:::CIVIC CLUB THAILAND:::

CIVIC DIMENSION เล่นแรงแบบบล็อกใหญ่ด้วย H22A



     กลับมาเจอกับของแปลกกันอีกแล้วนะครับ ในเล่มนี้เราจะพาไปพบกับ CIVIC DIMENSION กันอีกครั้ง ซึ่งเราเคยนำเสนอกันไปแล้วในคอลัมน์ DRESS UP เล่ม 10 โดยในครั้งนั้นเจ้า CIVIC DIMENSION ถูกเพิ่มความแรงด้วยการหันไปคบกับเครื่อง B16A ซึ่งผมเคยบอกไปในครั้งที่แล้วว่า ?ยังไม่ใช่เครื่องยนต์ที่เหมาะสมที่สุด แต่เป็นเครื่องยนต์ที่คุ้มค่ากับการลงทุนมากที่สุด?
      ในครั้งนี้ก็เช่นกัน ที่สามารถนำประโยคเดิมกลับมาใช้ได้อีก เพราะเจ้า CIVIC DIMENSION คันนี้ก็ยังคงเล่นแรงด้วยเครื่องยนต์แบบข้ามรุ่น ซึ่งถือได้ว่าเมื่อเทียบกับของเดิมแล้ว กลายเป็นการคบหากับเครื่องแบบบล็อกใหญ่ทีเดียว เพื่อไม่ให้เสียเวลา เรามาดูรายละเอียดกันเลยดีกว่าครับ
       เริ่มต้นกันตั้งแต่ภายนอก จากเดิมที่เป็นสีแดงเลือดหมูก็ถูกกลับสีเพื่อให้เข้ากับยุคสมัยด้วยการทำสีขาว ถึงแม้จะไม่ใช่สีเบอร์เดียวกับรุ่น TYPE R แต่ก็ทำให้รถดูสะอาดและโดดเด่นกว่าเดิมอีกไม่ใช่น้อย เมื่อในส่วนของสีดูสะอาดโดดเด่นแล้ว ก็มาถึงการตกแต่งในส่วนอื่น ๆ กันบ้าง ตั้งแต่ด้านหน้าที่ถูกเปลี่ยนแปลงด้วยการนำกระจังหน้าและโลโกจากรุ่น TYPE R มาใช้ ส่วนกระจกมองข้างก็ถูกเปลี่ยนไปใช้ทรง VISION ที่มีรูปทรงลู่ลม

 

ENGINE 2,200 C.C. IN CIVIC DIMENSION
คงรู้กันอยู่แล้วว่าเรื่องของความแรงนั้น ต่อให้ใช้รถบอดี้ไหนก็แล้วแต่ ถ้าอยากที่จะแรงแล้วล่ะก็ มันก็ไม่ใช่เรื่องยาก โดยเฉพาะช่างไทยที่มีชื่อเสียงในเรื่องดัดแปลงกันอยู่แล้ว ไม่เชื่อก็ลองดูได้ว่าพลพรรคที่เล่นรถ HONDA มีไม่รู้กี่คันแล้ว ที่หันไปคบหากับเครื่องยนต์ที่มีระบบอัดอากาศแบบข้ามสายพันธุ์ ซึ่งวิธีเหล่านั้นก็คงจะโหดเกินไปกับบอดี้
สำหรับคันนี้ก็คบหากับความแรงเพิ่มเติมเช่นเดียวกัน ถึงแม้จะเป็นการเปลี่ยนเครื่องยนต์ แต่ก็ยังคงอยู่ในตระกูล HONDA ซึ่งเครื่องยนต์ที่นำมาวางลงไปนั้น เป็นเครื่องยนต์ในรหัส H22A จากบอดี้ PRELUDEโดยสเป็กของเครื่องตัวนี้มีแรงม้าที่ติดตัวในระดับ 220 แรงม้า และแรงบิดสูงสุดอยู่ที่ 22.5 กก.-ม. ซึ่งเป็นที่แน่นอนอยู่แล้วว่า เมื่อแรงม้าขนาดนี้ต้องมาแบกรับน้ำหนักของ CIVIC DIMENSION แรงม้าที่มีอยู่ก็ไม่ต้องแบกรับน้ำหนักที่มากเท่าไหร่ แต่กว่าจะยัดเครื่องขนาด 2,200 C.C. ลงไปได้ ก็ต้องมีการดัดแปลงกันยกใหญ่พอสมควร โดยเฉพาะคานล่างด้านหน้า
ที่ต้องคอยรับตัวเครื่องก็ได้ทำการรองเหล็กเพื่อให้ตำแหน่งของคานต่ำลง หูยึดยางแท่นเครื่องจะได้ลงมาต่ำตามไปด้วย เพราะถ้าหากไม่ทำเช่นนี้ ตำแหน่งของตัวเครื่องก็จะอยู่สูงจนติดฝากระโปรง ซึ่งยางแท่นเครื่องตัวหน้ารถนั้นก็ถูกดัดแปลงด้วยการนำบู๊ชปีกนกมาใช้งานร่วมด้วย ซึ่งตรงจุดนี้ถ้าดูจากในรูปจะทำความเข้าใจได้ง่ายกว่า ส่วนตรงจุดยึดเครื่องในตำแหน่งอื่น ๆ ก็ได้ทำการสร้างขึ้นมาใหม่ทุกตัว เพื่อให้ตำแหน่งของเครื่องยนต์อยู่ในจุดที่เหมาะสม คราวนี้รับรองว่าปัญหาที่เกิดขึ้นก็คงลืมไปได้เลย

 
 
ส่วนจุดที่จำเป็นจะต้องให้ความสำคัญอีกส่วนนั่นก็คือในเรื่องของเพลาขับ เพราะว่าเป็นอุปกรณ์ที่ต้องถ่ายทอดกำลังจากเกียร์ไปสู่ล้อโดยตรง ดังนั้น เรื่องของความแข็งแรงจึงเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญ โดยจุดนี้คุณเป๊ปแห่งอู่ RACING ENERGY จึงได้จัดการนำชุดเพลาขับที่ติดกับเครื่องมาใช้ด้วย แต่การนำมาใช้นั้นก็มีการดัดแปลงนิดหน่อยด้วยการตัดปลาย ไม่ว่าจะเป็นด้านนอกหรือด้านในออกไปด้านละครึ่งนิ้ว เพราะความยาวของเพลาที่อยู่ใน PRELUDE มีขนาดที่ยาวกว่า CIVIC อยู่นิดหน่อย
คราวนี้ก็มาเริ่มต้นการโมดิฟายในสเต็ปต้น ๆ กันบ้าง เริ่มด้วยขั้นพื้นฐานที่เรียกว่า ?กินง่าย ถ่ายคล่อง? ด้วยการปรับปรุงให้อากาศสามารถเข้าสู่เครื่องยนต์ได้ในปริมาณที่มากขึ้น จากการเปลี่ยนไปคบหากับกรองอากาศแบบเปลือยที่ทำจากวัสดุสเตนเลส จากนั้นก็ทำให้ไอเสียระบายได้สะดวก ด้วยการขยายท่อไอเสียทั้งเส้นป็นขนาด 2.2 นิ้ว ในเรื่องของระบบน้ำมันเชื้อเพลิงก็ได้ทำการปรับปรุงเพื่อให้เพียงพอกับความต้องการของเครื่องยนต์ ด้วยการเปลี่ยนปั๊มน้ำมันเชื้อเพลิงไปใช้ของเครื่อง 1JZ VVTi พร้อมกับเพิ่มตัวปรับแรงดันน้ำมัน(Regulator) จาก OBX RACING จากนั้นก็ทำการเปลี่ยนแปลงการทำงานของกล่อง ECU ด้วยการเปลี่ยน ROM ที่มีการโปรแกรมข้อมูลใหม่ โดยเป็นฝีมือของทางอู่ RACING ENERGY เอง ระบบส่งกำลังที่ติดตัวมากับเครื่อง H22A นี้เป็นแบบเกียร์ธรรมดาเดินหน้า 5 จังหวะ ซึ่งก็สามารถตอบสนองความต้องการของผู้ขับขี่ได้ดีพอสมควร แต่เพื่อให้สมบูรณ์มากขึ้น จึงทำการปรับปรุงกันใหม่ด้วยการเปลี่ยนอัตราทดเกียร์ของเกียร์ 3 และ 4 เพื่อให้อัตราทดทั้งหมดชิดกัน จากนั้นก็ไปทำระบบคลัตช์ช่วยในการตัดต่อกำลังจากเครื่องยนต์สู่เกียร์ ด้วยการเปลี่ยนไปใช้ผ้าแบบทองแดง พร้อมทั้งใช้หวีที่มีแรงกดมากกว่าของเดิม สุดท้ายก็ทำการลดน้ำหนักที่ตัวฟลายวีล ซึ่งขั้นตอนต่าง ๆ เหล่านี้ก็เป็นที่นิยมกันมากในการปรับปรุงระบบส่งกำลัง



SUSPENSION?ENKAI 17?


สำหรับช่วงล่างของ CIVIC คันนี้ เป็นการปรับปรุงในส่วนพื้นฐาน ไม่ว่าจะเป็นชุดโช้คอัพและสปริงที่ถูกเปลี่ยนไปใช้แบบสตรัทปรับเกลียว (ไม่ทราบยี่ห้อ) โดยจุดประสงค์หลักก็เพื่อที่จะปรับระดับสูง-ต่ำของตัวรถได้ตามความต้องการ พร้อมทั้งความแข็งของสปริงที่ผสมผสานกับความหนืดของโช้คอัพที่มีเพิ่มมากขึ้นก็ช่วยส่งผลให้ประสิทธิภาพในการเกาะถนนมีมากกว่าเดิม ดังนั้น การที่รถส่วนใหญ่เปลี่ยนชุดโช้คอัพและสปริงเข้าไปนั้น ไม่ใช่เป็นแค่การเพิ่มความสวยงามอย่างเดียว
ในจุดต่อมาก็คงหนีไม่พ้นล้อ เพราะอุปกรณ์ชิ้นนี้เป็นสิ่งที่ช่วยเปลี่ยนแปลงบุคลิกของตัวรถได้เป็นอย่างดี ซึ่งคันนี้ได้ทำการเปลี่ยนไปใช้ล้อ ENKAI RACING ขอบ 17 นิ้ว กว้าง 7 นิ้ว พร้อมกับยางหน้า-หลังที่ต่างขนาด โดยล้อหน้าเลือกใช้ยางขนาด 215/40 และล้อหลังใช้ยางขนาด 205/50 สาเหตุหนึ่งที่เลือกใช้ยางหน้าที่มีขนาดกว้างกว่าด้านหลัง น่าจะเป็นเพราะล้อที่ขับเคลื่อนเป็นล้อหน้า

ภายในตามสมัยนิยม


คราวนี้ก็มาต่อกันที่ห้องโดยสารบ้าง ในส่วนหลัก ๆ ที่มีการเปลี่ยนแปลง เริ่มตั้งแต่พวงมาลัยนำของ MOMO ที่จับกระชับกว่าเดิมมาใช้แทน ในส่วนต่อมาก็คงเป็นหัวเกียร์จากรุ่น TYPE R โดยจุดนี้ถ้าสังเกตดีๆ จะเห็นว่าตัวด้ามเกียร์ถูกดัดเพื่อให้อยู่ในตำแหน่งที่สามารถใช้งานได้ถนัดมากขึ้น
คราวนี้ก็คงจะหนีไม่พ้นอุปกรณ์ที่นิยมกันมากในกลุ่มรถซิ่ง นั่นก็คือบรรดาเกจ์วัดต่าง ๆ ซึ่งที่จริงแล้วเกจ์วัดเหล่านี้ไม่ได้ติดตั้งเพื่อความสวยงามเท่านั้น แต่จุดประสงค์หลักคือ ต้องการทราบถึงการทำงานของระบบต่าง ๆ เกี่ยวกับเครื่องยนต์ ซึ่ง CIVIC คันนี้ก็เช่นเดียวกัน ได้ทำการติดตั้งเกจ์วัดอุณหภูมิน้ำหล่อเย็น, เกจ์วัดอุณหภูมิน้ำมันเครื่อง, ก์วัดแรงดันน้ำมันเบนซิน และวัดรอบแบบมีชิฟต์ไลต์ในตัว

 

เป็นอย่างไรบ้างครับกับ HONDA CIVIC DIMENSION หลายคนอาจสงสัยว่า การวางเครื่องแบบนี้เหมาะสมไหม รวมถึงการตกแต่งเครื่องยนต์ที่ทำค่อนข้างน้อย แต่คำตอบที่ผมจะบอกก็คือ สิ่งที่ผมนำเสนอไปนั้นไม่ได้ต้องการให้มองเพียงแค่จุดประสงค์ในเรื่องความแรงเพียงอย่างเดียว แต่สิ่งที่สำคัญไม่แพ้กันคือ ความคุ้มค่าในการลงทุน บวกกับความสามารถในการใช้งานในชีวิตประจำวันได้อย่างแท้จริง ไม่ใช่ว่าความแรงที่ได้มานั้นทำให้การขับใช้งานในชีวิตประจำวันเป็นไปได้ลำบากด้วย และ CIVIC DIMENSION คันนี้ก็คงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่เป็นตัวอย่างตามแนวคิดที่ว่า ?ยังไม่ใช่เครื่องยนต์ที่เหมาะสมที่สุด แต่เป็นเครื่องยนต์ที่คุ้มค่ากับการลงทุนมากที่สุด?

ที่มา : Tune By Magazine 

ท่าทางจะเเรงน่าดู อย่างนี้เค้าเรียกเเรงข้าม BlocK   :o :o :o

ES เล่นบล็อคใหญ่ ;D ;D

ตัวนี้เคยลงหนังสือหรือยัง รู้สึกเคยอ่านเจอ

 ;D  เคยเห็น แจ๊ส วาง K20 A มาครับH22 A ผมว่าไม่ค่อยแม็ทกับES น่ะ

เจ๋งครับ  ;)

จะแรงไปไหน อิอิ  ;D

ดูรถมันเล็กกว่าเครื่องนะ  แปลกดี  อิอิ

อะไรจะแรงปานนั้น  :-*

H o w  m u c h. . . .?

 :-[ ค่าเครื่องไม่เท่าใหร่ ราคาถูกกว่า B16A เทคใหญ่ อีกครับ  :-[  แต่ค่าวาง + แท่นทำใหม่ + ทุบห้องเครื่อง นี่สิครับ ไม่น้อยเลย  กะงบประมาณยัดลงราวๆ 2-3 หมื่น เห็นจะได้   ราคาร่วมๆ จะจบคงอยู่ที่  เฉียดแสน หรืออาจจะแสนนิดๆ  :-\

 :) :) :) WoW...WoW....แจ๋วว่ะ...

:-[ แต่ได้แรงบิดครับ น่าจะคุ้ม อิอิ

ผมว่าถ้า เพิ่ม ไนตรัสสักถัง คงจะขับสนุกขึ้นอีกเยอะนะครับ  :)