:::CIVIC CLUB THAILAND:::

คุยคุ้ย Civic => Civic Club Discuss => ห้องคนขับ => ข้อความที่เริ่มโดย: hotice ที่ 17 ตุลาคม 2007, 21:38:07



หัวข้อ: น้ำหม้อน้ำต้องเติมหรือไม่ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: hotice ที่ 17 ตุลาคม 2007, 21:38:07
ใช้ ตาเหยี่ยวครับ ไม่ทราบว่าต้องเติมน้ำหม้อน้ำหรือเปล่าครับไม่แน่ใจเพราะไม่เคยเติมเลย แต่เข้าศูนย์ตามระยะตลอดครับ
ข้อสอง ในคู่มือให้ใช้น้ำมัน91 แล้วผมเติม โซฮออล์ 95 เป็นอะไรใหมครับ แล้วมีคนบอกว่าทำให้สายท่อน้ำมันเปื่อยเร็วจริงใหมครับ


หัวข้อ: Re: น้ำหม้อน้ำต้องเติมหรือไม่ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Aod61 : มิสซิสซิปปี้ ที่ 17 ตุลาคม 2007, 21:52:38
ใช้ ตาเหยี่ยวครับ ไม่ทราบว่าต้องเติมน้ำหม้อน้ำหรือเปล่าครับไม่แน่ใจเพราะไม่เคยเติมเลย แต่เข้าศูนย์ตามระยะตลอดครับ
ข้อสอง ในคู่มือให้ใช้น้ำมัน91 แล้วผมเติม โซฮออล์ 95 เป็นอะไรใหมครับ แล้วมีคนบอกว่าทำให้สายท่อน้ำมันเปื่อยเร็วจริงใหมครับ



-  เรื่องน้ำหม้อน้ำ   ต้องเติมสิครับ  หมั่นตรวจเช็คดูนะครับ  ถ้าน้ำหม้อน้ำแห้ง เครื่องจะโอเวอร์ฮีท เครื่องน็อค ฝาสูบโก่ง
    ข้อควรระวัง   เปิดหม้อน้ำตอนเครื่องเย็นเท่านั้นนะครับ  ไม่งั้นจะเจอน้ำพุร้อน
 
-  ค่ากำหนดของรถออคเทนที่ 91  เราเติมออคเทน95 ได้   ถึงจะเป็นโซฮออล์ 95  ก็ตาม  เรื่องสายเปื่อย ไม่เกี่ยวหรอกครับ
   กลับกัน รถยนต์ ที่มีค่ากำหนดออคเทนที่ 95  แต่ไปเติม 91  มีปัญหาแน่นอนครับ   มันจะชิงจุดระเบิดก่อน


หัวข้อ: Re: น้ำหม้อน้ำต้องเติมหรือไม่ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: boranman ที่ 18 ตุลาคม 2007, 00:01:35


-  เรื่องน้ำหม้อน้ำ   ต้องเติมสิครับ  หมั่นตรวจเช็คดูนะครับ  ถ้าน้ำหม้อน้ำแห้ง เครื่องจะโอเวอร์ฮีท เครื่องน็อค ฝาสูบโก่ง
    ข้อควรระวัง   เปิดหม้อน้ำตอนเครื่องเย็นเท่านั้นนะครับ  ไม่งั้นจะเจอน้ำพุร้อน
 
-  ค่ากำหนดของรถออคเทนที่ 91  เราเติมออคเทน95 ได้   ถึงจะเป็นโซฮออล์ 95  ก็ตาม  เรื่องสายเปื่อย ไม่เกี่ยวหรอกครับ
   กลับกัน รถยนต์ ที่มีค่ากำหนดออคเทนที่ 95  แต่ไปเติม 91  มีปัญหาแน่นอนครับ   มันจะชิงจุดระเบิดก่อน
   ตามนั้นเลยคครับ ให้ดีแนะนำให้ปฏิบัติเป็นประจำก่อนเดินทางไกล หรือสัก 2 อาทิตย์ดูครั้งก็ได้ครับ ถ้ารถไม่มีหม้อน้ำรั่วหรือเหตุการอื่นๆ น้ำมันก็ไม่ค่อยลดหรอกครับ ผมเองขับมา 2 ปีกว่าเเล้ว เปิดเช็คตลอด แต่ก็ไม่เคยต้องเติมนะ ไม่แน่ใจว่าเข้า 0 เเล้วเค้าเติมมาให้หรือเปล่า


หัวข้อ: Re: น้ำหม้อน้ำต้องเติมหรือไม่ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: pReaw ที่ 18 ตุลาคม 2007, 02:49:40
   ตามนั้นเลยคครับ ให้ดีแนะนำให้ปฏิบัติเป็นประจำก่อนเดินทางไกล หรือสัก 2 อาทิตย์ดูครั้งก็ได้ครับ ถ้ารถไม่มีหม้อน้ำรั่วหรือเหตุการอื่นๆ น้ำมันก็ไม่ค่อยลดหรอกครับ ผมเองขับมา 2 ปีกว่าเเล้ว เปิดเช็คตลอด แต่ก็ไม่เคยต้องเติมนะ ไม่แน่ใจว่าเข้า 0 เเล้วเค้าเติมมาให้หรือเปล่า
น้ำของเดิมในหม้อน้ำนี่เป็นน้ำหล่อเย็นรึเปล่าครับ แล้วถ้าแห้ง เราเติมน้ำเปล่าได้ไหม เพราะว่าไม่มีน้ำหล่อเย็น
แล้วอีกอย่างก้มลงไปดูระดับน้ำยากเหลือเกินมองไม่เห็นเพราะมันอยู่ข้างใน
ตัว01นะครับ  ::)


หัวข้อ: Re: น้ำหม้อน้ำต้องเติมหรือไม่ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: ES01 328 ที่ 18 ตุลาคม 2007, 08:07:13
น้ำของเดิมในหม้อน้ำนี่เป็นน้ำหล่อเย็นรึเปล่าครับ แล้วถ้าแห้ง เราเติมน้ำเปล่าได้ไหม เพราะว่าไม่มีน้ำหล่อเย็น
แล้วอีกอย่างก้มลงไปดูระดับน้ำยากเหลือเกินมองไม่เห็นเพราะมันอยู่ข้างใน
ตัว01นะครับ  ::)

ต้องเช็คเองด้วยนะครับ ผมเคยมาแล้วด้วยความไว้ใจศูนย์ แต่เป็นแบตเตอรี่ เข้าศูนย์วันพุธ วันเสาถัดมาอีกอาทิตเปิดดูน้ำกลั่น แห้งสนิทเลย ส่ว่นน้ำหม้อน้ำเติมน้ำเปล่าก้อได้ครับผม


หัวข้อ: Re: น้ำหม้อน้ำต้องเติมหรือไม่ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Tony ที่ 18 ตุลาคม 2007, 08:16:13
น้ำในหม้อน้ำควรหมั่นตรวจสอบซักอาทิตย์ละครั้ง แต่ปกติมันจะไม่ค่อยหายหรอกครับ ถ้าเป็นเครื่องเดิมๆ ไม่ได้ทำอะไรมา ถ้ามันแห้งเติมน้ำเปล่าได้ครับ แต่ถ้าน้ำกลั่นก็จะดีมันจะได้ไม่เป็นตะกรัน ถ้าต้องเติมน้ำเปล่าบ่อยๆ


หัวข้อ: Re: น้ำหม้อน้ำต้องเติมหรือไม่ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Aod61 : มิสซิสซิปปี้ ที่ 18 ตุลาคม 2007, 08:38:57
น้ำของเดิมในหม้อน้ำนี่เป็นน้ำหล่อเย็นรึเปล่าครับ แล้วถ้าแห้ง เราเติมน้ำเปล่าได้ไหม เพราะว่าไม่มีน้ำหล่อเย็น
แล้วอีกอย่างก้มลงไปดูระดับน้ำยากเหลือเกินมองไม่เห็นเพราะมันอยู่ข้างใน
ตัว01นะครับ  ::)


ใช้น้ำสะอาดเติมนะครับในหม้อน้ำ  น้ำยาหล่อเย็นต้องเติมต่างหาก อย่าเติมมากเพราะเครื่องจะเย็นเกินไป ควรเติมน้ำยาหล่อเย็นตามอัตราที่กำหนดไว้ข้างขวด   เติมลงไปในหม้อน้ำสำรองก็ได้ครับมันจะดูดไปหม้อน้ำเอง

ระดับน้ำของหม้อน้ำ  ก็เปิดเช็คในขณะเครื่องเย็น  เปิดฝาหม้อน้ำดูมันจะเต็มพอดีกับระดับฝาปิดเลย
ข้อแนะนำ ควรใช้ฝาหม้อน้ำของแท้ เท่านั้นไม่ควรใช้ของแต่งหรือของปลอม พวกนี้จะมีผลต่อเพรสเชอร์ในระบบ


หัวข้อ: Re: น้ำหม้อน้ำต้องเติมหรือไม่ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: taxman : ปทุมธานี ที่ 18 ตุลาคม 2007, 09:28:04
อาการของหม้อน้ำรั่ว ดูจากตรงไหนครับ ใช่น้ำหยด หรือ น้ำแห้งไว้กว่าปกติ ดูแค่นี้พอมั๊ย สาเหตุเกิดจากอะไร


หัวข้อ: Re: น้ำหม้อน้ำต้องเติมหรือไม่ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Mr.t.s ที่ 18 ตุลาคม 2007, 09:41:50
สงสัยผมจะหม้อน้ำมีปัญหาแล้วอ่ะคับ หม้อน้ำสำรอง เปิดดูทีไรเหลือน้อยทุกที  :(
อย่างงี้ รั่วป่ะคับ  :(
คัยเคยไปทำมาบ้าง ประมาณ ค่าใช้จ่ายให้ที  ::) ::) ::)


หัวข้อ: Re: น้ำหม้อน้ำต้องเติมหรือไม่ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Aod61 : มิสซิสซิปปี้ ที่ 18 ตุลาคม 2007, 09:42:45
อาการของหม้อน้ำรั่ว ดูจากตรงไหนครับ ใช่น้ำหยด หรือ น้ำแห้งไว้กว่าปกติ ดูแค่นี้พอมั๊ย สาเหตุเกิดจากอะไร


ถูกต้องครับเจ้โอมเจ้าสาวแสนสวย   น้ำหายหรือพล่องเร็วกว่าปกติ  แสดงว่ารถคุณมีปัญหาในระบบนี้แล้ว
ต้องไล่ระบบดูทั้งหมด  อาจจะเป็นท่อรั้วตามข้อต่อ  รอยรั่วตามดที่รังผึ้งหม้อน้ำ  ฝาหม้อน้ำยังมีผลเลย ฯลฯ   


หัวข้อ: Re: น้ำหม้อน้ำต้องเติมหรือไม่ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Aod61 : มิสซิสซิปปี้ ที่ 18 ตุลาคม 2007, 09:47:04
สงสัยผมจะหม้อน้ำมีปัญหาแล้วอ่ะคับ หม้อน้ำสำรอง เปิดดูทีไรเหลือน้อยทุกที  :(
อย่างงี้ รั่วป่ะคับ  :(
คัยเคยไปทำมาบ้าง ประมาณ ค่าใช้จ่ายให้ที  ::) ::) ::)



ลองดูในหม้อน้ำจริงก็ดีกว่า   ว่ามันหายเร็วกว่าปกตืไหม
รถคุณเติมน้ำยาหล่อเย็นไหมอ่ะ  ถ้าไม่....มันหายเร็วก็อาจจะไม่ใช่เรื่องผิดปกติ
เพราะน้ำในหม้อน้ำมันมีหน้าที่หล่อเย็น  คุณใช้งานหนัก รถติด  เครื่องร้อน น้ำก็หายได้

แต่ถ้ามันหายแบบ เติมวันนี้อีก 1-2 วันหาย  แน่นอนมีปัญหาแน่นอน 
มันไม่จำเป็นที่จะเป็นที่หม้อน้ำรั่วเสมอไป  ตามข้อต่อต่างๆ แนวท่อ ปั๊มน้ำ  เกี่ยวข้องทั้งหมด ต้องไล่ระบบทั้งหมดดูครับ




หัวข้อ: Re: น้ำหม้อน้ำต้องเติมหรือไม่ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Mr.t.s ที่ 18 ตุลาคม 2007, 09:59:41
กรณีของผม หล่อเย็นไม่เติมคับ  :-[
1-2 วัน น้ำหายไปเกือบหมดคับ ในหม้อสำรองอ่ะคับ  :(
ดูในหม้อน้ำจิงทำไงคับ  ::) ::)
ช่วยประมาณค่าใช้จ่าย ทีคับ คงผิดปกติแล้วล่ะ  :'( :'(

ขอบคุณ คุณ เจย์โชว์ มากคับ หน้าตาดีอย่างเดียวไม่พอ จิตใจดี อีก  ;D ;D ;D ;D ;D ;D ;D


หัวข้อ: Re: น้ำหม้อน้ำต้องเติมหรือไม่ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Aod61 : มิสซิสซิปปี้ ที่ 18 ตุลาคม 2007, 10:06:03

คุณก็ลองสังเกตุคราบน้ำดูซิครับว่ามัน รั่วจากจุดไหน 
ถ้าไม่สะดวก ลองเข้าไปปรึกษาร้านหม้อน้ำดีกว่าครับ 
เรื่องงบประมาณ......อย่างที่บอก คุณต้องให้ช่างเค้าไล่ดู ว่ามันรั่วจากครงไหน ก็แก้ไขตามอาการ  ไม่น่าจะแพงมาก
ขอให้โชคดีครับ

ปล.  สำหรับคำชม.....ผมชินแระ  ใครๆก็ชมแบบนี้  ;D ;D ;D


หัวข้อ: Re: น้ำหม้อน้ำต้องเติมหรือไม่ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: taxman : ปทุมธานี ที่ 18 ตุลาคม 2007, 10:49:10
เรื่องรูรั่ว ต้องถามทั่นอ่อดนี่แหล่ะครับ เค้ารู้ดี 555555555555555555


หัวข้อ: Re: น้ำหม้อน้ำต้องเติมหรือไม่ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: pasako ที่ 18 ตุลาคม 2007, 16:27:31
ผมใช้ตาโต เจอปัญหาหม้อน้ำรั่ว เปิดฝากระโปรงดูสังเกตุรอยตะเข็บของหม้อน้ำ เป็นคราบคล้ายๆน้ำสนิม ก็เลยสันนิษฐานว่า น่าจะรั่วจากรอยตะเข็บ เอาไปที่ร้าน....เค้าบอกว่า ตะกั่วที่เชื่อมรอยต่อหม้อน้าเสื่อม เวลาเครื่องร้อน น้ำในหม้อน้ำเลยซึมออกมาทางรูต่างๆ เสียไป 300 บาท ประมาณ 2 ชั่วโมง ครับ ถ้ารั่วที่แผงรังผึ้ง เปลี่ยนประมาณ 1,500 บาท ( ของรุ่นอื่นไม่แน่ใจว่าราคาเท่ากันรึเปล่า ) เคยเข้าไปถามศูนย์ ศูนย์คิดค่าหม้อน้ำ 4,500 บาท น้ำยาหม้อน้ำ 250 บาท ค่าแรง 450 บาท...... สรุปคือ สังเกตุดูน้ำหม้อน้ำทุกเช้า ถ้าวันนี้เติมน้ำเต็ม พรุ่งนี้มาดู หายเกือบหมด ก็อาจจะเป็นที่หม้อน้ำครับ


หัวข้อ: Re: น้ำหม้อน้ำต้องเติมหรือไม่ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: matta ที่ 19 ตุลาคม 2007, 12:50:47
ถ้าเป็น FD 07 เติมเองไม่ได้ครับต้องให้ศูนย์เติมให้เพราะเป็น
น้ำผสมน้ำยาครับ ประมาณ 200-300 บาท  :-[


หัวข้อ: Re: น้ำหม้อน้ำต้องเติมหรือไม่ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Aod61 : มิสซิสซิปปี้ ที่ 19 ตุลาคม 2007, 16:14:22
ถ้าเป็น FD 07 เติมเองไม่ได้ครับต้องให้ศูนย์เติมให้เพราะเป็น
น้ำผสมน้ำยาครับ ประมาณ 200-300 บาท  :-[



จริงหรอ........ ใครหลอกใครครับงานนี้
มีน้ำยาหล่อเย็นเฉพาะรุ่น ออกมาขายอีกหรอ....


หัวข้อ: Re: น้ำหม้อน้ำต้องเติมหรือไม่ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: BillyTheKid ที่ 23 ตุลาคม 2007, 03:25:07
รถท่านใดอายุ 3-4 ปีขึ้นไปมั่งคร้าบท่าน ? หม้อน้ำ,หม้อพักพักน้ำมีตะกอนฝุ่นปนในน้ำอยู่ไหม๊คร้าบท่านคร้าบ ? ถ้ามีอยากรู้ไหม๊มันมาจากไหน ? ... มันมาจากสารพัดน้ำต่างๆ ที่ท่านๆ เติมเข้าไปซึ่งมิใช่น้ำยาหล่อเย็นที่ติดมากับรถไงล่ะคร้าบท่าน ! น้ำร้อนกับตะกอน,ตะกรันนี่มันของคู่กันมีโลหะเข้ามามีเอี่ยวร่วมวงสังสรรค์ด้วยแล้วยิ่งไปกันใหญ่ ! เห็นกาต้มน้ำร้อนไหม๊ล่ะคร้าบท่าน ! น้ำที่เราเอามาต้มกินต้องเป็นน้ำสะอาดอยู่แล้วใช่ไหม๊ล่ะ ! คงไม่มีใครเอาน้ำสกปรกมาต้มกินหรอกมั๊ง ! นานๆ ไปก้นกาจะมีตะกรันเกาะนี่แค่โลหะชนิดเดียวเท่านั้นเองนะ ! แล้วเครื่องยนต์กับระบบน้ำหล่อเย็นของรถมันโลหะกี่ชนิดปนกันล่ะคร้าบท่าน ! พวกซีลยางท่อยางอะไรต่างๆ อีกต่างหาก ก็ยิ่งเพิ่มโอกาสให้ตะกอนเกิดขึ้นมากเข้าอีกนานๆ เข้าก็จับตัวแข็งเป็นตะกรันอุดตันทางเดินน้ำและยังกัดกร่อนโลหะให้ รั่ว ผุ พัง อีกต่างหาก ! ผู้ผลิตรถถึงได้ใช้น้ำยาหล่อเย็นใส่มาให้ยังไงล่ะ ! ถ้าใช้น้ำธรรมดาได้ผู้ผลิตรถก็คงจะกรอกใส่มาให้จากโรงงานแล้วล่ะคร้าบท่าน ! จะใช้น้ำยาหล่อเย็นหรือ Coolant ใส่ทำไมให้เปลืองค่าใช้จ่ายในการผลิต ยิ่งเสียค่าใช้จ่ายในการผลิตน้อยลงเท่าไหร่กำไรก็จะยิ่งเยอะขึ้น ผู้ผลิตรถเค้ายิ่งชอบจริงไหม๊คร้าบท่าน ! แต่ในเรื่องการบริการหลังการขายผู้ผลิตรถและศูนย์บริการกลับไม่ได้เน้นตรงนี้ ที่จริงน่าจะมีคำเตือน " เฉพาะน้ำยาหล่อเย็นเท่านั้น " ติดที่หม้อน้ำพักและหม้อพักด้วยซ้ำ ! ดันมีแค่ " ห้ามเปิดเวลาเครื่องร้อน " ไอ้นี่น่ะแมวที่ไหนมันก็รู้เพราะว่าร้อนมือเวลาจับ ! ... สาเหตุก็เพราะว่ารถของท่านมันจะได้พังเร็วๆ เอาเข้าศูนย์ๆ ก็จะได้ตังค์จากท่านผู้ผลิตรถก็จะได้ตังค์ศูนย์จากค่าอะไหล่ยังไงล่ะคร้าบท่านคร้าบ ! เพราะการให้บริการหลังการขายนี่น่ะมันทำกำไรได้เป็นกอบเป็นกำให้กับผู้ประกอบการไม่แตกต่างจากกำไรการขายรถเหมือนกัน ! ... บางท่านอาจจะบอกให้ใส่น้ำกลั่น ! แล้วท่านรู้ได้ยังไงน้ำนั่นน้ำกลั่นจริงๆ ทุกวันนี้ยังมีน้ำกลั่นด้วยหรือ เครื่องกลั่นน้ำหน้าตาเป็นยังไงมีใครเคยเห็นมันมั่ง ? ... น้ำยาหล่อเย็นหรือ Coolant นั่นมันไม่ได้เป็นแค่น้ำหล่อเย็นอย่างเดียวหรอกคร้าบท่าน ! มันยังมีสารหล่อลื่นปั๊มน้ำ สารป้องกันการเกิดสนิมหรือป้องกันการผุกร่อนของโลหะ สารป้องกันการเกิดตะกอน สารป้องกันการแข็งตัวเปื่อยยุ่ยของซีลยางหรือท่อยางหม้อน้ำ รวมอยู่ด้วยราคาถึงได้แพงกว่าน้ำที่เรียกกันว่า " น้ำกลั่น " มากยังไงล่ะคร้าบท่านคร้าบ ! แล้วมันก็ยังมีอายุการใช้งานอีกด้วย สังเกตได้จากสีจะเปลี่ยนไปเมื่อใช้งานไปเรื่อยๆ ควรจะเปลี่ยนถ่ายอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง หรือเมื่อสีมันเปลี่ยนไปจนเป็นสีของน้ำธรรมดา ! ที่ได้เห็นที่ศูนย์ Honda นี่จะมีอยู่ 2 ชนิดคือ Type1 กับ Type2 ราคา Type1 ลิตรละประมาณ 70 แกลลอน 4 ลิตรก็สองร้อยกว่าบาท ถ้า Type 2 ลิตรละร้อยกว่าบาทแกลลอน 4 ลิตรก็คงจะ 6-7 ร้อย Type2 ใช้กับรถตั้งแต่ปี 2000 ขึ้นมาศูนย์ฯ เค้าว่าไว้งั้นน่ะคร้าบท่านคร้าบ ! ... ถ้าน้ำยาหล่อเย็นในระบบหายต้องคอยเติมบ่อยๆ ก็แสดงว่าระบบมีการรั่วหรือซึม ดูได้ไม่ยากหรอกคร้าบท่าน ! เพียงแค่มีความสังเกตสักหน่อยก็พอ เพราะว่ามันจะมีรอยเปียกๆ ให้เห็นหรือไม่ก็ทิ้งรอยคราบน้ำยาหล่อเย็นแห้งๆ ตามรอยต่อหรือที่ต่างๆ ของทางเดินน้ำที่เกิดการรั่วซึม ไว้ให้ท่านดูต่างหน้าน่ะคร้าบพี่น้องคร้าบ !
ส่วนโซฮอลทาง Honda เองก็บอกว่าใช้ได้ ใช้อ็อกเทนสูงกว่าสเปคก็ยิ่งดีต่อเครื่องยนต์ผลเสียคือแพงกว่าอ็อกเทนต่ำเท่านั้น บ้านเราทำไมอ็อกเทนแค่ 95 ก็ไม่รู้ ในญี่ปุ่น 100 ยุโรปอเมริกาก็ 98 บ้านเราแค่ 95 แปลกเน๊าะ ! ... เอธานอลนี่ดีนะคร้าบท่าน ! ไม่ใช่ว่าไม่ดีกระบวนการผลิตทำให้ออกมาดีๆ ค่าอ็อกเทนมันร้อยกว่าด้วยซ้ำ การเผาไหม้ก็สะอาดหมดจดกว่าน้ำมัน ! รถ Formula Cart (รถแข่งล้อเปิดที่คล้ายๆ กับ Formula 1) ที่แข่งกันอยู่ของอเมริกาใช้เชื้อเพลิงเอธานอลเพียวๆ ไม่มีน้ำมันผสมเลยด้วยซ้ำ รถแข่ง Drag ในอเมริกาบางรุ่นบางคันก็ใช้เอธานอลเป็นเชื้อเพลิง ! แต่ในบ้านเรานี่สิคร้าบท่าน ! ไม่เห็นออกมาบอกมารับรองเลยว่าทำออกมายังไง ดียังไง คุณภาพมาตราฐานการผลิตดีขนาดไหน มีอะไรออกมาอ้างอิงคุณภาพและมาตราฐาน ! ... มีแต่ทำราคาให้ถูกกว่าแล้วก็ออกโฆษณาทีวีที่ดูแล้วไม่ค่อยจะเข้าท่าเอาคนหน้าตาโง่ๆ มาพูดถ้าพังจะซ่อมให้ๆ ! เหมือนมันดูถูกคนดูยังไงก็ไม่รู้ ! ถ้ามันดีจริงทำไมเค้าจะไม่ใช้กันถูกกว่ากันตั้ง 3 บาทนะคร้าบท่าน ! เติม 10 ลิตรก็ได้เพิ่มลิตรนึงแล้ว แต่ทำไมคนส่วนใหญ่เค้าไม่ใช้กัน ต้องออกโฆษณาที่ไม่ค่อยจะมีความคิดมากรอกหูกรอกตาประชาชนทุกวี่ทุกวัน ! ... ปตท.พลังไทยเพื่อใคร ปตท.พลังไทยขูดเลือดขูดคนไทย ! กำไรรวมทั้งหมดปีนึง " แสนกว่าล้านบาท " มันมากกว่างบประมาณต่อปีของบางประเทศที่จนๆ ด้วยซ้ำ ! มันแปลกอีกแล้วคร้าบพี่น้องคร้าบ !


หัวข้อ: Re: น้ำหม้อน้ำต้องเติมหรือไม่ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: SOHC Guru ที่ 23 ตุลาคม 2007, 13:33:09
รถท่านใดอายุ 3-4 ปีขึ้นไปมั่งคร้าบท่าน ? หม้อน้ำ,หม้อพักพักน้ำมีตะกอนฝุ่นปนในน้ำอยู่ไหม๊คร้าบท่านคร้าบ ? ถ้ามีอยากรู้ไหม๊มันมาจากไหน ? ... มันมาจากสารพัดน้ำต่างๆ ที่ท่านๆ เติมเข้าไปซึ่งมิใช่น้ำยาหล่อเย็นที่ติดมากับรถไงล่ะคร้าบท่าน ! น้ำร้อนกับตะกอน,ตะกรันนี่มันของคู่กันมีโลหะเข้ามามีเอี่ยวร่วมวงสังสรรค์ด้วยแล้วยิ่งไปกันใหญ่ ! เห็นกาต้มน้ำร้อนไหม๊ล่ะคร้าบท่าน ! น้ำที่เราเอามาต้มกินต้องเป็นน้ำสะอาดอยู่แล้วใช่ไหม๊ล่ะ ! คงไม่มีใครเอาน้ำสกปรกมาต้มกินหรอกมั๊ง ! นานๆ ไปก้นกาจะมีตะกรันเกาะนี่แค่โลหะชนิดเดียวเท่านั้นเองนะ ! แล้วเครื่องยนต์กับระบบน้ำหล่อเย็นของรถมันโลหะกี่ชนิดปนกันล่ะคร้าบท่าน ! พวกซีลยางท่อยางอะไรต่างๆ อีกต่างหาก ก็ยิ่งเพิ่มโอกาสให้ตะกอนเกิดขึ้นมากเข้าอีกนานๆ เข้าก็จับตัวแข็งเป็นตะกรันอุดตันทางเดินน้ำและยังกัดกร่อนโลหะให้ รั่ว ผุ พัง อีกต่างหาก ! ผู้ผลิตรถถึงได้ใช้น้ำยาหล่อเย็นใส่มาให้ยังไงล่ะ ! ถ้าใช้น้ำธรรมดาได้ผู้ผลิตรถก็คงจะกรอกใส่มาให้จากโรงงานแล้วล่ะคร้าบท่าน ! จะใช้น้ำยาหล่อเย็นหรือ Coolant ใส่ทำไมให้เปลืองค่าใช้จ่ายในการผลิต ยิ่งเสียค่าใช้จ่ายในการผลิตน้อยลงเท่าไหร่กำไรก็จะยิ่งเยอะขึ้น ผู้ผลิตรถเค้ายิ่งชอบจริงไหม๊คร้าบท่าน ! แต่ในเรื่องการบริการหลังการขายผู้ผลิตรถและศูนย์บริการกลับไม่ได้เน้นตรงนี้ ที่จริงน่าจะมีคำเตือน " เฉพาะน้ำยาหล่อเย็นเท่านั้น " ติดที่หม้อน้ำพักและหม้อพักด้วยซ้ำ ! ดันมีแค่ " ห้ามเปิดเวลาเครื่องร้อน " ไอ้นี่น่ะแมวที่ไหนมันก็รู้เพราะว่าร้อนมือเวลาจับ ! ... สาเหตุก็เพราะว่ารถของท่านมันจะได้พังเร็วๆ เอาเข้าศูนย์ๆ ก็จะได้ตังค์จากท่านผู้ผลิตรถก็จะได้ตังค์ศูนย์จากค่าอะไหล่ยังไงล่ะคร้าบท่านคร้าบ ! เพราะการให้บริการหลังการขายนี่น่ะมันทำกำไรได้เป็นกอบเป็นกำให้กับผู้ประกอบการไม่แตกต่างจากกำไรการขายรถเหมือนกัน ! ... บางท่านอาจจะบอกให้ใส่น้ำกลั่น ! แล้วท่านรู้ได้ยังไงน้ำนั่นน้ำกลั่นจริงๆ ทุกวันนี้ยังมีน้ำกลั่นด้วยหรือ เครื่องกลั่นน้ำหน้าตาเป็นยังไงมีใครเคยเห็นมันมั่ง ? ... น้ำยาหล่อเย็นหรือ Coolant นั่นมันไม่ได้เป็นแค่น้ำหล่อเย็นอย่างเดียวหรอกคร้าบท่าน ! มันยังมีสารหล่อลื่นปั๊มน้ำ สารป้องกันการเกิดสนิมหรือป้องกันการผุกร่อนของโลหะ สารป้องกันการเกิดตะกอน สารป้องกันการแข็งตัวเปื่อยยุ่ยของซีลยางหรือท่อยางหม้อน้ำ รวมอยู่ด้วยราคาถึงได้แพงกว่าน้ำที่เรียกกันว่า " น้ำกลั่น " มากยังไงล่ะคร้าบท่านคร้าบ ! แล้วมันก็ยังมีอายุการใช้งานอีกด้วย สังเกตได้จากสีจะเปลี่ยนไปเมื่อใช้งานไปเรื่อยๆ ควรจะเปลี่ยนถ่ายอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง หรือเมื่อสีมันเปลี่ยนไปจนเป็นสีของน้ำธรรมดา ! ที่ได้เห็นที่ศูนย์ Honda นี่จะมีอยู่ 2 ชนิดคือ Type1 กับ Type2 ราคา Type1 ลิตรละประมาณ 70 แกลลอน 4 ลิตรก็สองร้อยกว่าบาท ถ้า Type 2 ลิตรละร้อยกว่าบาทแกลลอน 4 ลิตรก็คงจะ 6-7 ร้อย Type2 ใช้กับรถตั้งแต่ปี 2000 ขึ้นมาศูนย์ฯ เค้าว่าไว้งั้นน่ะคร้าบท่านคร้าบ ! ... ถ้าน้ำยาหล่อเย็นในระบบหายต้องคอยเติมบ่อยๆ ก็แสดงว่าระบบมีการรั่วหรือซึม ดูได้ไม่ยากหรอกคร้าบท่าน ! เพียงแค่มีความสังเกตสักหน่อยก็พอ เพราะว่ามันจะมีรอยเปียกๆ ให้เห็นหรือไม่ก็ทิ้งรอยคราบน้ำยาหล่อเย็นแห้งๆ ตามรอยต่อหรือที่ต่างๆ ของทางเดินน้ำที่เกิดการรั่วซึม ไว้ให้ท่านดูต่างหน้าน่ะคร้าบพี่น้องคร้าบ !
ส่วนโซฮอลทาง Honda เองก็บอกว่าใช้ได้ ใช้อ็อกเทนสูงกว่าสเปคก็ยิ่งดีต่อเครื่องยนต์ผลเสียคือแพงกว่าอ็อกเทนต่ำเท่านั้น บ้านเราทำไมอ็อกเทนแค่ 95 ก็ไม่รู้ ในญี่ปุ่น 100 ยุโรปอเมริกาก็ 98 บ้านเราแค่ 95 แปลกเน๊าะ ! ... เอธานอลนี่ดีนะคร้าบท่าน ! ไม่ใช่ว่าไม่ดีกระบวนการผลิตทำให้ออกมาดีๆ ค่าอ็อกเทนมันร้อยกว่าด้วยซ้ำ การเผาไหม้ก็สะอาดหมดจดกว่าน้ำมัน ! รถ Formula Cart (รถแข่งล้อเปิดที่คล้ายๆ กับ Formula 1) ที่แข่งกันอยู่ของอเมริกาใช้เชื้อเพลิงเอธานอลเพียวๆ ไม่มีน้ำมันผสมเลยด้วยซ้ำ รถแข่ง Drag ในอเมริกาบางรุ่นบางคันก็ใช้เอธานอลเป็นเชื้อเพลิง ! แต่ในบ้านเรานี่สิคร้าบท่าน ! ไม่เห็นออกมาบอกมารับรองเลยว่าทำออกมายังไง ดียังไง คุณภาพมาตราฐานการผลิตดีขนาดไหน มีอะไรออกมาอ้างอิงคุณภาพและมาตราฐาน ! ... มีแต่ทำราคาให้ถูกกว่าแล้วก็ออกโฆษณาทีวีที่ดูแล้วไม่ค่อยจะเข้าท่าเอาคนหน้าตาโง่ๆ มาพูดถ้าพังจะซ่อมให้ๆ ! เหมือนมันดูถูกคนดูยังไงก็ไม่รู้ ! ถ้ามันดีจริงทำไมเค้าจะไม่ใช้กันถูกกว่ากันตั้ง 3 บาทนะคร้าบท่าน ! เติม 10 ลิตรก็ได้เพิ่มลิตรนึงแล้ว แต่ทำไมคนส่วนใหญ่เค้าไม่ใช้กัน ต้องออกโฆษณาที่ไม่ค่อยจะมีความคิดมากรอกหูกรอกตาประชาชนทุกวี่ทุกวัน ! ... ปตท.พลังไทยเพื่อใคร ปตท.พลังไทยขูดเลือดขูดคนไทย ! กำไรรวมทั้งหมดปีนึง " แสนกว่าล้านบาท " มันมากกว่างบประมาณต่อปีของบางประเทศที่จนๆ ด้วยซ้ำ ! มันแปลกอีกแล้วคร้าบพี่น้องคร้าบ !



ที่ต่างประเทศเค้าใช้น้ำมัน Octhane 98 หรือ 100 นั้นไม่แปลกหรอกครับ
เพราะราคาน้ำมันของเค้า จะเอามาอ้างอิงกับบ้านเราไม่ได้ ที่โน่นลิตรนึง
70 - 80 บาทเข้าไปแล้ว เมืองไทยลิตรละ 30 ยังบ่นกันเลย จริง ๆ แล้วน้ำ
มันบ้านเราเนี่ยถูกแล้วครับ AVGas 100LL ลิตรละ 55-60 บาท น้ำมัน
Octhane 130 ก็ยังมีขายแค่ลิตละร้อยกว่าบาท ถูกกว่าที่ญี่ปุ่น หรือเมกาอีก

ส่วนรถยนต์ที่ใช้ Methanol มันก็มีที่เมืองนอกมานานแล้ว แต่รถบ้านเรา
จะเอามาเติมไม่ได้ครับ Methanol ต้องใช้กับเครื่องยนต์ที่ออกแบบมาสำหรับ
Methanol เท่านั้น เค้าถึงไม่เอามาขายไงล่ะ ไม่ต้องแปลกใจ


หัวข้อ: Re: น้ำหม้อน้ำต้องเติมหรือไม่ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: pReaw ที่ 23 ตุลาคม 2007, 14:37:47
ก็ว่ากันไป


หัวข้อ: Re: น้ำหม้อน้ำต้องเติมหรือไม่ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: BillyTheKid ที่ 23 ตุลาคม 2007, 16:43:50
เอ่อ ! ........ คือว่า ... ไอ้เอธานอล (Ethanol) กับเมธานอล (Methanol) มันคือๆ กัน เหมือนกันไหม๊คร้าบท่าน ! หรือมันไม่คือกัน ! จุดชนวนให้แปลกใจสงสัยอีกแล้วสิคร้าบท่านคร้าบ ! ..... จำได้ลางๆ ว่าแต่ก่อนบ้านเราอ็อกเทน 98 นี่แหละ มิใช่หรือคร้าบท่าน ! แล้วก็มีการออกมารณรงค์ว่าใช้แค่ 95 ก็พอ แล้วก็เลิกขาย 98 ซะงั้นเพื่อเป็นการประหยัดอะไรประมาณนั้นแหละ ! ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าประหยัดต้นทุนเพื่อให้กำไรมันมากขึ้นหรืออย่างไร ! ก็อย่างที่คนระดับความรู้เยอะๆ ของปตท.บอกเหมือนกับที่ท่านว่านั่นแหละ ! " ราคาน้ำมันของเค้า จะเอามาอ้างอิงกับบ้านเราไม่ได้ คนไทยได้ใช้น้ำมันราคาถูกแล้ว โชคดีกว่าอีกหลายๆ ประเทศแล้วล่ะ " ... ฟังแล้วจั๊กจี้สะดือดีเหลือเกิน ! ... แล้วก็ดันมีคนที่เคยนั่งในตำแหน่งบอร์ดบริหารของปตท.ไปออกทีวีรายการท็อล์คโชว์พูดออกมาเต็มปากเต็มคำว่า " เป็นที่รู้กันอยู่แล้วว่าราคาน้ำมันบ้านเรานั้นจะอิงราคาตลาดสิงค์โปร์ดังที่ปตท.บอกอยู่เสมอ ! แต่ยังมีสิ่งที่ประชาชนไม่รู้และปตท.ไม่เคยบอกเลย ก็คือ อิงราคาตลาดสิงค์โปร์จริง ! แต่โทษที ! + ด้วย 2 เหรียญ น่ะคร้าบท่านคร้าบ ! นี่คือสิ่งที่ประชาชนไม่รู้และปตท.ไม่เคยจะบอกเลยตลอดเวลาที่ผ่านมา ! " ..... อูยยยยยยย ! ฟังแล้วก็หายจั๊กจี้สะดือเลยเหมือนกันคร้าบท่าน ! ... ไอ้กระผมล่ะก็อยากจะมีหุ้นในปตท.สักพันสองพันล้านกับเค้าเหลือเกิน แต่ดันเสือกเกิดมาจน ! แล้วก็ยังไร้ซึ่งวาสนา ! อีกด้วยน่ะสิคร้าบท่านคร้าบ !
มีเพื่อนบ้านใกล้เรือนเคียงของเราที่เรียกกันอะไรเหลืองๆ นั่นน่ะ ราคาน้ำมันเค้าถูกกว่าเราพอได้เลยแหละ ! ทั้งๆ ที่เมื่อก่อนนี้ซึ่งไม่นานสักเท่าไหร่ก็ประมาณยุคที่บ้านเรามีนายกฯ คนเดียวเป็นติดๆ กันหลายๆ สมัยนานๆ นั่นน่ะ (ไม่รู้จะมีใครเกิดไม่ทันบ้าง !) ท่านๆ คงจะจำกันได้ดีถ้าเคยเรียนสังคม วิชาเพื่อนบ้านของเรา ไอ้ประเทศนี้น่ะมันก็ไม่ได้ร่ำรวยหรือเจริญกว่าบ้านเราเลย ! ... แต่ทุกวันนี้นั้นเรากลับเป็นฝ่ายที่วิ่ง (ไม่รู้ว่าวิ่งหรือคลานกันแน่ ! หรือว่ายังคลานไม่เป็นด้วยซ้ำ !) ตามหลังเค้าจนแม้กระทั่งฝุ่นก็มองไม่เห็นเลยมิใช่หรือคร้าบท่านคร้าบ ! (ตอนนี้ก็มีอีกประเทศนึงที่เป็นเจ้าของ " เปล ! " นั่นน่ะที่กำลังแซงเราแล้ว แล้วก็ยังมีอีก 3 ประเทศ บน ซ้าย และขวา ไม่รู้ว่ากำลังจัดตั้งขบวนจะไล่กวดเราหรือยัง) ... แปลกใจสงสัยอีกแล้วคร้าบท่านคร้าบ ! ว่าพวกเรากำลังทำอะไรกันอยู่น่ะสิคร้าบพี่น้องคร้าบ !


หัวข้อ: Re: น้ำหม้อน้ำต้องเติมหรือไม่ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: kingkong88 ที่ 23 ตุลาคม 2007, 17:10:12
... แปลกใจสงสัยอีกแล้วคร้าบท่านคร้าบ ! ว่าพวกเรากำลังทำอะไรกันอยู่น่ะสิคร้าบพี่น้องคร้าบ !

ย่ำอยู่กับที่ครับ

เอ๊ะ เป็นกระทู้ ปตท ไปซะแล้ว


หัวข้อ: Re: น้ำหม้อน้ำต้องเติมหรือไม่ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: SOHC Guru ที่ 23 ตุลาคม 2007, 19:48:21

เรื่องราคาน้ำมัน คงต้องไปหาอ่านตามเว็บผู้จัดการ หรือเว็บ
การเงินและธุระกิจดีกว่าครับ ผมเองไม่ค่อยได้สนใจเรื่องพวกนี้
เท่าไหร่

แต่ที่มาเลย์ราคาน้ำมันของเค้าถูกจริง แถมยังมี Octhane 98
ให้เลือกใช้กันอีกด้วย ก็ไม่เห็นจะน่าแปลกใจเลยเพราะประเทศ
เค้าผลิตน้ำมันได้เอง เลยขายได้ถูกกว่าบ้านเรา

แต่ไม่ต้องไปอิจฉาเค้าหรอกครับ ถึงน้ำมันเค้าจะถูก แต่ค่าภาษี
การใช้รถยนต์ ค่าทางด่วน ค่าจิปาถะเค้าแพงกว่าเรามากครับ



หัวข้อ: Re: น้ำหม้อน้ำต้องเติมหรือไม่ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: GoKoKo ที่ 23 ตุลาคม 2007, 20:03:06
มาหาฟามรู้  :-[


หัวข้อ: Re: น้ำหม้อน้ำต้องเติมหรือไม่ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: BillyTheKid ที่ 24 ตุลาคม 2007, 02:51:02
เกล้ากระผมก็แค่เล่าเรื่องโจ๊กเล็กๆ น้อยๆ ที่มันเป็นเรื่องจริง ! ให้ยิ้มๆ กันเล่นแก้เซ็ง ! จะไปคิดจริงจังอะไรกับมันมากมายล่ะคร้าบท่านคร้าบ ! ... สบายๆ คือไทยแท้ ! ประเทศพัฒนาตลอดชาติ ! ... ว่าแต่เรื่องที่ว่ามันไม่ตลกมั่งเลยเหรอคร้าบท่านคร้าบ ? ถ้าไม่ตลกคราวหน้าคราวหลังเห็นทีจะต้องเปลี่ยนมุขแล้วล่ะคร้าบพี่น้องคร้าบ !