:::CIVIC CLUB THAILAND:::

ผมเพิงออกรถ New Civic 2007 1.8 S AT สีดำ  มาเมื่อวันที่23/11/2549
อยากจะรบกวนผู้รู้และผู้มีประสบการณ์ใน Club ช่วยเเนะนำและตอบคำถามที

1.เมื่อไหร่ที่ผมจะต้องตรวจสอบเครื่องยนต์ และพวกของเหลวต่างๆที่ใช้เติมให้กับรถ เช่น
น้ำมันเครื่อง น้ำกลั่น น้ำล้างกระจกหน้า เเละมีน้ำอะไรอีกไหมที่เกี่ยวกับรถผม
และถ้าต้องใช้น้ำเหล่านั้น หรือถึงเวลาต้องเติม ผมควรซื้อยี่ห้ออะไร ที่ไหน และในรถหรือที่บ้านควรมีอะไรติดไว้บ้าง เพื่อบำรุงรักษาเครื่องยนต์ ช่วยตอบทีนะครับ

2.ช่วยบอกวิธีการตรวจสอบและเตรียมความพร้อมให้กับรถก่อนขับขี่ ต้องดูอะไรบ้าง และมีขั้นตอนใดบ้าง

ผมเพิ่งออกรถมา 10 วัน ก็มีพวกโรคจิตเอาบางอย่างมาขูดตรงประตูด้านข้างคนขับของรถผม เป็นรอยประมาณ 1 ฟุต ลึกพอสมควร ควรทำอย่างไรดี สงสารรถมาก ป้ายเเดงยังไม่ได้ถอดเลย เอากันซะเเล้ว
จะทิ้งไว้เเบบนี้ก่อน หรือว่าจะเอาไปทำสีใหม่ หรือเอาไปเครมกับประกัน ผมควรทำอย่างไรดี

วานท่านผู้รู้ช่วยบอกหรือเเนะนำบทความที่สอนวิธีการล้างรถ เเละการเลือกอุปกรณ์ทุกชนิดที่ใช้ในการล้างรถ ตั้งเเต่ผ้าล้างรถเเบบไหนยี่ห้ออะไร เเชมพูเเบบไหนยี่ห้ออะไร เเละการล้างให้ไม่มีรอยขนเเมว สะอาดเงางาม ไม่ก่อให้เกิดสนิม ทำอย่างไร เช็ดรถเช็ดอย่างไร ใช้อะไรเช็ด

1.การบำรุงรักษา
เครื่องยนต์
 
- น้ำมันเครื่อง สังเคราะห์ 100 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ของยี่ห้อ Castrol 0w-40 edge, Mobile 1 0w-40 แกลลอนทอง, PTT super systhetic 0w-40 ,
- เปลี่ยนกรองเครื่องทุกครั้งที่เปลี่ยนนำมันเครื่อง
- กรองอากาศควรใช้ของ K&N
- น้ำมันเกียร์ทุก 2 หมื่น โล

ช่วงล่าง
- หากต้องการเปลี่ยนล้อแม๊ฏหรือโหลดเตี้ย ควรศึกษาข้อมูลเรื่องขนาดล้อ อ๊อฟเซ็ต และ ยางให้ชัวร์ก่อนลงมือ
- หากช่วงล่างเดิมก็ สลับยางถ่วงล้อทุก หมื่นโลก็ใช้ดีแล้วครับ

สี
- ล้างรถด้วยผลิตของพรี่เมียมเกรดเช่น turtle wax , แมกไกว์ และอีกหลายๆยี่ห้อ
- ลงแว๊กด้วยตวเองเดือนละ สองครั้ง
- ขัดเคลือบสีตามระยะที่ กำหนด

สำคัญที่สุด ใช้รถอย่างถนุถนอมจะใช้งานได้ดีที่สุด ส่วนการเกิดริ้วรอยจากการกระทำของเพื่อนร่วมโลกนั้น คงยากที่จะแก้ไข นอกจาก ทำใจ
 

ตรวจเช็คทุกวันก่อนติดเครื่องรถตอนเช้าหลังจากจอดทิ้งไว้ทั้งคืนขณะที่เครื่องยนต์ยังเย็นอยู่และรถจอดบนพื้นราบ
- น้ำมันเครื่อง หากพร่องลงไปเลยขีดล่างของก้านวัดก็เติมอย่าให้เลยขีดบน (ปกติระดับน้ำมันเครื่องที่ใช้งานจะอยู่ระหว่างขีดและขีดล่างของก้านวัด) ห้ามเติมเกินขีดบนหรือปล่อยให้พร่องลงไปต่ำกว่าขีดล่างของก้านวัด คือทั้งน้อยและมากเกินไปล้วนมีผลเสียต่อเครื่องยนต์ทั้งสิ้น เครื่องยนต์ที่สภาพปกติการถ่ายน้ำมันเครื่องและเติมถึงขีดบนและใช้งานไประดับน้ำมันเครื่องมันจะไม่ลดลงถึงขีดล่างจนกว่าจะเปลี่ยนถ่ายครั้งต่อไป นอกจากมีการรั่วหรือซึม
- น้ำหม้อน้ำ เปิดฝาตรวจเช็คหากพร่องเติมให้เต็ม
- หม้อพักน้ำ เปิดฝาตรวจเช็คหากพร่องเติมให้เต็มถึงขีดบนหรือ Max และอย่าเติมเกินขีด Max เพราะเวลาเครื่องร้อนมันจะดันล้นออกทิ้ง และที่สำคัญควรใช้น้ำยาแบบที่เติมติดมากับรถเติมหาซื้อจากศูนย์มาเก็บไว้เลย อย่าใช้น้ำประปาเป็นอันขาด เพราะมันจะเกิดตะกอน (อันนี้ไม่เชื่อลองดูได้คร้าบท่าน ! ใช้ไป 2-3 ปีตะกอนเพียบ !) หากมีความจำเป็นหรือขี้เหนียว เอ้ย ประหยัดก็ให้ใช้น้ำที่ไม่เกิดตะกอน เช่น น้ำฝน

ตรวจเช็คสัปดาห์ละ 1 ครั้ง เหมือนเดิมคือก่อนติดเครื่องรถตอนเช้าหลังจากจอดทิ้งไว้ทั้งคืนขณะที่เครื่องยนต์ยังเย็นอยู่และรถจอดบนพื้นราบ
- น้ำกลั่นแบตตเตอรี่ ถ้าแบตเตอรี่เป็นแบบที่เติมน้ำกลั่นเติมให้ถึงขีดบนหรือ Max อย่าเติมเกินขีดบนและอย่าปล่อยให้พร่องต่ำกว่าขีดล่าง
- น้ำมันเบรค น้ำมันครัทช์ น้ำมันเพาเวอร์พวงมาลัย ถ้าพร่องลงต่ำกว่าขีดล่างเติมให้ถึงขีดบนหรือ Max อย่าเติมเกินขีดบนและอย่าปล่อยให้พร่องต่ำกว่าขีดล่าง เหมือนน้ำมันเครื่อง ระดับมันจะไม่ลดลงถึงขีดล่างจนกว่าจะเปลี่ยนถ่ายครั้งต่อไป นอกจากมีการรั่วหรือซึม
- น้ำมันเกียร์ ถ้ามีที่วัด เหมือนน้ำมันเครื่องระดับมันจะไม่ลดลงถึงขีดล่างจนกว่าจะเปลี่ยนถ่ายครั้งต่อไป นอกจากมีการรั่วหรือซึม แต่ส่วนใหญ่จะไม่มีที่วัดหรือถ้ามีก็ยุ่งยากในการตรวจวัดแต่ก็ไม่ต้องวิตก ให้ดูที่พื้นใต้ท้องรถว่ามีรอยหยดของน้ำมันต่าง ๆ หรือไม่ ถ้ามีให้สังเกตรั่วหรือซึมที่จุดใดและรีบแก้ไข
- ลมยาง ตรวจเช็คในที่ ๆ มีปั๊มลมให้เติมได้ หากวิ่งมาไกลจนยางร้อนกว่าจะถึงจุดเติมลมก็เติมเพิ่มจากปกติสัก 2 ปอนด์/ตารางนิ้ว และหากจะเดินทางไกลก็ควรเติมเพิ่มจากปกติสัก 2 ปอนด์/ตารางนิ้ว

ส่วนระยะการเปลี่ยนถ่ายก็ดูในคู่มือรถ ควรศึกษาคู่มือรถโดยละเอียดและอ่านให้เข้าใจ สงสัยอะไรก็สอบถามศูนย์บริการ คู่มือรถนี่ถ้าไม่จำเป็นเค้าคงไม่ทำมาให้หรอกคร้าบท่าน ! บางคนใช้รถจนเก่าไม่เคยเปิดอ่านเลยก็มี !

สิ่งของที่ควรมีติดท้ายรถ
- สายพ่วงแบตเตอรี่ รถท่านเกียร์ออโต้ไอ้นี่ถือว่าสำคัญ เพราะว่าเข็นกระตุกติดไม่ได้ จะเข็นกระตุกติดเครื่องรถเกียร์ออโต้ต้องทำความเร็วให้ได้ประมาณ 60 กม./ชม. ซึ่งเป็นไปไม่ได้ เพราะฉะนั้นหาติดท้ายรถไว้คร้าบท่าน !
- สายลากจูง โอกาสได้ใช้อาจจะน้อยแต่มีไว้ก็หน่อยก็ดี เผื่อคราวซวยจะต้องลากรถแล้วไม่มีใช้
- ถังดับเพลิงขนาดพอดี ๆ เหมือนสายลากรถโอกาสได้ใช้อาจจะน้อยแต่มีไว้ก็หน่อยก็ดี เผื่อคราวซวยจำเป็นต้องดับไฟแล้วแถว ๆ นั้นไม่มีน้ำหรือทรายและอื่น ๆ ให้คว้า !

ส่วนรอยเจิมที่ท่านไม่ต้องการนั่นก็เคลมประกันเลยคร้าบท่าน ! ประกันทำไว้เพื่อเคลมอยู่แล้วไม่ต้องไปสนใจหรอกปีต่อไปเบี้ยจะขึ้น ค่าเอ็กเซฟไม่ต้องไปจ่ายบอกประกันไปเลยไม่สนใจ ต่อประกันเบี้ยมันขึ้นมากก็หาประกันเจ้าใหม่มีเพียบ เปลี่ยนมัน 10 ปียังไม่ซ้ำเจ้าเดิมเลยคร้าบพี่น้อง !

IF I USE 5W-40 ,IS IT OKAY?,WHICH BRAND?
THKS/MIKE

it's ok BUT if you have a 0W-40 ,I think it's  better for hight revolution engine ( Honda VTEC)


Nowaday if you stay in Thailand ,please go to tesco lotus and looking for PTT synthetic 5w-40 for 998 baht only

I hope you understand my English (หรือว่าคุณอ่านภาษาไทยได้  อืม...คุณต้องอ่านได้ซิ  อ้าว.......ฉลาดอีกแล้วตรู :'()

(http://img239.imageshack.us/img239/7897/t367579712fh5.gif)

                                       เช็ค 0 ตามระยะคับ  ;)

ขอเพิ่มเติม นิดหน่อยครับ นอกเหนือจากวิธีต่างๆ ที่เพื่อนๆได้นำเสนอแล้ว ขอเพิ่มวิธีการที่ใช้ส่วนตัวนะครับ
- ก่อน Start เครื่องยนต์ตอนเช้า รอให้ไฟEngine check ดับก่อน(รอประมาณ 30 วินาที)
- เมื่อ Start เครื่องยนต์แล้ว ผมจะ warm เครื่องประมาณ 2-3 นาที หรือรอให้รอบเครื่องยนต์ลดลงมาที่ 1000 RPM เพื่อให้ pump น้ำมันเครื่อง ฉีดให้น้ำมันเครื่องให้ทั่วซะก่อน
- ตอนขับรถกลับบ้านซักประมาณ 1-2 ก.ม. ถ้าอากาศ ไม่ร้อนแนะนำให้ปิด Compressor ของแอร์ (ลดโหลดของเครื่องยนต์) ปิดวิทยุ เพื่อฟังเสียงของเครื่องยนต์และระบบต่างๆ เมื่อถึงที่หมายไม่ควรดับเครื่องยนต์ทันที ควรจะปล่อยให้เครื่องติดไว้อีก 2-3 นาที แต่ถ้าวิ่งทางไกลควรจะเป็น 5-10 นาที เพื่อให้ลดความร้อนของเครื่องยนต์โดยระบบระบายความร้อน

ดูแลตามระยะ เข้าล้างอัดฉีดล้างห้องเครื่องเมื่อมันสกปรก เครื่องจะได้สะอาดระบายความร้อนได้ดี และก็สังเกตุเสียงเครื่องยนต์เมื่อมีแปลกเราจะรู้ได้เองว่ามมันมีความผิดปรกติเกิดขึ้น