:::CIVIC CLUB THAILAND:::

พอดีเพิ่งได้รถมา 1 คันครับเป็น civic coupe ปี 2000 เครื่องเดิมเกียร์ออโต้เดิม เลขไมล์สองแสนกว่า ๆ แล้ว
ปัญหามีอยู่ว่าหลังจากรับรถมาแล้วสังเกตุเห็นคราบน้ำมันหยดที่ใต้เครื่องซึ่งมีอยู่ 2 จุด หลังจากให้พี่ที่รู้จักกันช่วยดูให้พี่เค้าก็ประเมินคร่าว ๆ ให้ว่าน่าจะเป็นที่ซีลหัวเพลาและซีลท้ายอ่าง (น้ำมันเกียร์, น้ำมันเครื่อง)

หลังจากทราบปัญหาคร่าว ๆ ก็ได้ตัดสินใจเอารถไปเปลี่ยนซีลเกียร์ที่อู่แห่งหนึ่งซึ่งเท่าที่ลองหาข้อมูลดูก็เห็นว่ามีคนแนะนำ ดูมีความน่าเชื่อถือ ที่สำคัญคืออยู่ใกล้ที่ทำงาน กะว่าตอนเช้าเอารถไปทิ้งไว้ ตอนเย็นแวะมาเอารถก่อนกลับบ้าน สุดท้ายคุยกับอู่สรุปว่าจะเปลี่ยนซีลเกียร์ทั้งหมด สรุปค่าใช้จ่ายกันเรียบร้อยผมก็ทิ้งรถไว้และกลับมาทำงาน ในส่วนของค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนซีลทางเต็นท์ที่ซื้อรถมาเค้าก็รับผิดชอบให้ครับ แต่เค้าบอกตอนอยู่กับเค้ามันไม่เป็นไรนะ

พอช่วงบ่ายโทรไปเช็คว่ารถเรียบร้อยรึยัง ปรากฏช่างบอกว่ากำลังลองขับอยู่รถน้องเกียร์ไม่ดีนะ มันวืด ๆ เร่งแล้วไม่ไปอาการเหมือนเกียร์พัง เค้ากำลังประคองกลับอู่ ผมก็อึ้งไปเลยครับเพราะตั้งแต่ไปรับรถมาและใช้งานมาประมาณ 2 อาทิตย์ก็ไม่มีปัญหาอะไร เกียร์ยังใช้งานได้ตามปกติ ไม่เคยมีอาการวืดหรือต้องรอหลังจากเปลี่ยนเกียร์

สรุปแล้วช่วงบ่ายผมก็เลยเข้าไปที่อู่ สรุปล่าสุดรถผมเข้าเกียร์ R ไม่ได้ รถไม่ขยับ พอขยับมาเป็น D4 ก็กระตุกอย่างแรง ช่างบอกว่าอาการเหมือนเกียร์ 3-4 จะพังซึ่งมันพ่วงกับเกียร์ R ด้วย เค้าบอกว่ารถวิ่งได้แค่ประมาณ 60 พอจะตัดเป็นเกียร์ 3 มันก็จะวืดแล้วเร่งไม่ไป สรุปว่าต้องโอเวอร์ฮอลเกียร์

ตัวผมก็เครียดเลยครับเพราะไม่คิดว่าจะมีปัญหาแบบนี้ ช่างบอกว่ายกเกียร์ลงมาเปลี่ยนซีลแล้วยกกลับเข้าไป ไม่ได้รื้ออะไรทั้งสิ้น ส่วนผมเองก็ลองโทรหาเต็นท์ที่ซื้อรถซึ่งแน่นอนครับเค้าก็บอกว่าถ้ารถที่เกียร์มีปัญหาเค้าไม่ซื้อเข้าเต็นท์แน่นอนเพราะเค้ามีช่างคอยเช็ครถทุกคัน สรุปว่าเค้าไม่รับผิดชอบอะไร

ทีแรกผมกะว่าจะไปเอารถกลับแล้วค่อยให้พี่ที่รู้จักกันช่วยดูให้อีกทีแต่สุดท้ายเกียร์ถอยหลังก็ใช้ไม่ได้แบบนี้ยังไงก็คงเอากลับไม่ได้เพราะจะถอยเข้าบ้านก็คงทำไม่ได้ สุดท้ายก็คงต้องโอเวอร์ฮอลที่อู่นี้เพราะไม่มีทางเลือก

สุดท้ายจากที่แค่จะเปลี่ยนซีลเพื่อแก้ปัญหาน้ำมันหยดกลายเป็นต้องโอเวอร์ฮอลเกียร์ใหม่ทั้งลูก โดยที่ก็ยังไม่แน่ใจว่าปัญหามันเกิดจากเกียร์ไม่ดีอยู่แล้วหรืออะไร แต่เท่าที่ลองหาข้อมูลถ้ารถใช้มาแล้วสองแสนกว่าโลขนาดนี้ยังไงก็คงต้องถึงอายุของเกียร์อยู่ดี แต่ก็ยังสงสัยเพราะเท่าที่ขับอยู่ก็ไม่เคยมีปัญหาหรือมีอาการอะไรเลย ครั้นจะมองว่าช่างทำอะไรรึเปล่าก็พูดยากเพราะเค้าก็ยืนยันว่าแค่ยกลงมาเปลี่ยนแล้วก็ยกกลับเข้าไป สรุปถ้าเกียร์มีปัญหาจริง ๆ ก็ถือว่าผมซวยที่ไปจับรถมาในจังหวะที่มันกำลังจะเสีย หรือถ้าจะถูกวางยาก็เช็คไม่ได้อยู่ดี

ยังไงรบกวนพี่ ๆ ที่พอจะมีประสบการณ์ช่วยแนะนำด้วยนะครับ

ผมคิดว่าถ้าก่อนเข้าอู่มันขับปกติแล้วแค่น้ำมันหยด ถึงกับเกียร์พังเลยหรอ ของผม ตาโต97 ก็พึ่งทำไป
น้ำมันเกียร์หยด เปลี่ยนซีลเกียร์และหน้าเพลาทั้งหมดยังปกติเลย เช็คช่างดีๆนะคับเรื่องเกียร์นี่ืไม่ชำนาญจิง
อย่าไปยุ่งกับมันเชียว ยิ่งออโต้ด้วยนะ ฮอลเกียร์ทีนะ 18,000 เลย แต่ก็ใช้อีกยาว

ไปทำแถวไหนมาคับ จะได้แนะนำถูก

           รถผมตอนเครื่องเดิมก็ใช้มา 27x,xxx km แล้วยกลงขายให้น้อง เกียร์มันก็ไม่เป็นอะไรครับ ผมแปลกใจว่า เราเอารถมาใช้งานแล้วจะครึ่งเดือน พบแต่ปัญหาน้ำมันเยิ้ม แล้วอาการอื่นๆมีพบบ้างหรือเปล่าครับ เช้าๆเข้าเกียร์ยาก จังหวะที่เกียร์เปลี่ยนมันกระชากแรง พอเครื่องร้อนๆหน่อยวิ่งไปซักพัก จังหวะเปลี่ยนเกียร์ดีขึ้น  หรือว่า เวลาขับในเมืองนานๆ จอดบ่อย ดับเครื่อง ติดเครื่องบ่อย รู้สึกเหมือนเครื่องไม่มีแรง หรือเปล่าครับ คือทุกสิ่งทุกอย่างที่จะบอกไปถึงความเสียหายของรถ มันอยู่ที่ความรู้สึกที่เรารบรู้ได้จากการขับขี่ครับ เราสามารถแจ้งกับช่างได้ครับ เพื่อให้เขาวิเคราะห์อาการให้เราก่อนค่อยลงมือ แต่ถ้าบอกว่า เปลี่ยนซีลอย่างเดียวแล้วอาการออกแบบนี้ ตอนเปลี่ยนซีลเกียร์ต่างๆ ก็ต้องเห็นความผิดปรกติบ้างสิครับ ช่างซ่อมนะครับ ไม่ใช่ช่างเปลี่ยน และเปลี่ยนแล้วไม่หายนี่มันเกินที่เรา(เจ้าของรถ)จะรับได้ครับ
          ตอนนี้ผมเปลี่ยนเครื่องแล้ว(สามปี) ตอนใช้ถึง45,000 km. ผมก็เอารถเข้าอู่ดัง(ประมาณทำรถแข่งมาในอดีตเลย)ตอนนี้ก็ยังลงโฆษณาในหนังสือหลายๆเล่มอยู่) แต่ผลที่ได้ออกมาไม่เป็นที่น่าพอใจอย่างที่สุด แบบเสียความรู้สึกมากๆครับ ตอนเข้าไปเกียร์ใช้ไดปรกติ ตอนออกมาอาการ ไฟเกียร์D4 กระพริบ ตลอดเวลา และรถวิ่งได้ แค่สามเกียร์ รอบไปสี่ห้าพันแล้วยังวิ่ง 90 ผมเสียเงินไป 4x,xxx กว่าบาท เพื่อให้ได้รถออกมาแบบที่น่าผิดหวังมาก เขาบอกผมว่า น้อง เกียร์น้องเริ่มไปแล้วนะ ตอนถ่ายน้ำมันเกียร์ออกมาสภาพน้ำมันดูไม่ได้เลย เดี๋ยวพี่หาเกียร์ให้รวมค่าแรงชนเกียร์ให้ใหม่ 11,000 ผมเข่าแทบทรุดอยู่ที่อู่เลย ได้แต่ไปกดตังค์ที่เก็บมาสองปีหวังไว้เปลี่ยนเครื่องรอบต่อไป มาจ่ายซะ ทนวิ่งมาเกือบเดือน ไม่มีตังค์ไปทำต่อ สุดท้ายเปิดฝากระโปรงหน้าดู เห็ยปลั๊กตรงเสื้อเกียร์มันเสียบไม่สุด  ผมก็ดันเข้าจนสุด ดังกรึ๊บ อ้าวนี่มันเสียบให้เรายังไงหว่า เลยลองบิดกุญแจดู เฮ้ย D4 ไม่กระพริบแล้ว งง เลยลองขับดู อ้าวขับได้ปรกติเหมือนก่อนเอาเข้าไปทำเลย  ขอโทษครับ ผมเล่ามาซะยาวเลย  แต่ประสปการณ์แบบนี้ผมก็ไม่อยากให้เกิดกับเพื่อนสมาชิกเราครับ
     

โอเวอร์ฮอล์  เกียร์...18000... :o :o :o    ผมซื้อเชียงกง...b20b ออโต้ไฟฟ้า..6,500  ...พีอาร์ซี  หรือ พีซีอาร์ เนี่ยแหละ

รับประกันให้10 วัน  แถมปั้มเพาเวอร์ให้อีก.......ไม่ได้ต้องการอะไรนะครับ....

สำหรับผมยอมเสี่ยง ดีกว่าซ่อมครับ  เพราะราคาที่เพื่อนๆ  หลายๆ ท่านเคยโดนกันมา  18000-20000  เลยทีเดียว

ส่วนที่เพื่อนสมาชิกบอกเรื่องเสียบปลั๊กไม่สุด,,,,เยี่ยมเลยครับได้ประโยชน์เลยครับ..

#######ส่วนของน้องสมาชิกผมว่า....โอกาสพังมันคงถึงเวลาพอดีครับ...เพราะเจ้าของเดิม...ใส่มาตั้ง สองแสนกว่า กม,

และเราไม่รู้อยู่แล้ว ว่าเค้าตะบี้ตะบัน อะไรมาบ้าง...จะโทษเต้นท์ก็ไม่ได้ครับ...เพราะเค้าก็จับรถมาขาย...จะให้ผ่าพิสูจน์กัน

ยันใส้ในฟันเฟืองเกียร์,,ก็คงไม่ใช่....กลับกันเวลาเราจะซื้อ...จะบอกเต้นท์....พี่ชำแหละเครื่องดูหน่อย..เค้าก็คงไม่ยอม...

........สุดท้ายครับอยู่ที่เรา...จะ เปลี่ยนยกลูกแล้วเอา ลูกเดิมเก็บไว้เป็นที่ระลึก  ไว้ผ่าประกอบเล่นเองเวลาว่าง

หรือจะวัดใจ  โอเวอร์ฮอล์ใหม่....5555....ในเมื่อตอนเอาไปลองขับ..เรายังมั่นใจว่าของเราดีอยู่เลย..พอถึงมือหมอ..เจือกพัง

ถ้าไม่ไว้ใจก็เปลี่ยนอู่ครับ....ไม่อยากให้เกิดเหุตแบบเพื่อนด้านบน....ค่าแรงเสียบปลั๊ก..10000...แพงมากครับ

อย่ารีบร้อนหาข้อมูลเยอะครับ...สวัสดีครับ

รถเครืองระหัส อะไรคับ ไม่ต้องไปซ่อมหลอก หาคนยกลง ไม่กี่พัน  ซื้อเซียงกงไม่เกิน 8500 ก็ใช้กันจนลูกบวช ค่าแรง ยกขึ้นลงเกียร์ 1000 น้ำมันอีก  สองสามร้อย  เองคับ

ของผมซื้อรถเต้นมา 3 เดือนเชาปละลาย  หนักว่าเยอะคับ  555

ขอบคุณสำหรับทุกประสบการณ์และคำแนะนำนะครับ ของผม D16Y8 ครับ ตอนนี้ก็พยายามคิดว่ามันคงถึงเวลาของมันจังหวะที่มาอยู่กับเราพอดี

สุดท้ายผมตัดสินใจโอเวอร์ฮอลที่อู่นี้แหละครับ รับประกันให้ 1 ปี ค่าใช้จ่ายก็อย่างที่รู้ ๆ กัน ทั้งนี้ทั้งนั้นเพราะไม่อยากวัดใจกับเกียร์มือสองครับ ถ้าโชคดีก็รอดไป แต่ถ้าโชคร้ายอาจงานงอกอีก 2 เด้ง

สำหรับครั้งนี้ถือเป็นประสบการณ์ครั้งสำคัญครับ บางทีไม่แน่รถอาจมีอาการอะไรบางอย่างที่ผมอาจสัมผัสไม่ได้ หลังจากนี้จะใส่ใจและดูแลเค้าให้มากขึ้นครับ

ก็หลากหลายความคิดเห็นคับ แล้วแต่สมควร จะ วัดใจเอาระหว่างของมือสองที่ใช้มาอย่างไรไม่รู้ว่าจะพังเมื่อไหร่อีก
หรือของเดิมเอาไปซ่อมบางทีซ่อมก็อาจไม่คุ้มก็ได้ แล้วแต่งบด้วยคับ แล้วแต่ชอบกันล่ะคับพี่น้อง ;D ;D ;D ;D
ไม่ขอออกความคิดเห็นและ เดี๋ยวโดนพาดพิง :) :) :)

 ;D ;D ;D ;D รับประกัน 1 ปี คุ้มครับ ยังไงก็ดีกว่ามือสองครับ...

อย่างที่เพื่อนๆว่า แหละครับ...มือสองยังไงก็มือสอง...ไม่ว่าจะรถมือสองอย่างเราๆ  เครื่องมือสองอย่างเราๆ โดนเฉพาะ

บี20 ที่เครื่องเกียร์กล่อง กำลังระบาด หนักเวลานี้ 555 ผมก็หนึ่งในนั้น...เพราะราคาตัวอื่น...จบแบบดาวน์ป้ายแดงเลย..

ครับสุดท้าย...ผมว่าอยู่ที่ดวงล้วนๆ เลยครับ...โชคดี ก็ใช้กันยาว..ไม่ใช่ไม่มีนะครับ เพื่อนบางท่านได้รถ ดี 

และเพิ่มความเอาใจใส่...ขับกันหล่อๆ ยาวๆ เลย...แต่กลับกันโชคร้าย  ก็นอนอู่ยาวเช่นกัน...

สำหรับน้อง เจ้าท่านเจ้าของกระทู้..ผมแนะนำเพิ่มเติมครับ  ถ้ามีปัจจัย ที่จะซ่อม ทำผมแนะนำให้เอาให้จบทีเดียวครับเช็คไปเลย

แต่ถ้าพอซ่อมขับ ขำๆ  ก็ให้ใช้เวลาตรงนี้ คุยกับช่างตรงๆ ครับอนาคต จะมีอะไร พังอีกมั้ย  จะได้ทนุถนอม เค้า....ไม่ให้ไปก่อนเวลา

อันควร ครับ....ขอให้มความสุข กับการขับ Ek นะครับ..

 :) :) :) ตามนั้นเลยคับพี่

 :-* :-* :-*...ครับ..แชร์ประสบการณ์กันไปครับ...ยิ่งมความคิดต่างเท่าไร..ยิ่งเกิดความรู้กับท่านอื่นๆ ครับ..

ผมเคยครับ ก่อนเอาเข้าอู่ปกติ

ออกมาพัดลมหม้อน้ำไม่ทำงาน ไฟเอ็นชิ้นขึ้นแบบไม่ยอมดับกันเลยทีเดียว

 ;D ;D ;D

แต่ละความคิดเห็น ช่วยในการตัดสินใจนะคับ พี่ๆช่วยกันแนะนำด้วยคับ แต่ที่สำคัญต้องดีและประหยัดคับ   :) :) :)

เพือนผม เอาเกียร์ไป โอเวอร์ฮอลมา  3 รอบ พัง 3 รอบ ไปจบอู่ที่ 4  ทำเสร็จขายรถทิ้ง แต่ยี่ห้ออื่น นะ ฟรอด

ผมจึงไม่แนะนำให้โอเวอร์มัน  มือไม่ถึง อะไหล่ไม่แท้  ก็จบไม่สวย

ถ้าทำดีก็ดีไป


เล่าต่อ.....การรับประกันแบบไหนคับเอาให้เคลียนะ พังแล้วซ่อมรวมค่าแรงค่าอะไหล่หรือเปล่า

เพื่อนผมโดน ฟรีค่าแรง  เขาก็เบิกของใหม่ เราก็โดนชาจ   ประกันจริงแต่เราจ่ายเงินอีก  จบไม่ลงสุดท้ายต้องลากออก

แนะนำเผื่อเพื่อนๆท่านอื่นตัดสินใจ    ราคา มือสองบ้านเรา คนยกลงเล่น MT เยอะคับ 4000 หาได้ไม่ยาก งบขนาดนี้ซื้อมาได้ 3 ตัวเลย


แต่ตัดสินใจไปแล้ว สู้ๆคับขอให้หายไวๆ

ของผมก็ไม่รู้จะไปเมื่อไหร่ อาการส่อเค้าไม่ค่อยจะดี เครื่องเย็นเปลี่ยนเกียร์กระตุก
น้ำมันหยดหน่อยๆ คอยเติมเอาไปก่อน ยังไม่มีตังค์ทำ
ถ้ามันพังจริงๆคิดไว้สองอย่าง ยกลงวาง b20 กับจับชน mt

โชคดีนะเนี่ย ของผมได้มาตอน   160000 กม
ผ่านมา 2ปีครึ่ง  ตอนนี้ 244000 กม.  ยัง OK อยู่เลย  เข้าเกียร์ใหน ล้อก้อพร้อมหมุนตลอด
เดือน ธันวาคม  ว่าจะไปวาง B20 แต่ก็ยังเสียดายของเก่าอยู่
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้ครับ  ขอให้จบไวไว

เข้ามา update นิดนึงครับ

ก่อนอื่นก็ต้องขอบคุณทุกคนที่เข้ามาแนะนำและแลกเปลี่ยนประสบการณ์กันนะครับ

หลังจากฮอลเรียบร้อยเกียร์ก็ใช้งานได้ตามปกติครับ แต่ ปัญหาใหม่ตามมาครับนั่นคือน้ำจากหม้อน้ำดันไปที่ถังพัก และแน่นอนครับว่าไม่ดูดกลับ T_T

จากที่ได้ล้างหม้อน้ำและตรวจสอบเบื้องต้นแล้วสรุปได้ว่า "ฝาโก่ง" ครับ ตอนนี้รอเข้ารับการรักษาอีกรอบ...

 ;D ;D ;D ;D

รถเต้นท์ถามผมเจ็บมาแยอะลองดูได้ครับ

http://www.welovecivic.com/forum/index.php?topic=117718

เจออู่แย่ๆอีก

http://www.welovecivic.com/forum/index.php?topic=119137

ลองถ่ายน้ำมันเกียร์ดูคับ ว่ามันใส่ผิดประเภทรีป่าว หรือมันใส่ มากเกินไปมันก้เป็น แบยนั้นได้นะ ดีที่สุดน้ำมันเกียต้องวาโวลีนคับ ลองดูเสียอีกสักไม่กี่ร้อยเผื่อมันจะดีขี้นดีกว่าเสียหลายหมื่นนะ ผมว่าเกียไม่น่าเสียแค่วันเดียวหรอก ผมว่า น่าจะเป็นช่างทำนั่นแหล่ะ

แน่ใจเหรอคับ ว่าฝาโก่ง อาการมันมีความร้อนขี้นมั้ย อาการยังไม่มีความร้อนขี้น บางทีมันแค่ไล่ลมไม่หมด หรือ ฝาหม้อน้ำก้เปนได้คับ ลองเชคดีดีก่อน หรือเปลี่ยนอู่เหอะมั้ง