หัวข้อ: ขอความเห็นท่านอาจารย์ตาโตปี96ช่วยวิเคราะห์และแนะนำหน่อยครับ เริ่มหัวข้อโดย: civic39 ที่ 22 ธันวาคม 2011, 20:25:03 เริ่มต้น..ผมซื้อ ตาโตปี 96 รุ่น LXI มือ2 ปัญหาที่ผมเจอคือ
1.เปิดฝาหม้อน้ำดู(ขณะเครื่องติดอยู่ครับ)จะมีฟองอากาศพุ่งออกมาเป็นระยะๆสักพัก(2-3นาที)น้ำในหม้อน้ำก็จะยุบหายไปต้องเติมเพิ่มใหม่ 2.น้ำในหม้อพักก็ยังอยู่ระดับเดิม ผมเอาไปให้อู่แถวบ้านดู ช่างบอกว่าปะเก็นฝาสูบรั่ว ต้องรื้อเครื่องใหม่ทั้งหมด...ทั้งๆที่เข็มอุณหภูมิความร้อนก็ชี้ไม่เกินครึ่ง(ผมตกใจเหมือนกันว่าเครื่องผมอาการหนักขนาดนี้เหรอ) 3.ช่างแนะนำว่าไม่ให้วิ่งทางใกล กลัวเครื่องจะน็อคกลางทาง (ช่างบอกว่าอย่าวิ่งไปลำปาง บ้านผมอยู่พะเยา) 4.ระดับในหม้อน้ำถ้าผมวิ่งมาถึงจุดหมายไม่ว่าใกล้หรือไกลผมจะเปิดดูทุกครั้งก็จะเห็นมันลดจากรูท่อหม้อพักนิดหน่อยเท่านั้นเองครับ สิ่งที่ช่างบอกว่าต้องทำคือ 1.1 ต้องรื้อเครื่องนำเสื้อสูบไปตีปลอกทองเหลืองใหม่ 1.2 เปลียนปะเก็นฝาสูบใหม่ 1.3 เปลี่ยนซืลอะไรต่างๆใหม่หมดในห้องเครื่อง ****ค่าใช้จ่ายทั้งหมด ช่างแจ้งว่า 15,000.- ใช้เวลาทำ 1 อาทิตย์ ***ผมจึงเกิดความสงสัยว่ารถผมเป็นอาการอย่างที่ช่างว่ามาและต้องซ่อมเหมือนช่างบอกหรือไม่ครับ*** ขอความกรุณาอาจารย์ในเวปช่วยชี้แนะหน่อยครับ ขอบคุณล่วงหน้าทุกท่านครับ หัวข้อ: Re: ขอความเห็นท่านอาจารย์ตาโตปี96ช่วยวิเคราะห์และแนะนำหน่อยครับ เริ่มหัวข้อโดย: ham_ter ที่ 22 ธันวาคม 2011, 20:53:57 เริ่มต้น..ผมซื้อ ตาโตปี 96 รุ่น LXI มือ2 ปัญหาที่ผมเจอคือ เรื่องฟองออกหม้อน้ำ แต่ความร้อนไม่ขึ้น มีหลายสาเหตุ อย่าพึ่งทำ1.เปิดฝาหม้อน้ำดู(ขณะเครื่องติดอยู่ครับ)จะมีฟองอากาศพุ่งออกมาเป็นระยะๆสักพัก(2-3นาที)น้ำในหม้อน้ำก็จะยุบหายไปต้องเติมเพิ่มใหม่ 2.น้ำในหม้อพักก็ยังอยู่ระดับเดิม ผมเอาไปให้อู่แถวบ้านดู ช่างบอกว่าปะเก็นฝาสูบรั่ว ต้องรื้อเครื่องใหม่ทั้งหมด...ทั้งๆที่เข็มอุณหภูมิความร้อนก็ชี้ไม่เกินครึ่ง(ผมตกใจเหมือนกันว่าเครื่องผมอาการหนักขนาดนี้เหรอ) 3.ช่างแนะนำว่าไม่ให้วิ่งทางใกล กลัวเครื่องจะน็อคกลางทาง (ช่างบอกว่าอย่าวิ่งไปลำปาง บ้านผมอยู่พะเยา) 4.ระดับในหม้อน้ำถ้าผมวิ่งมาถึงจุดหมายไม่ว่าใกล้หรือไกลผมจะเปิดดูทุกครั้งก็จะเห็นมันลดจากรูท่อหม้อพักนิดหน่อยเท่านั้นเองครับ สิ่งที่ช่างบอกว่าต้องทำคือ 1.1 ต้องรื้อเครื่องนำเสื้อสูบไปตีปลอกทองเหลืองใหม่ 1.2 เปลียนปะเก็นฝาสูบใหม่ 1.3 เปลี่ยนซืลอะไรต่างๆใหม่หมดในห้องเครื่อง ****ค่าใช้จ่ายทั้งหมด ช่างแจ้งว่า 15,000.- ใช้เวลาทำ 1 อาทิตย์ ***ผมจึงเกิดความสงสัยว่ารถผมเป็นอาการอย่างที่ช่างว่ามาและต้องซ่อมเหมือนช่างบอกหรือไม่ครับ*** ขอความกรุณาอาจารย์ในเวปช่วยชี้แนะหน่อยครับ ขอบคุณล่วงหน้าทุกท่านครับ ให้หาข้อมูลก่อน เสิร์จ คำที่อยากรู้ ในช่องข้างบนที่เขียนว่า GOOGLE แล้วมีช่องว่าง ให้เสิร์จหาดู อ่านไปเรื่อยๆ พอดีช่วงนี้ ถามมาเยอะ ขี้เกียจพิมพ์ อ่ะนะน :D :D หัวข้อ: Re: ขอความเห็นท่านอาจารย์ตาโตปี96ช่วยวิเคราะห์และแนะนำหน่อยครับ เริ่มหัวข้อโดย: ham_ter ที่ 22 ธันวาคม 2011, 20:56:12 แต่ถ้าให้เดาละก็ น้ำหาย มีฟอง แต่ความร้อนไม่ขึ้น
ไปร้านหม้อน้ำ เช็ครั่วก่อนน่าจะเจ็บน้อยกว่านะ :D :D หรือง่ายกว่านั้น ซื้อ คูลแลนด์ ขวดละ 60 มาเติมในหม้อน้ำ อีกวันก็หารูรั่ว เพราะฟองอากาศที่ดันออกมา น่าจะมีรั่วในระบบน้ำ หรือ ปะเก็นฝาสูบไม่แน่น ก็เป็นได้ อย่พึ่งไปทำ 15000 นะ อิอิ :D :D หัวข้อ: Re: ขอความเห็นท่านอาจารย์ตาโตปี96ช่วยวิเคราะห์และแนะนำหน่อยครับ เริ่มหัวข้อโดย: civic39 ที่ 22 ธันวาคม 2011, 21:25:19 แต่ถ้าให้เดาละก็ น้ำหาย มีฟอง แต่ความร้อนไม่ขึ้น ขอบคุณมากครับอาจารย์ ผมจะทำตามคำแนะนำก่อนครับ ผลออกมาแบบไหนผมจะกลับมารายงานอีกครั้งครับ (ผมมือใหม่จริงๆ)ไปร้านหม้อน้ำ เช็ครั่วก่อนน่าจะเจ็บน้อยกว่านะ :D :D หรือง่ายกว่านั้น ซื้อ คูลแลนด์ ขวดละ 60 มาเติมในหม้อน้ำ อีกวันก็หารูรั่ว เพราะฟองอากาศที่ดันออกมา น่าจะมีรั่วในระบบน้ำ หรือ ปะเก็นฝาสูบไม่แน่น ก็เป็นได้ อย่พึ่งไปทำ 15000 นะ อิอิ :D :D หัวข้อ: Re: ขอความเห็นท่านอาจารย์ตาโตปี96ช่วยวิเคราะห์และแนะนำหน่อยครับ เริ่มหัวข้อโดย: chira711 ที่ 22 ธันวาคม 2011, 23:42:46 1.อันดับแรกเปลี่ยนอู่ใหม่ครับ
2.อันดับสองก่อนออกจากอู่เอากล้วย หักมุกให้อู่ไป 1 หวีครับ 3.อันดับสามช่างมันนึกว่าเราเคี้ยวง่ายครับ เห็นทะเล่อทะล่าขับฮอนด้า โดยเฉพาะอีเคเข้าไปแม่งยิ้มเลย...อาหารว่างมาแล้ว 4.การที่น้ำหม้อพักไม่ยุบแสดงว่าน้ำในเครื่องยังพอมีอยู่ตราบใดที่มันหมดคุณก็จะเห็นความว่างปล่าวในหม้อพักครับ 5.อาการที่ว่ามาถ้าปะเก็นรั่ว ไม่กี่ร้อยครับขับรถเข้าไปศูนย์ฮอนด้าบอกเค้าว่า พี่ ขอเบิกปะเก็นแท้ที่ดีที่สุด เหนียวที่สุด ครับ ไม่หน้าเกิน 1500 ผิดพลาดขออภัย 6.ไปให้อู่ใหม่ใสปะเก็นครับอาจจะต้องเสียค่าเปิดฝา 2000 บาท ค่าวิชาที่ช่างลักจำมา (กณณีช่างเถอะ)...แต่ก่อนให้เค้าเปิดฝาสูบออกช่วยคุยกับช่างก่อนว่า ถ้าเมิงเปิดมาแล้ว ปิดแล้ว รถตรูไม่หาย..ตรูจะเอามาให้ท่านช่างดู ได้โปรดอย่าคิดค่าเปิด 2 รอบเด้อ 7.ทำตามที่เจ้าป้าสวยๆ ด้านบนบอกก่อน ครับ ลองไล่ดูท่อยาง ย้ำทุกเส้นไม่ว่าเส้นเล็กเส้นน้อยว่ามีรอย ปริแตกร้าว รอยพวกนี้จะแจ่มเมื่อรถวิ่งเพราความร้อนจะไปขยายรอยรั่ว แตกร้าว ให้เห็นชัดครับ..ถ้าเจอก็ไปหาซื้อท่อมาทำเองได้ ไม่ถึง 200 บาทตามขนาดท่อนั้นๆ 8.ถ้ารถของท่านไม่เคยน้ำหมด ขณะขับ และท่านไม่เคยเติมน้ำเลยในขณะที่เครื่องขาดน้ำเป็นไปได้ยากที่ช่าง จังจิงจา จะบอกให้เราปาดฝา และ ตีปลอกใหม่เพราะนั่นคือทางเลือกสุดท้าย 9.สุดท้ายช่วยบอกช่างด้วยว่ากรูไม่ใช่หมูครับ...15000 มันเยอะไป..เกือบซื้อเครื่องบล็อก ดี เดิมๆ ได้ 1 ตัว 10.ถ้าไม่เข้าใจอะไร ถามใหม่ครับเดี๋ยวจะมี พี่น้องที่เคยเจ็บ ๆ มาเหลาให้กระจ่างอีกรอบ ครับ....ส่วนมากที่นี่ไม่มีอ่จารย์ครับ.....มีแต่คนเคยเจ็บ โดยเฉพาะผม 555 อย่าซีเรียส นะครับ หัวข้อ: Re: ขอความเห็นท่านอาจารย์ตาโตปี96ช่วยวิเคราะห์และแนะนำหน่อยครับ เริ่มหัวข้อโดย: civic39 ที่ 23 ธันวาคม 2011, 08:32:09 ขอบคุณมากครับที่แนะนำ
หัวข้อ: Re: ขอความเห็นท่านอาจารย์ตาโตปี96ช่วยวิเคราะห์และแนะนำหน่อยครับ เริ่มหัวข้อโดย: ham_ter ที่ 23 ธันวาคม 2011, 20:17:00 ขอบคุณมากครับที่แนะนำ ไม่เป็นไรจ้า ว่าแต่ เจอสาเหตุยังจ๊ะ :D :Dหัวข้อ: Re: ขอความเห็นท่านอาจารย์ตาโตปี96ช่วยวิเคราะห์และแนะนำหน่อยครับ เริ่มหัวข้อโดย: srithanon ที่ 23 ธันวาคม 2011, 23:24:23 อยากจะบอกให้ท่านเจ้าของกระทู้ทราบว่า ในกรณีที่ประเก็นฝาสูบรั่วจะมีอาการบอกเหตุให้เราทราบในสองสภาวะดังนี้
ในกรณีที่เริ่มรั่วเพียงเล็กน้อย ซึ่งการรั่วในลักษณะนี้ อาจจะมาจากสาเหตุที่เครื่องยนต์เคยมีความร้อนขึ้นสูงสุด แต่ไม่ถึงกับทำให้ฝาสูบโก่งอย่างชัดเจน เช่นมีการขยายตัวของโลหะฝาสูบเมื่อมีความร้อนสูงเมื่อเย็นลง ส่วนโลหะที่ขยายตัวไม่คืนสภาพเดิม ทำให้เกิดการโก่งตัวน้อยมาก แต่ก็เข้าค่ายว่าโก่ง การไม่คืนตัวของเนื้อโละเพียงเล็กน้อย ทำให้อากาศไหลผ่านระหว่างผิวประเก็นกับผิวสัมผัสของฝาสูบได้ แต่น้อยมาก อาการอย่างนี้ในขณะที่เราสตาร์ทเครื่องยนต์ในตอนเช้าๆ หรือในสภาวะที่เครื่องยังเย็นอยู่ จะพบว่าอากาศที่มาจากแรงดันอากาศของลูกสูบ มีโอกาสรั่วเข้าไปในระบบน้ำหล่อเย็นของเสื่อสูบ หรือในหม้อน้ำ แต่มีปริมาณน้อยมาก เราจึงเห็นเป็นฟองอากาศจำนวนเล็กน้อยปรากฏที่ฝาหม้อน้ำ หากเปิดดู การรั่วเพียงเล็กน้อยนี้ เมื่อเครื่องยนต์ที่กำลังทำงานจนมีอุณหภูมิห้องเครื่อง หรือตัวเครื่องยนต์ร้อน ทำให้โลหะของฝาสูบและเสื่อสูบเกิดการขยายตัว( น้อยมากๆๆ) ทำให้รอยรั่วเล็กน้อยที่เกิดขึ้นในตอนแรกที่เครื่องเย็น เกิดสนิททำให้อากาศที่มาจากแรงดันของลูกสูบไม่สามารถผ่านได้ ฟองอากาศที่เกิดขึ้นในตอนแรกก็จะหายไป แต่อาการนี้จะไม่ค่อยเกิดขึ้น เพราะในความเป็นจริง การเกิดประเก็นรั่วอันเนื่องมาจากความร้อนโอเวอร์ฮีทของเครื่องยนต์ จะเกิดฝาสูบโก่งจนมีอาการบ่งชัด และหากถามว่าและมันเกิดจากอะไรล่ะ หลายท่านคงไม่ทราบว่า การเกิดอาการที่ท่านเจ้าของกระทู้บอกว่า ในตอนสตาร์ทเครื่องยนต์ในตอนแรก ( อาจจะหมายถึงตอนเช้าๆหรือตัวเครื่องยนต์ยังเย็นอยู่) จะพบฟองอากาศพุดขึ้นมาที่ตำแหน่งฝาหม้อน้ำปิด(เมื่อเปิดฝาออกมาดู) อาการนี้ส่วนหนึ่งมาจากสาเหตุในระบบระบายความร้อนของเครื่องยนต์ มีอากาศรั่วเข้าไปในระบบระบายความร้อนของเครื่องยนต์ อากาศที่รั่วนี้อาจจะมาจากรังผึ้งตัวระบายความร้อนของหม้อน้ำส่วนหนึ่ง หรือมาจากระบบท่อยางของหม้อน้ำที่ต่อไปใช้ในระบบอื่นๆ รวมไปถึงหม้อต้มแก็สหากติดตังใช้งาน เพราะขณะที่น้ำในหม้อน้ำร้อน ย่อมเกิดแรงดันจากการขยายตัวของน้ำ เราจะสังเกตุเห็นคราบน้ำไหลซึมตรงรอยรั่วของท่อยางและในครีบช่องระบายของหม้อน้ำ เมื่อใดก็ตามที่เราเลิกใช้งานรถดับเครื่องจอดรถไว้จนเครื่องเย็น ในสภาวะช่วงนี้ในระบบน้ำหล่อเย็นหรือระบบระบายความร้อนของเครื่องยนต์ จะมีสภาพ เป็นสุญญากาศ ทำให้มันสามารถที่จะดูดอากาศจากภายนอกเข้าไปในระบบระบายความร้อนของเครื่อง อากาศที่ถูกดูดเข้าไปนั้น จะไปแทรกแทนที่น้ำในระบบ ทำให้มีอากาศอยู่ในน้ำ ตามปกติหากการรั่วของท่อยางและหม้อน้ำ ของระบบระบายความร้อนเครื่องยนต์ ทุกครั้งที่ดับเครื่องยนต์ และเมื่อเย็นลง มันจะเกิดสุญญากาศในระบบ และการเกิดสุญญากาศนี้ มันจะดูดน้ำในหม้อพักน้ำเข้าไปที่หม้อน้ำให้เต็มอยู่เสมอ และเมื่อใดที่เครื่องยนต์มีอณหภูมิน้ำในหม้อน้ำสูงเกิดแรงดัน ที่สามารถดันวาวล์ปิดของฝาหม้อน้ำให้เปิดได้ น้ำส่วนหนึ่งก็จะไหลเข้าไปในหม้อพักน้ำ ดังนั้นเมื่อน้ำที่มีอากาศเข้าไปแทรกแทนที่น้ำบางส่วน เมื่อเวลาเราสตาร์ทเครื่องยนต์ในครั้งแรก เราก็จะเห็นฟองอากาศของน้ำ ที่เข้าไปในระบบระบายความร้อนของเครื่องยนต์ ตามที่ท่านเจ้าของกระทู้เห็น และเมื่ออากาศที่พุดออกจากน้ำหมด น้ำในระบบก็จะลดลงตามปริมาตรที่ถูกอากาศแทนที่ เจ้าของกระทู้จงเติมน้ำเพิ่มเข้าไป แต่การเกิดอากาศรั่วในลักษณะนี้ เราจะทราบได้ทันที่ว่า น้ำในหม้อพักน้ำจะอยู่เท่าเดิม โดยไม่ถูกดูดเข้าไปในหม้อน้ำ เพราะว่าการรั่วตามรอยต่อของท่อยางและหม้อน้ำ เมื่อเครื่องยนต์เย็นก็จะเกิดสูญญากาศตามที่ผมกล่าวครั้งแรก มันจึงดูดอากาศตามรอยรั่วก่อน เนื่องจากที่ฝาหม้อน้ำมีแรงดันสปริงวาวล์ปิดดันไว้ต้องใช้แรงดูดมาก เมื่อรอยรั่วไม่มีอะไรมากั้นมันก็เลยดูดได้ง่าย จึงทำให้น้ำในหม้อพักน้ำไม่ถูกดูด อยากแนะนำให้ท่านเจ้าของกระทู้ลองตรวจสอบอาการั่วของระบบที่ผมกล่าวดู ว่ามีจุดไหนที่น่าสงสัย หรือ ร้านซ่อมหม้อน้ำเช็ครั่วของหม้อน้ำ และท่อยางต่างๆที่ต่อจากระบบระบายความร้อนของเครื่องยนต์ไปใช้ ให้ครบทุกเส้น ก็จะพบ สำหรับที่คิดว่าฝาสูบจะโก่งประเก็นรั่ว ให้ทำการวัดกำลังของกระบอกสูบแต่ละสูบดู หากรั่วจริง กำลังอัดของแต่ละสูบ จะมีสูบหนึ่งสูบใดต่ำกว่าสูบอื่นๆ ลองตรวจดูครับ ขอให้โชคดี…..srithanon หัวข้อ: Re: ขอความเห็นท่านอาจารย์ตาโตปี96ช่วยวิเคราะห์และแนะนำหน่อยครับ เริ่มหัวข้อโดย: chira711 ที่ 24 ธันวาคม 2011, 15:51:00 ข้อมูลท่านด้านบน แน่นและชัดเจนครับ...ท่านใดจะทำจะซ่อม ศึกษาให้ถ่องแท้ก่อนครับ..ก่อนไปเสียความรู้สึกทีหลัง.....และเสียเงินไปแล้ว
หัวข้อ: Re: ขอความเห็นท่านอาจารย์ตาโตปี96ช่วยวิเคราะห์และแนะนำหน่อยครับ เริ่มหัวข้อโดย: se278 ที่ 24 ธันวาคม 2011, 18:22:22 น้ำในหม้อน้ำพร่องแต่ที่หม้อพักไม่ยุบ เป็นผมจะลองเปลี่ยนฝาหม้อน้ำดูก่อนยกเครื่อง ;)
หัวข้อ: Re: ขอความเห็นท่านอาจารย์ตาโตปี96ช่วยวิเคราะห์และแนะนำหน่อยครับ เริ่มหัวข้อโดย: pulanet ที่ 24 ธันวาคม 2011, 22:48:53 ปาดฝา เปลี่ยนประเก็น ตีปลอก บดวาล์ว แพงสุด ก็ 7500 ครับ ขับฮอนด้าอายุ 15 ปีแล้ว ทำใจหน่อยนะครับ ไม่แพงและไม่ถูก แต่ที่ผมเจอส่วนมาก มันไม่ใช่
หัวข้อ: Re: ขอความเห็นท่านอาจารย์ตาโตปี96ช่วยวิเคราะห์และแนะนำหน่อยครับ เริ่มหัวข้อโดย: nukool2001 ที่ 26 ธันวาคม 2011, 09:33:15 ของผมไปเช็คมาเหมือนกันครับ ปรากฏว่าปั๊มน้ำเดี้ยง (1000 กว่าบาท) ฝาหม้อน้ำลาพักร้อน (หลักร้อย ขึ้นอยู่กับคุณภาพ) ลองให้ชั่งไล่ลมออกครับ สตาร์ทเครื่องสักพัก เปิดฝาให้น้ำและอากาศออกมาให้หมด ดับเครื่องสลับกับการเติมน้ำไปเรื่อยๆ จนอากาศออกหมดครับ ผมเห็นช่างเขาทำประมาณนี้ครับ จนมันปกติเขาจึงให้เอารถออก |