|
หัวข้อ: ชาร์ฟละลายเพราะไม่ใส่ ถังไอดีน้ำมันเครื่อง เป็นเรื่องจริงไหม เริ่มหัวข้อโดย: pimarn ที่ 26 กุมภาพันธ์ 2014, 19:21:27 เครื่องผมพังเพราะ ชาร์ฟละลาย ไปอ่านในเว็บๆหนึ่งที่ขาย ถังดักไอ เค้าว่าแบบนี้
ถังดักไอน้ำมันเครื่อง ใส่แล้วมีประโยชน์ ยังไง ถ้าอยากเพิ่มประสิทธิภาพของเครื่องยนต์ หน้าที่ของถังดักไอน้ำมันเครื่องที่มาจากท่อบนฝาสูบ หรืองยนต์เข้าท่อไอดี เมื่อเครื่องยนต์มีความร้อนสูง น้ำมันเครื่องจะร้อนจัด ทำให้บางส่วนเกิดการระเหยเป็นไอน้ำมันเครื่องไหลไปตามท่อผ่านเข้าสู่ท่อไอดี ถังดักไอน้ำมันเครื่องจะลดปริมาณไอน้ำมันเครื่องที่ผ่านเข้าสู่ท่อไอดี โดยทำให้ไอน้ำมันเครื่องจับตัวอยู่ในถังดักไอน้ำมันเ ครื่อง เหลือเพียงบางส่วนไหลเข้าท่อไอดี การที่ไอน้ำมันเครื่องไหลเข้าไปเผาไหม้จำนวนมาก ทำให้ประสิทธิภาพเครื่องยนต์ลดลง เพราะเครื่องยนต์+น้ำมันเครื่อง เมื่อร้อนจัด ก็เหมือนน้ำร้อนที่ต้องมีการเดือด พอเดือดแล้วก็กลายเป็นไอ แต่มันไม่มีทางออก ไอน้ำมันเครื่องก็จะชนกับฝาครอบวาล์ว แล้วรวมตัวกันเป็นหยดน้ำ ลงมาผสมกับน้ำมันเครื่อง (น้ำ+น้ำมันเครื่อง) แล้วมันจะทำให้คุณสมบัติการหล่อลื่นลดลงนั่นเอง เพราะถ้ามีน้ำผสมอยู่ในน้ำมันเครื่องบางจังหวะ ที่หล่อลื่นไปโดนเพลาข้อเหวี่ยง อาจทำให้การหล่อลื่นจุดนั้นขาดหายไป(เพราะไปเจอเจ้าน้ำ แทนน้ำมันเครื่อง) เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ ชาร์ฟ ละลายได้นั่นเอง เมื่อน้ำมันที่ฝาครอบวาล์วมันเยอะ ตรงลิ้นปีกของเรามันมีไอน้ำมันเยอะ ฝุ่นเล็กๆน้อยๆเล็ดรอดผ่านกรองไปได้แล้วมันจะเกาะตัว กับน้ำมัน เมื่อนานวันเข้าจะเข็งและเป็นก้อนใหญ่ แล้วจะทำให้ท่อร่วมไอดีรูเล็กลงเพราะพวกนี้จับที่พนังเยอะมาก รถที่ใช้รอบเครื่องยนต์สูงๆ ความร้อนที่สะสมในเครื่องย่อมสูงกว่ารถที่ใช้รอบเครื่องยนต์ปกติ เมื่อมีความร้อนสะสมในเครื่อง ก็จะทำให้เกิดแรงดันภายในห้องเครื่อง ทำให้ประสิทธิภาพของเครื่องยนต์ลดลง แรงดันน้ำมันที่มีมาก ระบายออกทางท่อที่ทำไว้ไม่ทัน ก็จะหาทางออกทางอื่นแทน ทำให้น้ำมันเครื่องหายไปหรือว่าลดลง แต่ถ้าเราลดแรงดันภายในห้องเครื่องได้ เท่ากับว่าเราลดการสูญเสียน้ำมันเครื่อง หรือมีสูญเสียแต่สูญเสียในอัตราที่น้อยมากๆ เมื่อเราลดแรงดันในห้องเครื่องได้แล้วผลที่ตามมาคืออะไร 1.น้ำมันเครื่องของเราไม่หายไป (อาจจะหายไปบ้างเล็กน้อย อันนี้ขึ้นอยู่ที่หลายปัจจัย) 2.รอบเครื่องยนต์เบาลงกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัด 3.รถของเรามีกำลังมากกว่าเดิม เพราะไม่มีแรงต้านในเครื่องยนต์ 4.อัตราเร่งดีกว่าเดิม 5.ยืดอายุของกรองอากาศไม่ให้อุดตัน เพราะกรองอากาศของเราเป็นกระดาษ เมื่อไอน้ำมันจากเครื่องมาที่กรองอากาศ ฝุ่นที่ผ่านกรองอากาศก็จะรวมตัวกับน้ำมันนานวันจะกลา ยเป็นกำแพงอย่างดีทำให้ลดปริมาณอากาศไหลเวียนได้น้อย หรือที่เราเรียกกันว่า “กรองตัน” นั่นเอง เมื่อติดตั้งถังดักไอน้ำมันเครื่องแล้ว จะทำให้เกิดผลอะไรขึ้นบ้าง 1.ระบบการทำงานของเซ็นเซอร์และกล่องทำงานได้ไม่ผิดเพี้ยน 2.ไม่มีสิ่งสกปรกเข้าไปในช่องท่อไอดี และห้องเผาไหม้ ทำให้เครื่องยนต์เผาผลาญพลังงานได้สมบูรณ์ อีกทั้งน่าจะยังช่วยประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงได้ด้วย http://www.siam-motorsport.com/product/198796/ถังดักไอน้ำมันเครื่อง-CUSCO-พร้อมสายท่อรัด-อุปกรณ์ติดตั้งครบชุด.html หัวข้อ: Re: ชาร์ฟละลายเพราะไม่ใส่ ถังไอดีน้ำมันเครื่อง เป็นเรื่องจริงไหม เริ่มหัวข้อโดย: Sitti2519 ที่ 26 กุมภาพันธ์ 2014, 23:36:38 คือมันยาวมาก ผมยังไม่ได้อ่านนะ แต่การที่มันละลายคือเครื่องร้อนเกินไป ระบายความร้อนไม่ดี น้ำมันเครื่องเสื่อมสภาพแล้ว ถ่ายน้ำมันเครื่องช้าเินกว่ากำหนด น้ำมันเครื่องเหนียวข้นเกินไปเพราะความร้อน เหนียวเป็นก้อนๆยาง หมดสภาพ
หัวข้อ: Re: ชาร์ฟละลายเพราะไม่ใส่ ถังไอดีน้ำมันเครื่อง เป็นเรื่องจริงไหม เริ่มหัวข้อโดย: pimarn ที่ 26 กุมภาพันธ์ 2014, 23:46:41 สรุป ถังดักไอมีประโยชน์ จริงเปล่าหนิ ซื้อมาแล้วด้วยสิ แต่ไม่รู้ใส่ยังไง - -"
หัวข้อ: Re: ชาร์ฟละลายเพราะไม่ใส่ ถังไอดีน้ำมันเครื่อง เป็นเรื่องจริงไหม เริ่มหัวข้อโดย: Sitti2519 ที่ 27 กุมภาพันธ์ 2014, 00:04:46 รถผมไม่เห็นมีนะไอ้ถังดักไอนี่ ก็ไม่เห็นมีปัญหาอะไร
หัวข้อ: Re: ชาร์ฟละลายเพราะไม่ใส่ ถังไอดีน้ำมันเครื่อง เป็นเรื่องจริงไหม เริ่มหัวข้อโดย: Sitti2519 ที่ 27 กุมภาพันธ์ 2014, 00:07:45 ท่อร่วมไอดีก็ไม่มีไอเปียกแฉะครับ แห้งมากกว่าเปียก
หัวข้อ: Re: ชาร์ฟละลายเพราะไม่ใส่ ถังไอดีน้ำมันเครื่อง เป็นเรื่องจริงไหม เริ่มหัวข้อโดย: Notesamit ที่ 27 กุมภาพันธ์ 2014, 00:09:23 http://www.welovecivic.com/forum/index.php?topic=120944.0
หัวข้อ: Re: ชาร์ฟละลายเพราะไม่ใส่ ถังไอดีน้ำมันเครื่อง เป็นเรื่องจริงไหม เริ่มหัวข้อโดย: pimarn ที่ 27 กุมภาพันธ์ 2014, 00:45:15 อ๋อ กระจ่ายเลย ทีนี้ โดนไปพันกว่า 555
หัวข้อ: Re: ชาร์ฟละลายเพราะไม่ใส่ ถังไอดีน้ำมันเครื่อง เป็นเรื่องจริงไหม เริ่มหัวข้อโดย: Regis100 ที่ 02 มีนาคม 2014, 21:57:07 อ่านๆไปแล้ว
ตอบไม่ตอบดีล่ะเนี่ย :-[ :-[ :-\ :-\ หัวข้อ: Re: ชาร์ฟละลายเพราะไม่ใส่ ถังไอดีน้ำมันเครื่อง เป็นเรื่องจริงไหม เริ่มหัวข้อโดย: Sitti2519 ที่ 03 มีนาคม 2014, 06:27:42 อีกนิดครับ คำว่าชาร์ฟ เรียกตามภาษาอังกฤษว่าแบริ่ง ชาร์ฟอกคือแบริ่งเพลาข้อเหวี่ยง ชาร์ฟก้านคือแบริ่งก้านสูบ ไอ้สองตัวนี้ ปกติแล้วมันอยู่ในห้องแคร้งค์ หรือนอนแช่ในอ่างน้ำมันเครื่องอยู่แล้ว มันต้องการน้ำมันเครื่องไปชโลมหล่อเลี้ยงโดยตรง ไม่ได้ต้องการไอน้ำมันเครื่องแต่อย่างใด การที่จะใส่ถังดักไอน้ำมันเครื่องเข้าไปภายนอกห้องเพลาข้อเหวี่ยง แล้วมาบอกว่ามันช่วยไม่ให้ชาร์ฟละลาย ผมไม่เห็นว่ามันจะมีส่วนเกี่ยวข้องกันตรงไหน จะละลายหรือไม่ละลายอยู่ที่ผมได้กล่าวไว้แล้วแต่ต้น ส่วนอาการชาร์ฟละลายบางท่านที่ไม่ใช่ช่างอาจจะไม่เข้าใจ อาจจะนึกภาพไปว่ามันคงจะละลายจนหลอมเหลวไปเลย (แต่ก่อนผมก็เข้าใจอย่างนั้น) ความเข้าใจที่ถูกต้องน่าจะเป็นที่ผิวสีเงินที่เขาเคลือบไว้ที่ตัวแบริ่งนั้นมันเป็นรอยขูด ลอกหลุดออกไปจนเห็นผิวสีทองแดงของเนื้อแบริ่ง ถ้าขืนใช้ไปมันก็จะอาจไปกินเพลาข้อเหวี่ยงได้ ทำให้เพลาสึก หลวมได้ ส่วนจะร้อนจนถึงขั้นติดไหมไม่แน่ใจ ขึ้นอยู่กับความเหนียวข้นของน้ำมันหล่อลืน กับระบบระบายความร้อนว่ารถของท่านสภาพดีแค่ไหน
หัวข้อ: Re: ชาร์ฟละลายเพราะไม่ใส่ ถังไอดีน้ำมันเครื่อง เป็นเรื่องจริงไหม เริ่มหัวข้อโดย: Sitti2519 ที่ 03 มีนาคม 2014, 06:35:02 เมื่อกี้อ่านจบแล้ว สิ่งที่เขาว่ามาในรถผมไม่มีถังดักไอน้ำมันเครื่องนะ น้ำมันเครื่องผมก็ไม่มีน้ำปนอย่างที่เขาอ้างมา น้ำมันเครื่องไม่เคยหาย ภายในท่อร่วมไอดีไม่มีคราบเหนียวเกรอะกรังอย่างที่เขาว่ามา ตอนที่ถอดลิ้นออกมาล้างน่ะนะดูประจำ ยืนยันว่าแห้งสนิท มีแต่คราบเขม่าดำๆเป็นผงแห้งๆ ส่วนชาร์ฟคงไม่ละลายมั้ง เพราะไม่เคยรื้อมาแกะดู
หัวข้อ: Re: ชาร์ฟละลายเพราะไม่ใส่ ถังไอดีน้ำมันเครื่อง เป็นเรื่องจริงไหม เริ่มหัวข้อโดย: jkung_27 ที่ 03 มีนาคม 2014, 18:04:19 ถังดักไอน้ำมันเครื่องหน้าที่หลักของมันคือ ดักไอน้ำมันเครื่อง ที่ฝาครอบวาวล์ ก่อนที่จะถูกดูเข้าไปเผาไหม้ และ ลดคราบน้ำมันที่จะเกาะติดเซ็นเซอร์ต่างๆ ครับ ส่วนใหญ่รถแข่งเขาจะใส่กันครับ แต่เดี๋ยวนี้ไม่ใส่แหละ เปิดใส่กรองจิ๋ยวกันหมด
รถที่วิ่งไม่รากรอบ จะไม่ค่อยเจอครับ กว่าจะเจอก็นานเป็นปี แต่รถที่รากรอบ วิ่งรอบเดียวก็เกาะทางเดินไอดีแว้วครับ แต่มันก็ไม่เกียวอะไรกับชาฟอีกเหมือนกัน คนละเรื่องเดียวกัน แบบว่า ท่อนบน กับ ท่อนล่าง เลย....... สาเหตุที่ชาฟ พัง หลักๆคือ น้ำมันเครื่องทนความร้อนไม่ไหวแล้วเกิดความเหลว หมดสภาพการหล่อลื่น ชาฟมันก็จะพังครับ หลักนะ ใครที่ชอบรากรอบ 8000 - 8500 แล้วท่อนล่างเดิม ในเครื่อง d ระวังไว้ครับ 7500 -7800 ยังพอทนครับ หรือ พูดง่ายๆว่า 5% ของที่โรงงานตั้งมา |