หัวข้อ: ปวดกะโหลก หม้อน้ำกินน้ำกลั่น+Coolant ราว 400-600 ml ต่อ 2 สัปดาห์ เริ่มหัวข้อโดย: treerat_p ที่ 17 กรกฎาคม 2009, 15:04:51 รถของผมมันพิเศษครับ
ใช้เครื่อง D17A - VTEC (Civic Dimension ทะเบียน มิถุนายน 2001/2544) แต่ ECU ของเบนซินยัง D17Z - EXi เหมือนเดิม :'( แป่ว ผมซื้อมา มิถุนายน 2008/2551 EXi ตัวเดิมๆนั่นแหละ มี LPG ยี่ห้อ BRC มาด้วยเลย มันมาพลาดเครื่องพัง ตอนไปทดสอบเซนเซอร์กระโปรงบน Tollway วิภาวดีฯ เร็ว 160 km/hr ทำไงได้ เราไม่รู้ทันช่างที่วางเครื่องให้นี่ มันก็เป็นแบบนี้ตั้งแต่วางเครื่อง แถมอาการหิวน้ำมันก็เป็นมาตั้งแต่ยกเครื่อง (ราวๆ กันยา-ตุลา 2008/2551) ผมว่าไม่เกี่ยวหรอกนะ ที่หม้อน้ำจะกินน้ำมากขึ้นๆ ถ้าใช้ LPG หรือ NGV เดือนนึง กระบอกน้ำที่ผมซื้อมาผสม Coolant สีน้ำเงินซื้อที่คาร์ฟูร์กับน้ำกลั่น ใช้ไป 1 ลิตร เฉลี่ยครับ ใครจะมาเติมหม้อน้ำทีละลิตร อีกอาการที่รถผมชอบเป็นมาก คือ ถ้าขับด้วย LPG เวลาประมาณครึ่งชั่วโมงขึ้นไป ช่วงเครื่องเบาตอนชะลอหรือจอด รอบจะต่ำลงๆ และก็อาจจะดับไปเอง วิ่งน้ำมันสักพัก ก็ไม่หาย ต้องใช้นานเลย เหมือนให้ระบบสักจุด มันเย็นลงบ้าง พอเปิดกลับมาที่ LPG ถึงจะ OK หน่อย วันอากาศร้อนเป็นง่ายกว่าวันเมฆครึ้ม Modd :-X หัวข้อ: Re: ปวดกะโหลก หม้อน้ำกินน้ำกลั่น+Coolant ราว 400-600 ml ต่อ 2 สัปดาห์ เริ่มหัวข้อโดย: Aod61 : มิสซิสซิปปี้ ที่ 17 กรกฎาคม 2009, 15:39:56 ระบบหล่อเย็นถ้ามันปกติ แทบไม่ต้องเติมน้ำเลยเป็นปีๆ
เคสนี้ก็ต้องไปไล่ ระบบหล่อเย็นใหม่ครับทั้งระบบ หม้อน้ำ วาวล์น้ำ ท่อต่างๆ เรื่องแก๊ส เบาจะดับรอบมันตก ก็อยู่ที่การจูนอ่ะครับ เค้าน่าจะจูนบางไป อย่าลืม ล้างลิ้นปีกผีเสื้อและมอเตอร์คุมรอบเดินเบาด้วยนะครับ หัวข้อ: Re: ปวดกะโหลก หม้อน้ำกินน้ำกลั่น+Coolant ราว 400-600 ml ต่อ 2 สัปดาห์ เริ่มหัวข้อโดย: treerat_p ที่ 17 กรกฎาคม 2009, 16:10:32 ระบบหล่อเย็นถ้ามันปกติ แทบไม่ต้องเติมน้ำเลยเป็นปีๆ เคสนี้ก็ต้องไปไล่ ระบบหล่อเย็นใหม่ครับทั้งระบบ หม้อน้ำ วาวล์น้ำ ท่อต่างๆ เรื่องแก๊ส เบาจะดับรอบมันตก ก็อยู่ที่การจูนอ่ะครับ เค้าน่าจะจูนบางไป อย่าลืม ล้างลิ้นปีกผีเสื้อและมอเตอร์คุมรอบเดินเบาด้วยนะครับ ครับผม ผมว่าต้องไปหาช่างหม้อน้ำเต็มตัวซะแล้ว ช่างชอบเชียร์ให้เปลี่ยนยกชุดอยู่เรื่อย (ได้ตังค์เยอะทำไม่ยาก ?) เรื่องจูนนี่ จูนมาไม่เกิน 1-2 สัปดาห์ครับ จูนเพราะเปลี่ยนกรองแก๊สมา อาการเบารอบตก/ดับง่ายที่ว่า เป็นเฉพาะตอนวิ่งไปแล้ว 25-40 นาที จะมีอาการ (ห้องเครื่องไม่ร้อนพอก็ไม่เป็น ว่างั้น) ถ้าเมฆครึ้มๆอากาศเย็นๆไม่มีอาการเลยก็มีครับ แต่ยังไม่ได้แตะต้องปีกผีเสื้อกับมอเตอร์คุมรอบเดินเบา มาประมาณครึ่งปีล่ะครับ คงทำพร้อมหม้อน้ำเลยละกัลลล ตอนนี้ยังเห็นมีสีส้มสนิมเป็นผงๆในน้ำเกาะสปริงฝาหม้อน้ำตลอด หัวข้อ: Re: ปวดกะโหลก หม้อน้ำกินน้ำกลั่น+Coolant ราว 400-600 ml ต่อ 2 สัปดาห์ เริ่มหัวข้อโดย: Aod61 : มิสซิสซิปปี้ ที่ 17 กรกฎาคม 2009, 16:19:02 ^
^ มันส่งสัญณาณว่าหม้อน้ำมันจะตันแล้วอ่ะครับ :-[ หัวข้อ: Re: ปวดกะโหลก หม้อน้ำกินน้ำกลั่น+Coolant ราว 400-600 ml ต่อ 2 สัปดาห์ เริ่มหัวข้อโดย: OFFSIDE ที่ 17 กรกฎาคม 2009, 22:20:38 ครับผม ผมว่าต้องไปหาช่างหม้อน้ำเต็มตัวซะแล้ว ช่างชอบเชียร์ให้เปลี่ยนยกชุดอยู่เรื่อย (ได้ตังค์เยอะทำไม่ยาก ?) เรื่องจูนนี่ จูนมาไม่เกิน 1-2 สัปดาห์ครับ จูนเพราะเปลี่ยนกรองแก๊สมา อาการเบารอบตก/ดับง่ายที่ว่า เป็นเฉพาะตอนวิ่งไปแล้ว 25-40 นาที จะมีอาการ (ห้องเครื่องไม่ร้อนพอก็ไม่เป็น ว่างั้น) ถ้าเมฆครึ้มๆอากาศเย็นๆไม่มีอาการเลยก็มีครับ แต่ยังไม่ได้แตะต้องปีกผีเสื้อกับมอเตอร์คุมรอบเดินเบา มาประมาณครึ่งปีล่ะครับ คงทำพร้อมหม้อน้ำเลยละกัลลล ตอนนี้ยังเห็นมีสีส้มสนิมเป็นผงๆในน้ำเกาะสปริงฝาหม้อน้ำตลอด ถ้าหม้อน้ำอยากชัวไปอู่ดีๆนิดนึงอย่างพี่เขาว่ามันเป็นระบบปิดอยู่ได้เป็นปี แสดงว่าคงรั่ว เราขับไปข้างนอกแล้วเปิดกระโปรงมาดูไม่เห็นหรอก เพราะมันร้อยมันระเหยไปหมดต้องดูที่คราบน้ำหรือคราบน้ำยาหม้อน้ำ ถ้าอู่ดีๆเขาจะใช้เครื่องมืออะไรไม่รู้เปิดฝาหม้อน้ำออกแล้วเอาฝาเครื่องมือนี้ปิดไปแล้วปั๊มลมเพิ่มแรงดันในระบบหารอยน้ำที่มันรั่ว เรื่องแก๊สเดินเยาสะดุดจะดับ น้ำมันไม่เป็นหรือเป็นบ้างเล็กน้อย นี่ระบบไฟเป็นไปด้วยสูงมากไม่สายหัวเทียนก้อหัวเทียนนี่เจอกะรถตัวเองพึ่งเปลี่ยนสายหัวเทียนมานิ่งเลย เหยียบขึ้นดีด้วย ถ้าลิ้นปีกผีเสื้อบอกว่าประมาณครึ่งปี งั้นคงไม่มีปัญหาแค่ครึ่งปีไม่น่าสกปรกมาก ถ้ากรองไม่แย่จิงๆ ว่าแต่อยู่แถวไหนละครับ เผื่อเพื่อนๆ มีอู่ดีๆใกล้ๆจะได้แนะนำกันได้ |