:::CIVIC CLUB THAILAND:::

ES ปี 4 ทำประกันชั้น 1 ที่ไหนดี ไม่โดนblack list อู่ ไม่มีปัญหา

เพียบเลยครับ ผมว่าเลือกตามงบประมาณเลยอะ ที่ผมว่าชัวร์ๆก็
 วิริยะ กรุงเทพ ไทยพานิชสามัคคี 
รอท่านอื่นมาเพิ่มเติมอีกที เพราะตอบจากประสบการณ์ ไม่ใช่กูรูอะครับ

 :-[ สนับสนุน กรุงเทพฯ กับ วิริยะครับ แต่เบี้ยจะแพงกว่าเจ้าอื่นนิดหน่อยครับ

อันนี้จะไม่ได้ซ่อม 0 แร้วนะ ทุกประกันเค้ากำหนดไว้ถ้าต่อประกันปีที่ 4 จะไม่ได้ซ่อม 0 แร้ว แต่จิงๆ รถมันเพิ่ง 3 ปีเอง แต่ภาษาประกันเค้าใช้แบบเนี้ย ตอนนี้ยิ่งถ้าเป็นฮอนด้า ซ่อม 0 ด้วย ราคาจะแพงขึ้นไปอีก เนื่องจากว่า 0 ไม่ยอมลดค่าอะไหล่ให้ประกัน ทำให้ประกันต้องมาเก็บเพิ่มกะผู้เอาประกันอีกต่อนึง ซวยเราไป ::) เท่าที่เคยเช็ค ทราบมาก้อมี ไทยพาณิชย์สามัคคี ที่ให้ฮอนด้าซ่อม 0 ได้ 5 ปี แร้วก้อสินทรัพย์ ก้อ 5 ปีเหมือนกัน แต่ค่าเบี้ยอู่ธรรมดากะ 0 ต่างกันประมาณ 2-3 พันบาท

....แต่ถ้าทำประกันระบุผู้ขับขี่ด้วย ค่าเบี้ยจะถูกลงมาอีกไม่เกิน 2 พันบาทค่ะ

....บริษัทประกันบอกว่า กรมการประกันภัยเค้าได้ขึ้นค่าเบี้ยประกันรถตั้งแต่เดือน 9/50 ที่ผ่านมาแร้ว ฉะนั้นใครจะต่อประกัน หรือทำใหม่ช่วงหลังเนี้ ราคาก้อจะแพงขึ้นค่ะ

ของผม es ตาเหยี่ยว 04 ประวัติดี 3 ปีติด ระบุชื่อผู้ขับ
ซ่อมอู่  กรุงเทพฯ ปกภ. เบี้ย 10,300   (ทุน 430,000)

ต่อรองของแถมได้ ดังนี้
1.เงินขวัญถุง 15 %  จากค่าเบี้ยปีที่แล้ว ตกประมาณ 1,800 บ.
ทำเรื่องอยู่ อีก 2 ด.โอนเข้า บ/ช เนื่องจากเป็นลูกค้าชั้นดี
(ไม่ดีได้ไงฟ่ะ กินตังค์ผมไปตั้ง 3 ปี ก็หลายอยู่ 555...)

2. แถม พรบ.

3.ถ้ารถเข้าซ่อม(กรณีฝ่ายถูก) เบิกค่าแท๊กซี่ได้ 1500 บ.

หมายเหตุ 3 ปี ทำกับเซลส์คนเดิมตลอด จึงกล้าขอ
แต่น้องเค้าตอนแรกที่ได้ยินก็อึ้งกิมกี่ :( ไปเหมือนกัน
คงคิด(ในใจ) ว่าแหม ตานี่ช่างกล้า....    อิอิ....

     ;D

อยากทราบว่าประกันภัยของสินทรัพย์ดีหรือเปล่าคะ เคลมได้ทุกศูนย์ของ honda หรือเปล่าคะ

ในพันทิป (โต๊ะรัชดา) เค้าว่า บ.สินทรัพย์จัดอยู่กลางๆ ไม่ดีแต่ก็ไม่แย่

คห.4  :D

เอ.......รถเก่าผมไม่รู้นะ   แต่ผมออก FD 3 เดือนที่แล้วมของวิริยะเบี้ย  ถูกกว่าของกรุงเทพนะครับ
จะเลือกประกัน  ขอให้เลือกบริษัทที่มีชื่อเสียงนิดนึงนะครับ  จ่ายแพงกว่านิดหน่อย สบายใจกว่ากันเยอะ

ใช้อยู่ค่ะ ตั้งแต่ซื้อรถ ตอนนี้ก้อ ต่อเป็นปีที่ 3 ละ ค่าเบี้ยลดจนลดไม่ได้แร้ว ปีนี้เลยเคลมซะเรย เข้าได้ทุก 0 ค่ะ จะมีบาง 0 ที่มีพนักงานเคลมไปนั่งอยู่เลย เช่น พระราม 9 ,ปิ่นเกล้า เนี่ยแหละค่ะ

ผมถูกชนท้าย ประกันกรุงเทพณฯ ซ่อม0 ใช้เวลา10 วัน ไม่เห็นได้ค่าเท็กซี่เลยครับ
คู่กรณี ประกัน วิริยะ สงสัยถีบประตูมันเพิ่มไปอีกมั้ง

ค่าแท๊กซี่ผมได้ตอนต่อปีที่ 2

ส่วนต่อปีที่ 3 ได้ ค่าแท๊กซี่ กับโบนัสปลายปี 15 % ของเบี้ยถ้าไม่เครมฝ่ายผิด

ส่วนต่อปีนี้(ปีที่ 4 แหม่บๆ เมื่อต้นเดือนเอง)
ได้เพิ่มมาอีกอย่างคือ พรบ.  เซลส์คงนึก ตานี่ เคี่ยวขึ้นทุกวัน 555.... :(

อันนี้ต้องต่อรองกับ พนง.(ก่อนต่อประกันนะ) เอาเองคับ
ประมาณว่า ถ้าบริการดีไม่มีปัญหาก็จะได้ใช้บริการกันยาว.....   ;D
 :)

ตามนี้เลยนะครับ ขอเพิ่มนิดนึงถ้ารถอายุเกินแล้วต้องทำประกันซ่อมอู่ ของสินทรัพย์สามารถเข้าได้ 2 ห้าง มีที่ปิ่นเกล้ากะพระราม9 ครับผม ตอนนี้รถผมก้ออยู่ที่ปิ่นเกล้าอยู่ เคลมรอบครับ เค้าทำตั้ง 20 วัน ได้สิ้นเดือนแนะ

ผมก็ใช้สินทรัพย์คับ ระบุคนขับ สามปีละจาก 16xxx 14xxx ล่าสุด12xxx เพิ่งเคยเคลมหลังจากเบี้ยปีล่าสุดนี่(หลายรอบ)
ไม่รู้จาบอกว่าดีหรือไม่ดี เอาเป็นว่าจาแชสิ่งที่ได้เจอมาลากัน

 ??? แบบว่ายัวะ
1.ต่อประกันอยากรูดบัตรตอนแรกบอกไม่มี ตอนหลังบอกว่ารูดได้ที่บริษัท นัดแนะซะดิบดีถึงเวลาไปไม่มีใครอยู่รอสองสามชั่วโมง
2.เวลามีปัญหาโทรไปทีไรก็โอนไปโอนมาคุยใหม่หลายรอบแถมโดนตะคอกทุกทีว่าใครบอกให้ส่งต่อมาคือสรุปไม่มีใครช่วยเลยเอาแต่จะปัดปัญหาออกจากตัวเอง
3.พนักงาน(บางคน)ตุกติกเรื่องเอกสารใบเคลม ออกว่าทำสีแต่จิงๆต้องเปลี่ยนรถผมเลยโดนดองไว้ในศูนย์เพราะเอกสารไม่เรียบร้อยส่งซ่อมไม่ได้
4.พนักงานมาช้าทุกครั้งที่มีเรื่อง
 :-X ชิวๆ
1.พนักงานโทรมาขอร้องให้ช่วยไปแจ้งความเพราะประกันคู่กรณีไม่ยอมตกลง อันนี้โอเคเพราะเค้าขอมาก็ช่วยเหลือกันไปถึงแม้เราจะได้ใบเคลมมาแล้ว
 :) พอใจ
1.มีพนักงานคนนึงช่วยเป็นธุระคอยตามเรื่องต่อประกันให้ตอนที่จาไปรูดบัตรที่บริษัท คอยถามจนเราจบเรื่อง

ลองเอาไปดูๆละกันนะคับ ส่วนตัวผมก็อยากเปลี่ยนแต่คงหาถูกกว่านี้ไม่ได้
แต่ความคิดกะลังจาเปลี่ยนไปเพราะยึดคติที่ว่า ของถูกไม่มีดี ของฟรีไม่มีในโลก
ยอมจ่ายแพงหน่อยเพื่อความสบายใจดีก่า :-*

                           แนะนำ วิริยะ  กับ กรุงเทพ ค่ะ

อันนี้แสดงว่าต่อประกันกะบริษัทเองเลยใช่มั้ยคะ สินทรัพย์อ่ะ อันนี้ไม่เคยนะ เพราะทาง 0 พระราม9 เค้าจัดการให้หมด เวลาต่อประกันเค้าก้อจะติดต่อให้ แถมไปเอากรมธรรม์ที่ 0 ช้ายังได้ (ตอนนั้นไม่มีเวลาเลย งานยุ่งมากๆๆๆๆ) หมดประกันเดิมตั้ง 2 อาทิตย์ กว่าจะไปเอาแล้วไปจ่ายตังทีหลังอีก ที่สำคัญ คือ ชอบตรงนี้แหละ คือ พอไปจ่ายตังที่ 0 เค้าลดให้อีกจากราคาของประกัน อีก 600 บาท ดีถูกลงไปอีก รูดบัตรได้ที่ 0 เรย ไม่มีชาจด้วย ;)

 :-[ ไม่ทราบว่าซื้อจากศุนย์ไหนเหรอคะ แล้วเขามีไฟแนนซ์อะไรให้เลือกบ้างอะ ทำไมเลือกที่นี่ น่าจะเลือกที่อื่นมากกว่านะ เรามีสิทธ์เลือกได้เองนะ ไม่ต้องตามที่เซลบอก หรือว่าที่นี่ให้ดอกเบี้ยต่ำกว่าที่อื่น แต่ขอแนะนำนะคะว่าควรเปลี่ยนที่ไปเลย ช้านัก ติดต่อก็ยาก อย่าไปเอาเลย โดยส่วนตัวก่อนหน้านี้ก็เปลี่ยนเหมือนกันจากไทยพานิชย์มาเป็นกสิกร เพราะความล่าช้านี่แหละ แนะนำคำเดียว เปลี่ยนเถอะ....... :D

 :-[โทษทีคะ ตอบผิดกระทู้ ต้องขอโทษด้วย  :'( :'(

 :-[เพิ่งทำใบขับขี่แล้วก็ซื้อรถอะคะ  ไม่ทราบว่าจะมีผลอย่างไรต่อประกันบ้างคะ ได้ข่าวมาว่าต้องจ่ายค่า except ด้วยเหรอ ถ้าเราเป็นฝ่ายผิด ทำประกันชั้น 1 ไว้อะคะ ช่วยตอบด้วยนะคะ :'(

ไม่มีผลไรต่อการเคลมครับผม รถผมซื้อมือสองมา 21/12/49 ทำใบขับขี่ 25/12/49 ตอนนี้เคลมารอบคันแล้ว (แผลเก่าจ้า ประกันไม่ได้มาถ่ายรูป ผมเลยมั่งเคลมให้ครบ ก่อนประกันหมด)

ผมใช้สินทรัพย์ ปัญหาเยอะมาก รถผมลงข้างทาง ก็เรียกเจ้าหน้าที่ประกันมา ก็ทำตามขั้นตอนทุกอย่าง เอารถเข้าซ่อม 80% จะเสร็จแล้ว อยู่ๆโทรมาบอกว่า ไม่เครมแล้ว ผมทำผิดเงื่อนไข ให้จ่ายเอง แม่งเอ้ยซ่อมไปแสนกว่า กูจะเอาที่ไหนมาจ่ายวะ เล่นเอาเข่าออ่นเลยทำยังไงมันก็ไม่เครมกล่าวหาว่าผมผิดให้ได้  มันบอกว่าตอนเกิดเหตุมีพยานรู้เห็นเหตุการ สามารถเป็นพยานได้ สุดท้ายต้องหาเงินมาสำรองจ่ายเอง จากนั้นผมก็ไปร้องที่กรมการปะกันภัย กรมการประกันภัยก็เรียกผม และทางสินทรัพย์มา (มาคนละที) พอถึงคราวที่ผมต้องไปให้การ ผมก็ให้การตามความจริงไป เจ้าหน้าที่กรมการประกันภัยเค้าบอกว่าผมให้การต่างจากเค้าแบบคนละขั้วเลย แต่เค้ามีข้อสรุปแล้ว ทำไปทำมา ผมก็ได้ไปเจอคนที่เค้าอ้างว่าเป็นพยานให้เค้า เค้าบอกว่ามีเจ้าหน้าที่จาก บ. ประกันมาหาเค้าจริง เค้าเสนอเงินให้ 5000 บาท ให้เซ็นต์ให้การเป็นพยานให้เค้า (ตรงนั้นมีคนอยู่ 4 คนซึ่ง ไอ้เจ้าหน้าที่คนนี้ มันจะให้หัวละ 5000) แต่โชคดีที่เค้าไม่รับเงิน และก็มีเจ้าหน้าที่กรมการประกันภัย มาสอบถาม เค้าก็ให้การตามข้อเท็จริงไป และรู้มาอีกจากชาวบ้านไกล้กัน เค้าบอกว่า เจ้าหน้าที่ของสินทรัพย์ พยายามหาคนที่ไม่ถูกกับบ้านผม เพื่อที่จะให้เป็นพยานให้เค้า (ดูมันพยายามจริงๆ) จากนั้นกรมการประกันภัยก็สรุปว่าผมไม่ผิด และได้ส่งหนังสือไปให้ทาง บ.สินทรัพย์ให้จ่ายเงินทั้งหมดที่สำรองจ่ายไปก่อนคืนให้ผม ซึ่งกว่าจะได้คืนทั้งหมดใช้เวลานานมาก เกิดเหตุเดือนกุมภาพันธ์ เอารถออกมาเดือน พฤษภาคม กว่าจะจบเรื่อง ต้นเดือนตุลาคม แม่งนานโครต
ปล. ตอนที่ผมไปเอารถออกจาก 0 ผมได้พบว่ามีการเปลี่ยนใบเครมเป็นใบติดต่อ ใบเครมคือใบที่ออกในตอนแรกซึ่งถ้าไม่มีปัญหาอะไร เจ้าหน้าที่ก็จะออกใบเครมให้ซึ่งหมายความว่ายินยอมที่จะรับผิดชอบ และใบติดต่อคือใบที่ออกให้ตอนแรกเหมือนกัน แต่ต้องรอตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อน เมื่อได้ข้อสรุปแล้วก็จะออกใบเครมให้ แต่ในกรณีของผมออกใบเครมแล้ว มีการมาเปลี่ยนใบเครมเป็นใบติดต่อตอนหลัง ที่สำคัญกรณีที่มีการออกเอกสารใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับลูกค้า ควรที่จะมีการแจ้งให้ลูกค้าทราบด้วย แต่นี่ไม่มีการติดต่อใดๆเลย ที่ร้ายกว่านั้น ในช่องลงชื่อผมรับทราบ ซึ่งเป็นช่องที่ลูกค้าจะต้องเซ็น กลับมีชื่อของผมเซ็นต์ทั้งๆที่ผมไม่ได้เซ็นต์ ผมได้สอบถามเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในเคสของผมทุกคน ที่ผมสามารถติดต่อได้ ก็ไม่มีใครรู้เห็น แม้แต่ไอ้คนที่กล่าวหาว่าผมผิด มันเป็นระดับหัวหน้า มันเป็นคนที่ออกไปตรวจสอบเคสของผมที่กล่าวมาในข้างต้น ผมโทรถามมัน มันก็บอกว่า มันไม่รู้สงสัยลูกน้องเป็นคนออกใบนั้นให้ ผมงงครับตั้งแต่ลูกน้องจนถึงหัวหน้าบอกไม่รู้ แล้วมันมาจากไหนฟะ แม่งพูดจาแย่มากๆ ข้อสงสัยที่แม้แต่ บ. ใหญ่มันก็ตอบผมไม่ได้ คือ
   1.กว่าผมผิดตามที่กล่าวหาจริง มีพยานรู้เห็นแน่นอน ทำไมต้องจ้างพยาน ทำไมต้องหาคนที่ไม่ถูกกับบ้านผม เพื่อที่จะให้เค้าเป็นพยานให้
   2.เหตุใดการกระทำให้ที่เกี่ยวกับลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นเอกสาร หรือใดๆก็แล้วแต่ ทำไมไม่มีการแจ้งให้ลูกค้าทราบ
   3.ถ้าคิดว่ามีหลักฐานแน่นอน ทำไมไม่ออกเอกสาร (notis) ให้เป็นลายลักษณ์อักษรว่าไม่เครมให้ กลับทำเงียบเฉย
   4.ตกลงไอ้ใบติดต่อที่สอดใส้มาทีหลังแล้วแถมเซ็นต์รับแทนผมอีกต่างหาก มาจากไหน ใครเป็นคนออกเอกสาร และทำไมเซ็นต์แทนผมได้ด้วยเหรอ ทำไมไม่บอก
   5.การพูดคุยกะลูกค้าเนี่ย ใช้ตะคอก ขู่ได้ด้วยเหรอ
มีอีกเยอะครับ แต่ขอแค่นี้แหล่ะ ใครที่เป็นผู้เกี่ยวข้องกะ บ. สินทรัพย์ ช่วยชีแจงหน่อยครับ หรือผู้ที่รู้ก็ได้ เพราะผมข้องใจมาก

ยังไม่หมดครับ การมาที่ บ.สินทรัพย์ สาขาใหญ่ที่ถนนรัชดา ก็ลำบากมากครับ กว่าจะได้คืนครบก็ต้องไป ถึง 5 รอบ

   เสียความรู้สึกกับ บ.สินทรัพย์ มาก สำหรับผมไม่เอาอีกแล้วกับ บริษัทนี้สำหรับบางคนอาจจะดี แต่สำหรับผมมันเป็นความทรงจำที่มิอาจลืมครับ ไว้ว่างๆ จะเอารายละเอียดมาให้ดูอีกที อันนี้สรุปมาให้ครับ

จะเลือกทำประกันภัยเลือกให้ดีๆครับ เพราะสักวันอาจจะเจอแบบผมก็ได้ครับ.

ปล.เวลาที่เกิดเหตุ ดูเอกสารที่ออกให้ ให้ดีๆก่อนเซ้นต์นะครับ เพราะถ้าเราพลาดนิดเดียว เค้าสามารถเล่นงานเราได้ครับ เพียงแค่เค้าต้องการรักษาผลประโยชน์ของบริษัท แต่คนที่ดีก็มีนะครับใช่ว่าจะทุกคน

ขอบคุณที่เสียเวลาอ่านนะครับ

ทนอ่านหน่อยนะครับใครคิดจะใช้สินทรัพย์ประกันภัย

 >:( เมื่อวานนี้เลยครับ(30/10/07) สด ๆ ร้อน ๆ รถผมเคลมทำสีที่ศูนย์ H ปิ่นเกล้า มีใบเคลม 2 ใบ ใบแรกนะครับมีทำสีใหม่ แก้มหน้าซ้าย ประตูหลังซ้าย บังโคลนหลังซ้าย และฝากระโปรงหลัง ใบเคลมปกติไม่ระบุเงื่อนไขไร ส่วนใบเคลที่ 2 แจ้งเคลมวันที่ 6/10/07 + เอารถทิ้งไว้ศูนย์รอทำสีเลย มีทำสีกันชนหน้า+สเกิต ประตูคนขับ+หลัง ขวา แก้มหน้าขวา ใบเคลมระบุว่ารอพิจารณาส่วนร่วมทำสี ผมถามเจ้าหน้าที่เคลมเค้าบอกว่าผมทำเยอะ รอผู้ใหญ่พิจารณาอีกทีครับ ผมก้อไม่ติดใจไร เนื่องจากเป็นรอยที่ผมขับเบียดประตูบ้านตัวเองมา เคลมได้ชัว แล้วเมื่อวันที่ 24/10/07 ผมได้สอบถามไปที่ศูนย์ว่าสินทรัพย์ได้ติดต่อกลับมาเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายหรือป่าว ศูนย์แจ้งว่าไม่น่าจะมีครับ และแล้ววันที่ 30/10/07 ตอน 12.30 น. เจ้าหน้าที่ศูนย์แจ้งว่ายังไม่ได้รับคำยืนยันจากสินทรัพย์ว่าเคลมได้ทั้งหมดหรือป่าว ศูนย์ได้สอบถามไปแล้วแต่สินทรัพย์ยังไม่ตอบกลับมา ผมเลยโทรไปเอง
ปรากฎว่า เจ้าหน้าที่ฝ่ายสินไหม ชื่อคุณเพิ่มศักดิ์ (ขออนุญาตระบุชื่อ ไม่พอใจไร โทรมาหาผมได้ 086-9749238 ผมคนจริงครับพร้อมรับสาย) แจ้งว่าผมต้องจ่ายค่าส่วนร่วมทำสี 2,000 บาท เงินไม่เยอะครับ แต่ทำไมผมต้องจ่าย ผมได้รับคำตอบจากคุณเพิ่มศักดิ์ ของสินทรัพย์ว่า ผมแจ้งเคลมช้า ประมาณ 1 เดือนได้ ทำให้บริษัท ขาดสิทธิในการตรวจสอบที่เกิดเหตุ ผมก้อเลยบอกกลับไปว่า ผมเคยเกิดเหตุแบบนี้เลย 1 ครั้ง แจ้งให้เจ้าหน้าที่สำรวจมาดู แต่เจ้าหน้าที่รับแจ้ง บอกผมเองว่าให้ไปแจ้งที่ศูนย์รับแจ้งเคลมใกล้ ๆ บ้านผม ผมก้อเลยปฏิบัติอย่างนี้มาตลอดคือเกิดเหตุ แล้ววันหลังค่อยไปเคลมทที่ศูนย์ แล้วมาวันนี้มันมาบอกผมว่าผมไม่ยอมแจ้งทันทีที่เกิตเหตุ ผมถามกลับไปว่าตั้งกฎนี้มาตั้งแต่เมื่อไร เค้าบอกว่ามีมา 2-3 เดือนแล้ว ผมถามกลับว่าตั้งกฎแบบนี้แล้วมันกระทบกะผู้เอาประกัน ทำไมไม่แจ้ง ทำแบบนี้ผมก้อเสียสิทธิเหมือนกัน มันก้อเงียบ(ตั้งแต่ขับรถมาเพิ่งเคยรู้) ผมยืนยันว่าผมไม่จ่าย แล้วก้อบอกว่ามีการตั้งกฎแบบนี้ไม่แจ้งกะลูกค้า ผมเสียเปรียบ ผมคงต้องคุยกะกรมการประกันภัยแล้ว เค้าก้อท้าผมว่าเชิญเลยครับ ผมเลยบอกว่าสบายมากครับ เพราะเพื่อนผมเป็นกรรมการในสมาคมประกันภัย คุยตอนนี้เลยก้อได้ มันก้อเงียบเลยที่นี้ ผมถามต่อว่าวันนี้(30/10/07)เวลา 16.30 น.ศูนย์นัดผมรับรถ มีทางไหนที่ผมจะรับรถได้บ้าง มันบอกว่าก้อจ่ายให้ศูนย์ไป 1,000 บาท ผมก้อบอกว่าแล้วผมจะได้คืนป่าว มันก้อเงียบ เลยถามต่อว่าต้องทำไงไม่ต้องจ่าย มันตอบว่าต้องไปตรวจที่เกิดเหตุผมเลยนัดวัน+เวลา มันบอกว่าเป็นวันพรุ่งนี้(31/10/07) แล้วกัน เดี๋ยวให้เจ้าหน้าที่ติดต่อกลับหาผม ผมถามคำถามเดิมว่าจะเอารถออกเย็นนี้ต้องทำไง มันก้อยืนยันให้จ่าย 1 พันกะศูนย์ ผมถามไปว่าแล้วผมจะได้คืนมั้ยถ้าไปตรวนที่เกิดเหตุแล้วผมถูก เพราะรั้วบ้านผมติดอยู่อย่างเดิมครับ ไม่มีการรื้อถอนหนีแน่นอน มันเลยบอกว่าให้ผมทำหนังสือเข้าไปแจ้งว่าจะไม่จ่าย สุดท้ายก้อได้รับอนุมัติ สรุปคือเมื่อวานผมเอารถออกได้ ไม่เสียเงินค่าส่วนร่วมทำสี แล้วถ้าเป็นคนอื่นละ ก้อคงจะสบายมันไปแล้วใช่มั้ย
 >:(ซึ้งใจจริง ๆ ครับ เงิน 1-2 พันบาท ยังจะเรียกเก็บอีก ผมยอมรับปีนี้ผมเคลมเกินเบี้ยประกัน แต่ผมยังไม่คิดจะเปลี่ยน แต่เจอเคสนี้นะครับ คนที่ผมรู้จักทุกคัน รับรองไม่ทำกะสินทรัพย์แน่นอนครับ ที่สำคัญผมรู้สึกเหมือนคุณinfinite ตรงที่สินทรัพย์ทำไร ไม่แจ้งลูกค้าเลย ใบเคลมแจ้งว่ารอพิจารณาส่วนร่วมทำสี พอพิจารณาแล้ว ก้อสรุปกันที่สินทรัพย์อย่างเดียวใช่ป่าว ไม่แจ้งศูนย์ และลูกค้าเลยใช่มั้ย แล้วอีกอย่างถ้าอยากจะไปตรวจสอบที่เกิดเหตุจริง รถผมเข้าศูนย์ 20 วัน ทำไมไม่ไปตรวจละ แผนที่ก้อเขียนให้ตั้งแต่วันที่ 6/10/07 แล้ว ทำงานอย่างนี้รับรองครับ หลอกได้แต่ลูกค้าใหม่+เบี้ยถูก ๆ ละครับ

โดนกันเยอะๆกว่าผมอีก ฟังละมันจี๊ดแทนเลย สินทรัพย์นี่นะ

ช่วยๆกันโพสคับ บริษัทห่วยๆจะได้เจ๊งๆไปซะที >:(