:::CIVIC CLUB THAILAND:::

สวัสดีอีกครั้งครับ welovecivic  :-*

มีเรื่องไม่ค่อยสบายใจเกีี่ยวกับ B20B + LPG (หม้อน้ำเดิม) มาปรึกษาหน่อยนึงครับ
สืบเนื่องจากปีที่แล้ว ได้เปลี่ยนวาล์วน้ำกับฝาหม้อน้ำไป เนื่องจากน้ำมันดัน
ออกมาที่หม้อพักนี่แหละครับ อาการหายไป (เหลือเพียงฟองเล็กๆ )

มาปีนี้ ลงทุนไปกับหม้อน้ำอลูมิเนียมกริ๊บๆ (ขับขี่ใช้งานปกติ 80-120 km/h ) ;)
ผลที่ได้ก็คือ ความร้อนแบบนิ่งๆ น้ำเข้าเครื่องเข็มอยู่ที่ ตำแหน่งปกติกลาง ไม่มีสวิง
ส่วนน้ำออกเครื่อง 85-95 องศาขณะวิ่ง / รถติดนานๆมี 100 ครับ (ตามเกจวัดเเยก)

วันนี้หลังจากขับไปมาสัก 20 กม. กลับมาจอดเลยลองเปิดฝากระโปรงดู
เห็นหม้อพักมีน้ำเดือดปุดๆเลยครับ เลยทิ้งให้เย็นแล้วกลับไปเช็ค น้ำในหม้อพักยังเท่าเดิมครับผม
(เดือดครั้งนี้มันต่างจากตอนวาล์วน้ำตาย  คือ มันไม่ได้ดันออกมาน่ะครับ )

เลยมีข้อสงสัยอยู่เล็กๆ ว่าผมมองข้ามจุดไหนไปรึเปล่าครับ ?
เท่าที่ลองหาอ่านในเว็บมา คิดว่าทำไปซะขนาดนี้ ปัญหามันน่าจะจบไปน่ะครับ
ความร้อนปกติ แต่มันยังเดือดนี่สิ - -"

รบกวนมืออาชีพทั้งหลายชี้แนะด้วยขอรับ อิอิ :-*

ถ้ามีฟองอากาศในตอนติดเครื่อง  เปิดฝาม้อน้ำอะนะ   ประเก็นฝาอาจรั่วหรือไม่ก็ฝาโก่งแล้วคับ

ฝาหม้อน้ำ กี่ bar ครับ 1  หรือ 0.9
ถอดวาวล์น้ำออกก็ใด้ครับ  จริงมันไม่ควรถอด แต่ปัญหาแบบนี้คงไม่ต้องคุมอุณหภูมิก็ใด้มั้ง :-[

ปัญหานี้ผมเคยพบปะมาแล้ว นั่งคิดตั้งนานว่าเกิดไร ผมไล่มาตั้งแต่
เปลี่ยนวาล์วน้ำ เปลี่ยนฝาหม้อน้ำ ล้างแยงหม้อน้ำ เปลี่ยนน้ำยาหม้อน้ำใหม่
เปลี่ยนเซ็นเซอร์ความร้้อนหม้อน้ำ .....เหนื่อยใจมากน้ำมันป้วนออกมาใหม่ แรกๆ
มันก็ป้วนในหม้อพักในหละครับ นานไปมันจะเริ่มทะลักออกมาจากหม้อพักทำให้
คนขับรถ EK อย่างผมงงเป็นไก่ตาแตกว่าเกิดอะไรขึ้น

ผมหาวิธีการ Modified ระบบหม้อน้ำกะว่าจะไม่ใส่เทอร์โมหม้อน้ำปล่อยให้
มันไหลผ่านไปไม่ต้องให้ระบบมันไหลผ่านเหมือนแม่น้ำไหลผ่านไป งงหายนะ
คิดว่างั้น แต่ก็มานั่งคิดว่ารถยนต์มันทำระบบให้ปิด เปิดน้ำในระบบของมันอยู่แล้ว
เพื่อให้การทำงานของมันสมดุลกับเครื่องยนต์ เลยมาหาวิธีว่า เอาแค่เจาะรูเล็กๆ
ตรงวาล์วน้ำดีกว่า  ......โอ้ไม่หายครับท่าน มึนตรึบ  ปวดตับเลยคราวนี้....น้ำในหม้อพักเดือดบ้างไม่เดือดบ้าง
นึกในใจหละกูคราวนี้ ฝันที่เป็นจริงมาถึงแน่ๆ คราวนี้ต้องได้เปิดฝาสูบแน่ตรู....ในใจคิดว่า
น่าจะใช่

เลยตัดสินใจครับ หาอู่ที่ทำงานนี้ดีๆ เพราะต้องใช้ฝีมือ ปรกติทำรถเอง ช่างแทบไม่รู้จัก แต่ถ้าเป็นในระดับเครื่องยนต์
เกียร ไม่ไหว ต้องใช้เครื่องมือหนัก ความชำนาญมาก .....

ก็สรุปนะครับ (อธิบายซะยาว เผื่อจะเหมือน จขกท จะมองเห็นภาพของกรณีผม )  เปิดฝาสูบดูตาเปล่าไม่เห็น มันโก่งนะครับ
โกงไม่มาก ประเก็นฝาสูบไม่ขาด ก็เลยปาดฝาสูบเปลี่ยนกระเก็นฝาสูบ........จบกันมันคงลิขิตให้เราได้พบกัน มันอยากให้เรา
เห็นว่าเกิดมาเป็นฉัน(เครื่องยนต์) มันเหนื่อยแค่ไหน 55555555  ขำๆนะครับไม่มีไร

สรุปชัดๆ อาการน้ำเดือดที่หม้อพักน้ำในกรณ๊ผม ฝาสูบโกงเล็กน้อย ....รักษาโดยปาดฝา เปลี่ยนกระเก็น ....หายขาดทุกวันนี้
            เข็มนิ่งไม่มีกระดิกน้ำเดือดในหม้อพัก ปุดๆ ! อย่างที่เจ้าของกระทู้ 
            ลองดูนะครับ ผมเป็นอาการนี้ แก้ไขอย่างนี้ มันจบครับ......จขกท ถ้าถึงต้องเปิดฝานะครับ แนะนำให้เปลี่ยนลูกลอก
            ปั๊มน้ำ สายพาน สายพานไทม์มิ่ง  ยางหมวกวาล์วที่ฝาสูบหรืออื่นๆที่เกี่ยวข้องเลยนะครับ ไหนๆก็เปิดฝาหล่ะ


           ไม่เชื่อ มีรูปมาให้ดู ไม่ได้โม้  ;D ;D ;D ;D ;D  โชคดีครับ ให้ไว้เป็นข้อมูล
             

ฝาหม้อน้ำ 1.1 ครับผม  8)

แหม่ ชอบคำนี้ครับ "ฝันที่เป็นจริง" 555 ;D
กังวลอยู่เหมือนกันครับ ที่สุดท้ายแล้วจะต้องจบที่ฝาสูบ
เพราะปลอบใจตัวเองมานาน ว่ามันคงไม่ใช่ 555

ด้วยประสบการณ์เล็กๆน้อยๆจากการดูแลคุณภาพชิ้นส่วนเครื่องยนต์ ของค่ายรถยนต์ค่ายหนึ่ง
เจ้าฝาสูบเนี้ย ถ้าจะมองด้วยตาเฉยๆมันตัดสินยากอยู่เเล้วน่ะครับ งานแมชชีนมันต้องตัดสินด้วยเครื่องมือวัดครับ อิอิ
เลยไม่อยากเข้าไปให้อู่เช็ค กลัวโดน ! อยากทำเอง เช็คเอง แต่ไม่มีเครืี่องมือครับ 555
แต่ก็ตามสภาพครับ รถใช้งานมานานหลายสิบปี ปัจจัยด้านความร้อน อาจจะส่งผลให้งานอลูมิเนียมเสียรูปได้
ไม่ว่ามันจะเคยฮีทมาหรือไม่ อีกชิิ้นหนึ่งคือปะเก็น พวกนี้มันมีอายุน่ะครับ ตอนนี้มันคงบอกว่าใช้ตูคุ้มล้ะ เปลี่ยนเห้อ >:(

แล้วจะหาเวลาไปเช็คดูครับ
ที่มันแค่เดือด แต่ไม่ดัน ถ้าใช้แบบนี้ไปสักสองสามสัปดาห์มันจะไหวไหมครับ ?!
(แต่เมืี่อสามวันก่อนขับมาจากเชียงใหม่ มาบางแสน คิดว่ามันคงจะเดือด
แต่มันไม่ดันออก มาถึงที่น้ำในหม้อพักก็ไม่ลด ) ก็เลยคิดเองนะ ว่าคงได้อยู่นะ
ถ้าจะขับกลับเชียงใหม่ช่วงสงกรานต์นี้ อิอิ  :-\

ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาตอบครับผม

ประเก็นฝาสูบป่าวครับ
ผมเปลี่ยนมาหายครับ

อาการแรกที่เกิดนะครับ ของผมมันจะค่อยๆมีฟองอกาศอย่างนี้แหละ
ผมใช้วิธีล้างหม้อน้ำประทังไปก่อน มันก่อใช้ได้นะครับ แล้วอาการมันจะค่อยๆ
รามขึ้นครับ คือ มันเตือนคุณแล้ว  จากนั้นจากกลายเป็นฟองซึ่งยังไม่เดือด คือ
แรกๆมันป้วนออกมาก่อน แล้วสักระยะก็จะดันน้ำในหม้อน้ำออกมาร้อนจี๋ ไอร้อนตรึม

ระยะทางไปเชียงใหม่ไกลมากโข....บวกกับอากาศร้อนมากมาย ผู้คนอยากสุขีสโมสร
กลับบ้านไปหาญาต ทำให้รถเต็มถนนมากบานตะไท.   เพื่อน คิดดูครับรถติดแน่ๆ น่ากังวลครับ ถ้ายังไม่อยากเสียเงิน
ในช่วงก่อนสงกรานต์แนะนำเดินทางตอนกลางคืนนะครับ อากาศร้อนตอนกลางวัน
เดี๋ยวเครื่อวฮีท เสียระหว่างทาง ท่านจะต้องจ่ายค่าซ่อมแพงกว่า ในระยะเวลาปรกติเสีย
อีก ผมเคยเจอมาแล้วครับ.....เปลี่ยนประเก็น ปาดฝาสูบน่าจะจบ โชดดี

อาการเหมือนกันเลย เสียตังอีกแว้วววว :( :(

ค่าปาดฝา+ค่าปะเกนเท่าไหร่ครับ

ปาดฝาอย่างเดียว 5-6ร้อยครับ ปะเก็นแท้เบิกศูนย์ พันกว่าบาท

ปาดฝาที่ไหนหรอครับ

มาอัพเดทนิดนึงครับ !
ถึงเวลาพบหมอแล้วครับอาการนี้ จากเดิม"น้ำหม้อพัก"หายอย่างเดียว
พักหลัง"น้ำหม้อน้ำ"หายไปด้วย วิง่แค่สามสิบกิโล ถึงมันจะไม่ฮีท แต่ก็ไม่ค่อยสบายใจเลย
อีกอย่าง น้ำมันเครื่องเริ่มลอยเต็มหน้าคอหม้อน้ำเลย หม้อพักน้ำก็เช่นกัน ขุ่นทีเดียว
ไหนๆก็ไหนๆแล้ว คนบ้านไกลด้วย เพื่อความสบายใจ และสบายกระเป๋า  8)

เมื่อวานนี้ฝากฝังไว้กับ ช่างเอก Tuned by eak เรียบร้อยแล้วครับ  เย็นนี้จะแวะไปดูอาการหน่อย
ฝันเป็นจริงแล้วครับ ฮ่าๆ :-[

ว่าหละ  ;) ;) ;) ;) ;)

ใช้มา 5 ปีแล้วครับผม
โดยส่วนตัวคิดว่าไม่โก่งนะครับ อาจเป็นแค่ปะเก็นรั่ว ล้างหน้าฝานิดหน่อยก็หายครับ
แค่อยากสบายใจตอนขับกลับเหนือน่ะครับ  ^^

ฮ่าๆๆ  น่าจะช่วยให้หายเครียดได้เยอะครับ ;)
ขอบคุณนะครับ สำหรับ case study ดีๆ

รถติดแก๊สหรือป่าวครับ

ประเก็นมีตั้งแต่700ขึ้นไปคับเกรดดีๆก็1200...ค่าแรงช่างไม่น่าเกิน1500..ปาดฝา300..ให้โรงกึงเช็กก่อนนะคับว่าโก่งมั้ยไม่โก่งไม่ต้องปาดหรอกคับถ้าไม่เคยฮีตไม่น่าโก่ง..โอลิงฝาวาล์ว150..ดูไทม์มิ่งทีเดวเลยก็ดีคับ..ประเก็นไอดีไอเสีย150..ตั้งวาล์วด้วยก็ได้300...ทำหมดนี่หายแน่ๆคับ..สุ้ๆ :)

มาอัพเดตครับ
วันนี้เย็นแวะไปดูมา เสร็จเรียบร้อยแล้วครับ อาการก็ตามที่คิดไว้ครับ
เหลือรอไปรับพรุ่งนี้ ให้พี่เอกลองวิ่งทดสองดูก่อนครับผม
เดวพรุ่งนี้หลังจากได้ลองแล้ว จะมาแชร์รายละเอียดอื่นๆเพิ่มเติมครับ ^^

ปล.ไม่แน่ใจว่าต้องไปจูนแก๊สใหม่ไหมครับ ท่านใดมีประสบการณ์รบกวนชี้แนะครับผม