:::CIVIC CLUB THAILAND:::

อยากรู้ว่า คอย2j+กะลาH23A ใส่แล้วไฟดีขึ้นไหม แล้วร้านที่รับใส่แถวไหนครับ ขอเบอร์ด้วยจะดีมากเลยครับ

ดีขึ้นคับ อุปกรณ์
1.กะลา h23 แบบห้ารูเบิกศูนย์
2.คอยแยกเลือกเอาตามใจชอบ
3.สายคอย
4.สายไฟสำหรับต่อไฟออกมา นอกกะลา
ทำเองไม่ยากคับ ถอดกะลาเดิมออก ไขเอาคอยในจานจ่ายออก ต่อสายไฟบวกลบ ที่เข้าคอยเดิมออกมาข้างนอก
ใส่กะลาใหม่เข้าไป ไล่สายหัวเทียนให้ตรง เอาสายไฟที่ต่อออกมาเข้าคอยแยก+ - ให้ตรง หาจุดยึดคอยแยกเสียบสายคอยแยกเข้ากะลาเสร็จคับ
ไฟแรงกว่าเดิมแต่ผมเคยลองใส่เครื่อง D16Y8 แรงไม่ต่างนะคับ แต่b20 เห็นผลอยู่และสิ่งที่ได้เพิ่ม มันดูแลง่ายคับ ถ้าไป ตจว แล้วคอยมันพัง ไขน้อตเปลี่ยนเลย ไม่ต้อง นั่งรื้อกะลา เหมือนคอยเดิม

ผมขอตอบแบบนี้ดีกว่าคับ ถามก่อนว่าไฟแรงแล้วดียังไง ทำเพื่อ.... ถ้าเปลี่ยนแล้วได้ทำอย่างอื่นด้วยมั๊ย เปลี่ยนคอย แต่น้ำมันเท่าเดิม องศาไฟเดิม มันก็ดีขึ้นมาแค่เต็มประสิทธิภาพตามเดิมที่มันควรเป็น แต่ไม่ได้ดีกว่าเดิมคับ ถ้าโดยส่วนตัวแล้ว คอยจะในจะนอก ขอให้มันใหม่! มันก็แรงเพียงพอสำหรับรถเดิมๆแล้วคับ .....  ผมเห็นความต่างจริงๆก้ตอนที่เปลี่ยนมาใช้ 85 กับหัวฉีดใหญ่ หลังจากทำเครื่องแล้ว  คอยแยก คอยแต่งจึงจำเป็นเนื่องจากคอยเดิมจุดไม่หมด หรือไม่สถียรเนื่องจากมันเข้าใกล็ขีดจำกัด   ผมไม่แน่ใจว่า จขกท จไปสเต๊ปไหนยังไง แต่ถ้าไม่ได้จูนใหม่ ไอที่ว่ามา เห็นผลทางใจ คับสำหรับคำตอบผมนะ

ผมใส่คอยล์โรตารี่อยู่ครับ ถ้าให้เทียบแบบลองกับตัวเอง
ต้นมาปกติ กลางไหลดี ปลายไหลเพิ่มจากเดิม 10 ครับ ส่วนตัวจากที่ลองมา รถเครื่องเดิมแต่ต้องตั้งไฟที่จานจ่ายใหม่ครับ :)

ถ้ารถเดิมๆ คอยล์เดิมยังไม่พัง ก็ไม่อยากแนะนำให้เปลี่ยนครับ เปลืองเงินเปล่าๆ

แต่ถ้า เครื่องทำมาแล้วจะจูน หรือ คอยล์เดิมมันพัง ก็จัดไปเลยครับ คุ้มกว่าซื้อคอยล์เดิม  :)

อิๆๆ แรงตามตังค์ :-[

อ่านดูแล้วตลกดี ใส่เพื่ออะไรครับ? อยากแรง ไปมาร์คไทม์มิ่งให้ตรง องศาไฟตั้งให้ๆดีอย่าเพี้ยน ไปใส่คอยล์แรงๆเพื่ออะไร? ถ้าเป็นรถเทอร์โบ บูสต์สูง ช่วง
โหลดหนักๆ คอยล์หนะมีผล เพราะถ้ามันจ่ายไม่ไหว หัวเทียนมันจะบอด แล้วสะดุดแต่ถ้าNA ดูดอากาศเอง แทบไม่มีประโยชน์ ได้แต่ราคาคุยว่ารถฉันแต่งอัพคอยล์
ใหญ่แค่นั้นเอง ที่สำคัญใส่แล้วอาจะวิ่งห่วยลงเพราะหนักรถครับ

 :-\ ไม่ลองไม่รู้ ;D

ถูกต้องครับ ไม่ลองไม่รู้  ดีกว่าพวกอวดรู้ครับ

ขอบคุณครับ :)

โถ....

ฮือ!

ของผม NA  ดูดอากาศเอง เครื่อง 1600 แต่ถ้าไม่ใส่คอยเพิ่ม หัวเทียนบอก น้ำมันท่วม ^^   

ไม่รู้ว่าพาดพิงถึงผมรึป่าว เอาเป็นว่าผมมีดีให้อวดรู้มากกว่านี้อีก ไอ้ที่บอกว่ามันดีขึ้นเนี่ย มั่นใจรึป่าวว่าสุขภาพคอยล์ติดรถมัน100%รึป่าว
ถ้าคอยล์ติดรถมัน100% คอยล์เจไม่ได้ช่วยอะไรเลยแม้แต่นิดเดียว แต่ถ้าคอยล์ติดรถมันเก่า หาalternative มาเป็นทางเลือกเพื่อถูกกว่า
ได้คอยล์ที่มันสดกว่า มันก็รู้สึกว่ามันดีขึ้นอยู่แล้ว ก็เป็นทางเลือก ไอ้ที่ว่ามันแรงขึ้นเพราะคอยล์เดิมมันล้า คอยล์เจไม่ได้ทำให้แรงขึ้น
 มันแค่ทำให้มันกลับมาวิ่งสมบูรณ์ตามปกติ
 ถ้าเปลี่ยนหัวเทียน เบอร์ร้อน เย็น แบบนี้ส่งผล ถึงperformance แบบนี้โอเค เช็คง่าย ลองเอาคอยล์ติดรถมาใส่ของใหม่ เทียบกับคอยล์เจ
ดูสิครับว่ามันวิ่งแตกต่างกันไหม ลองไปดูพวกSaab turbo พวกนี้ เค้าเรียกฝาDI บูสต์กัน เกือบ30ปอนด์ คอยล์เดิมก็ยังเอาอยู่ บางคนเปลี่ยน
ของแต่ง ไม่อยากจะบอกว่ายังไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่า ไอ้ที่ใส่ๆลงไปมันทำงานยังไง อยากรู้เหมือนกันไหนลองบอกมาหน่อยว่าคอยล์จุดระเบิด(ignition
coils) เนี่ยมันทำงานยังไง มันtrigger สัญญาณยังไง แล้วถ้าใส่คอยล์แรงๆเนี่ย มันมีผลในแง่performance ยังไง  คอยล์ กะลา
หัวนกกระจอก หน้าทองขาว อธิบายมามันทำงานยังไงบ้าง ผมไม่รู้จักได้ยินแต่คนรุ่นพ่อ รุ่นปู่ ขับmazda familia ,peugeot 505 พวกเครื่องคาบูร์
เค้าคุยกัน เว้นแต่เรื่องการจ่ายไฟที่มัน
ทนload ทนการจ่ายไฟต่อเนื่องได้นานขึ้น อนุญาตให้เปิดโพย(google) ได้ลองช่วยบอกเพื่อเพิ่มรอยหยักสมองให้ผมหน่อยครับ
ผมให้เกียรติขอความรู้กลับแล้วกรุณาตอบผมกลับให้ได้ด้วยนะ อย่าตบหัวแล้ววิ่งหนีเป็นเด็กเล่นกระป๋องกระแป๋ง
เหมือนเปลี่ยนท่อชุดเดียว แรงโคตร เปลี่ยนหัวเทียนชุดเดียว วิ่งสะบั้นหั่นแหลก ถ้ามันได้แรงขนาดนั้น บางคนที่เค้าเปลี่ยนเทอร์โบ
ลูกละเป็นแสน ต้องเอาเทอร์โบ ไปค้ำขาโต๊ะหนีน้ำเวลาน้ำท่วมแทน ผมหนะตอบคำถามตรงนะ อ่านแล้วเจ็บหู อันนี้ยอมรับ แต่ไอ้สิ่งที่
บอกๆมาหนะ แต่ก่อนก็ทำมาหมดแหละ แค่ไม่อยากให้ต้องปเสียสตางค์ซ้ำซ้อนๆ แล้วต้องมานั่งอุปทานไปเองว่ามันดีขึ้นขนาดนั้น ขนาดนี้
อยากให้รถวิ่งขึ้นไม่ต้องทำอะไรครับ ย้ายสำมะโนครัวไปอยู่จังหวัดที่มันเย็นตลอดปี แล้วไม่ต้องทำอะไรเลย รถวิ่งดีชัดเจนกว่าเสียอีก

คอยล์ไม่ได้ไปเกี่ยวอะไรกับน้ำมันท่วมครับ ถ้าน้ำมันท่วม ต้องไปดูครับว่ามันท่วมได้ยังไง หรือหัวเทียนเขี้ยวมันสึกมาก หรือน้ำมันเครื่องเข้าไปทำให้มันบอด หรือแม้กระทั่ง

คุณจูนน้ำมันลงหนาเกิน  เผาไหม้ไม่หมด นานๆเข้าหัวเทียนบอด เพราะเขม่ามันแยะ แล้วก็กลายเป็นเข้าใจว่าคอยล์ไม่พอ มันมีปัญหาที่ตัวอื่นครับ

อันนี้แก้ที่ปลายเหตุ ถ้าคอยล์รถคุณใส่กับเครื่องร้อยม้า ไม่ได้ข้ามเอายัดในรถ1000ม้า เห็นที่จะเชื่อยากครับ ว่าคอยล์เป็นจำเลย  เว้นเสียแต่คอยล์เดิม

มันใกล้จะลาโลก

ผมเอาให้ดูเล่นๆ นี่เครื่องรถอะไรไปหาเอาเอง

(http://evomsit.com/gallardo_engine5.jpg)

.ใช้ coil on plugs  เป็นintegrated coils โดย มีชุด switching triggered สัญญาณจาก ECU ในตัวมันเอง ทำให้ราคาถูกลง coils ในเครื่องตัวนี้ เอามาจากเครื่อง

รถ 1.8T ถ้าเป็นคอยล์แยก ชุดswitching ราคาจะสูงมากเหมือนพวกรถเบนซ์ S500 W140 ปี94 (ยกเว้น500Me เป็นเครื่องที่ไม่มี switching แล้ว) เป็นชุด switching

แยก ตัวละแสนกว่าบาท มันก็ยังไม่เห็นมีปัญหา

edited ผมพิมพ์คอยล์ซ้ำ แก้คำผิด

อย่าไปสนใจเลยท่าน  ผมอ่านแล้วก็ ได้แต่ พิมพ์ คำว่า โถ สั้นๆคำเดียว  ชีวิตคงต้องเรียนรู้อีกเยอะ

ใส่เพื่อแรง คงรู้สึกน้อยหรือไม่รู้สึกแต่กต่างเลยก็ว่าด้ายครับ  แต่พวกคอร์ยแยกมีข้อดีตรงที่มันระบายความร้อนในตัวมันเองใด้ดีกว่าคอร์ยที่อยู่ในจานจ่าย ข้อเสีย โดนน้ำมาละ :P  ใข่หดเลยละมั้ง   คอร์ยที่อยู่รวมในจานจ่ายมันจะอมความร้อนและระบายความร้อนใด้ช้ากว่าคอร์แยกดังนั้นมันเลยมีโอกาศพังไวและค่าตัวแพงกว่าคอร์แยก โดนน้ำไม่ค่อยมีปัญหา นอกจากเจอน้ำเป็นกระแป๋ง คอร์ยแยกจะเหมาะกับคนที่คอร์เดิม( ในจานจ่ายพัง) และอยากใด้คอยที่ราคาไม่แรงและทน ผิดถูกอย่างไรพิจารณาอีกทีครับ :-*
 

ขอบคุณพี่Regis100มา ณ ที่นี้ครับ คือเรื่องของเรื่องไม่อยากให้หลงประเด็นเรื่อง ความแรง กับสตางค์เท่านั้นเองครับ ไม่อยากให้เสียสตางค์ แล้วเข้าใจผิดๆนะครับ ใส่ของดีมันก็ดีนะเพียงแต่เอาแค่เผื่อไว้นิดหน่อยก็พอ เหมือนเทน้ำลงแก้วมันเต็มแล้วเทไปอีกก็ไม่เกิดประโยชน์อะไรน้ำล้นทิ้งเปล่าๆ ฉันท์ใดก็ฉันท์นั้น คือถ้าคอยล์2เจ 3เจ 4เจเนี่ย มันใส่ไม่ยากราคาถูกกว่า  อันนี้ไม่เถียง ใส่ไปเลยครับ แต่ถ้ามาเหมารวมว่า อะไรที่เอามาจากเครื่องเจ แมร่มแรงทุกอย่างมันไม่สมเหตุสมผล บางคนบอกใส่ติ๊กเจ รถแรงเลย! จริงๆเพราะติ๊กเดิมมันล้า พอเอาติ๊กดีๆมาใส่มันก็ดันแรงดันได้เต็มที่  มันก็ไม่ตื้อจริงๆไปติ๊กขนาดใกล้เคียงกับของเดิมมาใส่ที่สภาพยังไม่กลับบ้านมามันก็รู้สึกว่ามันแรงขึ้นเหมือนกัน มันไม่เหมือนกับการอัพเทอร์โบแบบนั้นคือเพิ่มสมรรถนะรถแต่การที่เปลี่ยนอะไหล่แต่การเปลี่ยนคอยล์ลงไปแทนของเก่าที่มันเก่ามาก พวกนี้คือการปรับปรุงสมรรถภาพต่างหาก สมรรถนะกับสมรรถภาพมันต่างกัน แต่คนชอบเข้าใจว่ามันเหมือนกัน การใส่คอยล์แรงๆมากๆ สายหัวเทียน ความต้านทานต่ำๆ(low impedance)มันก็มีข้อเสียคือมันจะไปกวนคลื่นวิทยุเอาได้เหมือนกัน
ไม่ใช่ว่าเราประเคนใส่ๆลงไปไม่มีข้อเสีย ถ้าไม่บอกก็ไม่มีใครรู้  ไม่มีใครนึกถึงข้อดีของคอยล์แยกตามท่านที่ตอบก่อนผมอันนี้ถูกต้อง ผมพิมพ์ผ่านมือถือจำชื่อล๊อคอินไม่ได้  คือพวกคอยล์แยกมันดีตรง มันไปติดไว้ห่างแหล่งความร้อน หลบน้ำได้ ฮีทซิ้งค์ใหญ่ พวกคอยล์ยิ่งอยู่ไกลความร้อนยิ่งทน ยิ่งเสถียร ใครนึกถึงสมัย20กว่าปีที่แล้วได้บ้าง พวกคอยล์ข้าวต้มมัดที่มันต่อเข้าจานจ่าย มีกะโหลก กะลาแล้วแต่จะเรียกมีหัวนกกระจอก วันดีคืนดีสตาร์ทรถไม่ติดพอจอด กินโอเลี้ยงเอาน้ำแข็งโปะไว้  อ้าวเฮ้ยสตาร์ทติดแล้ว มันเกิดจากคอยล์มันเสื่อม มันร้อนมาก เพราะฉะนั้นคอยล์ยิ่งอยู่ห่างจากความร้อนมันยิ่งทน พวกคอยล์แบบที่อยู่บนรูปเครื่องลัมโบ กัลลาโด นั้นเป็นคอยล์ออนปลั๊กเอาเข้าจริงๆพวกนี้เสียบ่อยนะเพราะมันรวมเอาตัวสวิทชิ่งึ่งเป็นวงจรไปอยู่ติดกับคอยล์ การระบายความร้อนก็แย่นะ เพราะฮีทซิ้งถูกแทนที่ด้วยโมดุล สวิทชิ่ง คอยล์ไหม้ง่าย แต่ พวกนี้มันต้นถูกประหยัดพื้นที่ เหมือนบัลลาส หลอดนีออนรุ่นเก่าที่บ้องใหญ่ๆใช้10ปีไม่พัง แต่พอไปเจอ พวกหลอดนีออนแบบแลมป์ตั้นที่เป็นเซอร์กิตเล็กๆ พวกนี้เล็กต้นทุนถูกแต่ไม่ทน เพราะบัลลาสโบราณข้างใน เป็นขดลวดทองแดงล้วนๆ ต้นทุนแพงกว่า แบบเจ้าแลมป์ตั้นมาก  แต่ทนกว่า  แพงกว่า และกินที่มากกว่าก็เหมือนคอยล์รถเนี่ยแหละหลักการคล้ายๆกัน มีขดลวดปฐมภูมิ(Primary) อยากรู้ว่าเค้าทดสอบคอยล์ยังไงลองกูเกิ้ล ลองดูครับ มันมีบอกการเทสต์ค่าDwell timeใช้เครื่องอะไรสโคปๆซักอย่างเทสต์คอยล์ออกมา ผมไม่ได้สนใจมากเรื่องพวกนี้นานๆพังที แถมรู้พวกนี้ก็หาเงินไม่ได้แถมมาบอกเยอะเดี๋ยวหาว่าอวดรู้อีก สู้เอาวิชาบริหารมาใช้หากินต่อดีกว่าครับ

ผมพิมพ์ติดๆกันพยายามอ่านหน่อยนะครับตกหล่นบ้างผมนั่งพิมพ์ผ่านบีบีปุ่มมันใหญ่กว่าเม็ดกิมจ๊อนิดเดียวเอง

ทุกคนล้วนมีความคิดแตกต่างกันออกไป ควรเคารพความคิดของแต่ละคนแล้วเอาความรู้มาแบ่งปันกัน อย่ามัวคิดว่าเราถูกเสมอทุกคนผ่านโง่มาก่อนที่จะฉลาดทุกคน ผิดถูกบอกกล่าวกันมีน้ำใจให้กันนะครับ :)

ถูกต้องครับ อย่างน้อยผมไม่เคยสบถออกมาว่า ใครโง่ หรืออวดรู้ครับ ถ้าพิมโจ๋งครึ่ม แบบนี้ไม่ต้องอ่านแล้วนั่งนึกถึงนัยของความหมายที่พิมพ์มาแล้วครับ

straight forward โต้งๆเลยว่า พาดพิง ถึงไอ้คนที่ตอบแน่นอน เรียกง่ายๆด่ากันตรงๆว่า อย่ามาอวดรู้  ก็เอาเป็นว่าผมยอมรับผิดว่าอวดรู้จริงๆ ก็ไหนลองคนที่

บอกว่าผมอวดรู้(ผมร้อนตัว) ลองอธิบายให้ผมฟังหน่อยว่า แล้วคอยล์ใหญ่ๆ ใหญ่กว่าเครื่อง ใหญ่กว่าความต้องการ ในการ supply current ไปที่ หัวเทียน

มีประโยชน์ ยังไงครับ แล้วทำไมมันถึงแรงครับ หรือว่าไฟแรงๆ แล้วมันจุดแรง ไม่อยากจะบอกว่า หลายๆคน เข้าใจคำว่า ไฟ น้ำมัน อากาศ ดี แล้วรถจะแรง

ลองไปถามดูสิครับ 100 คนจะมีซักกี่คน เข้าใจ กฎสามเหลี่ยมอันนี้บ้าง น้ำมัน หลายๆคนตอบได้ ว่าอืมน้ำมัน มาพอ อากาศมาพอ แต่ผมเชื่อว่ามีคนอีกไม่น้อย

เข้าใจคำว่าไฟ เนี่ยหมายถึง ไฟมาแรงๆ จริงๆ มันคือ Ignition Timing ลองดูครับ ต่อให้ คุณmap ตาราง ออกมา ให้มันได้ตามlambda Target เท่ากับ 1.00

หรือStoisch  คือ A/F ได้ส่วนผสม ที่สมบูรณ์ที่สุด คือ 14.6-7 : 1  ,รถจะวิ่งได้ไม่ดีเลยหากขาดเรื่อง Ignition timing คือ องศาไฟที่พอดี เวลาที่เค้าจูนรถ

แบบreal time จริงๆ เค้าต้องเอาขนาด ไอ้เจ้าหูฟัง เนี่ย เสียบฟังเลยว่า Advance / retard เอาให้จนได้ยินว่ามันน๊อค (Detonation) แล้วปรับองศาไฟ ถอยกลับมา

ต้องทำแบบนี้ให้ครอบคลุมมากที่สุดในทุกๆย่านload ของเครื่องในแต่ละรอบ แต่ละความเร็ว ไม่ใช่หมายถึงไฟแรง ใส่คอยล์แรง แบบที่เข้าใจกัน

พิมพ์ทีไรออกทะเลเรื่อยเลย เอาเป็นว่าใครที่เข้ามาอ่านแล้ว ถามตัวเองดูว่าเคยคิดแบบที่ผมอธิบายจริงๆรึปล่าวครับ เจ้ากฎสามเหลี่ยมเนี่ย

อีกเรื่องไหนๆก็ไหนๆขออวดรู้อีหน่อยแล้ว เรื่องปั๊มติ๊กที่บอกว่าใส่แล้วแรงเนี่ย มาทำความเข้าใจกันเสียใหม่ แล้วสาเหตุทำไมถึงต้องใส่ปั๊มติ๊กแรงๆ

ในรถที่ทำมา ระบบน้ำมันในรถเนี่ย หลักๆเลยมีอยู่ 3ตัว ปั๊มติ๊ก เรกูเรเตอร์น้ำมัน หัวฉีด พวกรถที่แรงๆทำไมต้องใส่ปั๊มตัวใหญ่ๆ ประโยชน์มันไม่ใช่

ว่าใส่แล้วเพื่อให้มันแรง แต่เค้าใส่ไว้เพื่อไม่ให้เครื่องมันวินาศจากการ ขาดน้ำมัน เพราะ รถที่ทำมาไว้ใช้ในสนามนั้น เค้นสมรรถนะจากเครื่องเต็มที่

A/F เนี่ยต้องแม่น ลองคิดสภาพว่า ถ้าเค้นๆอยู่ บูสต์หนักอยู่ดีๆปั๊มแรงตกปุ้บ A/F จะกลายเป็นextremely lean ทันที ความหมายคือ ส่วนผสมมันจะบาง

โดยเฉียบพลัน เมื่อนั้นหละก็วินาศสันตะโลทันที ถึงไม่ต้องสงสยัว่า ทำไมบางคันใช้ปั๊มติ๊ก 2 ตัว แถมต่อparallel มีถัง A ถังB ต่อไว้อีก ปั๊มติ๊กจะส่งน้ำมันตาม

แรงดันของมันที่สเป็คระบุไว้ จะ8บาร์ 9บาร์ ก็ว่ากันไป แล้วต่อเข้ามาที่เรกูเตอร์ ตัวนี้คือตัวคุมแรงดัน ถ้าเกินที่กำหนดกรูก็ปล่อยโบลว์กลับถังไป

แล้วหัวฉีดก็ฉีดน้ำมันไปตาม duty cycle ว่าจะที่งานกี่cc/m ก็ว่าไป ว่ามาถึงเรกูเรเตอร์น้ำมัน หลายๆคนก็ยังเข้าใจผิดอีก สมมติ เรกูเรเตอร์น้ำมัน

1 ตัว บอกว่า เรกูเรเตอร์ 3บาร์ มีใครเข้าใจบ้างว่าคำว่า 3 บาร์ในที่นี้ ความหมายคืออะไรครับ? มันไม่ได้หมายความว่าเรกูเรเตอร์นี้ คุมแรงดันที่

3บาร์คงที่ และไม่ได้แปลว่าเรกูเรเตอร์ตัวนี้ คุมแรงดันได้สูงสุดแค่3บาร์ อันนี้ผมเข้าใจ ช่างซ่อมรถแมร่มยังมั่วเลย ยังไม่รู้ อีกครึ่งประเทศ

ผมคอนเฟิร์มเคยสงสัยมั้ยว่าทำไมว่า ทำไมต้องมีสายแวคคั่มจากหลังลิ้น ปีกผีเสื้อต่อเข้าเรกูเรเตอร์?  เคยสงสัยกันมั้ยครับ? คำว่า3 บาร์ที่

ปะไว้ที่เรกูเรเตอร์ ความหมายคือ เมื่อเครื่องยนต์อยู่ในสภาวะ ไม่มีแวคคั่ม หรือ แรงดัน(บูสต์) เรกุเรเตอร์ตัวนี้จะคุมแรงดันในรางหัวฉีดที่

3บาร์ แต่เมื่อเราสตาร์ทเครื่อง ชึ่ง โดยปกติ ทั้งรถเทอร์โบ หรือรถNA ที่ไม่ทำแคมลิฟท์สูงจนแมร่มเดินเบาไม่ได้ พวกนี้ ค่ามันจะเป็นแรงดูดคือแวคคั่ม

ค่ามันจะต่ำกว่าศูนย์ เป็นค่าติดลบ โดยมาก ก็จะประมาณ -0.5bar ณ ตอนนั้น เรกูเรเตอร์ จะเอาค่าแวคคั่ม ตัวนั้นไปยกลิ้นไดอะแฟรมข้างใน

ให้แรงดันในรางหัวฉีดลดลง  ถ้าเป็นตัวเลข ณ รอบเดินเบา แรงดันในรางหัวฉีดจะเท่ากับ 3-0.5 = 2,5bar

ถ้าเป็นรถเทอร์โบ เวลาที่ติดบูสต์ สมมติ รถคันนึง บูสต์ 2 bar ณ เวลาที่มันบูสต์ แรงดันหัวฉีดในรางจะท่ากับ 3+2=5bar

เห็นภาพรึยังว่าเรกูเรเตอร์ 3 บาร์ไม่ได้แปลว่า มันคุมแรงดันสูงสุด ได้3บาร์ ไม่ได้แปลว่า มันมีแรงดันคงที่ ที่3บาร์ พิมพ์แล้วเมื่อยมือชะมัด ;D

บอกแล้วอย่าให้ติดลม เดี๋ยวได้ตาลายกันนะจ้ะ
 

แล้วทำไมเค้าถึงทำคอยแต่งออกมาล่ะครับถ้าความแรงของกระแสไฟที่กระโดดข้ามเขี้ยหัวเทียนไม่ได้มีผล ::)  ถ้ากระแสไฟไม่สามารถกะโดข้ามเขี้ยวหัวเทียนได้มากพอแล้วมันจะเผาไหม้หมดหรอครับ ในจังหวะที่เราต้องการกำลังน้ำมันที่ฉีดมาจะมากกว่ารอบปรกติในจังหวะนั้นถ้าความสามารถของคอยไม่สามารถสร้าvoltageได้เพียงพอแล้วมันจะเผาไหม้น้ำมันที่ฉีดออกมาหมดหรือเปล่าครับ         ส่วน  A/F ได้ส่วนผสม ที่สมบูรณ์ที่สุด คือ 14.6-7 : 1มันเป็นอัตราส่วนที่เผาไหม้ดีที่สุด ได้ความร้อนสูงที่สุด ทำให้ไอเสียมีความร้อนสูงแต่ไม่ได้กำลังมากที่สุดครับ จัดเป็น lean mixtureครับ ส่วนpower ดีที่สุดประมาณ 8:1ครับ ในเครื่องบินก่อนจะ take off จะใช้ rich mixture
ในการ run engine เพื่อที่จะได้กำลังสูงที่สุดในการ Take off ครับ ดังนั้นถ้ารถที่ผ่านการmodifyมาแล้วมีการเปลี่ยนอัตราส่วนA/Fใหม่ แล้วมีอัตราส่วนน้ำมันมากกว่าเดิมก็ควรจะเปลี่ยนเพื่อให้ความแรงของกระแสไฟมากเพียงพอที่จะจุดระเบิดครับ เพราะไม่ฉะนั้นจะเกิดการเผาไหม้ไม่หมดได้นะครับ  ผิดถูกอย่าไรขอท่านกูรูแนะนำด้วยครับ

ของเล่นครับ ของเล่น ของหลอกขาย  ลองเล่นรถไปเรื่อยๆแต่งเสียเงินไปเรื่อยๆ  แล้วจะพบเจอของบางอย่างที่เรารู้สึกว่า เออ หลอกขายนี่หว่า  ถ้าใช้องค์ความรู้ทั้ง ในสมองและลองของจริง คิดด้วยหลักการใช้เครื่องมือวัด แล้วจะเริ่มรู้สึกเจ็บใจกับของบางอย่าง

ในกระทู้นี้ จขกท กล่าวถึง คอย์ลเครื่องเจ เทียบกับคอล์ยเดิม ซึ่ง ผมก็เห็นว่ามันก็ให้ผลเหมือนกัน  ไม่ได้กล่าวถึงคอล์ยแต่งอะไร ลองคิดถึงประเด็นในกระทู้ก่อน
ใครจะพิมพ์อะไรมา เราก็ควรเก็บแต่สิ่งที่เราต้องการ เค้ามาบอกว่าไม่ต้องลองนะ ผมลองมาแล้วมันไม่ดี แต่คุณพิมพ์อะไรออกมา แบบนี้ คนที่พิมพ์สาระให้เราอ่านก็แย่ซิครับ  อวดรู้ คำๆนี้คุณควรพิมพ์ไม๊

ผมไม่ได้เถียงในประเด็นของท่านนะครับ โปรดอย่าได้เข้าใจผิด ผมเองก็ตอบเป็นคนแรกๆว่าไม่ได้ผลมาก แต่ส่วนเรื่องรถผมน้ำมันท่วม ผมก็แค่ไม่อยากให้มันเป็นประเด็น ผมใช้ 85 ยกหัวฉีดเจโบเกือบจะสุด ดูดอากาศของใครของมัน ตอนจูนผมจูนกับ MSD 6A ถ้าผมกลับไปใส่คอยเดิม รถผมน้ำมันท่วม .....  มันผิดตรงไหนหรอครับ อ่านดูให้ดี  ผมบอกว่ารถผม ...

เค้าบอกประสพการ์ณของเขา คุณเองก็บอกประสพการ์ณของคุณ ไม่มีใครเถียงใครหรอกครับ ใจเย็นๆ  รักกันไว้ทั้งสองท่าน ท่านทั้งสองเป้นคนที่ผมชื่นชมทั้งคู่  :) :) :)

octane ต่างกัน การเซ็ตอัพต่างกัน องศาไฟ advance , retard ต่างกัน ลำพังถ้าจะมาบอกว่า rich แรง กว่า lean หรือ lean แรงกว่า rich แน่นอนผมตอบไม่ได้

ตอบไม่ได้จริงๆ มีปัจจัยที่มากกว่านี้เยอะ อากาศ คุณภาพน้ำมัน advance/retard องศาไฟ มีผลทำให้rich วิ่งดี หรือ lean วิ่งดี จุดอ่อนของ lean คือทำให้

อุณหภูมิสูงขึ้น แต่EGT สูงทำให้ไอเสียพรวดพราดออกเร็วกว่าrich rich เผาไหม้ช้ากว่า ต้องปรับtiming ช่วย กว่าจะวาบไฟจุดระเบิด เลยTDC ไป กำลังตกอีก

การจูนรถทั่วไป ไปลองดูนะครับ โดยมาก เค้าจะจูนให้rich ส่วนใหญ่คือจังหวะสุดท้ายคือ WOT(Wide open throttle) ,ไฟAdvance เชื้อเพลิงก็พยายาม

จุดในกระบอกสูบมากที่สุด เพื่อให้ได้energy ออกมามากสุด ถึงบอกว่าไทม์มิ่งสำคัญไงครับ ถ้าลำพังมาด้วนๆว่า lean แรงกว่า rich หรือ rich แรงกว่า lean ตอบยาก

 แต่ถ้าถามว่าอันไหนโอกาสป๊อกง่ายกว่ากัน อันนี้lean มันมี"โอกาส"ป๊อกง่ายกว่า โอกาสdetonation มีสูงกว่า แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น องศาไฟจะปรับเค้นออกมาจนน๊อก

ได้มากน้อยแค่ไหน อ๊อกเทนก็เข้ามามีผลเรื่อง ชิงจุด ไม่ชิงจุดอีก 

ผมย้ำอีกครั้งว่าผมไม่ได้เถียงสิ่งที่คุณ powerstage บอกมา ไปอ่านดูข้างบนได้ ผมตอบไว้คนที่ 3 ในกระทู้นี้ เรื่งเครื่องที่ลงรูมาผมไม่ร้หรอกครับว่ามันตัวไหน แต่เห็นโลโก้หน้าจะเป็นแลมโบ ผมไม่มีตังซื้อเครื่องหรือรถแบบนั้นเล่นหรอกครับต้องขออภัย  แต่ถ้าเรื่อง direct coild อะผมว่าดูใน Dimention เอาก็ได้มั๊งครับ Civic เราก็มี บางทีผมอาจจะยังรู้น้อยไปถ้าจะเอาให้ถึงเครื่องตัวที่ท่านว่า ขับอยู่ 4 สูบนี่ก็ไม่ได้รู้มากมายอะไรแค่พอทำเองได้แค่นั้น ...

ใจเย็นๆๆลูกพี่ไม่มีไรหรอกครับ อันนี้แล้วแต่ประสบการณ์ของแต่ละคนจริงๆ ว่างๆลองจับa/f ดูหน่อย หรือลองดมควันดูหน่อยก็ดีครับ(คือเอามือไปอังแล้วมาดม) ว่ามันตุ่ยๆแสบตาๆบ้างไหม? ถ้าเวลาอากาศร้อนๆ แล้วมีสตาร์ทยาก สตาร์ทยาว หรือสตาร์ท2ที ถึงติด อันนี้สันนิษฐานได้ว่า น้ำมันมันลงหนาไป ลองไปตรวจสอบดูครับ

ของท่านเนี่ยผมเข้าใจนะ ไม่ได้ติดใจใดๆทั้งสิ้น ที่พิมพ์บอกไปคือไกด์ไลน์เอาไว้เสยๆ เผื่อมันไปเจอตัวการบางตัวที่มันมีผลทำให้มันบอด แต่พอดีมีประเด็นเลยพิมพ์แล้วแถมไปด้วย เลยกลายเป็นท่านงงว่าไหงตรูติดร่างไปด้วย  ;)

-"- ผมกะพิมพ์ไปขำๆไม่ให้มันมาคุเพราะตอนเห็นโพสกันมาท่าทางจะงานมา พี่เล่นก๊อบของผมมาตอบซะยาว ผมก็กลัวอะจิ ><  .... เค๊าไม่ได้เถียงนะ T T

Rich & Lean ผมตอบไว้ด้านล่าง ส่วนเรื่อง ไฟเนี่ย ถามหน่อยครับ คอยล์ไปอยู่ในกระบอกสูบ หรือหัวเทียนไปอยู่ในกระบอกสูบ? ใครคือตัวignite ในกระบอกสูบครับ

ไม่ต้องไปมองถึงว่าน้ำมันเยอะ เอาแค่มันจุดภายใต้ pressure ในรถเทอร์โบขณะมีบูสต์ หวัเทียนมีบทบาทมากกว่า ไม่งั้นเค้าไม่ดีไซน์หัวเทียนแบบtri-electrode หรือ

หวัเทียนเขี้ยวแปะ ไร้เขี้ยวแบบสามารถโดดไฟได้รอบคอหัวเทียน คุณคอยล์กับ หัวเทียน เทคโนโลยีปัจจุบัน ใครไปไกลกว่ากันครับ? ส่วนใหญ่ที่จะตายก่อนคือหัว

เทียน คอยล์คือตัวจ่ายกระแสไฟครับ ผมถึงบอกว่าถ้าของเดิมสแตดาร์ดมันโอเค ผมหามีเหตุผลไม่ว่าจะต้องไปเปลี่ยนเพื่อหวังความแรง แต่ถ้าคอยล์ติดรถเริ่มเสื่อม

เราหาตัวเลือก ที่ถูกกว่า ประหยัดกว่า ได้คอยล์สดกว่า จะบอกว่ายังไงดี เหมือน คอยลืเก่าเรามันเหลือ 70% เราเปลี่ยนใหม่ได้100% มันก็ได้แค่100% มันไม่ทางจะ

ทำให้มันเพิ่มไปได้ถึง150%  ใช้อภิมหากาพย์คอยล์ มันก็ทำงานเต็มประสิทธิภาพคือ 100% แค่นั้นเองครับ เรื่องของแต่งว่าทำไมถึงมีคอยล์โน้น นี้ นั้น อืมมม

ผมเห็นมีบ้านเรา ใช้เยอะกว่าเขานะ ที่เมืองนอกเนี่ย ส่วนใหญ่เค้าไปใช้คอยล์พวกBig block ครับ เพราะราคามันถูก แล้วทน หาง่าย ไปดูสิครับMSD สีแดง

ส่วนใหญ่ใส่ในcarshow เยอะ ไม่ใช่ว่ามันไม่ดีนะ แต่มันแพง และคอยล์oem. บางรุ่น การจ่ายไฟเสถียรกว่าMSD ในราคาที่ถูกกว่า มันมีให้เลือกไงครับ

ผมว่าของแต่งหลอก ขาซิ่งจริงๆมีเยอะนะ มีมาตั้งแต่สมัย20กว่าปีที่แล้ว แต่มันดีนะมันทำให้คนคึกคักขยันเสาะแสวงหา ความรู้ อรรถรสมันถึงเกิดเพราะมีเจ้าของ

แต่งพวกนี้ออกมา คนมันก็อยากลอง ดีป่าวว้า อันนู้นจะดีจริงมั้น อันนี้จะใช้ได้อย่างที่มันบอกป่าว เนี่ยแหละครับ ตลาดของแต่งรถถึงไม่มีวันตาย ตั้งแต่รุ่นพ่อรุ่นแม่เรา

จริงๆไม่มีไรหรอก ผมก็พิมพ์เรียกกระแสไปงั้นๆแหละ เห็นมันดึกแระ เดวง่วง แถมเลขจำนวนตอบยังไม่ข้าม200 เลยปั่นซะเลย  ;D

เสริมเรื่อง MSD ครับ อันที่จริงมันแรงไม่แรงโดยส่วนตัวผมว่ามันอยู่ที่กล่องมากว่า เพราะมันจุดซ้ำ.... ส่วนคอย MSD ผมว่าที่ใส่เพราะอยากมั่นใจว่าจะรองรับการจุดซ้าโดยมันไม่เสื่อม .... แต่ไม่ใช่ว่าใส่คอยไปอย่างเดียวแล้วแรงขึ้นครับผม และก็ไม่ใช่ว่ามีรบบจุดดีขึ้นจะแรงครับผม มันต้องกินอากาศ น้ำมัน กำลังอัด ... ยันอัตราทดเฟืองครับ  ถึงจะแรง .... เท่าที่ลองมา ทำเครื่องมาอย่างเยอะบางทีอาจโดนเครื่องเดิมเรียงเกียร์ก็ได้ มันอยู่ที่ความลงตัวของแต่ละสิ่งอย่าง ผมเองก็ยังตามหาจุดนั้นให้ตัวเองเหมือนกัน ^^

ผมตามมาจนหัวหงอกแล้วเหมือนกันครับ แฮ่ แฮ่ ไม่มีพอหรอกครับ เคยสังเกตมั้ย วันนี้เราทำนู่นทำนี่รู้สึกว่ารถเราแรง พอขับสองเดือน รู้สึกว่มันไม่แรงแล้วเฉยๆ ก็

พยายามอยากจะทำยังไงให้รถมันแรงขึ้นอีก เค้าเรียกว่าหลุมดำของคนแต่งรถครับ ธุรกิจนี้เลยไม่เคยตันไงครับ เคยเจอไหม ท่อไข่อัดอากาศ ท่อบิดเกลียว3ตลบ

ใบพัดมหัศจรรย์ กล่องเรียงโมเลกุลน้ำมัน อะไรอีกเยอะแยะเลย คือจริงๆบางตัวมันคงมีผลนะ แต่ว่ามันไม่ค่อยคุ้มในแง่ของการลงทุน แม้กระทั่งท่อแต่งสำนักดัง

พอเอาเข้าจริงแรงตกกว่าท่อเดิมติดรถมีให้เห็นเยอะแยะครับ มีใครบ้างไม่เคยเสียสตางค์กับขงพวกนี้ กล่องเก็บประจุต่างๆ เพื่นผมเนี่ยขายเองเลย ยังจะเอามาให้ผม

ลองใส่ไม่คิดเงิน ยี่ห้อดัง ร้านดังเลยหละ ราคากล่องใบละหมื่นกว่าบาท คนที่ใส่ไปก็บอกเองว่า อืมม ไม่ได้แรงอยากที่โฆษณา แต่คนนำเข้าเป็นเพื่อนผมเอง ได้แต่

เออ ออ ไปพูดไม่ออก พูดไปกลายเป็นด่าเพื่อนตัวเองธุรกิจนะครับ เราจะขัดขาเพื่อนตัวเอง ก็ทำไม่ลง มีอีกเยอะครับ ผมก็ทำธุรกิจเรื่องรถนี่แหละรู้อยู่แก่ใจครับ

ผมเองก็ตอบตรงเกิ้นบางที คราวหน้าจะพิมพ์อะไรจะระวังมากกว่านี้ครับ จะได้ไม่ขุ่นเคืองกันไปเปล่าๆ   

OKเลตรับพี่กระจ่างมาก ขอบคุณครับ :D :D :D

ขอถามอีกข้อนะครับ  แล้วสายหัวเทียนแต่งต่างจากสายหัวเทียนเดิมอย่างไรครับ

สายไฟก็คือสายไฟครับ แล้วแต่วัสดุ  เงิน ทองแดง มีข้อดีข้อเสีย บางตัวนำไฟดีมาก ณ อุณหภูมิปกติ แต่จะเกิดความต้านทานสูงขึ้นมากเมื่อ เจออุณหภูมิที่เปลี่ยนไปอาจจะสูงขึ้นหรือต่ำลง ในขณะที่วัสดุอีกตัวมีการนำกระแสไฟด้อยกว่า แต่ความแปรผันในการนำไฟ ณ อุณหภูมิที่แตกต่างมากๆ น้อยกว่า จุดประสงค์ของสายหัวเทียนซิ่งส่วนใหญ่ก็คือโฆษณาว่าเป็นแบบความต้านทานต่ำ โลว์อิมพิแดนซ์ เพื่อจะได้ให้ ลอสในสายน้อย แต่ข้อเสียก็คือมันมีโอกาสไปกวนคลื่นวิทยุได้ ตัวผมเองยังไม่เคยรู้สึกว่าสายหัวเทียนช่วยเรื่องความแรง จุดที่ผมเน้นเรื่องสายหัวเทียนคือตามปลั๊กหรือฉนวน  อินซูเลเตอร์ ถ้ายี่ห้อห่วยๆมันจะวัสดุไม่ดีแตกหักง่าย ทำให้ไฟมันกระโดดลงกราวน์ เราก็หากันเป็นไก่ตาแตกทำไมรถฉันสะดุดเป็นๆหายๆสุดท้ายสายหัวเทียนฉนวนมันไม่ดี เรื่องคุณภาพสายถ้ามองจริงๆคงๆคล้ายๆสายลำโพงมั้งครับ สมัยผมเล่นHT สายลำโพงบ้านเมตรละ2พัน พวก vanden hul โกลด์วอเตอร์ เลียร์วอเตอร์ อะไรประมาณนั้นสายบ้าสายบออะไรว่ะทำไมมันแพงขนาดนี้ ผมลองใส่ไปก็ฟังไม่ออกว่ามันต่างจากสานยลำโพงบ้องใหญ่ยังไง อาจจะได้ความใส เสียงมาอิ่มกว่า อันนี้คือที่นักฟังหูทองเลี่ยมเพชร เค้าว่ากันแต่ผมฟังไม่ออก แธถมเวลาต่อต่อมานั่งดูเฟสโดยดูหน้าตัดขวางของการถักสายไฟถ้าเหลี่ยมๆเป็น ลบถ้าถักมากลมๆเป็นบวก ต่อผิดเสียงจะปิดๆเสียงไม่เปิด ผมต่อเสร็จ  เสียงไม่เปิดจริงๆ เพราะไมได้หมุนโวลลุ่มเท่านั้น5555 ไม่เห็นมันจะต่างเลยสงสัยหูผมไม่ถึง

ขอโทษเถอะครับก่อนจะว่าใครคุณดูด้วยครับว่าเขาเป็นคนพิมพ์ไหมอย่างนี้ผมก็เสียนะครับช่วยชี้แจงด้วยครับ คุณ powwerstage เขายังอ่านเข้าใจเลยครับ ???

เอ่อผมว่าท่านRegis100 น่าจะหมายถึงอีกท่านมากกว่านะครับ เพียงแต่มันquoteไป quote มาเลยกลายเป็นไปพาดพิงโดยบังเอิญ ผมเชื่อว่าท่านRegis100  ไม่ได้มี

เจตนาตั้งใจไปต่อว่าท่านดอกครับ ปกติแล้วท่านRegis100 ก็ไม่เคยมีปัญหากับใคร ตอบกระทู้มาตั้งเป็นหมื่นๆ เห็นมีแต่ตอบช่วยคนในเว็บ ปัญหาคือมันเกิดจาก

ผมโดยตรงเนี่ยแหละครับ กับอีกท่าน ไม่อยากให้คนที่ทำประโยชน์ในคลับต้องมามีปัญหา เพราะปัญหาของผมคนเดียวครับ 

ขอบคุณครับ แต่ยังไงก็อยากให้ท่าน Regis 100 ชี้แจงหน่อยผมจะได้สบายใจครับ

อ้อ สรุปผมอ้างผิดต้องขออภัยครับ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[

ผมแก้แล้วนะ ถ้าติดใจตรงไหนบอกได้ ;)

ขอบคุณครับจะได้สบายใจวันนี้หวยออกด้วย..อิอิ :)

ส่วนผสม   A/F  ที่สมบูรณ์ที่สุด คือ 14.6-7 : 1   อันนี้ถูกต้องครับ แต่ไม่ใช่จุด หรืออัตราส่วนผสมที่ให้ power หรือ กำลัง หรือเรียกบ้านๆว่าแรงนะครับ 14.7:1 เป็นเพียงส่วนผสมที่เผ่าใหม่ดีและสมบูรณ์  มาต่อเรื่องทำไมเขาถึงใส่คอร์ยแยกในรถแข่ง  ก็รถแข่งเขาต้องการอุปกรณ์ที่มีคุณภาพ ใช้แล้วนิ่งกำลังเครื่อง อะไรต่ออะไรไม่ตก  สาเหตุที่เขาใช้คอร์แยกเพื่อที่จะใด้คอร์ที่มีกำลังจ่ายไฟไม่ตกลงเวลาร้อน อุปกรณ์ไฟฟ้าทุกชนิดเวลาร้อนความสามารของมันจะลดลง รถแข่งจึงเลือกใส่คอยแยกครับ
   ความหมายที่ผมเข้าใจจากที่พี่  powerstage  คือใส่คอร์ที่จ่ายไฟแรงกว่าคอร์ยเดิมที่เป็นสแตนดาส อย่าเช่นรถ 4 สูบ ใส่คอร์ยรถ 6 สูบไปมันก็ไม่เกิดผลอะไรมากนัก  แต่ถ้ารถ4สูแต่ใส่คอร์ยที่มีกำลังขับไฟน้อยลงจากเดิม อันนี้ซิถึงจะเห็นความแตกต่างในทางแย่ลง :-[

เอ้ย หวย เอ้ย ยังไม่ได้ซื้อเลย เอ้ยเอ้ย  ??? ??? :P :P :P

 ;D ;D ;D ;D ;D

สุดปลายมากครับ ความรู้ดีๆทั้งนั้นเลย 8) 8)

ผมเพิ่งไปใส่มาเมื่อวานครับ วิ่งดีมั้ย(แล้วแต่ความรู้สึกนะผมว่าหรือแล้วแต่อุปทาน) แต่สำหรับผมมันก็ดีขึ้นมั้ง ^^ แต่คุยกะช่างเค้าก็แล้วแต่เรามีตังมั้ยหละ ถ้ามีใส่ไว้ก็ไม่เสียหาย คอยแยกลดความร้อนได้ดี ไฟแรงขึ้น แต่ถ้าไม่มีไม่อยากเปลืองก็ไม่ต้องใส่รถก็วิ่งได้  ;D ;D ;D เค้าบอกผมประมาณนี้ครับ ก็เลยตัดสินใจติดเพื่อความสวยงาม ใช้งานได้ไม่ได้อีกเรื่องนึง  ;D ;D ;D ;D ส่วนอุปทานแล้วแต่คนคับผม  :-* :-* :-* :-*

แล้วสายหัวเทียนล่ะคับ มีผมมากน้อยแค่ไหนคับ?