:::CIVIC CLUB THAILAND:::

คุยคุ้ย Civic => Civic Club Discuss => ห้องคนขับ => ข้อความที่เริ่มโดย: yoshi2626 ที่ 26 ตุลาคม 2012, 19:08:08



หัวข้อ: รบกวนถามค๊าบ...ek96ย้ายแบตไว้หลัง มีผลกับการสตารท์ติดยากไหมค๊าบบบ
เริ่มหัวข้อโดย: yoshi2626 ที่ 26 ตุลาคม 2012, 19:08:08
รบกวนถามค๊าบ...ek96ย้ายแบตไว้หลัง มีผลกับการสตารท์ติดยากไหมค๊าบบบ
เพราะเช็คจากเกจวัดvoltแล้วไฟเหลือประมาณ11.5ค๊าบบ
 :'( :'( :'(


หัวข้อ: Re: รบกวนถามค๊าบ...ek96ย้ายแบตไว้หลัง มีผลกับการสตารท์ติดยากไหมค๊าบบบ
เริ่มหัวข้อโดย: srithanon ที่ 26 ตุลาคม 2012, 21:42:09
การนำแบ็ตเตอรี่ไปติดตั้งไว้ที่ท้ายรถ  ถามว่ามีผลกับการสตาร์ทติดยากหรือไม่   อยากจะตอบแบบนี้นะครับ    แบ็ตเตอรี่เป็นไฟกระแสตรงที่มีแรงดันของกระแสไฟจำนวนมาก ตั้งแต่ 45-75 Amp ในรถเก๋งทั่วๆไป   กระแสไฟที่ไหลผ่านตัวนำเส้นลวดทองแดง  ที่ใช้เป็นสายเคเบิลต่อไปที่มอเตอร์สตาร์ท  โดยมากทางผู้ผลิตจะออกแบบมาให้ใช้สายไฟที่ไม่ยาวเกินไป  และติดตั้งตัวแบ็ตให้ใกล้กับตำแหน่งมอเตอร์สตาร์ท
เท่าที่จะทำได้   เพื่อไม่ต้องการให้เกิดโวลเต็จดร๊อปไปกับค่าความต้านทานที่เกิดขึ้นในสายตัวนำ  ที่กระแสไฟไหลผ่าน  มีผลโดยตรงกับระยะทางความยาวของตัวนำ

กระแสไฟไม่ได้ไหลผ่านภายในเส้นลวดตัวนำตามที่บางท่านเข้าใจ   แต่มันจะไหลไปตามผิวของเส้นลวดตัวนำ   ดังนั้นหากตัวนำที่เป็นเส้นลวดมีขนาดพื้นที่หน้าตัดใหญ่  ก็จะทำให้กระแสไฟไหลผ่านได้สะดวก   หากมีพื้นที่หน้าตัดเล็ก  ทำให้ผิวของเส้นลวดมีปริมาณน้อย   ทำให้กระแสไฟไหลผ่านได้น้อย  เพราะมีผิวของเส้นลวดให้กระแสผ่านได้น้อย   ทำให้กระแสไฟจำนวนมาก เหมือนถูกจำกัดทางเดินของกระแส  ก็คือเสมือนค่าความต้านของกระแสที่เกิดขึ้นในเส้นลวดตัวนำเส้นเล็กๆ   ค่าการต้านทานของกระแสนี้  จะเกิดความร้อนขึ้นในสายไฟและเกิดไฟลุกไหม้กับเส้นลวดตัวนำนั้นได้  หากใช้สายไฟที่มีขนาดไม่เหมาะสมกับกระแสที่ไหลผ่าน

ดังนั้นการที่ท่านเจ้าของกระทู้บอกว่านำแบ็ตไปไว้ข้างหลังหรือท้ายรถ   จะต้องคำนึงถึงเส้นลวดตัวนำสายไฟที่นำมาใช้ด้วย    และผมก็ไม่เห็นด้วยกับวิธีการที่กล่าวมา  เพราะนอกจากจะเกิดอุบัติเหตุจากการลัดวงจรของสายเคเบิลหรือสายไฟที่ต่อจากแบ็ตไปยังกล่องบล๊อคฟิวส์ที่หน้ารถ  ที่อาจจะเสียดสีกับอดี้รถหรือเกิดมีบางสิ่งบางอย่างที่ทำให้ฉนวนของสายไฟฉีกขาด แล้วเส้นลวดทองแดงแตะกับกราวด์ตัวถังรถ  จะทำให้กระแสไฟจำนวนมากอาร์คอย่างรุนแรงเกิดไฟติดขึ้นมาได้   หากการวายสายไม่ดี ไม่มีท่อที่เป็นฉนวนป้องกันสายไฟอีกชั้น
และผลของการใช้สายไฟจากแบ็ตต่อไปที่หน้ารถ   ย่อมทำให้เกิดโวลเต็จดร๊อปหรือลดลง  ตามที่ท่านเจ้าของกระทูบอกว่า วัดไฟที่ปลายสายได้แค่ 11.5 volt  มันก็แสดงให้เห็นว่าโวลเต็จจากแบ็ตลดลง
เพราะเกิดค่าความต้านทานขึ้นในสายไฟที่มีความยาวเพิ่มขึ้น  จากการคำนวณที่แบ็ตมีความจุ 45 Amp  ได้ค่าความต้านทานที่เกิดขึ้นในสายไฟ เท่ากับ 0.022 Ohm  และมีโวลเต็จดร็อปในสายไฟ เท่ากับ 1 volt   ปกติแบ็ตเตอรี่จะมีไฟในสภาวะปกติประมาณ 12.5 volt  เท่ากับว่าหายไป 1 volt
ตามที่ท่านเจ้าของกระทู้วัดได้

ถามว่า  จะมีผลอะไรกับการสตาร์ทเครื่องยนต์    ปกติทั่วไปในจังหวะการสตาร์ทเครื่องยนต์ กระแสไฟจากแบ็ตเตอรี่จะถูกดึงออกไปใช้ ประมาณ 25-30 Amp และโวลเต็จในขณะใช้กระแสของมอเตอร์สตาร์ท
ไม่ควรจะลดลงต่ำกว่า 9 volt  ซึ่งช่วงนี้ มอเตอร์สตาร์ทยังคงทำงานได้   แต่เมื่อเกิดโวลเต็จที่ถูกดร็อปไปในสายไฟที่ยาวจากหลังรถมาที่หน้ารถ หายไปอีก 1 volt  ก็จะมีผลบ้างกับการสร้างสนามแม่เหล็กของฟีลล์คอยในมอเตอร์สตาร์ท  ถึงแม้จะไม่เห็นผลชัดเจนกับแบ็ตลูกใหม่ๆ   แต่ถ้าหากแบ็ตที่ใช้งานมานาน ย่อมมีผลมากกว่า  อาจจะสตาร์ทรถเหมือนมอเตอร์สตาร์ทไม่มีกำลัง  ติดยากขึ้นหน่อย  เพราะแบ็ตเก่าๆย่อมเก็บพลังงานไฟฟ้าในรูปของกระแสได้ต่ำลง 

ก็เอามาเล่าสู่กันฟัง  และขออภัยที่ร่ายยาวไปหน่อย  เพราะต้องการให้ทราบในเนื้อหาของเรื่อง…..srithanon

 


หัวข้อ: Re: รบกวนถามค๊าบ...ek96ย้ายแบตไว้หลัง มีผลกับการสตารท์ติดยากไหมค๊าบบบ
เริ่มหัวข้อโดย: commentdear ที่ 26 ตุลาคม 2012, 22:00:21
การนำแบ็ตเตอรี่ไปติดตั้งไว้ที่ท้ายรถ  ถามว่ามีผลกับการสตาร์ทติดยากหรือไม่   อยากจะตอบแบบนี้นะครับ    แบ็ตเตอรี่เป็นไฟกระแสตรงที่มีแรงดันของกระแสไฟจำนวนมาก ตั้งแต่ 45-75 Amp ในรถเก๋งทั่วๆไป   กระแสไฟที่ไหลผ่านตัวนำเส้นลวดทองแดง  ที่ใช้เป็นสายเคเบิลต่อไปที่มอเตอร์สตาร์ท  โดยมากทางผู้ผลิตจะออกแบบมาให้ใช้สายไฟที่ไม่ยาวเกินไป  และติดตั้งตัวแบ็ตให้ใกล้กับตำแหน่งมอเตอร์สตาร์ท
เท่าที่จะทำได้   เพื่อไม่ต้องการให้เกิดโวลเต็จดร๊อปไปกับค่าความต้านทานที่เกิดขึ้นในสายตัวนำ  ที่กระแสไฟไหลผ่าน  มีผลโดยตรงกับระยะทางความยาวของตัวนำ

กระแสไฟไม่ได้ไหลผ่านภายในเส้นลวดตัวนำตามที่บางท่านเข้าใจ   แต่มันจะไหลไปตามผิวของเส้นลวดตัวนำ   ดังนั้นหากตัวนำที่เป็นเส้นลวดมีขนาดพื้นที่หน้าตัดใหญ่  ก็จะทำให้กระแสไฟไหลผ่านได้สะดวก   หากมีพื้นที่หน้าตัดเล็ก  ทำให้ผิวของเส้นลวดมีปริมาณน้อย   ทำให้กระแสไฟไหลผ่านได้น้อย  เพราะมีผิวของเส้นลวดให้กระแสผ่านได้น้อย   ทำให้กระแสไฟจำนวนมาก เหมือนถูกจำกัดทางเดินของกระแส  ก็คือเสมือนค่าความต้านของกระแสที่เกิดขึ้นในเส้นลวดตัวนำเส้นเล็กๆ   ค่าการต้านทานของกระแสนี้  จะเกิดความร้อนขึ้นในสายไฟและเกิดไฟลุกไหม้กับเส้นลวดตัวนำนั้นได้  หากใช้สายไฟที่มีขนาดไม่เหมาะสมกับกระแสที่ไหลผ่าน

ดังนั้นการที่ท่านเจ้าของกระทู้บอกว่านำแบ็ตไปไว้ข้างหลังหรือท้ายรถ   จะต้องคำนึงถึงเส้นลวดตัวนำสายไฟที่นำมาใช้ด้วย    และผมก็ไม่เห็นด้วยกับวิธีการที่กล่าวมา  เพราะนอกจากจะเกิดอุบัติเหตุจากการลัดวงจรของสายเคเบิลหรือสายไฟที่ต่อจากแบ็ตไปยังกล่องบล๊อคฟิวส์ที่หน้ารถ  ที่อาจจะเสียดสีกับอดี้รถหรือเกิดมีบางสิ่งบางอย่างที่ทำให้ฉนวนของสายไฟฉีกขาด แล้วเส้นลวดทองแดงแตะกับกราวด์ตัวถังรถ  จะทำให้กระแสไฟจำนวนมากอาร์คอย่างรุนแรงเกิดไฟติดขึ้นมาได้   หากการวายสายไม่ดี ไม่มีท่อที่เป็นฉนวนป้องกันสายไฟอีกชั้น
และผลของการใช้สายไฟจากแบ็ตต่อไปที่หน้ารถ   ย่อมทำให้เกิดโวลเต็จดร๊อปหรือลดลง  ตามที่ท่านเจ้าของกระทูบอกว่า วัดไฟที่ปลายสายได้แค่ 11.5 volt  มันก็แสดงให้เห็นว่าโวลเต็จจากแบ็ตลดลง
เพราะเกิดค่าความต้านทานขึ้นในสายไฟที่มีความยาวเพิ่มขึ้น  จากการคำนวณที่แบ็ตมีความจุ 45 Amp  ได้ค่าความต้านทานที่เกิดขึ้นในสายไฟ เท่ากับ 0.022 Ohm  และมีโวลเต็จดร็อปในสายไฟ เท่ากับ 1 volt   ปกติแบ็ตเตอรี่จะมีไฟในสภาวะปกติประมาณ 12.5 volt  เท่ากับว่าหายไป 1 volt
ตามที่ท่านเจ้าของกระทู้วัดได้

ถามว่า  จะมีผลอะไรกับการสตาร์ทเครื่องยนต์    ปกติทั่วไปในจังหวะการสตาร์ทเครื่องยนต์ กระแสไฟจากแบ็ตเตอรี่จะถูกดึงออกไปใช้ ประมาณ 25-30 Amp และโวลเต็จในขณะใช้กระแสของมอเตอร์สตาร์ท
ไม่ควรจะลดลงต่ำกว่า 9 volt  ซึ่งช่วงนี้ มอเตอร์สตาร์ทยังคงทำงานได้   แต่เมื่อเกิดโวลเต็จที่ถูกดร็อปไปในสายไฟที่ยาวจากหลังรถมาที่หน้ารถ หายไปอีก 1 volt  ก็จะมีผลบ้างกับการสร้างสนามแม่เหล็กของฟีลล์คอยในมอเตอร์สตาร์ท  ถึงแม้จะไม่เห็นผลชัดเจนกับแบ็ตลูกใหม่ๆ   แต่ถ้าหากแบ็ตที่ใช้งานมานาน ย่อมมีผลมากกว่า  อาจจะสตาร์ทรถเหมือนมอเตอร์สตาร์ทไม่มีกำลัง  ติดยากขึ้นหน่อย  เพราะแบ็ตเก่าๆย่อมเก็บพลังงานไฟฟ้าในรูปของกระแสได้ต่ำลง 

ก็เอามาเล่าสู่กันฟัง  และขออภัยที่ร่ายยาวไปหน่อย  เพราะต้องการให้ทราบในเนื้อหาของเรื่อง…..srithanon

 



เก็บข้อมูล อิอิ


หัวข้อ: Re: รบกวนถามค๊าบ...ek96ย้ายแบตไว้หลัง มีผลกับการสตารท์ติดยากไหมค๊าบบบ
เริ่มหัวข้อโดย: kanta ที่ 26 ตุลาคม 2012, 22:15:08
เปลี่ยนสายให้ใหญ่ขึ้นครับ

วอลลโว่ ก็เอาแบตไว้หลัง
อากาศไม่ร้อนเท่าห้องเครื่อง อายุแบตก็ยาวกว่าเดิม


หัวข้อ: Re: รบกวนถามค๊าบ...ek96ย้ายแบตไว้หลัง มีผลกับการสตารท์ติดยากไหมค๊าบบบ
เริ่มหัวข้อโดย: Octillion ที่ 27 ตุลาคม 2012, 22:22:11
เช็คง่ายๆครับ

วัดแรงดันที่ขั้วแบตด้านหลัง และ ด้านหน้า ดู voltage drop

แรงดัน on charge 13.5-14.0 VDC
แรงดัน on load 11.0-12.x VDC.

ตามสเปคแบต

สายแบตขอให้เป็นสาย shield อย่างดี มี fuse กันหน้าหลังครับ