:::CIVIC CLUB THAILAND:::

คุยคุ้ย Civic => Civic Club Discuss => ห้องคนขับ => ข้อความที่เริ่มโดย: gigagame ที่ 24 กันยายน 2011, 16:49:42



หัวข้อ: เครื่องร้อนสตาร์ทติดยากครับ !!
เริ่มหัวข้อโดย: gigagame ที่ 24 กันยายน 2011, 16:49:42
รู้สึกรถผมจะเริ่มมีอาการหลายๆ อย่างแล้วครับ เช่นวันนี้ขับรถไปที่ 0 เพื่อไปรับอะไหล่ที่สั่งไว้แล้วขับกลับ พอมาถึงแวะทำธุระก่อนถึงที่หมาย ดับเครื่องยนต์เมื่อทำธุระเสร็จสตาร์ทเครื่องปรากฏว่าไดสตาร์ททำงานแต่เครื่องไม่ติด พยายามสองถึงสามครั้งถึงจะติดครับ แบตเปลี่ยนได้สองเดือนครับใช้น้ำมันอย่างเดียว ขอคำชี้แนะด้วยครับ :-[ :-[


หัวข้อ: Re: เครื่องร้อนสตาร์ทติดยากครับ !!
เริ่มหัวข้อโดย: srithanon ที่ 24 กันยายน 2011, 17:16:44
เดี๋ยวกลับมาแนะนำให้ครับ


หัวข้อ: Re: เครื่องร้อนสตาร์ทติดยากครับ !!
เริ่มหัวข้อโดย: Regis100 ที่ 24 กันยายน 2011, 17:20:29
ระยะห่างวาว์ล กับหัวเทียน ลองเช็คดูก่อนครับ 


หัวข้อ: Re: เครื่องร้อนสตาร์ทติดยากครับ !!
เริ่มหัวข้อโดย: srithanon ที่ 24 กันยายน 2011, 18:02:28
อาการสตาร์ทติดยากหลังจากขับรถเดินทางแล้วจอดรถดับเครื่องไปทำธุระ  กลับมาสตาร์ทไม่ติด มันก็มีหลายส่วนที่จะต้องตรวจ  แต่หลักๆแล้ว อาการที่ว่านี้ส่วนหนึ่งน่าจะมาจาก ระบบหัวฉีดน้ำมันรั่วซึม
กรณีที่เป็นในสาเหตุนี้ โดยมากเมื่อหัวฉีดรั่ว หลังจากที่เราดับเรื่องยนต์ ในระบบรางหัวฉีดน้ำมัน ยังคงมีแรงดันอยู่ในท่อ ทำให้มีแรงดันน้ำมันผ่านหัวฉีดที่รั่ว ลงมาอยู่ในท่อไอดี เมื่อจอดเป็นระยะเวลาไม่นานประมาณ สิบนาที น้ำมันที่รั่วจะมีปริมาณมาก หรือน้อยขึ้นอยู่กับหัวฉีดรั่ว  ในช่วงนี้หากเราสตาร์ทเครื่องยนต์ จะติดยาก  ต้องสตาร์ทหลายครั้ง ถึงจะติด
ที่เป็นเช่นนี้เพราะว่าในอัตราส่วนผสมในการจุดระเบิดในขณะนั้น มีน้ำมันมากหรือส่วนผสมหนา ทำให้การจุดระเบิดเกิดขึ้นยาก ต้องสตาร์ทหลายครั้งให้น้ำมันที่ตกค้างถูกดูดโดยลูกสูบในระหว่างสตาร์ท และการจุดระเบิดไม่สมบูรณ์ พอเราเหยียบคันเร่งค้างในขณะสตาร์ท ทำให้ลิ้นปีกผีเสิ้อเปิดกว้าง  อากาศเข้าได้มากพอดีกับจังหวะที่น้ำมันที่ตกค้างใกล้จะหมด ทำให้เกิดความพอดีในอัตราส่วนผสม เพราะมีอากาศที่ลิ้นปีกผีเสื้อเปิดกว้างที่เราเหยียบคันเร่งในการสตาร์ท  เครื่องยนต์ก็จะติด
ในการสตาร์ทเครื่องยนต์ที่มีน้ำหนาหรือมากตามที่กล่าวมา  ควรเหยียบคันเร่งให้มิด เพื่อให้ลิ้นปีกผีเสื้อเปิดกว้างสุด ให้อากาศเข้าไปในห้องไอดีมาก ตามน้ำมันที่ตกค้างในท่อไอดี  ก็จะทำให้การสตาร์ทเครื่องติดง่ายขึ้น
ก่อนอื่นที่จะมาตรวจสอบเรื่องหัวฉีดรั่ว  อยากจะให้ตรวจสอบส่วนประอื่นๆก่อน เช่นระบบไฟจุดระเบิด  ว่ามีที่หัวเทียนหรือไม่  บางครั้งพบว่ามีปัญหาเรื่องระบบไฟจุดระเบิด แต่อย่างไรก็ตามการวิเคราะห์เรื่องหัวฉีดรั่ว  ควรทดลองดังนี้   เพื่อให้เกิดความแน่ใจว่าใช่ หัวฉีดรั่ว
ให้ทดลองดับเครื่องยนต์หลังจากที่ติดเครื่องวอร์มสักสามสี่นาที  หรือขับรถสักสองสามกิโล แล้วจอดรถดับเครื่อง  ช่วงนี้อย่าเพิ่งสตาร์ทเครื่องยนต์ทันที่  เพราะถ้าสตาร์ททันที่  จะไม่พบอาการสตาร์ทติดยาก  มันจะติดทันที่เหมือนปกติ  ต้องรอสักห้านาทีขึ้นไปจนถึงสิบนาที หากหัวฉีดรั่วจะสตาร์ทไม่ติด เพราะช่วงเวลาดังกล่าว  น้ำมันกำลังรั่วจากหัวฉีด และมันจะหยุดรั่วเมื่อแรงดันในระบบท่อรางหัวฉีดไม่มีความดัน หรือแรงดันต่ำ ไม่สามารถดันน้ำมันให้ผ่านหัวฉีดได้  ในช่วงเวลาต่อจากนี้ไปเกินกว่าครึ่งชั่วหรือหนึ่งชั่วขึ้นไปโมงโดยประมาณ
หากเรากลับมาสตาร์ทเครื่องยนต์  ก็จะสามารถติดได้  เนื่องจากน้ำมันที่รั่วจากหัวฉีดที่มาตกค้างในท่อไอดี
มัยระเหยออกไปหมด งั้นในการสตาร์ทจึงสตาร์ทติดง่ายตามปกติ
อยากให้ท่านเจ้าของกระทู้ลองตรวจเช็คตามที่ผมแนะนำนี้ก่อน เพราะสาเหตุที่เกิดขึ้นไม่ใช่สูตรสำเร็จที่จะมาจากสาเหตุที่ผมกล่าว  ยังมีส่วนอื่นๆที่เกี่ยวข้อง ต้องเช็คไปทีละสเต็ปก่อนครับ  ลองดูได้ผลประการใดมาเล่าสู่กันฟัง หากไม่ตรงประเด็นจะได้แนะนำว่าควรจะตรวจเช็คต่อที่ส่วนใดอีก…..srithanon


หัวข้อ: Re: เครื่องร้อนสตาร์ทติดยากครับ !!
เริ่มหัวข้อโดย: gigagame ที่ 24 กันยายน 2011, 18:17:54
อาการสตาร์ทติดยากหลังจากขับรถเดินทางแล้วจอดรถดับเครื่องไปทำธุระ  กลับมาสตาร์ทไม่ติด มันก็มีหลายส่วนที่จะต้องตรวจ  แต่หลักๆแล้ว อาการที่ว่านี้ส่วนหนึ่งน่าจะมาจาก ระบบหัวฉีดน้ำมันรั่วซึม
กรณีที่เป็นในสาเหตุนี้ โดยมากเมื่อหัวฉีดรั่ว หลังจากที่เราดับเรื่องยนต์ ในระบบรางหัวฉีดน้ำมัน ยังคงมีแรงดันอยู่ในท่อ ทำให้มีแรงดันน้ำมันผ่านหัวฉีดที่รั่ว ลงมาอยู่ในท่อไอดี เมื่อจอดเป็นระยะเวลาไม่นานประมาณ สิบนาที น้ำมันที่รั่วจะมีปริมาณมาก หรือน้อยขึ้นอยู่กับหัวฉีดรั่ว  ในช่วงนี้หากเราสตาร์ทเครื่องยนต์ จะติดยาก  ต้องสตาร์ทหลายครั้ง ถึงจะติด
ที่เป็นเช่นนี้เพราะว่าในอัตราส่วนผสมในการจุดระเบิดในขณะนั้น มีน้ำมันมากหรือส่วนผสมหนา ทำให้การจุดระเบิดเกิดขึ้นยาก ต้องสตาร์ทหลายครั้งให้น้ำมันที่ตกค้างถูกดูดโดยลูกสูบในระหว่างสตาร์ท และการจุดระเบิดไม่สมบูรณ์ พอเราเหยียบคันเร่งค้างในขณะสตาร์ท ทำให้ลิ้นปีกผีเสิ้อเปิดกว้าง  อากาศเข้าได้มากพอดีกับจังหวะที่น้ำมันที่ตกค้างใกล้จะหมด ทำให้เกิดความพอดีในอัตราส่วนผสม เพราะมีอากาศที่ลิ้นปีกผีเสื้อเปิดกว้างที่เราเหยียบคันเร่งในการสตาร์ท  เครื่องยนต์ก็จะติด
ในการสตาร์ทเครื่องยนต์ที่มีน้ำหนาหรือมากตามที่กล่าวมา  ควรเหยียบคันเร่งให้มิด เพื่อให้ลิ้นปีกผีเสื้อเปิดกว้างสุด ให้อากาศเข้าไปในห้องไอดีมาก ตามน้ำมันที่ตกค้างในท่อไอดี  ก็จะทำให้การสตาร์ทเครื่องติดง่ายขึ้น
ก่อนอื่นที่จะมาตรวจสอบเรื่องหัวฉีดรั่ว  อยากจะให้ตรวจสอบส่วนประอื่นๆก่อน เช่นระบบไฟจุดระเบิด  ว่ามีที่หัวเทียนหรือไม่  บางครั้งพบว่ามีปัญหาเรื่องระบบไฟจุดระเบิด แต่อย่างไรก็ตามการวิเคราะห์เรื่องหัวฉีดรั่ว  ควรทดลองดังนี้   เพื่อให้เกิดความแน่ใจว่าใช่ หัวฉีดรั่ว
ให้ทดลองดับเครื่องยนต์หลังจากที่ติดเครื่องวอร์มสักสามสี่นาที  หรือขับรถสักสองสามกิโล แล้วจอดรถดับเครื่อง  ช่วงนี้อย่าเพิ่งสตาร์ทเครื่องยนต์ทันที่  เพราะถ้าสตาร์ททันที่  จะไม่พบอาการสตาร์ทติดยาก  มันจะติดทันที่เหมือนปกติ  ต้องรอสักห้านาทีขึ้นไปจนถึงสิบนาที หากหัวฉีดรั่วจะสตาร์ทไม่ติด เพราะช่วงเวลาดังกล่าว  น้ำมันกำลังรั่วจากหัวฉีด และมันจะหยุดรั่วเมื่อแรงดันในระบบท่อรางหัวฉีดไม่มีความดัน หรือแรงดันต่ำ ไม่สามารถดันน้ำมันให้ผ่านหัวฉีดได้  ในช่วงเวลาต่อจากนี้ไปเกินกว่าครึ่งชั่วหรือหนึ่งชั่วขึ้นไปโมงโดยประมาณ
หากเรากลับมาสตาร์ทเครื่องยนต์  ก็จะสามารถติดได้  เนื่องจากน้ำมันที่รั่วจากหัวฉีดที่มาตกค้างในท่อไอดี
มัยระเหยออกไปหมด งั้นในการสตาร์ทจึงสตาร์ทติดง่ายตามปกติ
อยากให้ท่านเจ้าของกระทู้ลองตรวจเช็คตามที่ผมแนะนำนี้ก่อน เพราะสาเหตุที่เกิดขึ้นไม่ใช่สูตรสำเร็จที่จะมาจากสาเหตุที่ผมกล่าว  ยังมีส่วนอื่นๆที่เกี่ยวข้อง ต้องเช็คไปทีละสเต็ปก่อนครับ  ลองดูได้ผลประการใดมาเล่าสู่กันฟัง หากไม่ตรงประเด็นจะได้แนะนำว่าควรจะตรวจเช็คต่อที่ส่วนใดอีก…..srithanon


ได้ข้อมูลดีๆ มากเลยครับ ขอบคุณมากเลยครับท่าน :)