:::CIVIC CLUB THAILAND:::

พอดีมีท่านสมาชิก PM มาถามเรื่องเติมลมยาง ไนโตรเจน เห็นว่าน่าสนใจดีเลยเอามาให้อ่านกันครับ(ขออนุญาติทางคนถามมาแล้วครับ)

เพื่อนสมาชิกถามมา

ขออนุญาติรบกวนถามข้อสงสัยหน่อยครับ คือเมื่อไม่นานมานี้ผมนำรถไปสับยางมาครับช่างจัดการถอดล้อหน้ามาใส่เป็นหลังแล้วเอายางอีก 2 เส้นไปเปลี่ยนยางสับเป็นล้อหน้า เผอิญว่าก่อนจะไปรถผมเติมลมตามปั๊มทั่วไป แต่พอช่างสับยางเสร็จแล้วอัดไนโตรเจนเข้าไปแทนล้อหน้ามันไนโตรเจนเพียวๆ ส่วนล้อหลัง 2 ข้างนี่ซิเป็นลมผสมกับไนโตรเจนผมเลยอยากถามว่ามันมีผลอะไรป่าวครับ แบ บนี้ ดพราะผมถามช่างแล้วก็ได้คำตอบว่าไม่มีผลอะไร

ผมตอบ

ครับผม หวัดดีครับ คุณ ....
เอาเรื่องลมยางไนโตรเจนก่อนนะครับ ที่ห่วงว่ามันผสมกันแล้วจะมีปัญหาผมตอบตรงๆว่าไม่ต้องกลัวครับไม่มีปัญหาอะไร
ลองคิดแบบนี้นะ เวลาเค้าเอายางใส่ล้อหรือปล่อยลมออกจนหมด นะสถานะตรงนั้นในยางก็มีลมนะครับ เพียงแต่ว่ามีความดันลมเท่าบรรยากาศ เพราะฉ่ะนั้น เวลาคุณเติมลมยางด้วยไนโตรเจนมันก็ผสมกันอยู่แล้ว จะมากน้อยก็ว่ากันไป เดี๋ยวมันก็ผสมกัน มันไม่มีทางจะทำให้มันไม่แต่ไนโตรเจนได้100เปอร์เซ็นหรอครับ นอกจากคุณจะต้องมีจุ๊บเติมลงสองอัน อันนึง อัดเข้าไป อันนึงดูดออกมาคงต้องใช้ไนโตรเจนมากหน่อย แบบนี้อาจจะได้ไนโตรเจนซัก เกือบจะ100เปอร์เซ็น
ผมจะบอกให้ว่าที่เราเติมไนโตเจนแล้วมันนิ่มหรือไม่ค่อยจะอ่อนลง เพราะว่าความชื้นต่างหาก ไนโตรเจนมีความชื้นน้อยกว่า  ความชื้นที่ไปอยู่ในยางจะเปลี่ยนสภาพเป็นของเหลวแล้วก็ขยายตัวตามความร้อน แรงดันลมยางก็มากขึ้น พอเย็นๆลมยางก็แรงดันลดลง  เพราะฉ่ะนั้นถ้าไม่ลำบากที่จะเติมก็ไนโตรเจนก็ตามความสะดวกครับ ตัวผมเองไม่เติม ไม่มีประโยชน์อะไร ผมเองเติมลมจาก ถังลมที่ใล่ความชื้นออกบ่อยๆ(ที่เติมประจำ อู่ประจำ ใล่น้ำเองกับมือ) ถ้าสองอาทิตย์ลมยางมันอ่อนลงก็เอาสูบที่เติมจักยานอ่ะ สูบๆเอา ความชื้นน้อยหน่อย  (ถังลมที่ยิ่งใหญ่ยิ่งความชื้นเยอะครับ)

ใครมีความเห็นเพิ่มเติม เชิญเลยนะครับ

    ส่วนตัวไม่เติมไนโตรเพราะ ล้อละ50 บาทกับสูบฟรีนี่ไม่ต้องเลือกให้เมื่อยตุ้ม
แล้วส่วนตัวเดินทางบ่อยจึง ขยับลมอ่อน-แข็งตามความพอใจเลยไม่สนใจจะเติมไนโตรที่เติมเฉพาะที่ มันไม่สะดวก
    แค่นั้นคือเหตุผล อิอิ.... :D :D

;D ;D ;D

 ลองทดสอบแบบ blind test กันดูนะครับ..  ;D

 เติมลมธรรมดาแล้วให้เพื่อนคุณขับโดยที่เพื่อนคุณไม่รู้ แต่คุณบอกเพื่อนว่า"เนี่ย..เติมลมไนโตรเจนมาล่ะอย่างแจ่ม"

 เพื่อนบอกว่า"เออ.. เจ๋งหว่ะ ไม่แข็งไปกำลังดีเดี๋ยวไปเติมลมไนโตรเจนมั้งดีกว่า"

 สรุปว่า คิดไปเอง ที่สะใจคือมีเพื่อนโง่กว่าเราแสดงว่าเราไม่ได้โง่ที่สุด...  >:(   ;)

ปั้มลมใน ปั้นน้ำมันบ้านเราก็ไม่รู้จักการใล่ลมในถังลมครับ นี่แหละปัญหาใหญ่

แหมเหตุผลดีเน๊อะ  :-[



จากที่เคยลองใช้ไนโตร(เปลี่ยนยางเขาเติมให้ฟรี) วิ่งทางไกลล้อ(ยาง) มันจะร้อนน้อยกว่าใช้ลมธรรมดา แต่ผมก็ใช้ครั้งนั้นครั่งเดียวละครับเติมล้อละ 50 บาทเติมลมฟรีดีกว่า (ถ้าใช้ไนโตรแล้วเติมลมธรรมดาเข้าไปมันก็จะกลายเป็นลมธรรมคาไปครับช่างเขาว่างั้น)

ตามหลักเคมี  ไนโตรเจนเป็นก๊าซเฉื่อย โครงสร้างโมเลกุลของมันมีความหนาแน่นคงที่มากกว่าอ๊อกซิเจนจึงรักษาสถานะได้ดีกว่า  เป็นโมเลกุลที่เคลื่อนที่ช้าทำให้ขณะเคลื่อนที่มีการเสียดสีกันน้อย ส่งผลให้เกิดความร้อนสะสมน้อยตาม :-X

แต่ผมไม่ได้ใช้หรอก สงสารปั๊มลมแบบเหยียบที่อุตส่าห์ซื้อมา ;D

 ในลมจากปั้มลมทั่วไป มีไนโตรเจนประมาณ 79-80% Oxygen ประมาณ 19-20% แก็สอย่างอื่น 1 และความชื้น(ไอน้ำ)อีกตามสภาพมากน้อยก็ว่าไป  เวลาเติมแล้วแรงดันลมมันสูงขึ้นก็เพราะ น้ำมันร้อนแล้วขยายตัว แล้วถ้าเติม ยังไงก็ไม่มีทางได้ ไนโตรเจน 100 % แน่นอน  ??? ???

ของผมเป็นสูบแบบ แท่งๆอ่ะ สายเริ่มขาดแล้ว เติมตั้งแต่ จักยาน มอไซค์ยันรถยนต์ เติมทีเหงื่อแตก ;D ;D

    สรุปแว่ เอ๊ยว่า ยังไม่เห็นมีผู้ใช้ไนโตรมาตอบเลยใช่ไหมนี่ มีแต่พวกบ้านๆใช้ลมปั๊มธรรมดาตรึมเลย :-[ :-[

               สวดยอดไปเลย ลู่ พี่  :P :P :P :P

ตามทฤษฎี เขาก็ว่า ลมไนโตรเจน เวลาวิ่งนานๆอุณภูมิในอากาศในล้อคงที่กว่า แรงดันในยางคงที่กว่า...ลมทั่วๆไป แต่...
ผมไม่เติมหรอก หาที่มันใช้สะดวกๆนี้แหละ เติมอ่อนๆ พอวิ่งสักพักล้อจะแข็งเอง...เพราะอากาศในยางขยายตัว ;D

มันคงที่เพราะมันแทบจะไม่มีไอน้ำ เวลาวิ่งมันร้อนมันก็ไม่ค่อยขยายตัวแรงดันก็ไม่เพิ่มเท่าไหร่   

 :-[ เติมลมดีกว่าแบบนี้

รถสองคัน จอดและขับพอๆ กัน
คันนึงเติมลมไนโตรเจน นานๆ เช็คลมที 32 ปอนด ไม่ค่อยขาด เต็มที่ก็ลดลงเหลือ 30
อีกคันเติมลมธรรมดา ไม่ได้วัดปอนด์ เพราะเติมตามปั๊ม เหมือนลมมันจะอ่อนบ่อยๆ หรือจะคิดไปเอง  :-[

มันประมาณเรื่อง ความชื้นในลมธรรมดานั่นแหละครับ ปั้มส่วนมากไม่ค่อยได้ใล่น้ำในถังลมหรอก เติมลมฟรีได้แถมน้ำตลอด พออากาศมันเย็น แรงดันก็ลดลงครับ
ของผมเติมลมด้วยตัวเอง มันก็ไม่ลดนะครับ อันนี้ผมลองมานานมากแล้วตอนแรกๆก็คิดว่า ไนโตรเจนมันพิเศษ สุดท้าย ผมศึกษากับอาจาร์ย แกก็ลองให้ดู ด้วยเครื่องมือวัดต่างๆ สรุป มันก็ไม่หนีกัน  ผมเอาตามสะดวกดีกว่า  แรงดันมันสูงขึ้นมามันไม่อันตรายเท่าแรงดันมันอ่อนครับ

เหตผลเดียวกัน เอา ล้อละ 50 นี่ไปลงหมูทะได้ซาบายยยย ;D ;D ;D

ไปเติมปั็มดิจิตอล ก้อยากได้เท่าไหร่ก้กดไปสิ จิ้มๆๆ นึกได้ก้เชคทีนึง ของผม ถ้าตกหลุมแล้วนิ่ม แสดงว่าลมอ่อน ไปเชคดูอ่อนจิงๆด้วย  ;D ;D ;D



ยิ่งอ่อนยิ่งอันตรายครับ มอไซอะเคยปล่อยจนยางอ่อน อ่อนทีไร กำลังจะไปเติมลม รั่วทุ๊ทที

ในรถยนต์ถ้ายางอ่อนเกินไปจะเกิดแรงเครียดที่ผิวยางมากเกินไปเป็นผลให้ยางระเบิดได้คับ :o :o :o

ตามพี่เงาะบอกเลยครับ ไนโตรเจนมันไม่ได้วิเศษตรงไหน
จะเอาฮีเลียม อาร์กอน มาเติมก็ค่าเท่ากัน แค่ไนโตรเจนมันถูกสุด

จุดประสงค์ก็แค่ลดความชื้นที่เติมเข้าไป เพราะธรรมชาติของน้ำ ขยายตัวได้ถึง 1600 เท่าโดยประมาณ เมื่อกลายเป็นไอ
แต่ความชื้นมันไม่ได้มากมายขนาดที่ทำให้แรงดันเพิ่มเป็น 60-70 psi เพิ่มแค่ไม่กี่ psi ไม่น่าตกใจอะไำร แข็งดีกว่าอ่อน

ลมยางอ่อนสิ อันตรายมากกว่าอีก แก้มยางจะป่องออกข้างเมื่อหมุนลงมาด้านล่าง (นึกภาพเวลายางแบน)
แล้วเวลาที่มันหมุนขึ้นไปมันก็กลับคืนรูปเดิม เวลาวิ่งเร็วๆ เท่ากับว่าเราจับมันงอไป งอมา ตลอดเวลา
มันจะเกิดความร้อนขึ้นในตัวมันเอง ทำให้โครงสร้างยางอ่อนแอลง เป็นเหตุให้ยางระเบิดได้ ทั้งที่แรงดันไม่ได้สูงมาก

รถที่ควรจะใช้ไนโตรเจนเติมลมยางในความคิดผม (ผมใช้คำว่า"ควรจะ" ไม่ใช่ "จำเป็น")
1. รถที่ใช้ความเร็วสูงๆ ทำให้ยางเกิดความร้อนจนน้ำขยายตัว เช่น รถแข่ง รถดริฟท์
2. รถที่ยางรับภาระสูง เช่น รถบรรทุก รถบัส รถเมล์ รวมถึงสี่ล้อบรรทุกผัก พวกนี้น่าจะใช้

นอกนั้นผมว่ายังไม่จำเป็น ใครอยากเติมก็แล้วแต่ศรัทธา เงินใครเงินมัน
ผมเติมเอาตามปั๊มเนี่ยล่ะ สะดวกดี อย่างมากก็มีเกจ์วัดลมติดรถไว้อันนึง พอแล้ว

รถผมไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องลมยางเท่าไหร่ ลมที่เติมผมก็ค่อนข้างมั่นใจเรื่องความชื้น ลมยางผมเพิ่ม หลังจากวิ่ทางไกลก็ไม่เกิน 2-3  psi ตลอด ไม่ค่อยลดด้วย เช็คที่ไรก็เท่าเดิม  อาทิตยนึงใช้ที ร้อย-สองร้อยโล ยังสบายๆ   ไม่ต้องได้เติมบ่อยๆ  เดือนนึงเติมซักครั้ง
ส่วนรถแข่ง สมัยนี้เค้าเติมลมด้วยอะไรก็ไม่รู้  :-\ :-\ :-\ :-\ :-\

:P :P :P

 ;D ;D ;D

 :-[ :-[ :-[

ผมว่าไม่น่าจะมีอะไรถูกกว่า N2 แล้วนะพี่เงาะ

เคยไปถามมาเหมือนกันแต่เค้าไม่บอก เห็นแต่เป็นถังอ้วนๆ ติดล้อ เหมือนถังอัดลมทั่วไป  :-\ :-\ :-\ :-\ :-\

ผมว่าอันนั้นมันก็ถังลมทั่วไปเนี่ยล่ะครับ เอาไว้ถ่าย N2 จากถังใหญ่มา เพื่อความสะดวกในการทำงาน เพราะถังใหญ่มัน 7 ลบ.ม.
ปกติที่ทำงานผมซื้อ N2 เป็น UHP - Ultra High Purity 99.999% นี่ก็อยู่ประมาณถังละ 800 บาท ใช้กับเครื่องวิเคราะห์เลยต้องเกรดดีหน่อย
เคยซื้อ N2 ที่เป็น Industrial grade 99% มันแค่ถังละ 200-300 เอง เพียงพอแล้วกับเติมลมล้อ แต่ไม่ได้ซื้อนานแล้ว ไม่ค่อยได้ใช้


อุ้ย.. รู้ต้นทุนกันหมดเลย ฮ่าๆ ถังนึงก็น่าจะเติมได้ไม่ต่ำกว่า 10-15 คันแน่ๆ เพราะถังสั่งมาเต็มๆมันบรรจุ 2000 psi ++
ที่บอก 10-15 คันนี่ผมเผื่อไล่ลมเก่าออกแล้วด้วยนะ ให้ purge ทิ้งๆขว้างๆเลยด้วย ยังไงก็ได้เกิน
ล้อละ 50 บาท คันนึงก็ 2ร้อยแล้ว  10 คันก็ 2 พัน  ไปเปิดเติมลมไนโตรแถวบ้านดีกว่า  ;D ;D

อ้อครับ  ราคาต่างกันพอได้เลย

อ้อ(2) ผมเคยเห็นเครื่องทำลมไนโตรเจนในร้านยาง มันก็เครื่องไม่เล็กไม่ใหญ ขนาดเล็กกว่าปั้มลมแบบสกรู  50 แรงม้า ที่เคยดูแลอีกอ่ะ    เครื่องแบบนั้นซื้อมาไม่นานก็คงคืนทุน  :-\ :-\

มันไม่น่าจะใช่ไนโตรเจนนะครับ เป็นแค่ Air Purifier มากกว่า ที่ทำงานผมก็มีครับ อัดอากาศเข้ามา
แล้วก็กรองเอาสิ่งที่ไม่ต้องการออกไป ตรงนี้แล้วแต่จะเลือกใส่ครับ เพราะ Scrubber ที่จะัดักก๊าซแต่ละชนิดออกค่อนข้างแพง
ในขั้นตอนที่ดึงความชื้นออก จะมีการทำความเย็นให้น้ำกลั่นตัว มันก็ตู้เย็นเราดีๆเนี่ยล่ะ มีคอมเพรสเซอร์ปั่นน้ำยาแอร์
พอไอน้ำเจอความเย็น ก็กลั่นตัวหยดเป็นน้ำ สุดท้ายสิ่งที่ได้ออกมาก็คือ Zero Air

ส่วนถ้าจะให้ได้ N2 จริงๆ ในระบบของโรงแยกก๊าซเค้าดึงอากาศที่ความสูง 150-200 เมตรมา ผ่านกรองคล้ายๆกันเนี่ยล่ะ แต่ใหญ่กว่าเยอะ
แล้วมาอัดด้วยแรงดันสูงมากๆ จนก๊าซควบแน่นกลายเป็นของเหลว จะได้ก๊าซเหลวที่บริสุทธิ์ แล้วแยกก๊าซเหลวแต่ละชนิดไปทำเป็นไอก๊าซอีกที
ถ้าโรงงานไหนใช้ N2 เยอะๆ เค้าจะซื้อเป็นไนโตรเจนเหลวมาโรงแยกก๊าซ ใส่รถเทรลเลอร์มาเติมถังที่โรงงาน แล้วผ่านรังผึ้งใหญ่ๆเพื่อให้กลับไปเป็นไออีกที

    อ้าวยังงี้ลมไนโตรที่เติมในล้อรถล่ะ ไม่เคยเห็นถังไนโตรเหลวเลย
มันมาเป็นก๊าซเลยเหรอ ในร้านยางอ่ะ ::) ::)

มาเป็นถังครับ ถูกสุดแล้ว ลงทุนน้อยสุด ถังไม่ต้องซื้อ ร้านเค้ามีให้เช่า
ส่วน regulator ลดแรงดันนี่ซื้อเอง ใช้แบบถูกๆก็ได้ เพราะไม่ได้ควบคุมแม่นยำมาก
เติมไปเกินก็ปล่อยออก ไม่ได้ซีเรียสอะไร

ลักษณะถังแบบนี้เลย
(http://product-image.tradeindia.com/00227921/b/0/Nitrogen-Cylinders.jpg)

ระบบที่ใช้ไนโตรเจนเหลวนั้นลงทุนหลายล้านอยู่ครับ มีแต่โรงงานใช้ ร้านยางไม่ลงทุนแน่

เท่าที่จำได้มัน เขียนบอกเลยว่า nitrogen Gas generator  อ่ะ ::) ::) ::)
อ่านจากท่านบอกมันทำงานคล้ายๆ Air Dryer เลย อี Air Dryer เนี่ย ต่อท่อออกจากมันมา ยาวซัก 30เมตรอากาศร้อนๆ  ได้น้ำกลับมาเหมือนเดิม ;D ;D ;D ;D ;D
ผมว่าที่ร้านยางใช้คงไม่ใช่ N2 จริงๆแหละ  :-[ :-[

หน้าตาประมาณนี้

http://toppumpcn.en.made-in-china.com/product/LquJCiOvrsWt/China-Nitrogen-Gas-Generator-TPN19001-.html

ถ้าเป็นท่อลมทั่วไปก็ใช่ครับ ความชื้นกลับมาแน่ ของผมใช้ท่อทองแดง แต่ถ้าเดินให้ลูกค้าใช้สเตนเลส สวยหน่อย
ไปลองหาดู N2 generator มาครับ เครื่องเล็กๆก็มี แต่เป็น Membrane Type
เป็นคุณสมบัติของวัสดุที่ใช้ทำ Membrane ที่ยอมให้ก๊าซเฉพาะชนิดนั้นๆซึมผ่านไปได้
แต่ว่าไม่สามารถผลิตได้ในปริมาณมากๆ แล้วค่าบำรุงรักษาสูง เปลี่ยน Membrane Column ทีนึงถึงกับจุก
ไม่รู้เหมือนกันว่าเอาใช้ในงานอะไร เพราะคิดแล้วซื้อเป็นถังคุ้มกว่า ความบริสุทธิ์ก็สูงกว่า แต่ต้องคอยเปลี่ยนถัง

อ๋อแบบนี้นี่เองเข้าใจล่ะ  ขนาดก็ตามปริมาณที่ทำได้กับความบริสุทร์ เนาะ  :D :D :D

 :-* :-* :-* :-*

    ไม่เข้าใจ เอาใหม่อีกทีซิ  :'( :'(

:P :P :P :P :P  เจอกันก็ถามล่ะกันนะ :-[ :-[

ถ้าเป็นแบบ membrane ใช่ครับ   ขนาด vs ปริมาณ

แต่ความบริสุทธิ์ขึ้นกับวิธีการ
ถ้าใช้ evaporate จาก liquid จะได้ความบริสุทธิ์สูงมาก (ลงทุนสูงมากเช่นกัน มันไม่มีแบบเล็กๆ)


เจ๊ส้ม สงสัยตรงไหน ถามได้เดี๋ยวอธิบายแบบเคลียร์ๆให้

อ้อ งั้นตามที่ผมเข้าใจ คือ เครื่องเล็กๆที่ผมเห็นตามร้านยาง คือเครื่องแบบที่ใช้กับงานที่ไม่ต้องการความบริสุทร์มาก(ใช้แค่เติมลมรถ) และใช้ไม่เยอะ แบบโรงงาน ขนาดเลยเล็กและราคาไม่แพงมาก
ผมเข้าใจถูกเนาะ :-[ :-[

ก็น่าจะประมาณนั้นครับ ไม่เห็นข้างในเครื่องเลยไม่กล้าฟันธง

แต่ถ้าเป็นผมเลือกใช้แบบถังดีกว่า ไม่ต้องเสียค่าไฟ ค่าบำรุงรักษา
ถังก็เช่าเอา ลงทุนแค่ regulator ท่อลม แล้วก็ fitting ทั้งหมดนี่ยังไม่ถึงหมื่นเลย
N2 สั่งเช้าบ่ายก็มาส่งแล้ว ถ้าด่วนก็วิ่งไปเอาเองที่ร้าน เหมือนเปลี่ยนถังแก๊สในครัวเลย

อ้อครับ    เหมือนเวลาผมไปวิ่งซื้อถังลม มาเชื่อมแก๊ส  เสียดายผมไม่เคยเข้าร้านยางพวก บีควิก อะไรพวกนี้เลยไม่รู้เค้าใช้แบบไหน :-\ :-\ :-\ 

    เมื่อเช้าเข้าไป ตั้งศูนย์สลับยางถ่วงล้อ ครบหมื่นโล
เห็นตู้เติมลมไนโตร ก็สงสัยเรื่องถังเหมือนกัน ตอนแรกคิดว่าเป็นเหมือนถังอ๊อกซิเจนอยู่ในตู้
    ที่ไหนได้ สาขานี้ ตู้ตั้งข้างหน้า แล้วลากท่อไปต่อถังใหญ่ข้างหลังร้าน
แต่มันไม่ให้เข้าไปดูถัง ไม่งั้นจะถ่ายรูปมาให้ดู ถามช่างก็บอกแค่ว่า ต่อกับถังใหญ่ แค่นั้น  :-[ :-[

อ้อ สงสัยมีรถคอยมาส่ง ;) ;)

ตู้แบบในปั๊ม ปตท. jiffy ป่าวครับ ที่เป็นดิจิดอล กดเลือกแรงดันเอาได้เลย
ส่วนถังใหญ่ที่ว่า มันไม่ได้ใหญ่จริงหรอกครับ ถังแบบเดียวกับที่ผมให้ดูข้างบนนั่นล่ะ
แรงดันขนาด 2000 psi มันไม่สามารถทำถังใหญ่ได้ครับ ความแข็งแรงมันไม่ได้
แต่เค้าจะใช้ถังแบบนั้นแพครวมกันหลายๆถัง เปลี่ยนทีก็ยกแพคเลย แบบนี้

(http://pdiimages.praxair.com/PDIB2CImages/CL_16PACK.JPG)

ป๊าด 2000 PSI  ร้อยกว่า บาร์   สิบบาร์นี่ ยกตัวผมขึ้นสบายๆ  :o :o :o

    อ้อ ถ้าถังแบบนี้เคยเห็นละ ถังแบบถังอ๊อกซิเจนในโรงบาล
แต่แพครวมแบบนี้เลยเหรอ ต้นทุนก็ยิ่งถูกอ่ะดิ  ::) ::)
     

อันนี้ยังไม่เท่าไหร่
พี่เงาะลองไปดู pressure gauge ที่เติมรถในปั๊ม NGV ซะก่อน
แล้วพี่จะไม่อยากเข้าใกล้มัน เป็นอีกเหตุผลนึงที่ผมไม่อยากใช้ CNG

เออว่ะเนาะ :-[ :-[  อันนั้นถ้าจำไม่ผิด ร้อยกว่าบาร์ใช่ไม๊  สมัยผมอยู่โรงงานแถวชล แถวระยอง ขับรถใช้ NGV ค่อนข้างบ่อย ลืมไปเลย  ;D ;D ;D ;D

    กระทู้ลม แต่ดันมีคนอ่าน 1000+
ทั้งสองกระทู้ ฮอตอย่างเบสว่าจริงๆ
    แต่ก็ดี ได้รู้ในสิ่งที่ไม่เคยสนใจจะรู้อีกเยอะ  ;) ;)

ประมาณ 3000 psi อ่ะครับ

โห ลองกดเครื่องคิดเลขดู ล่อไป 200 บาร์++   :o :o :o :o :o    :'( :'( :'( :'(

    ได้ละรูปเครื่อง ก็หน้าตายังกะที่เติมลมธรรมดาอ่ะ
แต่เค้าเติมให้ก็เอา ( ทั้งๆที่ตอนซื้อยาง ไม่เอาลมไนโตร ลดไป พันนึง )
    แต่พอมาสลับยางเค้าก็เติมให้อยู่ดี  ;D ;D

เติมๆๆๆๆ เข้าไปร้านไหนไม่มี ร้านนั้นเชยแหลก   ;D ;D ;D ;D ;D   

    ตอนซื้อยางเราบอกไม่เอาไนโตร มันลดค่ายางไปพันนึงเลยนะ
พอเอาไปสลับยางตั้งศูนย์ถ่วงล้อ เติมให้ซะงั้น เอาๆ ชอบของฟรี  ;D ;D

เสียล้อละ50 ครั้งเดียวเติมฟรี 6 เดือนไม่จำกัดครั้งที่บีควิก ไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียอะไรกับบีควิกเพราะผมเข้าไปแค่เติมลมอย่างเดียว ผมเติมเดือนละ 3 ครั้ง 8) 8)

นานาจิตตังค์ ครับ จากที่ผมอ่านดูยังไงมันก็ดีกว่าเติมลมธรรมดาเเน่นอน  เเต่อาจไม่ถึงขั้น 100%
เเต่เหตุผลส่วนใหญ่คือ
1. ต้องเสียเงินเติม ถ้าเติมปั๊มฟรี เเต่เดี๋ยวนี่ B-QUICK นี่ 100บ. /4ล้อ  ก็ตกล้อละ 25บ.
2.ถ้าเพื่อนๆอยู่ต่างจังหวัด มันจะหาที่เติมยากหน่อย เลยไม่ซีเรียสว่าจะต้องเติมไนโตร
น่าจะประมาณนั้นครับ :-[

มันต้องรถสองคัน สภาพเดียวกัน ยางเท่ากัน คันนึงเติมลมปกติ คันนึงเติมไนโตร...แบบปกติ  แล้วเอาไปวิ่งทางเดียวกันระยะเท่ากัน  แล้ววัดแรงดันที่เพิ่มขึ้นทั้งสองคัน แล้วทำให้ยางเย็นลงเท่าคุณภูมิปกติแล้วลองสลับคนขับ แล้ววัดดู  ถึงจะได้ผลจริงๆว่ามันดี ไม่ดี อย่างไร
แต่จะมีใครทำ ;D ;D ;D ;D

    ทำมาละ ไม่ต่างกัน
แต่คันนึงเป็นอัลติส ยางมิชลินไพรมาซี่ 195/60 R15
    คันนึงซีวิค ยางแฮนคุ๊ก 195/60 R15
วิ่งยาวรวดเดียวถึงแม่สาย หน้า 34 หลัง 36
    ไปวัดที่แม่สายก็แรงดันได้ 34-35 36-37 พอๆกันแบบนี้ได้ไหม  :-[ :-[

ถ้างั้นต้องวัดน้ำหนักแต่ล่ะล้อ ของทั้งสองคันว่าแตกต่างกันไม๊   เอ๊าไปยืนเครื่องชั่งข้าวสารมา แปดอันนะ  ;D ;D ;D

;D ;D

     งั้นก็ช่างมันเหอะ เพราะบ้านไม่มีที่ชั่งข้าวสาร  ;D ;D

ใช้ยางสองชุดแล้วจับขึ้น dyno ง่ายกว่าไหมพี่

มันไม่ได้อารม พื้นถนนตากแดด แล้วก็ แรงกระทำหลายๆทิศทาง   ;) ;) ;)

ถ้างั้นผมถอดล้อ มาอย่างละอัน ขึ้น Pre-heat rack ดีกว่า
ร้อนเหมือนกัน ร้อนทั่วทุกด้านด้วย

กว่าจะขับให้ยางร้อนได้ ผมกลัวจะหมดอารมณ์ซะก่อน ;D ;D ;D

เรื่องอารมนี่สำคัญนะ  ;D ;D ;D ;D ;D ;D