:::CIVIC CLUB THAILAND:::

คุยคุ้ย Civic => Civic Club Discuss => ห้องคนขับ => ข้อความที่เริ่มโดย: skywalker ที่ 10 กันยายน 2007, 14:39:46



หัวข้อ: เรื่องแอร์เหม็นนี่เป็นกันทุกคันปะคับ
เริ่มหัวข้อโดย: skywalker ที่ 10 กันยายน 2007, 14:39:46
คือผมชอบโฉมของซีวิคตใหม่มากครับ แต่เห็นในเวบพูดถึงปัญหาหลายอย่าง ที่ผมติดใจก็เรื่องกลิ่นนี่แหละครับ ว่ากลิ่นเหม็นจากแอร์นี่ เป็นกันทุกคันไหมครับ แล้วมีใครแก้แล้วหายขาดบ้าง ถ้ามีวิธีแก้เรื่องนี้ ผมจะได้ไปถอยซีวิคมาบริการแม่ครับ


หัวข้อ: Re: เรื่องแอร์เหม็นนี่เป็นกันทุกคันปะคับ
เริ่มหัวข้อโดย: Lon3r ที่ 10 กันยายน 2007, 14:44:59
ไม่ครับ อย่างน้อยรถของผมไม่เป็นครับ


หัวข้อ: Re: เรื่องแอร์เหม็นนี่เป็นกันทุกคันปะคับ
เริ่มหัวข้อโดย: skywalker ที่ 10 กันยายน 2007, 14:46:10
เห็นบางคนว่าเดี๋ยวนี้ แอร์เหม็นนี่ เป็นกันทุกยี่ห้อครับ เพราะเกิดจากผู้ผลิตแอร์ครับ ไม่รู้ว่าจะจริงไหมครับ


หัวข้อ: Re: เรื่องแอร์เหม็นนี่เป็นกันทุกคันปะคับ
เริ่มหัวข้อโดย: skywalker ที่ 10 กันยายน 2007, 14:48:46
ไม่ครับ อย่างน้อยรถของผมไม่เป็นครับ

ขอถามเป็นความรู้หน่อยนะครับ เห็นบางคนบอกว่า ถ้าเราใช้น้ำหอม หรือชอบเอากับข้าวเข้าไปในรถ ก็จะยิ่งทำให้รถเหม็นอับ เห็นคุณบอกว่ารถไม่มีกลิ่น เลยอยากทราบว่า มีใช้น้ำหอมมั๊ย หรือชอบเอาของกินเข้าไปหรือเปล่า หรือมีวิธีดูแลรักษายังไงครับ


หัวข้อ: Re: เรื่องแอร์เหม็นนี่เป็นกันทุกคันปะคับ
เริ่มหัวข้อโดย: Aod61 : มิสซิสซิปปี้ ที่ 10 กันยายน 2007, 15:02:11
ขอถามเป็นความรู้หน่อยนะครับ เห็นบางคนบอกว่า ถ้าเราใช้น้ำหอม หรือชอบเอากับข้าวเข้าไปในรถ ก็จะยิ่งทำให้รถเหม็นอับ เห็นคุณบอกว่ารถไม่มีกลิ่น เลยอยากทราบว่า มีใช้น้ำหอมมั๊ย หรือชอบเอาของกินเข้าไปหรือเปล่า หรือมีวิธีดูแลรักษายังไงครับ



การนำอาหารเข้าไปกินในรถมีผลแน่นอน ในอาหาร มีกลิ่น มีไขมัน....พวกนี้แหละที่มักเข้าไปสะสมในระบบช่องแอร์
ก้อนหมอปรับอาการ การะบูน  พวกนี้ก็เหมือนกัน  ที่เราเห็นมันยุบตัวหายไป  แต่แท้ที่จริงแล้วมันหายไปสะสมในช่องระบบแอร์เช่นเดียวกัน   แนะนำว่าทางที่ดีเราควรใช้ สเปย์ปรับอากาศ(ถ้าจำเป็น)   ฉีดเฉพาะครั้งๆไป

ยี่ห้ออื่น โตโยต้า นิววีออส เหม็นยิ่งกว่าเราอีก  มีบางคนเค้าบอกเปลี่ยนพวกยางและพรม ที่แถมมากับรถออกแล้วหาย  กับ FD ไม่รู้นะ   
โชคดียังเป็นของผม FD ของผมไม่เหม็นอ่ะ  ส่วนตัวผมใช้เจลดูดกลิ่นอับ แบบมีกลิ่นหอม


หัวข้อ: Re: เรื่องแอร์เหม็นนี่เป็นกันทุกคันปะคับ
เริ่มหัวข้อโดย: Chi-O ที่ 10 กันยายน 2007, 15:08:31


การนำอาหารเข้าไปกินในรถมีผลแน่นอน ในอาหาร มีกลิ่น มีไขมัน....พวกนี้แหละที่มักเข้าไปสะสมในระบบช่องแอร์
ก้อนหมอปรับอาการ การะบูน  พวกนี้ก็เหมือนกัน  ที่เราเห็นมันยุบตัวหายไป  แต่แท้ที่จริงแล้วมันหายไปสะสมในช่องระบบแอร์เช่นเดียวกัน   แนะนำว่าทางที่ดีเราควรใช้ สเปย์ปรับอากาศ(ถ้าจำเป็น)   ฉีดเฉพาะครั้งๆไป

ยี่ห้ออื่น โตโยต้า นิววีออส เหม็นยิ่งกว่าเราอีก  มีบางคนเค้าบอกเปลี่ยนพวกยางและพรม ที่แถมมากับรถออกแล้วหาย  กับ FD ไม่รู้นะ   
โชคดียังเป็นของผม FD ของผมไม่เหม็นอ่ะ  ส่วนตัวผมใช้เจลดูดกลิ่นอับ แบบมีกลิ่นหอม

ผมเป็นช่วงแรก ๆ ล่ะ แต่หลังจากผ่านช่วงนั้นมาก็ไม่เห็นมันจะเหม็นอีกเลย
ทั้งที่ผมก็ชอบกินหมูปิ้งระหว่างขับรถหรือไม่ก็สูบบุหรี่ไปด้วย

ผมจะเป่าลมร้อนมาซัก 2-3 นาที อาทิตย์ละครั้งเพื่อให้ช่องแอร์มันไม่มีอะไรสะสมอยู่
วิธีนี้ใช้มานานแล้วและก็ยังใช้อยู่ทุกวันครับ ^_^


หัวข้อ: Re: เรื่องแอร์เหม็นนี่เป็นกันทุกคันปะคับ
เริ่มหัวข้อโดย: j_nobita ที่ 10 กันยายน 2007, 17:23:18
:-[ ผม ES 2005 ใหม่ๆก็เหม็นครับ รุนแรงที่สุดตอนหน้าหนาว


หัวข้อ: Re: เรื่องแอร์เหม็นนี่เป็นกันทุกคันปะคับ
เริ่มหัวข้อโดย: skywalker ที่ 10 กันยายน 2007, 19:52:07
ขอบคุณสำหรับทุกความเห็นครับ พรุ่งนี้นัดเซลไว้ว่าจะไปลองขับครับ ถ้าขับแล้วโอเคจะจองเลยครับ คงเป็นสีดำครับ จะได้เอาไว้ล้างบ่อยๆครับ  :-[


หัวข้อ: Re: เรื่องแอร์เหม็นนี่เป็นกันทุกคันปะคับ
เริ่มหัวข้อโดย: MOU ที่ 10 กันยายน 2007, 22:24:00
เป็นเหมือนกันครับ


หัวข้อ: Re: เรื่องแอร์เหม็นนี่เป็นกันทุกคันปะคับ
เริ่มหัวข้อโดย: banana_bode ที่ 11 กันยายน 2007, 10:24:52
ผมใช้   เกลด  คลีนแอร์  ฉีดทุกครั้งตอนก่อนขับรถ เปิดแอร์ ให้มันฆ่าเชื้อ  ขึ้นรถกลิ่นก้อหาย

ตัวดีที่ทำให้เกิดกลิ่นนั้น  น้ำหอม ที่เป็นชนิดน้ำ แหละครับ ไม่ว่าจะแอมบลิเพอล์  หรือ เกลดสปอร์ต ก้อตาม ทำให้แอร์เหม็นได้  ผมก้อไม่รู้เหมือนกันว่าเกี่ยวกันยังไง  แต่จากช่างหลายคนแล้ว ศูนย์ ก้อบอกแบบนั้น  ผมเลิกใช้กลิ่นก้อหายไปเลยนะ ก้อเลยเชื่อ

หันมาใช้สเปรย์ปรับอากาศแบบฆ่าเชื้อแบคทีเรีย แทน


หัวข้อ: Re: เรื่องแอร์เหม็นนี่เป็นกันทุกคันปะคับ
เริ่มหัวข้อโดย: OZZY49 ที่ 11 กันยายน 2007, 12:35:17
ไม่ค่ะ  ไม่รอด เป็นตั้งแต่ ไม่กี่ร้อยโล จนตอนนี้จะ 10,000 อยู่และ  ไม่มีน้ำหอม ไม่กินอาหารในรถ ไม่มีความชื้นจากพรม  ก่อนถึงบ้าน ปิด A/C ก่อนดับเครื่อง 3-5 นาที ทุกวัน  รถจอดตากแดด บ่อย ๆ  เสาร์-อาทิตย์บางทีก็เปิดไล่ความชื้นบ้าง

ที่เล่ามาทั้งหมด ตอนนี้รถ 6 เดือนกว่าแล้ว ไม่หายค่ะ บอก 0  อึ้งไปเลย  บอกอะไรคลุมเคลือ บริษัทฯ ไม่หาทางแก้  อย่างจริงจัง  เปลี่ยนกรองอากาศแล้ว รอดูว่าดีขึ้นมั้ย  ถ้าไม่ดีก็ทำใจ 


หัวข้อ: Re: เรื่องแอร์เหม็นนี่เป็นกันทุกคันปะคับ
เริ่มหัวข้อโดย: Lon3r ที่ 11 กันยายน 2007, 14:23:09
ขอถามเป็นความรู้หน่อยนะครับ เห็นบางคนบอกว่า ถ้าเราใช้น้ำหอม หรือชอบเอากับข้าวเข้าไปในรถ ก็จะยิ่งทำให้รถเหม็นอับ เห็นคุณบอกว่ารถไม่มีกลิ่น เลยอยากทราบว่า มีใช้น้ำหอมมั๊ย หรือชอบเอาของกินเข้าไปหรือเปล่า หรือมีวิธีดูแลรักษายังไงครับ

รถคันนี้แม่ผมมีเอาไปตลาดซื้อของมาทำกับข้าวเป็นประจำเกือบทุกวันครับ ส่วนเรื่องน้ำหอมปรับรถยนต์นี่ไม่เคยใช้ครับ

ส่วนการดูแลรักษานี่ ตั้งแต่ซื้อรถมาผมจะใส่กรองอากาศของ 3M แผ่นบางๆ ซ้อนกันสองชั้น ถ้ามีกลิ่นเริ่มอับหรือลมแอร์เริ่มเบา ผมก็จะเปลี่ยนชิ้นใหม่เข้าไปใช้แทน ส่วนใหญ่ตกแล้วที่ประมาณ 2 เดือนครั้ง


หัวข้อ: Re: เรื่องแอร์เหม็นนี่เป็นกันทุกคันปะคับ
เริ่มหัวข้อโดย: NOOK ที่ 11 กันยายน 2007, 18:03:13
ตอนเปิดแอร์ไม่เป็นน่ะ แต่ตอนไล่ความชื้นก่อนถึงบ้าน5นาทีเนี่ยสิ กลิ่นเปรี้ยวเลย ก็เลยงงว่าควรไล่ความชื้นป่าวเนี่ย :'( :'( :'(


หัวข้อ: Re: เรื่องแอร์เหม็นนี่เป็นกันทุกคันปะคับ
เริ่มหัวข้อโดย: Aod61 : มิสซิสซิปปี้ ที่ 11 กันยายน 2007, 21:52:57
ตอนเปิดแอร์ไม่เป็นน่ะ แต่ตอนไล่ความชื้นก่อนถึงบ้าน5นาทีเนี่ยสิ กลิ่นเปรี้ยวเลย ก็เลยงงว่าควรไล่ความชื้นป่าวเนี่ย :'( :'( :'(


ควรอย่างยิ่งเลย   การไล่ความชื้น  จริงๆแล้วมันเป็นการเซฟคอยน์เย็น
คุณไล่ความชื้นแล้วเหม็นเนี้ย   ดีกว่าเหม็นตลอดแม้แต่ตอนขับขี่นะครับ


หัวข้อ: Re: เรื่องแอร์เหม็นนี่เป็นกันทุกคันปะคับ
เริ่มหัวข้อโดย: Sook ที่ 13 กันยายน 2007, 15:34:50
เรื่องนี้เป้นกันมานาน แล้วเป็น กันเกือบทุกคันนะครับ
วิธีแก้  1. การแดด   ปิดกระจกให้ สนิทนะครับ  1  ชม.
            2.  หลังจากเปิด แอร์เต็ม ที่ จะช่วย ไล่ความชื้น ออกไปจากรถได้นะครับ


หัวข้อ: Re: เรื่องแอร์เหม็นนี่เป็นกันทุกคันปะคับ
เริ่มหัวข้อโดย: Minna no tabo ที่ 14 กันยายน 2007, 17:19:59
ส่วนใหญ่จะเหม็นค่ะ คิดดูให้ดีก่อนตัดสินใจซื้อนะคะ ของเรา ออกรถมาประมาณปีครึ่งอ่ะ ซ่อมกันทุกเดือนอ่ะ
โน่นนิด นี่หน่อย ซื้อต่อของเราป่าวอ่ะ ปี 06 สีเงินอ่ะ อิอิอิๆๆๆๆ


หัวข้อ: Re: เรื่องแอร์เหม็นนี่เป็นกันทุกคันปะคับ
เริ่มหัวข้อโดย: Yorying ที่ 14 กันยายน 2007, 20:56:29
เหม็นเหมือนกันค่ะ แล้วก็ต้องเสียตังค่าล้างตู้แอร์ 2140 บาท แล้วสบายใจได้เสียตัง ออกมา ก็ดีขึ้นค่ะ เคยมีคนบอกว่า ก่อนจะถึงที่หมายสัก 10 นาที ให้ปิด A/C ให้พัดลมทำงานอย่างเดว (อะนี้ไม่มีความรู้ค่ะ) แต่ก็ทำตามเค้า มันก็ดีค่ะ ไม่มีกลิ่นค่ะ แต่ รถต้องไม่ใช้น้ำหอมนะ แต่สำหรับ ขนมน่ะ รถคันนี้เพียบบบบ แต่ก็ไม่เห็นมีกลิ่นเลยค่ะ ตอนนี้ก็ต้องไม่ลืมปิด A/C ก่อน ทุกครั้งค่ะ


หัวข้อ: Re: เรื่องแอร์เหม็นนี่เป็นกันทุกคันปะคับ
เริ่มหัวข้อโดย: palajook ที่ 14 กันยายน 2007, 22:10:42
เคยใช้วิธีก่อนเลี้ยวเข้าหมู่บ้าน เปิดให้ลมข้างนอกเข้ามา ปรากดว่า ฝ้าเตมรถเลยคับ 55+

เอ่อ เพิ่งเรียนมา(อีกแล้ว) อาจานบอกว่า เดี๋ยวนี้แอร์มันตัดสารบางตัวทิ้งไปแล้วเอาสารอีกตัวมาใช้แทน (ผมก้อจำชื่อได้ หลับๆตื่นๆ) คิดว่าคงเกี่ยวกับกลิ่นด้วยมั้งครับ

ปล.ของผมเหม็นตอนเปิดแอร์ตอนแรก มันจะเหม็นอับ แต่ผมใช้วิธี ตอนสตาร์ทรถ ผมเปิดแอร์และเปิดกระจกไปด้วย ออกมายืนสูบบุหรี่ด้วยท่าเท่ๆสักตัว พอกลับเข้าไปในรถ ไม่มีกลิ่นครับ 


หัวข้อ: Re: เรื่องแอร์เหม็นนี่เป็นกันทุกคันปะคับ
เริ่มหัวข้อโดย: Aod61 : มิสซิสซิปปี้ ที่ 15 กันยายน 2007, 00:21:19
เคยใช้วิธีก่อนเลี้ยวเข้าหมู่บ้าน เปิดให้ลมข้างนอกเข้ามา ปรากดว่า ฝ้าเตมรถเลยคับ 55+

เอ่อ เพิ่งเรียนมา(อีกแล้ว) อาจานบอกว่า เดี๋ยวนี้แอร์มันตัดสารบางตัวทิ้งไปแล้วเอาสารอีกตัวมาใช้แทน (ผมก้อจำชื่อได้ หลับๆตื่นๆ) คิดว่าคงเกี่ยวกับกลิ่นด้วยมั้งครับ

ปล.ของผมเหม็นตอนเปิดแอร์ตอนแรก มันจะเหม็นอับ แต่ผมใช้วิธี ตอนสตาร์ทรถ ผมเปิดแอร์และเปิดกระจกไปด้วย ออกมายืนสูบบุหรี่ด้วยท่าเท่ๆสักตัว พอกลับเข้าไปในรถ ไม่มีกลิ่นครับ 



ปิดแอร์ ปิดAC   ขณะขัยอยู่  ฝ้าขึ้นด้วยหรอ....แปลกมาก
ถ้าอากาศข้างนอกไม่เย็นจัด แล้วคุณไม่ไปเปิดหน้าต่าง โอกาสเกิดขึ้นน้อยมาก

FD  ตอนเช้าหรือทิ้งรถไว้นานๆ ก่อนสตาร์ท ควรเปิดแอร์และเร่งระดับ Timemer***  จนสุด แล้วเร่งความแรงลมจนสุด เพื่อไล่ความชื่น
สักพัก ค่อยปรับระดับทั้ง 2 ตามความต้องการความเย็น
เช่นกัน ก่อนถึงบ้านหรือจอดนานๆ  ก็ควรปิด AC และปิด Timemer แล้วเร่งความแรงลมแอร์สุด เพื่อไล่ความชื้น ซึ้งเป็นการเซฟคอยน์เย็น

***Timemer  คือตัว ไอ้ที่มีสีฟ้าๆไล่ระดับกัน   ซึ่งบางทีเราเข้าใจว่ารมันคือ ระดับของน้ำยาแอร์
แต่แท้ที่จริงแล้ว มันคือ Timemer ในการตัดต่อของแอร์

รถ 2-3 ปีหลัง  สังเกตุไหม  Honda FD และ Toyota new viaos  กลับเจอปัญหาแอร์เน่า   ทั้งที่รถเมื่อ 10 ปีหรือมากกว่านั้น กลับไม่เคยเจอปัญหาระบบแอร์เหม็นเลย  ตกลงมันเกิดจากปัญหาการผลิต , ต้องการลดต้นทุนการผลิต  หรือคุณภาพของรถสมัยนี้ตกต่ำลงกันแน่  ปัญหานี้เกิดจากผู้ผลิตทั้งสิ้น   น่ารวมตัวไปหา สคบ. กันจัง 55555