:::CIVIC CLUB THAILAND:::

คุยคุ้ย Civic => Civic Club Cafe => ห้องนั่งเล่น => ข้อความที่เริ่มโดย: pt_kong ที่ 06 กุมภาพันธ์ 2009, 23:32:21



หัวข้อ: อ่านแล้วรู้สึกยังไงกันบ้างคับ
เริ่มหัวข้อโดย: pt_kong ที่ 06 กุมภาพันธ์ 2009, 23:32:21
พ่อทำงาน...อาบแดด...ถูกแผดเผา
ลูกดื่มเหล้า..ฟังเพลง...ครื้นเครงเหลือ

แม่ขายผัก...กินข้าว...เคล้ากับเกลือ
ลูกเอื้อเฟื้อ...พาสาวเที่ยว...เลี้ยวโฮเตล

พ่อหาเงิน...ส่งลูกเรียน...เพียรอุตส่าห์
ลูกติดยา...คบเพื่อนชั่ว...มั่วให้เห็น

แม่กระหาย...ดื่มน้ำคลอง...ตอนกลองเพล
ลูกทะเล้น...จิบวายแดง...แพงจับใจ

พ่ออดอยาก...ไม่เคยบ่น...ทนลำบาก
ลูกมักมาก...เพศสัมพันธ์...มันส์ชิบหาย

แม่ทอผ้า...ปลูกหม่อน...หารายได้
ลูกหญิงชาย...เที่ยวสนุก....โรคติดตัว

พ่อสูบน้ำ...เข้าแปลงนา...ปลูกข้าวกล้า
ลูกมัวเมา...การพนัน...หมั่นหาผัว

แม่หาบน้ำ...เลี้ยงเป็ดไก่...ทำสวนครัว
ลูกใจชั่ว...ใช้เงินเพลิน...เดินหลงทาง

พ่อขายวัว...ส่งควายเรียน...เวียนศรีษะ
ลูกตะกละ...กินฟาสฟู๊ต...พูดกว้างขวาง

แม่ปวดเมื่อย...สู้งานหนัก...ไม่ละวาง
ลูกสำอาง...ใช้ของแพง...แข่งสังคม

พ่อผอมแห้ง...เรื่ยวแรงน้อย...ด้อยอาหาร
ลูกประพฤติ...อันตพาล...ล่าเสพสม
แม่เป็นดอก...ทบต้น...หมดอารมณ์
ลูกเขี้ยวคม...ฆ่าพ่อแม่...ก่อนแก่ตาย :(


หัวข้อ: Re: อ่านแล้วรู้สึกยังไงกันบ้างคับ
เริ่มหัวข้อโดย: s_kungten ที่ 06 กุมภาพันธ์ 2009, 23:37:02
:-X  เป็นเรื่องจริงสำหรับวัยรุ่นบางคนสมัยนี้...คนเหล่านั้นจะรู้สึกตัวอีกทีก็ตอนไม่มีพ่อแม่อยู่ดูแลอีกต่อไป



หัวข้อ: Re: อ่านแล้วรู้สึกยังไงกันบ้างคับ
เริ่มหัวข้อโดย: pt_kong ที่ 07 กุมภาพันธ์ 2009, 00:06:50
ผมก็ว่าอย่างนั้นแหละคับพี่กุ้ง หุหุ

แต่ภาพที่พี่ร้องเพลงเนี่ย สวยจิงๆ หุหุ :-[


หัวข้อ: Re: อ่านแล้วรู้สึกยังไงกันบ้างคับ
เริ่มหัวข้อโดย: Ray ที่ 07 กุมภาพันธ์ 2009, 01:52:53
เหอะๆๆ ตอนเล็กๆๆไม่เรียนหนังสือ โตขึ้นมาต้องขัดร้องเท้า


หัวข้อ: Re: อ่านแล้วรู้สึกยังไงกันบ้างคับ
เริ่มหัวข้อโดย: neat_boy? ที่ 07 กุมภาพันธ์ 2009, 08:18:02
พ่อแม่รังแกฉัน
 :-X
 
ตามเรื่องนั้นว่ามีเศรษฐีหนึ่ง 
เป็นคนซึ่งสูงชาติวาสนา 
มีทรัพย์สินเหลือล้นคณนา 
มีบ้างช่องแน่นหนาด้วยข้าไท   
 
ท่านเศรษฐีมีบุตรสุดที่รัก 
แกฟูมฟักใฝ่จิตพิสมัย 
บุตรคนเดียวแสนจะห่วงดังดวงใจ 
หวังจะให้สืบวงศ์ดำรงไป   

 มีโรงเรียนไกลบ้านอาจารย์สอน 
กลัวลูกอ่อนลำบากไม่พรากได้ 
อุตส่าห์จ้างครูบามาแต่ไกล 
ให้สอนในบ้านตนสู้ปรนปรือ

 ฝ่ายลูกเรียนผู้เดียวให้เปลี่ยวจิต 
มักเบือนบิดเบื่อชังเรื่องหนังสือ 
อยากได้เพื่อนพูดจาและหารือ 
พ่อก็อือออตามด้วยความรัก   

 เกณฑ์พวกเด็กในบ้านให้อ่านด้วย 
ก็เพื่อช่วยชวนใจให้สมัคร 
ครั้นมีเพื่อนเรียนล้อมอยู่พร้อมพรัก 
กลับชวนชักเล่นกันไม่หมั่นเรียน   

ครูก็ดีจี้ไชมิได้หยุด 
แกเห็นสุดเอาใจจึงได้เฆี่ยน 
หวังให้กลัวอาญาตั้งหน้าเพียร 
แต่กลับเพี้ยนผิดคาดถึงขาดกัน   

คือบุตรท่านเศรษฐีหนีไปหา 
พ่อฟ้องว่า ครูนี้แกตีฉัน 
ปลอบให้เรียนก็ไม่ไปจนใจครัน 
ต้องเป็นอันเลิกกับครูที่อยู่มา
 

อุตส่าห์จ้างครูใหม่ตามใจลูก 
แต่ไม่ถูกใจบุตรสุดจะหา 
ครูคนนั้นฉันเข็ดไม่เมตตา 
คนนี้ว่าจู้จี้พิรี้พิไร   


แต่เปลี่ยนครูอยู่ฉะนี้ไม่มีเหมาะ 
มักทะเลาะเลิกเรียนต้องเปลี่ยนใหม่ 
พวกครูๆ เข็ดกลัวกันทั่วไป 
ถึงจะให้เงินมากไม่อยากเอา

 บิดาผู้รักบุตรสุดจะกลุ้ม 
ลูกเป็นหนุ่มใหญ่โตยังโง่เง่า 
เที่ยวจ้างครูอยู่ห่างต่างลำเนา 
ค่าจ้างเท่าไรนั้นไม่พรั่นกลัว   


แต่ก็ไม่ยืดไปเท่าไรนัก 
ประเดี๋ยวชักเหหันต้องสั่นหัว 
เผอิญมาปะครูที่รู้ตัว 
แกหวังชั่วค่าสอนสู้ผ่อนตาม

ศิษย์จะรู้เท่าไรไม่ธุระ 
ชื่อเสียงจะเสียไปก็ไม่ขาม 
ศิษย์ผู้ใดตั้งหน้าพยายาม 
สอนให้ตามแต่รักสมัครเรียน   

ครูคนนี้ถูกใจอยู่ได้ยืด 
ถึงจะจืดจางการเรื่องอ่านเขียน 
ก็ถูกจิตศิษย์ตนย่อมวนเวียน 
อยู่จำเนียรโตใหญ่ไร้วิชา

 
ฝ่ายพ่อแม่รักบุตรสุดจะรัก 
บุตรสมัครทางไหนมิได้ว่า 
ใช้เงินทองกอบกำไม่นำพา 
อยู่ไม่ช้าแกก็ตายทำลายชนม์   

ทรัพย์สมบัติมรดกตกแก่ลูก 
ไม่ต้องปลูกเปลืองแรงแสวงผล 
มีเพื่อนมาฮาฮือนับถือตน 
เฝ้าแต่ขนทรัพย์จ่ายสบายจริง   

 เอาอะไรได้ทุกอย่างช่างสะดวก 
จะหยิบหมวกหมวกรี่เหมือนผีสิง 
ทุกอย่างรู้เอาใจไม่ประวิง 
ดูเหมือนชิงกันมาคราต้องการ   

ไม่ช้านักทรัพย์ลดหมดสะดวก 
จะหยิบหมวกหมวกกระเดียดข้างเกียจคร้าน 
ถ้าเผลอหน่อยคอยหนีตะลีตะลาน 
วิ่งเข้าร้านโรงจำนำไม่อำลา 

 เพื่อนทั้งมวลล้วนหายเหมือนตายจาก 
ที่มีมากคือสหายพวกนายหน้า 
บ้านของท่านขายเท่าไร? ให้ราคา 
ผมช่วยค้าขายให้ด้วยไมตรี   
 
เพื่อนสนุกพลุกพล่านขายบ้านช่อง 
พอเงินทองหมดเรียบก็เงียบจี๋ 
ต่อนี้ไปใครเยือนคือเพื่อนดี 
ไม่เช่นนี้เพื่อนโหล่โง่ระยำ   

บุตรเศรษฐีเป็นมาถึงครานี้ 
ไม่เห็นมีมิตรสหายมากรายกล้ำ 
ผิวผู้ดีมีกระดากพะอากพะอำ 
จะคิดทำการอะไรก็ไม่เป็น   


ต้องตรำตรากจากย่านถิ่นบ้านเก่า 
ขอทานเขาเลี้ยงตนด้วยข้นเข็ญ 
พักสถานศาลเจ้าทุกเช้าเย็น 
ค่อยคิดเห็นโทษตัวที่ชั่วมา   

คิดถึงเรื่องเก่าแก่พ่อแม่รัก 
สู้ฟูมฟักใฝ่ฝึกให้ศึกษา 
ตามใจลูกเหลือล้นคณนา 
ทุกสิ่งสารพัดไม่ขัดใจ   

คิดถึงครูผู้สอนแต่ก่อนเก่า 
บางคนเฝ้าฝึกฝนพ้นวิสัย 
บางคนเฝ้าจู้จี้พิรี้พิไร 
ไม่ถูกใจฟ้องพ่อก็อออือ   

จนเหลวไหลได้เข็ญถึงเช่นนี้ 
พ่อแม่ที่รักลูกทำถูกหรือ 
สิ่งใดพาเสียคนกลับปรนปรือ 
ร้องไห้ฮือบ่นว่าเหมือนบ้าบอ

วันหนึ่งไปถึงถิ่นบ้านซินแส 
ก็เดินแร่เข้าไปหาตรงหน้าหมอ 
ร้องขอทานทันทีไม่รีรอ 
ฝ่ายท่านหมอมองหน้าไม่ว่าไร   

ลงท้ายแกกลอกหน้าหาว่าหลอก 
เฮ้ย. เจ้าวอกเอ็งอย่ามาไถล 
หลอกดูลูกสาวข้าหรือว่าไร 
หรือเข้าใจว่ากูไม่รู้ที   

ข้าหมอดูรู้จักลักษณะ 
อย่างมึงน่ะบอกเพศเป็นเศรษฐี 
รูปลักษณ์พักตร์เจ้าเผ่าผู้ดี 
ทำเช่นนี้ตั้งใจอย่างไรกัน   

ลูกเศรษฐีฟังว่าน้ำตาหลั่ง 
ตอบเสียงดัง "พ่อแม่รังแกฉัน!"  
ร้องไห้โฮซบหน้าพลางจาบัลย์ 
คนบ้านนั้นต่างพากันมาดู   


ท่านเจ้าข้า! พ่อแม่รังแกฉัน
เขาใฝ่ฝันฟูมฟักฉันอักขู 
ฉันทำผิดคิดระยำกลับค้ำชู 
จะว่าผู้รักลูกถูกหรือไร   
 

ท่านทายฉันนั้นถูกลูกเศรษฐี 
ผู้กลีเลวกว่าบรรดาไพร่ 
ซึ่งยังรู้กอบการงานใด ๆ 
เลี้ยงชีพได้เพียงพอไม่ขอทาน   

โอ๊ย! ยิ่งเล่ายิ่งช้ำระกำเหลือ 
โปรดจุนเจือเถอะท่านหมอขอข้าวสาร 
เหมือนช่วยชีพข้าเจ้าให้เนานาน 
จักเป็นการบุญล้นมีผลงาม   

ฝ่ายท่านหมอฟังเล่าสิ้นเค้าเงื่อน 
แกจึงเอื้อนโอษฐ์มีวจีถาม 
ข้าฟังเจ้าเล่าไปก็ได้ความ 
จึงเห็นตามพ่อแม่รังแกตรง   

 เข็ดหรือไม่ใครรังแกอย่างแม่พ่อ 
หรือว่าพอทนดอกบอกประสงค์ 
โอ๊ย! หนเดียวชีวิตแทบปลิดปลง 
ถ้าซ้ำสองต้องลงอวิจี   


อย่ารังแกอีกเลยลูกเคยเข็ด 
ขอจงเมตตาเถิดประเสริฐศรี 
ท่านหมอฟังยิ้มเยื้อนเอื้อนวจี 
เจ้าว่าดีสมจริงทุกสิ่งอัน   

 ข้าไม่อยากรังแกเช่นแม่พ่อ 
ที่เจ้าขอข้าไม่อ่อนตามผ่อนผัน 
แม้เจ้าขอสิ่งใดข้าให้ปัน 
ก็เป็นอันข้าทำซ้ำรังแก   

เจ้าจะตกอวิจีไม่ดีดอก 
เจ้าจะออกปากพ้ออย่างพ่อแม่ 
ลูกเศรษฐีตกตะลึงทะลึ่งแล 
โอ๊ย! ผมแย่ถูกล่อลงบ่อตม   

เมื่อไม่ให้ใครจะว่าเจ้าข้าเอ๋ย 
นี่กลับเย้ยยกคำทิ่มตำผม 
จะไล่ไปก็ไม่ไล่ให้ระทม 
ว่าแล้วซมซานกลับด้วยคับใจ   

หมอขยับจับบ่าช้าซีเจ้า 
คำที่เล่าบอกข้าน่าเลื่อมใส 
พ่อแม่รักลูกผิดชนิดไร 
เขาก็ได้ทุกข์ถมจนล้มตาย   

 เวลานั้นตัวเจ้ายังเยาว์อยู่ 
จึงไม่รู้ยั้งตนจนฉิบหาย 
เดี๋ยวนี้เจ้ารู้สึกสำนึกกาย 
จงขวนขวายฝึกหัดดัดสันดาน   

ข้าจักเป็นพ่อแม่ช่วยแก้ให้ 
ต้องตามใจแต่ข้าจะว่าขาน 
ถ้ายอมตามข้าว่าไม่ช้านาน 
จักไม่ต้องขอทานเขาต่อไป   

ลงท้ายลูกเศรษฐียินดีรับ 
ไปอยู่กับซินแสแก้นิสัย 
ไม่ว่ามีกิจการสถานใด 
แกใช้ให้ทำสิ้นจนชินการ   

แกปรานีจี้ไชด้วยใจรัก 
จนรู้จักค้าขายหลายสถาน 
อยู่กับหมอต่อมาไม่ช้านาน 
ก็พ้นการทุรพลเป็นคนแคลน   

 ชาวเราเอ๋ยพ่อแม่มุ่งแต่รัก 
สู้ฟูมฟักในบุตรนั้นสุดแสน 
แต่ความรักมักเดินจนเกินแกน 
เลยเข้าแดนทุกข์ถมระทมกาย   

 ดังเศรษฐีรักบุตรสุดสวาท 
บุตรอุบาทว์มิได้รักสมัครหมาย 
เอาแต่ใจใฝ่ตามความสบาย 
พ่อแม่ตายก็เพราะตรมระทมใจ   

คัดลอกจากเรื่อง พ่อแม่รังแกฉัน
โดย พระยาอุปกิตศิลปสาร  


+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ภาพประกอบพ่อแม่รังแกฉัน
v
v
v


หัวข้อ: Re: อ่านแล้วรู้สึกยังไงกันบ้างคับ
เริ่มหัวข้อโดย: masaru ที่ 07 กุมภาพันธ์ 2009, 08:34:45
อืมมมม


หัวข้อ: Re: อ่านแล้วรู้สึกยังไงกันบ้างคับ
เริ่มหัวข้อโดย: Aod61 : มิสซิสซิปปี้ ที่ 07 กุมภาพันธ์ 2009, 08:41:09
อ่านแล้วซึ้ง   :( :( :(

แม่จ๋า ..........
















แม่โขง   


หัวข้อ: Re: อ่านแล้วรู้สึกยังไงกันบ้างคับ
เริ่มหัวข้อโดย: daengnui ที่ 07 กุมภาพันธ์ 2009, 16:44:58
พ่อทำงาน...อาบแดด...ถูกแผดเผา
ลูกดื่มเหล้า..ฟังเพลง...ครื้นเครงเหลือ

แม่ขายผัก...กินข้าว...เคล้ากับเกลือ
ลูกเอื้อเฟื้อ...พาสาวเที่ยว...เลี้ยวโฮเตล

พ่อหาเงิน...ส่งลูกเรียน...เพียรอุตส่าห์
ลูกติดยา...คบเพื่อนชั่ว...มั่วให้เห็น

แม่กระหาย...ดื่มน้ำคลอง...ตอนกลองเพล
ลูกทะเล้น...จิบวายแดง...แพงจับใจ

พ่ออดอยาก...ไม่เคยบ่น...ทนลำบาก
ลูกมักมาก...เพศสัมพันธ์...มันส์ชิบหาย

แม่ทอผ้า...ปลูกหม่อน...หารายได้
ลูกหญิงชาย...เที่ยวสนุก....โรคติดตัว

พ่อสูบน้ำ...เข้าแปลงนา...ปลูกข้าวกล้า
ลูกมัวเมา...การพนัน...หมั่นหาผัว

แม่หาบน้ำ...เลี้ยงเป็ดไก่...ทำสวนครัว
ลูกใจชั่ว...ใช้เงินเพลิน...เดินหลงทาง

พ่อขายวัว...ส่งควายเรียน...เวียนศรีษะ
ลูกตะกละ...กินฟาสฟู๊ต...พูดกว้างขวาง

แม่ปวดเมื่อย...สู้งานหนัก...ไม่ละวาง
ลูกสำอาง...ใช้ของแพง...แข่งสังคม

พ่อผอมแห้ง...เรื่ยวแรงน้อย...ด้อยอาหาร
ลูกประพฤติ...อันตพาล...ล่าเสพสม
แม่เป็นดอก...ทบต้น...หมดอารมณ์
ลูกเขี้ยวคม...ฆ่าพ่อแม่...ก่อนแก่ตาย :(

พ่อแม่รับราชการทำงานในห้องแอร์ค่ะ

 :D ;) :) :-* ;D :D ;) :) :-* ;D


หัวข้อ: Re: อ่านแล้วรู้สึกยังไงกันบ้างคับ
เริ่มหัวข้อโดย: jookninja ที่ 07 กุมภาพันธ์ 2009, 16:53:38
vอือๆๆๆ...........แม่   แม้......


หัวข้อ: Re: อ่านแล้วรู้สึกยังไงกันบ้างคับ
เริ่มหัวข้อโดย: pt_kong ที่ 08 กุมภาพันธ์ 2009, 20:52:52
ดีเนอะ

นั่งอยู่ในห้องแอร์ 555+ >:( :( :o 8) ??? :'( :-* :-\ :-X :-[ :P ::) :) ;)


หัวข้อ: Re: อ่านแล้วรู้สึกยังไงกันบ้างคับ
เริ่มหัวข้อโดย: piya923 ที่ 11 กุมภาพันธ์ 2009, 17:58:54
 :-X


หัวข้อ: Re: อ่านแล้วรู้สึกยังไงกันบ้างคับ
เริ่มหัวข้อโดย: fomote ที่ 11 กุมภาพันธ์ 2009, 20:55:16
 :-X ..............