:::CIVIC CLUB THAILAND:::

คุยคุ้ย Civic => Civic Club DIY => คุณทำได้ => ข้อความที่เริ่มโดย: monpat ที่ 16 มีนาคม 2012, 01:36:54



หัวข้อ: รบกวนสอบถามเรื่องอาการสตารท์ไม่ติดคับ
เริ่มหัวข้อโดย: monpat ที่ 16 มีนาคม 2012, 01:36:54
อาการคือ ขับๆไปตามปกติ  พอจอดแล้วดับเครื่องประมาณ 2 ชม.  กลับมาอีกที่ สตารท์ไม่ติดแล้วคับ  พอพ่วงแบตฯ ก็ต้องรอสักพักนึงถึงจะสตารท์ติดคับ  แล้วก็สตารท์ใช้รถประมาณอีกครึ่งชั่วโมง  ก็นึกในใจว่ามันคงจะชารจ์ไฟได้พอประมาณ(คิดว่าแบตฯคงจะแย่แล้ว)  แต่พอจะใช้รถอีกรอบนึง ก็สตารท์ไม่ติดอีกเหมือนเดิมคับ

 ตอนบิดกุญแจon ปั๊มติ๊กก็ทำ อุปกรณ์ไฟฟ้าใช้ได้หมดคับ   อาการคล้ายๆแบตฯหมด เสียงเหมือนคล้ายๆกับมอเตอร์สตารท์มันไม่ค่อยหมุนอ่ะคับ  :'( :'( :'(   

รบกวนผู้รู้ช่วยวิเคราะห์แนะนำหน่อยคับ   :(  ขอบคุณคับ


หัวข้อ: Re: รบกวนสอบถามเรื่องอาการสตารท์ไม่ติดคับ
เริ่มหัวข้อโดย: srithanon ที่ 16 มีนาคม 2012, 07:56:43
อาการนั้น  ส่วนใหญ่จะมาจากแบ็ตเอรรี่เก็บไฟไม่อยู่   หรือระบบไดน์ชาร์ทมีปัญหา    แต่ไดน์ชาร์ทไม่น่าจะเป็นอาการที่กล่าว    เอาอย่างนี้  ให้คุณนำเอามิเตอร์วัดไฟห Dc  วัดไฟที่ขัวบวกของแบ็ตเตอรี่  แล้วสตาร์ทเครื่องยนต์   หากในขณะกำลังสตาร์ท  ที่โวลมิเตอร์  วัดไฟตกลงมาเหลือ 8-9 โวลท์  แสดงให้ทราบว่าแบ็ตมีปัญหา  
หรือจะใช้แอมป์มิเตอร์วัดกระแสไฟ ขณะทำการสตาร์ทก็จะรู้ว่ามีกระแสไฟในหม้อแบ็ตต่ำมาก  ในขณะสตาร์ท     การตรวจเทสตามที่กล่าว  เมื่อมีการพ่วงแบ็ตแล้วสตาร์ทติด   เพื่อตัดปัญหาเรื่องอาการขัดข้องที่ตัวมอเตอร์สตาร์ท

สำหรับอีกสาเหตุหนึ่ง  อาจจะมาจาd  แคร้งชาร์ปเซ็นเซอร์  หรือ TDC sensor    ที่สงสัยก็ตามที่คุณบอกว่า  หากพ่วงแบ็ตยังต้องรอเวลาสักระยะ  ถึงจะสตาร์ทติด  อาการเสียของมัน  หลังจากใช้งานรถหรือสตาร์ทรถขับออกไปสักพัก จะใช้เวลามากหรือน้อย ขึ้นอยู่กับการเสียที่ตัว เซ็นเซอร์ที่ว่า  บางครั้งก็นานดับ หรือดับกลางทาง  บางครั้งวิ่งไม่ถึงครึ่งชั่วโมงก็ดับ    เมื่อดับแล้วจะสตาร์ทไม่ติด  ต้องรอพักใหญ๋ๆถึงจะจติด  ถึงแม้จะพ่วงแบ็ตก็ไม่คิด  ต้องรอให้ตัวเซ็นเซอร์เย็นเสียก่อน   ถึงจะสตาร์ทติด
ในกรณีที่คิดว่าเป็นที่เซ็นเซอร์ตัวที่ผมกล่าว  เรามีวิธีการตรวจสอบแบบง่ายๆ  ให้้ใช้โอมห์มิเตอร์  ตั้งเร้นจ์ R x100 เมื่อเครื่องยนต์ดับ  ให้ทำการวัดโอมห์ ที่สายไฟไปที่ตัวเซ็นเซอร์ (มีสองสาย)   วัดคร่อมสายไฟสองเส้น   หากวัดแล้วโอมห์ไม่ขึ้น  หรืออ่านค่าไม่ได้  แสดงว่า เซ็นเซอร์นั้นเสีย     แล้วปล่อยรถทิ้งไว้ประมาณครึ่งชั่วโมงถึงหนึ่งชั่วโมง  เมื่อเซ็นเซอร์มันเย็น   จะพบว่าวัดอ่านค่าโอทห์ได้ ประมาณ ห้าร้อยกว่าสโอมห์   มันสตาร์ทเครื่องติดครับ
ก็ลองเช็คตามที่ผมแนพนำก่อนก้ได้  หากวัดค่าโอมห์ได้ในขณะที่เครื่องดับ   จะได้มุ่งประเด็นไปที่จุดอื่นที่เกี่ยวข้องครับ....srithanon


หัวข้อ: Re: รบกวนสอบถามเรื่องอาการสตารท์ไม่ติดคับ
เริ่มหัวข้อโดย: monpat ที่ 16 มีนาคม 2012, 08:24:21
ขอบคุณมากเลยคับ คุณsrithanon ผมจะลองทำดูคับ แล้วถ้าได้เรื่องยังไงจะเอามาเล่าให้ฟังคับ  :-*


หัวข้อ: Re: รบกวนสอบถามเรื่องอาการสตารท์ไม่ติดคับ
เริ่มหัวข้อโดย: su_wit ที่ 16 มีนาคม 2012, 10:20:45
อาการนั้น  ส่วนใหญ่จะมาจากแบ็ตเอรรี่เก็บไฟไม่อยู่   หรือระบบไดน์ชาร์ทมีปัญหา    แต่ไดน์ชาร์ทไม่น่าจะเป็นอาการที่กล่าว    เอาอย่างนี้  ให้คุณนำเอามิเตอร์วัดไฟห Dc  วัดไฟที่ขัวบวกของแบ็ตเตอรี่  แล้วสตาร์ทเครื่องยนต์   หากในขณะกำลังสตาร์ท  ที่โวลมิเตอร์  วัดไฟตกลงมาเหลือ 8-9 โวลท์  แสดงให้ทราบว่าแบ็ตมีปัญหา   
หรือจะใช้แอมป์มิเตอร์วัดกระแสไฟ ขณะทำการสตาร์ทก็จะรู้ว่ามีกระแสไฟในหม้อแบ็ตต่ำมาก  ในขณะสตาร์ท     การตรวจเทสตามที่กล่าว  เมื่อมีการพ่วงแบ็ตแล้วสตาร์ทติด   เพื่อตัดปัญหาเรื่องอาการขัดข้องที่ตัวมอเตอร์สตาร์ท

สำหรับอีกสาเหตุหนึ่ง  อาจจะมาจาd  แคร้งชาร์ปเซ็นเซอร์  หรือ TDC sensor    ที่สงสัยก็ตามที่คุณบอกว่า  หากพ่วงแบ็ตยังต้องรอเวลาสักระยะ  ถึงจะสตาร์ทติด  อาการเสียของมัน  หลังจากใช้งานรถหรือสตาร์ทรถขับออกไปสักพัก จะใช้เวลามากหรือน้อย ขึ้นอยู่กับการเสียที่ตัว เซ็นเซอร์ที่ว่า  บางครั้งก็นานดับ หรือดับกลางทาง  บางครั้งวิ่งไม่ถึงครึ่งชั่วโมงก็ดับ    เมื่อดับแล้วจะสตาร์ทไม่ติด  ต้องรอพักใหญ๋ๆถึงจะจติด  ถึงแม้จะพ่วงแบ็ตก็ไม่คิด  ต้องรอให้ตัวเซ็นเซอร์เย็นเสียก่อน   ถึงจะสตาร์ทติด
ในกรณีที่คิดว่าเป็นที่เซ็นเซอร์ตัวที่ผมกล่าว  เรามีวิธีการตรวจสอบแบบง่ายๆ  ให้้ใช้โอมห์มิเตอร์  ตั้งเร้นจ์ R x100 เมื่อเครื่องยนต์ดับ  ให้ทำการวัดโอมห์ ที่สายไฟไปที่ตัวเซ็นเซอร์ (มีสองสาย)   วัดคร่อมสายไฟสองเส้น   หากวัดแล้วโอมห์ไม่ขึ้น  หรืออ่านค่าไม่ได้  แสดงว่า เซ็นเซอร์นั้นเสีย     แล้วปล่อยรถทิ้งไว้ประมาณครึ่งชั่วโมงถึงหนึ่งชั่วโมง  เมื่อเซ็นเซอร์มันเย็น   จะพบว่าวัดอ่านค่าโอทห์ได้ ประมาณ ห้าร้อยกว่าสโอมห์   มันสตาร์ทเครื่องติดครับ
ก็ลองเช็คตามที่ผมแนพนำก่อนก้ได้  หากวัดค่าโอมห์ได้ในขณะที่เครื่องดับ   จะได้มุ่งประเด็นไปที่จุดอื่นที่เกี่ยวข้องครับ....srithanon
อาจารย์มาตอบเองเลย :-* :-*


หัวข้อ: Re: รบกวนสอบถามเรื่องอาการสตารท์ไม่ติดคับ
เริ่มหัวข้อโดย: Alex007 ที่ 16 มีนาคม 2012, 20:38:36
ขออนุญาตตอบด้วยคนครับ...เพราะอาการของ จขกท คล้ายของผมตอนนี้เลยครับ... EK98 ของผมไปเปลี่ยนชุดสายพานราวลิ้นและสายพานเครื่องมาทั้งหมด หลังจากนั้น 1 วัน..อาการสตาร์ทเริ่มติดยาก (แต่ตอนเช้าสตาร์ททีเดียวติด) แต่ถ้าวิ่งรถไปสักพักพอรถเริ่มร้อน..แล้วมาสตาร์ทใหม่จะติดยาก จะดัง ตืดๆ 2 ที..แล้วก็ไม่ติด  
ก็เลยไปเข้าร้านไดนาโม.... พอลองสตาร์ทให้ช่างไดดู ช่างบอกช่างเครื่องตั้งไฟแก่เกิน...ให้กลับไปให้ช่างเครื่องปรับตั้งไฟให้อ่อนลง ก็กลับไปตั้งไฟให้อ่อนลง (ช่างจะคลายน็อตสามตัวตรงจานจ่าย แล้วค่อยๆ เคาะให้จายจ่ายเลื่อนมาทางหน้ารถนะครับ) จากนั้นลองสตาร์ทก็ดีขึ้น สตาร์ทติด... แต่ก็ยังมีบางช่วงหลังกลับบ้านก็มีบางครั้ง อาการสตาร์ทยากเหมือนเดิมอีก ...ก็เลยรุ่งขึ้นไปร้านได ให้ช่างช่วยล้างไดสตาร์ท ตรวจเช็คแปรงถ่านไดสตาร์ทนะครับ..ถ่านยังเหลืออยู่ครึ่ง..ช่างก็เลยลองล้างให้..ช่างก็อยากรู้เหมือนกันว่าอาการเป็นยังไง..เพราะหลังล้างแล้วก็สตาร์ทติดตลอด...ผ่านมา 2 วันแล้วครับ..ยังไม่มีอาการ..ถ้าเบื้องต้นแนะนำอย่างนี้ก่อนนะครับ
   1.เข้าร้านไดฯ แบตเตอรี่ที่เชื่อถือได้นิดหนึ่งครับ..เช็คไฟแบ็ตฯ ก่อนครับ..(ของผมแบตฯ ไฟเต็ม เพิ่งเปลี่ยนมาไม่ถึงปีครับ)
   2. ลองเช็คการตั้งไฟแก่เกินไปของจานจ่ายครับ..ถ้าแก่เกินก็มีสิทธิ์สตาร์ทอืดขึ้นครับ
   3. ให้ช่างไดฯ ตรวจเช็คแปรงถ่านของไดสตาร์ท และไหนๆ ถอดแล้วก็ล้างไดสตาร์ทและอัดจารบีเลยครับ..
            คิดว่าถ้าปัญหาไม่มาก น่าจะหายครับ...แต่ถ้าเป็นจากส่วนอื่นก็ต้องค่อยๆ ไล่กันไปครับ..
   ไม่ต้องวิตกครับ...ระบบไฟการสตาร์ท เบื้องต้นก็น่าจะมาจาก แบตเตอรี่  ไดสตาร์ท  ตั้งไฟแก่อ่อน  หรือไม่ก็ไดชาร์จครับ...แก้ไขได้ครับ..ใจเย็นๆครับ..ขอให้โชคดีนะครับ..แก้ได้ไวๆ
 :D :D
 ป.ล. เพิ่มอีกนิดครับ..เช็คสายขั่้วแบตทั้ง บวกและลบนะครับ..ขันให้แน่น และตรงสายขั่วลบที่ไปลงกราวน์ตรงตัวถังก็ขันให้แน่นนะครับ..


หัวข้อ: Re: รบกวนสอบถามเรื่องอาการสตารท์ไม่ติดคับ
เริ่มหัวข้อโดย: monpat ที่ 16 มีนาคม 2012, 21:55:11
ขออนุญาตตอบด้วยคนครับ...เพราะอาการของ จขกท คล้ายของผมตอนนี้เลยครับ... EK98 ของผมไปเปลี่ยนชุดสายพานราวลิ้นและสายพานเครื่องมาทั้งหมด หลังจากนั้น 1 วัน..อาการสตาร์ทเริ่มติดยาก (แต่ตอนเช้าสตาร์ททีเดียวติด) แต่ถ้าวิ่งรถไปสักพักพอรถเริ่มร้อน..แล้วมาสตาร์ทใหม่จะติดยาก จะดัง ตืดๆ 2 ที..แล้วก็ไม่ติด  
ก็เลยไปเข้าร้านไดนาโม.... พอลองสตาร์ทให้ช่างไดดู ช่างบอกช่างเครื่องตั้งไฟแก่เกิน...ให้กลับไปให้ช่างเครื่องปรับตั้งไฟให้อ่อนลง ก็กลับไปตั้งไฟให้อ่อนลง (ช่างจะคลายน็อตสามตัวตรงจานจ่าย แล้วค่อยๆ เคาะให้จายจ่ายเลื่อนมาทางหน้ารถนะครับ) จากนั้นลองสตาร์ทก็ดีขึ้น สตาร์ทติด... แต่ก็ยังมีบางช่วงหลังกลับบ้านก็มีบางครั้ง อาการสตาร์ทยากเหมือนเดิมอีก ...ก็เลยรุ่งขึ้นไปร้านได ให้ช่างช่วยล้างไดสตาร์ท ตรวจเช็คแปรงถ่านไดสตาร์ทนะครับ..ถ่านยังเหลืออยู่ครึ่ง..ช่างก็เลยลองล้างให้..ช่างก็อยากรู้เหมือนกันว่าอาการเป็นยังไง..เพราะหลังล้างแล้วก็สตาร์ทติดตลอด...ผ่านมา 2 วันแล้วครับ..ยังไม่มีอาการ..ถ้าเบื้องต้นแนะนำอย่างนี้ก่อนนะครับ
   1.เข้าร้านไดฯ แบตเตอรี่ที่เชื่อถือได้นิดหนึ่งครับ..เช็คไฟแบ็ตฯ ก่อนครับ..(ของผมแบตฯ ไฟเต็ม เพิ่งเปลี่ยนมาไม่ถึงปีครับ)
   2. ลองเช็คการตั้งไฟแก่เกินไปของจานจ่ายครับ..ถ้าแก่เกินก็มีสิทธิ์สตาร์ทอืดขึ้นครับ
   3. ให้ช่างไดฯ ตรวจเช็คแปรงถ่านของไดสตาร์ท และไหนๆ ถอดแล้วก็ล้างไดสตาร์ทและอัดจารบีเลยครับ..
            คิดว่าถ้าปัญหาไม่มาก น่าจะหายครับ...แต่ถ้าเป็นจากส่วนอื่นก็ต้องค่อยๆ ไล่กันไปครับ..
   ไม่ต้องวิตกครับ...ระบบไฟการสตาร์ท เบื้องต้นก็น่าจะมาจาก แบตเตอรี่  ไดสตาร์ท  ตั้งไฟแก่อ่อน  หรือไม่ก็ไดชาร์จครับ...แก้ไขได้ครับ..ใจเย็นๆครับ..ขอให้โชคดีนะครับ..แก้ได้ไวๆ
 :D :D
 ป.ล. เพิ่มอีกนิดครับ..เช็คสายขั่้วแบตทั้ง บวกและลบนะครับ..ขันให้แน่น และตรงสายขั่วลบที่ไปลงกราวน์ตรงตัวถังก็ขันให้แน่นนะครับ..

ขอบคุณมากคับสำหรับคำแนะนำดีๆ ช่วยได้เยอะเลยคับ พรุ่งนี้ว่าจะเอาไปเข้าร้านแบตฯแถวบ้านคับ  แต่กำลังนึกอยู่ว่าจะให้ใครมาพ่วงแบตฯดี วันหยุดด้วย แถวบ้านไปเที่ยวกันหมดเลย :-[ :-[ :-[ :-[


หัวข้อ: Re: รบกวนสอบถามเรื่องอาการสตารท์ไม่ติดคับ
เริ่มหัวข้อโดย: monpat ที่ 17 มีนาคม 2012, 22:16:27
เรียบร้อยแล้วคับผม สรุปเป็นที่แบตฯคับ

ขอคุณทุกๆความเห็นนะคับ. ขอบคุณจิงๆคับ :-* :-* :-*


หัวข้อ: Re: รบกวนสอบถามเรื่องอาการสตารท์ไม่ติดคับ
เริ่มหัวข้อโดย: Buranasak ที่ 17 ธันวาคม 2012, 11:42:02

ฝากไว้อีกเรื่อง เผื่อเป็นประโยชน์ ถ้ารถใช้แก๊ส แล้วเจออาการที่สอบถาม เปลี่ยนแกนติ๊ก หม้อตามแก๊สด้วย แก๊สรั่ว


หัวข้อ: Re: รบกวนสอบถามเรื่องอาการสตารท์ไม่ติดคับ
เริ่มหัวข้อโดย: mart_za ที่ 19 ธันวาคม 2012, 00:02:08
รถผมก็เป็นไม่หายสักที.......ร้อนสตารท์ไม่ติด....... :(
ช่วยผมที..เปลี่ยนจนหมดแล้วววว


หัวข้อ: Re: รบกวนสอบถามเรื่องอาการสตารท์ไม่ติดคับ
เริ่มหัวข้อโดย: Buranasak ที่ 19 ธันวาคม 2012, 08:39:35
รถผมก็เป็นไม่หายสักที.......ร้อนสตารท์ไม่ติด....... :(
ช่วยผมที..เปลี่ยนจนหมดแล้วววว

ข้อมูลก็คงเป็นหลักๆที่ กระทู้ข้างบน แต่ขอข้อมูลเยอะหน่อย ผมเจอปัญหานี้กับรถผมมา ก็น่าจะให้ข้อมูลได้บ้าง
1. เปลี่ยนอะไรมาแล้วบ้าง
2. ที่ว่าสตารท์ไม่ติด ในช่วงไหน-----ช่วงเช้า หรือ  ขับไปแล้ว
3. รถใช้แก๊สไหมระบบอะไร
4. อื่นๆประกอบ เพื่อนๆจะได้ช่วยกันวิเคราะห์ครับ

   ของผมรถใช้แก๊ส แล้วเจออาการนี้ เปลี่ยนแกนติ๊ก ล้างหม้อต้มแก๊สด้วย หายสนิท เพราะ แก๊สรั่ว


หัวข้อ: Re: รบกวนสอบถามเรื่องอาการสตารท์ไม่ติดคับ
เริ่มหัวข้อโดย: Knott79 ที่ 24 ธันวาคม 2012, 17:34:21
รถผมก็เป็นไม่หายสักที.......ร้อนสตารท์ไม่ติด....... :(
ช่วยผมที..เปลี่ยนจนหมดแล้วววว

ต้องบอกอาการให้ชัดเจอนกว่านี้ครับ ของผมก้อพึ่งแก้เสดเอง EG92 คาร์บู  :)


หัวข้อ: Re: รบกวนสอบถามเรื่องอาการสตารท์ไม่ติดคับ
เริ่มหัวข้อโดย: mart_za ที่ 27 ธันวาคม 2012, 22:03:05
ข้อมูลก็คงเป็นหลักๆที่ กระทู้ข้างบน แต่ขอข้อมูลเยอะหน่อย ผมเจอปัญหานี้กับรถผมมา ก็น่าจะให้ข้อมูลได้บ้าง
1. เปลี่ยนอะไรมาแล้วบ้าง
2. ที่ว่าสตารท์ไม่ติด ในช่วงไหน-----ช่วงเช้า หรือ  ขับไปแล้ว
3. รถใช้แก๊สไหมระบบอะไร
4. อื่นๆประกอบ เพื่อนๆจะได้ช่วยกันวิเคราะห์ครับ

   ของผมรถใช้แก๊ส แล้วเจออาการนี้ เปลี่ยนแกนติ๊ก ล้างหม้อต้มแก๊สด้วย หายสนิท เพราะ แก๊สรั่ว

1. ไม่ได้เปลี่ยนก็แค่ เครื่องท่อนตรง นอกนั้นตอนเปลื่ยนเกียร์ยกมาใส่ใหม่หมด
2. ขับแล้วหรือแค่พัดลมหม้อน้ำติด
3. ใช้แก็สหัวฉีด


4. ผมเปลี่ยน SENSORใต้จานจ่าย(ซื้อมือ2) ไม่รู้เขาเรียกว่าอะไร ดีขึ้นเยอะเลย

ขอบคุณมากครับ.......


หัวข้อ: Re: รบกวนสอบถามเรื่องอาการสตารท์ไม่ติดคับ
เริ่มหัวข้อโดย: Buranasak ที่ 28 ธันวาคม 2012, 10:10:46
1. ไม่ได้เปลี่ยนก็แค่ เครื่องท่อนตรง นอกนั้นตอนเปลื่ยนเกียร์ยกมาใส่ใหม่หมด
2. ขับแล้วหรือแค่พัดลมหม้อน้ำติด
3. ใช้แก็สหัวฉีด


4. ผมเปลี่ยน SENSORใต้จานจ่าย(ซื้อมือ2) ไม่รู้เขาเรียกว่าอะไร ดีขึ้นเยอะเลย

ขอบคุณมากครับ.......

1. แบตเตอร์รี่ครับ อย่าให้หลวม ดูสายกราวน์ให้ดี ขันน๊อตมาเอาสนินตรงจัดยึดออกหน่อนยใช้นำรอ้อนราดก็ได้ครับ
2. ไดสตาร์ท เอามันออกมาล้างหรือเปลี่ยนแปลงถ่านหน่อยก็ดีครับ บางทีมันแค่เส้นผมบังภูเขา
3. จานจ่าย เอาออกมาเช็ว่าใหม้ไหมหรือเริ่มเสื่อม ถ้ามีของสำรองลองเอามาเปลี่ยนลับทดสอบดูครับ ของเทียบมี ผมใช้อยู่แต่อายุมัน 2 ปีก็เหลือทน(เสียเร็ว เพราะราคาถูกแต่ไม่ทนเลือกเอา)
4.หัวเทียน ถือโอกาสเปลี่ยน สายหัวเทียนขาดไหม
ไดชาร์ท ยังทำงานได้ดีอยู่ไหม เอามิเตอร์มาวัดครับ ว่าต่ำกว่า 12 V ไหม ลองเร้.เครื่องด๊  ไฟจะอยู่ที่ไม่เก้น 13.5-13.8 V ตอนเร่งเครื่อง
5. แก็สรัว ของผมเป็นแบบ Mixer เวลารั่วมันจะไหลมาอยู่ที่ท่อย่น เปลี่ยนแกนติก ล้างหม้อต่มจะหาย  แต่ของท่านเป็นแบบหัวฉีด จะรั่วตรงหัวฉีด จะค้างอยู่ที่ท่อ ID ส่วนผมแก็สจะหนาไปค้างที่ท่อไอดี ตอนเราสตาร์ทน้ำมันจะติดยาก
        ผมเคยเจอปัญหานี้มาก่อนผมจะไล่ตามนี้น่ะแล้วก็เปลี่ยน แต่ของผมทำเองครับเสีค่าอะไหล่ ค่าเวลาปวดเมื่อย ค่าแรงไม่เสียทำเองซะใจดี ถ้าท่านทำเอง ไล่เองได้จะประหยัดมากมาย และรู้ปัญหาแต่ละจุดของรถ บันทึกจำไว้ ถ้ามันงอแงอีก เราก็น่าจะเดาปัญหาได้แล้วว่ามาจากไหน แต่ถ้าทำเองไม่ได้จะปวดหัว เพราะต้องเสียค่าแรง ค่าของที่บวกเพิ่มราคา ค่าเสียเวลาขับรถไปอู่แล้วยังไม่หาย ลองดูนะครับ ....กูรูท่านอื่นมีข้อมลเพิ่มเติมเสริมได้เลยครับเพราะปัญหารถแต่ละคันต่างกัน