หัวข้อ: ไปคิดกันดูน่ะ เริ่มหัวข้อโดย: somkid buayairuksa ที่ 26 พฤศจิกายน 2007, 15:24:13 การคำนวณภาษี/ฐานภาษี
ผู้ประกอบอุตสาหกรรมมีหน้าที่ต้องเสียภาษีตามอัตราที่ระบุในข้อ 3 โดยคำนวณภาษีสรรพสามิต ได้ดังนี้ ภาษีสรรพสามิต = มูลค่า x อัตราภาษี = (ราคาขาย ณ โรงงานอุตสาหกรรม+ภาษี สส+ภาษีเพื่อมหาดไทย) x อัตราภาษี = ราคาขาย ณ โรงงานอุตสาหกรรม x อัตราภาษี 1-(1.1x อัตราภาษี) ตัวอย่างการคำนวณภาษี กรณีสินค้าผลิตในประเทศ ผู้ประกอบอุตสาหกรรมรถยนต์ ผลิตรถยนต์นั่ง 1 คัน ขนาดความจุกระบอกสูบ 2,800 ซี.ซี. ราคาขาย ณ โรงอุตสาหกรรม (รวมภาษีสรรพสามิตและภาษีเพื่อกระทรวงมหาดไทย) คันละ 900,000 บาท อัตราภาษีสรรพสามิตตามมูลค่าร้อยละ 40 วิธีการคำนวณ ภาษีสรรพสามิต = มูลค่า x อัตราภาษี = (900,000) x 40/100 = 360,000 บาท จะต้องชำระภาษีสรรพสามิต = 360,000 บาท พร้อมด้วยภาษีเก็บเพิ่มเพื่อกระทรวงมหาดไทย ร้อยละ 10 ของค่าภาษี =36,000 บาท รวมต้องชำระ = 396,000 บาท การลดหย่อนภาษี ผู้ประกอบอุตสาหกรรมมีสิทธิขอลดหย่อนภาษีสำหรับสินค้าที่ผลิตจากสินค้าที่ได้เสียภาษีไว้แล้ว โดยสามารถนำจำนวนเงิน ภาษีได้เสียไว้แล้ว สำหรับสินค้าที่นำมาใช้เป็นวัตถุดิบหรือ ส่วนประกอบในการผลิตสินค้ามาหักออกจากจำนวนเงินภาษี ที่ต้องเสียภาษีสำหรับสินค้านั้น ทั้งนี้ให้ยื่นคำร้องและปฏิบัติ ตามหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไข ที่อธิบดีกำหนด การยกเว้น และการคืนภาษี 1. สินค้าที่ส่งออกนอกราชอาณาจักร 2. สินค้าที่จำหน่ายให้แก่ผู้ได้รับสิทธิตามข้อผูกพัน หรือตามกฎหมายระหว่างประเทศ 3. เสียภาษีโดยไม่มีหน้าที่ต้องเสียภาษีหรือเสียเกินกว่าที่ควรเสีย มีสิทธิขอคืนภาษีได้ตาม ม.107 หน้าที่ผู้นำเข้า ความรับผิดในอันจะต้องเสียภาษี เกิดขึ้นในเวลาเดียวกับความรับผิดในอันจะต้องเสียภาษีศุลกากร (เว้นแต่ กรณีสินค้าเก็บอยู่ในคลังสินค้าทัณฑ์บน ตามกฎหมายว่าด้วยศุลกากร ให้ถือว่าความรับผิดเกิดขึ้นในเวลานำสินค้าออกจากคลังสินค้าทัณฑ์บน) กำหนดเวลายื่นแบบชำระภาษี ผู้นำเข้าต้องยื่นแบบรายการภาษี พร้อมกับชำระภาษีในเวลาที่ออกใบขนสินค้าให้ตามกฎหมายว่าด้วยศุลกากร สถานที่ยื่นแบบรายการและชำระภาษี ผู้นำเข้ายื่นแบบและชำระภาษีที่กรมศุลกากร หรือด่านศุลกากร การคำนวณภาษี / ฐานภาษี ผู้นำเข้ามีหน้าที่เสียภาษีตามมูลค่าในอัตราภาษีตามบัญชีแนบท้ายโดยให้ถือมูลค่า คือ ราคา C.I.F. ของสินค้าบวกด้วยอากรขาเข้า ค่าธรรมเนียมพิเศษตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมการ ลงทุน และค่าธรรมเนียมอื่นตามที่จะได้กำหนดโดยพระราชกฤษฎีกา แต่ไม่รวมถึงภาษีมูลค่าเพิ่ม ดังนี้ ภาษีสรรพสามิต = (C.I.F+อากรขาเข้า+ภาษีค่าธรรมเนียมอื่นไม่รวมถึงภาษีมูลค่าเพิ่ม) x อัตราภาษี 1-(1.1xอัตราภาษี) ตัวอย่างการคำนวณภาษี บริษัทผู้นำเข้ารายหนึ่ง นำเข้ารถยนต์นั่ง ชนิดสเตชั่นแวกอน จำนวน 1 คัน ขนาดความจุตรงยอดสูบ 3,400 ซีซี 198 แรงม้า (1-10) ราคา ซี.ไอ.เอฟ 607,914.42 บาท (คือ ราคาสินค้า + ค่าขนส่ง + ค่าประกันภัย) อากรขาเข้า 486,331.54 บาท และ อัตราภาษีสรรพสามิต ตามมูลค่าร้อยละ 50 วิธีคำนวณภาษี สูตร ภาษีสรรพสามิต = (C.I.F. + อากรขาเข้า + ภาษีอื่นไม่รวม VAT ) x อัตราภาษีสรรพสามิต 1 ? ( 1.1 x อัตราภาษีสรรพสามิต ) แทนค่าในสูตร ภาษีสรรพสามิต = ( 607,914.42 + 486,331.54 ) x 50/100 1 ? ( 1.1 x 50/100 ) = 547,122.98 0.45 จะต้องชำระภาษีสรรรพสามิต = 1,215,828 บาท พร้อมด้วยภาษีเก็บเพิ่มเพื่อมหาดไทย 10% ของค่าภาษี = 121,582.80 บาท รวมต้องชำระภาษีสรรพสามิต และภาษีเก็บเพิ่มเพื่อกระทรวงมหาดไทย = 1,337,410.8 บาท การยกเว้น และการคืนภาษี 1. สินค้านำเข้าที่ต้องเสียภาษีสรรพสามิตให้ได้รับการยกเว้นตามกฎหมายว่าด้วยพิกัดอัตราศุลกากร โดยถือตามหลักเกณฑ์ และเงื่อนไขที่บัญญัติไว้ในกฎหมายว่าด้วยพิกัดอัตราศุลกากร 2. สินค้าที่นำเข้าซึ่งได้เสียภาษีแล้ว และหากส่งกลับออกไป ให้คืนภาษีแก่ผู้นำเข้าตามหลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไข และในอัตราเดียวกับการคืนเงินอากรขาเข้าตามกฎหมายว่าด้วยศุลกากร 3. สินค้าที่นำเข้าที่ได้เสียภาษีแล้ เมื่อส่งออกนอกราชอาณาจักรมีสิทธิได้รับการคืนภาษีตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขเดียวกับการคืนเงินอากรขาเข้าตามกฎหมายว่าด้วยศุลกากร |