หัวข้อ: จอดหนีน้ำเป็นเดือน สตาร์ทติดยาก เริ่มหัวข้อโดย: footprint ที่ 20 พฤศจิกายน 2011, 23:58:39 เอา EK ไปไปจอดหนีน้ำเป็นเดือน ทีนี้พอไปรับกลับมา สตาร์ทติดยากครับ
คาดว่าไฟในแบทคงอ่อน ถ้าผมใช้ไปเรื่อยๆ ไดชาร์ทมันจะสามารถชาร์ทไฟในแบท ให้กลับมาเป็นปกติได้มั้ยครับ หัวข้อ: Re: จอดหนีน้ำเป็นเดือน สตาร์ทติดยาก เริ่มหัวข้อโดย: srithanon ที่ 21 พฤศจิกายน 2011, 09:26:12 มันเป็นเรื่องปกติ ที่รถจอดเป็นเดือน แบ็ตเตอรี่ก็ย่อมจะมีกระแสไฟต่ำลง เพราะไม่มีการชาร์ทจากเครื่องยนต์ ประกอบกับรถยนต์ที่ติดตั้งเครื่องป้องกันขโมย ก็จะกินกระแสไฟประมาณ สี่ห้าร้อยมิลลิแอมป์
หรือประมาณครึ่งแอมป์ กระแสไปมีแต่จ่ายออก ความจริงนะเวลาจอดรถนานๆควรปลดขั่วไฟบวกของ แบ็ตเตอรี่ออก หรือให้ถูกหลักการก็เอาขั่วลบออก จะทำให้กระแสไฟที่อยู่ในหม้อแบ็ตมีกระแสไฟเก็บไว้ได้นานเป็นเดือน ในแบ็ตเตอรี่ที่ปกติ แต่ถ้าหากไม่ดึงออก มันก็จะถูกใช้กระแสไฟไปกับระบบป้องกันขโมย และระบบไฟที่เลี้ยงวงจรในตัวเครื่องรับวิทยุ พวกเวลาและเมมโมรี่โปรแกรม สิ่งเหล่านี้ทำให้กระแสไฟในหม้อแบ็ตลดลง ทำให้การสตาร์ทเครื่องยนต์มีกระแสไฟไม่พอ เพราะการการสตทาร์ทเครื่องยนต์จะใช้กระแสไฟสูงมาก 20-30 Amp หากกระแสไฟในหม้อแบ็ตอ่อน ทำให้สตาร์ทยาก มอเตอร์สตาร์ททำงานไม่เต็มที่ ตราบใดที่กระแสไฟไม่พอในขณะที่ทำการสตาร์ท ทำให้แรงเคลื่อนโวลเต็จลดลง หรือโวลลดลงมาก ไม่พอไปจ่ายให้กับวงจรของ ECU ปกติโวลเต็จที่จ่ายให้กับ ECU จะได้จากแบ็ตประมาณ 12.5-14Volt ถึงจะสูงไปบ้างเล็กน้อยก็ไม่มีปัญหา เพราะในวงจรไฟในตัวเมนบอร์ด ECU จะมีตัว Regulator ที่ทำหน้าที่จ่ายไฟคงที่ ที่ Output 5 Volt เมื่อมีไฟทางด้าน Input 12.5-14 Volt แต่ถ่หากไฟทางด้าน Inpput ที่มาจากแบ็ต ต่ำลงกว่า 12.5 เหลือไม่ถึง 8 Volt ในเวลาสตาร์ท ทำให้ไฟทางด้าน Output 5 Volt ไม่สามารถที่จะรักษาระดับไฟโวลเต็จได้ จึงทำให้ไฟที่จ่ายให้กับ ECU มีไฟไม่พอ ตัว ECU ก็จะไม่ทำงาน ทำให้การสตาร์ทเครื่องยนต์ไม่ติด แต่ทางในปฏิบัติแล้ว รถที่จอกทิ้งไว้นาน ที่ทำให้แบ็ตมีกระแสต่ำแล้ว ยังมีเรื่องของระบบน้ำมันในรางหัวฉีด ที่ทำให้การสตาร์ทเครื่องยนต์ติดยาก เพราะในรางหัวฉีด มีเพรชเชอร์แรงดันน้ำมันต่ำ เนื่องจากการรั่วซึมของบางวงจรในระบบหัวฉีด ทำให้น้ำมันในรางหัวฉีดลดลงหรือไม่มี เวลาสตาร์ทครั้งแรกจึงติดยาก แต่เมื่อเคื่องยนต์ติดแล้ว ปล่อยวอร์มสักพักก็เป็นปกติ สำหรับแบ็ตก็เช่นเดียวกัน หากสามารถสตาร์ทได้ ถึงจะสตาร์ทยาก แต่เมื่อสตาร์ทติด ถือว่าแบ็ตยังใช้ได้ และเมื่อเครื่องยนต์ทำงานมันกผ้จะชาร์ทกระแสไฟเข้าหม้อแบ็ตตามปกติ และควรขับรถออกไปใช้ง่นรบ้าง เพื่อให้ระบบไดน์ชาร์ททำการชาร์ทไฟ ให้เต็มหม้อแบ็ต ทุกอย่างก็จะใช้งานได้เช่นเดิม ในกรณีที่สตาร์ทครั้งแรกแล้วเครื่องยนต์ติด แต่มัตวันขาวออก อย่าเพิ่งตกใจ เพราะว่าทั้งละอองน้ำและน้ำมันเครื่อง ที่ตกค้างในห้องสูบและไอน้ำที่เกิดในท่อไอดี จะทำให้การจุดระเบิดครั้งแรกไม่สมบูนรณ์ มีควันขาวออกมา แต่ใช้สักพักก็หายเป็นปกติครับ……srithanon หัวข้อ: Re: จอดหนีน้ำเป็นเดือน สตาร์ทติดยาก เริ่มหัวข้อโดย: nakarin ที่ 21 พฤศจิกายน 2011, 10:50:57 วิ่งยาวๆก็เหมือนเดิมแล้วครับ
หัวข้อ: Re: จอดหนีน้ำเป็นเดือน สตาร์ทติดยาก เริ่มหัวข้อโดย: tea_auto1981 ที่ 21 พฤศจิกายน 2011, 11:17:58 มันเป็นเรื่องปกติ ที่รถจอดเป็นเดือน แบ็ตเตอรี่ก็ย่อมจะมีกระแสไฟต่ำลง เพราะไม่มีการชาร์ทจากเครื่องยนต์ ประกอบกับรถยนต์ที่ติดตั้งเครื่องป้องกันขโมย ก็จะกินกระแสไฟประมาณ สี่ห้าร้อยมิลลิแอมป์ ความรู้ๆขอบคุณคร้าบ :-*หรือประมาณครึ่งแอมป์ กระแสไปมีแต่จ่ายออก ความจริงนะเวลาจอดรถนานๆควรปลดขั่วไฟบวกของ แบ็ตเตอรี่ออก หรือให้ถูกหลักการก็เอาขั่วลบออก จะทำให้กระแสไฟที่อยู่ในหม้อแบ็ตมีกระแสไฟเก็บไว้ได้นานเป็นเดือน ในแบ็ตเตอรี่ที่ปกติ แต่ถ้าหากไม่ดึงออก มันก็จะถูกใช้กระแสไฟไปกับระบบป้องกันขโมย และระบบไฟที่เลี้ยงวงจรในตัวเครื่องรับวิทยุ พวกเวลาและเมมโมรี่โปรแกรม สิ่งเหล่านี้ทำให้กระแสไฟในหม้อแบ็ตลดลง ทำให้การสตาร์ทเครื่องยนต์มีกระแสไฟไม่พอ เพราะการการสตทาร์ทเครื่องยนต์จะใช้กระแสไฟสูงมาก 20-30 Amp หากกระแสไฟในหม้อแบ็ตอ่อน ทำให้สตาร์ทยาก มอเตอร์สตาร์ททำงานไม่เต็มที่ ตราบใดที่กระแสไฟไม่พอในขณะที่ทำการสตาร์ท ทำให้แรงเคลื่อนโวลเต็จลดลง หรือโวลลดลงมาก ไม่พอไปจ่ายให้กับวงจรของ ECU ปกติโวลเต็จที่จ่ายให้กับ ECU จะได้จากแบ็ตประมาณ 12.5-14Volt ถึงจะสูงไปบ้างเล็กน้อยก็ไม่มีปัญหา เพราะในวงจรไฟในตัวเมนบอร์ด ECU จะมีตัว Regulator ที่ทำหน้าที่จ่ายไฟคงที่ ที่ Output 5 Volt เมื่อมีไฟทางด้าน Input 12.5-14 Volt แต่ถ่หากไฟทางด้าน Inpput ที่มาจากแบ็ต ต่ำลงกว่า 12.5 เหลือไม่ถึง 8 Volt ในเวลาสตาร์ท ทำให้ไฟทางด้าน Output 5 Volt ไม่สามารถที่จะรักษาระดับไฟโวลเต็จได้ จึงทำให้ไฟที่จ่ายให้กับ ECU มีไฟไม่พอ ตัว ECU ก็จะไม่ทำงาน ทำให้การสตาร์ทเครื่องยนต์ไม่ติด แต่ทางในปฏิบัติแล้ว รถที่จอกทิ้งไว้นาน ที่ทำให้แบ็ตมีกระแสต่ำแล้ว ยังมีเรื่องของระบบน้ำมันในรางหัวฉีด ที่ทำให้การสตาร์ทเครื่องยนต์ติดยาก เพราะในรางหัวฉีด มีเพรชเชอร์แรงดันน้ำมันต่ำ เนื่องจากการรั่วซึมของบางวงจรในระบบหัวฉีด ทำให้น้ำมันในรางหัวฉีดลดลงหรือไม่มี เวลาสตาร์ทครั้งแรกจึงติดยาก แต่เมื่อเคื่องยนต์ติดแล้ว ปล่อยวอร์มสักพักก็เป็นปกติ สำหรับแบ็ตก็เช่นเดียวกัน หากสามารถสตาร์ทได้ ถึงจะสตาร์ทยาก แต่เมื่อสตาร์ทติด ถือว่าแบ็ตยังใช้ได้ และเมื่อเครื่องยนต์ทำงานมันกผ้จะชาร์ทกระแสไฟเข้าหม้อแบ็ตตามปกติ และควรขับรถออกไปใช้ง่นรบ้าง เพื่อให้ระบบไดน์ชาร์ททำการชาร์ทไฟ ให้เต็มหม้อแบ็ต ทุกอย่างก็จะใช้งานได้เช่นเดิม ในกรณีที่สตาร์ทครั้งแรกแล้วเครื่องยนต์ติด แต่มัตวันขาวออก อย่าเพิ่งตกใจ เพราะว่าทั้งละอองน้ำและน้ำมันเครื่อง ที่ตกค้างในห้องสูบและไอน้ำที่เกิดในท่อไอดี จะทำให้การจุดระเบิดครั้งแรกไม่สมบูนรณ์ มีควันขาวออกมา แต่ใช้สักพักก็หายเป็นปกติครับ……srithanon หัวข้อ: Re: จอดหนีน้ำเป็นเดือน สตาร์ทติดยาก เริ่มหัวข้อโดย: footprint ที่ 21 พฤศจิกายน 2011, 15:59:39 กระจ่างเลยครับ ขอบคุณครับ
นึกว่าจะต้องเสียเงินค่าแบตซะแล้ว หัวข้อ: Re: จอดหนีน้ำเป็นเดือน สตาร์ทติดยาก เริ่มหัวข้อโดย: otgs ที่ 21 พฤศจิกายน 2011, 16:09:29 ระวังจะเป็นเหมือนผมนะครับ ตอนนี้ ECU เสียไปแล้วและหาซื้อยากมากๆเลย รุ่นP27 EG 92-95 ใครมีบ้างครับ ข้างในกล่องเพียบไปด้วยโคลน และคาบน้ำ เวรกำจริงๆ จอดที่อู่ 2 ทิตย์แระ
|