แล้วผมใช้ PTT OW40 สีของน้ำมันเครื่องยังไงใส่อยู่ตามรูปข้างล่างนี้

(http://i158.photobucket.com/albums/t93/anodite_studbar/DSCF1362copy.jpg)

อันนี้เป็นรูปตอนถ่ายน้ำมันเครื่อง สังเกตสีให้ดีๆนะครับ ว่าสีต่างกันโดยสิ้นเชิง(ทั้งๆที่ใช้ไปแค่แปดพันกว่าโล นี่ถ้าเกิดว่าไม่ได้ไปต่างจังหวัดผมคงใช้ไปจนครบอ่ะครับ)

(http://i158.photobucket.com/albums/t93/anodite_studbar/anodite_1/DSCF2955copy.jpg)

(http://i158.photobucket.com/albums/t93/anodite_studbar/anodite_1/DSCF2960copy.jpg)

เท่าที่ผมได้คุยกับหลายๆคน ได้คำตอบอย่างนึงว่า การใช้แก็สอย่างเดียว เวลาถ่ายน้ำมันเครื่องมันจะใส่มาก(ถึงมั๊กมาก) แต่สีที่ผมได้นี้มันไม่ใส่อย่างที่ได้ยินมา ก็ลองมานึกๆดูก็นึกได้ว่า เวลาสตาร์ทผมก็ใช้น้ำมัน บางครั้งก็วิ่งน้ำมันบ้าง และบางทีกลัวบ่าวาวล์มันจะแห้ง ผมก็สตาร์ทน้ำมันทิ้งไว้สักพักแล้วดับเครื่อง ซึ่งน้ำมันที่ผมใช้อยู่(ไม่ว่าจะสตาร์ทหรือเลี้ยงบ่าวาวล์)ตอนนี้คือน้ำมัน 95 ทำให้คราบที่เผาไหม้ไม่หมดจากน้ำมันที่เราเติมมาจมรวมอยู่ก้นแท้ง เวลาเราถ่ายมันก็เลยเป็นสีนี้ครับ แต่ถ้าเป็นรถที่ใช้แก็สเพียวๆเช่นตอนสตาร์ทก็สตาร์ทด้วยแก็ส เวลาใช้แก็สก็ไม่เคยใช้น้ำมัน เวลาเกิดการเผาไหม้ของแก็สจะทำให้เผาไหม้หมดจด ไม่เหลือคราบ น้ำมันเครื่องที่ออกมาสีก็จะใกล้เคียง(น่าจะนะครับ เพราะยังไม่เคยใช้แก็สเพียวๆแบบไม่ใช้น้ำมัน และไม่กล้าด้วย กลัวไปก่อนครับ)ตอนแรก แต่ปัญหาเกี่ยวกับเครื่องก็จะตามมา ซึ่งอะไรนั้นคงตอบไม่ได้ แต่ก็ไม่อยากเจอปัญหาแบบนี้ครับป๋ม

เรื่องที่สองก็คือเรื่องเกี่ยวกับกรองอากาศ ถ้าจำได้ ผมเอาอันใหม่ใส่แทนอันเก่า(คือง่ายๆ เปลี่ยนมันทุกครั้งที่เปลี่ยนน้ำมันเครื่องคือหมื่นโลเปลี่ยนที)

อันนี้คือรูปตอนที่ยังใหม่ๆครับ

(http://i158.photobucket.com/albums/t93/anodite_studbar/DSCF1365copy.jpg)

รูปนี้คือรูปกรองหลังจากที่ใช้ไปเกือบหมื่นโลครับ

(http://i158.photobucket.com/albums/t93/anodite_studbar/anodite_1/DSCF2963copy.jpg)

สังเกตสีของกรองที่เป็นสีเขียวดีๆนะครับ จะเห็นได้ว่าสีออกดำกว่าเก่าเยอะมาก คราบจับทำให้เป็นสีขนาดนี้ ผมลองเอามาเป่าดู ฝุ่นมันออกนะครับ แต่ว่าสีของคราบก็ยังคงอยู่ ซึ่งระบบแก็สนี้เรื่องของอากาศสำคัญมาก กรองควรจะเปลี่ยนใหม่ทุกครั้ง(ครั้งนี้ผมก็ได้เปลี่ยนใหม่เหมือนกัน แต่คราวนี้ลองใช้ของแท้ดู คือประมาณว่าของแท้เป็นสีขาว อยากรู้ว่าใช้ไปหมื่นโลสีจะเป็นยังไงบ้างอ่ะครับ)

เรื่องที่สามอาจจะดูไม่ค่อยเกี่ยวกัน แต่ว่าจากประสบการณ์จากรถคันเก่าๆของผมที่เจอมา จุดนี้เป็นที่ไม่น่าเจอ และเคยตกม้าตายแค่จุดเล็กๆแค่นี้ คือเรื่องฝาหม้อน้ำ

มาดูรูปกันก่อน อันนี้คือรูปฝาหม้อน้ำอันเก่าครับ(แท้ติดมากับรถ แต่ก็ดำเอาเรื่องอยูพอสมควร ตามการใช้งานครับ)

(http://i158.photobucket.com/albums/t93/anodite_studbar/anodite_1/DSCF2968copy.jpg)

รูปนี้คืออันใหม่ (ของแท้เช่นกันครับ)

(http://i158.photobucket.com/albums/t93/anodite_studbar/anodite_1/DSCF2965copy.jpg)

คราวนี้หลายๆคนคงงงๆว่ามันเกี่ยวอะไรกับแก็ส จริงๆแล้วอันนี้ไม่ใช้แค่แก็สเท่านั้น แต่ว่าวิ่งระบบน้ำมันก็อาจจะเจอได้ ผมจะเล่าให้ฟัง ก่อนหน้านี้ผมเคยใช้รถเกาหลียี่ห้อนึงซึ่งรถยี่ห้อนี้ใช้เครื่องดีเซลของเยอรมันยี่ห้อนึงอยู่(หลายๆคนคงทราบว่ายี่ห้ออะไร) ช่วงแรกๆใช้งานก็ไม่มีปัญหา แต่ตอน8หมื่นโล(ใกล้ๆกับตอนนี้) ผมอยู่วิภาวดีรังสิต อยู่ดีๆความร้อนมันก็ขึ้นสูง ประมาณว่าเกือบถึงฮีทข้างบนเอาเลยครับ ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ไม่เป็นอะไร ผมก็จอดข้างทางแล้วเปิดฝากระโปรง ควันขึ้นเลยครับ  :P แล้วอยู่ดีๆน้ำมันก็ไหลนองพื้นไปหมด  :P ทำไงดีอ่ะ ตอนนั้นก็ไม่ค่อยประสีประสาอะไรกับรถมัน  :(  ผมไม่รู้ทำยังไงก็ทิ้งไว้สักพักนึง รอจนมันเย็นแล้วผมก็ขับไปให้อู่ที่ซ่อมรถรุ่นนี้เขาดูซึ่งเป็นอู่ประจำที่ผมเคยให้เขาทำ พอไปถึงเขาก็เปิดฝากระโปรงดู เชื่อไหมครับ ว่าน้ำแห้งเลยครับ  :P โดนค่าซ่อมไปหลายหมื่น  :'( (อันนี้ก็เลยเป็นสาเหตุที่ทำให้หันมารักซีวิคก่า  ;)  )   แต่ก่อนที่จะซ่อม ช่างเขาก็บอกสาเหตุว่าที่น้ำแห้งก็เพราะว่าฝาหม้อน้ำมันหมดสภาพ(เท่าที่จำได้รู้สึกว่าจะเป็นยางดำๆคล้ายๆของอันนี้แหละครับ) ทำให้แรงดันในหม้อน้ำดันออกมากขึ้น เมื่อมากขึ้นก็ดันเอาน้ำที่อยู่ในหม้อน้ำ(รวมถึงระบบเครื่องด้วย)ออกมาหมด เมื่อน้ำออกมาหมด ก็ไม่มีระบบน้ำเพื่อไปหล่อให้เครื่องมันเย็นเวลาวิ่ง เวลาวิ่งไปเครื่องมันก็ร้อนขึ้นร้อนขึ้น ถ้ามีน้ำหล่อมันก็จะเย็นในระดับของมัน แต่พอดีผมวิ่งไปที่อู่ ประมาณว่าน้ำแห้งเลยครับ มันก็ฟังอ่ะครับ  :o ทำให้เวลาผมใช้คันนี้ ผมนึกถึงเหตุการณ์นั้นทันที ซึ่งผมเองก็รีบเปลี่ยนอันใหม่โดยที่ไม่ต้องคิดเลยครับ  :-[   แล้วมันเกี่ยวฝาหม้อน้ำเกี่ยวอะไรกับระบบแก็สล่ะ ความร้อนไงครับ เวลาเราใช้น้ำมันเครื่องก็ทำงาน ความร้อนมันก็มีอยู่ในเครื่อง เวลาเราใช้แก็ส ถ้าเพื่อนๆจำได้ ผมเคยบอกไว้ ว่าเวลาใช้แก็สเครื่องจะร้อนกว่าตอนใช้น้ำมัน รวมไปถึงระบบต่างๆของเครื่องด้วย และเช่นเดียวกันกับหม้อน้ำและฝาหม้อน้ำ เมื่อใช้แก็สความร้อนในหม้อน้ำก็ต้องมากกว่าตอนใช้น้ำมัน ซึ่งจะทำให้แรงดันที่อยู่ในหม้อน้ำมีมากขึ้นด้วยเช่นกันครับ เมื่อแรงดันมากขึ้น มันจะดันฝาหม้อน้ำนี้ไปเรื่อยๆ เมื่อไรที่ยางมันเสื่อมแล้วเราไม่รู้ มันจะทำให้น้ำรั่วออกมา คราวนี้แหละครับ จะได้รู้ว่าเสียแค่ร้อยกับเสียเป็นหมื่นเป็นยังไงครับ  ;)

และอีกเรื่องนึงเครื่องเรื่องน้ำในหม้อน้ำ เมื่ออาทิตย์ก่อนผมเดินทางต่างจังหวัด ปกติผมก็มีเช็คน้ำอยู่แล้ว คราวนี้วันที่ไปถึงมันก็เย็นมากประกอบกับเครื่องยังร้อนอยู่ผมก็ไม่กล้าเปิด กลัวน้ำในหม้อน้ำจะลวกหน้าเอา  :-[ ก็เลยรอถึงตอนเช้า ผมก็ลองเช็คดู เป็นไปตามคาดครับ น้ำหายไปเหมือนกัน  :'( ผมก็เลยเอาน้ำมาเติม  :-X และเรื่องนี้ก็เป็นอีกเรื่องที่สำคัญมากเช่นกัน อย่าเติมน้ำขณะที่เครื่องร้อน ทำไมหรอครับ  ::) ก็เพราะว่านอกจากเวลาเปิดหม้อน้ำ แรงดันน้ำฟุ่งออกมาจะทำให้เสียโฉมได้แล้วนั้น  :-[ เวลาเราเติมน้ำไปตอนร้อนๆ อย่าลืมว่าอุณหภูมิของน้ำที่เราเติมเย็นกว่าน้ำมันหม้อ เวลาเติมไปอุณหภูมิที่ต่างกันจะทำให้เกิดความเสียหายทั้งหม้อน้ำและเครื่องได้ครับ

เป็นอีกเรื่องนึงที่คิดว่าไม่สำคัญ แต่จริงๆแล้วเรื่องเล็กน้อยก็สามารถที่จะทำความเสียหายให้แก่เราได้ครับ ก็เอามาฝากเพื่อนกันทั้งความรู้และอุทาหรณ์เกี่ยวกับการใช้รถ เพื่อที่จะได้ไม่เจอในสิ่งที่ผมเจอครับ มาแชร์ความรู้กันเยอะๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องแก็ส ร้านที่ติด ระบบที่ใช้ หรืออะไรก็ตามที่เกี่ยวกับแก็ส ผมเชื่อว่าคงมีคนที่อยู่ในวงการแก็สเข้ามาดูเหมือนกัน อย่างน้อยๆ เขาจะได้พัฒนาระบบให้ดีกว่าตอนนี้หรือไม่ก็คนที่ใช้แก็สเจอปัญหาแล้วมีทางแก้ไข ไม่ใช้ติดแก็สจากร้าน เวลามีปัญหาแล้วให้เจ้าของรถงมหาเอาเอง อย่างนี้ใช้ไม่ได้ครับผม  :)



 
 

CIVIC GX LPG

เลียนแบบ GX ที่ใช้ NGV ที่เมืองนอกเลย  ;)

เมื่อวานไปเปลี่ยนน้ำมันเครื่องกับหัวเทียนที่ Autobacs เลยสอยตัวอักษร GX มาเตรียมไว้แล้ว

(http://www.autobloggreen.com/media/2006/05/CNGnunsCivicRear.jpg)

น่าสนใจ แต่มันเป็นของ NGV อะดิ ไม่มีของ LPG เหรอ
ใครมีความสามารถช่วยคิดหน่อย  ;D ;Dถังแคปซูลใช่ป่าวครับ มันจะเพิ่มได้อีกเหรอครับ เท่าที่ผมเห็นมันเต็มท้ายแล้วนะ ไม่แน่ใจเหมือนกัน 58 ลิตรนี่ก้อ 6 ร้อยโลสบาย ๆ แล้วนะ(ตจว.นะ) ใส่ถังใหญ่ มันจะหนักรถเดี๋ยวได้เข้าไปรองฐานโช๊คกะพี่ใหม่อีกรอบแน่  ;D ;D

ยังไงถ้าติดแล้วรบกวนถ่ายรูปหรือแชร์ข้อมูลเกี่ยวกับNGV พื่อเป็นประโยชน์สำหรับคนที่สนใจแก็สNGVอ่ะครับ

ขอบคุณล่วงหน้าครับ  :-*

ไม่ได้จะติด NGV ครับ

กำลังจะไปติด LPG หัวฉีด Autronic คร้าบ
แค่จะเอาตัวอักษร GX มาติดที่รถเฉยๆ จะได้เป็นรถแก๊สเต็มตัว (CIVIC รุ่น GX เป็นรุ่นที่ใช้เชื้อเพลิง NGV ครับ มีขายที่เมืองนอกเท่านั้น)
 ;D

คุณทราบรายละเอียดของเครื่องตัวติดแก๊สที่ขายที่เมืองนอกป่าวอะ อยากรู้ว่าเค้าทำไรเพิ่มเป็นพิเศษจากรถกินน้ำมันป่าว เป็นข้อมูลครับ

แหม เข้าใจผิดเอง ขอโทษครับป๋ม

ไงติดแล้วก็มาเล่าสู่กันฟังบ้างนะครับ

เซ็งโคตร  

ที่บอกก่อนหน้าว่าวันนี้จะไปติดตั้งแล้ว
พอวันนี้ขับรถไปถึงที่ร้าน ที่ร้านบอกของไม่มี แม่งเลยแล้วทำไมไม่โทรบอกเนี่ย แล้วยังมามีหน้าบอกว่าช่วงอาทิตย์หน้าให้โทรถามอีกที
ผมก็ตอบ ครับๆ ไป แต่ในใจบอก "อย่าหวังว่ากูจะติด ร้านไม่ได้มีร้านเดียว" (ขออภัยที่ใช้คำรุนแรง) แค่นี้ก็เสียความรู้สึกแล้ว นัดก็นัดแล้ว ต้องมาเสียเวลาหาร้านใหม่อีก เปลืองน้ำมันก็เปลือง


สอบถามเพิ่มหน่อยครับ Autronic มีใครติดแล้วจบบ้างครับ เพราะวันนี้โทรไปคุยอีกร้านแถวพัฒนาการ เขาบอกรุ่นนี้ติดแล้วไปจบ

เขาเลยแนะนำพวก e-gas กับ Power Jet  มันดีไหมสองรุ่นนี้

 

ครับ ผมพอจะเข้าใจอยู่ หลายๆร้านเป็นแบบนี้ทำให้หลายๆคนพลอยเบื่อไปด้วย นัดไม่เป็นนัด ผมอยากจะบอกสำหรับร้านที่ติดแก็สนะครับ คุณอย่าเอาแต่รับลูกค้า ต้องดูด้วยว่างานคุณล้นมือหรือเปล่า บางร้านนัดไว้พรุ่งนี้เสร็จ แต่พอจริงๆก็เลื่อนไปอีกสองสามวัน ถ้าคุณทำไม่ทันก็นัดเป็นวันอื่น นัดวันให้ชัวร์ๆ แล้วเมื่อถึงวันนัดคุณต้องรับรถลูกค้าแล้วทำให้เขาเสร็จ ผมว่าจะดีทั้งตัวร้านและเจ้าของรถเขานะครับ

รู้สึกว่าร้านที่ผมเอาไปติดแก็ส เขาก็จะติดให้ ES โดยหัวฉีดที่เขาใช้มีแค่ยี่ห้อเดียวคือ Autronic ซึ่งเท่าที่ผมไปดูมาก็ไม่มีปัญหาอะไรครับ สำหรับร้านอื่นผมไม่ทราบข้อมูล ส่วนอีกสองรุ่นนี้ผมก็ไม่ทราบเหมือนกันครับ คงต้องรอท่านอื่นมาตอบอีกทีนะครับ

http://automobiles.honda.com/civic-gx/ (https://www.welovecivic.com/go.php?url=http://automobiles.honda.com/civic-gx/) (https://www.welovecivic.com/image/link.png)
เข้าไปเจอมาเลยเก็บมาฝากครับ ท่านใดเก่งๆทั้งภาษาเเละเรื่องเครื่องยนต์มาแปลความทีจิครับ ผมอ่อนด้อยทั้ง 2 เรื่อง 
113 แรงม้า เครื่อง 1.8-Liter, 16-Valve, SOHC i-VTEC? 4-cylinder engine 
เต็มถังมันวิ่งได้ 350- 400 โล ก็พอๆกับ ที่พี่ๆเติมกันอยู่เลย
น่าจะเอาเข้าบ้านเรามั่งเนอะ ลดโลกร้อน แถมยังถูกตังคนขับด้วย
แต่ราคาก็เอาเรื่องอยู่เหมือนกันนะครับนี่ 24590 เหรียญ เป็นเงินไทยก็ 836060 บาท เข้ามาบ้านเรารวมภาษีเข้าไปอีกก็ น่าจะแพงหลาย

ผมว่าติดAutronic น่าจะไว้ใจได้มากกว่านะครับ เพราะว่าคนติดกันเยอะ มากๆ ส่วนตัวผมก้อติดตัวนี้อยู่ ไม่เจอปัญหาอะไรเลยถ้าช่างฝีมีอติดเนียน ๆ แล้วก้อจูนดีๆ ก้อไม่มีปัญหาไรแน่นอนครับ รถผม EXI เดิม ๆ ทุกอย่างวิ่งแก๊สเนียนเหมือนน้ำมันเลย อัดก้อได้ 180 สบาย ๆ เหมือนต่อได้แต่ใจไม่ถึง  ;D (ยกเว้นรอบเดินเบาต้องลองล้างปีกผีเสื้อดูก่อน  ::) ) อีกอย่างเคยเห็นช่างเค้าพูดว่าตัวแทนในเมืองไทยเยอะ ถ้าอุปกรณ์มีปัญหาก้อเคลมง่ายด้วย ลองหาร้านดีๆ ร้านอื่นไปก่อนดีกว่าครับ ???
 
ขอบคุณมากครับ แต่อ่านไม่ออกอะ แล้วก้อไม่มีความรู้เรื่องเครื่องยนต์พอจะเดาได้อะ :(

อยากติด LPG ค่ะ  :)  แต่ไม่มีข้อมูลซักเท่าไหร่ อยากให้ช่วยแนะนำหน่อยว่าควรติดดีมั้ย ตอนนี้ใช้ civic 07 อยู่ค่ะ  ยังไงก็ช่ยบอกด้วยนะกร๊าบบบบบบบบบบบบบ  :-[ 

เท่าที่ดูจากลายเซนต์ รถยังใหม่มาก ผมว่าควรวิ่งครบสัก40000โลไปแล้วถึงจะน่าติด เพราะอย่างน้อยๆก็เกี่ยวกับการประกันเรื่องเครื่องด้วยนะครับ แต่ถ้าไม่ซีเรียส ก็ติดได้เลยครับ เป็นระบบหัวฉีดของ Autronic หรือถ้ามีงบมากๆหน่อยก็เล่น NGV ไปเลยครับ แต่สำหรับNGV เท่าที่ทราบรุ่นนี้ยังไม่มีใครติด เลยไม่สามารถให้ข้อมูลตรงนี้ได้ แต่ถ้าเป็นLPGก็เห็นติดไปหลายคันแล้ว สาเหตุว่าทำไมบางคันรถใหม่ๆถึงติดโดยที่ไม่แคร์เรื่องประกันเครื่อง ก็เพราะว่าตอนนี้ราคาน้ำมันขึ้นมากถึงมั๊กมาก 95 เลย30บาท ถ้าจะหวังให้ลงกว่านี้คงเป็นไปไม่ได้แน่นอน แก็สไม่ว่าจะเป็นLPGหรือNGV ก็ยังคงเป็นทางเลือกใหม่ที่ถูกกว่าน้ำมันแก็สโซฮอลแน่นอน สำหรับร้าน อันนี้ผมไม่อยากแนะนำ เดี๋ยวจะหาว่าผมไปโปรโมทร้านเขา ถ้าสนใจก็PMมาแล้วกันนะครับ ที่สำคัญที่สุดไม่ว่าจะเป็นระบบไหนก็ตาม ขอให้เลือกร้านดีๆ มีความรับผิดชอบ และบริการหลังการติดด้วย จะช่วยให้เราใช้แก็สอย่างไม่เหนื่อยๆ ก็อย่างที่โฆษณาในทีวีเขาว่านะครับ "เมื่อก่อนเติมทีเต็มถังจ่ายแบงค์พัน แต่เดี๋ยวนี้เต็มถังแค่แบงค์ร้อยเอง" ก็เลือกดูแล้วกันนะครับป๋ม

ไปติดมาแล้วครับ AG Centrum ฉายา ไอ้หัวแดง เนียนครับ วิ่งนิ่งดี ผมลองลากรอบดูก็ได้สบาย รอบเดินเบายังไม่มีดับ
มีเสียงวาล์วหัวฉีดเข้าในห้องเครื่องนิดเดียว นิดเดียวจริงไม่ตั้งใจฟังไม่ได้ยินครับ เพราะถามแฟนว่าได้ยินไหม เขาบอกไม่ได้ยิน
แต่ว่าตอนนี้แบตเตอรี่รถผมมันหมดสภาพแล้ว ทำให้การทำงานของ Auto Switch มันรวนๆ LED มันจะกระพริบเหมือนแก๊สจะหมด เพราะไฟไม่พอ ต้องเปลี่ยนแบตก่อน

แล้วเดี๋ยวขอวิ่งดูสักพักแล้วจะมาเล่าให้ฟังอีกครับ

คุณโอ๋ ขอดูรูปการติดตั้งด้วยจิ อยากเห็นหน้าตาเค้าอะ ::) แล้วค่าเสียหายเท่าไรอะ แล้วจัดถึงกี่ลิตรมาครับ
ว่าง ๆ ลองวัดกะ Autrinic ป่าว แต่ผมคงสู้ไม่ได้หลอก A/T  ;D ;D
การทำงานเป็นไงอะ เหมือน Autronic ป่าวอะ  ::)

ผมกะจะไปติดเหมือนกันครับ ES 04 อยากติดแบบครั้งเดียว จบ ก็น่าจะ เป็นหัวฉีด ใครมีร้านที่ทำครั้งเดียวจบ ก็บอกๆกันมั้งนะครับ ขอบคุณครับ

ค่าอุปกรณ์พร้อมติดตั้ง 32,000 ไม่รวมค่าใบวิศวะต้องไปตรวจเอง
     - ได้ครบชุดถัง 58 Lites ผมเอาสีดำ, Auto switch
ค่าแรงล้างปีกผีเสื้อ 250

รายละเอียดอุปกรณ์ตามนี้เลยครับ
http://www.engineergas.com/vhcs2/aiweb/modules.php?name=Page_View&page=AG%20Info.html

ส่วนเรื่องระบบการทำงาน
ก็น่าจะเหมือนกันนะ ก็สตาร์สด้วยน้ำมัน รอ 45 นาที, อุณหภูมิ 60 องศา, รอบเครื่อง 2000 รอบ
ของผมไม่ได้ตัดปั๊มติ๊ก นะครับเอาไว้เวลาเปลี่ยนสลับ แก๊ส-->น้ำมัน จะได้ไม่สะดุด แล้วก็ไม่สะดุดจริงๆ ดูไม่ออกเลย นอกจากเสียงเครื่องเปลี่ยนนิดเดียวส่วนนึงน่าจะเป็นเพราะหัวฉีดแก๊สหยุดทำงาน

ส่วนตอนที่แก๊สหมดก็จะตัดกลับมาเป็นน้ำมันอัตโนมัติทันทีพร้อมเสียงเตือนให้กดรับรู้ว่าใช้น้ำมัน

ของผมติดที่นี่ครับ
www.engineergas.com ที่นี่ประสบการณ์การติดไม่ต้องพูดถึง 10 กว่าปี เจ้าของร้านคุณต้อมเป็น Traniner สอนติดตั้งหัวฉีดด้วย
ที่สำคัญจบลาดกระบังเหมือนกันกับผมเลยเลือก การให้ข้อมูลของที่นี่ดีครับ ถ้าสนใจที่นี่ก็ลองโทรคุยดู

วันนี้เพิ่มเติมนิดนึงเกี่ยวกับระบบแก็สแบบหัวฉีดนะครับ พอดีว่าก่อนหน้านี้ผมได้พูดถึงว่าเพื่อนพ่อผมเพิ่งเอาเจ้า 525 ปี94 ไปติดแก็สระบบหัวฉีดมา คราวนี้ผมก็เลยเอาภาพมาให้ชมกันพร้อมกับความรู้ที่ไม่ใช่แค่คันนี้ที่เจอ ไม่ว่าคันไหนอาจจะเจอแบบนี้ก็ได้ครับ

คราวนี้มาดูการติดตั้งในห้องเครื่องคันนี้นะครับ

(http://i158.photobucket.com/albums/t93/anodite_studbar/anodite_1/DSCF3433copy.jpg)

ถ้าดูจากรูปจะดูได้เลยว่าการเดินของงานค่อนข้างเนียนแทบดูไม่ออกถ้าไม่ได้สังเกต

(http://i158.photobucket.com/albums/t93/anodite_studbar/anodite_1/DSCF3434copy.jpg)

อันนี้เป็นตัวจ่ายเข้าไปหัวฉีด ถ้าสังเกตดีๆจะมีสายออกทั้งหมด6สายเพราะว่าคันนี้เขาเป็นเครื่อง6สูบครับ ถ้าเป็นซีวิค เป็นเครื่อง4สูบ ก็จะมีสายออกมาแค่สี่สายครับ

(http://i158.photobucket.com/albums/t93/anodite_studbar/anodite_1/DSCF3439copy.jpg)

ส่วนถังที่ใช้ก็เป็นถังระบบมัลติวาวล์ ซึ่งค่อนข้างให้ความปลอดภัยพอสมควรครับผม

คราวนี้ก็มีเรื่องเกี่ยวกับระบบหัวฉีดสำหรับคันนี้มาเล่าให้ฟังนิดนึง ผมเองก็ไม่แน่ใจว่าจะเกิดกับคันอื่นหรือเปล่า พอดีคันนี้เจ้าของเล่าให้ผมฟังผมก็เลยเอามาให้ดู

(http://i158.photobucket.com/albums/t93/anodite_studbar/anodite_1/DSCF3435_1.jpg)

ให้ดูจากรูปข้างบน สังเกตจากเบอร์1ที่ลูกศรชีนะครับ สายเส้นนี้จะเป็นสายยางที่น้ำออกมาจากเครื่องซึ่งมีความร้อนสูงจะผ่านกลับเข้าไปหม้อน้ำซึ่งความร้อนของเครื่องจะถูกลดลงด้วยพัดลมหม้อน้ำนี้แล้วก็กลับเข้าไปสู่เครื่องอีกที คราวนี้ถ้าสังเกตดีๆ ตรงนี้เป็นจุดแยกออก ซึ่งเดิมจริงๆแล้วสายเดิมก็จะตรงเข้าสู่หม้อน้ำโดยไม่มีการแยกในจุดนี้ แต่ว่าบังเอิญคันนี้ติดแก็ส การที่จะทำให้น้ำมันเปลี่ยนไปเป็นแก็สได้นั้น ก็ต้องใช้ความร้อนของเครื่องเข้ามาเป็นตัวทำให้sensorของระบบแก็สทำหน้าที่ตัดเข้าสู่ระบบ

(http://i158.photobucket.com/albums/t93/anodite_studbar/anodite_1/DSCF3438_1.jpg)

จากรูปข้างบนนี้ ก็เป็นจุดที่ผมบอกคือจุดที่ทำให้ระบบแก็สรับรู้ถึงความร้อนที่มาจากเครื่องว่าอุณหภูมิเท่าไร(ตามที่ตั้งไว้)แก็สถึงตัดเข้าระบบ

คราวนี้ถึงตรงนี้ถ้าดูจากรูปก่อนหน้านี้(ที่มีลูกศรชีเบอร์1) จริงๆแล้วเมื่ออุณหภูมิถึงจุดร้อนของเครื่อง แรงดันน้ำในระบบก็จะมากขึ้น ซึ่งก็จะสามารถผ่านระบบไปได้ทั่วทั้งหมดเท่าที่มีต่อเอาไว้ แต่ว่าเจ้าของเขาเล่าให้ผมฟังว่า ตอนเช้าช่วงเครื่องเย็นเขาสตาร์ทรถ แล้วเขาเปิดเครื่องดู  อยู่ที่ดีตัวจ่ายแก็ส(รูปล่างนี้)ตรงที่ลูกศรชี้ เป็นน้ำแข็งครับ

(http://i158.photobucket.com/albums/t93/anodite_studbar/anodite_1/DSCF3434_1.jpg)

คราวนี้มาถึงว่ามันเป็นไปได้ยังไง ไม่ใช่แค่เป็นน้ำแข็งเท่านั้นนะครับ ระบบแก็สยังไม่ตัดเป็นน้ำมันซึ่งกว่าจะตัดได้ก็ใช้เวลานานพอสมควร แล้วเจ้าของเขาค่อนข้างเก่งพวกเครื่องเขาก็ลองจับดูที่สายยาง(ลูกศรเบอร์1) ก็ยังมามีความร้อน คราวนี้มาถึงเบอร์ 3 ก็ยังมีความร้อน แต่ให้สังเกตตรงที่เป็นท่อทองแดงดีๆนะครับ เขาจับดู ปรากฎว่ามันไม่ร้อนครับ มันเย็นมาก ซึ่งตรงนี้เขาก็เล่าให้ผมฟังแต่ผมดันลืมไป แต่เท่าที่จับใจความได้ก็ประมาณว่าความร้อนของเครื่องในตอนสตาร์ทเครื่องใหม่ๆ เครื่องยังคงเย็นอยู่ทำให้การไหลหรือแรงดันของน้ำในระบบดันไม่ทั่วถึงทำให้sensorของตัวแก็สยังไม่ทำงาน เมื่อถึงจุดที่จะตัดแต่ไม่สามารถตัดได้ ก็เกิดความเย็นที่ตัวจ่าย ทำให้เกิดน้ำแข็งตรงนี้ได้ ซึ่งเจ้าของเขาก็บอกกับผมว่าเขาลองดับเครื่องดู แล้วคราวนี้สตาร์ทอีกทีนึงแล้วรอสักพัก อยู่ดีๆน้ำแข็งก็หายไปแล้วตัวท่อทองแดงที่ตอนแรกเย็นเหมือนไม่มีความร้อนผ่านก็ร้อนขึ้น ซึ่งผมก็คิดว่าsensorตัวนี้คงรอให้ระบบน้ำนี้ร้อนจนถึงอุณหภูมิที่ตั้งไว้ถึงจะตัดเข้าสู่แก็สก็เป็นได้

คราวนี้มาดูอีกเรื่องนึงคือเรื่องระดับน้ำในหม้อน้ำ เขาเล่าให้ผมฟังว่าเขาต้องเติมน้ำประมาณขวดใหญ่ๆทุกๆสามวัน ซึ่งตอนแรกเขาก็นึกว่าหม้อน้ำรั่ว เขาก็เลยเอาไปให้ร้านหม้อน้ำดูแล้วถอดออกมาเช็ค ซึ่งก็ไม่พบความผิดปกติเกี่ยวกับหม้อน้ำ คราวนี้เจ้าของรถเขาก็ลองดูไปดูมาก็มาดูที่ข้อต่อ(ลูกศรเบอร์2) เขาก็พบกว่ารั่วซึมอยู่ใต้ข้อต่อตรงที่ลูกศรชี้ ซึ่งปกติแล้วน้ำยาหล่อเย็นจะมีสีบอก แต่ว่าเขาปล่อยให้น้ำยามันเสื่อมแล้วเติมน้ำแทนที่จะเปลี่ยนน้ำยาหม้อน้ำใหม่ ซึ่งเวลารั่วถ้ามีน้ำยาหม้อน้ำมันจะมีคราบเหลือเอาไว้ แต่พอดีเป็นน้ำเปล่าก็ทำให้ยากแก่การสังเกตครับ

(http://i158.photobucket.com/albums/t93/anodite_studbar/anodite_1/DSCF3436_1.jpg)

คืออย่างว่านะครับก่อนติดแก็สคันนี้ก็อายุอานามก็หลายปีอยู่ ยางต่างๆข้อต่างๆก็อาจจะรั่วหรือซึมได้ หลังจากนั้นก็เปลี่ยนยางพร้อมกับเอายามายากันน้ำรั่วแล้วก็รัดเข้าไปเหมือนเดิมซึ่งอาการรั่วก็หายไปเลยครับ

พอดีว่าผมเองยังไม่ได้ใช้ระบบหัวฉีดแล้วก็ยังไม่มีเพื่อนๆคนไหนมาเล่าสู่ว่าระบบหัวฉีดนี้เป็นยังไงบ้างแล้วมีอะไรบ้าง ผมก็เลยเอามาฝากกันว่าระบบหัวฉีดนี้เป็นยังไงครับป๋ม

ดีครับ...หลังจากผมไปติดแก๊สLPG มา(หัวฉีด) แล้วก้อให้ขัด-ขยายพอร์ทไอดีไอเสียมาก้อลองวิ่งแล้วตอนนี้เกือบห้าร้อยโล เคยคิดออกมาก้อโลละ 1.256 บาทต่อโล ลิตรละ6.98 โล คือรวมทั้งวิ่งตอนจูนแก๊สแล้วขับกลับนครปฐม เครื่องไม่มีสะดุด แต่ผมไม่รู้ว่าอืดกว่าเดิมหรือเปล่าเพราะตอนติดแก๊สก้อขัดพอร์ทเลยผลออกมาก้อเลยไม่แน่ใจแต่เหมือนจะดีกว่าเดิมประมาณเกือบ10% แต่ไม่รู้สึกขนาดเห็นความแตกต่างมากไม่เหมือนแมงกาไซต์ตอนที่แยงเสื้อสูบจะเห็นผลมากเกือบ 40-50% เลย ตอนแรกขาคันเร่งผมหักด้วยถ้าชาว KE เคยดูตรงขาคันเร่งจะมีแผ่นเหล็กบางๆ รองขาคันเร่งอยู่ตรงน้นผมฉีก ทำให้หยีบคันเร่งได้น้อยทำให้ติดพื้นรถก่อนมันจะค่อยๆฉีกทำให้เราไม่รู้สึกมากเหล็กมันบางมาก อยากให้พี่น้องดูครับผมเลยหาพลาสติกรองแผ่นเหล็กให้คันเร่งสูงขึ้นมาเวลาเราหยีบสุดจะได้ไม่ติดพื้นครับ ส่วนราคาติดแก๊ส 33,000 ขัดพอร์ด 5,000 แล้วเปลี่ยนลูกยางช่วงล่างปีกนก กันฝุ่นพวงมาลัยและอื่นๆทั้งหมด+ตั้ง0  9,000 และตีตู้ปิดถังแก๊ส1,500 และกำลังไปติดกระปุกออโต้ลุฟเพิ่มครับกลัววาวล์จะไปเร็วครับประมาณ 600  ผมอยากโมกล่องให้เทคเปิดเร็วกว่าเดิมพี่น้องพอจะแนะนำได้ไหมครับว่าที่ไหนทำบ้าง และเพื่อนน้องพอทราบว่าที่ไหนมีเฮดเดอร์นอกเครื่อง D 16 Y 8 บ้างครับรบกวนช่วยแนะนำด้วยนะครับ....(0^.^0)
 

EK ติด LPG ขอความรู้เรื่องหม้อน้ำครับ

เรื่องมีอยู่ว่าเมื่อบ่ายวันอาทิตย์ได้ขับรถไปเจอฝนตกอย่างหนักคับ ปรากฏว่าความร้อนขึ้นครับ ประมาณ 3/ 4 ของเกจ์ รถไม่ติดนะครับ (ไม่แน่ใจว่ามันร้อนก่อนที่จะเจอฝนหรือป่าว แต่เพิ่งออกจากบ้านมาได้ประมาณ 5 กม ก็เจอฝน มาเห็นเกจ์ก้ตอนที่ลุยฝนแล้ว) ก้เลยจอดปั้มแปบนึงประมาณ 2นาที ก้ขับออกมาต่อ ประมาณ 1 กม มันขึ้นมาอีกแล้วครับ ก้เลยลองเปลี่ยนจาก แก๊สมาเป็นน้ำมัน ความร้อนก้ไม่ลดลงเลยครับ ก้ฝืนขับต่อมาประมาณ 2 กม ครับ ฝนเริ่มหยุด ความร้อนเริ่มลดลงตามปริมาณน้ำฝนครับ งงสิครับนี่มันเกิดอะไรขึ้นกับรถผม จากนั้นก้ไปทำธุระต่อ ระยะทางประมาณ 20 กม ความร้อนก้ปกติครับ ถึงบ้านก้เปิดกระโปรงดูครับ น้ำเกือบเต็มหม้อพักครับ มีฟองอากาศน้อยๆด้วยครับ (ทราบมาว่าถ้าฝาโก่งจะมีฟองอากาศดันออกมาอ่ะครับ) ก้เลยอยากทราบว่าอาการที่เล่ามา ฝาสูบผมจะมีโอกาสโก่งได้หรือป่าวครับ รถที่ติดแก๊สจะมีอากาศในถังพักหรือป่าว หลังจากนั้นขับความร้อนก้ปกติอ่ะครับ แต่ยังกังวลอยู่

ต่ออีกนิดครับ ได้สังเกตเวลาเครื่องเย็นเปิดฝาหม้อน้ำดู มองเห็นน้ำนิดเดียวเองครับ มันไปอยู่ในถังพักอ่ะครับ แต่ถ้าเอาน้ำมาเติมซักขวดกระทิงแดงก็เต็มครับ แล้วในสายหม้อน้ำเส้นใหญ่ ลองบีบบดู ไม่มีน้ำเลยครับ แบบนี้เป็นอาการของรถแก๊ส หรือ วาวล์น้ำผมเสียครับ หรือว่าฝาสูบผมไปแล้วอ่ะครับ กะว่าว่าเสาร์นี้จะไปเช็คดู ระบบน้ำก่อนอ่ะคับ
พี่ๆมีข้อแนะนำควร ตรวจเช็คตรงไหนก่อนดีครับ ยังไม่อยากเปิดฝาสูบอ่ะครับ

ขอบคุณครับ

สวัสดีครับผมก้อไม่ค่อยมีความรู้เท่าไหร่ ถ้าฝาโกงก้อดูน้ำมันเครื่องจะเปลี่ยนสีเป็นสีอกขาวๆ ขุ่นบอกไม่ถูกเหมือนกันอะ เอาเป็นว่าน้ำมันเครื่องสีไม่เหมือนเดิมอะครับ ส่วนถ้าวาล์วน้ำตอนเครื่องร้อนเราลองรับท่อน้ำบนกับล่างต้องร้อนเหมือนกันถ้าไม่ร้อนแสดงว่าน้ำไม่หมุนในระบบก้อคือวาล์วน้ำไม่เปิด แต่ของผมเครื่องเย็นเปิดหม้อน้ำในหม้อน้ำ น้ำเต็มตลอดนะครับ ที่หายไม่ทราบว่าของคุณจะมีรอยรั่วไหมครับ

เอ...แต่ตอนวิ่งความร้อนลด จอดความร้อนขึ้น หรือเป็นที่พัดลมครับ เพราะวิ่งมีลดเข้ามาปะทะครับ..

ตอนนี้ทั้งจอดและวิ่งความร้อนไม่ขึ้นนะครับ แต่ตอนเครื่องเย็นเปิดฝาหม้อน้ำ น้ำไม่เต็มอ่ะครับ
เคยไปซ่อมหม้อน้ำมาแล้ว เมื่อประมาณ 6 เดือนที่แล้ว เดี๋ยวคงต้องลองไปเช็คหม้อน้ำอีกที

สงสัยหม้อน้ำจะซึม ถ้าเช็คแล้วรบกวนลงด้วยนะครับ

แนะนำตัวเองก่อนครับ คือผมเพิ่งสมัคเป็นสมาชิกเมื่อวาน แต่เราแอบดูนานแล้ว ok นายลองฟังเสียงพัดลมหน้าเครื่องก่อน เมื่อเครื่องร้อนพัดลมทำงานทำงานหรือเปล่า พัดลมอาจเสียก็ได้
ปล.ลองดูฝาหม้อน้ำด้วยนะ ถ้าเป็นสนิมแล้ว แบบยางเปื่อย ก็เปลี่ยนด้วยนะ ระวังเส้นผมบังภูเขาเหมือนรถคันเกาเรา รื้อจนหมด สุดท้ายฝาหม้อน้ำเสีย

ครับคันนี้ให้ความรู้ดีมากเลยครับ โดยเฉพาะที่ว่า ระวังเส้นผมบังภูเขา  ผมเองก็เคยเจอมาแล้วครับ(ก็อย่างที่เล่าไปก่อนหน้านี้) ลองดูอย่างที่คันนี้บอกแล้วลองไล่ดูทีละอย่าง จะได้ไม่ต้องเสียเงินเยอะครับป๋ม

อาการความร้อนขึ้นนี่ดูหลักๆ คือหม้อน้ำ พัดลมหม้อน้ำ กับ เซนเซอร์ความร้อนครับ

ตอนนี้พ่อผมเอา FD ไปติดมาแล้วครับ ติดเมื่อวาน ได้วันนี้ครับ (30 ก.ย. 50) พ่อผมติดแบบ หัวฉีดครับ มีปัญหานิดหน่อยกับช่วงล่าง คือ เวลาเติมแก๊สเต็มถัง(ถึง65ลิตร)แล้วท้ายห้อยครับ หน้าเชิดเลย(ตอนนั้นคนเดียว แต่ปกติพ่อผมไปทำงานต่างจังหวัด นั่งกัน4-5คน มันจะยุบมากเกินไปรึเปล่าครับ) ผมควรจะให้พ่อผมเอาไปรองสเปเซอร์ดีไหมครับ แล้วก็มีอีกเรื่อง ช่างทำตรงประตูหลังเป็นรอยครับ สีถลอกลึกด้วยครับ ขัดไม่หาย มีรอยเยอะแยะเลยครับ แล้วก็ทำยางขอบประตูขาดด้วยครับ จะทำยังไงดีครับ แจ้งประกันได้รึเปล่า ถ้าแจ้งแล้วบอกว่าเอาไปติดแก๊สแล้วเป็นรอยจะต้องจ่ายเงินตัวเองมั้ยครับ :'(  คิดถูกรึเปล่าเนี่ย ติดแก๊สแต่เครื่องไม่มีปัญหา มีปัญหาที่ตัวถังกับช่วงล่าง ซะงั้น :-[

ไปทำมาแล้วครับ ปรากฏว่าหม้อน้ำรั่วครับ ก้ทำการซ่อมหม้อน้ำ เปลี่ยนวาวล์น้ำ ท่อยาง บน ล่าง
หมดค่าใช้จ่ายไป 1700 ครับ ตอนนี้น่าจะปกติแล้วครับ

ปล.อยากให้แก๊สแรงเหมือนน้ำมันทำไงดีคับ  :-[

เดือนหน้าไปติดแล้ว น้ำมันแพงเหลือเกิน

แนะนำให้ทำท่อครับ แลกกับเสียงที่ดังขึ้น

แต่ถ้าจะให้แรงเท่าน้ำมัน คงต้องแลกกับเครื่องที่พังเร็วกว่าเดิม

โห.. นั่งอ่านมา 9 หน้า.. มันส์มาก
เอาล่ะ.. ไดคำตอบแระ.. ได้แคปซูลยักษ์มานอนเล่นในรถในระยะเวลาอันไกล้นี้แน่ๆ
ทีนี้มีปัญหาแล้วล่ะ..
ผมอยู่แถวๆถนนจันทน์ อยากได้อู่ติดแก๊สแถวๆบ้าน ละแวก สาทร, สาธุประดิษฐ์, พระราม 3
หรือไกลออกไปอีกก็ได้นะคับถ้าฝีมือดี รู้จัก ES ดีๆ สามารถดูแลต่อในระยะยาวได้ดีๆ
เอาแบบอู่ที่ถนัดทั้ง FixMix และ หัวฉีดก็ดีนะ เพราะยังไม่ฟันธงว่าจะเป็นระบบไหน รออนุมัติงบก่อน
ขอบคุณครับ..

เรื่องแรก
- แล้วท้ายห้อยครับ หน้าเชิดเลย(ตอนนั้นคนเดียว แต่ปกติพ่อผมไปทำงานต่างจังหวัด นั่งกัน4-5คน มันจะยุบมากเกินไปรึเปล่าครับ) ผมควรจะให้พ่อผมเอาไปรองสเปเซอร์ดีไหมครับ 
คำตอบ
- ควรเอาไปเสริมสเปเซอร์หน่อยก็ดี เพื่อว่าเวลาเดินทางไกลหรือว่าบางทีมีคนนั่งด้านหลังจะได้ไม่ห้อยมากกว่าเก่า(เพราะเก่าก็ห้อยมากอยู่แล้ว) สำหรับสเปเซอร์มีสองแบบ
แบบแรก - เป็นแบบอลูมิเนียม อันนี้ดีค่อนข้างทนแต่แข็งเวลากระแทก
แบบสอง - เป็นโพลิเมอร์ เนื้อคลายๆพลาสติก อันนี้ก็ดีไม่แข็งเวลากระแทก แต่มีโอกาสทรุดตัวเหมือนกัน(ซึ่งก็ใช้เวลานานเช่นกัน)
สำหรับร้านก็ตามร้านโช้คอัพทั่วไป (แต่ถ้าจะให้ดี ผมว่าไปหาพี่ใหม่เลยดีกว่า เขาเก่งเรื่องนี้อยู่แล้ว เบอร์โทร ดูจากcommentก่อนหน้านี้ครับ)

เรื่องสอง
- แล้วก็มีอีกเรื่อง ช่างทำตรงประตูหลังเป็นรอยครับ สีถลอกลึกด้วยครับ ขัดไม่หาย มีรอยเยอะแยะเลยครับ แล้วก็ทำยางขอบประตูขาดด้วยครับ จะทำยังไงดีครับ แจ้งประกันได้รึเปล่า ถ้าแจ้งแล้วบอกว่าเอาไปติดแก๊สแล้วเป็นรอยจะต้องจ่ายเงินตัวเองมั้ยครับ
คำตอบ
- เวลาเครมประกัน ก็บอกเขาไปว่าไปเฉี่ยวโดนไม้หรืออะไรยื่นออกมาแล้วเฉียวโดนจะดีกว่า ไม่อย่างงั้นถ้าคุณบอกว่าไปติดแก็สแล้วช่างเขาทำโดน เดี๋ยวต้องเสียค่าExcessนะครับป๋ม (ประกันประเภท1 เครมได้เลยไม่เสียตังเพิ่ม แต่เบี้ยปีต่อไปจะเพิ่มอยู่ที่ว่าเครมมากน้อยแค่ไหนครับป๋ม)


ครับดีแล้วที่เจอ ราคานี้ถ้าเกิดว่าจบก็ไม่แพงหรอกครับ

ปล. อย่าไปแรงเท่าน้ำมันเลยครับ เดี๋ยวเครื่องมันจะพังก่อนอายุนะครับป๋ม


ติดเสร็จเล่าสู่กันฟังบ้างนะครับ


ครับ กว่าจะมาเป็น9หน้าที่คุณอ่าน เจออะไรมาเยอะ แล้วก็เสียเงินไปเยอะกว่าจะได้ความรู้ตรงนี้มา
บ้านผมก็อยู่แถวพระรามสามเหมือนกัน แต่ผมเอาไปติดร้านแถวๆลาดพร้าว(ร้านไหนดูเอาจากหน้าแรกๆนะครับ)
ที่ต้องไปเพราะว่าแถวพระรามสามผมยังไม่ค่อยเจอร้านเก่งๆเกี่ยวกับแก็สสักเท่าไร สำหรับร้านที่ผมไปทำมาก็ค่อนข้างดีแต่งานเขาเยอะหน่อย ถ้าจะไปโทรนัดแล้วเอารถเข้าไปเช้าๆ เสร็จเย็น(วันเดียว) ซึ่งESกับระบบแก็ส เจ้านี้เขาเก่งอยู่แล้วเสียแต่ว่าไกลแค่นั้นเอง(แต่ยอมรับว่าคุ้มมากครับ) สำหรับระบบแก็ส เดี๋ยวนี้หัวฉีดราคาลงมาเยอะมากแล้ว ถ้าเป็นไปได้ผมว่าติดหัวฉีดดีกว่า ค่อนข้างจะจบได้ดีว่า FixMix ครับสำหรับES

พรุ่งนี้จะพาเพื่อนไปติดครับ เดี่ยวได้เรื่องยังไงมาเล่าให้ฟัง อยู่ศรีราชา แต่จะไปติดที่ลาดกระบัง พอดีเพื่อนใน lancer club เค้าแนะนำมา ว่าอู่นี้ดี ในlancer club เค้าติดกันหลายคันแล้ว mix+lamda 58L ปล.รถตัวเองรองบก่อน :)

EK อยากติดแลมด้าเพิ่มแนะนำที่ไหนดีคับ ราคาเท่าไร อยู่เพชรเกษมคับ

ไปติดมาแล้วคับ เมื่อวานนี้ ok เยี่ยมมาก ครั้งแรกที่รู้จักแก๊สไม่มีสะดุดเลยคับ เยี่ยมมาก จูนทีเดียวเลยคับ ช่างเก่งมาก เดี่ยว ตอนเย็นมา up รูปให้ :) :)

ผมสมาชิกใหม่ครับ มาแนะนำตัวด้วยคน
Civic Dimension 2004 วิ่งมา แสนโลนิดๆ (3 ปี)
เพิ่งติด NGV มาคับ
จากที่อ่านมา มีข้อนึงตอบได้เลยคับ ว่าติดแล้ว ท้ายห้อย
ลดมาประมาณ 1 นิ้ว เอาไปเสริม Spacer มาแล้ว ก้อไม่แน่ใจว่า กระด้างขึ้นนิดนึงป่าว (ติดได้ไม่ถึงอาทิตย์เลย)
ขนาดถังปริมาตร 70 ลิตร( น้ำ )  เติมแก๊สได้สูงสุดประมาณ 15 กก. ขึ้นอยู่กับว่า ปั๊มนั้นๆ มีแรงดันคงเหลือในระบบมากน้อยแค่ไหน

แต่ประหยัดค่าเชื้อเพลิงมาก
เดิม ขับเร็ว 90 ชานเมือง ประมาณ 13-14 กม.ต่อลิตร
NGV ถังแรกเหยียบ 120-130 สบาย
แต่ช่วงนี้ยังไม่สามารถวัดอัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงได้อย่างแน่นอน ไว้จะมาอัพเดทอีกทีคับ
รู้สึกว่าชอบครับ ตอบสนองดีกว่าน้ำมัน  แต่เสียงจะดังกว่า เพราะเหยียบไม่ยั้ง รอบเลยวิ่งสูงกว่า ตอนนี้ยังอยู่ในช่วงทดสอบ ลองระบบ หาปัญหาด้วย

ครับแต่ละความรู้ของเพื่อนๆทุกคนที่มาแชร์กันตรงนี้เป็นประโยชน์พอสมควรไม่มากก็น้อย ทำให้รู้ระบบต่างๆว่าติดระบบอะไรกัน ใครเจอปัญหาหรือไม่มีปัญหา หรือว่าอะไรต่างๆที่เกิดหลังจากการติดแก็ส ซึ่งตรงนี้จะเป็นความรู้เกี่ยวกับแก็สที่อยู่คู่กับForumของWelovecivc.com โดยที่ไม่ต้องไปหาจากที่อื่น(เพราะว่าบางครั้งไปอ่านแล้วลายตาไปหมด รุ่นไหนเป็นรุ่นไหนก็ไม่รู้ แต่นี้ตรงรุ่นคือCivicเลยครับ)

วันนี้ก็คงมีเรื่องเล่าให้ฟังเกี่ยวกับNGV เรื่องก็มีอยู่ว่าเมื่อวานนี้ผมฟัง จส.100 เขาก็รายงานการจราจรตามปกติ มีอยู่ช่วงนึงเขาก็ปรับทุกข์กับDJว่า พอแก็สเขาจะหมด หาที่เติมเท่าไรก็ไม่ได้ หามาตั้งสี่ปั้ม(ซึ่งหนึ่งในปั้มที่บอกก็อยู่แถวๆบ้านผมพอดี ซึ่งเพิ่งเปิดใหม่ได้ไม่นาน) สาเหตุก็คือทุกปั้มที่เข้าแก็สหมด :P พอฟังมาถึงตรงนี้ก็นึกในใจว่า อะไรหว่าแถวบ้านผมมีปั้มแก็สตั้งสี่ห้าปั้มจะหาเติมไม่ได้เลยหรือไง(ซึ๋งทุกปั้มนี้ผมก็แวะหมดเท่าที่แก็สจะเหลือครับ)  เขาก็พูดไปพูดมาสักพักก็บอกว่าเป็นแก็สNGV ผมก็เลยอ้อขึ้นมา เพราะว่าแก็สNGVนี่ครับอย่าว่าแต่หาปั้มเติมยากเลย(ซึ่งเมื่อก่อนแถวบ้านไม่มีสักปั้ม ไปทีไกลเหมือนกัน) เวลารอคิวเติมทีนี่นะ อย่าได้ไปเจอช่วงแท็กซี่เติม คิวยาวโครต จริงๆแล้วผมเองก็ไม่ได้อคิตอะไรกับNGVนะครับ ใจจริงผมก็อยากติดเหมือนกัน แต่ด้วยหาที่เติมค่อนข้างยาก(ในบางแห่งและถ้าไปต่างจังหวัดยิ่งแล้วก็น้อยปั้มครับ) แล้วยิ่งไปกว่านั้น ค่าติดตั้งก็แสนโหด และที่สำคัญถังแก็สที่ดูเหมือนใหญ่ก็จุได้น้อยกว่าLPGในขณะที่ถังเท่ากัน ซึ่งผมเองก็คงรอดูทิศทางในอนาคตว่าจะเป็นยังไงบ้าง ครั้นจะหันกลับไปใช้แก็สโซฮอลก็กลัวว่าเครื่องหายบ้าง กลัวว่าจะมีคนมานั่งข้างๆบ้าง ;) ล้อเล่นครับ ซึ่งราคาถึงแม้ว่าจะถูกกว่า95และ91ก็ตาม แต่ถ้าเทียบกับNGVหรือLPGแล้วยังต่างกันเห็นได้ชัด ผมคิดว่าถ้าเกิดว่าค่าติดตั้งราคาลงกว่านี้(คือประมาณว่าหกหมื่นเหลือสามหมื่น หมายถึงครึ่งต่อครึ่ง)และปั้มเติมหาง่ายไม่รอนาน(รวมถึงต่างจังหวัด) ผมอาจจจะไปใช้NGVบ้าง เพราะจริงๆแล้วถ้าเทียบกับLPGยังไงก็ถูกกว่า แต่ก็คงไม่ใช่ตอนนี้แน่นอน ตอนนี้คงต้องรักLPGไปก่อนไม่อย่างงั้นคงหมดกระเป๋าพอดูเหมีอนกัน  :-[

สำหรับอีกเรื่องนึงคือช่วงนี้ชอบมีข่าวแต่แก็สระเบิด จริงๆแล้วมันก็ไม่ได้ระเบิดง่ายๆ แต่ก็อย่างว่านะครับ การดูแลรักษาที่ดี เอารถไปตรวจจุดรั่วต่างๆ อย่างน้อยๆปีละครั้ง ก็จะได้ไม่เกิดปัญหานี้ขึ้นมา จริงๆแล้วการระเบิดไม่ใช่แค่LPGเท่านั้น แม้แต่น้ำมันหรือNGV เองก็สามารถระเบิดได้ ขึ้นอยู่กับว่าแต่ละคันมีวาวล์ตัดได้ดีขนาดไหนแล้วเจ้าของรถดูแลรถแค่ไหนครับ

ก็ยังไงก็เล่าสูกันฟังได้นะครับ และถ้าเพื่อนๆคนไหนที่ติดNGVไปแล้ว คือว่าอยากเห็นระบบNGVที่ติดกับCIVICว่าเป็นอย่างไร ยังไม่มีเพื่อนๆคนไหนถ่ายมาให้ชมกัน ก็คงต้องรอเพื่อนๆใจดีเขามาโพสให้ หรือถ้าเกิดว่าผมเจอCIVICที่ติดNGVแล้วเขาอนุญาตให้ถ่าย ผมจะเอามาฝากนะครับผม

 :-[ :-[งั้นเราไม่postละ ไม่ได้โกรธนะคับ รอรถของเราก่อน น่าจะประมาณสิ้นเดือน เพื่อนๆๆอ่านใน cafe หรือยัง ยังไงถ้าปล่อยลอยตัว(LPG) นะ มันก็ไม่เกิน 2บาท งั้นmixer +lamda+multi58 L อีกเสียงคับ :) :)

ไงถ้าติดแล้วมาเล่าสู่กันฟังบ้างนะครับป๋ม  :)

วันนี้เพิ่มเติมข้อมูลนิดนึงนะครับ เรื่องก็มีอยู่ว่าพอดีผมนัดคนๆนึงมาทำไฟให้ผม ซึ่งคนนี้ก่อนหน้านี้เขาเคยเอาน้ำยาล้างพัดลมแอร์

http://www.welovecivic.com/forum/index.php?topic=12595.0

มาให้ผมลองใช้ซึ่งก็ได้ผลจริงๆครับสำหรับแอร์ หลังจากที่ติดไฟเสร็จ เขาก็ถามผมว่าเคยล้างเครื่องบ้างหรือเปล่า ตอนแรกผมก็นึกว่าแบบFlushing Oil ซึ่งต้องถ่ายน้ำมันทิ้ง นึกในใจผมเพิ่งเปลี่ยนน้ำมันเครื่องมาไม่นาน ผมก็บอกเขาไปว่าผมเพิ่งเปลี่ยนน้ำมันเครื่องมา เขาบอกว่าไม่เกี่ยวครับ สามารถใช้ได้เลยโดยที่ไม่ต้องถ่ายน้ำมันเครื่อง  :P แล้วมันทำไงหว่า  ::) เขาก็สาธิตให้ดู(ที่สำคัญเขาไม่คิดเงินสักบาทจริงๆครับ)  โดยน้ำยาตัวนี้เป็นน้ำยาทำความสะอาด Three Bone สำหรับเครื่อง(Engine Conditioner คล้ายๆยาสระพร้อมครีมนวดอะไรประมาณนั้นมั้งคับ ;)  )
ครับมาดูขวดกัน

(http://i158.photobucket.com/albums/t93/anodite_studbar/anodite_1/DSCF3726copy.jpg)

หลังจากนั้นก็เปิดฝากรองอากาศออก หลังจากนั้นสตาร์ทเครื่อง แล้วก็ฉีดลงไป

(http://i158.photobucket.com/albums/t93/anodite_studbar/anodite_1/DSCF3744copy.jpg)

(http://i158.photobucket.com/albums/t93/anodite_studbar/anodite_1/DSCF3745copy.jpg)

โดยช่วงที่ฉีดต้องเร่งเครื่องด้วย(ถ้ามีคนอีกคนอยู่ในรถก็จะได้ช่วยเร่งเครื่องได้ ซึ่งเขาใช้วิธียกสายคันเร่งเพื่อเร่งเครื่องให้รอบสูงขึ้นครับ) และหลังจากที่เร่งตอนฉีดจนหมดกระป๋อง ก็เข้ามาเร่งในรถอีกสักพัก(รอบก็ประมาณสองถึงสามพันรอบครับ) และอีกนิดนึงคือช่วงฉีดแรกๆเครื่องอาจจะมีการสะอึกของเครื่องบ้าง แต่ไม่ต้องตกใจ ก็เร่งไปเรื่อยๆจนกว่าหายสะอีก แต่ถ้าเกิดดับก็สตาร์ทใหม่แล้วเร่งเครื่องตามรูปครับ

(http://i158.photobucket.com/albums/t93/anodite_studbar/anodite_1/DSCF3746copy.jpg)

ซึ่งน้ำยาที่ฉีดลงไปจะออกมาทางท่อไอเสีย(บางคันถ้าสกปรกมาก จะมีควันขาวๆออกมา แต่ของผมมีแต่น้ำออกมาตามรูปครับ)

(http://i158.photobucket.com/albums/t93/anodite_studbar/anodite_1/DSCF3743copy.jpg)

ซึ่งกลิ่นที่ออกมาช่วงน้ำยาฉีดจะออกเหม็นมากครับ(ปกติท่อไอเสียก็เหม็นอยู่แล้ว) หลังจากทำเสร็จเขาก็กลับไป บังเอิญว่าพอดีตอนเย็นลูกค้าเขานัดผมไปหา(ลูกค้าจริงๆครับ บางคนที่เป็นเพื่อนๆในเวปนี้หรือลูกค้าบางผมจะทราบเรื่องนี้ดีครับ)เพื่อที่จะให้ผมทำรถให้เขา ผมก็ไปครับ จากการสังเกตอย่างแรกคือเครื่องค่อนข้างนิ่งแม้ใช้ระบบแก็สก็ตาม จริงๆแล้วให้จูนยังไง เวลาใช้แก็สก็นิ่งไม่เท่านั้นมัน(หัวฉีดเป็นหรือเปล่าอันนี้ผมไม่รู้ครับ) และสังเกตจากการขับก็รู้สึกได้ว่าเครื่องนิ่มขึ้น บอกไงดีล่ะ ไม่ได้ว่าแรงขึ้น แต่ว่าเหมือนกับว่ามันสะอาดแล้วหายใจโล่งๆประมาณนั้น และสังเกตได้อีกอย่างนึงก็คือเรื่องของเสียงเครื่อง ถึงแม้ว่าจะดังเวลาเร่ง(ช่วงขับ) แต่ว่าก็เบาลงกว่าตอนที่ไมได้ทำความสะอาด พอไปถึงที่นัดหมาย ลูกค้ายังไม่มา ผมก็นั่งรออยู่ในรถ สังเกตได้จากเสียงเครื่อง ปกติรถผมเครื่องค่อนข้างนิ่งและเงียบอยู่แล้ว แต่ช่วงแก็สเสียงเครื่องอาจจะดังกว่าหน่อย แต่ว่าคราวนี้นิ่งเงียบแบบว่านึกว่ารถอยู่ในโหมดน้ำมันไม่ได้โหมดแก็ส ซึ่งผมก็เหลือบมองดูที่ตัววัดแก็ส ก็อยู่ในโหมดแก็สปกติ ก็คงไม่มีผิดแน่นอน และสังเกตได้อีกอย่างนึงคือรอบเครื่อง ปกติในระบบMixer + Lamda เวลาคอมแอร์ตัด มันจะสั่นนิดนึง แต่เท่าที่สังเกตตอนช่วงคอมตัด ก็ไม่สั่นเหมือนก่อนหน้านี้ แล้วขากลับผมก็ลองสังเกตดู ลองเร่งแซงและฟังเสียงเครื่องก็ไม่มากเท่าก่อนทำความสะอาด และรอบก็ยังโอเคกว่าตอนแรก ไม่รู้ว่าผมคิดไปเองหรือเปล่า ยังไงผมจะลองอีกสักอาทิตย์นึงดูแล้วดูว่าหลังจากฉีดตัวนี้ไปแล้วเป็นยังไงบ้าง ถ้าดีกะว่าจะเอาไปใข้กับรถที่บ้าน(พอดีอีกคันก็เป็นแก็ส ซึ่งช่วงหลังๆสะอึกบ่อย)  ก็เล่าสู่กันฟัง ของแบบนี้ว่ากันไม่ได้ อยู่ที่ใครอยากจะลองและเป็นจริงอย่างที่เชื่อหรือเปล่า อันนี้ก็คงต้องพิสูจน์กันเองนะครับ

ยังไงต้องขอขอบคุณ คุณโอ๊ต(Three Bone) ที่อนุเคราะห์น้ำยาทำความสะอาดเครื่องอีกครั้ง(หลังจากก่อนหน้านี้ได้น้ำยาทำความสะอาดพัดลมแอร์ แล้วได้ผลเป็นที่น่าพอใจ)มา ณ. ที่นี้ด้วยครับ

เอารูปมาให้ดูครับ NGV ระบบฉีด
พร้อมข้อมูลอีกนิดหน่อย
พอดีเพิ่งได้เอกสารจากทางอู่มา จึงทราบว่า
ถังบรรจุแก๊ส NGV ขนาดความจุ 70 ลิตร มีน้ำหนัก 62.5 กิโลกรัม
อันนี้เฉพาะถังครับ ไม่รวม ขาเหล็กชุดที่ติดตั้งถัง ซึ่งรูปแบบ แล้วแต่ว่า แต่ละอู่จะติดอย่างไร เพราะของเพื่อนติดมาไม่ใช่แบบนี้
เท่าที่โทรถามมาหลายอู่ รถรุ่นนี้ เค้าแนะนำ ถังขนาดนี้ เพื่อให้สามารถ เอายางอะไหล่ออกได้

อัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง
วิ่งประมาณ 42.7 กิโลเมตร โดยเปิดสวิทซ์ที่ ออโต้ แล้วอุ่นเครื่องก่อนวิ่ง เพื่อให้ระยะเริ่มต้นที่ต้องใช้น้ำมันสั้นลง
ครั้งนี้ วิ่ง 2 เที่ยว คือ ไป แล้วจอดถึงที่หมาย กับ ขากลับ จนถึงปั๊มเติม
เติมแก๊ส NGV ไป 24 บาท คิดแล้วตกประมาณ กิโลเมตรละ 60 สตางค์
วิ่งด้วยความเร็ว 110 -120 ส่วมมากนะครับ  แต่ครั้งนี้ มีการทำความเร็ว 140-160 ประมาณ 10 กิโลเมตร
ความเร็วยังเพิ่มไปได้อีก ไม่รู้ว่ามากน้อยแค่ไหน พอดีรถเริ่มเยอะ แล้วผมลองวิ่งบน สกายเวย์ บางนา-ตราด ลมค่อนข้างแรง เลยต้องลดความเร็วลง

หลังจากติดตั้งไปแล้ว ระยะยุบตัวของขอบตัวถังล้อหลัง 2-205 เซ็นติเมตร หรือประมาณ 1 นิ้ว
โดยวัดไว้เทียบกันระหว่าง ก่อนและหลังติดตั้ง แต่ลืมถ่ายรูปไว้ เพราะลืมเอากล้องกลับมาบ้านครับ

รูปเพิ่มเติมครับ

รูปสุดท้าย ระยะระหว่าง ตัวอักษร T - T  เดิม 66 ซม.
หลังติดตั้ง เกือบ 64 ซม.
แต่ในรูปนี้ ได้เสริม Spacer อลูมิเนียม มาแล้ว
เห็นที่ร้านเพื่อนบอกมาว่า เสริมให้ 1.5 นิ้ว

หลังจากเสริม spacer แล้ว รู้สึกว่า การทรงตัวล้อหลัง ขณะเข้าทางโค้ง ด้วยความเร็ว - ความเร็วสูง ไม่ค่อยดีเหมือนเดิม
คาดว่า คงต้องหาคำปรึกษาจากในนี้ ในอนาคตอันใกล้ เพื่อปรับเปลี่ยน ให้ได้ performance กลับคืนมา
ใครสงสัยอะไรเพิ่มเติม สอบถามเพิ่มได้ครับ
จะได้แบ่งปันข้อมูลกัน

ข้อมูลเพิ่มเติม
เท่าที่ได้ไปคุยกับ รถแท๊กซี่ ระหว่างรอเติมแก๊ส NGV เค้าติดตั้ง ถังขนาด 100 ลิตรได้ โตโยต้า
เนื่องจากว่า ยางอะไหล่อยู่ด้านล่าง ไม่ต้องติดปัญหาเรื่องเอายางอะไหล่ออก
และพนักงานที่ปั๊ม บอกมาว่า
มีรถเบนซ์  ติดตั้ง NGV โดยใช้ถังลูกเล็ก ขนาดประมาณ ถังดับเพลิง สีแดง ขนาดไม่ใหญ่
จำนวน 4 ถัง วางเรียงเป็นแพ ด้านในกระโปรงหลัง ก้อจะประหยัดเนื้อที่ไปได้เยอะ
วันนั้นที่ผมทดลองขับเพื่อวัดอัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง ก้อเจอรถเบนซ์ป้ายแดง Test Drive ที่ติดตรา การติดตั้ง NGV
แต่ไม่รู้ว่าจะเป็นแบบที่เค้าบอกมาป่าว แล้วก้อไม่รู้ว่าเค้าใช้ NGV วิ่งด้วยป่าวตอนนั้น
เพราะออกจาก ด่านจ่ายตังส์ทางด่วน ก้อตามไม่ทันแล้ว

^
^
^
^

ต้องขอขอบคุณสำหรับคันข้างบนนี้มากครับสำหรับข้อมูลการติดตั้งNGVและการใช้งาน จากที่อ่านเท่าที่ได้คือเรื่องความประหยัด อัตราการกิน รู้สึกว่าเป็นระบบหัวฉีดเหมือนกันแต่ถูกกว่า LPG อาจจะเป็นเพราะความต่างของราคาระหว่าง 8.50 กับ 9.90(ในบางปั้ม) ทำให้ดูถูกกว่าแต่ก็ถือว่าประหยัดใช้ได้ เรื่องต่อมาคงเป็นเรื่องถังที่ค่อนข้างใหญ่และหนักกว่าNGV ซึ่งอาจจะทำให้ท้ายทรุดได้ สามารถเสริมสเปเซอร์ได้ ตรงนี้ก็ใกล้เคียงกับถัง LPG ของผมเช่นกัน ต่อมาก็คงเป็นเรื่องการทำความเร็วสูง อันนี้ต้องขอบอกนิดนึง เนื่องจากรถนี้เสริมสเปเซอร์มา ทำให้การทรงตัวนี้อาจจะไม่เหมือนเดิม และที่สำคัญเมื่อถังหนักอย่าว่าแต่ท้ายทรุด ด้านหน้าเองก็จะยกเหมือนกัน การทรงตัวก็คงต่างจากเดิมแม้ว่าถังจะกดท้ายไว้ก็ตาม สำหรับวิธีแก้ให้การทรงตัวดีกว่าเดิมคงต้องเข้าไปดูตาม Link นี้นะครับ(ไม่ได้โฆษณานะครับ เข้าไปศึกษาดูเอาแล้วกันครับ)

http://www.welovecivic.com/forum/index.php?topic=41.0

และอีกเรื่องนึงที่น่าสนใจคือเรื่องนี้

"มีรถเบนซ์  ติดตั้ง NGV โดยใช้ถังลูกเล็ก ขนาดประมาณ ถังดับเพลิง สีแดง ขนาดไม่ใหญ่
จำนวน 4 ถัง วางเรียงเป็นแพ ด้านในกระโปรงหลัง ก้อจะประหยัดเนื้อที่ไปได้เยอะ"

ผมก็ได้ยินมาจากคนรู้จักกันว่าตอนนี้ของ Chev เขาก็ออกรถNGVออกมา ซึ่งถังเขาตอนแรกใช้ถังใหญ่ใบเดียว แต่ว่าเปลี่ยนเป็น
 4 ถัง วางเรียงเป็นแพ  ผมเองก็ยังไม่เห็นกะตา แต่ว่าถ้าเป็นอย่างงั้นก็จะประหยัดเนื้อที่ไปได้อีกเยอะเลยครับป๋ม

อันนี้ขอบคุณมากเลยครับ เดี๋ยวไปศึกษาดูก่อน
ช่วงนี้ขับไม่เร็วมาก ปกติก้อขับไม่เร็วอยู่แล้วละครับ 90-110
แต่โดยส่วนมาก แฟนผมใช้รถขับไปทำงานทุกวัน  เลยจำต้องลองเองก่อน แล้วเตือนให้เค้ารู้ไว้ 5555
กำลังสงสัยอยู่ว่า ไม่รู้จะต้องถึงขั้น เปลี่ยนโชค คู่หลังรึเปล่า ต้องการ Performance คืนมา

ครับ ก็ลองเข้าไปดูแล้วกันนะครับ ในLinkจะมีความรู้เกี่ยวกับช่วงล่างเยอะพอสมควรครับป๋ม  :D

เมื่อวานน้องที่บริษัทเอารถไปติดค้ำกับคุณต้นมา..
ชมใหญ่เลยครับ..

ขอบคุณมากๆนะครับ  :D

มาupให้คับ เราเปลี่ยนใจละ ติดหัวฉีดดีกว่าคับ ไม่ได้ว่าmixไม่ดีนะคับ  ;Dแต่มันมีโอกาสblack เราก็เลยตัดสินใจติดหัวฉีดคับ โอกาสblackไม่มี ถามเพื่อนๆๆที่ติดหลายๆๆคนข้อมูลในgasthai และเพื่อนใน ES clup แนะนำให้ติดหัวฉีด คับ ทีเดียวจบ :) :)  สิ้นเดือนคับเดี๋ยวมา post รูปให้คับ แน่นอน

ปล.เราไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับร้านนะ ใครอยากจะติด lpg ขอmail ไว้เดี่ยวส่งเบอร์ร้านไปให้พี่เค้าใจดีมาก ร้านพี่เขาอยู่แถวลาดกระบัง รู้ทุกเรื่องเกี่ยวกับ lpg ประสบการ+100กว่าคัน ล่าสุด FORD ESCAPE ป้ายแดงนะ+ALTIS1.8 ป้ายแดง ทะเบียนเชียงใหม่ หัวฉีดนะ เราไม่อยากให้เพื่อนๆๆ โดนร้านไม่เก่งจริงๆๆหลอก
 หรือรอเราติดก่อนก็ได้

 :( ตอนนี้กรองอากาศเดิมๆของผมพังไปแล้วครับ  :(
เจอแบ็คไฟบ่อยไปหน่อย พอดีเท้าผมหนักครับ
ไม่ชอบอยู่ในรถนานครับ
วิ่งทางไกลก็ 130-170

เลยเปลี่ยนมาใช้กรองเปลือย สายกราวด์กับท่อไอเสียใหม่
หลังจากเปลี่ยนอัตราเร่งดีขึ้นครับ เครื่องนิ่งขึ้น
รู้สึกได้เลยว่าคุ้มครับ แล้ววันหลังผมจะเอารูปมาให้ดูนะครับ

ปล. ผมใช้ EK ติด LPG Mix Lamda

ผมกำลังจะเข้าชมรม Civic Gas Gang Clubแล้วคร้าบบ...บ  8)  หลังจากศึกษาอยู่นานพอสมควร ไม่ว่าจากในเวป จากปากคนที่ใช้ คนรู้จัก หรืออู่ต่างๆนาๆ ประกอบกับน้ำมัน30บาท อืม....ม  :-[ ทนไม่ไหวแล้วว้อย  >:(  เห็นว่าสมควรแก่เวลาสักที ก็เลยนัดร้านไปติดวันศุกร์หน้าคร้าบบ...บ  ???
รถผมเป็น Honda Civic Dimension Year 2003 VTEC Auto

วิ่งไปแล้ว 110,000 กว่าโล

เลือกเป็น ระบบหัวฉีด

ซีวิค ตาโต 97 ติดมา2อาทิตย์ LPG มิกเซอร์ ประมาณ โลละ 1.15-1.30
ตั้งใจไปติด หัวฉีด แต่ที่ร้านเค้าบอกรถรุ่นนี้ มิกเซอร์ ดีแล้ว ดูแลง่าย ซ่อมง่าย
ต้นอืดไปหน่อย โดยรวมพอใจ ครับ

รถหัดฉีดไม่ใช่เหรอครับ เสียดายแทน น่าจะติดหัวฉีด ปัญหาน้อยกว่าตั้งเยอะติดร้านไหนมาครับ ทำไมแนะนำแปลกจัง

ร้านเค้าบอกว่า หัวฉีด เวลามีปัญหา มานจาแก้ไขยากกว่าอ่ะครับ
พอดีมีประวัติของที่ร้าน เลยโทรไปถามข้อมูล ของคนที่ใช้รถรุ่นเดียวกัน
3คนเค้าก็บอกไม่มีปัญหาอะไร พอใจกันทุกคนเลย ลองดูครับ ก็หาข้อมูลเยอะนะครับ
มีหลายร้านบอกเหมือนกันว่ารุ่นผม มิกเซอร์ ดีกว่า ไม่ต้อง ติดแลมด้าเพิ่มด้วย
ติดแล้มด้าจะมีปัญหา พูดเหมือนกัน หลายร้านอ่ะครับ

ครับสำหรับ Civic Vtec 03 คงหนีไม่พ้นหัวฉีดของ Autronic ซึ่งเท่าที่สอบถามกับคนรู้จักมาหลายๆคนก็บอกว่าค่อนข้างนิ่งพอสมควร(สำหรับผมเอง ถ้าเกิดว่าปีหน้ามีงบอีกหน่อย อาจจะจัดหัวฉีดสักชุดนึง) ก็ลองหาร้านที่ค่อนข้างแน่นอนหน่อย จะได้ไม่มีปัญหาในการใช้งานครับ

ข้อมูลนี้น่าสนใจ เพราะว่าตอนที่ผมเอารถไปแก้ระบบแก็สหลังจากที่ติดมาร้านแรกแล้วไม่ได้เรื่อง ผมได้สัมพัสกับซีวิคหลายๆตัว ตั้งแต่ตัว EK-ES เท่าที่เห็นติดบ่อยๆพร้อมกับรุ่น ES ก็คือรุ่น EK และเท่าที่เคยคุยกับร้านและคนรู้จัก เขาก็บอกว่าแค่มิกซ์ก็เอาอยู่แต่ถ้าจะให้ดีมี Lamda Control(Stepping Motor) อีกสักตัวนะครับ แจ๋วเลย จะวิ่งได้นิ่งขึ้นและจะได้ความแรงขึ้นมาอีกนิดนึง แต่ว่าการติดแลมด้าก็เหมือนติดมิกซ์แล้วมีพาวเวอร์วาวล์ปรับมือเพียงแต่ว่าการตั้งต้องตั้งโดยคอมจูน เพราะฉะนั้นความเที่ยงน่าจะดีกว่ามือเพราะค่าที่ออกมาจะใกล้เคียงน้ำมัน แต่ก็อย่างว่านะครับ ก็ต้องอยู่ที่ฝีมือช่างด้วย เพราะคันผมเองกว่าจะจบแบบวันนี้ก็เล่นเอาเหนื่อยเหมือนกัน แต่ถ้าจบแล้วถือว่าคุ้มครับ พูดถึงความประหยัดของมิกซ์อาจจะไม่เท่ากับหัวฉีดที่ให้ความประหยัดกว่าและแม่นยำกว่า แต่จริงๆแล้วติดระบบไหนก็ดี ขอแค่ว่าใช้งานจริงๆแล้วไม่เกิดปัญหา ต้องมานั่งเครียดทีหลังก็พอครับ

"ติดระบบไหนก็ดี ขอแค่ว่าใช้งานจริงๆแล้วไม่เกิดปัญหา ต้องมานั่งเครียดทีหลังก็พอครับ"
เป็นคำตอบ ที่ ที่ ที่ ถุ ถุ ถุ ถูกต้องน้าๆๆๆๆๆคร้าบๆๆๆๆๆๆๆ อิอิ

ผมได้ข้อมูลมาก็แบบนี้เหมือนกันคับ แต่เพิ่มเติม นิดนึง เค้าบอกว่า รถรุ่นนี้เก่าแล้ว ติดแค่นี้ก็พอ แต่จะติดหัวฉีดก็ได้ไม่มีคัยว่าแต่ จะเสียตังเยอะๆ ทำไมเค้าถาม (ทั้งที่ความจิงเค้าน่าจะเชียร์ให้ติดแบบ แพงๆ แล้วแลมด้า เค้าก็บอกว่าไม่ต้องติด ติดแล้วอาจมีปัญหา เพราะตัวนี้มันจะมีปัญหาบ่อย ไม่เกิน1ปี แต่มิก จะอืดกว่าคับร้านเค้าบอกมา อีกอย่างคับ ร้านบอก แบบมิกจะดูแลง่ายกว่านะ  ::)
ว่าแต่ติดที่ไหนมาคับ ราคาเท่าไหร่ บอกทีคับ จะติดแล้ว คับของผม ก็ตาโต วีเทค 96 เครื่อง1600  :)
ช่วยแนะนำ ทีคับ ว่าติดมาแล้ว คิดอย่างไรบ้าง ท่านไหน มีข้อมูล ดีๆ ก็แนะนำทีนะคับ จะติดอยุ่ไม่กี่วันนี้แล้ว มันทะลุ 30 แล้วง่ะ :(
ใจผมที่เล็งไว้นะคับ LPG มิกเซอร์ 16500 ไม่รวมค่าออกใบวิดวะ 300  ร้านไหนดี มีข้อแนะนำเชิญนะคับทุกท่าน  :D
ปล.รอคำตอบ  ;) ;) ;) ;)

อยู่แถวไหนอะ ตอนแรกเราว่าจะติด mix เหมือนกัน แต่ช่างบอกว่า วีเทค lamda มันจะเอาไม่อยู่ จะอืดกว่า ก็เลยคิดว่าหัวฉีดที่เดียวจบเลย เราก็หาข้อมูลเยอะมากเหมือนกัน เปิดแก๊สไทยแทบทุกวัน พอดีเรารู้จักกับเพื่อนที่ ES เค้าติดมาก่อนแนะนำให้ติดหัวฉีดไปเลย ขับเกือบเหมือนน้ำมัน พอดีเราขับรถเร็วด้วย และสามารถเปลี่ยนจากน้ำมันเป็นแก๊สได้เลยจากรอบเดินเบาโดยที่รถไม่ดับ ให้เราติดก่อนก็ได้ พอดีรวบรวมตังค์อยู่เยอะเหมือนกันนะ ร้านที่เราจะไปติด mix ธรรมดา 16000 รวมใบวิศวะแล้ว +lamdaเพิ่ม3000 เราจะติด หัวฉีด คับ ลงทุนทีเดียว 30000 คับ autonic jet15  ขอmail ไว้คับ จะแนะนำร้านให้

นิดนึงนะครับ จริงๆสำหรับ ES เครื่อง Vtec ไม่น่าที่จะติดระบบมิกซ์ เพราะว่าเมื่อจูนแล้วก็ต้องจูนอีก การใช้มิกซ์เหมาะกับรถรุ่นเก่าๆที่ไม่มีวาวล์แปรผัน สำหรับผมทุกวันนี้ใช้ระบบ Mixer + Lamda ทุกวันนี้ผมใช้งานเองก็ไม่มีปัญหาอะไร ,มีแค่ว่าบางครั้งก็มีการจูนกันบ้างเพื่อให้ได้ค่าที่เหมาะสม และใช้ว่ามิกซ์จะจูนอย่างเดียว หัวฉีดบางครั้งถึงเวลาก็ต้องมีเหมือนกัน เท่าที่เคยอ่านเจอ ปัญหาเรื่องเดินเบา เบาดับ ไม่ใช้ว่าเป็นแค่มิกซ์ บางครั้งหัวฉีดก็เจอ เกิดจากการจูนที่ไม่ได้ค่าตามที่สเป็ครถเขาเป็นอยู่ แต่ปัญหาไม่ใช้ว่าเรื่องมิกซ์หรือหัวฉีด ปัญหาอยู่คุณมีงบในการติดตั้งเท่าไร พอใจและรับได้หรือไม่หลังจากติดแก็สเพราะว่าปัญหาจะตามมาแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นความอืดกว่าน้ำมัน(หัวฉีดให้จูนใกล้เคียงยังไงก็อืดกว่าแน่นอนครับ) ปัญหาที่เกี่ยวกับการเสื่อมของเครื่องที่เร็วกว่าน้ำมันเนื่องจากการเผาไหม้ที่หมดจดของแก็ส ทำให้เกิดความแห้งในเครื่อง เครื่องก็จะเสื่อมเร็วขึ้น และที่สำคัญที่สุดก็ตรงร้านที่เขาติดตั้ง ว่าจะมีความรับผิดชอบหรือไม่ ไม่ใช่ติดไปแก้มันเป็นสิบๆรอบแล้วไม่จบ บางร้านผิดร้านหนีก็มี(อันนี้ได้ยินจากปากลูกค้าผมเลยครับ)และคนที่จูนว่าจะจูนได้นิ่งขนาดไหน แล้วพอใจกับค่าที่เขาจูนให้รถคุณหรือไม่

 การติดแก็สคือการประหยัดค่าน้ำมัน(ที่แพงมากตอนนี้เลย30ไปแล้ว) ซึ่งถ้าติดแล้วเหยียบแบบไม่ยั้ง ถึงแม้ว่าค่าแก็สจะถูกกว่าน้ำมันก็จริง แต่ก็ยังเปลืองเงินในกระเป๋าคุณอยู่ดีครับ

อยู่คลองเตย คับ Mr.t.s@hotmail.com ใจอ่ะ ก็อยากติดหัวฉีดไปเรย เหมือนกัล แต่ว่างบที่มีจำกัดอ่ะคับ ว่าแต่ราคา มิกที่ นายบอกก็ไม่แพงอ่า คับ ขนาดรวม แลมด้า ยังไม่ถึง2หมื่น เรย แล้วราคา ของร้านที่ว่านี้ ศึกษามายังคับ ว่าร้านนี้ดีหรือไม่ ถ้าศึกษามาดี แล้ว ผมก็อยากติดต่อกับร้านนี้ดูอ่ะคับ  :)
 เพราะผมศึกษามาแต่ ชนิดของการติดแบบต่างๆ และราคา ยังไม่เจอร้านที่คัยแนะนำว่าดี ขอบคุณครับ  :-*

เริ่มลังเล ละ ในเวปบอร์ด เราก็มี ร้านแก๊ส ชื่อ power gas plus ไอคอลข้างบน ด้านขวาอ่ะคับ หัวฉีด เยอรมัน แค่2หมื่น8 เอง เพิ่มอีกไม่กี่ตังเองอ่ะ  :-[ :-[
อธิบาย ดีด้วย เค้าอธิบายเพิ่มเติม ว่าหัวฉีด ไม่ต้องดูแล มากและไม่มีโอกาสแบคไฟ แต่ มิก ต้องดูแลเรื่อยๆ และมีโอกาสแบคไฟ ตัดสินใจแระ เอาร้านนี้แระ   :-[

EK ผมก้ติด fix mix มา ตั้งแต่ใช้งานมาก้ไม่มีปัญหาอะไร นอกจาก อืดๆบ้างเล็กน้อย
ลองดูคับ

รอเราติดก่อนก็ได้นัดไว้วันอาทิตย์ที่28 (ถ้าได้ตังค์นะ) ;) เพื่อนเราติดกันหลายคนแล้ว ไม่รวม เพื่อนในlancer club  ส่งเบอร์ร้านไปให้แล้วนะของโทรไปคุยกับ เฮียดู เขาใจดี

ราคาคงต่างกันไม่มาก ผมว่าเอาใกล้บ้านดีกว่า มีปัญหา จาได้สะดวก
ขอผมออกตัวอืดไปหน่อย นอกนั้นก็ พอได้ครับ
ถ้าเป็น หัวฉีด ไม่ทราบว่ามานจาอืดเหมือนกันหรือ ป่าวน้าๆๆๆ ครายพอจาทราบบ้างไหมครับ

ขอบคุณ ครับ ได้รับเมลเรียบร้อย แล้ว การติดระบบฉีดนี่ เบียร์ ตกลงเค้าไว้ที่ 3หมื่น ถ้วนหรือป่าว คับ ของอิตาลี รึป่าว เพราะที่ผมคุยไว้ มัน 2.8 หมื่นแต่เป็นของเยอรมัน(แถมรับปากเค้าไว้แล้วด้วยจิว่า ติดกะเค้าแน่ๆ ) เผื่อ อาจคิดเพิ่มตังอีก 2พัน เพราะไปลาดกะบัง ก็ไม่ยากจนเกินไป แล้วที่บอกว่าเพื่อนติดหลาย คนแล้วนี่ ไปติดร้านที่เบียร์แนะมาใช่มะ ::)
ปล.รอคำตอบ และผล ที่ไปติดมานะคับ ขอบคุณมากคับ   :D :D

นิดนึงสำหรับ Mix ถ้าตัวไม่มี Lamda โอกาส Back สูง(อันนี้เจอกับตัวตอนที่ยังไม่ได้เอาไปแก้งาน) หลังจากใส่ Lamda แล้วให้เขาจูน เขาก็บอกว่าจริงๆแล้ว Lamda มีกัน Back อยู่แล้ว อยู่ที่การจูนซะมากกว่า แต่ยังไงจริงๆแล้วถ้าจะติด ผมก็ยังแนะนำว่าหัวฉีดน่าติดกว่า เรื่องปัญหาหลังการจูนระบบหัวฉีด ผมไม่ขอพูดถึงแล้วกัน เพราะได้ยินมาเยอะพอสมควร บางครั้งบางเรื่องก็ใกล้เคียงมิกซ์ แต่เรื่องความประหยัด อันนี้ประหยัดกว่ามิกซ์แน่นอนครับ

คับอิตาลี เบิกใหม่หมด autronic ทั้งระบบ คับมีร้านที่ถูกกว่านี้ และมีร้านที่แพงกว่า เราแนะนำเฉยๆๆคับไม่ได้ซีเรียสอะไร เรามีเพื่อนอยู่ใน ES GROUP เขาใช้ es vtec แล้วเค้าติดมาเกือบ 2 ปีแล้ว เขาแนะนำว่าถ้าเงินถึงก็ติด หัวฉีดไปเลย บำรุงรักษาง่าย autronic jet15 นี่แหละ แล้วเราก็ถามเพื่อนเราคนหนึ่งใน lancer club ว่าไปติดที่ไหนมา เขาก็แนะนำร้านนี้ให้ เพื่อนเราก็ไปติดmix ก่อนก็ok ฝีมือใช้ได้ เราก็เลยได้รู้จักกับพี่เขาพี่เขาก็ใช้ของautronic เหมือนกันพี่เค้าบอกว่ามันจูนง่ายและไม่ค่อยเกเร และรถคันเก่าของพี่ใช้ es ด้วยไง   ตามลิงค์ http://www.gasthai.com/boardgas/Question.asp?ID=A29362 แล้วจะรู้ว่า autronic เจ๋งยังไง ลองดูคับ (ปล.อย่างที่พี่ข้างบนเค้าบอกเอาใกล้ร้านใกล้บ้านที่สุด)

 ;)ผมติดมาแล้วคร้าบ พอดีขึ้นกรุงเทพวันอาทิตย์ก้อเลยขอเลื่อนนัดเค้าไปติดเป็นวันจันทร์  ที่ 22 ที่ผ่านมา เค้าก้อบอกว่าคิวว่างอะครับ วันนั้นรถมารอคิวเกือบ 10 คันแน่ะ...อึ้งเลย ::)...ไม่คิดว่าจะมาติดกันแยอะขนาดนี้  ดีนะที่ไปตั้งแต่คันที่ 3 เริ่มติดประมาณ 9 โมง 10 นาที่ เสร็จเอาตอนเกือน 4 โมงเย็นครับ
ตอนแรกได้เห็นบางกระทู้บอกว่าติดแก็สแล้วเครื่องจาแรงกว่น้ำมันก็ไม่ค่อยเชื่อครับ  แต่พอมาติดดูแล้วทดลองขับเอง ???...ฮ้า...มันแรงกว่าน้ำมันจิงๆครับทั่น   เห็นได้ชัดเลยครับ  อัตราการกินแก็ส  (พอดีติดแก็สแล้ววิ่งกลับสุราษฎร์เลย  โดยใช้วิสัยวิ่งตามอัตราปกติที่เคยขับอยู่ครับ)

     ในเมือง      1.2     บาท/กม.
     นอกเมือง   0.9   บาท/กม.  ครับผม :)

อัตราสิ้นเปลืองการใช้น้ำมันตกโลละ 2 บาท :o
อัตราสิ้นเปลืองการใช้แก็สตกโลละ 0.9 บาท :-*
โดยอิงจากการขับนอกเมืองครับ  ไม่เกิน 100 กม./ชม.   อิๆๆ ประหยัดครับ  พอใจมั่กๆๆ :)

ผมติดautronic jet15 มา 3 เดือน วิ่งมา 2 หมื่นกว่าแล้ว เรื่องอืดลองเปรียบเทียบดูแล้วกันผมว่าพอ ๆ กะเติมแก๊สโซฮอล 91 เลยอะ รอบปลายดีกว่าด้วยซ้ำ เพราะวิ่งแก๊สอัดยาว ๆ 180 ถึงแบบสบาย แต่เมื่อ 2 อาทิตก่อนลองวิ่งน้ำมันดูเติมโซฮอล 91 180 เหนื่อยเลยครับ เลยขับน้ำมันให้หมด ๆ ถังแล้วเติม 95 เหมือนเดิมดีกว่า

เยี่ยมเลยครับ ข้อมูลระเอียดยิบ ก็เป็นข้อมูลให้กับเพื่อนๆคนอื่นที่กำลังจะติดระบบหัวฉีดว่าได้ใกล้เคียงหรือจะมากหรือน้อยกว่านี้

ขอบคุณมากครับ  :D

ครับเมื่อก่อนน้ำมันผมก็ใช้แก็สโซฮอล แต่รู้สึกว่าเวลาเติมESแล้วเวลาขับจริงๆมันอืดครับ ยิ่งไปต่างจังหวัดยิ่งเห็นได้ชัดในช่วงอัตราเร่งและแซง ผมก็เลยเปลี่ยนมาใช้ 95 แล้วผมมาติดแก็ส ผมก็ยังใช้ 95 อยู่ในการสตาร์ท ผมคงลองเติมแก็สโซฮอลดู(ตอนนั้น95หมดพอดี) แล้วลองขับเดี๋ยวสั่น เดี๋ยวสะท้าน ผมก็เลยวิ่งแก็สโซฮอลจนหมดถังแล้วกลับไปเติม 95 เหมือนเดิม อาการที่สั่นก็หายไป ทุกวันนี้ ถึงแม้ว่าจะเป็น Mixer + Lamda Control แต่ก็วิ่งแบบนิ่มๆ นิ่งๆครับ และอีกเรื่องนึงสำหรับรถแก็ส ต้นอืดปลายจัดเช่นเดียวกันครับป๋ม  :D

ผมปลายไม่จัดอะครับ แต่ก้อพอกินพอใช้ครับ มีวันก่อนโดนวีโก้ทิ้ง ขณะนั่นขับแก๊สอยู่ ความเร็ว 150-160 ทิ้งแบบหายเลยนะครับ(ของเค้าแรงจริง ๆ ) เลยสับเป็นน้ำมันแล้วอัดตามดู(95 นะครับ) สักพักถึงจะทัน 190 แนะ(ES01 EXIนะครับ) แต่ก้อสยองมาก ๆ ครับตอนก้มลงดูเข็มน้ำมัน + ตอนเติมให้น้ำมันอยู่เท่าเดิม(ขับแก๊ส แต่น้ำมันไม่ขาดถัง เหลืออย่างน้อย 2-3 ขีดเสมอ และเต็มถังเมื่อมีโอกาศ เดียวลูกลอยพัง)

 :) :) :)ขอเป็นสาวก  :D :Dautronic jet15 ด้วยคนนะ อาทิตย์28คับ ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดนะ

จัดไปอย่าให้เสีย (เวลา + เงินในกระเป๋ากะค่าน้ำมัน)  :D
ถ้ามีเวลาแนะนำให้อยู่เฝ้ารถตั้งแต่เริ่มจนเสร็จ เห็นช่างทำไรแปลก ๆ ถามเลย ??? บางร้านงานเยอะ ๆ จะไม่ละเอียดได้ :P ตอนที่ผมติด อยู่อู่ตั้งแต่ 8.30 ถึง 19.00 กลับบ้านนอนหมดแรงเลย  :'(

เสียความรู้สึกหน่อยก็ตรงที่เหยียบไม่ได้เต็มที่ เพราะผมไปตั้งศูนย์มาก่อนจะขึ้น กทม. ขาขึ้นพวงมาลัยก็สั่น ศูนย์ก็เอียงซ้ายสุดๆ มันขับเกิน 110 ไม่ได้ (ศูนย์ที่สุราษฎร์น่ะครับ)  ขาลงลงไปก็เลยไปให้ช่างตั้งศูนย์ใหม่... ???ฮึ่ม....ดั๊นนนน..จะมาเก็บค่าถ่วงล้อผมอีก และบอกว่ายังไม่ได้ถ่วงล้อให้ผมทีโชคดีผมเก็บบิลเอาไว้ด้วยก็เลยเอาไปยันได้ แล้วแถมยังไม่ยอมตั้งศูนย์ให้ใหม่ บอกว่าติดงานเทศกาลให้ผมมาตั้งศูนย์ใหม่ทีหลัง..ทั้งๆที่ผมอยู่ห่างจากตัวเมืองตั้ง 110 โล  สุดท้ายก็สั่นเหมือนเดิม อีกสองวันต่อมาผมผ่านไปตัวเมืองอีกก้อแวะไปตั้งศูนย์ใหม่ เค้าก้อถ่วงล้อหน้าก่อน เสร็จแล้วก้อเอาไปลองครึ่ง ชม. แล้วถึงจะมาตั้งล้อหลังให้..ทำแบบไม่ค่อยเต็มใจทั้งที่มีรถของผมอยู่คันเดียว ขอให้ตั้งศูนย์ใหม่ก้อไม่ยอมอ้างเหมือนเดิมว่ามีเทศกาล ดีหน่อยที่ขับแล้วไม่สั่น..แต่ศูนย์ก้อยังเอียงซ้ายเหมือนเดิมครับ ...เฮ้อ....ผมจะเอาไปตั้งศูนย์ที่ใหม่แล้วครับ...เซ็งโครต!!!

อืม...กะจะไม่โพสต์แล้ว  แต่กลัวเพื่อนๆจาตกเป็นเหยื่ออีก คือตอนแรกมันก็ไม่ได้เป็นอะไร ขับ140-150 สบายๆ แต่พวงมาลัยมันเอียงขวานิดนึง เค้ายังบอกอีกว่าที่มันมีอาการน่าจะเป็นที่พวงมาลัยของผม...เอาเข้าไป.... ร้านนี้อยู่ตรงบริเวณศาลหลักเมืองสุราษฎร์ ถ้ามาจากโรงบาลสุราษฎร์จะอยู่ทางซ้ายมือก่อนถึงปั๊มเอสโซ่ 1 ร้าน เยื้องๆกับเดอะบุ๊ค  ข้อสังเกตุ...ร้านนี้จะเปิดวันอาทิตย์ด้วยครับ
  >:( บอกไปเลยดีกว่า.....อู่นี้ชื่อว่า  อู่ธนพงศ์การช่างครับ!!!!!

อย่างนี้ไม่โพสไม่ได้ครับ ต้องโพสบอกกัน เพื่อไม่ให้เพื่อนๆในคลับตกเป็นเหยื่อของพวกมักง่าย  :-[

อย่าปล่อยให้คนชั่วลอยนวลครับ  >:(

อย่าไปแข่งกับพวกนี้เลยครับ เอาเวลาไปทำอย่างอื่นดีๆดีกว่าครับ ปล่อยให้มันไป เผลอๆเจออีกทีมันคงไปนอนอยู่แถวคูหรือข้างทาง เพราะว่าแรงแล้วเบรกไม่อยู่อะไรประมาณนี้ครับ

ปล. อย่าว่ากันเลยนะ ขอโพสหน่อย วันนี้ก็เจอพวกนี้(และรุ่นนี้เลยครับ)จี้ตูดบ่อยมาก มันนึกว่ารถมันแรงเลยไม่กลัวคำว่าตาย ขนาดว่ารถติดอยู่กันสี่ห้าคัน มันก็จี้ประมาณว่าจะไปให้ได้ กรูเป็นเจ้าของถนน  เห็นข่าวว่าตกคลอง ตกข้างทางบ่อยๆยังไม่สยอง ก็ช่างหัวมันครับ ปล่อยให้มานไปเกิดใหม่ดีกว่าครับ

ต้องขอโทษที่ระบายความในใจนิดนึงครับ เพราะเจอบ่อยเหลือเกินครับ

 :-[ จริงๆ ไม่ได้จะไปแข่งกะเค้าหลอกครับ ปกติผมก้อขับ 90-120 นี่ละครับ รถผมเดิม ๆ ทุกอย่างเลยตั้งแต่เครื่องยันล้อเลยแข่งไปก้อโดนทิ้งหายแหละครับ แต่วันนั้นรีบจริง ๆ ครับ ต้องขับจากดำเนินสะดวก ราชบุรีไปให้ถึงอ.เมืองสระบุรีภายใน 2 ชม เลยต้องใช้ความเร็วนิดนึงนะครับ ผมไม่ชอบแข่งกะใครอยู่แล้วอะครับ
ส่วนที่คุณanodite_studbar เจอ ผมก้อเจอบ่อย สิ่งที่ผมทำมี 2 อย่าง หลบให้มันไป(แฟนผมนั่งมาด้วย :-[) กะหลบแล้วตามตูดมันคืนสักพักให้มันหงุดหงิดบ้าง >:( แล้วก้อขับเหมือนเดิม

พี่ๆครับ รถเกียร์ธรรมดาใช้แก๊สเวลาใช่ความเร็ซต่ำรอบต่ำมันกระตุกหรือเปล่าครับ คือรถพ่อผมเวลาใช้แก๊สแล้วปล่อยคลัตช์แต่ไม่เหยียบคันเร่งรถมันกระตุกๆน่ะครับ(เกียร์ 1-2นะครับ) หรือเหยียบนิดเดียวก็กระตุก ซึ่งตอนใช้น้ำมันเป็นน้อยกว่านี้นะครับ (แต่ก็ใช่ว่าไม่เป็น) แล้ววันนั้นเพื่อนผมมานั่งรถพ่อครับ เพื่อนเป็นคนกรุงเทพครับ เคยนั่งแท็กซี่ที่ติดแก๊สมันบอกว่ากระตุกแบบนี้แหละ(พอดีผมเป็นคนเชียงใหม่ครับ ไม่เคยนั่งแท็กซี่ติดแก๊สผมเลยอยากถามว่าปกติหรือเปล่าครับ รถผมติดแก๊สหัวฉีดนะครับ แล้วมีวิธีแก้ให้วิ่งเรียบๆนิ่มๆมั้ยครับ  :-[

จริงๆแล้วระบบหัวฉีดไม่น่าจะเป็นอย่างนี้ เท่าที่ฟังมามีสองอย่างควรเช็คอย่างแรกคงเป็นระบบแก็สที่ติดมาก่อนว่าจูนแก่ไปหรือบางไป เพราะว่าการที่จูนบางไปหรือแก่ไปก็อาจจะเป็นสาเหตุให้รถกระตุกได้เวลาเปลี่ยนเกียร์ โดยเฉพาะรถเกียร์ธรรมดาจะกระตุกหนักเกียร์ออโต้ สาเหตุที่รู้เพราะว่าบ้านผมมีอีกคันเป็นCity 98 เครื่องHyper เกียร์ธรรมดา เวลาจูนไม่ดี บางไปหรือหนาไปจะรู้เลยครับ อาการของมันจะกระตุกบ้าง  บางทีก็มีสะอึกบ้างเวลาถอนคันเร่ง และอีกอย่างคือแซงไม่ขึ้น ตีนปลายหมดเร็ว แต่รถคันนี้ติดระบบMixerจูนโดยมือ ฉะนั้นการกระตุกจริงๆแล้วน่าจะมีมากกว่าหัวฉีด อย่างที่สองคงต้องเช็คที่เกียร์เพราะว่ารถคุณเป็นเกียร์ธรรมดา อาจจะเป็นที่สายคลัทซ์หรือคลัทซ์สูงไปหรืออะไรก็ตามครับ ยังไงก็คงต้องลองฟังความเห็นจากท่านอื่นๆดูอีกทีนะครับป๋ม   :-[

วันนี้ผมก็มีข้อมูลที่น่าสนใจนิดนึงครับ ถ้าจำได้เมื่อวันที่  08 ตุลาคม 2007 ผมได้มีการพูดถึงน้ำยาตัวถึงคือน้ำยาธรรมความสะอาดเครื่อง (Engine Conditioner)

(http://i158.photobucket.com/albums/t93/anodite_studbar/anodite_1/DSCF3726copy.jpg)

แล้วผมมีการทดสอบเรื่องการใช้งานต่างๆซึ่งผลที่ออกมาสำหรับESของผมนั้นก็คือวิ่งแล้วเครื่องนิ่มขึ้น และเรียบขึ้น เวลาใช้น้ำมันก็วิ่งเนียน เวลาใช้แก็สก็ใกล้เคียงน้ำมัน(แบบว่ามากๆครับ)

แล้วเรื่องก็มีอยู่ว่ามีเหตุให้ต้องใช้รถที่บ้านอีกคันนึงด้วยเหตุบางประการ ซึ่งรถที่ใช้เป็นCity 98 เครื่อง Hyper(ไม่มีวิเทค) เกียร์ธรรมดา

(http://i158.photobucket.com/albums/t93/anodite_studbar/anodite_1/DSCF4238copy.jpg)

ซึ่งก็ติดแก็สมาเหมือนกัน ระบบที่ติดเป็น Mixer ธรรมดาปรับโดยมือ

(http://i158.photobucket.com/albums/t93/anodite_studbar/anodite_1/DSCF4236copy.jpg)

(http://i158.photobucket.com/albums/t93/anodite_studbar/anodite_1/DSCF4237copy.jpg)

ซึ่งคันนี้เป็นรถคันแรกที่เอาไปติดแก็สซึ่งก็ไม่มีปัญหาอะไร แล้วก็เป็นสาเหตุที่ผมเอาESไปติดแก็สตามแต่มีปัญหา(ซึ่งตอนนี้ปัญหาได้แก้ไขแล้ว) ช่วงที่ใช้งานรู้สึกได้เลยว่ารอบสวิงมาก ซึ่งก่อนหน้านี้ผมจำได้ว่ารอบไม่สวิงขนาดนี้ ขับแล้วรู้สึกได้เลยว่าวูบๆเป็นบางครั้งต่างจากช่วงแรกๆมาก ซึ่งคันนี้เท่าที่จำได้จูนออกมาค่อนข้างนิ่งกว่าESเยอะ ผมเองก็ไม่ได้ทำอะไรเพราะว่าเดี๋ยวมันจะไปกระทบกับระบบแก็สเขา คราวนี้ที่บ้านก็บ่นๆว่ารอบสวิงพอสมควร ผมก็นึกไปนึกมาก็นึกถึงน้ำยาตัวนี้ที่ผมเคยโพสไป ก็นึกไปว่าถ้าเกิดลองฉีดกับคันESผมซึ่งรถไม่กี่ปี(รถปี03)แล้วยังเห็นผล แล้วถ้าเกิดว่าเอามาลองกับรถที่เก่าแบบคันนี้จะเป็นยังหว่า ผมก็เลยไปจัดมาหนึ่งกระป๋องสำหรับการนี้โดยเฉพาะ ก็เหมือนเดิมคือเปิดฝาแล้วเอากรองอากาศออก แล้วฉีดลงไปเหมือนES

(http://i158.photobucket.com/albums/t93/anodite_studbar/anodite_1/DSCF4172copy.jpg)

แล้วก็เร่งคันเร่งดู เท่าที่จำได้คันESสิ่งที่ออกมาทางปลายท่อคือน้ำ คล้ายน้ำยา แต่ว่าคันนี้ออกมาเป็นควันขาวๆ

(http://i158.photobucket.com/albums/t93/anodite_studbar/anodite_1/DSCF4173copy.jpg)

ถ้าดูจากรูปอาจจะดูขาวไม่มาก แต่จริงๆแล้วขอบอกว่าขาวโครตๆ นั้นหมายความว่าช่วงดูดอากาศของรถที่บ้านผมสกปรกพอสมควร ผมก็เร่งคันเร่งแล้วช่วงเร่งก็ฉีดน้ำยาไปด้วย ตอนแรกกะว่าฉีดสักครึ่งกระป๋อง แต่ไหนๆก็ไหนๆแล้ว เอาว่ะ ฉีดมันหมดกระป๋องซะเลย ช่วงที่ฉีดเข้าไปควันขาวๆก็ออกตามมาเป็นระยะๆ แล้วหลังจากน้ำยาหมด ผมก็เร่งเครื่องอีกสักพัก ควันขาวที่ออกมาตอนแรกก็หายไป ผมก็ดับเครื่อง หลังจากนั้นก็ปิดฝาต่างๆลงเพื่อที่จะขับไปหาลูกค้าต่อ หลังจากสตาร์ทเสร็จ กรรมเลยครับ  :P รอบมันวิ่งจากเดิมพันรอบนิดๆ วิ่งไปสองพันกว่ารอบ  :P เกิดอะไรขึ้นกับรถหว่ะเนี่ย ช่วงขับไปทำธุระ เครื่องมันก็เร่งอยู่ที่สองพันกว่ารอบอย่างงั้น จนผมทนไม่ไหวตัดสินใจไปให้ที่อู่ที่ติดคันนี้จูน เขาก็จูนไปหลายทีก็ยังไม่นิ่ง ผมก็เลยถามเขาว่าเกี่ยวกับเอาน้ำยาตัวนี้ฉีดลงไปหรือเปล่า เพราะว่าผมฉีดมันจนหมดกระป๋องเลย เขาก็บอกว่าอาจจะเป็นไปได้น้ำยามันอาจจะมีค้างอยู่ ซึ่งเขาก็บอกว่าอย่างนี้แล้วกัน เดี๋ยวเขาจูนให้รอบนึงก่อน เอาไปใช้สักวันนึงแล้วค่อยกลับมาจูนอีกครั้ง สาเหตุก็เพราะว่าเขาอย่างให้เราวิ่งจนน้ำยาตัวนี้ถูกขจัดออกไปจากระบบเครื่อง

หลังจากนั้นอีกวันสองวันผมก็ยังใช้งานคันนี้อยู่ รอบที่สองพันกว่ารอบก็ตกลงมาเหลือพันห้าร้อยรอบ ก็ยังคงสวิงแต่น้อยกว่าเก่า สิ่งที่รู้สึกได้เลยคือแซงไม่ขึ้น สะอึกเวลาถอดคลัทซ์ ปลายหมดเร็ว(แค่120เอง หลังจากนั้นจะเอาให้ถึง140 เหมือนจับลุงแก่ๆวิ่งเลยครับ) จริงๆแล้วอาการแบบนี้เคยเจอกับESผมเมื่อตอนติดแรกๆเหมือนกัน ผมเองวันสองวันนี้พอดีจำเป็นต้องใช้รถก็เลยไม่ได้เอาเข้าไปให้เขาจูน ขับไปก็งุงิไป >:( คิดถึงESของผมซะจริง :(   แต่สิ่งทีสังเกตได้ก็คือว่าวันแรกจะสวิงเหมือนก่อนฉีด แต่หลังจากนั้นอีกวันนึงจับความรู้สึกได้เลยครับว่ามันนิ่งขึ้นมาหน่อย แต่ก็ยังมีสวิงบ้าง

แล้วเมื่อตอนเย็น 26/10/07 ผมเองก็ตัดสินใจแล้วว่าเดี๋ยวจะเอาเข้าไปให้เขาจูนใหม่ แต่จำได้ว่ารถคันนี้ไม่ค่อยได้ทำความสะอาดโดยเฉพาะห้องเครื่อง มีคราบต่างๆอยู่เยอะ แล้วเท่าที่สังเกตเจอก็คือคราบน้ำมันใกล้ๆฝาสูบ อาจจะเป็นเพราะว่ามันรั่วเลยเกิดการซึมออกมาได้ ผมก็เลยจัดการซะใหม่เอี่ยมเลยครับ แล้วผมก็ขับกลับไปให้ร้านเดิมจูนอีกครั้งนึง บอกตามตรงว่าผมเองก็ไม่แน่ใจว่ามันจะดีหรือเปล่ากับการฉีดน้ำยาครั้งนี้ เพราะว่ารองเครื่องสวิงเอาเรื่องอยู่ ผมก็แจ้งช่างเขาว่าเหยียบแล้วสะอึก แซงไม่พ้น รอบสวิงอยู่ คราวนี้ช่างเขาเลยจูนให้ใหม่อีกครั้ง เชื่อไหมครับ ตอนที่ช่างเร่งตอนไม่ได้เข้าเกียร์เสียงมันแรงมาก เหมือนกับว่าเครื่องมันไม่อั้นไว้ ตอนแรกก่อนที่ให้ช่างจูนเวลาเหยียบคันเร่งแรงๆ มันจะมีเสียงปุๆเหมือนท่อไอเสียแตก แต่ว่าตอนนี้เสียออกมาไม่มีเลยครับ แล้วตอนแรกเร่งรอบจะไม่ถึงสี่พันรอบ แต่หลังจูนออกมารอบไปถึงRed Lineเลยครับ  :P มันเกิดอะไรขึ้นหว่า  ::) เมื่อกี้ก่อนเอามาจูน ผมก็ไปไหนยังโดนดูดตูด แซงไม่ขึ้นอยู่เลย  ??? ไหนๆก็ไหนๆแล้ว จูนเสร็จผมก็ให้ช่างเขาลองขับให้ผมนั่งดู เชื่อไหมครับ มันพุ่งครับ ไม่สะอีก  :P มันทำอะไรกับรถเราว่ะเนีย  :o แต่รู้สึกเลยว่าวิ่งดีกว่าตอนแรก  ::) ซึ่งตอนแรกจะแซงยังไม่พ้นเลย  ??? ช่างเขาขับไปสักพักนึง ผมก็บอกว่าไหนผมลองเอาดีกว่าจะได้รู้ไป ผมก็ลองขับดู มันแรงขึ้นจริงๆครับ  :P แบบว่าต่างจากตอนแรกเยอะ นึกว่าช่างมันจะเล่นตลกกับเราว่าแรงไม่เห็นมีอะไรเลย ทั้งที่รถเราก็อืดจนเต่าเรียกพี่ด้วยซ้ำในตอนแรก ไหนๆก็ไหนลองมันอีก ผมก็ไปส่งช่างก่อนเสร็จผมก็เอารถไปทำธุระต่ออีก โดยยังมีความรู้สึกกลัวๆว่าแซงไม่ขึ้น เส้นทางที่ไปทำธุระครั้งนี้ต้องใช้ทางด่วน คราวนี้แหละคงได้เทสแล้วแน่ๆ  ;) เชื่อไหมครับว่ามันพุ่งกว่าเดิม  :P ทั้งๆที่เมื่อเช้าวิ่งทางเดียวกันแซงก็ไม่พ้น อืดก็อืด ความเร็วก็เหยียบได้แค่ 120 ก็หมดแล้ว แต่คราวนี้แซงแบบว่ามันๆขำๆ สั่งได้ดั่งเท้าเหยียบ แล้วความเร็วที่ได้ก็อยู่ที่ 140 กมต่อชั่วโมงตามรูป (การขับรถเร็วอาจเกิดอันตรายได้ อันนี้เป็นการเทสแค่ช่วงสั้นๆเท่านั้น)

(http://i158.photobucket.com/albums/t93/anodite_studbar/anodite_1/DSCF4223copy.jpg)

พอดีว่าบนทางด่วนวิ่งได้สักพักนึงแล้วรถเริ่มชลอตัว ผมก็เลยขับตามไปเรื่อยๆ เห็นถีงความเปลี่ยนแปลงได้เลยครับ อย่างแรกรอบเครื่อง ก็ตกลงมาจากพันห้าร้อยรอบเหลือที่พันรอบ อย่างที่สองคือเสียงเครื่องรู้สึกได้เลยว่าเงียบและนิ่งกว่าตอนแรกมาก สิ่งต่อมาก็คือเวลาจะตบแซง สั่งได้ดั่งใจ ซึ่งตอนแรกไม่ได้อย่างนี้ แล้วเสียงที่บอกว่าปุๆตอนเร่งหรือแซงก็หายไป แล้วหลังจากทำธุระเสร็จผมก็กลับโดยใช้ทางด่วนเหมือนเดิม คราวนี้ขากลับโล่งกว่าก็เลยลองดู แซงมันครับ นิ่งอย่างไม่น่าเชื่อ ต่างกันกับเมื่อตอนเช้าราวกับฟ้ากับเหว หลังจากกลับมาพอดีที่บ้านเขาเอาไปใช้ต่อจากผม  เขากลับมาเขาก็บอกว่าไปทำอะไรมา รถเครื่องมันนิ่งและนิ่มกว่าเดิม ซึ่งถ้าเกิดจากความรู้สึกของผมเองก็คงจะวัดอะไรไม่ได้ แต่เจ้าของรถที่ใช้คันนี้เขาใช้อยู่ทุกวัน เขาจับความรู้สึกได้ถึงความแตกต่างกันจากตอนแรก

คงสรุปได้ว่าตอนฉีดน้ำยาจนหมดกระป๋องช่วงแรกน้ำยาจะค้างอยู่สักพักนึง แต่เมื่อน้ำยาละลายหมด ก็จะทำให้ระบบหายใจของเครื่องต่างๆจาก ช่องดูดอากาศ ไปสู่ลิ่นปีกผีเสื้อ ผ่านตัวเดินเบา(และตัวนี้เป็นตัวสำคัญอีกตัวนึงที่จะทำให้รอบสวิงได้ และเท่าที่สังเกตจากจุดนี้ ตัวเดินเบาเดินนิ่งขึ้นกว่าเดิม) แล้วออกไปทางท่อไอเสีย เมื่อสิ่งต่างๆเช่นคราบเขม่า คราบน้ำมันเครื่อง คราบแก็ส คราบอะไรต่างๆที่ติดอยู่ในช่องเดินอากาศถูกน้ำยาตัวนี้ฉีดไปแล้วถูกล้างออก เมื่อทุกอย่างสะอาดรถก็วิ่งขึ้น เหมือนกับคนเราที่เมื่อมีน้ำมูกก็จะทำให้หายใจติดขัด แต่เมื่อจมูกโล่งๆก็หายใจสบาย เครื่องก็เหมือนกันครับ

ก็เป็นอีกบททดสอบนึงซึ่งไม่น่าจะเจอ(แล้ว) เพราะจากคันเก่าแก้มาจนหายแล้วดันมาเจอรถคันที่บ้านนี้อีก ซึ่งปกติผมไม่ค่อยได้ขับสักเท่าไร ไม่นึกว่าจะมาเจอก็เจอ ก็เป็นอีกความรู้นึง เอามาฝากเพื่อนๆเพื่อใครมีรถที่บ้านแล้วยังใช้ระบบนี้อยู่ จะได้หาวิธีแก้ได้โดยไม่ต้องปวดหัวครับ  :-[

รถผม A/T ด้วยอะจิ แต่ไม่รู้อาการเดียวกันป่าว ตอนที่ผมติดมาใหม่ ๆ ช่วงออกตัวเหมือนเครื่องทำท่าจะดับ แต่ไม่ดับ ก้อลองอยู่ 1-2 วัน ก้อยังเป็นอยู่ เลยกลับไปหาอู่ที่ติด เค้าก้อเลยจูนให้ใหม่ เค้าบอกว่าแก๊สหาไป เครื่องเลยสะดุด เค้าปล่อยให้หนาเนื่องจากกลัวเร่งไม่ขึ้น ตอนจูนครั้งแรก ฝนตกหนักมาก ไม่ได้วิ่งจูน แต่หลังจากจูนใหม่ไม่มีอาการอีกเลย ไม่ทราบว่าคุณติดหัวฉีดของไรหัวฉีดเบอร์ไร ผมว่า ลองจูนใหม่อีกที น่าจะดีขึ้ส

ตอนนี้จะติดแก๊สแล้ว เรย ศึกษาข้อมูล อย่างหนัก โดยเฉพาะ เรื่องร้านที่คิดจะติด ว่าจะโดนหลอกมั้ย ติดแล้วเนียนมั้ย หลังการขายเป็นอย่าง ไร ไม่ใช่ว่าสักแต่จะหาลูกค้าใหม่ๆ เก่าๆไม่สนใจแก้งาน เพื่อนๆเคยเจอ อย่างผมมั้ย ศึกษาไปเรื่อย ถามร้านนู้น ก็ตอบว่าติดแบบนี้ดีกว่า ถามร้านนี้ก็ตอบแบบนี้ดีกว่า ไม่ตรงกัน ???
 ไม่รู้ใครหลอกเรากันแน่ เข้าไปดูกระทู้ของเวปร้านแก๊ส นั้นๆ ก็ไม่ดี เพราะเจ้าของร้านจะลบกระทู้ ที่ไม่ดีต่อร้านเค้าทิ้งหมด เหลือไว้แต่ข้อความดีๆ >:( >:( >:( >:(
 ซึ่งบางข้อความเป็นการ บอกกล่าวในเชิงลักษณะโฆษณา ซะมากกว่าติชม(ลูกค้าจิงป่าวมะรุ) ผมเรยไปหาในกระทู้ของ แกซไทย ซึ่ง ไม่สามารถลบข้อความที่ติชมเข้ามาได้
คัยที่คิดจะติดแกซ ตอนนี้ ลองอ่าน ข้อมูล ในนี้ดูคับ  :Dบางท่านอ่านเปลี่ยนใจมาติดที่ร้านนี้ ร้านอะไรเนี่ย คนชมกันทั่วประเทศ :P มาจากที่ไกลๆทั้งนั้นเรย ชมกันขนาดไหน ลูกค้าเป็นร้อยๆ ที่แสดงความคิดเห็นอยู่ ถ้าคิดจะติดแกซอดทน อ่านความคิดเห็นของลูกค้าทุกคนดูนะคับ ลองดูคับ เห็นว่าดี แต่แล้วแต่ ดุลพินิจ ของแต่ละท่านนะคับ ว่าที่พิมพ์ๆชมกันมา เป็นลูกค้าจิง หรือ หน้าม้า เป็นทางเลือกอีก1 ทางคับ  http://www.gasthai.com/boardsale/question.asp?page=1&id=2795
ปล.มิใช่หน้าม้าแต่อย่างใด  ;) ;) ;)

รถรักเราถูกรื้อหมดเลย

ติดสติ๊กเกอร์หน่อย   เพื่อความไม่เหมือนใคร และลดความน่ากลัวลง

 :) :)ไปติดมาแล้วคับ civic es 02 auto autronic jet 15 สุดยอดคับไม่มีคำอธิบาย วิ่งเหมือนน้ำมันทุกอย่าง แต่ 0ถึง140 แก๊สวิ่งดีกว่าคับ 150ขึ้นไปเริ่มอั้น แต่อัดได้ยัน180 คับหมดแล้วคับ ทางหมด บวกกับรถเยอะ จูนทีเดียวจบ เลย จากรอบเดินเบาสำมารถ เปลี่ยนจากแก๊สเป็นน้ำมันได้เลย คา D แล้วเหยีบเบรคไว้ เปิดแอร์ เกือบสุด ไม้ตายที่ชอบสยบช่าง ผิดคาดคับนิ่งกิ๊บไม่มีอาการเหมือนจะดับเลย สุดยอดเลยคับ
สรุปเหมือนน้ำมันทุกอย่าง ต่างกันที่ 30/ลิตรกับ9.89/ลิตร พรุ้งนี้อัพรูปไห้คับ วันนี้หาUSBไม่เจอ :D :D

หลังจากได้ข้อมูล มาจาก คุณ BEER_CIVIC ES ผมก็ตัดสินใจตามเข้าร้านนี้ดีฝ่า(หลายใจจัง) ผมถามเค้าแล้วคับ ร้านเค้าบอกผมว่า ติดมิกซ์ธรรมดาพอแล้ว+แลมด้าเพิ่ม เบ็ดเสร็จ หมื่นเจ็ด ผมเรยถามว่า ถ้าติดหัวฉีดไม่ดีกว่าหรือคับ เค้าบอกแล้วแต่รุ่น อ่ะ ถ้ารุ่นใหม่ๆ ติดหัวฉีด แต่ซีวิคตาโต เลือกได้หมด ก็เอาแค่มิกซ์พอ คุณจะได้ไม่เสียตังมากนะคับ  (ดีเหมือนกันตังเหลือด้วย) ก็โอเค ไว้ใจ ๆ เพราะ คุณBEER_CIVIC ES พึ่งไปติดมาแล้วบอกสรรพคุณมาแล้ว พอโอเคกะทางร้านเสร็จ ผมถามว่าไปติดตอนนี้เรยได้ไหม  :P ร้านบอกโอโห ใจร้อนจิงๆ เรยอ่ะ :-[ :-[ พร่งนี้แล้วกานคับ ตอนนี้ ไม่ว่าง ผมบอก อืมตังอ่ะมีแล้วคับ รอแค่คำแนะนำดีๆ และคนที่ได้ไปติดจิงๆ มาแล้ว น่าเชื่อถือกว่าการไปอ่านในเวปบอร์ดอ่ะ
ปล.นัดติดเสร็จพร่งนี้ บ่ายๆ แล้วไง จะมาบอกผล ของมิกซ์+แลมด้า ว่าเป็นงายมั่ง และขอบคุณคำแนะนำดีๆ จากคุณ BEER_CIVIC ES  มากๆ คับ  :-* :-* :-*

FD ของพ่อผมเวลาเติมแก๊ซเต็ม(ไม่เต็มก็เป็นแต่นิดหน่อย)ท้ายมันจะห้อยๆอ่ะครับ ทำไงดีครับ ถ้าจะรองสเปเซอร์จะมีผลต่อช่วงล่างมั้ย เช่น ความนิ่ม ความเกาะถนน แล้วถ้าจะใส่จริงจะมีแบบสำเร็จรูปหรือว่าต้องไปวัดขนาดเอาเองอ่ะครับ  :-[  :-X

มา up รูปให้คับ ขอโทษด้วยรูปไม่ค่อยชัด

คับไม่เป็นไรคับ ปรึกษากัน civic club เหมือนกัน    :) :) :)

ติดร้านไหนมาอ่ะคับ ถ้าจะฝีมือดีนะ ผมก้อกำลังจะติดอยู่เหมือนกัน รบกวน PM บอกผมหน่อยนะคับ ขอบคุงมากๆคับ

คับด้วยเหตุผลบางประการคับ ขอmail กว่าคับ เดี่ยวส่งไปให้ 
  8) 8) ต้อนรับ แก๊สแก๊งค์อีกคันคับ วันนี้  คุณMr.t.s ตอนนี้ยังติดอยู่ รายงานตัวด้วยคับ  :) :)


คุณ Hiro อยู่แถวไหน ถ้าอยู่แถว ศรีราชา ชลบุรี ลองมาขับรถผมก่อนก็ได้ อิอิ แล้วจะ ชอบ autronic jet 15  :D :D :D

เหอๆ ผมอยู่นนอ่ะคับ mail นะคับ art.chutiwat@gmail.com คุง Beer เล่น M ป่ะคับ เผื่อจะถามทาง M ขอบคุงมากนะคับ สงสาย Autronic จะขับมันมากใช่ไหมคับเนี่ย

  :-[ :-[   แก่แล้วคับ ล้อเล่น(ไม่เคยเล่นอะคับ ตอบทางmail ก็ได้) ใช้ เน็ตบริษัทคับ ;D ;D  ขับมันมาก จริงๆๆนะรู้งี้ ติดตังนานแล้ว อิอิ :D :D

เหมือนกันเลยครับ ผมก็เพิ่งติดมาเกือบอาทิตย์นึงแล้วครับ  แต่น่าจะติดคนละร้าน 
 แล้วก้อมันเริ่มอั้นที่ประมาณ 170-180 ครับแต่ที่ความเร็วก่อนหน้านี้รู้สึกได้เลยว่ามันจะพุ่งกว่าอย่างเห็นได้ชัดเลยครับ
 ว่างๆจะโพสต์รูปให้ดูนะครับ

คับ รักมาก autronic jet 15

เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ผมเติมแก๊สที่สุราษฎร์เต็มถังแล้วก้อออกมาเพื่อเดินทางไป กทม. อยู่ๆก้อเกิดอาการผิดปกติเกิดขึ้นครับ... ตอนแรกก็เหยียบคันเร่งเบาๆออกมาจากปั๊มได้ซัก 100 ม. พอกลับรถเท่านั้นแหละ กะจะเร่งความเร็ว..อยู่ๆเครื่องก็วูบเลยครับ  ตอนแรกก็นึกว่าเป็นแค่แป๊บเดียว ผมก็เลยถอนคันเร่งออก  แล้วก็ลองเหยียบดูใหม่ 2-3 ครั้ง ปรากฎว่ามันวิ่งได้ไม่เกิน 30 กม./ชม. อะครับ  ตกใจหมดเลยนึกในใจ...ไอ้หยา  พรุ่งนี้ต้องไปรายงานตัวที่ กทม.ด้วย  มันจาเปนอะไรมั้ยเนี่ย..กลัวรถเสียน่ะครับ  ผมก็เลยจอดรถไว้ข้างทางแล้วโทรหาร้านที่ติดตั้งครับ  เค้าก็ถามว่ามันเป็นอาการแบบนี้กี่ครั้งแล้ว  ผมก็บอกว่าเพิ่งมีอาการครั้งแรก  เค้าก็บอกว่าให้ผมลองเปลี่ยนจากแก๊สเป็นน้ำมันแล้วก็สับไปใช้แก๊สอีกที่นึงครับ  แล้วก็บอกว่าอาจจะมีปัญหาที่วาวล์  ผมก็เลยลองทำตามคำแนะนำดูครับ  ก็ได้ผลจริงๆ  ตั้งแต่นั้นมาก็ไม่มีอาการอีกเลยครับ    หลังจากนั้นผมก็ไม่ไปที่ร้านอีกน่ะครับพอดีไม่ค่อยว่างน่ะครับ แต่เค้าก็บอกว่าถ้ามีปัญหาให้ไปที่ร้านเลยครับ  ผมมานั่งนึกดู  ตอนที่เติมแก๊ส..หลายๆครั้งจะพบว่าปั๊มแก๊สพยายามจะอัดแก๊สให้ได้มากที่สุด  ขนาดว่า วาวล์ตัดแล้วเค้าก็ยังพยายามอัดเข้าไปเพิ่มจนเกิน 85 % ผมเคยเปิดดูที่เกวัดปริมาณแก๊สเห็นมันชี้ไปที่แก๊สเต็มเลยครับ...เอ่อ..คือว่ามันก็น่ากลัวเหมือนกัน...บรื๊อออ..  ตรงนี้น่าจะ (ความคิดส่วนตัวครับ) เป็นเหตุให้เกิดอาการผิดปกติกับการทำงานของวาวล์ได้ในบางครั้ง  เช่นกรณีของผมครับ   ใครมีข้อแนะนำหรือข้อควรปฏิบัติกับการเติมแก๊สอย่างไรบ้างครับ  ขอความรู้หน่อย...ขอบคุณล่วงหน้าครับ

อ่า เรียบร้อยแล้วอ่า ไปถึงร้าน 10 โมง ออกจากร้าน ทุ่มครึ่ง  :o :o
ขอบอก งานเนียน เรียบร้อยมั่กๆ  :D
ว่าแล้วก็ไปลองวิ่งดู กะเจ้าของร้าน โอ้โห ฝีมือ นี่สุดๆ ไปเลยคับ คุยก็คุยดี เป็นกันเองมั่กๆ ถามเรื่องแก๊สกับเค้าจนไม่รู้จะถามอะไรแล้วอ่า เค้ายังถามเราอยู่เรื่อยๆ ว่าอยากถามอะไรอีกมั้ยคับ มีอะไร ไม่ดี ติชมได้นะคับ  :-*
ตอนนี้เวลาวิ่ง นี่ ไม่ต่างจากน้ำมันเท่าไหร่ เลยคับ แต่เราต้องเหยียบมากกว่าเดิม นิสสส  คืออืดกว่าน้ำมัน นิดนุง แต่ก็ไม่มากมายจนรำคาญ  :)

ปล. ผมใช้ มิกซ์+แลมด้านะคับ จิงๆ จะติดหัวฉีด แต่คุณเค เจ้าของร้านบอกว่าติดแบบนี้พอ ตาโต เลือกแบบนี้ได้ ไม่ต่างจากหัวฉีดเท่าไหร่ เปลืองตังเปล่าๆ
และขอขอบคุณ คุณBEER_CIVIC ES ด้วยคับ ที่ดีโคตรๆ ถึงขนาดโทรไปฝากฝัง ผมกับเจ้าของร้านแต่เช้า และยังมีโทรมาสอบถามผมว่าไปถึงร้านแล้วเป็นไงมั่ง แนะนำอะไรให้อีกหลายๆอย่าง  :-* และเจ้าของร้านก็ดูแลผมเป็นอย่างดีด้วยตัวเอง ตอนนี้คงรอผลอย่างเดียวคับ ว่ากินแก๊สเท่าไหร่ แต่เรื่องวิ่งนี่หายห่วง แล้วจะมารายงานผลให้ทราบกันคับ อ่อ ร้านอยู่ ลาดกระบังนาคับ   :-* :-*

  :-[ :-[ รอดตัวไป คิดว่าไม่ถูกใจแล้ว แต่พี่ เค แก่เก่งจิงว่าไหม ลองใช้ดูคับ อันไหนไม่ถูกใจ พี่เค้าทำจัดให้จนถูกใจอะคับ  :D

ถูกใจมากๆคับ อุปกรณ์ ก็โดนใจดีมั่กๆ ของดีๆสวยๆ ทั้ง น้านนนนน  ;) ;) ;) ;) ;) ;) ;) ;) ;)

มีคนแค่บอกนี่หัวข้อนี้เหมือนกันแต่ไม่รู้หน้าไหนอยู่ที่ลาดกระบัง

โอ้.... งั้น ร้านนี้ เรย คับ J.P.CARGAS อยู่ แถวลาดกะบัง เรยคับ
แถม ติดกะร้านแก๊ส เค้ายังมีร้านเครื่องเสียงอีกตะหาก ให้ร้านแก๊สติดต่อให้จะได้ราคาถูกนะคับ เค้าพวกๆกัน :D
เจ้าของร้านพูดคุย ดี และฝีมือ ดี เบอร์โทรเจ้าของ ชื่อ คุณ เค 089-1127849 อุปกรณ์ก็ให้ของดี เคยเห็นมิเตอร์แก๊สแท็กซี่ไหมคับ มันจะกล่องใหญ่ๆ และมีสวิทซ์แก๊สต่างหากอีกอันนึง แต่นี่ให้สวิทซ์ของดี สวยงาม เล็กเท่าหัวกล่องไม้ขีด และมีมิเตอร์แก๊สในตัวสวยงามมากๆๆๆ ใช้ก็ง่าย ไม่งง แน่นอน ถ้าคุณไม่ตาบอด >:(
บอกเค้าไปด้วย ว่ามาจาก welovecivicclub ไม่งั้น อาจโดนราคา ลูกค้าขาจร ;D
บอกไปด้วยก็ดี ว่า มาจาก คุณ เบียร์ ซีวิค สีน้ำเงิน และ คุณ ที ซีวิค สีแดง เพราะไปติดมาแล้วผมพอใจ 95% อีก5 %ขาดไปเพราะรุ่นรถผม มันติดแล้วทำให้ป่ม ไฟตัดหมอก มันนูนมานิดนึง ขอบอก ร้านไม่มีดาว แต่คุณภาพ 4ดาว ครึ่ง เอ๊า!!!! :-*
ปล. ต้องโทรไปจองก่อง นาคับ เพราะเค้ารับแค่วันละ 2 คัน เพราะอยากให้งานดี เนียนๆ ไม่รับมาก ไม่มูมมาม คับ  ;) ;)

วันนี้เพิ่มเติมนิดนึงนะครับ สำหรับเรื่องการทำความเร็วสูงสุดสำหรับรถที่ติดแก็ส ซึ่งระบบของผมคือ Mixer+Lamda ซึ่งความเร็วเท่าไรก็ดูจากรูปเอานะครับ

(http://i158.photobucket.com/albums/t93/anodite_studbar/anodite_1/DSCF4375copy.jpg)

ซึ่งความเร็วที่เกิดขึ้นนี้เป็นความเร็วที่เกิดจากการทดลองที่ถนนโล่งๆ ปลอดจากรถ ไม่ควรทดลองกับทางที่มีการจราจรที่ขับคั่ง เพราะจะทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ครับ  :-[

สำหรับความเร็วตรงนี้อาจจะบวกลบตามปัจจัยหลายๆอย่างของตัวรถ ซึ่งรถผมคันนี้มีค้ำถึง4ตัวและรวมไปถึงล้อ17นิ้ว ทำให้ความเร็วที่ได้ไม่เกินรูป(อาจจะเกินได้แต่ไม่กล้าขับครับ) ถ้าเป็นล้อสแตนดาด ความเร็วอาจจะมากกว่านี้ก็ได้ ซึ่งช่วงตีนต้นต้องขอบอกจริงๆว่าแก็สของผมค่อนข้างจะอืดนิดนึง แต่เมื่อเลยความเร็ว120 ไปแล้ว เมื่อรถลอยตัว ก็ไม่มีปัญหาครับ

ก็เอามาฝากกันสำหรับคนที่อยากรู้ว่าจริงๆแล้วติดแก็สไปความเร็วสูงสุดจะได้เท่าไรครับ  :)

คับมา up ข้อมูลกัน ถังแรกคับ ผมเดิมตอนไฟดวงสุดท้ายกระพริบ 490 บาท วิ่งได้ 510km  ในเมือง 80-120  140 150 บางครั้ง ถือว่า ok คับ ตกโลละ0.96   :D :D   ถ้าเป็นน้ำมันนะ 510* 2.81 =1443    :o :o

เดี่ยวมา อัพ ให้ใหม่ ถัง 2 ก่อน

กลับไปหาร้านที่ติดอะคับ ของเราวิ่งเนียนเหมือนน้ำมันเลยนะ ไม่เคยดับเลยซักครั้งเลยด้วย บอกเค้าจูนใหม่ ลองดูถ้าหัวฉีดจะทำได้เหมือนกับน้ำมันมากๆๆของเราถ้าไม่ดู สวิทย์ก็ไม่รู้ว่าวิ่งอะไรอยู่   :D :D

วันนี้เพิ่มเติมครับ เมื่อไม่กี่วันก่อนผมไปหาลูกค้ามา พอดีว่าเขาทำเกี่ยวกับระบบแก็สพอดี ผมก็เลยเข้าไปคุย ก็ได้ข้อมูลน่าสนใจดี

แต่จุดนึงที่ผมได้หลังจากที่ได้เข้าเวปของทางร้านเขา ซึ่งเป็นประโยชน์แก่ชาว Civic Gas Gang Club ก็คือการคำนวนค่าใช้จ่าย

การเปรียบเทียบค่าแก็สกับน้ำมันว่าใช้ไปเท่าไร ง่ายๆแค่ใส่ตัวเลขที่เรามี ค่าของมันก็จะออกมาแบบ Real Time เลยครับ

Click เข้าไปดูเอาแล้วกันนะครับที่

http://scggroup.net/CalculateExpense.aspx 

ขอขอบคุณ Super Central Gas สำหรับข้อมูลแก็สด้วยครับ

ตอนเช้าวอร์มเครื่องด้วยน้ำมันประมาณ 2 นาทีแล้วระบบพร้อมทำงาน   แล้วเหยียบไป 2000  รอบตัดเป็นแก็ส แล้วลงมาที่รอบเดินเบาของเพื่อนๆ สั่นมั้ยครับ    ของหัวฉีด Autronic นะครับ

ถ้าตอนเช้าเลย ไม่มีอาการครับ แต่ขณะใช้งานอยู่บนถนน ขับ ๆ จอด ๆ (รถติด) มีอาการบางครั้งครับ ที่ร้ายแรง รอบเดินเบาจะดับเลยด้วยซ้ำ :( แต่ตั้งแต่ติดมา 5 เดือร อาการจะดับเนี่ยเพิ่งเป็น 3-4 ครั้ง ตั้งใจว่าจะไปล้างปีกผีเสื้อ+เช็ครอบเดินเบาก่อน เอาให้มันสมบูรณ์แล้วจะไปจูนใหม่อีกรอบนะครับ ???

อาการเป็นไงบ้างอะครับ ขอเป็นข้อมูลหน่อยจิ

ขอผม ES VTEC 1.7 ติด AG Centrum ติดมาวิ่งไปกว่า 5000Km ไม่เคยดับเพราะแก๊ส มีแต่บ่อยครัชผิดเลยดับ :D
แต่จะมีอาการแก๊สหนา รถจะสั่นบ้างเวลารถติดแล้วเร่งไปเกาะตูดคันข้างหน้าแล้วเบรค เพราะรอบจะตกมาที่ 650rpm แต่ไม่เคยดับ

เนื่องด้วยอาการที่เกิดแก๊สหนาเพราะรุ่น ES ช่างเขาบอกว่าแอร์มันตัดบ่อยเลยต้องจูน แก๊สที่ประมาณ 750rpm หนานิดนึงเพื่อไม่ให้ดับ
แต่ผมดันไม่ชอบเปิดแอร์ขับ เวลารถติดเลยเกิดอาการสั่น บางครั้งเป็นบ่อยเพราะขับถนนรถติดประจำ พอสั่นบ่อยๆต้องเปิดแอร์มันก็จะหายสั่นขับได้ปกติเหมือนน้ำมัน

อีกอาการนึงของผมที่เป็นคือถ้าเติมแก๊สเต็มๆ LED ที่บอกระดับแก๊สจะมาติดกระพริบที่ดวงล่างสุดเหมือนแก๊สจะหมด
แต่ถ้าขับใช้แก๊สไปซักพักนึงจนระดับแก๊สลดลงประมาณ 5-10 ลิตร มันก็ติดครบสี่เม็ดตามปกติ

ส่วนเรื่องการตอบสนอง วันนี้ก็ขับที่ Motorway มี Camry วิ่งนำหน้าแล้วอัดหนีผมเลยลองอัดเล่นๆตาม แป๊บเดียวก็ 170Km/h แต่ถนนหมดเพราะรถเยอะเลยผ่อน ถือการตอบสนองโอเคครับ

สงสัยรถเราจะเป็นที่แก๊สหนาเพราะอาการเหมือนคุณโอ๋ เลยอะครับ

สนุกกะอาหารใหม่ของ ES เชียวนะครับคุณโอ๋ ประหยัดสุด ๆ ๆ :-*

NGV ใครมีปัญหาบ้างค่ะ? หรือว่ามีอาการอะไรแปลก ๆ บ้างค่ะ  ::)  ใครมีอาการแปลก ๆ ฝากมาโพสด้วยนะค่ะ จะเอาไว้เปรียบเทียบกับรถตัวเองค่ะ 

ก็เป็นธรรมดาครับ ของมันดีอะครับ

แต่รู้สึกว่าเริ่มเห็นข้อเสียของ LPG แล้วหละ

1. ใช้แล้วคนขับอ้วน เพราะตังค์เหลือเยอะ เยอะกว่าเดิมแก๊สโซฮอล์อีก เลยทำให้อ้วนกว่า ฮะฮะ
2. ใช้แล้วทำให้แต้มบัตรเครดิตไม่เพิ่ม เพราะเติมทีสุดๆไม่เกิน 400 ปั๊มเลยไม่รับรูดบัตรเครดิต
    นึกถึงสมัยเติมน้ำมันอย่างเดียว รูดที 1200-1300 อย่างน้อยๆก็ได้ ประมาณ 40 กว่าแต้ม

:D

นั่นจิ เติมน้ำมันก้อเกือบ ๆ  2 เดือน ถึงได้เติมถังนึง กว่าจะได้รูดการ์ด 1000-1200 แต้มในบัตรลดลงใหญ่เลย ;D

ปล. แล้วเมื่อก่อน ไม่อ้วนเรอะ ::) ;D ;D

สวัสดีครับชาวเว็บทุกท่าน
ผมติดมาแล้ว LPG ot รถผมเตารีด  1.6  VTec เครื่องD16a  ปี93 ครับ (วางเครื่องใหม่)
ติดแบบ fix mixer  ถัง 58 ลิตร มัลติวาล์ว
มี Auto switch เปลี่ยนน้ำมันเป็นแก๊สของ ATX
และหม้อต้มของTOMASETTO ACHILLE
ค่าติดตั้ง 18000
วันแรกที่รับรถมาใช้รถวิ่งอืดมาก 80 ก็วิ่งไม่ออกแล้วเอากลับไปให้ช่างดูอีกช่างตอบว่า"ตั้งแบบประหยัดสุดๆไว้ให้" ผมบอกกับช่างว่าอยากให้ได้ใกล้เคียงกับน้ำมันมากที่สุด อู่ก็ปรับมาให้ผลออกมาแรงได้ดังใจแต่มีกลิ่นแก๊สออกทางท่อไอเสียเลยเอากลับเข้าอู่อีกครั้งปัจจุบันวิ่งไปตัน อยู่ที่  120กว่าๆกลิ่นแก๊สก็แทบไม่มี(มีบ้าง.....บางๆตามประสาคนจมูกหาเรื่อง)
มีความสุขกับการใช้มากครับถึงน้ำมันจะขึ้นผมก็ยังวิ่งไปไหนมาไหนได้อย่งสบายใจ
ผมเป็นเพียง 1 ประสบการณ์ที่ใช้รถติดแก๊ส ส่วนเพื่อนๆจะเลือกใช้แบบไหนนั้นก็แล้วแต่ความชอบส่วนตัวนะครับ ดีทั้ง LPG และ CNG(NGV)แหล่ะครับเพราะว่ามันประหยัดกว่าน้ำมัน
........หวังว่าคงพอเป็นแนวทางได้นะครับ......

รถผมเปลี่ยนสปริงและอัดนำมัน

ถ้าติดมันจะเตี้ยลงมามั้ยครับ

ใครเปลี่ยนสปริงเร้วติดแก้สบ้าง

แนะนำเพื่อนๆที่ติดแบบหัวฉีด Autronic ครับถ้าตอนเช้าเปลี่ยนเป็นแก็สแล้วกระตุก หรือสั่น แนะนำให้ขันน๊อต 4 ตัว ที่VIR ครับ

ไม่ได้เข้ามานานแต่ก็เข้ามายืนยันว่าผมติดมาจะครบปีแล้วครับแบบmixerไม่มีlamdaมีปัญหาเรื่องรอบเดินเบาช่วงแรกๆครับ
หลังจากนั้นไม่เคยมีปัญหาใดๆเลยหลังจากจูนเข้าที่แล้ว   ความเร็วที่เคยลองอยู่ที160พอดีเข่นเท่าไหร่ก็ไม่ขึ้นแล้วครับเอามาเป็นข้อมูลให้เพื่อนๆครับ
ก็ทำสตัทปรับเกลียวด้วยไงครับผมทำอยู่เอาขึ้นเอาลงได้

ไม่เตี้ยกว่าเก่าเท่าไรนะ ถ้าเตี้ยไปไม่ชอบก็ รองสเปเชอข้างหลังก็น่าจะ ok นะ ไม่เกินพันแน่นอน ถ้า es แนะนำเลย autronic  jet 15  นะ อย่างเดียวเท่านั้น ทีเดียวจบ

ช่วยอธิบายเพิ่มเติมอีกนิดได้ป่าวอะ :-[ จะได้ไปลองทำดูบ้างอะครับ ::)

ของผม H&R อัดน้ำมัน ติดถัง 58 Liter
แนะนำนะครับว่าให้ติดตั้งแก๊สก่อน แล้วค่อยไปเสริมสเปนเซอร์อีกที เรื่องความสูงลองเผื่อๆตอนเติมแก๊สเต็มถังและคนนั่งหลังด้วยนะครับ

ผมลองสเปนเซอร์หลัง 1 นิ้ว ส่วนด้านหน้าเลื่อนเบ้าลงสุด ก็โอนะครับ เพราะได้หน้าทิ่ม ตูดโด่งนิดๆ ขับสบาย

ผมกำลังจะไปติดครับ LPG MIXER ครับ ตาโต 1.6 วีเทค หัวฉีด   ถามเลยน่ะครับ
1.ช่างบอกว่ารุ่นนี้ไม่ต้องติดกล่องหลอกหัวฉีด เพราะไฟเอ็นจิ้นไม่โชว์อยู่แล้ว ถึงติดไปก็ไม่เกิดประโยชน์เปลืองตังค์ป่าวๆ จริงมั้ยครับ
2.กรองผมเป็นกรองเปลือยครับ ช่างบอกว่าต้องเปลี่ยนเป็นกรองธรรมดาก่อน เพราะอย่างนี้จะวิ่งไม่ออก จริงมั้ยครับ(พอดีว่ากรองเก่าผมมันหายไปไหนแล้วไม่รู้ครับ  เดินท่อใหม่ด้วย ให้กลับไปใช้กรองแบบติดรถคงต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มครับ เพราะมันหายไปไหนไม่รู้)

ช่วยตอบด้วยน่ะครับ ขอบคุณครับ  :-[ :-[ พอดีอยู่ต่างจังหวัดครับ มีอยู่ร้านเดียวครับ ถ้าไม่OK ก็คงต้องบอกลา LPG แล้วครับ

ขอตอบข้อ1ว่าจริงครับเพราของผมขึ้นตลอดทำให้หายได้โดยติดกล่องหลอกแต่ติดไปก็แค่ไฟเอ็นจิ้นหายไม่ได้มีประโยชน์อะไรเลยไม่ติดครับ
ข้อ2รอผู้รู้มาตอบ

ร่นเดียวกัน คับ เพิ่มแลมด้ามาอีกตัว แต่ ติดอะไรบ้างไม่รู้อ่ะ แต่ครบชุดแล้ว ผมเอ็นจิ้นไม่โชว์นะคับ ไม่รุเค้าติดให้ป่าว
ทุกวันนี้ กินโลละ 1.66 (เพราะเท้าหนักป่าวมะรุ) ใจอยากให้กินน้อยกว่านี้  แต่รถวิ่งดีมากๆ ถูกใจสุดๆ
กะลังให้ร้านจูนลงเรื่อยๆ เดี๋ยวคงลงตัว คัยที่ขับตาโต แล้วติดแบบ ดูด มาอ่ะคับ
ช่วยบอกที ว่ากินกันเท่าไหร่ ถ้าได้น้อยก่านี้ จะได้ปรับให้ลงมาเท่าๆกัน

ถึงคุณ  BEER_CIVIC ES     ตอนติดร้านที่คุณเบียร์แนะนำมาใหม่ๆ ก็แฮปปี้ ดีนะคับ แต่ว่า มันยังกินแก๊สไปนิด 1.66บาท ต่อโล
ของคุณ เบียร์ ยังไม่ถึงโลละบาทใช่มะคับ
ไปจูนมาหลายรอบแล้วก็ยังไม่ลง :(
แล้วเกรงใจ คุณ เค(เจ้าของร้าน) อ่ะคับอยากจะจูนเอง จะได้ไม่รบกวนเค้า เค้าก็มีงานของเค้า  8)
ก็เลยตัดสินใจ ถอดแลมด้า เผื่อที่จะได้สามารถจูนเองได้ พอถอด โอ้โห ประหยัดขึ้นทันตาเห้น ในเมือง รถติดพอประมาณ กินไม่เกิน 1.3 ถ้ารถโล่งๆหน่อยคงได้น้อยก่านี้  :P
แล้วอัตราเร่ง นี่สุดๆ เหมือนน้ำมันเลย ดีก่าตอนติดแลมด้าเยอะเลย ยังสงสัยอยู่เลย นี่มันเป็นน้ำมัน ไม่ยอดตัดเป้นแก๊สรึป่าว :P
แล้วถอดแลมด้าเนี่ย ผมถามคุณ เค เล่นๆ ว่ารับซื้อคืน มั้ย ยังไงมันก็ถือว่าเป็นของมือสองแล้ว :-[
คิดในใจเท่าไหร่ก็เอา ดีก่าเก็บไว้เฉยๆ ไม่มีประโยชน์ เค้าตอบกลับมาแบบผมอึ้ง รับคืนเต็มราคาคับ โอยๆ ยังงี้ ซื้อใจผมไปแล้วคับ :-*
ตอนถอดแลมด้าออก นะคับ แล้วคุณเค พาไปลองรถ คุณเค ตอบกลับมาว่า ให้ผมกลับมาใหม่วันหลังได้มั้ย เพราะคิดว่า ยังวิ่งไม่ดีพอ จะเปี่ยนหม้อต้มให้ใหม่ ยังไม่พอใจสำหรับตัวคุณเค ผมก็ไม่รู้หรอกนะ ว่าวิ่งไม่ดียังไง เพราะน้าผมไปด้วยและให้น้าขับตลอด จนกลับถึงบ้าน :-[
และแล้วพอถึง ตอนเย็น ต้องไปรับแฟนที่ทำงาน งง คับ วิ่ง แบบน้ำมันเลยอ่ะ ต้องดูสวิทซ์ไฟ มันใช่แก๊สแน่รึป่าว :P
เอ มันใช่คับ สวิท มันสับมาเป็นแก๊ส แล้ว เลยขับไปเรื่อยๆ มอง ไมล์น้ำมัน ว่าน้ำมัน จะลดหรือป่าว แบบไฟสวิท มันหลอกผมรึป่าว :P
ไม่น่าใช่น้ำมันคับ เพราะมันไม่ลด สุดยอดดดดดดดดดดดดดดดดด   >:(
เด๋ว วันนี้ ผมจะโทรไปเคลียร์ กับคุณ เค คับ ว่า ที่ว่าจะเปี่ยน หม้อต้ม ให้น่ะ เพราะอะไร ผม พอใจ ดีใจ จนน้ำตาจะไหลแล้วเนี่ย :(
 
ปล. เป็นธรรมดานะคับ ที่ติดแก๊สแล้วมันอาจจะมีปัญหาบ้าง ทุกคนรู้อยู่แก่ใจ แต่มันขึ้นอยู่ที่ว่า ร้านที่ติด พร้อม ที่จะดูแลแก้ไขให้เรารึป่าว ไม่ใช่ติดแล้วถีบหัวส่ง แบบหลายๆกระทู้ที่เคยเจอมา ขอบคุณ คุณเบียร์ ด้วยคับ ที่แนะนำ ร้านดีๆ ให้ผม บริการดีมากๆ ใจถึงมากๆ อีกตะหาก ไม่คิดตังเพิ่มเลย ถ้าคุณ เบียร์ มีเพื่อน หรือคัยที่สนใจ ผมขอให้แนะนำไปที่ร้านนี้เลยคับ ไม่ผิดหวัง ผมก็เหมือนกัน จะแนะนำให้คนที่ถามผม ว่าต้องมาร้านนี้แน่นอน ขอบคุณอีกที ตอนนี้มีความสุขมากๆคับ  :D

ทำไม แลมด้า ไม่ประหยัดหนอ งง แต่ถ้าใส่แลมด้า มันกัน black ได้นะ แต่ถ้าจูนดีดี มีโอกาศน้อยคับ
ของเรา ในเมืองนะ 0.95-1 บาท นอกเมืองยัง หรือว่า เราเท้าหนักไม่รู้ 120 -150 ตลอด อิอิ แก๊สมันถูก

อาการแปลกอย่างไรบ้างครับ คันที่ใช้อยู่มีอาการดังนี้
ที่รอบเดินเบา ก่อนออกตัว เวลาเริ่มเหยียบคันเร่ง มีอาการเหมือนสะอึก
ตอนออกตัวเหยียบคันเร่งมากไม่ได้ ต้องค่อยๆให้มันไหลออกไป แล้วค่อยเหยียบคันเร่งก็จะไม่เป็น
อันนี้กลับไปที่ศูนย์ให้ลองจูนใหม่ได้ครับ

เพิ่มเติม จากการที่หน้าหนาหน่อย บวกอัธยาศัย ระหว่างรอเติม NGV ที่ปั๊ม เจอ BENZ 200 NGT
เลยคุยกับเจ้าของรถ ขอดูถังท้ายรถมาแล้วครับ
ถังแก็ส 4 ถัง ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 20 เซ็นติเมตร ยาวประมาณ 40 เซ็น
เค้าวางถังในช่องยางอะไหล่ในรถ 2 ถัง อีก 2 ถัง วางไว้หลังเบาะรถ
ทำให้ที่บรรทุกของท้ายรถโล่งเหมือนปกติ
นั่นคือ รถจะไม่สามารถเก็บยางอะไหล่สำรองได้
รถเบนซ์ เค้าให้ปั๊มลมไฟฟ้ามาแทน กับมีชุดสำหรับอุดยางเวลารั่วแทน
ไม่ได้ขอถ่ายรูปมาครับ ลืมพกกล้องติดตัว

ประกาศ เพื่อนๆๆ คนไหนหนอ   ติดแก๊ส กับพี่เค  ร้านที่แนะนำ แสดงตัวด่วน เคืองนะ  ไม่ยอมบอกว่า เบียร์คนหล่อๆๆแนะนำมา  บอกว่าcivic club อย่างเดียว ถ้าบอกว่าเบียร์แนะนำมา ถูกกว่านั้นอีก (ล้อเล่นคับ )อยากรู้ว่าเป็นอย่างไรบ้างอิอิ

 :) :)

ปล. หมั่นดูยางด้วยนะคับ ยางจะหมดเร็วกว่าปกติ เพราะว่าใช้รถเยอะ  km/ไม่ถึงบาท  แล้วคุณจะรัก jet15

 :)

     :D        คุณ atom หรือเป่า   เห็นยิ้มๆๆ แอบหลงรัก autronic แล้วใช่ไหม อิอิ   :) :) :) :D

เพื่อนๆที่ติดหัวฉีดวิ่งแก็ส 100% หรือ วิ่งน้ำมันด้วยครับ  ถามที่ร้านติดเค้าบอกวิ่งแก็ส100% เลย แบบว่าไม่ค่อยเชื่อร้านที่ติดขี้โม้

หัวฉีดจะสตาร์ทน้ำมันอยู่แล้วทุกครั้ง แต่ผมก้อพยายามวิ่งน้ำมันบ้างเป็นประจำนะครับ ถ้าไปไหนแบบใกล้ ๆ นิดเดียวก้อขับน้ำมัน แล้วก้อก่อนถึงบ้านซัก 500 เมตร ก้อขับน้ำมันเข้าบ้าน ไม่รู้เหมือนกันว่ามันจะดีกว่าขับแก๊ส 100% หรือป่าว แต่ทำแล้วสบายใจ :-*

ตาม คุณ ES01 328   :) :)

ของผมก็ตามนี้เช่นกันครับ :D

เพิ่มเติมนะครับ เดือนนึงผมวิ่งประมาณ 3 - 4 พันโล ขึ้นไป ผมเติม 95 ประมาณ 5 - 6 ร้อยนะครับ ( 2 เดือนเต็มถังทีนึง ป้องกันถังน้ำมันผุ และลูกลอยพันด้วย)

กำลังจะไปติดแก็ส แต่ทำไมราคาแก็สมันขึ้นเร็วจังอ่ะคับ แล้วจะประหยัดมั๊ยเนี่ย เฮ่ออ  :'(

ลองเทียบกะน้ำมันลิตรละ 30 กว่าบาทดูซิครับ ต่อให้ LPG ขึ้นเป็น 12 บาท ผมก้อเห็นผมต่างเป็นเท่าตัวอยู่ดีแหละ

ครับ ข้อมูลนี้ถูกต้องครับ ถึงให้แก็สขึ้นถึง 15 บาทก็จริง แต่ก็อย่าลืมว่าน้ำมันคงทะลุกว่านี้เยอะ เผลอๆอาจจะเกิน 40 บาทต่อลิตรไปแล้วก็ได้

เท่าที่ผ่านมาผมก็มีพูดกับเพื่อนๆทั้งในและนอกคลับว่าแนวโน้มน้ำมัน(ตั้งแต่ปีที่แล้ว)ว่าน่าจะเกิน30บาทต่อลิตรในปีนี้ ซึ่งดูแล้วผมว่าแค่30บาทต่อลิตรคงเป็นเรื่องขำๆไปแล้ว แนวโน้ม40บาทต่อลิตรไม่แน่ว่าปีหน้าอาจจะได้เห็นด้วยซ้ำ เพราฉะนั้นจะติดแก็ส อย่ามัวแต่รีรอว่าน้ำมันขึ้นแล้วค่อยติด ถ้ายิ่งรอนาน ก็ยิ่งคุ้มทุนน้อยลง

ก็ลองเอาไปตัดสินใจกันดูแล้วกันนะครับ แต่อย่าตัดสินใจช้านะครับ แล้วจะหาว่าไม่บอกกัน  :D

กำลังหาข้อมูล........สงสัยงานนี้ติดแก๊สแน่

 ??? ??? ???

ติดเลยครับ จะได้เหลือเงินไปแต่งรถอีกครับป๋ม อิอิ  ;)

1.หมายถึงตอนที่เครื่องเย็น แล้วกำลังสับเข้าโมดแก๊สใช่ป่าวอะครับ ผมก้อกระตุกเหมือนกัน แต่ไม่ถึงขนาดดับ ยังหาทางแก้ไม่ได้แบบจริงจังครับ แต่ที่ผมทำอยู่ วอร์มเครื่องให้เข้าโมดแก๊สก่อน ค่อยออกถนนหลัก (บ้านอยู่หลังเกือบสุดท้ายในหมู่บ้าน ถึงหน้าหมู่บ้านก้อพอดี)
2.หัวเทียนตอนนี้ผมก้อใช้มา 2 หมื่นกว่าแล้วเหมิอนกัน แต่มีอาการสะดุดอย่างที่บอกตั้งแต่ตอนหัวเทียนใหม่แล้ว
3.ไม่รู้เหมือนกันครับ  :-[ แต่รถผมพอรอบถึงอณหภูมิถึง ขณะรอบขึ้นก้อเปลี่ยน หรือรู้ว่ามันกำลังจะเปลี่ยนแล้วถอนคันเร่ง มันก้อเปลี่ยน
4.รถผมอยู่ที่ 2 พันรอบ + อุณหภูมิ ถึง กี่องศาไม่รู้ ES ขึ้นประมาณ2-3 ขีดนะครับ
ไม่รู้ว่าที่ตอบมาจะมีประโยชน์หรือป่าว พอดีเช้าอยู่ ว่าง ๆ นะครับ

ขอซะหน่อย ไม่จริงครับบบบบ ???
แบบว่าเอาตัวเลงเป็นหลัก พอตอนคำนวนว่าประหยัดไปเท่าไร โอเยอะมาก ;) โครงการออกเลยว่าจะเปลี่ยนนั่นเปลี่ยนนี แต่ดูเงินในกระเป๋า :P แฟบเหมือนเดิม :(

ผมเป็นเหมือนกัน ตอนเช้ากระตุก  ตั้งอุณหภูมิ  35 องศา   แต่ไฟกระพริบรัวแล้วผมยังอุ่นเครื่องต่อ   หายครับ   ผมคิดว่าถ้าอยากแก้ถาวรก็  จูนให้อุณหภูมิการเปลี่ยนสูงขึ้นเป็น 40-50 องศา  แต่ถ้าไม่อยากรอนานก็  เลี้ยงคันเร่งไว้ตอนเหยียบรอบให้เปลี่ยนเนแก็ส

ผมเดาว่าตอนคำนวนประหยัด แต่ตอนขับไม่ประหยัดเงินหาย ก็อาจจะเป็นเพราะว่ามันประหยัดเลยเหยียบหนักไปหน่อย เลยต้องเติมแก็สบ่อยๆ

เงินมันก็ลอยไปอยู่กับปั้มแก็สหมด (ผมก็เปงเหมือนกาน)  ;)

เดาผิดคราบบบบ ;D
แต่ก้อถูกบ้าง ประมาณว่าคิดว่าประหยัดวิ่งซะ ไม่ได้จอดซักวัน เสา-อาทิต 2-3 ร้อยโล จ-ศ วันละ 70-80 โล แถมยังกินเยอะ ซื้อของเยอะขึ้น แบบว่าเงินเหลือจากค่าน้ำมันนะ  ;D ;D จึงเป็นเหตุให้ แฟบเหมือนเดิม :( (เก็บตังไม่อยู่ ทำไงดี :-[)

ติดเลยพี่ แล้วพี่จะเหลือเงินอีกเยอะ
แล้วก็เอาของ ในรถ มาขายอีก เยอะๆๆๆๆๆ  ;) ;)

  :-[ ไม่ทราบว่าเพื่อนๆที่ติดระบบ ออโทนิค จะมีปัญหา ช่วงเช้า ตอนเข้าสู่ระบบแก๊ส จะมีอาการกระตุกทุกคันหรือเปล่า ครับ หรือต้องวอร์มเครื่องสักพักนึงก่อน มีวิธีแก้ไขอย่างไรช่วยแนะนำหน่อยนะครับ พอดีบางครั้งมีอาการกระตุกมาก ขอบคุณครับ

กระตุก คับ แต่จึกเดียว   แต่ไม่ดับ   และครั้งเดียวตอนเช้า   อย่าลืมว่า เรา start น้ำมันนะ ช่วงเวลาที่แก๊ส มาจากถัง ถึงเร็กกูเรเตอร์
จะมาถึงหัวฉีดไกลนะ 

ผมเบิ้ล รอบให้ตัด 2000 เปลี่ยนเป็นแก๊ส ก่อนค่อยออกจากบ้าน ถ้าออกมาเลย มันกระจึก กลัวเกียพัง อิอิ มันออโต้อะ es เกียเปราะ

เห็นด้วยๆ จะได้จัดมาอยู่ในรถผมบ้าง ขอดีๆทั้งน้าน  ;)

ขึ้นอยู่กับลักษณะการขับขี่ของแต่ละคน และขับในเมืองที่รถติด หรือถนนโล่ง ๆ ที่ผมขับอยู่ทุกวันมีทั้งในเมือง (สุขุมวิท) นอกเมืองใช้ความเร็วตลอดที่โล่ง(บรมราชชนนี) ก้ออยู่ประมาณ 1 บาท/กม ครับ

ของผม เดือนที่แล้ว เติมแก๊สรวมทั้งหมด 1440บาท วิ่งได้ 1450km. เท่ากับ 0.99 บาท วิ่งประมาณวันละ 40 กิโลเมตร ในเมืองด้วย แต่ทำความเร็วได้ 100-140 แล้วแต่สภาพการจราจร  ปล.แถวศรีราชา แก๊สลิตรละ 10บาทนะ

1.1-1.2 บาทอ่ะครับ
จาลอยตัวแกส แล้วนะ ดักกันทุกทางเลย จาไม่ให้เรได้ใช้ของถูกบ้างเลยมั้ง

 :D  พี่ สะมะ ครับ ผมไปเจอมา.........จริงเท็จ แค่ไหนครับ พอรู้ไหม


ก๊าซNGV ขาดตลาด, เมื่อคืนฟังข่าวอีก6เดือนข้างหน้า
      
   
เมื่อคืนฟังข่าวเรื่องก๊าซNGVจะขาดตลาดในอีก6เดือนข้างหน้าแน่นอน เป็นการยืนยันจากกระทรวงพลังงาน ผมเลย งงว่าทำไมรัฐบาลถึงรณรงค์ให้คนหันมาใช้พลังงานทดแทน แล้วเมื่อคืนกลับออกมาขอโทษเรื่องนี้ แล้วมีคำถามที่สงสัยดังนี้
- เรานำเข้าหรือผลิตเอง
- จริงๆแล้วออกมาประกาศขอโทษคนไทยเรื่องนี้มันแฝงผลประโยชน์อะไรหรือเปล่า
- หรือจะตุนเพื่อขยับราคาให้สูงขึ้นเหมือนแก๊สหุงต้ม
ใครที่ติดไปแล้วก็อย่าเสียใจนะครับ แค่คุณบรรทุกถังเปล่าไปพลางๆก่อน ถ้าเป็นจริงตามข่าวนะครับ สำหรับผมคงเติม91 ไปตลอด จนกว่ารถโรงงานผลิตมาโดยเฉพาะรุ่นไม่ต้องสลับใช้ก๊าสกับน้ำมันปวดหัว ขี้เกียจหาที่เติม แค่โคราชมีอยู่สามที่ก็เรียงคิวกันเป็นแถวแล้ว [ ส่วนเรื่องการลดภาวะเรือนกระจกกับโลกร้อนผมเห็นด้วยแต่ภาครัฐต้องจริงใจครับ]

ชอบตรงประโยคนี้ที่สุดครับ "ภาครัฐต้องจริงใจครับ" ไม่ใช่แค่เรื่องสภาวะเรือนกระจกที่เป็นผลทำให้โลกร้อนขึ้นเท่านั้น ตัวรัฐเองควรมีการจัดการที่ดีว่าถ้าเกิดว่าเปลี่ยนจากน้ำมันเป็นแก็สแล้วต่อไปในอนาคตจะเป็นยังไง ราคาจะขึ้นอีกมาน้อยหรือไม่ เพราะว่าประเทศไทยไม่ใช้ประเทศที่ร่ำรวยอะไรนัก ซึ่งรัฐควรมีการวางแผนระยะยาว เพื่อที่จะได้เกิดประโยชน์สูงสุดทั้งของรัฐเองและประชาชนส่วนใหญ่ในการใช้พลังงานทางเลือกใหม่นี้

ในสิ่งที่เคยเกิดขึ้นจากหลายปีที่ผ่านมาในเรื่องพลังงาน ตั้งแต่แรกเริ่ม(เท่าที่จำความได้) ใช้น้ำมันมีสารตะกั่ว รัฐก็ให้เปลี่ยนมาเป็นไร้สาร ช่วงนั้นก็มีรถเสียไปหลายคัน ซึ่งหนึ่งในนั้นก็เป็นผมเช่นกัน หลังจากนั้นก็ตามมาด้วยแก็สโซฮอล ซึ่งผมบอกจริงๆว่าไม่ใช่ไม่ดี จริงๆดี แต่ราคามันยังไม่น่าดึงดูดใจเท่าที่ควรเหมือนLPG แล้วรัฐก็รณรงค์ให้ใช้แก็สโซฮอล จำได้ว่าช่วงนึงน้ำมันขึ้นมาก NGVช่วงนั้นยังไม่เป็นทางเลือก LPG ก็ยังหาช่างเก่งๆไม่ได้ เติมกันจนกระทั่งน้ำมันแก็สโซฮอลขาดตลาด ผลต่อมาก็คือต้องเพิ่มกำลังการผลิต ต่อมาอีกไม่นาน เร็วๆนี้ก็รณรงค์ให้ใช้ NGV ซึ่งจริงๆแล้วไม่ใช้ว่าไม่ดี ดีครับ ราคาถูกกว่าน้ำมันแบบเห็นชัดๆ แต่ปัญหาไม่ใช่เรื่องของราคาแล้ว แต่ดันเป็นปัญหาในเรื่องของที่ให้บริการในการเติมแก็ส ซึ่งหาได้น้อยมาก ถึงมีต้องรอคิวนานมาก บางทีหมดเอาดื้อๆก็มี แต่สำหรับLPG ปัญหาแก็สหมดเป็นไปได้ยากกว่ามาก หาเติมก็ง่ายใกล้เคียงปั้มน้ำมันแล้ว ผมว่าNGVถ้าจะน่าใช้จริงๆคงเป็นอีกสามถึงสี่ปีเป็นอย่างน้อยเหมือนกับLPGสมัยก่อน ซึ่งในอนาคตก็ค่อยว่ากันอีกทีว่าจะรับราคากันได้หรือไปไม่ทั้งราคาแก็สและราคาค่าติดตั้ง

ก็อย่างที่เคยพูดไปก่อนหน้านี้ว่าอย่าไปกังวลว่ามันจะขึ้น ถ้าคิดจะติดก็ติดไปเลย งบน้อยหน่อยก็เล่น LPG แต่ถ้ามีงบมากหน่อย(ในเรื่องการติดตั้ง) และไม่ซีเรียสเรื่องปั้มเติม พูดง่ายๆเหมือนซื้ออนาคตไว้ว่าถ้าเกิดปั้มNGVมีเยอะกว่านี้ จะได้ไม่ต้องกังวล ก็ติด NGV ไปเลย ยิ่งถ้าติดช้ามากเท่าไร ก็คุ้มทุนได้น้อยลงมากเท่านั้นครับ

วันนี้เพิ่มเติมรายละเอียดนิดนึง เรื่องของเรื่องก็มีอยู่ว่า เมื่อวันที่ 13 กันยายน 2007 ได้ทำการเปลี่ยนน้ำมันเครื่องไป ซึ่งเลขกิโลอยู่ที่ 85018 จริงๆแล้วเลขไมล์ต่อไปที่ผมจะเติมคงต้องเป็นเลขไมล์ที่ 95018 น้ำมันเครื่องที่ใช้เป็นของ PTT Super Synthetic 0W40 ซึ่งวันนั้นเท่าที่ได้ทำการถ่ายรูปไว้ จำได้ว่าน้ำมีนเครื่องค่อนข้างใสพอสมควร ตอนแรกก็กะว่าจะรออีกนิดนึง(พอดีเลขไมล์ตอนนี้อยู่ที่ 93xxx กว่า)ก็ถึงเวลาเปลี่ยนน้ำมันเครื่องใหม่แล้ว แต่ด้วยวันเสาร์นี้ผมต้องเดินทางไปต่างจังหวัด ซึ่งจุดหมายที่ผมจะไปก็คือ เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ ซึ่งถ้าน้ำมันเครื่องดีๆ เวลาขึ้นเขาจะลื่น ไม่ฉุดกำลังเครื่องเวลาทางลาดชัน ผมก็เลยตัดสินใจเปลี่ยนใหม่ ซึ่งครั้งนี้ผมก็ยังคงใช้ PTT Super Synthetic 0W40 เช่นเคย พร้อมกับซื้อกรองอากาศใหม่(แต่เป็นของเทียม) และกรองน้ำมันเครื่อง(อันนี้ใช้แท้ครับ เพราะว่าถ้าเป็นกรองเทียม ไส้ในมันจะสู้ของแท้ไม่ได้ ถ้าเกิดดีไม่ดีใช้ไป เกิดไส้ในหลุดออกมา แล้วเข้าเครื่อง ยุ่งไปกันใหญ่ครับ อันนี้ควรใช้แท้ดีกว่า แต่ถ้าเปลี่ยนบ่อยๆก็ไม่เป็นไร ใช้เทียมก็ได้ครับ) เมื่อเช้าก็เลยจัดการเปลี่ยน จริงๆก็ไปวันเสาร์ น่าจะเปลี่ยนซะศุกร์บ่ายๆ แล้วเสาร์ไปก็พอดี แต่กลัวว่าเกิดมีลูกค้าเดี๋ยวไม่ได้ทำ ก็เลยจัดการเปลี่ยนซะเลย ตอนไปปกติจะติดกล้องไปด้วยทุกครั้ง เพื่อถ่ายเก็บไว้ว่าเป็นยังไงบ้าง แต่ดันลืมไว้ที่บ้าน ก็เลยไม่ได้ถ่าย  ช่วงที่เขาถ่ายน้ำมันเครื่องผมลองดูสีของน้ำมันเครื่อง ทั้งๆที่เป็นสังเคราะห์ แต่สีออกมาเริ่มข้น และออกดำ ทั้งๆที่โลก็ยังไม่ถึงด้วยซ้ำ ก็ถือว่ารักษาเครื่องไปเพื่อเครื่องจะได้ไม่พังเร็ว มันก็ทำให้เห็นอะไรบางอย่างว่าจริงๆแล้วน้ำมันเครื่องไม่ควรปล่อยจนเลยอายุมัน เปลี่ยนก่อนไม่เป็นไร แต่ไม่ควรปล่อยไว้นาน ยิ่งน้ำมันเครื่องเก่า น้ำมันก็จะหนืด ทำให้ฉุดกำลังเครื้องทำให้เสียเอาง่ายๆครับ คราวนี้มาถึงเรื่องกรองอากาศ อันนี้ผมพูดจริงๆนะ ตอนแรกก็ไม่เชื่อหรอกว่าเปลี่ยนใหม่เลยทุกครั้งที่เปลี่ยนน้ำมันเครื่อง แต่เท่าที่อ่านเจอจากบางเวป เขาบอกว่าควรเปลี่ยนจะดีกว่า เพราะว่าของเก่าคราบฝุ่นจะติดอยู่ที่กรอง ถึงแม้ว่าเป่าก็ไม่ออกทั้งหมด ยังคงมีเหลือคราบเอาไว้ ทำให้อากาศที่เข้ามาไม่สะดวกเหมือนใหม่ ซึ่งแรกๆผมเองก็ไม่ได้เปลี่ยน ใช้สองครั้งเปลี่ยนครั้งนึง เดี่ยวนี้เปลี่ยนมันทุกครั้งที่เปลี่ยนน้ำมันเครื่อง ก็เอาความสบายใจดีกว่า เสียแค่ค่าของตรงนี้ ดีกว่าไปเสียค่าซ่อมเครื่องทีนึงแพงๆ และนี้ก็เป็นรูปกรองที่ใช้ไปแล้วเกือบหมื่นโล มันนี้สองด้าน ด้านนี้จะติดกับตรงปากตัวดูดอากาศเข้า จะเห็นได้ว่าใช้ไปได้ไม่นานยังดำซะขนาดนึ้เลยครับ

(http://i158.photobucket.com/albums/t93/anodite_studbar/anodite_1/DSCF0239copy.jpg)

และหลังจากเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง ผมได้ลองวิ่งทั้งโหมดแก็สและโหมดน้ำมัน ซึ่งในโหมดแก็สก็วิ่งดีกว่าเดิม รู้สึกว่ามีแรงขึ้นมาหน่อย ส่วนน้ำมันไม่ต้องพูดถึง ค่อนข้างเงียบและวิ่งนิ่ม(ถ้าเทียบกับน้ำมัน)

ก็เอามาฝากกันครับป๋ม

เรื่องก๊าซNGVผมก็ได้ฟังข่าวเมื่อคืนยังไม่ได้อ่านรายละเอียด เพาระผมใช้ LPG อิอิ  ก็เหมือนเดิมครับ
บอกให้เราใช้ พอใช้กันมากขึ้นก็ ไม่หมด เหมือน น้ำมันแก็สโซฮอล ที่มีอยู่ช่วงนึง
เรื่องตัวกรอง อากาศ ผมเปลี่ยนมาใช้ กรองเเสตนเรส อ่ะ เค้าบอกว่ามันได้ แสนโล ไม่ต้องเป่า ด้วย อิอิ

ประกาศ คนที่ใช้ LPG (ผมด้วย) พรุ่งนี้ขึ้นราคาแล้วนะจ๊ะ (1/12/07) พอดีอ่านเจอจาก ไทยรัฐ นะครับ

ผมก็ติดมาเหมือนกัน  8) 8) 8)

 :D :D

ขอบคุณสำหรับ ทุกความคิดเห็น

ขอผมออกความคิดเห็น (ส่วนตัว) บ้างแล้วกันนะครับ

- เรื่องพลังงานทดแทน ผมว่า ไม่เห็นจะทำอะไรให้เป็นชิ้นเป็นอัน มีแต่ตัวหนังสือ หนังโฆษณา พูดกันเท่ห์ ๆ ใช้มาก ก้อขาดแคลน ส่งเสริมให้ใช้ ปั๊มก้อไม่มี

นี่มันกี่ปีกันแล้ว ยังหาปั๊มเติมยากอยู่เลย อุปกรณ์ก้อแพง  คนใช้รถทุกคน ใช้เพื่อความจำเป็นทั้งนั้นแหละครับ

-ภาวะโรคร้อน เรือนกระจก ผมอยากจะรู้ มันมาจากภาคครัวเรือนกี่ % รถยนต์กี่ % ภาคอุตสากรรมกี่ %  ที่ไหนที่มันปล่อยมากกันแน่ ดูแล ควบคุมกันหน่อย

ไม่ใช่มาพูดเท่ห์ๆ  ว่าให้เราช่วยกัน ลดการใช้พลังงาน ใช้ถุงผ้า......ผมอยากรู้ แก้ที่ถาคครัวเรือน จะลดได้แค่ไหนกัน

แต่ประชาชนอย่างเรา ๆ ก้อยังทำกัน ใช้ถุงผ้า ไม่เอาถุงพลาสติก ขับรถประหยัดน้ำมัน  แล้วภาคอุตสาหกรรมละ ทำไรบ้างมั้ย หรือว่า มันญาติใคร

แตะต้องไม่ได้เลยใช่ไหม มีใครออกมาเสนอตัว รับผิดชอบบ้าง

ขอย้ำอีกที การแก้ไขทุกปัญหา ภาครัฐต้องจริงใจครับ

ขอบคุณ พื้นที่แห่งนี้ ที่ให้ผมแสดงความคิดเห็นครับ

นิดนึงสำหรับเรื่องกรองสแตนเลด จริงๆแล้วผมก็ว่าดีนะครับ แต่ว่าด้วยความละเอียดของตัวกรอง จะสู้แบบผ้าไม่ได้ เพราะกรองผ้าจะกรองละเอียดกว่ากรองสแตนเลด ยังไงเช็คเกี่ยวกับเรื่องของน้ำมันเครื่องด้วยนะครับ เพราะว่าการที่ใช้กรองสแตนเลดจะทำให้ฝุ่นเลดลอดเข้าไปสู่เครื่องได้ จะทำให้น้ำมันเสื่อมคุณภาพเร็วขึ้นครับ(แค่ใช้แก็ส คุณภาพของน้ำมันก็เสื่อมไปเยอะพอสมควรและเสื่อมเร็วกว่าน้ำมันด้วยครับ) เป็นห่วงครับ  :-[

ทุกท่านที่กำลังเลี้ยงวาล์วเชิญทางนี้ครับ - - - ->
http://www.gasthai.com/boardgas/question.asp?page=1&id=A13319

ตอนไปติด ผมถามหาตัวเลี้ยงวาล์วนะ แต่เจ้าของร้านไม่แนะนำ บอกว่าเป็นความเชื่อเก่าๆ   ::)

รายงานหน่อยคับ   หลังจาก ลอยตัวแก๊สหุ้งต้ม   ศรีราชา 10.70  คับ         >:(      ทำไมไม่ลอยตัว  เงินเดือน มั่งหนอ ???

คุณ Mr.t.s  หรือ คุณ BEER CIVIC ES ช่วย mail  แจ้งชื่อร้านติด gas LPG ที่ไปคุณติดมา ( ตามaddress นี้ด้วยครับ somkow@gmail.com ) พอดีเห็น online อยู่ครับ รบกวนหน่อยครับ ช่วงนี้ว่างๆกะว่าจะไปติด gas เร็วๆนี้ครับ

ขอบคุณครับ

คุยกับทางร้านที่ติดเค้าบอกว่า ฝุ่นที่ผ่านกรองไปได้ จะถูกเผาไหม้ หมดครับ เค้าว่างั้นอะ

คุณ Mr.t.s   ตอบหรือยังอะ  ถ้ายังโทรหาหน่อยดิ วันอาทิตย์ net ออฟฟิตไม่วิ่ง
beer 086-3197085   

วันนี้เพิ่มเติมการใช้งานนิดนึงครับ เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ผมมีโอกาสเดินทางไปจังหวัดเพชรบูรณ์ จุดหมายปลายทางคือเขาค้อ ก่อนไปผมก็อัดแก็สไปเต็มถังเสร็จแล้วก็เดินทาง คราวนี้ไปกันห้าคน ซึ่งแต่ละคนน้ำหนักเกิน60 ทุกคนและรวมไปถึงสัมภาระท้ายรถ ซึ่งน้ำหนักในรถก็หนักพอสมควร ซึ่งความเร็วที่ทำได้ก็อยู่ที่ 140-150 กมต่อชั่วโมง ซึ่งก่อนไปผมได้เปลี่ยนทั้งน้ำมันเครื่อง กรองน้ำมันเครื่อง และกรองอากาศทั้งหมด เท่าที่ลองวิ่งดูก็รู้สึกว่าลื่นขึ้น แต่ด้วยน้ำหนักที่มากในรถ ก็ทำให้ความเร็วที่ได้ไม่ได้ตามที่ต้องการ หมายความถึงว่าความเร็วกว่าจะถึง130-140 ใช้เวลานานกว่าตอนที่ขับคนเดียว แต่ก็ไม่เป็นไร ช้าหน่อยแต่ก็เอาอยู่  ซึ่งพอมาถึงช่วงลำนารายณ์ ผมก็สังเกตว่าแก็สก็หมดไปสักสองจุด(ซึ่งปกติตัววัดแก็สมีหาจุด ดูได้จากรูปครับ ตำแหน่งการหมดของแก็สคือ จุดล่างสุดจะค่อยๆดับไปหาจุดบนสุดที่เป็นสีแดงครับ)

(http://i158.photobucket.com/albums/t93/anodite_studbar/anodite_1/DSCF3771copy.jpg)

สาเหตุที่เติมก็เพราะว่าไม่แน่ใจว่าแถวๆตัวเมืองมีปั้มแก็สหรือเปล่า ผมก็เลยเติมแก็สเต็มถังไว้ก่อน เพื่อว่าถ้าไม่มียังไง ก็ประหยัดได้สักช่วงนึงก็ยังดี เพื่อว่าถ้าไม่มี ก็กลับมาเติมช่วงตอนกลับก็ยังดีครับ  หลังจากเติมเสร็จก็วิ่งไปเรื่อยๆจนถึงวิเชียรบุรี ซึ่งที่นี่เป็นที่ขึ้นชื่อว่าไก่ย่างอร่อยที่สุด พอดีจังหวะช่วงเที่ยงพอดี ผมก็เลยแวะทานข้าวกัน ซึ่งบังเอิญตอนที่ทานข้าวก็ไปเจอกับเพื่อนพ่อ เขาเอารถมาอีกคันนึง หลังจากกินเสร็จก็กะว่าขับไปตามกัน พอดีเพื่อนพ่อผมคนนึงไปนั่งรถคันนั้น ก็เลยเหลือแค่สี่คน ก็เบาขึ้นไปหน่อย แต่ก็ไม่ได้มากเท่าไร ก็วิ่งมาเรื่อยๆก่อนขึ้นเขาค้อ ผมก็เห็นปั้มแก็สอยู่ซ้ายมือ ซึ่งจำได้ว่าก่อนหน้านี้ไม่มี คิดว่าเพิ่งเปิดแน่ๆเลย ก็เลยกะว่าขากลับผมมาเติมที่นี่แล้วตีกลับกรุงเทพน่าจะดี แต่ก่อนขึ้นเขาผมก็นึงขึ้นมาเรื่องนึงได้ว่าผมมีประสบการณ์เกี่ยวกับการขึ้นเขาด้วยน้ำมัน ประกอบกับคนเยอะขนาดนี้ ทำให้รถไม่มีกำลังพอ ด้วยทางชันมากแล้วยิ่งไม่ไหวใหญ่ ผมก็เลยเติมน้ำมันไปสักหน่อยเพื่อใช้น้ำมันช่วงที่อยู่บนเขา ตอนแรกกะจะเติม95สักหน่อย แต่ว่าปั้มดันไม่มี ผมก็เลยเติม91ไป พอถึงตีนเขา ผมก็สลับเป็นน้ำมันเพื่อที่จะวิ่งขึ้นเขา แล้วผมก็วิ่งขึ้นไป นี่ขนาดว่าใช้น้ำมันยังอืดพอสมควร เพราะบางช่วงทางชัน ชันน้อยถึงชันมาก นั้นก็ไม่เท่าไร บางทีตามบางคันที่ขับช้า ประมาณว่าเวลาขับลงแล้วขึ้นเนินหรือทางชันแล้วไม่ยอมส่งแรง ชลอความเร็ว ก็อืดไป และถ้าไม่แซงก็ยิ่งติดไปกันใหญ่ แต่ก็ไปถึงจุดหมายได้ด้วยดี ไปนอนบนเขาขอบอกว่าหนาวมาก ยิ่งดึกยิ่งหนาว ผมตื่นมาเข้าห้องน้ำตอนตี3 หนาวมากครับ หนาวแบบสุดๆ ห่มผ้าห่มสองผืน เสื้อกันหนาวก็ยังหนาวเลยครับ แต่ถ้าคนที่ชอบอากาศหนาวคงจะบอกว่าไม่เท่าไร เช้ามาก็ตื่นมาล้างหน้าแปลงฟัน น้ำเย็นมาก ล้างหน้าทีหน้าชาสุดๆ หลังจากทำอะไรเสร็จก็เอาของเก็บรถเพื่อที่จะไปต่อ น้ำค้างเต็มรถเลยครับ พอผมเปิดรถเข้าไปในรถ เย็นมาก ผมดูอุณหภูมิที่อยู่ในรถ 10 องศาครับ เย็นมากๆ เสียดายที่ไม่ได้ถ่ายรูปช่วงนี้ไว้ พอดีว่าแบตหมด พอดีตอนไปไม่ได้เปลี่ยนไปก่อน ช่วงนี้ใครอยากไปสัมพัสอากาศหนาว ขอบอกว่าน่าไปครับ สวยมากครับ ตอนเช้าเป็นทะเลหมอก และที่สำคัญแค่สี่ร้อยกว่ากิโลเมตรเท่านั้นจากกรุงเทพ ใช้เวลาไม่น่าจะเกินสี่ชั่วโมง(ด้วยความเร็ว120กมต่อชั่วโมง)ก็ถึงแล้วครับ พอดีผมมีแผนที่มาฝาก เพื่อคนไหนสนใจก็PrintหรือSaveเก็บไว้เอาไปใช้ได้ครับ

(http://i158.photobucket.com/albums/t93/anodite_studbar/anodite_1/001001copy.jpg)

(http://i158.photobucket.com/albums/t93/anodite_studbar/anodite_1/002copy.jpg)

หลังจากเสร็จผมก็ตีรถกลับกรุงเทพ ซึ่งช่วงขาลงเขาผมก็ยังคงใช้น้ำมันในการลงเขา เพื่อที่ช่วงทางชันจะได้กำลังไม่ตก หลังจากลงเขาแล้วผมก็สลับเป็นแก็ส พอดีผมจำได้ว่าเพิ่งมีปั้มแก็สเปิดใหม่ ผมก็เลยเติมซะเลย เพื่อว่าถ้าไม่พอยังไงก็ไปเติมที่ลำนารายณ์ได้อีกที ถ้ามาจากกรุงเทพ ผ่านตัวเมืองเพชรบูรณ์มาหน่อย จะอยู่ซ้ายมือ ถ้าลงจากเขาค้อ(ทางจะกลับกรุงเทพ)จะอยู่ขวามือ ผมมีภาพมาฝากกันด้วยครับ

(http://i158.photobucket.com/albums/t93/anodite_studbar/anodite_1/DSCF0306copy.jpg)

ถ้าผมจำไม่ผิด รู้สึกว่ามีหัวเติมทั้งหมดสี่หัวครับ สำหรับเรื่องราคาแก็ส เพื่อนๆคงรู้ว่าเราเจอแก็สขึ้นมาอีก 1 บาท(ซึ่งแนวโน้มน่าจะขึ้นอีก แต่อีกเท่าไรไม่รู้) ซึ่งต่างจังหวัดก็เช่นกัน กรุงเทพอยู่สิบบาทกว่า ต่างจังหวัดก็อยู่สิบเอ็ดบาทกว่า มีรูปมายืนยันด้วยนะครับ

(http://i158.photobucket.com/albums/t93/anodite_studbar/anodite_1/DSCF0307copy.jpg)

สำหรับร้านแก็สนี้ถ้าใครไม่แน่ใจว่ายังไง ผมscanแผ่นที่มาให้ด้วยนะครับ เพื่อจะได้เอาไปใช้กันได้ครับ

(http://i158.photobucket.com/albums/t93/anodite_studbar/anodite_1/pic1copy.jpg)

หลังจากที่เติมแก็สเต็มถัง ผมก็เดินทางกลับกรุงเทพ โดยใช้ความเร็วเท่าเดิมคือ 140-150 กมต่อชั่วโมง บางช่วงก็น้อยกว่านั้น พอมาถึงลำนารายณ์ ก็เจอปั้มแก็สที่เติมตอนแรก ผมก็ดูที่เกย์วัดแก็ส เพิ่งหมดไปแค่ขีดเดียว(หนึงขีดของผมจะตกประมาณ 100 กว่าโล บวกลบนิดหน่อย) ไหนๆก็ไหนๆผมก็ลองดูว่าจากที่เติมแก็สที่ลงจากเขามาถึงกรุงเทพจะพอหรือเปล่า ผมก็เลยไม่เติม ตีตรงเข้ากรุงเทพ เมื่อเข้าใกล้กรุงเทพ วัดแก็สหรืออยู่สองจุด หลังจากใกล้จุดหมายก็เหลือจุดสีแดงเป็นจุดสุดท้าย แต่แก็สก็ยังไม่หมด ซึ่งถ้าก่อนแก็สจะหมด จุดสีแดงของผมนี้จะกระพริบเตือน ซึ่งช่วงไฟสีแดงกระพริบก็ยังวิ่งได้อีกสักหลายสิบโลอยู่พอสมควร ก็มาถึงปลายทางก็แวะเติมแก็สที่ปั้มก่อน ซึ่งจากปลายทางถึงกรุงเทพประมาณสี่ร้อยกว่าโล แก็สก็เหลืออยู่หน่อย มาเติมเต็มถังสี่ร้อยกว่าบาท(ตามรูปครับ)

(http://i158.photobucket.com/albums/t93/anodite_studbar/anodite_1/DSCF0310copy.jpg)

ซึ่งจริงๆแล้วอาจจะบวกลบนิดหน่อยเพราะว่าราคาแก็สที่กรุงเทพกับต่างจังหวัดต่างกันอยู่1บาท แต่ก็ไม่ใช้เรื่องใหญ่อะไร ซึ่งเมื่อคำนวนแก็สตั้งแต่ครั้งแรกที่เติมจนถึงกลับใช้เงินไป1,000บาท กับค่าน้ำมันเพื่อวิ่งบนเขาอีก 500 บาท เป็นเงิน 1,500 บาท ซึ่งรถ4WDที่เป็นดีเซลผมใช้ในระยะทางที่เท่ากัน ความเร็วใกล้เคียงกันยัง3,000กว่าบาทเลยครับ ซึ่งครั้งนี้ถ้าไม่พูดถึงเรื่องน้ำมันที่วิ่งบนเขา ก็แค่1,000บาทที่ใช้ในการเดินทางไกล ก็ยังถือว่าถูกกว่าน้ำมันอยู่ดี และทื่สำคัญแก็ส LPG หาเติมง่าย และทางที่ผมผ่าน จำได้ว่าไม่เจอปั้ม NGV สักปั้มเลยครับ จริงๆแล้วNGVราคาแก็สถูกกว่าLPGตั้งสองบาท(ต่างจังหวัดถูกกว่าสามบาท) แต่เมื่อเทียบกับน้ำมันที่แพง ปั้มที่หาเติมง่ายกว่าNGV LPGยังเป็นทางเลือกที่คุ้มค่ากว่าสำหรับผมครับ

ก็เอามาฝากเพื่อนๆกันสำหรับข้อมูลการเดินทางนี้ครับป๋ม  :D

คุณ anodite   เยี่ยมเลย คับ ทิฟ เขาค้อ  ขอบคุณคับ พอดีผมก็ใช้เส้นทางนั้นบ่อยเหมือนกัน ผ่าน ไม่เคยขึ้นไปเลย อิจฉาอะ คนได้ไปเที่ยว  คุณ anodite เป็นคน เพชรบูรณ์ หรือ ไปเที่ยวคับ    ผมฝั่งโน้นเลย นครไทย  หน้าเขาคับ ไม่ใช่หลังเขา อิอิ
มาถึง เขาค้อแล้วน่าจะมา เที่ยว ที่ อุทยาน ภูหินล่องกล้า  บรรยากาศพอๆๆ กันคับ กางเต้น นอน หรือ บ้านพักก็ได้ หนาวได้ใจเหมือนกัน อิอิ แถวบ้านผม เชียร์หน่อย   ประมาณอีก ไม่เกิน 100 km.

กำ พึ่งเห็น ส่งไปแล้วอ่ะนะ เบียร์มีไรป่าว จะได้โทรไปอ่ะ  ::)

ผมเป็นคนกรุงเทพครับ แต่ชอบเที่ยวต่างจังหวัด เขาค้อเป็นหนึ่งในที่เที่ยวที่ผมชอบมาก เพราะว่านอกจากอากาศจะเย็นสบายแล้ว ตอนเช้ามามีทะเลหมอกให้ดู ระยะทางก็ใกล้กว่าเมื่อเทียบกับเชียงใหม่ และที่สำคัญเขาค้อได้ชื่อว่าเป็นสวิสของเมืองไทยเลยนะครับ ปีนึงผมจะไปอย่างน้อยๆครั้งหรือสองครับ จะมีไปทำบุญที่วัดบนเขาปีละครั้ง ที่เหลือก็ไปพักผ่อน บางที่ก็ไปกับที่บ้าน บางทีก็ไปกับเพื่อนๆ เท่าที่ผมพาเพื่อนๆไป(เอาESนี่แหละไปตั้งแต่ยังไม่ติดแก็สด้วยซ้ำ) ทุกคนก็พูดเหมือนกันว่าสวยและอากาศดี สำหรับ อุทยาน ภูหินล่องกล้า   ผมยังไม่มีโอกาสไป แต่รับรองว่าไม่พลาดแน่ๆ ถ้าเกิดว่ามีทริบไปทางนั้นจะเก็บภาพบรรยากาศมาฝากแบบShotต่อShotทีเดียวครับป๋ม  :D

ไปติด GAS แบบหัวฉีดมาแล้วครับ เมื่อวานนี้เอง ( ที่ร้านเดียวที่คุณ BEER และ คุณ Mr.t.s  แนะนำ )  รู้สึกประทับใจร้านคุณ K ครับ ขอบคุณคุณ BEER ที่ให้รายละเอียดของร้าน หนำซำ ยังโทรไปฝากที่ร้านให้ด้วยและ ขอบคุณคุณ  Mr.t.s  ที่ส่ง MAIL มาบอกข้อมูลแถมยังคู่มือเกี่ยวกับ ระบบ GAS รถยนต์แนบมาใน MAIL ให้อีก

ยังไงก็ตาม ก็ต้องขอบคุณคุณ anodite_studbar  ที่เปิดประเด็นกระทู้นี้ครับ และเพื่อนๆท่านอื่นด้วย ที่ได้ถกกันเรื่องนี้ ยอมรับเลยครับ BOARD นี้ อบอุ่นจริงๆครับ  ตาสว่างขึ้นมาเยอะเลย  ที่สำคัญ เดือนๆนึง ผมน่าจะมีตังค์เหลือเก็บให้ตัวเล็กๆของผมไว้กินขนมไม่น้อยเลยครับ

ก็เพราะว่าเพิ่งติดมา เดี๋ยวขอลองทำความคุ้นเคยกับเจ้าตัวหัวฉีด GAS สักระยะก่อน แล้วจะมาแจมให้อ่านกันครับ

อ่าว ไปติดมาละ เหรอ ไม่รู้อ่ะ ไม่งั้น จะโทรไปฝากให้ด้วยอีกเสียง :D
ดีนะ คุณเบียร์ โทร ไปฝากฝังให้ ยังไงก็อยากให้ทุกๆคนมีความสุขกับการใช้แก๊สครับ :)
เหมือนผมเลยอิอิ เด็กเส้นอ่ะ มีคนฝากให้เหมือนกัน   ;D ;D ;D ;D ;D

ถึง คุณ SOMKOW  ไม่เป็นไรคับ  รัก civic เหมือนกัน  ให้มีความสุขกับการใช้ แก๊ส
ตอนนี้ก็เภาวนา ขออย่าให้มันลอยตัวไปตามน้ำมันอย่างเดียว อยากเติม 10.70 นานๆๆๆๆๆๆ
อิอิ

ผม ES 2003 อยู่เชียงรายครับ ติด ระบบหัวฉีด Autronic jet18 ขนาดถังบรรจุ76L วาล์ว OMB ขับไม่มีปัญหาครับ อัตราสิ้นเปลืองประมาณ 0.7 บาท/กม. ประหยัดมากครับ ติดมาหลายเดือนแล้ว ประหยัดค่าใฃ้จ่ายไปมากเลย

ผมติดมา เติมเต็มถัง 460บาท วิ่งได้ ประมาณ 300 โลมากน้อยกว่านี้ประมาณ20โลไม่ทราบว่ามันกินไปไหมแล้วทำไงได้...ติดแบบดูด..วิ่งประมาณ 120-170แล้วแต่สภาพการจราจร  es01นะ   ปกติไหม... ::) ::)

ระบบดูดผมไม่ค่อยมั่นใจ แต่ผมติดหัวฉีด Autornic  มา อัตราการสิ้นเปลือง(ต่างจังหวัด เพิ่งจับระยะเมื่อวานนี้เอง) อัตราสิ้นเปลืองอยู่ที่ 12 กม/ลิตร เติมแก๊ส 300 บาท ได้ระยะทาง 350 กม. ตก กม.ละ 0.86 บาท ความเร็วก้อ 120- 160 ตามสภาพการจราจร เช่นกันครับผม

โลละ 1.53 ถ้าเป้น ในเมืองรถติดๆ โคตรๆ ก็ถือว่าโอเคครับ
แต่ดูจาก ความเร็วแล้วน่าจะเป็นนอกเมือง หรือบนทางด่วนซะเป็นส่วนใหญ่
เพราะงั้นถือว่า ยังเปลืองอยู่คับ   :-[
ส่วนวิธีการแก้ไข ระบบดูดมิกซ์เซอร์ สามารถจูนได้เองไม่ยากคับ ถ้าไม่ได้ติดแลมด้ามานะ
ถ้าติดแลมด้า ต้องไปศึกษา ในgasthai.com เอา และต้องมีโน๊ตบุ๊ก มีโปรแกรมแลมด้ายี่ห้อและรุ่นนั้นๆ
ถ้าระบบมิกซ์เซอร์ระบบดูด ไม่มีแลมด้า อยากรู้วิธีจูน ขอมาทางเมลผมได้คับ Mr.t.s@hotmail.com
จะส่งเมลให้นาคับ  :D

 :(  ใช้ civic EK 99 ครับพึ่งไปรับรถมาเมื่อวาน ติดแบบ Mix + Lamda + ถัง 58 ลิตร ราคาก็ หนึ่งหมื่นห้าพันบาทถ้วน
ตอนนี้กำลังลองถังแรกอยู่ครับ ยังไม่ค่อยกล้าใช้เท่าไร ก็ ธรรมดาก็เท้าหนักอยู่แล้ว ว่าจะพยายามใช้สลับกับน้ำมันบ่อยๆ
ถ้ามีอะไร ดี รึ ร้าย จะมาเล่าให้ฟังนะครับ อยากถามด้วยว่า เพื่อนๆที่ติดมาวิ่งกันตกกิโลล่ะกี่บาทอ่ะครับ จะได้เป็นข้อมูล
ในการปรับตั้งต่อไป ..... ขอบคุณครับ  :-*

ผมอยู่นครชัยศรี-ทำงานที่ทองหล่อ-วิ่งเล้นทางด่วนลอยฟ้า ปิ่นเกล้านครชัยศรี พระราม4 คับ ทุกวัน   :-[ :-[ :-[

จองคิวกับร้าน PTC-Gas Leader แถว ๆ อุดมสุข 1/1 กำลังจะไปติดวันพุธหน้า ไม่ทราบว่ามีใครเคยใช้บริการที่นี่รึป่าวคับ อยากขอความคิดเห็นหน่อยคับบ

ร้านนี้ก็ โอเคนะ มีคนในคลับคนนึง Madam-Mam เคยไปติดมาแล้ว แต่เค้าไม่เคยบอกผลที่ได้มา
ชื่อเสียงก็โอเค เคยจะไปติดเหมือนกัน แต่พอดี ในคลับแนะนำ ที่ชัวร์ ให้ผมเสียก่อน จึงไปติดที่ลาดกระบัง
แบบฉิวเฉียด และก็สมใจครับ เรียบร้อยดี บริการดี ใช้ชื่อ คลับไปเบ่งได้ อีกตะหากอิอิ
ได้ราคาถูก และบริการที่ดี และติดตั้งให้แบบเนียนๆ แล้วแต่ครับ
ถ้าสนใจ และสะดวก ลาดกระบัง ก็วางใจได้ครับ สนใจ Mr.t.s@hotmail.com

ผมอยู่พุทธมณฑลสาย 4 ทำงานแถว ๆ อโศก-สุขุมวิทครับ ใช้คู่ขนานลอยฟ้า-เข้าราชดำเนิน(ส่งพี่สาว) - เข้าเพชรบุรี - ซ.นานา - เลี้ยวซ้ายเข้าสุขุมวิท - แล้วก้อเลี้ยวขวาตรงแยกอโศก ส่วนขากลับใช้เส้นทางพระราม 3 ตัดออก ตรง สน. ตลิ่งชัน อัตราสิ้นเปลืองที่บอก เป็นเส้นทางนี้ละครับ

ผมได้เฉลี่ยโดยการเติมปั๊มเดิม หัวจ่ายเดิม คิดออกมาได้ 7.787 กม/ลิตร  กม.ละ 1.27 บาท ครับ EK เกียร์ออโต้ ล้อ 17 วิ่งเฉลี่ย 120 กม./ชม. กินไหมครับ แล้วความเร็วปลายได้แค่ 160 เอง เป็นเรื่องปกติหรือจูนไม่ดีครับ หัวฉีด แต่เท่าที่ใช้มายังไม่มีปัญหาอะไรครับ ขอความคิดเห็นพี่น้องด้วยครับ ถ้าเป็นที่จูนพี่น้องแนะนำร้านที่จูนเก่งๆให้หน่อยสิครับแถวงามวงศ์วานครับ

ประหยัดแล้วคับ ล้อหย่ายอ่ะ วิ่งเร็วด้วย
แต่ถ้าติดระบบหัวฉีด และรถโล่งๆ น่าจะได้น้อยก่านี้ รึป่าว ไม่แน่ใจ
ของผมรุ่นเดียวกัน วิ่งรถติดๆ โคตรๆ ในเมือง ได้ 1.2 -1.5 บาท  วิ่ง นานๆครั้ง ถึง100 เพราะเด๋วเจอไฟแดงๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ นอกเมือง ประมาณ 1-1.1 บาท
แต่ติดระบบดูด ไม่มีแลมด้านะคับ
ก็เลยจูนเองอ่ะ จูนให้บางหน่อยประหยัด แต่ก็ไม่ให้อืดมากไป
(ต่างกันที่ล้อ และระบบหัวฉีด และความเร็ว และสภาพการจราจรก็เลยไม่แน่ใจ)
แต่ท่านอื่น ติดระบบหัวฉีด แต่รถรุ่นใหม่ก่าเรา รถไม่ติด โลละไม่ถึงบาทนะ   :'(

ขอคุณครับ...แล้วพี่น้องความเร็วปลายลดลงไหมครับ

ES01 หัวฉีด โดยส่วนตัวผมว่าปลายหายนะ เหมือนจะไม่ไปต่อแล้วหลัง 180 มันตัน ๆ อะ ต้องเป็นน้ำมันไปได้อีก แต่คนไม่ไปแล้วครับ

ขอบคุณครับคุณ Mr.t.s ผมขอทราบรายละเอียดการติดของคุณ Mr.t.s ได้มั๊ยครับ อยากทราบว่าติดตั้งหัวฉีดของอะไร หม้อต้มอะไร
ขนาดถังขนาดเท่าใหร่และของญี่ห้ออะไร สุดท้ายติดตั้งมาเท่าไหร่อ่ะคับ อิอิ  :-[

ขับตาโต ติดมิกซ์เซอร์ระบบดูดธรรมดา หม้อต้มอิตาลี โทมาเซทโต้ ถัง เมทัลเมท 64 ลิตร สีดำ
(ไม่รู้ติดกล่องหลอกหัวฉีดไม่ให้ไฟเครื่องโชว์รึป่าวนะ ไม่ได้ถามแต่ไฟไม่ขึ้นนะ น่าจะติดให้ด้วยนะ ถ้าไม่ติดไฟขึ้นโชว์แน่ๆ )
พร้อมออโต้สวิทซ์อย่างดี(สวิทซ์ป๊อกแป๊ก กับ มิเตอร์แก๊ส แบบแท็กซี่เอาไปไกลๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ) ทั้งหมด หมื่นห้า ราคาคลับ
ไอ้ที่บอกว่าได้ถูกกว่านี้ กรุณาดูอุปกรณ์และยี่ห้อด้วยนะคับ อ่อ ฝีมือช่าง และบริการด้วย

ถ้าหัวฉีด รู้สึกว่าจะสามหมื่นถ้วนๆนะคับ ไม่รู้ขึ้นยัง ตอนนี้อุปกรณ์แก๊สขึ้นราคา อ่ะ
แต่ติดดีหมดทุกแบบ แล้วแต่คุณขับรุ่นไหน  ;)

 ;)สนใจติดเหมือนกันครับ แบบ injection รบกวนคุณ BEER ช่วยแนะนำ ร้าน, ยี่ห้อ, และราคาโดยประมาณ ด้วยครับ

 :( สวัสดีครับ ติดมาได้สามวัน จูนไปแล้วสามครั้ง น่าจะจบที่ครั้งที่สาม จูนครั้งแรกเพราะรอบเครื่องมันสวิง เวลาติดไฟแดง
พี่เขาก็ปรับหม้อต้มให้ครับ แล้วให้ลองขับดู อาการเหมือนจะดีขึ้น สวิงอยู่บ้าง แต่ไม่บ่อย อีกวันมา รอบตกต้องเร่งคันเร่งช่วยมากเวลาออกตัว วูบเหมือนแก๊สมาไม่ทัน เข้าก็ปรับ สเตปให้ใหม่อีก แล้วให้ลองใช้ดู แต่ อาการก็ไม่หายสนิท เลยต้องมีครั้ง
ที่สาม เขาเอาคอมมาเสียบกับกล่อง จูนใหม่หมด ขับไปโรงกลึงเพื่อกลึงมิกเซอร์ใหม่ เสร็จสรรพ เนียนดีครับ สำหรับตอนนี้

ใช้ หม้อต้ม atiker super + lamda + ถังของไทย 58 ลิตร เต็มถังวิ่งได้ ประมาณ 500 กิโล ทดสอบโดยการ ยิงยาวบ้าง
เจอรถติดบ้าง ติดจากอู่แถว ม.รังสิต ครับ

...... การปรับจูนที่ผ่านมา ไม่เสียค่าใช้จ่ายครับ ... พี่เขาบอก ผมดูแลให้ เหอะๆๆๆๆ  :-[

   สุดยอดหัวฉีด    AUTRONIC  JET 15  ถัง เมทัลเมท  มัลติวาวลฺ์  fema  ใบรับรองวิศวแท้ๆๆ ได้เลย (ตอนจ่ายตังค์ค่าติด)
   30000 +-    ตอนที่ผมติด ติด2คัน  กับเพื่อนเลยได้ราคาพิเศษ       
    แต่ตอนนี้ถ้าบอกว่า มาจาก civic club  ลดพิเศษเหมือนกัน  เรากับ MR. T   คุณ COKE  (จำล็อก อินไม่ได้)  และไม่ประสงค์ออกนามอีก 2 คน   ไปคุยกับพี่ไว้แล้ว  ลดกระหน่ำ

 ปล.โทร. มาคุย กับเราดีกว่า   beer- 086-319-7085   คุณ MR .T. S    ก็ได้  GANG เดียวกัน

ผมไปติดมาแล้วคับ หัวฉีด Autronic ใช้มาวันที่ 2 เอง ยังวิ่งไปไม่ถึง 100 โล เลย ถ้าหมดถังแรกแล้วจะมาบอกว่ากินแก๊สประมาณเท่าไร  ผมไปติดร้านที่คุณต้น (anodite_studbar) แนะนำอยู่ในหน้า 2 นะครับ ดีนะครับงานเรียบร้อยดี ตอนแรกจะไปติดร้านที่คุณ BEER และ คุณ Mr.t.s แนะนำ แล้วก็ไปคุยกับพี่เคนที่ร้านมาแล้ว พี่แกแนะนำดีมากนะครับ คุยดีมาก (แต่ร้านไกลบ้านผมไปหน่อย) แกบอกว่า 33,000 พอบอกว่ามาจากในคลับ แกก็ลดให้เหลือ 32,000 เพราะแกบอกว่าหัวฉีด Autronic ของขึ้นราคา จะติด 30,000 เท่าคุณ BEER ไม่ได้แล้ว ผมก็เลยกลับมาหาข้อมูลไปเรื่อย ๆ พอดีจะติดค้ำโช็คกับพี่ต้น ก็เลยถามพี่เค้าเรื่องติดแก็ส พี่เค้าก็เลยแนะนำร้านให้ ลองไปคุยกับที่ร้าน ก็เลย OK ติดร้านนี้แหละ ใกล้ที่ทำงานผมดี เผื่อมีปัญหาอะไรจะได้ใกล้หน่อย เค้าคิด 36,000 ผมก็เลยบอกว่าพี่ต้นแนะนำมา เค้าก็ลดให้เลือ 35,000 ถ้าตีตู้ปิดถังอีก 2000 พรุ่งนี้จะถ่ายรูปตีตู้ปิดถังให้ดูนะครับ ร้านพี่เค้ามีเวปด้วยนะครับ อยู่ใน http://www.gasthai.com/boardshop/Weblist.asp?shopname=highway ลองเข้าไปอ่าน Webboard เค้าดูก็ได้นะครับ ต้องขอบคุณ คุณต้นด้วยนะครับที่แนะนำร้านให้ ถูกใจร้านพี่เค้ามากงานเนียนดีครับ (แต่ว่าแพงไปนิด) แต่ผมดูจากงานแล้วถูกใจนะครับ แพงไปหน่อย แต่ก็ไม่เป็นไร แล้วถ้าหมดถังแรกจะมารายงานผลต่อนะครับ

พอดีไปเจอรูปตีตูปิดถังแก๊สมา แต่ไม่ใช่รถผมนะครับ เป็นรูปที่ร้านเค้าถ่ายไว้

คันแรกสีเหมือนผมเลย ไว้ว่างๆต้องไปโดนสักหน่อย ช่วงนี้ยังไม่มีเวลาว่างทำตู้เลยอ่ะคับ  :'(

 :Dขอบคุณครับ คุณ BEER แล้วจะโทรหา , เอ ว่าแต่ร้านอยู่แถวเทือกไหนครับ ผมอยู่ นนท์ อะครับ?

  autronic  jet 15  ใช่ตัว es   เหมือนกันเลย  อิอิ  แล้วจะชอบ ผมขับแทน มอไซ เลยอะ ประหยัดโครต    :) :) :)

ผมไปติดมาแล้วครับ ที่ PTC-Gas Leader ใกล้บ้านสุด ๆ ได้ราคาพิเศษ(สำหรับ welovecivic)  ครับแต่ก็ค่อนข้างสูงอยู่เหมือนกัน แต่ผลงานดีครับ ติดแบบหัวฉีด Autronic Jet 15 ถัง 58 ลิตร วาล์ว Tomaseto ช่างที่ติดทำใจเย็มมากเปิดวิทยุทำอารมณ์ดีเชียวคุยกับผมถูกคอเชียวเพราะลูกอีสานเหมือนกันอิอิ  ผมอยู่ดูวิธีการติดตั้งอย่างละเอียดตั้งแต่เริ่มติดจนเสร็จ ผลงานเป็นที่น่าพอใจสุด ๆ รถไม่ช้ำเลย ยิ่งติดหัวฉีด ช่างเค้าถอดอุปกรณ์แค่กล่องกรองอากาศตัวเดียวเอง(ตอนแรกนึกว่าจะรื้อออกให้หมดอะไรประมาณนั้น) หลังจากติดเสร็จ เติมแก๊ส 100 บาท กลับมาจูน 1 ครั้ง(ไม่ถึง 5 นาที) ช่างบอกว่าเสร็จแล้ว ลองเหยียบได้เลย ผมก็ออกไปลองบางนา- ตราดเลย ผลคือประทับใจมาก ช่วง 120 ~140 เร่งได้ทันใจดีเหมือนน้ำมันเลย ช่วง 140~180 ก็เร่งได้แต่ค่อย ๆ มาจนสุดที่ 190 ไม่ไปใหนต่ออีกแล้วคับ ก็วิ่ง 190 ไปประมาณ 10 วินาทีก็ผ่อนลงมาวิ่งปกติ พอลงมาติดไฟแดงก็ลองกดปุ่มสลับจากแก๊สมาเป็นน้ำมัน และจากน้ำมันเป็นแก๊ส สลับไปสลับมาทั้งตอนรถหยุดนิ่งและกำลังวิ่งอยู่ ผลคือไม่ได้ไม่มีอาการใด ๆ ทั้งสิ้น ไม่สั่น นิ่งมาก เสียงตัดแก๊สหน้ารถถ้าไม่ตั้งใจฝังคิดว่าก็คงไม่ได้ยินเบามาก อ้อ แต่เสียงวาล์วที่ถังท้ายรถ ตัดนี่ได้ยินชัดเจนมาก เสียงเหมือนเอาเหล็กไปเคาะที่ถัง 1 ครั้งอะไรประมาณนั้น ส่วนเรื่องความประหยัดจะมารายงานให้ทราบต่อไปครับ ปล. ขอบคุณคุณต้นเจ้าของกระทู้ด้วยนะครับที่จุดประกายที่ทำให้ผมอยากติดแก๊ส ( รู้อย่างงี้น่าจะมาติดตั้งนานแล้วเรา อิอิ ตอนนี้ Happy มาก ปีใหม่และสงกรานต์นี้ก็สบาย ๆ เลยครับ)   :-*

อ้ออ ลืมบอกไปครับ หลังติดเสร็จออกจากร้านไปเติมแก๊สเต็มถัง ผลคือท้าย load ลงไปเยอะเลย ใช้สปริงกะโช๊คเดิม ๆ ตอนเลี้ยงโค้งรู้สึกได้เลยครับ เหมือนจะหลุดโค้งไม่นิ่งเลย ใครพอจะแนะนำได้มั๊ยครับว่าควรปรับแต่งแก้ไขยังไงดี ขอบคุณครับ :-[

อาการเหมือนจะหลุดโค้งยังไม่เคยเจอนะคะ

อาจจะเป็นเพราะเปลี่ยนสปริงโหลดไว้ด้วยมั้งค๊ะ

แต่อาการที่รถโหลดลงไปมากกว่าเดิมนั้นเห็นชัดๆเลยคะ

ตอนนี้งดบรรทุกของหนัก และรับผู้โดยสารได้ไม่เกิน 2 ค่ะ ...  :-[

ไม่ทราบว่าใส่สปริงของอะไรอยู่ครับ

มีใครใช้หัวฉีดยี่ห้อ GTi ของ CANADA บ้างครับ / ES 05

อย่างที่เล่าเลยครับ    :-[

ออกเดินทางไกลกับแก๊สครั้งแรกครับ กรุงเทพ-เชียงใหม่-เชียงราย มีปั๊ม LPG เป็นช่วงๆ ขับสบายใจได้ กรุงเทพ - เชียงใหม่ ค่าแก๊ส 600 ครับ วิ่ง 100-140 ทุกๆร้อบกิโล เปลียนวิ่งน้ำมันสักสิบกิโล ออกกรุงเทพตีห้าครึ่งถึงเชียงใหม่ บ่ายโมง แวะพักเชียงใหม่สองวัน วิ่งเล่นในเมืองนิดหน่อย มาเติมแก๊สอีกครั้งก่อนไปเชียงราย 200 ความเร็ว 100-120 เพราะบางช่วงทางกำลังซ่อม Mixer Lamda ถัง 58 ลิตรครับ  8)   

พี่น้องได้ติดกระปุ๊กออโต้ลุปเพิ่มไหมครับ ผมฟังรายการวิทยุว่าไม่ดี มันมีน้ำยาเลี้ยงวาวล์ด้วย แล้วมันเป็นยังไงติดเหมือนกับออโต้ลุปไหม แล้วดีกว่าไหม แพงไหมครับ

รบกวนหน่อยครับ ผมอยู่แถวปิ่นเกล้ามีร้านไหนแนะนำบ้างครับ

ใครสะดวกโทรคุยให้ข้อมูลบ้างได้ป่าวครับ

เอก 081-7355159

ขอบคุณมากครับ

http://www.gasthai.com/boardgas/Question.asp?ID=A13319

อย่าได้ติดเชียวนะคับ ลองอ่านดูตามลิ้งค์ เสียทั้งตัง เสียทั้งค่าซ่อม เสียสุขภาพจิต
เอาเป็นว่า สับมาเป็นน้ำมันบ้าง เช่น สตาร์ทน้ำมันก่อนออกจากบ้าน สัก พ้นซอยหน้าบ้านค่อยสับมาเป้นแก๊ส
ระหว่างใช้งานระหว่างวัน เด๋วจอดๆ จะสตาร์ทแก๊สก็ไม่ว่ากัน (ถ้าสตาร์ทน้ำมันทุกครั้งยิ่งดี แต่เปลืองอ่ะ)  :-[ :-[
พอขากลับ สับมาเป็นน้ำมัน ตรงปากซอยก่อนเข้าบ้าน แค่นี้ก็โอเคแล้วคับ  :) :) :)
ปล.ถ้าซอยใครมากก่า 1 โล สับแก๊สเลยคับ เปลือง  :P :P ซอยลึกจัง อิอิ ของผมประมาณ 500 เมตร  ;D ;D

ตาม Mr.t.s ว่าเลยครับ ผมสลับน้ำมันทุกครั้งที่ติดไฟแดงซะด้วยซ้ำไป น่าจะหลายเดือนครับกว่าน้ำมันจะหมดถัง   :'( เท่านี้ก็น่าจะเพียงพอแล้วนะครับ สลับน้ำมันบ่อย ๆ จะได้สบายใจเรื่องเครื่องยนต์จะพังก่อนกำหนดอ่ะคับ ยังไงรอผู้รู้มาแนะนำต่อดีกว่า  :)

เกือบพังแล้วเรา ใช้ไป 1 กระป๋องครึ่งแล้วอะ

ตามนั้นเลย 

เดี๋ยว PM ไปหานะครับ :D ผมอยู่พุทธมณฑล เดี๋ยวบอกร้าน แล้วคุณไปติดต่อ+เดินดูร้านดูแล้วกันนะครับ
ผมติดมางานเนียนดี กลับไปจูนใหม่แค่ครั้งเดียว แล้วก้อระหว่างที่ติด มีลูกค้าเข้ามาเคลม เค้าก้อต้อนรับดี ไม่บ่นไร บ่นแต่ว่าน่าจะนัดก่อน เดี๋ยวทำไม่ทัน

ผมใช้วิธีนี้อยู่เหมือนกัน แต่ไม่รู้เยอะไปป่าว น้ำมัน 1 ถังเด็ม ๆ ผมได้ 2 เดือนครึ่งครับ และ 95 ตลอด ::)
ส่วนเลี้ยงบ่าวาล์ว ไม่ได้ใช้และไม่คิดจะใช้ครับ

แต่ผมว่าไม่น่าติดนะผมถอดออกแล้วอะ.... เสียดายตังค์ที่ติด

ครับวันนี้เพิ่มเติมนิดนึงนะครับ พอดีว่าผมไปติดค้ำให้ลูกค้าเจ้านึง ซึ่งพอดีเขาติดแก็สมา ซึ่งงานเขาค่อนข้างดี ผมก็เลยขออนุญาตเจ้าของรถเพื่อทำการถ่ายเก็บข้อมูลมาฝากกัน โดยเจ้าของรถก็อนุญาตและให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีครับ(ต้องขอขอบคุณไว้ ณ.ที่นี้ด้วยครับ) ผมก็เลยเอางานมาฝากกันครับ

รุ่นรถ
-  ES01-02 เกียร์ออโต้ เครื่องไม่มีวีเทค

ระบบแก็สที่ใช้
- หัวฉีด Autronic  Jet เบอร์ 15 ถังขนาด 58 ลิตร

เจ้าของงานติดตั้งแก็ส
-ร้าน YutCopter & HighWay Motorcar

มาดูกันครับ รูปแรกเป็นรูปห้องเครื่องเมื่อติดตั้งเสร็จแล้ว ถ้าดูจากสภาพแล้ว จะสังเกตได้ว่าแทบจะไม่เห็นความแตกต่างจากเดิมสักเท่าไรครับ

(http://i158.photobucket.com/albums/t93/anodite_studbar/anodite_1/DSCF0623copy.jpg)

อันนี้เป็นหัวฉีดยอดนิยมครับ Autronic

(http://i158.photobucket.com/albums/t93/anodite_studbar/anodite_1/DSCF0625copy.jpg)

มองจากด้านข้าง

(http://i158.photobucket.com/albums/t93/anodite_studbar/anodite_1/DSCF0624copy.jpg)

เบอร์หัวฉีดที่ใช้สำหรับคันนี้คือ เบอร์ 15 ครับ

(http://i158.photobucket.com/albums/t93/anodite_studbar/anodite_1/DSCF0626copy.jpg)

อันนี้ผมเรียกไม่ถูก เข้าใจว่าเป็นก่อนท่อส่งเข้าหัวฉีดครับ

(http://i158.photobucket.com/albums/t93/anodite_studbar/anodite_1/DSCF0617copy.jpg)

แล้วผมก็เพิ่งได้ทราบความจริงอยู่อีกเรื่องนึง รถที่ผมใช้เป็นระบบ Mixer + Lamda ซึ่งเวลาจะใช้แก็ส แก็สต้องถูกทำให้อุ่นโดยใช้หม้อต้ม โดยแก็สส่งผ่านมาจากถังสู่หม้อต้มแล้วจึงเข้าสู่เครื่องเพื่อให้เกิดพลังงาน แต่สำหรับระบบหัวฉีดรุ่นนี้ ไม่มีหม้อต้มแก็สครับ ซึ่งความร้อนนี้ได้มาจากความร้อนของเครื่องยนต์ที่ได้อุณหภูมิที่เหมาะสมตามที่ตั้งไว้ ผมเข้าใจว่านี้ก็เป็นอีกสาเหตุนึงที่ระบบหัวฉีดตัวนี้ เวลาตอนเช้าเครื่องมันเย็น ต้องรอให้เครื่องเกิดความร้อนก่อน ระบบแก็สจึงทำงาน ซึ่งเมื่อความร้อนเกิดขึ้น แก็สก็ถูกทำให้อุ่นโดยอุณหภูมิที่เหมาะสมผ่านหัวฉีดแล้วส่งเข้าสู่เครื่อง ซึ่งบางคนจะเจอปัญหาว่าตอนเช้าจะเกิดอาการสะอึกตอนเข้าแก็ส เพราะว่าเครื่องมันเย็น เวลาระบบเข้าสู้แก็สจะเกิดความเปลี่ยนแปลงระหว่างความร้อนกับความเย็นที่ตัวหัวฉีด(เมื่อตัด) จึงทำให้เกิดอาการสะอึกหรือกระตุกนิดๆหน่อย ซึ่งอันนั้นเป็นอาการปกติไม่มีอะไร ซึ่งเมื่อร้อนแล้วอาการนี้ก็จะไม่เกิดขึ้นอีกครับ จากรูปมีท่อน้ำสองชุดครับ ตัวบนกับล่าง แต่ไม่แน่ใจว่าเข้ายังไง พอดีอันนึ้ลืมถามอะคับ

(http://i158.photobucket.com/albums/t93/anodite_studbar/anodite_1/DSCF0619copy.jpg)

(http://i158.photobucket.com/albums/t93/anodite_studbar/anodite_1/DSCF0618copy.jpg)

คราวนี้มาถึงเรื่องถัง เท่าที่จำได้เป็นถังขนาด 58 ลิตร มีการเก็บงานเรียบร้อย

(http://i158.photobucket.com/albums/t93/anodite_studbar/anodite_1/DSCF0631copy.jpg)

(http://i158.photobucket.com/albums/t93/anodite_studbar/anodite_1/DSCF0632copy.jpg)

รูปนี้เป็นรูปเมื่อถ่ายจากในรถครับ

(http://i158.photobucket.com/albums/t93/anodite_studbar/anodite_1/Civic/DSCF0629copy.jpg)

พื้นที่ใช้สอยก็เหลือพอที่จะใช้งานได้ครับ

(http://i158.photobucket.com/albums/t93/anodite_studbar/anodite_1/DSCF0633copy.jpg)

ก็เอามาฝากกันสำหรับคนที่สนใจติดแก็ส และต้องขอขอบคุณเจ้าของรถที่อนุญาตให้ผมนำรูปและข้อมูลมาเล่าสู่กันฟังด้วยครับ  :D

ติดแก๊สนี่เปลืองอย่างที่เค้าว่าจิง ๆ คับ ยิ่งประหยัดก็ยิ่งใช้ เฮ้ออ  :'(

ช่างติดหม้อต้มไว้ใต้กล่องดักลม(ไม่รู้เรียกถูกหรือเปล่า) ทำให้ไม่สามารถดึงก้านวัดน้ำมันเกียร์อัตโนมัติได้เลยค่ะ ยังงี้เราควรย้ายตำแหน่งหม้อต้มใหม่ไหม ช่วยแนะนำร้านและราคาค่าย้ายด้วยค่ะ ขอบคุณค่ะ

ผมว่าย้ายเถอะครับ เช็คน้ำมันเกียร์ ไม่ได้ แล้วน้ำมันเกียร์มันผิดปกติขึ้นมา จะทำอย่างไงอะครับท่าน ถ้าแนะนำร้านผมว่าเข้าไปคุยกะร้านที่คุณติดมาก่อนดีกว่า ว่าเช็คน้ำมันเกียร์ ไม่ได้ ทำไงอะ ถ้าเค้าไม่ยอม รอคุณanodite_studbar มาบอกแล้วกัน ร้านที่คุณanodite_studbar แก้งานมา ฝีมือดีครับ

คุณanodite_studbar อยู่ไหนคะ อยากขอคำแนะนำด้วยค่ะ   รู้สึกว่าร้านที่คุณanodite_studbar แก้งานมา ตอนนี้ลูกค้าเยอะ กลัวว่าเค้าไม่มีเวลามาแก้ให้

ร้านที่ ลงไว้น่าจะเป็น ไฮเวย์ มอเตอร์คาร์
http://www.gasthai.com/boardshop/Weblist.asp?shopname=highway
ลองดูตามลิ้งค์  ส่วนผมก็กำลังดูอยู่ครับ คงต้องหาใกล้ๆที่ทำงานก่อน ที่เล็งๆไว้
ก็เป้น gasdrive กับ เมืองใหม่รวมช่าง ที่เลือกๆไว้ก้เป็นของ ag ครับ ปัญหาน่าจะน้อยสุด

คุณpopครับ ไม่ทราบว่าไปติดที่ร้านไหนอ่ะครับ แล้วราคาเท่าไรครับ

ของผมติดเป็นระบบหัวฉีด ออโตมิค ทั้งชุด ถัง 65 ลิตร ทุนติด 45000.- เมื่อปีที่แล้ว ติดที่ค๊อคพิคอ้อมน้อย
ตอนนี้วิ่งมาจะแสนโลแล้วจูนแก๊ส 2 ครั้งจบเลย
อัตราการเร่งเหมือนน้ำมันช่วง 0-120 ดีกว่าน้ำมัน

ตามข้างบนเลยครับป๋ม ถ้าCivic ร้านนี้ไม่ผิดหวังครับ

ปล. ไม่อยากพูดมาก เดี๋ยวจะกลายเป็นการโฆษณาครับ

รถผม civic es 02 exi  จะติดแก๊ส อะไรดีครับ และระบบไหนดีครับ
แนะนำด้วย ครับ
ผมไม่มีความรู้ด้านนี้จริงๆๆๆ :-\

รถผมรุ่นเดียวกะคุณแหละครับ ES01 EXI ผมไม่ได้บอกนะว่าติดระบบอะไรดี แต่ผมจะบอกว่าผมติดแบบหัวฉีด Autornic มาได้ 6 เดือนแล้ว วิ่งไปประมาณ 4 หมื่นโล กลับไปที่ร้านที่ติดมาแค่ครับเดียวนะครับ จูนใหม่เนื่องจากวันที่ติดฝนตกหนักมาก จูนได้ไม่เต็มที่ ส่วนเรื่องการใช้งาน ไม่ได้ต่างอะไรจากน้ำมันมากมายแบบเห็นได้ชัดหลอกครับ มีอยู่อย่างเดียวที่ต่างแบบมาก ๆ เลย ก้อตรงที่จ่ายแบง 500 มีทอน กะแพง 1000 ไม่พออะครับ ;)
ตอนนี้ผมคืนทุนแบบเหลือเฟือแล้ว สำหรับค่าติดตั้ง (แต่มันเป็นเพียงตัวเลขนะครับ เงินไม่เหลือเหมือนเดิม ???)

02 เหมือนกันเลย แต่ของเรา VTEC  แนะนำ LPG หัวฉีด ดีกว่า 31000+- เพราะว่าตอนนี้ ราคาของขึ้น เราติดมา เกือบ 3เดือนละ ยังไม่มีปัญหาอะไร 0-160 แรงกว่าน้ำมันคับ
หัวฉีดคับ AUTRONIC JET15 เ่ท่านั้น แล้วคุณจะชอบ รู้งี้ติดตังนานแล้วอิอิ

ไปติดมาแล้วครับ หัวฉีด ag ติดตั้งดีครับ งานเก็บเรียบร้อย
ก็เพิ่งลองไป 100 กิโลเอง ยังไม่รูอะไรมาก ไว้ เก็บข้อมูลแล้วจะมา ให้ดูครับ  :-X

วันนี้ไปติดมารอไปรับรถตอนเย็น ที่ร้าน Highway แถว ถนน นวมินทร์
หัวฉีด + ถัง 68 ลิตร 37000 บ.
ได้เรื่องได้ราวยังไงแล้วจะมาเล่าให้ฟังคับ
ES 2005 Exi ครับ

สนใจมากครับ

ได้ยินเสียงโซลินอยวาล์ว เวลา วาล์วแก๊สเปิดแล้ว ตกใจเหมือนกันแหะ ไม่รู้ใครสังเกตุบ้างหรือเปล่า
- ติดแก๊สแล้ว ยิ่งเปลืองครับ ผมว่านะ เปลืองตัง ไปนู่นนี่ ไม่หยุดเลย...

ใช่คับ ดังตลอด ส่วนมาก จะเป็นตอน กดยาวๆๆ มา แล้วชลอความเร็ว ไม่ต้องตกใจคับ ของผม ฟิวๆๆ ตลอด
บอกแล้วว่าอย่าติด ประหยัดกว่ามอไซด์อีก 

ปล.อย่าลืมเช็คช่วงล่างกับยางด้วยนะคับ  จะไปเร็ว วิ่งบ่อยอิอิ    :) :) :) :-[

ลืมเรื่องนี้ไปเลย ... เรื่องการตัดปั้มติ๊ก - ไม่ตัด ครับ
- ถ้ารถคันไหนตัดติ๊ก ก็ ไม่ต้องกังวลอะไรนะครับ และใช้น้ำมันบ้าง
- คันไหนไม่ได้ตัดติ๊ก อย่าลืมเติมน้ำมันไว้ในถังสัก 3 / 8 นะครับ
ตัดไม่ตัดดีอย่างไร หาอ่านได้ครับ gasthai.com
แต่โดยส่วนตัว ผมไม่ตัดครับ อย่างน้อยให้มันมีมาเลี้ยงระบบไว้ดีกว่า

ตามนี้เลยครับ เป็นข้อมูลที่ดีเลยครับ  :D

หุหุ มารายงาน 2 ถัง ผ่านไป ...
ถังแรก 400  - 38 ลิตร ใช้ให้เหลือ ไฟ 1 ดวง แล้วเติม ....ถังแรก วัดอะไรไม่ได้ครับ เพราะ ทั้งจูน ทั้งปรับไปมา
จนถังแรก เหลือ ไฟดวงเดียว จึงเติมถังที่ สอง ครับ 300 - 28 ลิตร วิ่งทั้งในเมือง รถติดมั่ง ไม่ติดมั่ง ตอนนี้ เหลือดวงเดียวเหมือนก่อนเติม
วิ่งไป 269 กิโลเมตร ครับ ก็ตก โลละ บาท กว่า ๆ ก็ พอใจอ่ะครับ
ของผม AG ครับ จูนได้ค่อนข้างลงตัว
- ควรตั้งแก๊สหนากว่าน้ำมันนิดนึงนะครับ ( off set = 1.8  ร้านจะตั้งให้เรา 1.6 ครับ )  เท่าที่ ลองวิ่งดู จะไม่ต่างจากน้ำมันมากนัก แต่ก็มีอืดๆ ในบางช่วง (ช่วง ที่รอบเกิน 3000 ขึ้นไป จะมีหน่วงเล็กน้อย) -
จากนั้นก็จะปกติ แต่ยังไม่เคยวิ่งถึง 4000 รอบซักที
- ก่อน ถึงบ้าน อย่างน้อย 2-3 กิโล ก็อย่าลืมสับกลับไปน้ำมันนะครับ -
- อย่าลืมดูน้ำหม้อน้ำนะครับ -
 8)

ทำไมต้องตัดกลับมาน้ำมันก่อนจอดรถล่ะครับ
ผมเพื่งติดมา Autronic มาครับ ยังไม่หมดถังแรกเลย ใช้ เจ็ท 15
ถัง metal 68 ลิตร
ตอนแรกตั้งความร้อนไว้ที่ 45 องศา แล้วมันขับไปหลายโลกว่าจะเป็นแก็ส เลยให้เขาตั้งใหม่เป็น 35 องศา ดีหน่อยเปลี่ยนเป็นแก็สเร็วขึ้น
ยังไม่มีปัญหาครับ
ไม่งั้นขับไปหลาย กิโล กว่าจะเป็นแก็ส ต้องใฃ้น้ำมันวันละลิตรกว่าจะเปลี่ยนเป็นแก็ส ( ต้อนเช้า และ กลับบ้านตอนเย็น ต้องสตาร์ทเป็นน้ำมัน)
ขับเดือน ละ 30 วัน วันละลิตร ลิตรละ30 บ.ก็ปาเข้าไป 900 บ.แล้วไม่รู้จะติดแก็สไม่ทำไม  ผมเข้าใจแบบนี้ ผิดป่าว คับ

ช่วยแนะนำเรื่องการ ติดแก็ส Honda Civic Dimension 2003
ผมใช้ Honda Civic Dimension 2003 เกียร์ ธรรมดา
ตอนนี้ลูกจะเข้าโรงเรียน เลยอยากประหยัดจะติดแก็ส
ขอถามเป็นข้อๆนะครับ
1. จะติด LPG หรือ NGV
2.แก็ส 2 แบบนี้ ในอนาคต อันไหนมันจะลอยตัวแพงกว่ากัน
3.จะติดแบบไหนดี แบบ ดูด หรือ หัวฉีด ติดแบบไหนดีครับ
4.แนะนำร้านเก่งๆหน่อยครับ
5.ติด LPG หัวฉีดแบบไหนดีกว่ากันครับ ระหว่าง AG Centrum กับ Autrinic  
ปล.ผมมือใหม่อยากติดแก็สครับ  

ตอนนี้รถผมต้องเติมน้ำหม้อน้ำเกือบทุกวันเลยครับ
ไม่รู้ว่าเป็นอะไร หม้อน้ำก็เพิ่งเปลี่ยนมาครับ
ติดแบบ Fixmix

ตอบข้อ1และ2แบบรวมๆแล้วกันนะครับ
- เท่าที่ผ่านมา แม้ว่า NGV จะมีราคา8.50บาท ซึ่งถูกกว่าตั้งสองบาทเมื่อเทียบกับ LPG ซึ่งตอนนี้ราคาอยู่ที่ 10.50 บาทโดยประมาณ แต่ใช่ว่าผมจะตั้งข้อกังขากับNGV แต่เท่าที่เพื่อนๆผมประสบมาและเท่าที่ทั้งได้เห็นและได้ยินจากปากของคนขับแท็กซี่ NGV ราคาถูกจริงแต่ว่าหาปั้มเติมยาก บางทีแก็สหมด ปั้มปิดเอาดื้อๆก็มี แถวบ้านผมมีสองปั้ม(เพิ่งจะเปิดได้ไม่ถึงปีหลังจากที่ผมติดแก็สLPGจนคุ้มทุนไปแล้ว)ก็ปรากฎให้เห็นชัดๆคือคนเติมเยอะ รอคิวนาน บางครั้งหมดทีต้องรอ บางทีเห็นแท็กซี่จอดยาวเป็นแถวเกือบหลายสิบคัน ผมนั่งแท็กซี่ที่ติดNGV เขาก็บอกว่าคุ้มถ้าเทียบกับน้ำมัน แต่ว่าหาเติมยาก รอคิวนาน ต่างจังหวัดไม่ต้องพูดถึง หาเติมยากกว่า LPG เยอะ และอย่างล่าสุดผมไปจังหวัดเพชรบูรณ์ ปั้ม LPG มีสองปั้ม ปั้มแรกอยู่ที่ ลำนารายณ์ อีกปั้มอยู่ที่ก่อนขึ้นเขาค้อ NGVไม่มีสักปั้มเลยครับ ซึ่งถ้าตอนแรกผมติดNGVไปคงเศร้าพอดู สำหรับเรื่องราคาลอยตัวของแก็ส ผมว่าค่าของมันคงไม่น่าเกิน 15 บาทต่อลิตร ซึ่งเมื่อเทียบกับน้ำมันตอนนั้นก็คงเกือบ 40 บาทไปแล้ว ถ้าใช้ทุกวัน LPG ติดคุ้มครับ แม้ว่าจะแพงกว่าNGVก็ตาม คงต้องดูว่าวิ่งวันละกี่กิโล แล้วราคาติดเท่าไร ตกลิตรละเท่าไร ประหยัดเท่าไร แล้วค่าความประหยัดใช้เวลากี่เดือนคุ้มทุน ก็คงต้องลองชั่งใจดู และอีกอย่างนึงที่อยากจะติเรื่องNGVก็คือเรื่องค่าติดตั้ง แพงมากเมื่อเทียบกับLPG ค่าความคุ้มทุนก็นานกว่า อันนี้ก็แล้วนะครับ ถ้ามีงบก็จัดไปครับ

ข้อ3และ5
- สำหรับ Civic Dimension ตั้งแต่ปี 01-05 เครื่องเป็นระบบหัวฉีด และมีระบบวีเทคด้วย ซึ่งตัววีเทคนี้ถ้าติดเป็นระบบดูดแบบธรรมดา ก็จะทำให้เครื่องรวน(อันนี้เจอมากับตัว) ผมแนะนำจริงๆ ถ้าเป็นไปได้ ติดหัวฉีดไปเลยดีกว่าครับ แพงหน่อยแต่คุ้ม การบำรุงรักษาก็ง่ายกว่าแบบดูด ไม่จุกจิก ราคาอยู่ 30000กว่าถึง40000ต้นๆ(ณ.ตอนนี้) ผมว่าราคาไม่ใช่ตัวแปรสำคัญ แต่สิ่งสำคัญก็คือระบบที่ติดและบริการหลังการติด ทำไมหรอครับ ถ้าติดระบบไม่ดี มันก็รวนได้เช่นกัน และถ้าเกิดติดร้านที่ไม่ชำนาญ หรือความรับผิดชอบ เกิดว่าร้านปิดกิจการขึ้นมา เราจะไปให้ร้านอื่นดู เขาก็ไม่ค่อยอยากดูให้เรา ก็ต้องคิดให้ดีๆ สำหรับระบบหัวฉีดที่เหมาะกับ Civic Dimension ก็เท่าที่นิ่งที่สุดคือ Autronic ครับ

ข้อ4
- สำหรับร้านก็มีอยู่หลายร้าน ก็คงต้องเลือกดูนะครับ ถ้าผมแนะนำก็คงเป็นร้าน YutCopter & HighWay Motorcar
Link เวปเขาครับ

http://www.gasthai.com/boardshop/Weblist.asp?shopname=highway

อันนี้บอกก่อนนะครับว่าผมไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียกับร้านเขา ที่แนะนำเพราะว่าทั้งผมเอง และเพื่อนๆอีกหลายๆคนที่ผมแนะนำไปติดก็บอกว่าติดมาดี ไม่ค่อยมีปัญหาครับ

ยังไงก็ขอให้มีความสุขกับการใช้แก็สนะครับป๋ม  :D

เช็ครอยรั่วต่างๆให้ดีครับ ถ้าเติมทุกวันอันนี้รั่วแน่นอนครับ อาจจะไม่ได้เกี่ยวกับหม้อน้ำ อาจจะเป็นตัวอื่นๆที่รั่วเช่นข้อต่อท่อน้ำต่างๆก็ได้ครับ

ที่สำคัญระวังให้ดี คือความร้อนของเครื่อง ระวังเครื่องฮีทนะครับ ผมว่าเอาไปเช็คอีกทีดีกว่ครับป๋ม  :-[

อย่างที่เขาว่ากันว่าติดแก็สแล้วหน้ารถจะลอยขึ้น พวงมลัยไว และท้ายรถซึ้งมีถังแก็ส+น้ำมันในถังจะต่ำลงมาประมาณ2-3 นิ้ว แล้วควรจะแก้ไขอย่างไรครับ นอกจากการรองโช้คด้วย spacer เพราะโดยส่วนตัว ผมว่าการรองโช้คด้วย spacer ยิ่งจะทำให้โช้ค แบกรับน้ำหนักมากขึ้น อาจเกิดการล้าและเสื่อมสภาพเร็วขึ้นจริงไหมครับ?  

ทำไมต้องตัดกลับมาน้ำมันก่อนจอดรถล่ะครับ
ผมเพื่งติดมา Autronic มาครับ ยังไม่หมดถังแรกเลย ใช้ เจ็ท 15
ถัง metal 68 ลิตร
ตอนแรกตั้งความร้อนไว้ที่ 45 องศา แล้วมันขับไปหลายโลกว่าจะเป็นแก็ส เลยให้เขาตั้งใหม่เป็น 35 องศา ดีหน่อยเปลี่ยนเป็นแก็สเร็วขึ้น
ยังไม่มีปัญหาครับ
ไม่งั้นขับไปหลาย กิโล กว่าจะเป็นแก็ส ต้องใฃ้น้ำมันวันละลิตรกว่าจะเปลี่ยนเป็นแก็ส ( ต้อนเช้า และ กลับบ้านตอนเย็น ต้องสตาร์ทเป็นน้ำมัน)
ขับเดือน ละ 30 วัน วันละลิตร ลิตรละ30 บ.ก็ปาเข้าไป 900 บ.แล้วไม่รู้จะติดแก็สไม่ทำไม  ผมเข้าใจแบบนี้ ผิดป่าว คับ
...
- รถใช้น้ำมันมานานครับ บ่าวาล์วจะมีแอดดิทีพจากน้ำมันมาเคลือบไว้บางๆมาโดยตลอด
เมื่อใช้แก๊ส มันแห้งครับ จะทำให่บ่าวาล์วสึกไว (แต่อย่าไปใช้พวกเลี้ยงบ่าวาล์วนะครับ )
- อุณหภูมิ ผมตั้งไว้ 50 ครับ เพราะน้ำทำหน้าที่ ต้มแก๊สด้วย ถ้าความร้อนไม่ถึงพอ ก้จะต้มแก๊สไม่หมด ทำให้สะดุดในช่วงเครื่องเย็นๆครับ ( autronic จะเป็นบ่อย)  

ถ้าไม่วิ่งก็ไม่ลดนะครับ

เวลาจอดไม่มีแรงดันก็อาจจะซึ่ม แต่ไม่ถึงกับมาก แต่เมื่อวิ่ง ในเครื่องมีน้ำเลี้ยง เมื่อน้ำเจอความร้อนประกอบกับแรงดันในตัวท่อน้ำต่างๆ ทำให้เมื่อรถวิ่ง น้ำในระบบก็ถูกแรงดันซึมหรือรั่วตามข้อต่างๆได้ครับ

เกี่ยวมั่ยครับพอดีผมเอาเครื่องล้างอัดฉีดไปฉีดที่หม้อน้ำแล้วครีบมันบี้เลยครับ แต่ไม่มากนะครับ

1. จะติด LPG หรือ NGV
2.แก็ส 2 แบบนี้ ในอนาคต อันไหนมันจะลอยตัวแพงกว่ากัน
3.จะติดแบบไหนดี แบบ ดูด หรือ หัวฉีด ติดแบบไหนดีครับ
4.แนะนำร้านเก่งๆหน่อยครับ
5.ติด LPG หัวฉีดแบบไหนดีกว่ากันครับ ระหว่าง AG Centrum กับ Autrinic
....
1. lpg ครับ
2.อย่าคิดมากครับ ยังไงก็ถูกกว่าน้ำมัน แต่ติดแล้วจะเปลืองกว่าเดิมนะครับ ไม่เชื่อคอยดู
3. หัดฉีดเท่านั้น
4. yutcopter // gas drive // gas expert // เมืองใหม่รวมช่าง ...ดีทีสุดคือ ใกล้ บ้านและที่ทำงานครับ มีปัญหาจะได้เข้าไปแก้ง่ายๆ
5.dimension เหมาะกับ autronic เพราะใช้สายต้มครับ จะมีเนื้อที่ วางแบบหลวมๆ
แต่ผมเลือก ag ครับ เพราะผมไม่มั่นใจในระบบสายต้ม
นอกนั้นเหมือนกันหมดครับ เพราะมาจากโรงงานเดียวกัน  

ไม่แน่ใจอ่ะครับ ทางทีดี หาอู่ที่ไว้ใจได้แล้วให้เขาดูดีกว่าครับ

เพราะว่าถ้าวิ่งแล้วน้ำลด โอกาสที่เครื่องฮีทสูงครับ  :-[

กรองแก๊สเปลี่ยนที่ กี่ กม. ครับ

พอจะมีร้านที่แนะนำบ้างมั้ยครับ

บางร้าน 100000 บางร้าน 50000 แต่ผมคิดว่า 40000 ครับ พร้อมถ่ายขี้แก๊ส ...
แล้วก็ เช็ครั่ว เช็คข้อต่อ ทุกๆ 10000

ร้าน YutCopter & HighWay Motorcar เขาซ่อมรถฮอนด้าโดยเฉพาะ และยิ่งซีวิคแล้ว เจ้านี้ไม่เป็นสองรองใครครับ ร้านเขาอยู่ตรง
ลาดพร้าว101  ให้เขาลองไล่ระบบน้ำดู บอกเขาว่าคุณต้นแนะนำมาก็ได้ครับ

Link เวปเขาครับ(ในหน้าเวปเขามีแผนที่ให้ด้วยครับ)

http://www.gasthai.com/boardshop/Weblist.asp?shopname=highway

แล้วผมต้องทำไรเพิ่มไหมครับ กลัวว่าท้ายจะห้อย
AG Centrum กับ Autrinic  ทำให้ยิ่งลังเลใหญ่เลยคับ

AUTRONIC   ครับ ในงบ 32000 - 33000
AG จะถูกกว่า 3000 โดยประมาณ
คือมันพูดยากครับ ข้อมูลของผมอาจจะไม่ถูกต้องนัก คุณต้องไปคุยกับร้านเอง ว่าจะเลือกแบบไหน
แล้วเลือกครับ ผมว่า ดีทั้งคู่ครับ ไม่ต่างกัน แต่ autronic จะใช้สายต้ม ซึ่งใช้พื้นที่ในการวางน้อยครับ ไม่แน่นเกินไปนัก
ดูแลง่าย ไม่ต้องหาที่วางหม้อต้ม
- เรื่องท้ายห้อย ของผมมันลงมาไม่เยอะครับ เลยยังไม่ได้คิด แหะๆ
อันนี้หม้อต้ม ag กับ ชุดหัวฉีดครับ

แล้วหัวฉีด Stefanelli  นี้เป็นไงครับ คือมีคนแนะนำมาเขาบอกว่าน่าติดมาก ใช้ถัง ชื่นศิริอะไรสักอย่าง มันดีป่าวคับ

จริงๆแล้ว มีอีกหลายยี่ห้อนะครับ อีกเยอะมากเลย เพียงแต่ว่า สองยี่ห้อที่ว่ามานั้น คนติดเยอะ ( autronic น่าจะเยอะกว่าครับ )
ผมถึงอยากให้ ไปอ่านที่ gasthai.com ครับ
หาข้อมูลเยอะๆ ครับ
ส่วนตัวผมนะ ยี่ห้อไหนไม่สำคัญ เท่าร้านติดตั้งดี และ จบครับ

ตามนี้เช่นกันครับ

Civic dimension 2003  1.7 เกียร์ธรรมดา ครับของผม

ผมอยู่โคราชนะครับ ตอนแรกตัวสินใจไปติดที่กรุงเทพ ที่ร้านพี่ยุทธ์ autronic jet 15 ราคา 36000

แต่ไปได้เบอร์ของพี่ต้อมโคราช ที่เขาติดแก็สเหมือนกัน เขาเชียร์ หัวฉีด Stefanelli  พี่เขาบอกว่าใช้งานได้ดีกว่า autronic
 
ผมเลยรองเข้าไปดูข้อมูลใน gasthai แต่ไม่มีข้อมูลหัวฉีดยี้ห้อนี้เลยครับ และไม่เห็นมีใครใช้เลย ผมเลยตัดสินใจไม่ได้สักที่

ว่าจะเลือกตัวไหน ถ้าไปติดกับพี่ยุทธ์ มันก้อ OK เพราะพี่ยุทธ์เก่ง แต่ติดที่อยู่กรุงเทพ และก้อน่าจะจบ

แต่ที่โคราช มันเป็นหัวฉีดที่ไม่มีคนใช้ ไม่เห็นมีใครพูดถึงเลย แต่พี่ต้อมแกก้อติด autronic ให้ได้เหมือนกัน ถ้าเราไม่ชอบ  Stefanelli  พี่ต้อมแกใช้ถังของ ชื่นศิริ ใช้วาวส์ของ OMB

ขอถามหน่อยนะครับ ว่าถังตัวชื่นศิริ นี้มัน OK ไหม แล้ววาวส์ โทมาเซทโต๊ะ กับ OMB อันไหน OK กว่ากันครับ

รบกวนพี่อีกครั้งครับ  

ผทเปลี่ยนหัวเทียนเมื่อวาน มันออกแดงๆ น้ำตาลไหม้ เป็นสูบที่ 3-4 สูบ 1-2 ก็เป็นแต่ไม่มากแล้ว เป็นเพราะออโต้ลูปหรือเปล่าครับ แต่ผมถอดออกแล้วใช้ไป 1 ลิตรแล้วถอด หลังเปลี่ยนรู้สึกเหยีบพุงขึ้นมาก เป็นเหมือนกันหรือเปล่าครับ แล้วบนหัวเทียนเก่ามีคราบสีน้ำตาลด้วยมันรั่วหรือเปล่าครับ ผมใช้มาประมาณ 4 หมื่นโลครับ

- ถังทุกยี่ห้อคล้ายๆกันครับไม่ต่างกัน ยกเว้นแบบ  super กับ multi  ครับ
- ส่วนเรื่อง ยี่ห้อนั้น ถ้าเป็นผมนะ ผมเลือกติดที่โคราชครับ เพราะ มันใกล้บ้านครับ ...บ้านคุณอยู่โคราชนะครับ ถ้ามันไม่นิ่ง ขึ้นมา คุณไม่วิ่ง กลับมาจูนที่นี่เรอะ ลองนึกถึง ใจร้านที่คุณไปถามดิ คุณไปถามเค้าแล้ว แต่คุณไปติดที่อื่น แล้วพอมีปัญหา คุณไปให้เค้าจูน
หรือให้เค้าดู ...ซื้อใจครับ ของงี้ คุณมีตัวเลือกน้อย
แต่ทั้งนี้และทั้งนั้น มันขึ้นอยู่กับตัวคุณนะครับ
ขอย้ำอีกทีครับ ยี่ห้อไหนก็เหมือนกันครับ ขอให้ร้านติดตั้งดี และ จบ ครับ
อ่อ ถ้าคุณกังวลเรื่องอะไหล่ คุณก็ลองไปดูสิว่า ยี่ห้อste ของคุณน่ะ มันไปคล้ายกับยี่ห้ออะไร เพราะอุปกรณ์แก๊ส มันเป็น สินค้า oem นะครับ ตัวอย่างคือ autronic - easy jet ..........  power jet - ag 

หม้อน้ำผมน้ำลดอีกแล้วครับ
ตอนขับไม่ลด แต่พอจอดทิ้งไว้ข้ามคืนลดไปครึ่งนึง ไม่มีรอยน้ำรั่วหยดลงมาเลยคับ

มันไม่หยอดหรอกครับ มันจะพ่นเป็นสเปร์ยออกมามากกว่า หรือ ระเหยไปหมด
ใส่ น้ำยาหม้อน้ำสีเขียว แล้วเติมน้ำให้เต็ม ลองดูอีกทีครับ ตอนเช้า มาเช็ครั่วอีกที  ฝาหม้อน้ำ หล่ะครับ สปริงเสื่อมหรือเปล่า
หรือไม่ก็ไปอู่เหอะครับ เสียว แทน ...วาล์วน้ำ ปั้มน้ำ หม้อน้ำ ท่อน้ำต่างๆ แล้ว ในหม้อน้ำมีน้ำมันเครื่องเข้าไปไหม
ถ้าไม่ใช่ที่เครื่อง
ที่หม้อต้ม ดูหรือยังครับ มีรอยรั่วหรือเปล่า
- น้ำฮีทเตอร์ จะดึงไปเข้าหม้อต้ม ครับ ลองดูจุดนี้ ด้วย

น้ำยาหม้อน้ำเขาใส่กันกี่ขวดครับ ถ้าจะเปลี่ยนน้ำหม้อน้ำ

ติดNGV ครับมาโหวต  civic2007 e at as ใช้มา 5000 โลแล้วยังโอเคนะครับ

http://www.gmcworkshop.com/new_lpg/lpg113.asp  ข้อมูลหัวฉีดครับ

http://www.gmcworkshop.com/new_lpg/lpg106.asp  แนะนำและเปรียบเทียบอุปกรณ์
วิธีการจูนแบบ Stefanelli กับ Autronic

http://www.gmcworkshop.com/new_lpg/lpg101.asp   คู่แข่ง Autronic ตัวจริง
หากคิดจะติด Autronic
ทำไมติดตั้ง Stefanelli ,Italy ดีกว่า?

มันจะพอใส่ ไหมพี่

ก็โอ นะครับ ติดเลย ...หาข้อมูลซะขนาดนี้แล้ว ลุยโลด

รถติดแก๊ส ในการตรวจสภาพรถเพื่อเอาใบตรวจไปส่งให้ไฟแนนต่อทะเบียนประจำปี ต้องทำไงบ้างครับ รบกวนผู้รู้ด้วยครับ

โทร.มา คับ BEER 086-319-7085  เดี๋ยวจะบอก พิมพ์ไม่เก่ง

ต้องไปขอใบรับรองให้วิศวกรเซ็นที่ศูนย์ติดตั้งแก๊ส ใบรับรองมีอายุ15วันหรือ1เดือนไม่แน่ใจคับ

ติดระบบไหนก็แล้วแต่ ถ้างบมีแนะให้หัวฉีดเหอะครับ
ตอนนี้ ngv ไม่พร้อมเอามากๆ ครับ ราคาถูกจริง แต่ต้องแลกมาด้วย
การเสียเวลาในการเติม เสียค่าน้ำมันหรือก๊าซในการวิ่งหาปั๊ม
เสียสุขภาพจิต ต้องวางแผนในการเดินทางเป็นอย่างดี แต่ถึงวางแผนดีเพียงใดก๊าซหมดก็จบ
แบกถังป่าววิ่งด้วยน้ำมันไป แล้วเวลาต่อคิวตามปั๊มเป็นปัญหากันมากครับ แซงคิวกัน ไม่มีมารยาท จะต่อยปากกันแล้วคับ  :P :P

lpg ค่าติดถูกกว่ามากครับ ความพร้อมมีมากกว่า แต่ราคาแก๊สจะแพงกว่าครับ แต่ไม่ต้องเสียรมณ์ กับข้อข้างบน
ชอบถูก หรือชอบผจญภัย อันนี้แล้วแต่สะดวก ครับ แต่ไงๆ ก็รีบติดเหอะคับ ติดเร็วคุ้มเร็ว
แต่เงินไม่เหลือเหมือนเดิม ไม่รู้ทำไม อิอิ ;D ;D ;D

ตามนี้เช่นกานคับป๋ม ชอบตรงนี้ที่สุด "รีบติดเหอะคับ ติดเร็วคุ้มเร็ว แต่เงินไม่เหลือเหมือนเดิม ไม่รู้ทำไม อิอิ"

 เหมือนกันเลยครับ ประหยัดตรงนี้ แต่ดันไปเสียอย่างอื่นแทน  :-[

มารายงานอัตราสิ้นเปลืองนะครับ
- ในเมือง ประมาณ 8 กม./ลิตร หรือ โลละ 1.30 บาท
- นอกเมือง ประมาณ 11.5 กม./ลิตร หรือ โลละ 1 บาท (ตอนปีใหม่เดินทางไปสระบุรี-วังน้ำเขียว ขับประมาณ 120 ตลอด)
ตั้งแต่ติดมายังไม่เจอปัญหาใด ๆ เลยครับ มีรอบเดินเบาต่ำบ้าง ที่ร้านก็ล้างลิ้นปีกผีเสื้อให้แล้วก็ดีขึ้นครับ

ยังไงขอบคุณมากสำหรับรายงานการใช้งานแก็สระบบหัวฉีดด้วยนะครับ จะได้เป็นประโยชน์แก่เพื่อนๆและคนที่สนใจติดแก็สครับ  :D

ครับ หลังจากที่ผมติดแก็สไปวันแรกเมื่อ 04 สิงหาคม 2006 แล้วมีปัญหาแก็สตามมาต่างๆนั้น ผมก็ได้แก้ไขจากอีกร้านนึงเมื่อ 06 กันยายน 2006 เท่าที่ผมจำได้ตอนนั้นที่ติดแก็สอยู่กิโลที่ 4xxxx กว่าๆ หลังจากติดแก็สผมก็ไม่ได้เข้าศูนย์ เนื่องจากการประกันเครื่องจะจบตรงที่เราทำแก็ส แล้วก็เรื่อยมา ผมก็ได้มีการเปลี่ยนน้ำมันเครื่องทุก 10000 โล โดยทุกครั้งที่เปลี่ยน ผมจะใช้น้ำมันสังเคราะห์ทุกครั้ง ซึ่งบางครั้งอาจจะเปลี่ยนก่อนกำหนดด้วยซ้ำไป เพราะว่าบางครั้งจำเป็นต้องเดินทางไปต่างจังหวัด ก็เลยเปลี่ยนเพื่อให้เกิดความลื่นของเครื่องยนต์ และเท่าที่ผ่านมาเท่าที่ผมเคยอ่านเจอจากหลายๆเวปเกี่ยวกับสภาพเครื่องที่ติดแก็สไป ว่าสภาพเป็นยังไงบ้าง มาถึงวันนี้ รถผมมาอยู่ที่กิโล 98935

(http://i158.photobucket.com/albums/t93/anodite_studbar/anodite_1/DSCF1178copy.jpg)

ซึ่งก็ใกล้เคียงแสนโลแรก ซึ่งแสนโลแรกนี้ สิ่งที่สำคัญที่จะต้องเปลี่ยนก็คือสายพานราวลิ้น(บางคนอาจจะเรียกว่าสายพานลูกลอก) เคยได้ยิน ได้เห็นจากคนรู้จัก บางคันใช้เลยแสนไม่เปลี่ยน แล้วเจอปัญหาเครื่องพัง บางคันก่อนกำหนดด้วยซ้ำ ซึ่งผมเองได้ยินตรงนี้บ่อยมากๆ และประกอบกับว่าอาทิตย์นี้ผมต้องเดินทางไปต่างจังหวัด จากกิโลที่โชว์ให้ดูนี้ ก็ใกล้แสนแล้ว ถ้าเกิดว่าไม่เปลี่ยนแล้วไปขาดกลางทาง ผมเองคงไม่อยากกินข้าวลิงแน่ๆ และที่สำคัญผมคงไม่ปล่อยรถผมให้เสียที่ต่างจังหวัดง่ายๆ หรอกครับ

คราวนี้ก็มาถึงร้านที่ทำการเปลี่ยน ผมก็ได้ให้ร้าน Highway ซึ่งผมทำการติดแก็สกับเขา เป็นคนเปลี่ยนสายพานให้ สาเหตุมีสองประการคือ อย่างแรกร้านเขาซ่อมเกี่ยวกับฮอนด้าโดยตรง และโดยเฉพาะอย่างยิ่งรุ่นซีวิคตัวนี้ ที่ร้านเขาก็มีเอง อย่างที่สองคือเราติดแก็สร้านเขา ถ้าเกิดว่าเครื่องมีปัญหาไม่ว่าจากแก็สหรือระบบน้ำมันก็ตาม เขาจะได้ดูแลให้โดยที่ไม่ต้องเพิ่งแต่ศูนย์ ซึ่งบางครั้งศูนย์ยังแก้ไขไม่ตรงจุดด้วยซ้ำ ผมเองเห็นลูกค้าเขาก็เคยเอามาซ่อม ซึ่งผมเองก็เคยเจอปัญหาความร้อนแล้วพี่เขาให้ไปทำแล้วทีเดียวจบ ผมจึงตัดสินใจให้เขาทำหน้าที่นี้ครับ

ก่อนอื่นมาทำความเข้าใจกันก่อนว่าสายพานราวลิ้น Bonum (โบนั่ม)คืออะไร
-สายพานราวลิ้นเป็นส่วนสำคัญของเครื่องยนต์มีหน้าที่กำหนดจังหวะของเครื่องยนต์ทั้งสี่ คือ ดูด อัด คาย ระเบิด กล่าว คือ เมื่อเครื่องยนต์ทำงานจะมีการระเบิดในกระบอกสูบทำให้ข้อเหวี่ยงหมุน และ Pulley ที่ติดอยู่กับข้อเหวี่ยงหมุนฉุดให้สายพานราวลิ้นหมุนทำให้เพลาราวลิ้นที่มีหน้าที่เปิดและปิดวาล์วไอดี และ วาล์วไอเสียทำงานเนื่องจากการเปิดและปิดของวาล์วไอดีและไอเสียต้องมีจังหวะเวลาที่แน่นอนถ้าผิดพลาด อาจทำให้เครื่องยนต์เสียหาย และดับไปได้ สายพานราวลิ้น จึงได้ชื่อว่า Timing Belt

คราวนี้มาดูรูปกันเลยครับ

ตอนแรกก็รื้อช่วงด้านหน้าและตรงปั้มพาวเวอร์ออก

(http://i158.photobucket.com/albums/t93/anodite_studbar/anodite_1/DSCF1077copy.jpg)

(http://i158.photobucket.com/albums/t93/anodite_studbar/anodite_1/DSCF1078copy.jpg)

ซึ่งตอนเอาออกก็ต้องเอาสายพานพาวเวอร์กับสายพานคอมแอร์ออกมาด้วย ซึ่งไหนๆก็ไหนๆแล้ว แสนโลก็เลยลองดูสภาพว่าควรจะเปลี่ยนหรือยัง

ถ้าดูจากรูปอาจจะไม่ค่อยชัดเท่าไร แต่ถ้ามองด้วยตาเปล่าจะเห็นเลยว่าแตกลายงา ทำให้ประสิทธิภาพของยางด้อยลงไปครับ


(http://i158.photobucket.com/albums/t93/anodite_studbar/anodite_1/DSCF1075copy.jpg)

การที่จะเอาสายพานคอมแอร์ออกนี้ไม่ใช่ว่าเอาออกง่ายๆนะครับสำหรับซีวิค ไดเมนชั่น เพราะว่าเครื่องมันเต็มไปหมด เวลาจะถอดก็ต้องค่อยๆถอด และที่สำคัญต้องถอดล้อหน้าด้านซ้ายด้วย เพื่อทำการดึงสายพานออกมาจากด้านล้างด้วยครับ

มาดูรูปนี้ครับ หลังจากเปิดฝาที่ปิดไว้ด้านขางออก ก็จะเจอสายพานราวลิ้นของเดิมที่ใช้มาเกือบแสนโลที่ติดมากับรถ ซึ่งมองจากภายนอกอาจจะดูไม่ทราบ

(http://i158.photobucket.com/albums/t93/anodite_studbar/anodite_1/DSCF1099copy.jpg)

อันนี้เป็นเฟืองข้อเหวี่ยงครับ

(http://i158.photobucket.com/albums/t93/anodite_studbar/anodite_1/DSCF1098copy.jpg)

(http://i158.photobucket.com/albums/t93/anodite_studbar/anodite_1/DSCF1100copy.jpg)

แต่เมื่อผลิกสายดูแล้วจะเห็นได้ว่าแตกลายงาเช่นกัน ซึ่งปัญหาว่าสายพานจะขาดได้ยังไง ให้สังเกตที่เป็นร่องๆ เมื่อสายพานเกิดความเสื่อมสภาพหรือแตกลายงา เมื่อใช้ไปจำทำให้สายตกร่อง หมายถึงว่าสายหลุดออกมาจากร่อง ซึ่งเมื่อสายหลุดแล้วจะทำให้จุดต่างๆที่สายพานพาดไปทำงานผิดปกติ ทำให้เกิดความเสียให้แก่เครื่องได้ครับ

(http://i158.photobucket.com/albums/t93/anodite_studbar/anodite_1/DSCF1110copy.jpg)

หลังจากนั้นเขาเองก็ได้ทำการเปลี่ยนปั้มน้ำเครื่อง ปั้มตัวนี้ทำหน้าที่ให้กระแสน้ำไหลเวียนจากเครื่องสู่หม้อน้ำแล้วกลับเข้ามาสู่เครื่องใหม่ ซึ่งในขณะที่ผ่านหม้อน้ำ จะทำให้ความร้อนของน้ำลดลง และเข้ามาสู่เครื่องอีกครั้ง เมื่อปั้มน้ำเสีย ก็จะทำให้เครื่องเกิดความเสียหายได้ จริงๆแล้วเขาบอกว่าประมาณแสนโลก็ควรเปลี่ยนได้แล้ว ผมเองก็เห็นว่าไหนๆก็ไหนๆแล้วก็ให้เขาเปลี่ยนไปดีว่า ไม่อยากเสียค่าแรงอีกรอบ เพราะว่าเปลี่ยนสายพานเสร็จ ถ้าปั้มเสียทีหลัง ก็ต้องถอดอีก โดนสองต่อ ไม่เอาดีกว่า

รูปนี้คือรูปปั้มน้ำตัวเก่าครับ จริงๆสภาพยังสวยเลยครับ แต่ช่างบอกว่าเปลี่ยนดีกว่าครับ ก็อย่างที่บอก ไม่อยากเสียสองต่อครับ

ด้านนี้เป็นด้านที่สายพานราวลิ้นผ่านเฟืองปั้มเพื่อทำให้ปั้มทำงานครับ

(http://i158.photobucket.com/albums/t93/anodite_studbar/anodite_1/DSCF1119copy.jpg)

ด้านนี้เป็นใบพัด อยู่ในเครื่องครับ

(http://i158.photobucket.com/albums/t93/anodite_studbar/anodite_1/DSCF1120copy.jpg)

ด้านนี้เป็นด้านข้างครับ

(http://i158.photobucket.com/albums/t93/anodite_studbar/anodite_1/DSCF1124copy.jpg)

รูปนี้จำได้ว่าตอนเปลี่ยนปั้มหรืออะไรสักอย่าง น้ำในเครื่องไหลออกมานองพื้นเลยครับ

(http://i158.photobucket.com/albums/t93/anodite_studbar/anodite_1/DSCF1102copy.jpg)

เมื่อเปลี่ยนสายพาน ก็ต้องเปลี่ยนลูกรอกด้วย แล้วเปลี่ยนทำไม? ก็เพราะว่าลูกรอกนี้ทำหน้าที่ตั้งให้สายพานตึงไม่ให้เกิดการหย่อน เหมือนตัวตั้งสายอัตโนมัติครับ ส่วนใหญ่เขาจะเปลี่ยนกันทุกครั้งที่เปลี่ยนสายพาน ดูจากรูปนะครับ ตัวซ้ายเป็นของใหม่ ตัวขวาเป็นตัวที่ใช้งานแล้วเก้าหมื่นกว่าโล

(http://i158.photobucket.com/albums/t93/anodite_studbar/anodite_1/DSCF1114copy.jpg)

ลูกลอกและสายพานส่วนมากจะใช้ของแท้นะครับ ไม่ค่อยมีใครใช้ของปลอมกัน รูปต่อมาเป็นรูป Serial Number ของสายพานอันใหม่กับลูกรอกอันใหม่ครับ

เบอร์อันนี้เป็นเบอร์ลูกรอกครับ

(http://i158.photobucket.com/albums/t93/anodite_studbar/anodite_1/DSCF1130copy.jpg)

อันนี้เป็นเบอร์สายพานครับ

(http://i158.photobucket.com/albums/t93/anodite_studbar/anodite_1/DSCF1116copy.jpg)

(http://i158.photobucket.com/albums/t93/anodite_studbar/anodite_1/DSCF1115copy.jpg)

รูปต่อไปนี้เป็นรูปการใส่สายพานใหม่

(http://i158.photobucket.com/albums/t93/anodite_studbar/anodite_1/DSCF1125copy.jpg)

(http://i158.photobucket.com/albums/t93/anodite_studbar/anodite_1/DSCF1126copy.jpg)

(http://i158.photobucket.com/albums/t93/anodite_studbar/anodite_1/DSCF1155copy.jpg)

รูปนี้เป็นรูปลูกลอกใหม่

(http://i158.photobucket.com/albums/t93/anodite_studbar/anodite_1/DSCF1123copy.jpg)

ตัวที่อยู่บนด้านขวาเป็นปั้มน้ำตัวใหม่ครับ

(http://i158.photobucket.com/albums/t93/anodite_studbar/anodite_1/DSCF1122copy.jpg)

หลังจากนั้นก็มีการเปลี่ยนสายพานคอมกับสายพานพาวเวอร์

อันนี้คือคอมแอร์

(http://i158.photobucket.com/albums/t93/anodite_studbar/anodite_1/DSCF1080copy.jpg)

อันนี้คือปั้มพาวเวอร์

(http://i158.photobucket.com/albums/t93/anodite_studbar/anodite_1/DSCF1078copy.jpg)

อันนี้จำไม่ได้แต่อยู่ด้านล่าง ใกล้คอมแอร์ครับ

(http://i158.photobucket.com/albums/t93/anodite_studbar/anodite_1/DSCF1081copy.jpg)

สายสองเส้นนี้ถ้าสังเกตดีๆจะมีขนาดไม่เท่ากัน

ถ้าจำไม่ผิดสายใหญ่ใช้กับคอมแอร์ อีกสายใช้กับปั้มพาวเวอร์

(http://i158.photobucket.com/albums/t93/anodite_studbar/anodite_1/DSCF1132copy.jpg)

หลังจากนั้นช่างก็ได้ทำการใส่สายพาวเวอร์กับสายคอมแอร์จนเสร็จ  หลังจากใส่สายทุกอย่างจนเสร็จ ก็ถึงเวลาที่จะพิสูจน์กันเกี่ยวกับเรื่องเครื่องว่าใช้แก็สสลับน้ำมันเป็นยังไง และใช้น้ำมันสังเคราะห์ตั้งแต่แรกเป็นยังไง ช่างก็ได้ทำการเปิดฝาเพื่อที่จะตั้งวาวล์หลังจากใช้ไปเกือบแสนโลครับ

(http://i158.photobucket.com/albums/t93/anodite_studbar/anodite_1/DSCF1159copy.jpg)

อันนี้คือภาพหลังจากเปิดฝาครับ

(http://i158.photobucket.com/albums/t93/anodite_studbar/anodite_1/DSCF1139copy.jpg)

ตอนแรกที่เปิดดู ผมนึกว่าเหมือนเครื่องที่ใหม่ๆใช้ได้ไม่นาน ขนาดช่างเองยังบอกเลยว่าสภาพเครื่องออกมาดีมากเลยครับ

รูปนี้ซูมเข้าไป

(http://i158.photobucket.com/albums/t93/anodite_studbar/anodite_1/DSCF1140copy.jpg)

อันนี้ก็คือสีน้ำมันเครื่องสังเคราะห์ที่ใช้ไปไม่ถึงหมื่นโล

(http://i158.photobucket.com/albums/t93/anodite_studbar/anodite_1/DSCF1150copy.jpg)

จริงๆตอนแรกที่ติดแก็ส ก็เคยได้ยินว่าติดออโต้ลูบเพื่อเลี้ยงบ่าวาวล์ แต่วันนี้รูปคงพิสูจน์แล้วว่าออโต้ลูบไม่จำเป็นครับ จริงๆแล้วถ้ามีโอกาสใช้น้ำมันบ้าง หรือสตารท์เลี้ยงไว้บ้าง บ่าวาวล์ก็ไม่แห้งแล้วครับ

อันนี้คืออีกมุมนึง

(http://i158.photobucket.com/albums/t93/anodite_studbar/anodite_1/DSCF1148copy.jpg)

หลังจากที่เปิดฝาตะลึงกับสภาพเครื่องสักพัก ช่างก็ทำการตั้งวาวล์ เพื่อให้การทำงานของเครื่องมีประสิทธิภาพครับ

(http://i158.photobucket.com/albums/t93/anodite_studbar/anodite_1/DSCF1151copy.jpg)

หลังจากที่ตั้งวาวล์เสร็จ ช่างก็ทำการปิดฝาวาวล์ รูปนี้เป็นด้านในของฝา ให้สังเกตดีๆตรงขอบว่ามีซีลยางอยู่ด้วยนะครับ

(http://i158.photobucket.com/albums/t93/anodite_studbar/anodite_1/DSCF1157copy.jpg)

ซึ่งก่อนที่ช่างจะปิดฝา ช่างได้ทำการทายาเพื่อไม่ให้เกิดตามดครับ

(http://i158.photobucket.com/albums/t93/anodite_studbar/anodite_1/DSCF1158copy.jpg)

น้ำยาที่ใช้ทาครับ

(http://i158.photobucket.com/albums/t93/anodite_studbar/anodite_1/DSCF1117copy.jpg)

หลังจากที่ได้ปิดฝาเสร็จ ก็เปลี่ยนหัวเทียน เนื่องจากแก็สที่ผมใช้เป็นระบบดูด ระบบไฟและอากาศเป็นส่วนผสมสำคัญในการจุดระเบิด ถ้าทุกอย่างเป็นของใหม่ ประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องก็ดีขึ้น

อันนี้คือรูปหัวเทียนที่เปลี่ยนไปที่กิโลเมตรที่ 76185  และวันที่ 13 มิถุนายน 2550

(http://i158.photobucket.com/albums/t93/anodite_studbar/DSCF1371copy.jpg)

(http://i158.photobucket.com/albums/t93/anodite_studbar/DSCF1370copy.jpg)

อันนี้คือสภาพที่ใช้ไปแล้วถึงกิโลที่ 9xxxx

(http://i158.photobucket.com/albums/t93/anodite_studbar/anodite_1/DSCF1162copy.jpg)

(http://i158.photobucket.com/albums/t93/anodite_studbar/anodite_1/DSCF1166copy.jpg)

ซึ่งจากสภาพที่ดู ช่างเขาบอกว่ามีการใช้น้ำมันบ้าง ทำให้สีของกระเบื้องออกมาเป็นสีแดง และเท่าที่ดูจากการเผ่าไหม้ ค่อนข้างสมบูรณ์ครับ

พอดีตอนที่จะเอาอันใหม่มาถ่าย มัวแต่คุยกับช่างอีกคนนึงอยู่ หันไปอีกทีใส่เสร็จหมดแล้ว อันนี้คือรูปกล่องหัวเทียนที่ใส่ใหม่ ซึ่งระบบแก็สไฟสำคัญ ทำให้ต้องเปลี่ยนบ่อย แค่นี้ก็เกินพอแล้วครับ

(http://i158.photobucket.com/albums/t93/anodite_studbar/anodite_1/DSCF1168copy.jpg)

หลังจากนั้นได้ทำการเปลี่ยนน้ำมันเครื่องกับกรองอากาศ จริงๆแล้วผมเพิ่งเปลี่ยนไปกิโลเมตรที่ 93xxx กว่า วันที่ 30 พฤศจิกายน 2007 ซึ่งก็วิ่งมาได้แค่ห้าพันกว่าโล แต่ว่าไหนๆก็ไหนๆแล้ว เมื่อเปลี่ยนสายพานอะไรใหม่แล้ว ผมก็ทำการเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง กรองน้ำมันเครื่อง กรองอากาศใหม่ด้วยซะเลย

รูปนี้คือรูปน้ำมันเครื่องที่ใช้แล้ว จริงๆแล้วยังไม่ถึงหมื่นโลด้วยซ้ำ ดูสีเอาแล้วกันครับ

(http://i158.photobucket.com/albums/t93/anodite_studbar/anodite_1/DSCF1173copy.jpg)

อันนี้เป็นน้ำมันเครื่องที่ใช้ในครั้งนี้

(http://i158.photobucket.com/albums/t93/anodite_studbar/anodite_1/DSCF1076copy.jpg)

น้ำมันเครื่องกล่องนี้เป็นความบังเอิญครับ พอดีว่ามีเพื่อน CIVIC CLUB ด้วยกันเขามาติดแก็ส แล้วคุยไปคุยมาถูกคอ พอดีมาดูรถผม แล้วบังเอิญว่าผมจะเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง แต่ผมดันลืมเอามา เขาถามว่าใช้ยี่ห้ออะไร ผมบอกว่าใช้ PTT 0W40 เขาบอกว่าเขามีติดมาที่รถ พอดียังไม่ใช้ เขาก็ขายให้ผม ซึ่งราคาไม่แพงครับ (อันนี้ต้องขอบคุณมากๆนะครับ นี่คือหนึ่งน้ำใจในซีวิคคลับด้วยกันครับ) และผมเองดีมีการถ่ายรูปติดแก็สของเขาไว้ด้วย ไว้ตอนท้ายผมจะเอามาลงให้ชมกันหลังการรายงานการเปลี่ยนสายพานครับ

อันนี้คือน้ำมันใหม่ที่เติมไปครับ

(http://i158.photobucket.com/albums/t93/anodite_studbar/anodite_1/DSCF1176copy.jpg)

และนี้คือกรองอากาศอันเก่า ซึ่งถ้าดูแล้วก็ยังใหม่พอสมควร แต่ดูใกล้ๆ ก็มีคราบเยอะเหมือนกัน แต่ก็ใหม่อ่ะครับ

(http://i158.photobucket.com/albums/t93/anodite_studbar/anodite_1/DSCF1202copy.jpg)

อันนี้คือกรองน้ำมันเครื่องเก่าที่ถอดทิ้งแล้วครับ

(http://i158.photobucket.com/albums/t93/anodite_studbar/anodite_1/DSCF1174copy.jpg)

ไหนๆก็ทำแล้วก็ยกชุดซะเลย อันนี้คืออันใหม่ครับ

(http://i158.photobucket.com/albums/t93/anodite_studbar/anodite_1/DSCF1203copy.jpg)

และก่อนสตาร์ท ช่างได้ทำการเติมน้ำก่อน เพราะว่าตอนเปลี่ยนสายพาน ได้เปลี่ยนปั้มน้ำไปด้วย ทำให้น้ำที่อยู่รอบๆเครื่องออกมาเช่นกัน ถ้าเครื่องไม่มีน้ำเลี้ยงก็เป็นอันพังครับ เติมน้ำยาเสร็จแล้วเติมด้วยน้ำเปล่าตามอีกทีครับ น้ำยาที่เติมไปเป็นน้ำยาสีเขียวสะท้อนแสง อย่างนึงที่ดีนอกจากกันสนิมแล้วก็คือเวลารั่วจะทำให้เห็นรอยรั่วต่างท่อต่างๆได้ว่ารั่วจากตรงไหนครับ

(http://i158.photobucket.com/albums/t93/anodite_studbar/anodite_1/DSCF1170copy.jpg)

จริงๆแล้วเปลี่ยนสายพานไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนน้ำมันเครื่องก็ได้นะครับ ถ้าน้ำมันเครื่องเปลี่ยนได้ไม่นาน แต่ถ้าจำไม่ได้หรือไม่ชัวร์เรื่องเวลาหรืออยากให้การขับขี่สมูทขึ้น ก็จัดไปครับ

หลังจากนั้นได้ทำการสตาร์ทเพื่อวัดระดับน้ำมันเครื่อง ตอนที่เครื่องติด ผมสังเกตที่การสั่นของเครื่อง ขอบอกครับว่านิ่งมาก นิ่งกว่าตอนแรก จำได้ว่าเมื่อวันสองวันก่อนหน้าที่จะทำ ผมได้สตาร์ทน้ำมันเลี้ยงไว้แล้วเปิดฝาทำความสะอาด ซึ่งเครื่องสั่นจริงแต่ไม่มาก แต่วันนี้นิ่งกว่าวันนั้นมา ใกล้เคียงตอนออกรถมาเลยครับ ช่างเห็นยังบอกว่านิ่งจริงๆเลย ช่างยังแซวผมเลยครับว่าถ้าพี่ขายรถคันนี้ผมขอซื้อต่อนะ เพราะว่าพี่เล่นรักษาขนาดนี้ ผมก็บอกว่าคงยากอ่ะครับ เพราะว่ารถคันนี้ผมค่อนข้างรักมากพอสมควร

คราวนี้หลังจากเปลี่ยนสายพานเสร็จ ผมจำได้ว่าผมได้ทำความสะอาดพร้อมเปลี่ยนน้ำมันเกียร์16 กุมภาพันธ์ 2007  จำได้คราวๆว่าประมาณ 5-6 หมื่นโลโดยประมาณ วันนี้มาถึงเก้าหมื่นกว่าโลแล้ว ไหนๆก็ไหนๆแล้ว ผมก็จัดการเปลี่ยนซะเลย

อันนี้คือเครื่องล้างพร้อมเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์ครับ

(http://i158.photobucket.com/albums/t93/anodite_studbar/anodite_1/DSCF1180copy.jpg)

ต่อท่อทั้งน้ำมันออกเข้าและใส่น้ำมันใหม่ครับ

(http://i158.photobucket.com/albums/t93/anodite_studbar/anodite_1/DSCF1182copy.jpg)ฃ

หลังจากนั้นสตาร์ทเครื่องเพื่อให้น้ำมันไหลสู่เครื่องทำความสะอาดครับ

(http://i158.photobucket.com/albums/t93/anodite_studbar/anodite_1/DSCF1185copy.jpg)

ให้ดูที่สีน้ำมันเกียร์ที่ใช้ไปนะครับ สีที่ออกมาค่อนข้างจะดำมา ซึ่งจริงๆแล้วช่างเขาบอกผมว่าควรถ่ายทุกๆสองหมื่นโลจะดีกว่า สงสัยว่าคงต้องถ่ายบ่อยๆแล้วละครับ

(http://i158.photobucket.com/albums/t93/anodite_studbar/anodite_1/DSCF1189copy.jpg)

ซึ่งเขาก็ได้เข้าทั้งเกียร์ถอย เกียร์เดินหน้าทุกๆเกียร์ ซึ่งใช้เวลาประมาณชั่วโมงนึง(ช่างเขาบอกว่ายิ่งนานยิ่งดี จะได้สะอาดครับ)  เพื่อจะล้างให้ออกจากระบบทุกเกียร์ แล้วทำการใส่น้ำมันเกียร์ใหม่เข้าไป แค่นี้ก็เป็นอันเสร็จครับ

วันนี้เท่าที่ทดลองขับดู รู้สึกว่าเครื่องนิ่งขึ้นมาก ตอบสนองดีขึ้นกว่าเก่า แม้ว่าจะอยู่ในโหมดแก็ส แต่ความแตกต่างแทบไม่เห็นว่าจะแตกต่างจากน้ำมันสักเท่าไร ซึ่งบอกจริงๆว่าคุ้มค่ากับการลงทุนไป ถ้าเกิดว่ามัวแต่คิดมาก รอให้มันขาดหรือเสียก่อนค่อยมาทำ มันจะไม่ใช่แค่พันนะครับ จะเป็นหมื่น เผลอๆหลายหมื่นเอานะครับ

ก็เป็นข้อมูลฝากกันสำหรับเพื่อนๆที่ยังไม่เคยเห็นตอนเปิดฝาเครื่องและสายพานราวลิ้น ผมว่าข้อมูลของผมในครั้งนี้คงเป็นประโยชน์แก่เพื่อนๆและหลายคนที่เข้ามาดูไม่มากก็น้อย


---- เสียน้อยเสียยาก เสียมากเสียง่าย ---- จำไว้ให้ดีๆนะครับ  :D

แล้วก็ต่ออีกเรื่องนึง คือว่าคงมีคนอยากเห็น New Civic ติดแก็สเป็นยังไง ก็เอามาฝากกันด้วยครับ

พอดีตอนเปลี่ยนสายพาน ผมเห็นคันนี้จอดอยู่ ก็เลยขออนุญาตเจ้าของรถถ่ายเก็บไว้ฝากเพื่อนๆครับ (ขอบคุณเจ้าของรถผู้ใจดีด้วยนะครับ)

รูปด้านหน้ารถ

(http://i158.photobucket.com/albums/t93/anodite_studbar/anodite_1/DSCF1192copy.jpg)

ตอนนี้ช่างกำลังเดินสายไฟกับสายหัวฉีดหลังจากที่ติดตัวต้มแก็สแล้วครับ

(http://i158.photobucket.com/albums/t93/anodite_studbar/anodite_1/DSCF1092copy.jpg)

(http://i158.photobucket.com/albums/t93/anodite_studbar/anodite_1/DSCF1086copy.jpg)

ซึ่งหัวฉีดที่ใช้เป็นของ Autronic เบอร์ 18 ครับ

(http://i158.photobucket.com/albums/t93/anodite_studbar/anodite_1/DSCF1134copy.jpg)

(http://i158.photobucket.com/albums/t93/anodite_studbar/anodite_1/DSCF1133copy.jpg)

ถังที่ใช้เป็นขนาด 68 ลิตรแบบมัลติวาวล์ครับ

(http://i158.photobucket.com/albums/t93/anodite_studbar/anodite_1/DSCF1101copy.jpg)

(http://i158.photobucket.com/albums/t93/anodite_studbar/anodite_1/DSCF1118copy.jpg)

อันนี้คือสายที่ทำให้แก็สร้อนตามอุณหภูมิ

(http://i158.photobucket.com/albums/t93/anodite_studbar/anodite_1/DSCF1082copy.jpg)

ให้สังเกตดีๆ มีบอกไว้เลยครับว่าน้ำเข้ากับน้ำออกครับ

(http://i158.photobucket.com/albums/t93/anodite_studbar/anodite_1/DSCF1085copy.jpg)

(http://i158.photobucket.com/albums/t93/anodite_studbar/anodite_1/DSCF1084copy.jpg)

หลังจากนั้นผมก็มัวแต่ยุ่งกับรถผมจนดึก จนกระทั้งเขาติดเสร็จ อันนี้คืองานหน้าเครื่องเมื่อติดเสร็จ

(http://i158.photobucket.com/albums/t93/anodite_studbar/anodite_1/DSCF1208copy.jpg)

แต่ด้วยความรีบจะไปธุระต่อ ก็เลยไม่ได้เก็บรูปท้ายเอาไว้ จำได้ว่าบุสักกะหลากอย่างดีครับ

รูปนี้คือรูปคอมที่ใช้จูนแก็สครับ

(http://i158.photobucket.com/albums/t93/anodite_studbar/anodite_1/DSCF1207copy.jpg)

สำหรับการใช้งาน คิดว่าเจ้าของรถเองคงมาตอบให้ท่านๆทั้งหลายที่ใช้รุ่นนี้อยู่และสนใจจะติดหลังจากที่ใช้งานไปแล้ว เพราะว่าเจ้าของรถก็อยู่ Civic Club เช่นกันครับ

ต้องขอขอบคุณอีกครั้งสำหรับเรื่องน้ำมันเครื่องและอนุญาตให้ผมเก็บภาพมาฝากเพื่อนๆกันด้วยครับ

ปล. ถ้าเข้ามาอ่าน ผมยังรอผลการใช้งานนะครับ ขอบคุณล่วงหน้าครับ  :D