หัวข้อ: สงสัยการล้างห้องเครื่อง เริ่มหัวข้อโดย: kk23 ที่ 19 พฤศจิกายน 2006, 15:59:45 เอารถไปล้างที่คาร์แคร์ จำเป็นต้องล้างห้องเครื่องมั้ยครับ ถ้าล้างจะมีผลเสียอะไรมั้ยครับ ที่ร้านบอกว่าน้ำยาที่ล้างช่วยป้องกันหนูมากัดสายไฟด้วยจริงมั้ยครับ
หัวข้อ: Re: สงสัยการล้างห้องเครื่อง เริ่มหัวข้อโดย: ทอม_อีเค ที่ 19 พฤศจิกายน 2006, 16:44:52 จริงคับ เข้าใจง่ายๆว่า หนูชอบที่สกปรก ถ้าห้องเครื่องสกปรก ก็แน่นอนครับ แต่ถ้าห้องเครื่องสะอาดก็จะไม่มีหนูมารบกวน ของผมยังเจอจิ้งจกเลย ตั้ง2ตัวแหนะ ;D
หัวข้อ: Re: สงสัยการล้างห้องเครื่อง เริ่มหัวข้อโดย: kaffir ที่ 19 พฤศจิกายน 2006, 17:14:45 ถ้าสกปรกมาก ๆ ก็ควรล้างครับ สะอาดเงางามน่าดูกว่าเยอะครับ :)
หัวข้อ: Re: สงสัยการล้างห้องเครื่อง เริ่มหัวข้อโดย: chalard ที่ 19 พฤศจิกายน 2006, 19:57:47 เอารถไปล้างที่คาร์แคร์ จำเป็นต้องล้างห้องเครื่องมั้ยครับ ถ้าล้างจะมีผลเสียอะไรมั้ยครับ ที่ร้านบอกว่าน้ำยาที่ล้างช่วยป้องกันหนูมากัดสายไฟด้วยจริงมั้ยครับ ล้างคาร์แคร์ที่ไหนครับ จะไปล้างมั่ง หนูกัดสายไฟของผม 3 ครั้งแล้วอ่ะหัวข้อ: Re: สงสัยการล้างห้องเครื่อง เริ่มหัวข้อโดย: BillyTheKid ที่ 19 พฤศจิกายน 2006, 21:44:30 ต้องดูก่อนคร้าบท่าน ! ว่าคาร์แคร์ล้างห้องเครื่องได้ถูกวิธีหรือเปล่า ห้องเครื่องนี่ล้างไม่ดี พัง นะคร้าบท่าน ! ... การล้างห้องเครื่องไม่ใช่เรื่องยาก แต่ต้องทำให้ถูกวิธี "ห้ามใช้น้ำแรงดันสูงฉีดล้างเด็ดขาด" ล้างแล้วต้องก็ไล่น้ำไล่ความชื้นให้ดี ตามจุดต่ออุปกรณ์ ขั้วสายไฟต่าง เบ้าหัวเทียน ฯลฯ
ยิ่งรถที่กล่องควบคุมอยู่ในห้องเครื่อง ยิ่งต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ "ล้างห้องเครื่องแล้วกล่องพัง ต้องเปลี่ยนกล่อง" มีให้เห็นมาเยอะแล้วคร้าบพี่น้อง ! หัวข้อ: Re: สงสัยการล้างห้องเครื่อง เริ่มหัวข้อโดย: Car-Lack 68 ที่ 20 พฤศจิกายน 2006, 13:42:32 ต้องดูก่อนคร้าบท่าน ! ว่าคาร์แคร์ล้างห้องเครื่องได้ถูกวิธีหรือเปล่า ห้องเครื่องนี่ล้างไม่ดี พัง นะคร้าบท่าน ! ... การล้างห้องเครื่องไม่ใช่เรื่องยาก แต่ต้องทำให้ถูกวิธี "ห้ามใช้น้ำแรงดันสูงฉีดล้างเด็ดขาด" ล้างแล้วต้องก็ไล่น้ำไล่ความชื้นให้ดี ตามจุดต่ออุปกรณ์ ขั้วสายไฟต่าง เบ้าหัวเทียน ฯลฯ ยิ่งรถที่กล่องควบคุมอยู่ในห้องเครื่อง ยิ่งต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ "ล้างห้องเครื่องแล้วกล่องพัง ต้องเปลี่ยนกล่อง" มีให้เห็นมาเยอะแล้วคร้าบพี่น้อง ! ตามนี้เลยครับ ผลเสีย มากกว่าผลดี ครับ หัวข้อ: Re: สงสัยการล้างห้องเครื่อง เริ่มหัวข้อโดย: exspeed ที่ 20 พฤศจิกายน 2006, 14:35:02 คับเห็นด้วย เจ้าตาโตผมเจอมาแล้วกล่องCDIพัง หมดไปหลายพัน ช่างบอกว่าน้ำเข้ามันเลยช็อต
แล้วมันก็มาช็อตตอนที่ล้างเสร็จ 2-3 วัน ม่ายรู้จะทำไงต้องทำใจเปลี่ยนเองเลยอ่ะ ซึ่งปกติไอ้กล่องCDIนี้มันก็เก็บอย่างมิดชิดละนะ มันยังโดน ...คิดดูว่าน้ำแรงแค่ใหนอ่ะ หัวข้อ: Re: สงสัยการล้างห้องเครื่อง เริ่มหัวข้อโดย: ทอม_อีเค ที่ 20 พฤศจิกายน 2006, 14:39:30 เอารถไปล้างที่คาร์แคร์ จำเป็นต้องล้างห้องเครื่องมั้ยครับ ถ้าล้างจะมีผลเสียอะไรมั้ยครับ ที่ร้านบอกว่าน้ำยาที่ล้างช่วยป้องกันหนูมากัดสายไฟด้วยจริงมั้ยครับ ล้างคาร์แคร์ที่ไหนครับ จะไปล้างมั่ง หนูกัดสายไฟของผม 3 ครั้งแล้วอ่ะหัวข้อ: Re: สงสัยการล้างห้องเครื่อง เริ่มหัวข้อโดย: eak_cfc ที่ 20 พฤศจิกายน 2006, 15:30:24 ;)ที่บ้านไม่มีหนู ต้องไปหาข้างนอกอ่ะ ;D
หัวข้อ: Re: สงสัยการล้างห้องเครื่อง เริ่มหัวข้อโดย: pokkon ที่ 20 พฤศจิกายน 2006, 15:31:30 ;)ที่บ้านไม่มีหนู ต้องไปหาข้างนอกอ่ะ ;D โดนเลยครับประโยคนี้ หัวข้อ: Re: สงสัยการล้างห้องเครื่อง เริ่มหัวข้อโดย: torsak ที่ 21 พฤศจิกายน 2006, 00:18:12 ผมล้างห้องเครื่องทุกครั้งที่ล้างรถเอง ทุกวันนี้จอสนิมเล่นงาน ที่บริเวณถาดรองแบตเตอรี่
หัวข้อ: Re: สงสัยการล้างห้องเครื่อง เริ่มหัวข้อโดย: BillyTheKid ที่ 21 พฤศจิกายน 2006, 02:53:26 แนะนำวิธีการล้างห้องเครื่อง
ถ้าห้องเครื่องมันไม่สกปรกมากก็ไม่จำเป็นต้องไปล้างมันหรอกคร้าบท่าน ! แค่ใช้ผ้าชุบน้ำบิดแห้ง ๆ เช็ดก็เหลือเฟือแล้วล่ะ ถ้าฝุ่นเยอะก็ใช้ลมเป่าก่อนที่จะเช็ด ใช้ลมตามปั๊มน้ำมันหรือลมจากเครื่องดูดฝุ่น (เครื่องดูดฝุ่นบางรุ่นมันจะเป่าลมได้ แค่สลับที่ต่อสาย) หรือ Blower (ตัวเป่าลมที่ช่างแอร์ใช้เป่าเวลาล้างแอร์) เดี๋ยวนี้ตัวนึงไม่กี่บาทเห็นที่โลตัสเอามาลดราคาขายตัวนึง 3-4 ร้อย ซื้อติดบ้านไว้สักอันนึงไม่เสียหลายใช้งานได้หลายอย่าง เป่าฝุ่นเครื่องคอมฯ ก็ได้ แล้วมันยังดูดฝุ่นได้อีกต่างหากแค่เปลี่ยนที่สวมท่อจากตรงปากไปตรงกลางตัวมัน มีถุงใส่ฝุ่นมาให้ครบชุด ดูดได้แรงกว่าเครื่องดูดฝุ่นตัวละเป็นหมื่นด้วยซ้ำ ถ้าห้องเครื่องมันสกปรกมาก ก็คงจะต้องล้าง สิ่งที่ต้องเตรียมการ -สายยาง ขนาดต่อจากท่อประปา ยาวขนาดต่อจากท่อประปาลากไปที่รถแล้วใช้งานสะดวก -ฟองน้ำ แล้วก็แปรงสีฟันเก่า ๆ หรือจะใช้อันที่ใช้แปรงฟันอยู่ก็คงไม่มีใครว่า แต่หลังจากล้างห้องเครื่องแล้วไม่ควรเอากลับไปแปรงฟันอีก -ผงซักฟอกหรือแฟ๊บที่ใช้ซักผ้าอยู่นั่นแหละ ไม่ต้องไปเสียตังค์ใช้น้ำยาราคาแพงทั้งหลายหรอกคร้าบท่าน ไร้สาระแพงเปล่า ๆ ถ้าขนาดแฟ๊บเอาไม่ออก ก็ไม่มีอะไรอีกแล้วล่ะคร้าบท่าน -สเปรย์ไล่ความชื้น หรือสเปรย์เอนกประสงค์ทั้งหลายที่ไล่ความชื้นได้ ... ถ้าจะให้ดีให้ใช้ "สเปรย์ล้างหัวเทปหรือวีดีโอ" ของถูก ๆ กระป๋องนึง 50-60 บาทไม่แพงหรอก สาเหตุที่ให้ใช้สเปรย์ล้างหัวเทปก็เพราะว่า ฉีดแล้วมันก็จะแห้งหายไปมันจะไม่ทิ้งคราบน้ำมันไว้ให้ดูต่างหน้าและให้ฝุ่นเกาะภายหลัง เหมือนสเปรย์น้ำยาเอนกประสงค์ทั้งหลาย -ถุงพลาสติก ขนาดต่าง ๆ เอาไว้หุ้มห่อส่วนที่ไม่ต้องการให้ถูกน้ำ -เครื่องดูดฝุ่นที่เป่าลมได้ หรือ Blower เอาไว้เป่าลมไล่น้ำ วิธีการก็ไม่ยาก -เอาถุงพลาสติกห่อหุ้มหรือสวมครอบตรงส่วนที่ไม่ต้องการให้ถูกน้ำหรือไม่ต้องการให้น้ำเข้า ให้เรียบร้อย -ใช้แรงดันน้ำจากสายยางที่ต่อจากท่อประปานี่แหละคร้าบท่าน ไม่ต้องไปต่อผ่านเครื่องเครื่องฉีดน้ำแรงดันสูง หรือบีบปลายสายยางให้มันพุ่ง (มันจะเกิดความเสียหายตามมาในภายหลัง เป็นการพังรถมากกว่าล้างรถ) ราดให้ทั่ว ๆ แล้วก็ให้ฟองน้ำชุบน้ำยาล้างรถหรือน้ำแฟ๊บ เช็ด ขัด ถูก ยังไงก็เอาเลยคร้าบท่านตามสะดวก ส่วนตรงไหนที่มีคราบน้ำมันฝุ่นหรือดินเกาะก็เอาแปรงสีฟันจุ่มน้ำแฟ๊บขัด ๆ ถูก ๆ มันโลด จนกว่าจะสะอาดใสปิ๊งเป็นที่พอใจ -เอาน้ำสายยางราดไล่น้ำแฟ๊บออกให้หมดให้สะอาดเอี่ยม -ทีนี้ก็เป่าลมไล่น้ำตามจุดต่าง ๆ ออกให้หมด ตามซอกหลืบต่าง ๆ ที่น้ำมันเข้าไปขังอยู่ โดยเฉพาะเบ้าหัวเทียน เป่าให้ทั่ว ๆ ดูให้ดี ๆ -แล้วก็เอาสเปรย์ฉีดไล่ความชื้นตามจุดต่าง ๆ (กระป๋องสเปรย์จะมีหัวต่อมาให้ ใส่หัวต่อซะจะได้ใช้งานง่าย ๆ) จุดต่ออุปกรณ์ ขั้วต่อสายไฟต่าง ๆ เบ้าหัวเทียน ตรงไหนถอดออกง่าย ๆ ก็ถอดออกมาฉีด ๆ แล้วก็เสียบคืนเข้าไป ตรงไหนถอดยาก ๆ ก็ไม่ต้องถอด ฉีดไล่เข้าไปตรงขั้วต่อก็พอ -เสร็จแล้วยังไม่ต้องปิดฝากระโปรง ติดเครื่องเดินเบาให้เครื่องร้อนเพื่อไล่ความชื้นตามจุดต่าง ๆ ที่ยังตกค้างอยู่ออกไป พร้อมกับชื่นชมฝีมือตนเองซะว่า "ตัวข้าเองนี่ก็มิใช่ย่อยล้างห้องเครื่องได้สะอาดเอี่ยมเหมือนกันวุ๊ย" ! อีกเรื่องนึง สำหรับท่าน ๆ ที่มีปัญหาหนูกัดสายไฟในห้องเครื่อง -ถ้าจอดในบ้านตัวเองก็ เปิดฝากระโปรงรถไว้ เท่านั้นแหละคร้าบท่าน ! หนูมันก็จะไม่เข้าไปทำรัง -ถ้าจอดที่อื่นที่ไม่สามารถเปิดฝากระโปรงทิ้งไว้ได้ เพราะกลัวมือดี (มันต้องมือเลวสิถึงจะถูก หรือมันก็เลวทั้งตัวนั่นแหละ) มาถอดเอาอะไรไป หรือจอดในบ้านตัวเองแต่เปิดไว้แล้วจะคลุมผ้าไม่ได้ ... ก็เอา "ลูกเหม็น" นั่นแหละคร้าบใส่ไว้ในห้องเครื่อง ทำถุงผ้าแล้วค่อยเอาลูกเหม็นใส่สักหน่อยก็จะดี ใส่ไว้สัก 2-3 ถุง แค่นั้นแหละคร้าบท่าน มิได้ยากเย็นแต่ประการใด ใช่ไหม๊คร้าบพี่น้อง ! หัวข้อ: Re: สงสัยการล้างห้องเครื่อง เริ่มหัวข้อโดย: BillyTheKid ที่ 21 พฤศจิกายน 2006, 03:29:30 เรื่องถาดรองแบตเตอรี่ขึ้นสนิมนี่มันเกิดจากไอน้ำกรดที่มันออกมาจากแบตเตอรี่คร้าบท่าน ! รถอะไรก็เป็นเหมือนกันหมดถ้าใช้แบตเตอรี่แบบน้ำกรด เวลาที่ไดมันชาร์จไฟมันจะเกิดปฏิกิริยาที่แผ่นธาตุกับน้ำกรดในช่องของแบตเตอรี่ทำให้เกิดไอน้ำกรดออกมาตรงรูที่ฝาปิดช่องแบตเตอรี่ เราถึงต้องคอยดูคอยเติมน้ำกลั่นยังไงล่ะคร้าบท่าน ! ไอ้รูที่มันระบายนั่นจะปิดก็ไม่ได้เพราะมันจะระเบิด ... ถ้าไม่อยากให้เป็นสนิมก็ต้องไปใช้แบตเตอรี่แบบที่เป็นระบบปิดหรือแบบเมนเทนแนนท์ฟรีที่ไม่ต้องเติมน้ำกลั่นตลอดอายุการใช้งาน แล้วก็ต้องเลือกแบบที่เมนเทนแนนท์ฟรีจริง ๆ ที่ไม่ต้องเติมน้ำกลั่นและไม่มีรูระบายไอ เห็นบางยี่ห้อที่มีขายมันยังต้องคอยดูน้ำกลั่นถ้าพร่องมาก ๆ ก็ต้องคอยเติม แล้วมันว่าเป็นเมนเทนแนนท์ฟรีได้ยังไงหว่าไม่เข้าใจเลย ! .... หรือไม่ก็ที่เป็นแบตเตอรี่แห้งไปเลย ยี่ห้อดัง ๆ ที่เห็นมีขายในบ้านเราก็ Optima เป็นแบตเตอรี่แห้งจริง ๆ อายุการใช้งานยาวนานอย่างน้อยก็ 5 ปีขึ้นไป จับวางได้สารพัดรูปแบบจับคว่ำตีลังกาก็ได้ ขนาดที่ใส่กับถาด Civic ได้พอดีเป็นลูกเล็กสุดราคาก็ประมาณ 7-8 พัน แพงแต่ดี เหมาะกับรถที่ใช้กำลังไฟมาก ๆ พวกรถที่ติดอุปกรณ์กินไฟเยอะ ๆ หรือรถที่ติดเครื่องเสียงชุดใหญ่ ๆ เพาเวอร์แอมป์หลายตัว ยิ่งได้ไดชาร์จดี ๆ อีกสักลูกเข้าชุดกันเลย แต่ไดชาร์จแต่งเจ๋ง ๆ ลูกนึงนี่ราคามันแพงกว่าแบตเตอรี่ที่ว่าอีกคร้าบพี่น้อง !
หัวข้อ: Re: สงสัยการล้างห้องเครื่อง เริ่มหัวข้อโดย: G.OR ที่ 21 พฤศจิกายน 2006, 10:50:30 ล้างเองก็ได้ครับ สำหรับคนว่างๆ แล้วชอบทำอะไรเอง ที่สำคัญ ใจต้องเย็นๆ
สำหรับผมจะล้างตอนเช้า และยังไม่ได้สตาร์ทเครื่อง หรือใช้งานใดๆ มาก่อนล้าง การใช้น้ำล้างห้องเครื่องเนี่ยทำได้ ในกรณีที่ทำเอง และผมว่าปลอดภัยกว่าไปให้ตามปั๊มล้างซะอีกเพราะเค้าใช้แรงดันน้ำสูงเพราะอาจจะเข้าไปตามขั้วหรือสวิทไฟต่างๆได้ ในกรณีที่ไม่ได้ใช้น้ำยาล้าง เอาง่ายๆเลยนะครับ เปิดน้ำเบาๆ เอาเป็นฝอยๆ ไล่คราบน้ำมันหรือ ฝุ่นที่เกาะอยู่ตามห้องเครื่องให้หมด เสร็จแล้วก็ลงแชมพู ถ้ามีแปรงเล็ก แปรงสีฟัน ก็ค่อยๆขัดๆถูๆไป ตามซอกตามมุม เปิดน้ำไล่ทำความสะอาดอีกที ให้คราบแชมพูออกให้หมด เป่าลมให้แห้ง แต่ถ้าตามบ้านใครไม่มีปั๊มลม ก็ใช้ โบล์เลอร์ (Blower) หรือที่ช่างล้างแอร์ตามบ้านเค้าใช้กันนั้นแหละครับตัวนึงไม่กี่ร้อยบาท เป่าไล่น้ำให้แห้งสนิท ถ้าจะให้ดีเอาน้ำยาไล่ความชื้นฉีดตามขั้วไฟต่างๆด้วยก็ดี แล้วลงด้วยน้ำยาเคลือบห้องเครื่องที่เป็นสเปรย์ เสร็จพิธี ใช้น้ำยาของ Carlack หรือKarshine ก็ได้ครับถูกดี ขวดนึงประมาณ 150 บาท ใช้ได้ประมาณ 2-3 ครั้ง นี่ก็ตัวอย่าง ผมล้างของผมเองประจำ ด้วยความที่ว่า ไม่มีใครทำดีเท่ากับ เราทำรถเราเอง ขออย่างเดียวใจเย็นๆ (http://i24.photobucket.com/albums/c44/G-OR/G%20%20AND%20OR/.jpg) คือที่ผมล้างเนี่ย เพื่อกำจัดคราบฝุ่น และ คราบน้ำมันต่างๆที่เกาะอยู่ตามอุปกรณ์ต่างๆที่อาจจะส่งผลก่อให้เกิดเป็นคราบเหนียวๆสีดำ และอีกกรณีนึง สามารถมองเห็นได้อย่างง่ายๆ เมื่อเกิดมีการรั่วซึมของน้ำมัน หรืออุปกรณ์ต่างๆ อย่างพวกท่อน้ำมัน ฝุ่นเกาะเต็มมองไม่เห็นครับว่าท่อเริ่มแตกลายหรือยัง แต่อย่างเนี๊ยะ มองง่าย ที่สำคัญผมชอบสะอาดๆ แบบนี้แหละครับ เปิดมองทีไรก็ชื่นใจ ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง http://www.welovecivic.com/civic/forum_posts.asp?TID=3681&PN=2 หัวข้อ: Re: สงสัยการล้างห้องเครื่อง เริ่มหัวข้อโดย: Dry ice clean ที่ 01 มกราคม 2015, 14:22:34 การล้างให้ถูกต้องตามหลักวิชาการ คือ ต้องไม่มีน้ำและความชื้น ต้องล้างด้วยเครื่องพ่น Dry ice มีเปิดบริการแล้ว แต่จะหายากหน่อยเพราะเครื่องมีราคาแพง ใช้ความเย็นของน้ำแข็งแห้งที่อุณหภูมิ -79 องศา C ทำให้สิ่งสกปรกและพื้นผิวงานเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิอย่างรวดเร็ว เกิดการหดตัวและแตกหลุดออกจากกัน อนุภาคของเม็ดน้ำแข็งขนาดเล็ก (มีความแข็งเพียง 1.5) จะขัดเจาะสิ่งสกปรกให้หลุดออก ประกอบกับการพุ่งชนของเม็ดน้ำแข็งด้วยแรงดันและความเร็วทำให้เกิดการถ่ายเทความร้อนระหว่างพื้นผิวกับน้ำแข็งแห้งเกิดการขยายตัว (ระเบิด) เป็นก๊าซเกือบ 500 เท่า ทำให้สิ่งสกปรกเพิ่มการแยกตัว แตกตัวกลายเป็นผงเล็กๆ และถูกเป่ากระจายออกไปจากชิ้นงานอย่างรวดเร็ว
หัวข้อ: Re: สงสัยการล้างห้องเครื่อง เริ่มหัวข้อโดย: Dry ice clean ที่ 01 มกราคม 2015, 14:23:13 ปัญหาของการล้างห้องเครื่องยนต์แบบเดิม
1. ใช้เวลานาน จึงไม่สะดวกในการใช้บริการ 2. ต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญเป็นพิเศษ เพราะต้องมีขั้นตอนหลายอย่าง 3. อีกทั้งยังต้องรอให้เป่าลมไล่ความชื่นให้แห้งสนิท 4. มีความเสี่ยงอาจเกิดความผิดพลาดเสียหายสูง เพราะระบบของรถยนต์รุ่นใหม่มีอุปกรณ์ไฟฟ้าอีเลคโทรนิคเยอะแยะมากมาย 5. ไม่ค่อยสะอาดเพราะเครื่องยนต์มีซอกมุมมากมาย มีช่องเล็กช่องน้อยที่ไม่มีเครื่องมืออะไรสามารถเข้าไปทำความสะอาดได้ 6. สิ่งสกปรกสะสมมายาวนานฝังแน่นยากที่จะทำความสะอาด 7. หาสถานที่เหมาะสมที่จะใช้ทำความสะอาดยาก เพราะต้องเป็นที่รองรับการเปียก การใช้น้ำ มีการระบายน้ำที่ดี และมีการกักไขมันโคลนดินอย่างดี 8. มักจะใช้สารทำละลายจำพวกน้ำมันก๊าด น้ำมันเบนซิน ซึ่งเป็นวัตถุอันตราย ไวไฟ และเป็นพิษ หัวข้อ: Re: สงสัยการล้างห้องเครื่อง เริ่มหัวข้อโดย: Dry ice clean ที่ 01 มกราคม 2015, 14:23:49 ประโยชน์ของน้ำแข็งแห้ง บริการของเรารองรับประโยชน์มากมาย
1. ทำความสะอาด ด้วยสารจากธรรมชาติ เม็ดน้ำแข็งแห้งใช้เกล็ดน้ำแข็งแห้งที่ทำจากสารเดียวกันที่ ใช้ทำเครื่องดื่ม Carbonate (โค้ก) วิธีนี้ไม่ทำให้เกิดขยะเป็น ทราย โซดา น้ำ สารเคมีและตัวทำละลายใช้ทำความสะอาด(มีพิษ) 2. ปลอดภัยเกี่ยวกับไฟฟ้า โดยไม่มีความเสียหายอุปกรณ์ Electronic พื้นที่สำคัญ เช่น ส่วนประกอบอุปกรณ์ไฟฟ้า สวิทช์ เซ็นเซอร์ไฟฟ้า 3. ทำได้อย่างละเอียด เนื่องจากน้ำแข็งแห้งเข้าไปจัดการถึงทุกส่วนลึกและมุมอุปกรณ์ มันทำความสะอาดอย่างล้ำลึก และมีประสิทธิภาพมากขึ้น 4. ไม่เสียหาย น้ำแข็งแห้งจะแห้งสนิท ไม่มีทราย ไม่เป็นพิษ และ ไม่กัดกร่อน ตัวสวิตช์ แผงวงจร ท่อน้ำมัน สายไฟฟ้า เข็มขัดพลาสติก และปลอดภัยต่อระบบไฟฟ้า 5. ไม่มีปัญหาเรื่องระยะเวลา (ทำให้แห้ง) กระบวนการได้อย่างรวดเร็ว และแห้ง น้ำแข็งแห้งหายไปในทันที และสามารถทำโดยไม่ต้องถอดชิ้นส่วน และโดยไม่ต้องทิ้งช่วงรอเวลาในการแห้ง หัวข้อ: Re: สงสัยการล้างห้องเครื่อง เริ่มหัวข้อโดย: yukim ที่ 01 มกราคม 2015, 16:36:41 ขอบคุณสำหรับเกล็ดครับ
หัวข้อ: Re: สงสัยการล้างห้องเครื่อง เริ่มหัวข้อโดย: nakarin ที่ 01 มกราคม 2015, 23:46:33 ผ้าชุบน้ำบิดให้หมาด เช็ดทุกครั้งที่ล้างรถครับ แค่นี้ก็สะอาดเอี่ยมครับ
หัวข้อ: Re: สงสัยการล้างห้องเครื่อง เริ่มหัวข้อโดย: kptt ที่ 01 กุมภาพันธ์ 2015, 13:00:29 ผ้าชุบน้ำบิดหมาดๆ เช็ดครับ....ได้ดูความผิดปกติไปด้วย
|