:::CIVIC CLUB THAILAND:::

คุยคุ้ย Civic => Civic Club Discuss => ห้องคนขับ => ข้อความที่เริ่มโดย: RISO ที่ 04 พฤศจิกายน 2008, 15:30:55



หัวข้อ: อาการเกียร์หลังซ่อมจากเกียร์พัง
เริ่มหัวข้อโดย: RISO ที่ 04 พฤศจิกายน 2008, 15:30:55
ผมเคยลงในหัวข้อเกียร์พังมาแล้วครับ และได้คำแนะนำจากเพื่อนๆที่มีประโยชน์ จนตอนนี้ซ่อมเกียร์เสร็จแล้ว หลังจากเปลี่ยนโอริ่ง และคลัศเกียร์ทั้งหมด 15 แผ่น แต่พอซ่อมเสร็จรถมีอาการกระชากช่วงที่เกียร์เปลี่ยนครับ ไม่นุมนวลเหมือนเดิมและรอบเปลี่ยนก็สูงมากขึ้น ประมาณ 3000 จึงเปลี่ยน จึงอยากขอคำแนะนำหน่อยครับว่าต้องทำอย่างไร เพราะไปให้ช่างเค้าดูแล้วรอบหนึ่งก็ยังเหมือนเดิม  ขอบคุณล่วงหน้าครับ :'(


หัวข้อ: Re: อาการเกียร์หลังซ่อมจากเกียร์พัง
เริ่มหัวข้อโดย: TaTumTaTee ที่ 04 พฤศจิกายน 2008, 16:38:25
ว่าแต่รถรุ่นไหนอะคับ


หัวข้อ: Re: อาการเกียร์หลังซ่อมจากเกียร์พัง
เริ่มหัวข้อโดย: j_nobita ที่ 04 พฤศจิกายน 2008, 17:32:43
 ::) ของผม civic 2005 ก็เปลี่ยนที่ประมาณ 3000 รอบนะครับ


หัวข้อ: Re: อาการเกียร์หลังซ่อมจากเกียร์พัง
เริ่มหัวข้อโดย: bobodada ที่ 05 พฤศจิกายน 2008, 01:30:35
ถ้าเหยียบลึก มันก็จะเปลี่ยนที่รอบสูงอ่ะครับ ไม่ก็ถนนเอียง เหมือนวิ่งขึ้นเนินอ่ะครับ

ถ้าเหยียบเบาๆ ไปเรื่อยๆ มันก็จะเปลี่ยนที่รอบต่ำ

แต่อาการของพี่นี่ ผมว่า เป็นที่เกียร์แหละครับ เกียร์พังนี่ น่ากลัวจริงๆ


หัวข้อ: Re: อาการเกียร์หลังซ่อมจากเกียร์พัง
เริ่มหัวข้อโดย: jung_es ที่ 05 พฤศจิกายน 2008, 10:56:04
ว่าแต่รถเป็นรุ่นไหนหรอคับ


หัวข้อ: Re: อาการเกียร์หลังซ่อมจากเกียร์พัง
เริ่มหัวข้อโดย: RISO ที่ 06 พฤศจิกายน 2008, 12:48:01
ขอโทษทีครับ รถผมรุ่นDimantion 02 exi ครับ


หัวข้อ: Re: อาการเกียร์หลังซ่อมจากเกียร์พัง
เริ่มหัวข้อโดย: Boy_nsm ที่ 06 พฤศจิกายน 2008, 22:37:03
ลองดูครับ

เกียร์ปกติแล้วครับ

คอลัมน์ คาร์คลินิก

โดย ธเนศร์ เสนีย์วงศ์ ณ อยุธยา

เรียน อาจารย์ธเนศร์

ขอบพระคุณอาจารย์มากครับที่กรุณาตอบคำถามของผมที่ถามมาในครั้งก่อน มีข้อความที่ถามดังนี้ครับ

"รถซีวิค วีเทค เกียร์ออโต ปี 2003 ผมเปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่ ผมปรับตั้งกระจกไฟฟ้าและซีดีที่ติดมากับรถให้ใช้งานได้ปกติตามคู่มือแล้ว หลังจากเปลี่ยนแบตฯใหม่แล้วรถจะเปลี่ยนเกียร์ช้าเหมือนรอรอบ เวลาคิกดาวน์เมื่อก่อนตอบสนองทันที ตอนนี้ต้องกดแช่สักพักหนึ่งจึงตอบสนอง

ผมเมล์ไปถามที่ฮอนด้า เขาตอบมาว่า "รถซีวิค วีเทค เกียร์ออโต ปี 2003 เมื่อมีการถอดขั้วแบตเตอรี่ในรถยนต์รุ่นนี้ที่ถูกต้องควรมีการปรับตั้งรอบเดินเบาใหม่ครับ เพื่อให้กล่องควบคุมเครื่องยนต์เรียนรู้การทำงานพื้นฐานของเครื่องยนต์ครับ รบกวนท่านเข้าตรวจสอบทางศูนย์บริการก่อนครับ"

ผมก็เลยเอาเข้าศูนย์ที่ต่างจังหวัด (ผมอยู่ภาคอีสานครับ) ช่างที่ศูนย์บอกว่าไม่เกี่ยวกับการเปลี่ยนแบตฯ แต่ก็ไม่ได้ทำอะไรให้

ผมก็โทร.ไปถามศูนย์อีกจังหวัดหนึ่ง ก็ได้รับคำตอบเหมือนกัน เลยสงสัยว่ามาตรฐานช่างแต่ละศูนย์อยู่ตรงไหน

เลยต้องพึ่งอาจารย์ครับ ช่วยกรุณาไขข้อข้องใจให้หน่อยครับ ความจริงต้องทำอย่างไร หรือว่าต้องปรับอะไรบ้างครับ ขอบพระคุณมากครับ"

ข้อความที่อาจารย์ตอบ

"ลองง่ายๆ ดูก่อนครับ ถอดขั้วแบตเตอรี่ออกสักนาทีสองนาที ถอดขั้วลบก็พอนะครับ แล้วใส่เข้าไปใหม่

จากนั้นเข้าไปในรถเปิดสวิตช์กุญแจขึ้น ไม่ต้องติดเครื่องนะครับ แค่ ON ก็พอแล้วเหยียบคันเร่งลงไปให้สุด ปล่อยกลับขึ้นมา

เหยียบเบรกลงไปให้สุด แล้วปล่อยขึ้นมาบิดสวิตช์กุญแจกลับไปที่ OFF

จากนั้นติดเครื่องแล้วขับรถออกไปตามปกติ ไม่ต้องตั้งอกตั้งใจอะไรทั้งนั้น ไม่ต้องคอยจับผิดรถด้วย

ขับไปตามปกติสัก 10-20 กิโลเมตร หากอาการทุกอย่างกลับเข้าเป็นปกติเหมือนก่อนหน้า ก็แค่นั้นแหละครับที่เขาจะเช็กให้คุณ และไม่ได้ทำ

ลองดูก่อนนะครับ อาจจะต้องปรับตั้งกันอย่างอื่นอีกก็ได้ แต่ปกติก็เท่านี้เองครับ

ธเนศร์ เสนีวงศ์ ณ อยุธยา"

ผมได้ทำตามแล้วครับ

ซึ่งผลปรากฏว่าเกียร์กลับไปเป็นปกติแล้วครับ ตอบสนองดีดั้งเดิม

มีความสุขกับการขับรถเหมือนเดิมแล้วครับ

ผมสงสัยแต่เพียงว่าเรื่องที่ผู้ใช้รถสามารถทำเองได้แบบนี้ทำไมไม่แนะนำไว้ในคู่มือเลย

หรือทำไมช่างไม่ตอบผมแต่แรกที่ผมเมล์ไปถาม ทำไมต้องให้เอาไปศูนย์ เพราะผมเชื่อว่ายังมีผู้ใช้รถอีกเป็นจำนวนมากที่ประสบปัญหาเหมือนผม อาจจะไม่ได้สังเกตหรือสังเกตเจอแล้วช่างในศูนย์ก็ไม่ได้ทำอะไรให้

ขอบพระคุณอาจารย์เป็นอย่างสูงมา ณ ที่นี้ครับ

สุวัฒน์ เกิดรปาชญ์

เรียนคุณสุวัฒน์

ปกติแล้วผมมักจะไม่นำจดหมายตอบกลับในลักษณะของคุณมาลง เพราะเห็นว่าเป็นในแบบชมเชยการแก้ปัญหารถยนต์ของผม ไม่เป็นประโยชน์อะไรกับใคร

อีกทั้งยังทำให้เกิดความหมั่นไส้ ตาร้อนจากบางท่าน บางคน บางฝ่ายได้ง่าย

แต่คราวนี้ผมเห็นควรจะนำลงพิมพ์ครับ เพราะอะไร เดี๋ยวผมขอลำดับให้ฟังก็แล้วกัน

ประการ แรก ผมได้เคยนำเรื่องราวการปรับตั้งคันเร่งให้สัมพันธ์กับการใช้งานรถยนต์ของแต่ ละการขับขี่ดังนี้มาเสนอแล้วหลายครั้งหลายคราว และหลายปีมาแล้วด้วย

โดยเสนอผ่านรายการวิทยุรถยนต์ "กลับให้ได้ ไปให้ถึง" ของผม ตั้งแต่เริ่มทำมาใหม่ๆ และเสนอเรื่อยมาตามแต่ท่านผู้ฟังจะถามไป ซึ่งผมก็ทราบดีว่ารายการนี้ได้รับการรับฟังแพร่หลาย เนื่องจากเพื่อนพ้องน้องพี่ในวงการสื่อมวลชนต่างก็พูดถึงรายการของผมกันมาก เพียงแต่ส่วนหนึ่งจะพูดว่า แหม ผมดุจัง หรือผมปากร้าย ชอบด่าบริษัทผู้ผลิตรถยนต์เสียเหลือเกิน ทั้งที่ผมจำได้ว่าผมไม่เคยพูดอย่างนั้น แต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร เพราะทราบดีว่าเป็นวิธีหนึ่งสำหรับผู้ที่ไม่สนิทสนมกับผม จะแสดงความใกล้ชิดออกมาให้คนอื่นที่ใกล้ชิดกว่าได้เห็น ได้เข้าใจว่าเขาใกล้ชิดกับผมเท่านั้น

ทั้งที่คนที่พูดอย่างนั้นส่วนใหญ่ไม่ได้ฟังรายการของผมเลยก็มี แต่ในเวลาเดียวกันเพื่อนช่างของผมก็รับฟังและมีบ่อยที่โทรศัพท์เข้าไปพูดคุยประสาช่างกับวิทยากรร่วม และผมเพื่อนช่างเหล่านั้น เป็นช่างระดับนักเรียนช่างกลไปจนถึงช่างระดับนายช่าง วิศวกรประจำโรงงานผู้ผลิตรถยนต์

ทำไมไม่มีใครคิดจะบรรจุเรื่องราวง่ายๆ เหล่านี้ลงไว้ในคู่มือผู้ใช้รถยนต์กันบ้างละครับ

ก็เห็นทำกันได้กับแค่เรื่องปรับกระจกข้างให้ขึ้น-ลงสะดวก แต่กลับไม่ยอมพูดถึงการปรับเครื่องยนต์กับเกียร์ให้ทำงานตอบสนอง

ผู้บริโภคให้ดี ทั้งที่เป็นเรื่องเล็กนิดเดียว

ฮอนด้าถึงกับบอกไปทางผู้บริโภคเช่นคุณสุวัฒน์เลยทีเดียวว่า ต้องนำรถเข้าไปรับการปรับตั้งรอบเดินเบา ทั้งที่รอบเดินเบาหาได้เกี่ยวข้องอะไรกับคันเร่งเลยแม้แต่น้อย

คุณคิดอะไรของคุณกันอยู่ครับนี่

จะดูหมิ่นดูแคลนผู้บริโภคของคุณไปถึงไหนหรือครับ

ประการต่อไปก็คงอย่างที่คุณสุวัฒน์ว่านั่นแหละครับ คือเมื่อไม่มีใครทำ เราก็ทำเสียเองก็แล้วกัน ไหนๆ เราก็บอกตัวเองแล้วว่า เราจะรับใช้สังคม

ก็บอกเอาไว้ตรงนี้เลยละครับว่า หากท่านไปซื้อรถใช้แล้วที่ไหนมาก็ตาม ลงว่าเป็นรถยนต์ที่ใช้คอมพิวเตอร์ควบคุมการทำงานของเครื่องยนต์และเกียร์อัตโนมัติ ก่อนจะขับรถคันนั้นออกจากที่ซื้อหลังลองรถพอใจแล้วก็ขอให้ถอดขั้วแบตเตอรี่ออกสักนาทีสองนาที จากนั้นใส่เข้าไปใหม่แล้วบิดสวิตช์กุญแจไปที่ ON ไม่ต้องสตาร์ตเครื่อง

เหยียบคันเร่งลงให้สุด ปล่อยแล้วเหยียบเบรกลงให้สุด ปล่อยบิดสวิตช์กลับมาที่ OFF ก่อนสัก 10 วินาทีค่อยติดเครื่องขับรถออกไปในระยะทางไม่เกิน 20 กิโลเมตร คอมพิวเตอร์จะเรียนรู้และปรับการเปลี่ยนเกียร์ให้เหมาะกับการขับขี่ของท่านเอง และจะเริ่มทำงานสอดคล้องกับการขับขี่ของท่านไปจนราว 50 กิโลเมตร ก็จะจำเอาไว้ได้หมดว่าท่านมีพฤติกรรมการขับขี่อย่างไร และจะตอบสนองความต้องการของท่านได้อย่างดีที่สุด

หากท่านไม่เคยทำมาก่อน ลองทำดูเมื่อมีโอกาสครับ หากเห็นผลก็ดีไป หากไม่เห็นผลก็อาจจะเป็นด้วยว่าผู้ขับคนก่อนขับรถในลักษณะเดียวกันกับท่านอยู่แล้ว ซึ่งก็ไม่ผิดอะไรไม่ใช่หรือครับกับการเสียเวลาเพียงไม่ถึง 5 นาที

ให้โอกาสรถยนต์เรียนรู้การขับขี่และความต้องการของท่านกันสักหน่อยครับ

ธเนศร์ เสนีวงศ์ ณ อยุธยา


หัวข้อ: Re: อาการเกียร์หลังซ่อมจากเกียร์พัง
เริ่มหัวข้อโดย: ZODA ที่ 07 พฤศจิกายน 2008, 18:29:11
^
^
^
^
^
ข้อมูลมีประโยชน์มาก   เดี่ยวจะลองทำมั่ง  ขอบคุณครับ...  :) :)


หัวข้อ: Re: อาการเกียร์หลังซ่อมจากเกียร์พัง
เริ่มหัวข้อโดย: Hanibal ที่ 12 พฤศจิกายน 2008, 23:47:03
 :( :( :( :( :(

ไม่เคยรู้มาก่อนเลนครับ

ขอบคุณมากกๆๆๆๆ


หัวข้อ: Re: อาการเกียร์หลังซ่อมจากเกียร์พัง
เริ่มหัวข้อโดย: hellball ที่ 18 พฤศจิกายน 2008, 14:42:42
 :P สุดยอดครับ เด๋วลองทำดูบ้าง ;D


หัวข้อ: Re: อาการเกียร์หลังซ่อมจากเกียร์พัง
เริ่มหัวข้อโดย: thee ที่ 19 พฤศจิกายน 2008, 08:25:19
ขอบคุณ สำหรับความรู้นี้ครับ
เดี๋ยวไปลองทำมั่ง เพราะ รู้สึกว่า คิกดาวน์แล้วช้ามาก คงเป็นเพราะถอดแบตนี่เอง
สงสัยมานาน... :-[


หัวข้อ: Re: อาการเกียร์หลังซ่อมจากเกียร์พัง
เริ่มหัวข้อโดย: hodo_ebola ที่ 19 พฤศจิกายน 2008, 09:36:21
ขอบคุณคุณBoy_nsm มากๆเลยครับได้ความรู้ใหม่เดี๋ยวต้องไปลองทำดู


หัวข้อ: Re: อาการเกียร์หลังซ่อมจากเกียร์พัง
เริ่มหัวข้อโดย: jung_es ที่ 19 พฤศจิกายน 2008, 11:02:46
ขอบคุณครับสำหรับข้อมุลดีๆที่ผมไม่เคยรู้มาก่อนเลย


หัวข้อ: Re: อาการเกียร์หลังซ่อมจากเกียร์พัง
เริ่มหัวข้อโดย: ronin2555 ที่ 25 พฤศจิกายน 2008, 15:02:18
ได้ความรู้มากๆ เลย

มีอีกไม่ความรู้ดีดีแบบนี้

ขอบคุณมากๆเลย ครับ


หัวข้อ: Re: อาการเกียร์หลังซ่อมจากเกียร์พัง
เริ่มหัวข้อโดย: หมูอ้วนกทม ที่ 25 พฤศจิกายน 2008, 23:26:17
ขอบคุณมากที่เอาความรู้ดีๆมาบอกกัน  :-*

ว่าแล้วต้องลองทำดูเหมือนกันเพราะเพิ่งเปลี่ยนแบตมา


หัวข้อ: Re: อาการเกียร์หลังซ่อมจากเกียร์พัง
เริ่มหัวข้อโดย: civic2003 ที่ 23 มกราคม 2009, 05:39:56
ทำไงจาขึ้นไปได้     :-[


หัวข้อ: Re: อาการเกียร์หลังซ่อมจากเกียร์พัง
เริ่มหัวข้อโดย: 4490 ที่ 06 กันยายน 2009, 11:09:22
ข้อมลูดีๆขอบคุณครับ


หัวข้อ: Re: อาการเกียร์หลังซ่อมจากเกียร์พัง
เริ่มหัวข้อโดย: nonglays ที่ 06 กันยายน 2009, 12:27:30
ขอบคุณสำหรับความรู้ครับ

 :-*


หัวข้อ: Re: อาการเกียร์หลังซ่อมจากเกียร์พัง
เริ่มหัวข้อโดย: hellball ที่ 09 กันยายน 2009, 10:03:51
ลองดูครับ

เกียร์ปกติแล้วครับ

คอลัมน์ คาร์คลินิก

โดย ธเนศร์ เสนีย์วงศ์ ณ อยุธยา

เรียน อาจารย์ธเนศร์

ขอบพระคุณอาจารย์มากครับที่กรุณาตอบคำถามของผมที่ถามมาในครั้งก่อน มีข้อความที่ถามดังนี้ครับ

"รถซีวิค วีเทค เกียร์ออโต ปี 2003 ผมเปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่ ผมปรับตั้งกระจกไฟฟ้าและซีดีที่ติดมากับรถให้ใช้งานได้ปกติตามคู่มือแล้ว หลังจากเปลี่ยนแบตฯใหม่แล้วรถจะเปลี่ยนเกียร์ช้าเหมือนรอรอบ เวลาคิกดาวน์เมื่อก่อนตอบสนองทันที ตอนนี้ต้องกดแช่สักพักหนึ่งจึงตอบสนอง

ผมเมล์ไปถามที่ฮอนด้า เขาตอบมาว่า "รถซีวิค วีเทค เกียร์ออโต ปี 2003 เมื่อมีการถอดขั้วแบตเตอรี่ในรถยนต์รุ่นนี้ที่ถูกต้องควรมีการปรับตั้งรอบเดินเบาใหม่ครับ เพื่อให้กล่องควบคุมเครื่องยนต์เรียนรู้การทำงานพื้นฐานของเครื่องยนต์ครับ รบกวนท่านเข้าตรวจสอบทางศูนย์บริการก่อนครับ"

ผมก็เลยเอาเข้าศูนย์ที่ต่างจังหวัด (ผมอยู่ภาคอีสานครับ) ช่างที่ศูนย์บอกว่าไม่เกี่ยวกับการเปลี่ยนแบตฯ แต่ก็ไม่ได้ทำอะไรให้

ผมก็โทร.ไปถามศูนย์อีกจังหวัดหนึ่ง ก็ได้รับคำตอบเหมือนกัน เลยสงสัยว่ามาตรฐานช่างแต่ละศูนย์อยู่ตรงไหน

เลยต้องพึ่งอาจารย์ครับ ช่วยกรุณาไขข้อข้องใจให้หน่อยครับ ความจริงต้องทำอย่างไร หรือว่าต้องปรับอะไรบ้างครับ ขอบพระคุณมากครับ"

ข้อความที่อาจารย์ตอบ

"ลองง่ายๆ ดูก่อนครับ ถอดขั้วแบตเตอรี่ออกสักนาทีสองนาที ถอดขั้วลบก็พอนะครับ แล้วใส่เข้าไปใหม่

จากนั้นเข้าไปในรถเปิดสวิตช์กุญแจขึ้น ไม่ต้องติดเครื่องนะครับ แค่ ON ก็พอแล้วเหยียบคันเร่งลงไปให้สุด ปล่อยกลับขึ้นมา

เหยียบเบรกลงไปให้สุด แล้วปล่อยขึ้นมาบิดสวิตช์กุญแจกลับไปที่ OFF

จากนั้นติดเครื่องแล้วขับรถออกไปตามปกติ ไม่ต้องตั้งอกตั้งใจอะไรทั้งนั้น ไม่ต้องคอยจับผิดรถด้วย

ขับไปตามปกติสัก 10-20 กิโลเมตร หากอาการทุกอย่างกลับเข้าเป็นปกติเหมือนก่อนหน้า ก็แค่นั้นแหละครับที่เขาจะเช็กให้คุณ และไม่ได้ทำ

ลองดูก่อนนะครับ อาจจะต้องปรับตั้งกันอย่างอื่นอีกก็ได้ แต่ปกติก็เท่านี้เองครับ

ธเนศร์ เสนีวงศ์ ณ อยุธยา"

ผมได้ทำตามแล้วครับ

ซึ่งผลปรากฏว่าเกียร์กลับไปเป็นปกติแล้วครับ ตอบสนองดีดั้งเดิม

มีความสุขกับการขับรถเหมือนเดิมแล้วครับ

ผมสงสัยแต่เพียงว่าเรื่องที่ผู้ใช้รถสามารถทำเองได้แบบนี้ทำไมไม่แนะนำไว้ในคู่มือเลย

หรือทำไมช่างไม่ตอบผมแต่แรกที่ผมเมล์ไปถาม ทำไมต้องให้เอาไปศูนย์ เพราะผมเชื่อว่ายังมีผู้ใช้รถอีกเป็นจำนวนมากที่ประสบปัญหาเหมือนผม อาจจะไม่ได้สังเกตหรือสังเกตเจอแล้วช่างในศูนย์ก็ไม่ได้ทำอะไรให้

ขอบพระคุณอาจารย์เป็นอย่างสูงมา ณ ที่นี้ครับ

สุวัฒน์ เกิดรปาชญ์

เรียนคุณสุวัฒน์

ปกติแล้วผมมักจะไม่นำจดหมายตอบกลับในลักษณะของคุณมาลง เพราะเห็นว่าเป็นในแบบชมเชยการแก้ปัญหารถยนต์ของผม ไม่เป็นประโยชน์อะไรกับใคร

อีกทั้งยังทำให้เกิดความหมั่นไส้ ตาร้อนจากบางท่าน บางคน บางฝ่ายได้ง่าย

แต่คราวนี้ผมเห็นควรจะนำลงพิมพ์ครับ เพราะอะไร เดี๋ยวผมขอลำดับให้ฟังก็แล้วกัน

ประการ แรก ผมได้เคยนำเรื่องราวการปรับตั้งคันเร่งให้สัมพันธ์กับการใช้งานรถยนต์ของแต่ ละการขับขี่ดังนี้มาเสนอแล้วหลายครั้งหลายคราว และหลายปีมาแล้วด้วย

โดยเสนอผ่านรายการวิทยุรถยนต์ "กลับให้ได้ ไปให้ถึง" ของผม ตั้งแต่เริ่มทำมาใหม่ๆ และเสนอเรื่อยมาตามแต่ท่านผู้ฟังจะถามไป ซึ่งผมก็ทราบดีว่ารายการนี้ได้รับการรับฟังแพร่หลาย เนื่องจากเพื่อนพ้องน้องพี่ในวงการสื่อมวลชนต่างก็พูดถึงรายการของผมกันมาก เพียงแต่ส่วนหนึ่งจะพูดว่า แหม ผมดุจัง หรือผมปากร้าย ชอบด่าบริษัทผู้ผลิตรถยนต์เสียเหลือเกิน ทั้งที่ผมจำได้ว่าผมไม่เคยพูดอย่างนั้น แต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร เพราะทราบดีว่าเป็นวิธีหนึ่งสำหรับผู้ที่ไม่สนิทสนมกับผม จะแสดงความใกล้ชิดออกมาให้คนอื่นที่ใกล้ชิดกว่าได้เห็น ได้เข้าใจว่าเขาใกล้ชิดกับผมเท่านั้น

ทั้งที่คนที่พูดอย่างนั้นส่วนใหญ่ไม่ได้ฟังรายการของผมเลยก็มี แต่ในเวลาเดียวกันเพื่อนช่างของผมก็รับฟังและมีบ่อยที่โทรศัพท์เข้าไปพูดคุยประสาช่างกับวิทยากรร่วม และผมเพื่อนช่างเหล่านั้น เป็นช่างระดับนักเรียนช่างกลไปจนถึงช่างระดับนายช่าง วิศวกรประจำโรงงานผู้ผลิตรถยนต์

ทำไมไม่มีใครคิดจะบรรจุเรื่องราวง่ายๆ เหล่านี้ลงไว้ในคู่มือผู้ใช้รถยนต์กันบ้างละครับ

ก็เห็นทำกันได้กับแค่เรื่องปรับกระจกข้างให้ขึ้น-ลงสะดวก แต่กลับไม่ยอมพูดถึงการปรับเครื่องยนต์กับเกียร์ให้ทำงานตอบสนอง

ผู้บริโภคให้ดี ทั้งที่เป็นเรื่องเล็กนิดเดียว

ฮอนด้าถึงกับบอกไปทางผู้บริโภคเช่นคุณสุวัฒน์เลยทีเดียวว่า ต้องนำรถเข้าไปรับการปรับตั้งรอบเดินเบา ทั้งที่รอบเดินเบาหาได้เกี่ยวข้องอะไรกับคันเร่งเลยแม้แต่น้อย

คุณคิดอะไรของคุณกันอยู่ครับนี่

จะดูหมิ่นดูแคลนผู้บริโภคของคุณไปถึงไหนหรือครับ

ประการต่อไปก็คงอย่างที่คุณสุวัฒน์ว่านั่นแหละครับ คือเมื่อไม่มีใครทำ เราก็ทำเสียเองก็แล้วกัน ไหนๆ เราก็บอกตัวเองแล้วว่า เราจะรับใช้สังคม

ก็บอกเอาไว้ตรงนี้เลยละครับว่า หากท่านไปซื้อรถใช้แล้วที่ไหนมาก็ตาม ลงว่าเป็นรถยนต์ที่ใช้คอมพิวเตอร์ควบคุมการทำงานของเครื่องยนต์และเกียร์อัตโนมัติ ก่อนจะขับรถคันนั้นออกจากที่ซื้อหลังลองรถพอใจแล้วก็ขอให้ถอดขั้วแบตเตอรี่ออกสักนาทีสองนาที จากนั้นใส่เข้าไปใหม่แล้วบิดสวิตช์กุญแจไปที่ ON ไม่ต้องสตาร์ตเครื่อง

เหยียบคันเร่งลงให้สุด ปล่อยแล้วเหยียบเบรกลงให้สุด ปล่อยบิดสวิตช์กลับมาที่ OFF ก่อนสัก 10 วินาทีค่อยติดเครื่องขับรถออกไปในระยะทางไม่เกิน 20 กิโลเมตร คอมพิวเตอร์จะเรียนรู้และปรับการเปลี่ยนเกียร์ให้เหมาะกับการขับขี่ของท่านเอง และจะเริ่มทำงานสอดคล้องกับการขับขี่ของท่านไปจนราว 50 กิโลเมตร ก็จะจำเอาไว้ได้หมดว่าท่านมีพฤติกรรมการขับขี่อย่างไร และจะตอบสนองความต้องการของท่านได้อย่างดีที่สุด

หากท่านไม่เคยทำมาก่อน ลองทำดูเมื่อมีโอกาสครับ หากเห็นผลก็ดีไป หากไม่เห็นผลก็อาจจะเป็นด้วยว่าผู้ขับคนก่อนขับรถในลักษณะเดียวกันกับท่านอยู่แล้ว ซึ่งก็ไม่ผิดอะไรไม่ใช่หรือครับกับการเสียเวลาเพียงไม่ถึง 5 นาที

ให้โอกาสรถยนต์เรียนรู้การขับขี่และความต้องการของท่านกันสักหน่อยครับ

ธเนศร์ เสนีวงศ์ ณ อยุธยา


:)  ผมก็ได้คำแนะนำจากน้าหมูนี่แหละครับ เรื่องอู่ทำเกียร์ดีแบบรับประกันด้วยครับ  ทำออกมาดีครับมากครับ


หัวข้อ: Re: อาการเกียร์หลังซ่อมจากเกียร์พัง
เริ่มหัวข้อโดย: max 55 ที่ 11 กันยายน 2009, 21:42:09
เเล้ว วิธีเเบบนี้ ใช้ ได้ กับ รถ ที่มี กล่อง ecu เเละ เกียร์ ออโต้ ทุกรุ่น ป่าวอะคร๊าบ
ขอบคุณมากคับ


หัวข้อ: Re: อาการเกียร์หลังซ่อมจากเกียร์พัง
เริ่มหัวข้อโดย: 363669 ที่ 01 ตุลาคม 2009, 21:02:24
รถผมเป็น ซีวิค เกียร์ธรรมดา ครับ รอบเดินเบาต่ำไปหน่อย ประมาณ 700 ทำให้เวลา ออกตัวมักจะดับบ่อย เพราะ เลียคลัท ไม่พอ พอมีวิธีแก้มั๊ยครับ