หัวข้อ: เปิดแอร์ ขับแก๊ส รถจอดติดเครื่องดับ เริ่มหัวข้อโดย: RUT ที่ 18 พฤษภาคม 2009, 10:14:34 เป็นเฉพาะตอนใช้แก๊สครับ พอรถจอดติดไฟแดง +เปิดแอร์ แล้วรอบเครื่องจะตก จนบางทีเครื่องดับเลยครับ แต่ถ้าไม่เปิดแอร์ไม่เป็นไรครับ และถ้าขับน้ำมันไม่มีอาการนี้เลยครับ รบกวนผู้มีความรู้ช่วยแนะนำอยู่ครับ จะได้มีแนวทางไปซ่อมครับ :(
หัวข้อ: Re: เปิดแอร์ ขับแก๊ส รถจอดติดเครื่องดับ เริ่มหัวข้อโดย: ES01 328 ที่ 18 พฤษภาคม 2009, 10:39:42 ใช้มากี่ กม. แล้วครับ
แนะนำให้ล้างกรองแก๊ส + จูนใหม่ครับ เป็นมาแล้วเหมือนกันครับ เปิดกรองแก๊สออกมาช่างตกใจเลย ว่ารถมันวิ่งได้ไง :-[ หัวข้อ: Re: เปิดแอร์ ขับแก๊ส รถจอดติดเครื่องดับ เริ่มหัวข้อโดย: srithanon ที่ 18 พฤษภาคม 2009, 15:19:18 ไม่ทราบว่าใช้แก็สระบบ ฟิ๊กมิ๊กเซอร์หรือเปล่าครับ น่าจะใช่ ขอตอบอย่างนี้นะครับ เนื้อหาอาจจะยาวไปหน่อย ลองอ่านดูครับ
เครื่องยนต์ที่ใช้ระบบฟิ๊กมิ๊กเซอร์ ปัญหาส่วนใหญ่ก็เป็นปัญหาเรื่องรอบเดินเบาของเครื่องยนต์ เพราะว่า การจ่ายแก็ส ไม่สามารถที่จะคอนโทรลได้เหมือนกับระบบน้ำมัน ระบบน้ำมันเราใช้อากาศไหลผ่านลิ้นปีกผีเสื้อเข้าห้องไอดี และไปผสมกับน้ำมัน ที่ห้องสูบของเครื่องยนต์ มีการคอนโทรลการจ่ายน้ำมันด้วยระบบสมองกล ECU ทำให้เครื่องยนต์ทำงานได้สมบูรณ์ ทุกสภาวะของรอบเครื่องยนต์และโหลด แต่การใช้แก็ส LPG ที่ติดระบบ Fix mixer เราต้องเอาอากาศกับแก็ส มาผสมกันที่ห้องมิ๊กเซอร์ หน้าลิ้นปีกผีเสื้อ แล้วจึงไหลผ่านปีกผีเสื้อ เข้าสู่ห้องไอดี เข้าห้องสูบ เพื่อการสันดาปจุดระเบิด ปริมาณอัตราส่วนผสมก็ต่างไปจากระบบน้ำมัน แก็สต้องการอากาศออกซิเจนมากกว่าระบบน้ำมัน ในอัตรส่วนผสมของมาตรฐาน ดังนั้นในจังหวะรอบเครื่องยนต์ที่ใช้รอบเดินเบา หรือจังหวะการถอนคันเร่ง ทำให้ลิ้นปีกผีเสื้อปิด ทำให้อากาศที่จะไหลผ่านในระบบการคอนโทรลในระบบน้ำมัน ที่อาศัยลิ้นอากาศ ISC step motor และระบบคอนโทรลอื่นๆ เป็นตัวให้อากาศผ่าน มาใช้กับระบบแก็ส จึงไม่เหมาะสม เพราะปริมาณแก็สกับอากาศที่ไหลผ่านไม่เพียงพอกับความต้องการของการจุดระเบิด ยกเว้นเครื่องยนต์ที่มีกำลังอัดของกระบอกสูบที่ดี ที่ทำให้แรงดูดที่ท่อร่วมไอดีมีกำลังแรงดูด (แว็คคั่ม) สามารถดูดอากาศกับแก็สที่ห้องมิ๊กเซอร์ หน้าลิ้นปิกผีเสื้อ ไหลผ่านช่องบายพาสของระบบการคอนโทรลรอบเดินเบาระบบน้ำมันได้ แต่ก็ไม่เสถียรภาพ ตลอด ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง การปรับจูนหม้อต้มแก็ส คุณภาพของหม้อต้มแก็ส และที่สำคัญ เรื่องของกำลังอัด หรือแรงดูด(แว็คคั่ม) ของเครื่องยนต์ หากเครื่องยนต์มีกำลังอัดที่กระบอกสูบต่ำลงไป อันเนื่องมาจากการใช้งาน มาก ทำให้บ่าวาวล์ปิดไม่สนิท วาวล์ยัน จึงทำให้มีปัญหากับรอบเดินเบาของเครื่องยนต์ ดังนั้นปัจจัยในการดูแลรักษาและพึงระวัง ก็ควรมีการตรวจเช็คเครื่องยนต์เรื้องของวาวล์ยัน เมื่อมีการใช้งานมาแล้วสองสามหมื่นกิโลเมตร หรือประมาณหนึ่งปี ประการที่สอง เรื่องของหม้อต้มแก็ส ต้องมีการเปลี่ยนกรองแก็ส ขึ้นอยู่กับการใช้งานมาก หากน้อยก็ปีละสองครั้งก็พอ ประการที่สาม ที่ถูกมองข้ามไป ต้องถอดสกรูตัวที่ปรับ sensitive ออกมาทำการล้าง เอาตระกันของขี้แก็ส ออกจากปลายเข็มที่เป็นเทเปอร์รูปตัววี เพราะมันทำให้แก็สไหลไม่สะดวก เช่นเดียวกันกับตัวสกรูปรับอากาศรอบเดินเบาของระบบน้ำมัน เพื่อนๆลองไขปรับสกรูตัวนี้ออกมาดูได้เลยครับ ท่านใดที่ยังไม่เคยก็ลองถอดไขออกมาดู สกปรกมาก หากรถท่านใดใช้มานานเป็นปี รีบถอดออกมาเลยครับ ผมได้มีโอกาส เปิดหม้อต้มแก็สของยี่ห้อ โทมาเซ็ทโต้ 140P มาทำการเปลี่ยนผ้าแผ่นไดอแฟรม จำนวนสองสามลูก ปรากฏว่า เป็นเหมือนกันหมด และก็อยากนำข้อมูลของเรื่องหม้อต้มแก็สเสื่อมคุณภาพมาเล่าให้ฟัง สำหรับท่านเจ้าของกระทู้ หลังจากที่ผมเล่าเรื่องการเสื่อมของหม้อต้มแก็สแล้ว ผมจะสรุปให้คุณในเรื่องการตรวจเช็คให้ครับ จากการที่ผมได้เปิดหม้อต้มแก็สออกมาเปลี่ยนชุดซ่อมของหม้อต้มแก็ส โทมาเซ็ทโต้ 140P ทำให้ผมเข้าใจหลายๆอย่างในการทำงานของมัน แต่ผมจะไม่เล่ารายละเอียด เพราะเนื้อหามันมาก จะจะสรุปเอาส่วนที่สำคัญที่ทำให้หม้อต้มมีคุณภาพต่ำ ทำให้การปรับจูนแก็สที่หม้อต้มมีปัญหา ส่วนแรกก็เห็นจะเป็นที่ตัวกรองแก็ส หลายท่านลืมให้ช่างไปเปลี่ยน หรือใช้งานจนเพลิน พบว่ามีการอุดตันที่ตัวกรองจนแก็สที่อยู่ในลักษณะของเหลวไหลผ่านได้น้อย เหมือนกับกรองน้ำมัน อย่างไรก็อย่างนั้น ต่อมาก็ที่ตัวสกรู ปรับ sensitive พบว่าที่ปลายเข็มหัวเทเปอร์ มีครบของตะกรันขี้แก็สจับพอกหนา ทำให้แก็สผ่านไม่สะดวก และที่ทำให้มีปัญหามากก็คือ การถ่ายขี้แก็ส จากการที่ได้ดูแผ่นไดอแฟรมที่ห้องเกิดไอแก็ส (ห้องแก็สที่จะนำแก็สไปใช้ในการมิ๊ก) มีสภาพยืดและหย่น มีคาบของขี้แก็ส(ลักษณะคล้ายน้ำมันเครื่อง) เกาะเยิ้มอยู่ที่แผ่นผ้าไดอะแฟรม ช่วงที่อยู่ใกล้กับช่องสกรูถ่ายขี้แก็ส ทำให้ส่วนที่เป็นขี้แก็สมีระดับน้ำขี้แก็สสูง จนไปจับผนังแผ่นไดอะแฟรม ส่วนที่โดนน้ำขี้แก็ส ก็จะหย่นและยืดออก ผลที่แผ่นไดอะแฟรมมีสภาพดังที่กล่าว ทำให้แรงดันของแก็สที่กระทำต่อแผ่นไดอะแฟรม มีแรงดันผิดไปจากเดิม เป็นผลให้กระเดื่องแขนวาวล์(ฉิ่งฉับ) ที่ยึดติกับแผ่นไดอะแฟรม ที่ทำหน้าที่ ปิดเปิด ช่องน้ำแกสที่ไหลมาจากกรองแก็ส เพื่อมาเปลี่ยนสภาพเป็นไอแก็ส ที่ห้องนี้ มีปริมาณไม่สมดุลและไม่มีเสถียรภาพ จ่ายแก็สไม่สม่ำเสมอ ทำให้การปรับจูนแก็ส ที่ตัว เซ้นซิทีป และไอเดิล ไม่สามารถปรับให้แก็สมีเสถียรภาพในการจ่ายแก็ส ที่รอบเดินเบาของเครื่องยนต์ได้ ดังนั้นเมื่อเราทราบที่มาของการที่เราไม่ค่อยถ่ายขี้แก็ส ก็จะทำให้เกิดปัญาหาดังกล่าวขึ้นมาได้ ดังนั้นก็ควรหมั่นถ่ายขี้แก็ส ตามสภาวะการใช้งานมากหรือน้อย ขอตอบท่านเจ้าของกระทู้ ในช่วงของการใช้แก็สที่รอบเดินเบา เมื่อลิ้นปีกผีเสื้อปิด หรือจังหวะถอนคันเร่ง ทำให้เครื่องยนต์ดับ ในบางขณะ เหตุการณ์เหล่านี้ เป็นผลมาจากเรื่องของแรงดูด(แว็คคั่มที่ท่อไอดี) ดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้น เป็นหัวข้อแรก หากใช้รถมานานแล้วให้นำรถไปทำการตรวจเช็คเรื่องวาวล์ยัน หรือบ่าวาวล์สึก ลองไปเช็คกำลังอัดของกระบอกสูบดู หลายๆท่านเพียงไปตั้งวาวล์และปรับจูนแก็สที่หม้อต้มใหม่ก็หาย หากรถใช้งานมาไม่นานประมาณครึ่งปีขึ้นไป ก็ลองเปลี่ยนกรองแก็ส ทำความสะอาดสกรูของตัว เซ้นซิทีป ปรับจูนแก็สใหม่ กรองอากาศ เรื่องของกรองอากาศ ดก็เป็นเรื่องสำคัญ ทุกครั้งที่มีการเป่าทำความสะอาดให้ตัวกรองอากาศ ควรปรับที่ตัว เซ็นซิทีป และเพาเวอร์วาวล์ใหม่ทุกครัง เพราะเมื่ออากาศไหลผ่านกรองอากาศได้สะดวก ทำให้อัตราส่วนผสม ระหว่างแก็สกับอากาศผิดไป ในห้องมิ๊กเซอร์ (ในรอบเดินเบา) บางท่านพอไปใช้ลมไล่สิ่งสกปรก ที่กรองอากาศ พอประกอบใส่กลับไป ปรากฏว่า รอบเดินเบาต่ำเกือบดับ เปิดแอร์ดับ เข้าเกียร์ เครื่องสั่นและดับก็มี และขอทิ้งท้ายอีกเรื่องสำหรับการติดตั้งแก็สระบบ ฟิ๊กมิ๊กเซอร์ อย่าให้ช่างเขาทำการปรับสกรูเร่งรอบเครื่องยนต์ ที่มีสายคันเร่งต่อมาดึงสำหรับเปิดปิดลิ้นปีกผีเสื้อ ที่มีบ่าสำหรับสกรูไขตั้งการเร่งรอบเครื่องยนต์ หลายๆแห่งพบว่า มีการปรับสกรูตัวนี้ให้ลิ้นปีกผีเสื้อเผยอออก เพื่อให้แก็สกับอากาศที่หน้าลิ้นปีกผีเสื้อผ่านเข้าไปที่ห้องไอดี เพื่อช่วยในเรื่องรอบเดินเบา ในขณะใช้แก็ส มันเป็นการปรับที่ผิด เพราะว่าที่สกรูตัวนี้ใช้สำหรับปรับ ต่ำแหน่งรอบเดินเบาของตัว TPS เมื่อลิ้นปีกผีเสื้อปิดของระบบน้ำมัน เพื่อจะให้ ECU สั่งจ่ายน้ำมัน ในตำแหน่งรอบเดินเบา หากไปทำการปรับเพื่อช่วยรอเดินเบาให้กับระบบแก็ส จะทำให้ค่าโวลเต็จ ที่มีการปรับในระบบน้ำมัน มีค่าเปลี่ยนไป อาจจะไปอยู่ในตำแหน่งเร่งของเครื่องยนต์ (ระบบน้ำมัน) ที่นี้ ECU ก็เป็นงงล่ะครับ ดังนั้นเมื่อมีการปรับระบบกลับมาใช้น้ำมัน จะทำให้รอบเดินเบาของเครื่องสวิง ต่ำบ้างบ้างสูงบ้าง ไม่คงที่ ซ้ำร้ายเวลาสตาร์ทเครื่องยนต์ทุกครั้ง รอบเครื่องยนต์บางครั้งสูงถึงสองพันรอบก็มี พันห้าร้อยรอบก็มี และ สักครู่ก็กลับมาอยู่ที่ประมาณหกเจ็ดร้อยรอบ ตามแต่ช่างที่ไปปรับให้ลิ้นปีกผีเสื้อเผยอมากหรือน้อยของระบบแก็ส การปรับแบบนี้ ทำให้ระบบ ECU รับคำสั่งที่ไม่ตรงกับสภาวะเป็นจริง มันอาจจะรับข้อมูลที่ตัว TPS ว่าอยู่ในตำแหน่งเร่ง มันก็จะสั่งจ่ายน้ำมันมาก การสั่งจ่ายน้ำมันมาก ทำให้อัตราส่วนผสม อากาศ(ออกซิเจน) น้อยกว่าน้ำมัน หรือน้ำมันมากกว่า เรียกว่ามีส่วนผสมหนา จะทำให้เครื่องยนต์มีการจุดระเบิดไม่สมบูรณ์ เครื่องกำลังตกและ สั่น ก็เป็นที่มาของการปรับสกรูเร่งรอบเครื่องยนต์ ในรอบเดินเบาของการใช้แก็ส (แกนปิดเปิด TPS เป็นแกนเดียวกับลิ้นปีกผีเสื้อ ) หัวข้อ: Re: ปัญหาแอร์ไม่เย็น รถติดแก๊ส เริ่มหัวข้อโดย: ss ที่ 19 พฤษภาคม 2009, 08:36:24 เวลาขับรถไปนานสัก 1 ชั่วโมงกว่า ด้วยความเร็ว 120-140 แอร์จะเริ่มไม่เย็นออกแต่ลม แต่ถ้าลดความเร็วลงเหลือสัก 80 - 100 แอร์ก็กลับมาเย็นเหมือนเดิม งงมากๆรบกวนพี่ๆช่วยแนะแนวด้วยครับ ::) :-[
หัวข้อ: Re: เปิดแอร์ ขับแก๊ส รถจอดติดเครื่องดับ เริ่มหัวข้อโดย: numar151 ที่ 19 พฤษภาคม 2009, 15:46:41 เป็นเฉพาะตอนใช้แก๊สครับ พอรถจอดติดไฟแดง +เปิดแอร์ แล้วรอบเครื่องจะตก จนบางทีเครื่องดับเลยครับ แต่ถ้าไม่เปิดแอร์ไม่เป็นไรครับ และถ้าขับน้ำมันไม่มีอาการนี้เลยครับ รบกวนผู้มีความรู้ช่วยแนะนำอยู่ครับ จะได้มีแนวทางไปซ่อมครับ :( รถผมก็เป็นเหมือนกันเลยครับ อาการเดียวกันเป้ะ ยังหาสาเหตุไม่เจอ ใครรู้บอกหน่อยเต๊อะ รถผมใช้แก็สเป็นแบบหัวฉีดนะครับ หัวข้อ: Re: เปิดแอร์ ขับแก๊ส รถจอดติดเครื่องดับ เริ่มหัวข้อโดย: Aod61 : มิสซิสซิปปี้ ที่ 19 พฤษภาคม 2009, 15:57:59 รถใช้แก๊ส เปิดแอร์ แล้วรอบตก เกือบจะดับ
ถ้าไม่เปิดแอร์ ปกติ ใช้น้ำมัน ก็ปกติ ธรรมดา เปิดแอร์มันก็ฉุดเครื่องอยู่แล้วครับ คงอาจจะจูนบางไป ยังไงกลับไปให้ช่างเค้าจูนให้อีกทีดีกว่าครับ หัวข้อ: Re: เปิดแอร์ ขับแก๊ส รถจอดติดเครื่องดับ เริ่มหัวข้อโดย: TaTumTaTee ที่ 20 พฤษภาคม 2009, 00:53:01 ้ล้างลิ้นปีก กับ eacv วาล์ว แล้วก็ตั้งวาล์วยังคับ ถ้ายังทำซะก่อนเลยคับ สงสัยปรึกษาได้คับ
หัวข้อ: Re: เปิดแอร์ ขับแก๊ส รถจอดติดเครื่องดับ เริ่มหัวข้อโดย: Lhorn ที่ 20 พฤษภาคม 2009, 21:46:00 ตั้งไฟอ่อนไปหรือป่าวครับ
หัวข้อ: Re: เปิดแอร์ ขับแก๊ส รถจอดติดเครื่องดับ เริ่มหัวข้อโดย: numar151 ที่ 21 พฤษภาคม 2009, 10:16:14 ตั้งไฟอ่อนไปหรือป่าวครับ ตั้งไฟอ่อนนี่หมายถึงไฟอะไรหรือครับ แล้วอีกอย่าง เคยจูนแล้วก็ดีขึ้งระยะนึง แล้วก็เป็นอีก มันต้องจูนกันบ่อยๆรึครับ หัวข้อ: Re: เปิดแอร์ ขับแก๊ส รถจอดติดเครื่องดับ เริ่มหัวข้อโดย: numar151 ที่ 21 พฤษภาคม 2009, 10:18:56 เป็นเฉพาะตอนใช้แก๊สครับ พอรถจอดติดไฟแดง +เปิดแอร์ แล้วรอบเครื่องจะตก จนบางทีเครื่องดับเลยครับ แต่ถ้าไม่เปิดแอร์ไม่เป็นไรครับ และถ้าขับน้ำมันไม่มีอาการนี้เลยครับ รบกวนผู้มีความรู้ช่วยแนะนำอยู่ครับ จะได้มีแนวทางไปซ่อมครับ :( ว่าไงครับคุณ RUT ตอนนี้อาการเป็นยังไงบ้างรายงานความคืบหน้าหน่อยครับ หัวข้อ: Re: เปิดแอร์ ขับแก๊ส รถจอดติดเครื่องดับ เริ่มหัวข้อโดย: Lhorn ที่ 21 พฤษภาคม 2009, 10:25:09 ตั้งไฟอ่อนนี่หมายถึงไฟอะไรหรือครับ แล้วอีกอย่าง เคยจูนแล้วก็ดีขึ้งระยะนึง แล้วก็เป็นอีก มันต้องจูนกันบ่อยๆรึครับ อ่อ.. การจูนนั้นละครับ... จริงๆมันก็ไม่ได้บ่อยอะไรขนาดนั้นนะครับ เอ...แปลกๆ สายพานก็ไม่น่าจะหย่อนจนเครื่องหมดกำลังตอนจอด... แบบนี้เข้าศูนย์ละดีสุดละครับ T_T หัวข้อ: Re: เปิดแอร์ ขับแก๊ส รถจอดติดเครื่องดับ เริ่มหัวข้อโดย: OFFSIDE ที่ 21 พฤษภาคม 2009, 10:29:46 เครื่องตัวเก่าผมอาการใกล้เคียงนะ ปิดแอร์หาย แล้วทนขับไปสักพัก ปิดแอร์ก้อไม่หาย สรุปไปจบที่ตั้งวาล์วอะครับ
หัวข้อ: Re: เปิดแอร์ ขับแก๊ส รถจอดติดเครื่องดับ เริ่มหัวข้อโดย: RUT ที่ 21 พฤษภาคม 2009, 16:05:17 ตอนนี้ขับน้ำมันอยู่ครับ รอซ่อมวันหยุดนะครับ แนะนำร้านหน่อยครับ เมื่อก่อนซ่อมที่ชลบุรีเพราะไปบ่อย แต่เดวนี้ไม่ได้ไปและพอดี broken heart ฮือออ เลยไม่ได้ไปแล้วรบกวนช่วยแนะนำร้านที่อยู่แถวลาดพร้าว โชคชัย4 เกษตรนวมินหน่อยครับ :(
หัวข้อ: Re: เปิดแอร์ ขับแก๊ส รถจอดติดเครื่องดับ เริ่มหัวข้อโดย: numar151 ที่ 22 พฤษภาคม 2009, 11:45:27 เครื่องตัวเก่าผมอาการใกล้เคียงนะ ปิดแอร์หาย แล้วทนขับไปสักพัก ปิดแอร์ก้อไม่หาย สรุปไปจบที่ตั้งวาล์วอะครับ คุณ OFFSIDE เคยใช้ lpg แบบหัวฉีดเหมือนกันหรือครับถ้าอย่างั้น เดี๋ยวจะไปลองตั้งวาล์วดู แต่ว่าว่าล์วที่ว่านี่มันวาล์วอะไรหว่า หัวข้อ: Re: เปิดแอร์ ขับแก๊ส รถจอดติดเครื่องดับ เริ่มหัวข้อโดย: system-dj ที่ 22 พฤษภาคม 2009, 11:52:52 คุณ OFFSIDE เคยใช้ lpg แบบหัวฉีดเหมือนกันหรือครับ ถ้าอย่างั้น เดี๋ยวจะไปลองตั้งวาล์วดู แต่ว่าว่าล์วที่ว่านี่มันวาล์วอะไรหว่า Offside ตอบด่วนเพื่อน :-* หัวข้อ: Re: เปิดแอร์ ขับแก๊ส รถจอดติดเครื่องดับ เริ่มหัวข้อโดย: Lhorn ที่ 22 พฤษภาคม 2009, 12:16:03 ของผม... ติด LPG หัวฉีดครับ...
ก็ อาจจะอาการใกล้เคียงละครับ เขาตั้งไฟแบบของ เบนซิน พอมาใช้กับ Gas เลยอ่อนไป ตั้งแต่ตั้งไฟแก่กว่าเดิม ถึงจะหายครับ อาการที่เจอ.. ผ่อนเครื่องก่อนจะจอดติดไฟแดง เครื่องดับ...จอติดไฟแดง ต้องเร่งเครื่องตลอด เปิดแอร์นี่จบเลย... ขับๆไป จะเปลี่ยนเกียร์ เหยียบครัช แตะเบรก เครื่องดับ.... สุดท้ายไปตั้งไฟใหม่ที่อู่ ปรับไฟให้แก่ขึ้น อาการดังกล่าวหายไปหมดเลยครับ หัวข้อ: Re: เปิดแอร์ ขับแก๊ส รถจอดติดเครื่องดับ เริ่มหัวข้อโดย: RUT ที่ 22 พฤษภาคม 2009, 15:48:09 สรุปแล้วผมจะไปซ่อมที่ไหนดีๆครับเพื่อนๆ เกษตร-นวมิน/โชคชัย4/ลาดพร้าว เอาร้านแก๊สที่ไว้ใจได้หน่อย เพราะตอนติดตั้งไปติดที่อู่ลาดปลาเค้า อู่เจียงแก๊ส ห่วยมาก แก้ไปจบ จนผมต้องไปหาอื่น >:(ร้านติดตั้งใหม่ครับ
หัวข้อ: Re: เปิดแอร์ ขับแก๊ส รถจอดติดเครื่องดับ เริ่มหัวข้อโดย: RUT ที่ 27 พฤษภาคม 2009, 08:22:34 เอาไปจูนแก๊สมาแล้วครับ แถวโชคชัย4 ร้านสมานแก๊ส ใช้ได้ดีครับ แต่ยังมีปัญหาเครื่องยังสั่นอยู่เวลาเปิดแอร์ตอนรถติด เดวจะเอาไปจูนอีกรอบครับ เพราะเมื่อวานไปตอนร้านใกล้ปิดแล้ว ตอนอยู่ที่ร้านเยี่ยมเลย แต่พอขับไปสักพักก็มีปัญหาอย่างที่ว่านะครับ 8)
หัวข้อ: Re: เปิดแอร์ ขับแก๊ส รถจอดติดเครื่องดับ เริ่มหัวข้อโดย: OFFSIDE ที่ 27 พฤษภาคม 2009, 09:30:49 คุณ OFFSIDE เคยใช้ lpg แบบหัวฉีดเหมือนกันหรือครับ ถ้าอย่างั้น เดี๋ยวจะไปลองตั้งวาล์วดู แต่ว่าว่าล์วที่ว่านี่มันวาล์วอะไรหว่า ขอโทษทีตอบช้า วาล์ว ไอดีไอเสียอะครับ ค่าตั้ง400 อาการเดียวกันเลย ตั้งแล้วหายครับ :) หัวข้อ: Re: เปิดแอร์ ขับแก๊ส รถจอดติดเครื่องดับ เริ่มหัวข้อโดย: abox44 ที่ 28 พฤษภาคม 2009, 09:57:27 ขอมผมเคยเป็น คือต้องเช็คหลายอย่าง เริ่มที่คอล์ยหัวเทียน ถ้าแตกมากจะทำให้เครื่องสั่นเวลาใช้แก้ส ถ้าจอดแล้วดับลองเช็คตัวเซ็นเซอร์สายพานไทม์มิ่งว่าเสื่อมหรือเปล่า กรองแก๊ส จูนแก๊ส ของผมเป็นตัวไดเมนชั่น ลองเช็คดูครับรับรองหาย
|