หัวข้อ: ไฟรั่วลงกราว จอดรถแล้วแบตหมด ใครรู้ช่วยแก้หน่อย เริ่มหัวข้อโดย: worapot noiram ที่ 17 กรกฎาคม 2012, 12:21:22 จดรถ แบตหมดเอง สงสัยไฟรั่วลงกราวใครรู้วิธีแก้ช่วยหน่อย :(
หัวข้อ: Re: ไฟรั่วลงกราว จอดรถแล้วแบตหมด ใครรู้ช่วยแก้หน่อย เริ่มหัวข้อโดย: worapot noiram ที่ 17 กรกฎาคม 2012, 12:23:56 ถ้ามีร้านซ่อม แนะนําหน่อย ไม่รู้จะแก้ยังไงแล้ว
หัวข้อ: Re: ไฟรั่วลงกราว จอดรถแล้วแบตหมด ใครรู้ช่วยแก้หน่อย เริ่มหัวข้อโดย: cyu ที่ 17 กรกฎาคม 2012, 13:03:27 แบตอายุ่เท่าไหร่แล้วคับ
ก่อนหน้านี้ไปทำอะไรมารึป่าวคับ ติดเครื่องเสียง มาใหม่รึป่าว :-\ :-\ :-\ หัวข้อ: Re: ไฟรั่วลงกราว จอดรถแล้วแบตหมด ใครรู้ช่วยแก้หน่อย เริ่มหัวข้อโดย: EK Sir ที่ 17 กรกฎาคม 2012, 15:21:00 รีโมท กันขโมย
หัวข้อ: Re: ไฟรั่วลงกราว จอดรถแล้วแบตหมด ใครรู้ช่วยแก้หน่อย เริ่มหัวข้อโดย: srithanon ที่ 17 กรกฎาคม 2012, 16:52:47 จดรถ แบตหมดเอง สงสัยไฟรั่วลงกราวใครรู้วิธีแก้ช่วยหน่อย :( ลองทดสอบตามนี้ดูครับ ให้หาแอมป์มิเตอร์ จะเ็ป็นแบบดิจิตอลหรือแบบอนาล๊อคแบบเข็มก็ได้ ตั้ง Range วัดที่ 10 Amp จากนั้นให้ถอดสายไฟที่ขั่วบวก ของแบ็ตเตอรี่ออก (ทั้งชุด) จากนั้นให้เอาสายไฟบวกสีแดงของมิเตอร์ หนีบไว้ที่ขั่วบวกของแบ็ตเตอรี่ สายสีดำ(ลบ) ของแอมป์มิเตอร์ หนีบเข้าที่สายไฟทั้งหมดที่ถอดดึงออกจากขั่วบวก (ไม่ต้องสตาร์ทเครื่อง และดึงกุญแจออก) หากที่แอมป์มิเตอร์ สามารถวัดกระแสไฟได้ ประมาณ 3-4 แอมป์ขึ้นไป แสดงว่า มีกระแสไฟถูกใช้ไปยังโหลดที่ใช้ไฟฟ้าในรถยนต์ เช่น วิทยุเครื่องเสียง และเครื่องสัญญาณกันขโมย หากวัดได้ประมาณ 300-500 MA ( มิลลิแอมป์) แสดงว่าปกติ เพราะว่ากระแสขนาดนี้จะใช้แบ็คอัพ เมมโมรี่ พวกวิทยุ หรือในโหมดสแตนบายของเครื่องกันขโมย สมมุติว่า อ่านกระแสที่วัดได้ 3-4 Amp ขึ้นไป ให้ทำการทดลองปลด สายไฟชาร์จจาก B+ ของไดน์ชาร์จ ออก แล้วดูว่าที่แอมป์ มีกระแสลดลงหรือไม่ สมมุติว่ามีกระแสลดลง เหลือประมาณ สามสี่ร้อยมิลิแอมป์ แสดงว่า ในตัวไดน์ชาร์จ มีไดโอดบางตัวช๊อร์ท ทำให้กระแสไฟจากแบ็ตรั่วลงกราวด์ หากเอาขั่ว B+ ของไดน์ชาร์จออกแล้ว ยังมีกระแสอ่านได้เท่าเดิม แสดงว่า มีวงจรไฟฟ้าในรถยนต์ บางวงจรมีการใช้กระแส หรือรั่วลงกราวด์ เช่นเครื่องกันขโมย ให้ตรวจสอบดังนี้ ให้เอาเอาสวายไฟบวก ที่ป้อนให้กับเครื่องเสียง หรือวิทยุออก ทีละตัว ว่าในขณะที่เอาสายไฟบวกที่ต่อไปใช้กับอุปกรณืเครื่องเสียงนั้นๆ เวาลาเอาออกแล้ว กระแสไฟที่อ่านได้จากแอมป์มิเตอร์ ลดลงหรือไม่ หากฃดลงก็เป็นที่ตัวนั้นๆที่ดึงเอาสายไฟบวกออก นอกจากนี้จะตรวจโดยการดึงฟิวส์ ที่กล่องบอ๊คฟิวส์ออกทีละตัว ตำแหน่งฟิวส์ในกล่องบ๊อคจะบอกว่า เป็นฟิวส์ใช้กับวงจรอะไร หากดึงออกแล้วทำให้กระแสไฟที่วัดได้ลดลง ก็ตามไปดู ว่าวงจรนั้นประกอบไปด้วยอะไร ก็จะพบเจอในที่สุดครับ ลองทำดูครับ ขอให้โชคดี.....srithanon หัวข้อ: Re: ไฟรั่วลงกราว จอดรถแล้วแบตหมด ใครรู้ช่วยแก้หน่อย เริ่มหัวข้อโดย: worapot noiram ที่ 17 กรกฎาคม 2012, 19:09:26 อยากลองทําเหมือนกัน :) ตอนนี้ก็ถอดไฟวิทยุออกก็ยังหมด ขอบคุณคับจะลองทําดู
หัวข้อ: Re: ไฟรั่วลงกราว จอดรถแล้วแบตหมด ใครรู้ช่วยแก้หน่อย เริ่มหัวข้อโดย: RACE MAN ที่ 18 กรกฎาคม 2012, 00:17:49 อยู่กรุงเทพปล่าวครับ ถ้าอยู่ไปที่ อู่ BEAR R ถ.เกษตร-นวมินทร์ อู่นี้ทำ HONDA เเรงๆๆ ลงเเข่งเยอะ
เรื่องระบบไฟนี่เก่งมากครับ ถือว่าดังในวงการ HONDA เหมือนกัน ใครๆก็รู้จักครับ :-X หัวข้อ: Re: ไฟรั่วลงกราว จอดรถแล้วแบตหมด ใครรู้ช่วยแก้หน่อย เริ่มหัวข้อโดย: canniva ที่ 18 กรกฎาคม 2012, 17:42:34 ของผมเคยเป็นที่รีเลย์คอมแอร์ครับ หาอยู่ตั้งหลายเดือน ลองถอดรีเลยออกดู จะอยู่ในกล่องฟิลข้างงแบต เปิดมาแล้วจะเจอ รีเลย์คอมแอร์ตัวที่ 2 จากหน้ารถ ถ้าไฟไม่หายก็จบ เท่าที่เห็นเป็นกันเยอะอยู่ ES ก็เป็น http://www.civicesgroup.com/forum/topic21675
หัวข้อ: Re: ไฟรั่วลงกราว จอดรถแล้วแบตหมด ใครรู้ช่วยแก้หน่อย เริ่มหัวข้อโดย: joepao ที่ 19 กรกฎาคม 2012, 14:11:58 ลองทดสอบตามนี้ดูครับ ให้หาแอมป์มิเตอร์ จะเ็ป็นแบบดิจิตอลหรือแบบอนาล๊อคแบบเข็มก็ได้ ตั้ง Range วัดที่ 10 Amp จากนั้นให้ถอดสายไฟที่ขั่วบวก ของแบ็ตเตอรี่ออก (ทั้งชุด) จากนั้นให้เอาสายไฟบวกสีแดงของมิเตอร์ หนีบไว้ที่ขั่วบวกของแบ็ตเตอรี่ สายสีดำ(ลบ) ของแอมป์มิเตอร์ หนีบเข้าที่สายไฟทั้งหมดที่ถอดดึงออกจากขั่วบวก (ไม่ต้องสตาร์ทเครื่อง และดึงกุญแจออก) หากที่แอมป์มิเตอร์ สามารถวัดกระแสไฟได้ ประมาณ 3-4 แอมป์ขึ้นไป แสดงว่า มีกระแสไฟถูกใช้ไปยังโหลดที่ใช้ไฟฟ้าในรถยนต์ เช่น วิทยุเครื่องเสียง และเครื่องสัญญาณกันขโมย หากวัดได้ประมาณ 300-500 MA ( มิลลิแอมป์) แสดงว่าปกติ เพราะว่ากระแสขนาดนี้จะใช้แบ็คอัพ เมมโมรี่ พวกวิทยุ หรือในโหมดสแตนบายของเครื่องกันขโมย สมมุติว่า อ่านกระแสที่วัดได้ 3-4 Amp ขึ้นไป ให้ทำการทดลองปลด สายไฟชาร์จจาก B+ ของไดน์ชาร์จ ออก แล้วดูว่าที่แอมป์ มีกระแสลดลงหรือไม่ สมมุติว่ามีกระแสลดลง เหลือประมาณ สามสี่ร้อยมิลิแอมป์ แสดงว่า ในตัวไดน์ชาร์จ มีไดโอดบางตัวช๊อร์ท ทำให้กระแสไฟจากแบ็ตรั่วลงกราวด์ หากเอาขั่ว B+ ของไดน์ชาร์จออกแล้ว ยังมีกระแสอ่านได้เท่าเดิม แสดงว่า มีวงจรไฟฟ้าในรถยนต์ บางวงจรมีการใช้กระแส หรือรั่วลงกราวด์ เช่นเครื่องกันขโมย ให้ตรวจสอบดังนี้ ให้เอาเอาสวายไฟบวก ที่ป้อนให้กับเครื่องเสียง หรือวิทยุออก ทีละตัว ว่าในขณะที่เอาสายไฟบวกที่ต่อไปใช้กับอุปกรณืเครื่องเสียงนั้นๆ เวาลาเอาออกแล้ว กระแสไฟที่อ่านได้จากแอมป์มิเตอร์ ลดลงหรือไม่ หากฃดลงก็เป็นที่ตัวนั้นๆที่ดึงเอาสายไฟบวกออก นอกจากนี้จะตรวจโดยการดึงฟิวส์ ที่กล่องบอ๊คฟิวส์ออกทีละตัว ตำแหน่งฟิวส์ในกล่องบ๊อคจะบอกว่า เป็นฟิวส์ใช้กับวงจรอะไร หากดึงออกแล้วทำให้กระแสไฟที่วัดได้ลดลง ก็ตามไปดู ว่าวงจรนั้นประกอบไปด้วยอะไร ก็จะพบเจอในที่สุดครับ ลองทำดูครับ ขอให้โชคดี.....srithanon สุดยอด หัวข้อ: Re: ไฟรั่วลงกราว จอดรถแล้วแบตหมด ใครรู้ช่วยแก้หน่อย เริ่มหัวข้อโดย: dirtyshoes ที่ 19 กรกฎาคม 2012, 15:20:56 ตามนั้นเลยครับ ต้องไล่ทีละตัว
ถ้ามี clip amp meter ก็จะสะดวกหน่อย คล้องทีละสาย หาคร่าวๆได้เลย หัวข้อ: Re: ไฟรั่วลงกราว จอดรถแล้วแบตหมด ใครรู้ช่วยแก้หน่อย เริ่มหัวข้อโดย: ทอม_อีเค ที่ 21 กรกฎาคม 2012, 08:05:17 คงต้องเข้าอู่เช็คไฟรั่วละครับ ของเจอคล้ายกันโนไปเมื่อวานจอดคืนเดียวแบตเกลี้ยงเลย เลยคิดว่าแบตเสื่อมเปลี่ยนเลยครับปรากฏเปลี่ยนแบตแล้วเช็คไฟยังมีรุ่วอีกก็เลยเดินดุรอบรอบรถปรากฏว่าไฟเบรคค้างไม่ได้สังเกตุตั้งแต่แรกเลยเห็น เล่นเปลี่ยนแบตไปเลยลูกนึงแต่ก็ช่่างมันถือซะว่าเปลี่ยนแบตใหม่เพื่อควาสบายใจเพราะของเก่ามันติดมากะรถซื้อมือมือ2มา ไม่งั้นคงไม่ต้องเปลี่ยนแล้ว ;D ;D ;D ;D ;D :-[
|