:::CIVIC CLUB THAILAND:::

ขอเล่าประวัติก่อนนะครับ :

เป็น รถ Civic ตาโต ปี 96 เกียร์ A/T เครื่อง EXI 1.6 เดิม ๆ เลย ซื้อมาแล้วประมาน 16-17 ปี แต่ขับไปได้แค่ 27XXX กิโลเองครับ

เพราะแม่ของผมซื้อมาจอดไว้ นานๆๆๆๆ มากๆๆๆๆ จะเดินทางไปไหนสักที ส่วนนอกนั้น จอดอย่างเดียว จะมีการอุ่นเครื่องบ้าง ก็เดือนนึงแค่ 2-3 ที

แต่ก็แค่อุ่นเครื่องโดยการสต้าททิ้งไว้สักครึ่งชั่วโมง (ไม่ได้ขับออกไปไหน) ทีนี้แม่ให้ผมเอารถมาใช้แล้ว แต่ปัญหามีอยู่ที่ว่า

- รถอืดมาก ๆ ครับ ต้น กลาง ปลาย ยานหมดเลย TOP SPEED ได้แค่ 150 เองครับ (เชื่อเพลิง เบนซิน 91) กว่าจะลากได้หลายกิโลครับ ควรแก้จุดไหนบ้างครับ เช่น เปลี่ยนถ่ายของเหลว หรืออะไหล่อื่น ๆ ช่วยบอกทีครับ
- ต้อง Flushing น้ำมันเครื่อง และน้ำมันเกียร์ไหมครับ เพราะเห็นบางคนบอกว่า ถึงจะขับน้อยแต่ ดองไว้หลายปี ถ่ายอย่างเดียวมันออกไม่หมด เพราะว่าน้ำมันนิ่งอย่างเดียว ไม่หมุนเวียน หรือขยับเลย ทำให้เกิดคราบโคลน สกปรก เอาไม่ออก อันนี้ช่วยแนะนำทีครับ
- อยากให้รถวิ่ง ๆ เหมือนออกใหม่ ๆ เร่งแซง ได้ปกติ ควรเปลี่ยนจุดไหนบ้างครับ

ก่อนหน้าที่จะเอาไปขับได้ทำการ เปลี่ยนน้ำมันเครื่อง + กรองน้ำมันเครื่อง + น้ำมันเกียร์ + หัวเทียน 4 หัว + ล้างหม้อน้ำ มาเรียบร้อยแล้วครับ ก็เหมือนไม่มีอะไรต่างจากเดิมเลยครับ รบกวนพี่ ๆ ช่วยยแนะนำทีครับ

    อาการเหมือน เครื่องมันตึงฟิตอยู่นะ
ลองอัด มิดเกียร์มิดไมล์ ลากเรดไลน์ทุกวัน ซักเดือนนึงดู
    ให้มันได้ยืดเส้นยืดสายดูบ้าง อีกอย่างคือ ท่อ จัดงบลงท่อโลด  :D :D
   

ตามที่คุณส้มแนะนำเลยครับ  แล้วลองตั้งระบบไฟจานจ่ายดูด้วยครับ ไฟอ่อนไปก็วิ่งไม่ออกนะครับ

ครับพี่ชาย ผมลอง ซัดทุกวันเลยครับ ทางด่วน สุขุมวิท 62 ไปถึง รามอินทรา - สุขาภิบาล 5 เลยครับ จมไมล์ตลอด

ทีแรก ซัดครั้งแรกเลยจำได้ว่า 140 พอซัด ซักอาทิตย์ ขึ้นมาเป็น 150 แล้วก็ตันแค่นี้ครับพี่ชาย

แบบนี้ผมควรแก้ หรือเปลี่ยนอะไรอีกบ้างไหมครับพี่

    แก้โดยการ ออกตัวลาก D3 เหยียบจมจนมันสุด
พอมันสุด แล้วค่อยดันขึ้นไป D จะทำให้ปลายได้มากกว่านี้เด้อ
    อีกอย่าง เค้าไม่ใช่ผู้ชายจ้า  :-[ :-[

ช ญ อะไรก็ไม่รุ้ log in นี้

 ;) ;) ;) ;)

    วันนี้ไปกินนมป่าวเบส  :-* :-*

อยุ่ฝางคับ ลูกพี่ - -*

อ่อ ขอโทษครับพี่สาว  :-[

ก็คือว่า ตั้งแต่ออกตัว ใส่D3 ไปจนถึง ความเร็วประมาน 80-100 แล้วค่อยใส่ D4 แล้วลากไปสุดเลยใช่ไหมครับ

แล้วส่วนที่ว่า Flushing น้ำมันเครื่อง กับ เกียร์ ควรทำไหมครับ

   EK ของเราเป็น MTิ ลากไปสุดที่ 6,800 รอบ ที่เกียร์ 5 180 ไม่แน่ใจว่า AT ลากได้เท่าไหร่
แต่น่าจะพอๆกัน ส่วน ES ของเรา ลากD3 ตั้งแต่ออกตัว ไปชนที่ 6,000 รอบ วิ่งได้ 160  
    แล้วตบลงD ที่ 6,000 รอบ วิ่งไป 190 แล้วไปสุดที่ 196 ที่ 6,500 - 6,600
ของ EK ลาก D3 น่าจะไป 140 - 150 ที่ 6,000+ นั่นแหละ แล้วค่อยตบลง D เพราะ EK ของเราเป็น MT
    อ๋อ ลืมบอกไปทั้ง EK & ES ของเรา เป็นเครื่องVTEC ทั้งคู่นะ  :-[ :-[
ปล.รูป ความเร็ว ES อยู่ในกล้อง แต่ตอนนี้กล้องไป ปรโลกละ ถ้ากู้ข้อมูลได้ หรือถ่ายมาใหม่ จะเอาลงให้ดู  :-* :-*

เปลี่ยนน้ำมันเครื่อง เปลี่ยนน้ำมันเกียร์ ล้างลิ้นปีกผีเสื้อ ตั้งวาล์วใหม่ เช็คหัวเทียน

ก็น่าจะดีขึ้นครับผม ลองดู

    เค้าบอกว่าทำมาหมดแล้ว แต่วิ่งได้แค่นี้  ;) ;)
     Flushing เกียร์ ไม่ควรทำ เห็นทำมา พังเกือบทุกคัน
ถ่ายน้ำมันเกียร์ทุก 20000 โล ก็พอแล้ว  ;D ;D

ท่อแคตฯ ยังอยู่ไหม ถ้ายังอยู่น่าจะตันแล้ว ตัดแคตฯออกไปเลยครับ น่าจะวิ่งขึ้นนะครับ :-*

เพิ่มอีกนิด อย่าทะลวงนะครับ เอาไปขายได้  :)

ก็คือ บอกร้านว่า ตัดท่อแคตออก อย่างเดียวใช่ไหมครับ

ราคา ค่าแรงอยู่ประมานเท่าไหร่ครับ แล้ว ร้านที่รับทำเป็นอะไรบ้างครับแนะนำร้านทีครับ

แถว ๆ บางนา สุขุมวิท หรือ รามอินทรา ก็ได้ครับ

     AT อย่าไปตัดออกเลย แคตอ่ะ แทนที่จะวิ่งเหมือน MT
ตัดออกวิ่งแย่กว่าเดิมอีก AT มันต้องอั้นๆหน่อย โล่งไป แรงต้นหายหมด  :-* :-*

เป็น รถ Civic ตาโต ปี 96 เกียร์ A/T เครื่อง EXI 1.6 เดิม ๆ เลย ซื้อมาแล้วประมาน 16-17 ปี แต่ขับไปได้แค่ 27XXX กิโลเองครับ

เจ้าของเขาบอก ซื้อมา 16-17 ปีแล้ว ผมว่า ไส้แคต มันน่าจะตัน หรือผุหมดแล้วนะ ตามอายุ ตามสภาพ
อีกอย่าง จากประสบการณ์ส่วนตัว เคยเอาแคตฯออกเหมือนกัน ก็วิ่งไม่ได้ด้อยกว่าเดิมนะครับ
เอาแคตฯออก แล้วลองวิ่งดู ถ้าไม่ดีขึ้น โล่งไป ก็ใส่พักกลางเพิ่ม ก็ไม่เสียหายนะครับ    :-* :-* :-*

    ที่เราว่าอย่าเอาออกคือ ถ้าจะเอาออกน่าจะหาพักใส่แทนแคต
ทะลวงออกปล่อยโล่งแบบ MT ไม่ดี  :D :D

ก็ตอนตอบทีแรก ไม่ได้บอกนี่ว่าให้หาพักใส่แทนแคตฯ นี่ครับ ::) :-*

   ใช่แล้วตอนแรกบอกไม่ควรตัดออก ตอนสองก็บอกว่า ถ้าตัดออกก็ควรหาใส่แทนไงจ๊ะ
เพราะไม่ว่าจะยังไง เราก็ไม่เห็นด้วยกับการปล่อยพักกลางโล่งสำหรับ AT อยู่ดี  :D :D

รถเจ้าของกระทู้ อายุเกิน 10 ปีแล้ว แคตฯ น่าจะตันแล้ว ยังไงก็ควรเอาออก จะเก็บไว้ทำไม อีกอย่างรถผมเองตอนนั้นที่เอาออก ก็ไม่ได้ใส่พักกลางไรแทนเข้าไป ก็วิ่งไม่ด้อยกว่าเดิม แคตฯมันเป็นเพียงตัวกรองไอเสีย ไม่ได้ช่วยทำให้รถอั้นอะไรมากมาย ยิ่งถ้าตันแล้ว ยังไงก็วิ่งไม่ออก รถเดิมๆ ก็มีพักกลางติดมากับรถอยู่แล้ว มันคงไม่โล่งเกินไปหรอกครับ

ปล.ตอบจากประสบการณ์ส่วนตัวที่เคยประสบมา  :-*

    อืมถ้ายังงั้นก็ขอโทษที เราคงเข้าใจอะไรผิดไปเอง  :-[ :-[

ทั้ง EK และ ES ยังเดิมๆใช่ไหมครับ ลองไปทำท่อดูก่อนก็ได้นะครับ เห็นว่าชอบขับรถเร็ว เผื่อจะวิ่งขึ้นกว่าเดิม ไม่ลองไม่รู้ครับ แล้วจะติดใจครับ  ;)

    เอาออกหมดแล้วจ๊ะ ของ EK ใช้ทะลวงออกเพราะยังต้องใช้กรอบเสียบ O2
ส่วน ของ ES เอาออกทั้งลูกแล้วใส่พักกลาง+ปลายใหม่จ๊ะ  :D :D

ทะลวงทำไมครับ  ถอดขายได้ตั้งหลายตังค์ ส่วน O2 เซนเซอร์ เจาะเกลียวเสียบกับท่อก็ได้นี่ครับ  :'(

อ้าว คัน ES เอาแคตฯออก แล้วทำไมตอนแรกแนะนำเจ้าของกระทู้อย่าเอาออกล่ะครับ  ::)

รถผม AT ปี96 ท่อ น่าจะตัน ปลายก็ผุ  วิ่งได้ 100 นึง เมียก็ด่าแล้ว(มึงจะเร็วไปไหนขับ80 พอ)    ;D ;D ;D ;D ;D

    ที่ของเราเอาออกเพราะเดินท่อใหม่ หาใช่แคตตันไม่  :-[ :-[
    ของรถเก๋งขายเป็นลูกต้องรวมไว้หลายๆลูกถึงจะขายได้ ส่วนของกระบะใช้ชั่งขายเป็นกิโลจ๊ะ
ส่วนเจาะเกลียวเสียบกับท่อ เราเห็นว่า บางคันทำมาดี และบางคันทำมาไม่ดี ไฟย่อมโชว์
    จึงเห็นว่า เชื่อโรงงานเดิมๆน่าจะดีกว่า และด้วยความที่ EK เป็นรถเก๋งคันแรกของเรา เราจึงไม่รู้ว่ามีวิธีนี้
ของ EK เราเอาออกแลกกับพักปลายมา ไม่ได้ขาย ส่วนของ ES เราเอาออกแลกกับพักกลางมา
    ไม่ได้ขายเช่นกัน แต่เอาแลกกัน
แต่ที่ตอนแรกบอก จขกท.ไม่ต้องเอาออกเพราะ
    1. เห็นเป็นรถเดิมๆ วิ่งน้อย วิ่งยังไม่ถึงแสนเลย การที่แคตจะผุพังก็พอมีโอกาสแต่อาการน่าจะชัดกว่านี้ถ้าแคตผุ
ไม่น่าใช่แค่อั้นแบบนี้ อาการแบบนี้เหมือนปลายอั้นมากกว่าแคตผุ ดังนั้นจึงเห็นว่าน่าเสียดายหากจะตัดแคตออก
    โดยที่มันยังไม่เสีย เพราะมันมีราคา และ เดิมๆสำหรับ AT ดีกว่าปล่อยโล่งอยู่แล้วตามความคิดเห็นส่วนตัว
    2.จขกท.นั้นไม่ได้ถามเรื่องเปลี่ยนท่อ แต่เค้าถามเรื่อง อาทิตย์แรกวิ่งได้ 140 อาทิตย์ต่อมาวิ่งได้ 150
ซึ่งน่าจะเป็นการอั้นปลายมากกว่า เพราะเรื่องทำท่อ เราก็ได้บอกให้ จขกท.ลองไปทำท่อตั้งแต่ความเห็นแรกแล้ว
   แต่เค้าก็ไม่ได้ถามต่อ เราเลยไม่ได้พูดถึง  :-* :-* :-* :-*

ประเด็นของเจ้าของกระทู้ผมรู้และให้คำแนะนำไปแล้ว แต่ประเด็นของผมคือ คุณ ตอบแบบ งง มาก เด่วให้เอาแคตฯออก เด่วให้เอาไว้ เอาออกแล้วจะโล่งไป แต่รถคุณก็ทั้งทะลวงและเอาออก  :-X

    งั้นเอาใหม่ รถ AT ถ้าเดิมๆ อย่าเอาออก เสียดายของ ถ้าจะเอาออกให้ใส่พักกลางใหม่
ถ้า MT แสนโลเอาออกเถอะ แต่ถ้า AT ไม่ควรเอาออกให้มันโล่ง มีไว้ดีกว่า แต่ถ้ามันตันจะเอาออก
    ก็ควรที่จะหาใส่พักกลางใหม่
แต่รถเราที่เอาออก เพราะ EK เราเป็น MT แสนโลปุ๊ป ถอดทิ้งเลยไม่สนใจ ตันไม่ตันไม่สน ถอดทิ้ง
    แต่ ES เราเป็น AT พอเอาออกแล้วเราจึงเดินท่อใหม่ใส่พักกลางใหม่ไม่ให้มันโล่งเหมือน MT
ดังนั้นจึงเห็นได้ว่า เราบอกว่า MT AT มีแคตกับไม่มีนั้นไม่เหมือนกัน :-[ :-[

   ดังนั้นจะเห็นได้ว่า
1. เด่วให้เอาแคตฯออก เด่วให้เอาไว้
    คือ ตอนแรกเราเห็นว่า ถ้ารถ AT เดิมๆ แคตไม่ตันไม่ผุ อย่าเอาแคตออกเลย เสียดาย
แต่ถ้ามันตันมันผุ แล้วจะเอาออกควรเดินพักกลางใหม่อย่าให้มันโล่ง
    เพราะยังไงเราก็คิดว่า เดิมๆนั้น เอาออกไปซื่อๆโดยไม่มีอะไรมาแทนไม่ดีแน่นอน
2.เอาออกแล้วจะโล่งไป
    ถูกต้อง เอาแคตออกโล่งแน่นอน แต่ดีสำหรับ MT เพราะ MT นั้น โล่งๆดีกว่าอั้นแน่นอน
แต่ไม่ดีสำหรับ AT เพราะต้นจะหาย AT โล่งมากไม่ดี
3. แต่รถคุณก็ทั้งทะลวงและเอาออก
    EK เราเป็น MT รถบ้านเราพอแสนโลปุ๊ป เอาออกเลยดังนั้นเราจึงเอาออกสำหรับ EK
เพื่อให้มันโล่ง ไม่อั้นปลาย
    ES เราเป็น AT พอแสนโลปุ๊ปเราเอาออกเช่นกัน แต่ด้วยความที่เป็น AT เราจึงเดินพักกลางใหม่
แทนแคต เพื่อไม่ให้มันโล่งไป
     :-[ :-[ :-[ :-[

    แล้วอีกอย่างคือ ตรงไหนที่เราบอกว่าควรเอาแคตออก ยังไม่ได้บอกว่าควรให้ จขกท เอาแคตออก
เรายืนยันบอกมาตั้งแต่ตอนแรกแล้วว่า AT ไม่ควรเอาออก
    และเราก็ได้ขอโทษที่เข้าใจผิดไปแล้วไง ยัง งงงง อะไรอยู่เหรอจ๊ะ :-[ :-[

เด่วมาเล่นด้วยนะ รอแปปนึง ;)

    อ่ะเคร  ;) ;)

ไล่ยาวมาซะเยอะแยะ ไม่ได้ตอบประเด็นผมเลย ผมไม่ได้ถามว่า รถคุณจะทำอะไรยังไง
ประเด็นที่ผมถามคือ คุณพูดเองว่า อย่าเอาแคตฯออก มันจะโล่ง แต่ไม่ได้บอกเจ้าของกระทู้ตั้งแต่แรกว่า ควรทำยังไงต่อ ถูกไหม?
คุณมาตอบเอาทีหลัง ถูกไหม? แล้วผมเคยบอกหรอ ว่ารถคุณแคตฯตัน ผมพูดไหมว่ารถคุณวิ่งไม่ออก ผมพูดยังครับ

ผมแค่อธิบายว่า รถเจ้าของกระทู้ก็ 10 ปีกว่า แคตฯ มันน่าจะตัน เสื่อม หรือผุ ก็แค่แนะนำว่าให้ลองเอาออก วิ่งดีขึ้นก็ดีไป วิ่งไม่ดีก็หาพักกลางใหม่ใส่ไป
คุณจะร่ายยาวอะไรให้มันเยอะแยะ เกี่ยวกับรถของคุณ ผมไม่ได้ถามอะไรเกี่ยวกับรถของคุณ ผมไม่อยากรู้ ผมแค่ถามว่า รถคุณทั้งสองคัน ยังเดิมๆอยู่ไหม
ถ้าเดิมก็ลองไปทำท่อดู ก็เท่านั้น

 8) 8) 8) 8) 8)

    เอาเถอะๆ ยอม  :-[ :-[

 ;)

อย่าว่าอย่างงั้นอย่างงี้ รถผม ใช้มาจะสามแสนโลแล้ว แคต ยังอยู่เลย ตันไม่ตันไม่รู้ แต่ที่รู้ มันยังอยู่ แล้วก็ใช้งานได้ปกติ อัตราเร่งก็ปกติ  :-*

จร้าาา ยังใช้ดี ไม่ตันก็ดีแล้วครับ   :) :) :)

 ::) เจ้ส้มยอมได้ไง เสียชื่อ วีรสตรี HONDA หมด แฮะๆๆ   :-[ :-[
ก็ถ้าไม่แน่ใจว่าตันไหม ก็ถอดออกมาส่องตรวจสอบซิ ในคู่มือ เขาก็มีขั้นตอน วิธีการตรวจสอบนี่นา

;D ;D ;D ;D

ครับ พี่ ๆ ใจเย็น ๆ กันครับ

คือ สรุปเลยนะครับ

ผมต้องไปทำอะไรบ้างครับ เพราะตอนนี้ตันที่ 150 ไม่ไหลแล้วครับ

ตอนวิ่งนะใช้เกียร์อะไร ถ้าD4  ลองใช้D3 ดูนะครับ  ส่วนสิ่งที่ต้องทำ เดี๋ยวค่ำๆ จะมาบอกอีกที   แต่ความเร็วปลาย ผมว่าถ้าวิ่งที่ D3 อาจจะได้ 160 -170 ประมาณนี้แหละ   :-\ :-\

    อย่างที่บอกไปอ่ะ ลาก D3 ไปจนสุดแล้วค่อยตบ D แล้วดูว่าปลายไปได้ไกลแค่ไหน
ต้น กลาง ยังอยู่ครบป่าว แล้วค่อยมาว่ากันว่ามันปกติ หรือไม่ปกติ
    แต่ส่วนตัวคิดว่า ถ้าเหยียบ D ตั้งแต่ออกตัวไปสุดที่ 150 โดยที่ไ่ได้ตบลง D3 เลย
วิ่งได้ขนาดนี้ น่าจะเรียกว่าปกติดีอยู่แล้ว เพียงแต่ ไล่เกียร์ไม่ถูกแค่นั้นเอง
    ลองไล่เกียร์ดูใหม่แล้วค่อยว่ากันว่า ต้น กลาง ปลาย เป็นยังไง
อยากได้ตรงไหนเพิ่ม ต้นเพิ่ม กลางเพิ่ม หรือ ปลายเพิ่ม ค่อยมาว่ากันอีกที  :D :D
    รถตัวเองก็มี D3 ลองดูสิว่าเท่ากันป่าว  ;D ;D

ไม่รู้อ่ะ ตีนปลายผมไม่ค่อยสนใจเท่าไหร่ ปกติวิ่งไม่เกิน100  :-[ :-[

    เชื่อดีป่าวนี่ วันก่อนเห็นพี่คิวว่าเล่นกับ FD ล่อไป 180+  :P :P

:-[ :-[   เค้าก็ว่ากันไป

ลองล้างลิ้นปีกผีเสื้อ ตั้งวาวล์ดูครับ เช็คระบบท่อไอเสียครับ
เปลี่ยนกรองเบนซินดูครับ น่าจะดีขึ้นครับ ถ้าเปลี่ยนของเหลวมาก่อนหน้านี้หมดแล้ว
ลองไล่เช็คดูครับ ผมว่าเกียร์น่าจะปรกติอยู่ครับ
อยู่แถวอ่อนนุชรึป่าวครับ จะได้แนะนำอู่ให้ครับ

หมายถึง ใส่D3 ไปตั้งแต่ออกตัว จนกกว่าความเร็วจะตันเลยใช่ไหมครับ แล้วค่อยใส่ D4
ถ้า D3 ไปจนสุดเลย สมมุติ 150+ มันจะไม่เป็นการลากเกียร์ แล้วจะไม่พังหรอครับ


ใช่ครับ อยู่สุมุขมวิท 101 ครับ

ก็ถ้าอยากได้ตัวเลขมากกว่านี้ ก็ต้องลองครับ ถ้ารอบมันถึงขีดแดงก็ผ่อน  ถ้าน้ำมันเกียร์น้ำมันเครื่องไม่ขาดก็ลดความเสี่ยงลงไปแต่ก็ไม่ควรทำบ่อยแค่นั้นเอง
อ้อ ถ้าคุณลากD3 แล้วสมมุติถึง 170 แล้วคุณใส่ D ความเร็วอาจจะลดลงเหลือ 150 ก็ได้ครับ ความเร็วสูงสุด อาจจะไม่ได้อยู่ที่เกียร์สุดท้ายถ้ากำลังเครื่องมันไปไม่ถึง :-\

ครับ ทราบแล้วครับ

ขอบคุณพี่ชายมากครับ

แคตไม่เห็นจำเป็นต้องรวมหลายลูก ลูกเดียวเค้าก็รับซื้อละ

ส่วนอู่ ถ้าแถวๆสุขุมวิท 101 ก็มี อู่ซอยอุดมสุข 36 ช่างตึ๋ง เขียนถูกป่าวหว่า  :'(

   เชียงใหม่ของรถเก๋งต้องรวมสิบลูก เค้าถึงจะรับซื้ออ่ะ ส่วนมากจะเอาแลกของในร้านมากกว่า
พอในร้านมีครบสิบลูก ก็จะเรียกคนซื้อมาเป็นคราวๆไป ถ้าถามขายที่ร้าน เค้าจะไม่ค่อยรับซื้อ
    เพราะเชียงใหม่ แคตรถเก๋งขายยาก
ส่วนของกระบะเค้าชั่งกิโลขายได้เลย โลละ 1000 ของคันนึงจะมีราวๆครึ่งโล 500 บาทอ่ะ  :D :D

 ;D ;D ;D เรื่องแคต ยังไม่จบ :P

;D ;D ;D ;D

เมี๊ยวววว  ;D

ดีนะแคตผมไม่มีมาแต่แรก  ;D ;D

ใช่แล้ว อู่ตึ่ง อุดมสุข 36 ลองไปดูครับ :-*



จะต่อป่ะล่ะ พร้อม ;) ;)  ;D ;D

ของผม EK ปี 97 เครื๋อง exi เกียร์ AUTO ทะลวงไปแล้วครับ.... ;D ;D ;D

    ของรถเก๋งทะลวงแล้วขายได้ป่าว  ::) ::)

ได้ยินเค้าว่ามานะ จิงป่าวไม่รู้

AT โล่งไปก้ ไม่ดี ตันไปก้ไม่ดี หากแคทตันแล้ว อยากทะลวงทิ้ง เค้าว่ากันว่า ให้ใส่ ท่อเกลียว จะดีกว่าปล่อยโล่งๆ :) :) :)

Civic ตาโต เหมือนกันเลยครับ :D