:::CIVIC CLUB THAILAND:::

คุยคุ้ย Civic => Civic Club Discuss => ห้องคนขับ => ข้อความที่เริ่มโดย: ham_ter ที่ 18 สิงหาคม 2011, 21:04:09



หัวข้อ: หัวเทียนที่ 80000+ กับ วาวล์น้ำที่ 192303 ลองมาดูหน่อยจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: ham_ter ที่ 18 สิงหาคม 2011, 21:04:09
    หลังจากไม่ได้แกะหัวเทียนมานาน 80000+โลละ เลยเอามาเปลี่ยนซะหน่อย
ปรากฎว่า ไหม้ทั้ง 4 หัวเลย เอารูปมาให้ดูกันแล้วอย่าทำตามเน้อ
    ส่วนข้างล่างที่เวลาอัดแล้วความร้อนขึ้น ก็คิดว่าจะถอดวาวล์น้ำมาลองต้มดู
แต่ถอดออกมาแล้วสภาพไม่น่าทดลองเลย โยนอย่างเดียว :-[ :-[
    ปล.หลังจากทำเสร็จมีโอกาสได้ลองขึ้นดอยสุเทพพอดี ความร้อนตอนนี้ ปกติดีเลย ท่าจะวาวล์น้ำจริงๆด้วย :D :D


หัวข้อ: Re: หัวเทียนที่ 80000+ กับ วาวล์น้ำที่ 192303 ลองมาดูหน่อยจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: EK Sir ที่ 18 สิงหาคม 2011, 21:17:47
วาล์วน้ำโหดมาก,, แล้วตอนนี้ ไม่ใช่วาล์วน้ำ หรือ เปลี่ยนใหม่ครับ


หัวข้อ: Re: หัวเทียนที่ 80000+ กับ วาวล์น้ำที่ 192303 ลองมาดูหน่อยจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: su_wit ที่ 18 สิงหาคม 2011, 21:24:14
วาล์วน้ำหรือนั้น นึกว่าหอยโข่งโดนเผา ;D


หัวข้อ: Re: หัวเทียนที่ 80000+ กับ วาวล์น้ำที่ 192303 ลองมาดูหน่อยจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: desperado ที่ 18 สิงหาคม 2011, 21:26:43
สุดยอดมาก.... ;D
เล่นจนเกลียวหลุด.... ::)


หัวข้อ: Re: หัวเทียนที่ 80000+ กับ วาวล์น้ำที่ 192303 ลองมาดูหน่อยจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: ham_ter ที่ 18 สิงหาคม 2011, 21:38:39
วาล์วน้ำโหดมาก,, แล้วตอนนี้ ไม่ใช่วาล์วน้ำ หรือ เปลี่ยนใหม่ครับ
    ตอนนี้ยังไม่ใช้จ้า กำลังคิดว่า มะรืนนี้ จะไปสั่งตอนนี้ ถอดทิ้งไปก่อน เห็นสภาพแล้ว อึ๋ย.... :-[ :-[
วาล์วน้ำหรือนั้น นึกว่าหอยโข่งโดนเผา ;D
    ถ้าเจ้าของเดิมไม่เคยเปลี่ยน ก็ตามไมล์เลยอ่ะ192303 มันก็น่าจะสภาพนี้แหละ :P :P
สุดยอดมาก.... ;D
เล่นจนเกลียวหลุด.... ::)
    พอดีมันละลายติดเลยอ่ะท่าจะร้อนเกิน ขันหักดังเป๊าะ เอาไปโรงกลึงเจาะออกแล้วทำเกลียวใหม่ โดนไป 450
ปล.แล้วเล่น จนโบ กระจายนี่ไม่โหดกว่าเหรอ คุณพี่ ;D ;D


หัวข้อ: Re: หัวเทียนที่ 80000+ กับ วาวล์น้ำที่ 192303 ลองมาดูหน่อยจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: desperado ที่ 18 สิงหาคม 2011, 21:43:52
    ตอนนี้ยังไม่ใช้จ้า กำลังคิดว่า มะรืนนี้ จะไปสั่งตอนนี้ ถอดทิ้งไปก่อน เห็นสภาพแล้ว อึ๋ย.... :-[ :-[    ถ้าเจ้าของเดิมไม่เคยเปลี่ยน ก็ตามไมล์เลยอ่ะ192303 มันก็น่าจะสภาพนี้แหละ :P :P    พอดีมันละลายติดเลยอ่ะท่าจะร้อนเกิน ขันหักดังเป๊าะ เอาไปโรงกลึงเจาะออกแล้วทำเกลียวใหม่ โดนไป 450
ปล.แล้วเล่น จนโบ กระจายนี่ไม่โหดกว่าเหรอ คุณพี่ ;D ;D
อันนั้นมันความมันในอารมณ์.... ;D
แต่เศร้าตอนกระเป๋า แฟบ.... :(


หัวข้อ: Re: หัวเทียนที่ 80000+ กับ วาวล์น้ำที่ 192303 ลองมาดูหน่อยจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: tikky ที่ 18 สิงหาคม 2011, 21:51:21
วาล์ว น้ำ ถอดยังไงครับ  ของผม ความรอนก็  เดะมา  นานๆๆมาที   ถ้าถอดเองใส่เอง   ได้  จะได้ทำมั่งครับ   


หัวข้อ: Re: หัวเทียนที่ 80000+ กับ วาวล์น้ำที่ 192303 ลองมาดูหน่อยจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: ham_ter ที่ 18 สิงหาคม 2011, 22:02:02
วาล์ว น้ำ ถอดยังไงครับ  ของผม ความรอนก็  เดะมา  นานๆๆมาที   ถ้าถอดเองใส่เอง   ได้  จะได้ทำมั่งครับ   
    ไล่จากสายท่อน้ำที่ต่อจากหม้อน้ำเส้นล่างปลายอีกข้างที่มันเสียบกับเครื่อง
จะเห็นมีเซนเซอร์กับเปลือกมันอยู่ ตรงเปลือกจะมีน๊อตเบอร์10 อยู่ ก็ถอดดึงยัดเลย ;D ;D


หัวข้อ: Re: หัวเทียนที่ 80000+ กับ วาวล์น้ำที่ 192303 ลองมาดูหน่อยจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: BlaZter ที่ 18 สิงหาคม 2011, 22:15:02

 สภาพน่ากลัวสุดยอดเลยครับ ให้เดาว่าคงติดแก๊สและเท้าหนักด้วยหรือเปล่าครับวาล์วน้ำนิสยองเลย..  :(


หัวข้อ: Re: หัวเทียนที่ 80000+ กับ วาวล์น้ำที่ 192303 ลองมาดูหน่อยจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: 97civic ที่ 18 สิงหาคม 2011, 23:03:14
น่ากัวอ่ะ อิอิอิอิ


หัวข้อ: Re: หัวเทียนที่ 80000+ กับ วาวล์น้ำที่ 192303 ลองมาดูหน่อยจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: thanawat6 ที่ 18 สิงหาคม 2011, 23:16:05
วาว์ลน้ำสุขน่ากินพอดีเลยครับ ไม่ต้องต้มแล้ว   ;D ;D ;D


หัวข้อ: Re: หัวเทียนที่ 80000+ กับ วาวล์น้ำที่ 192303 ลองมาดูหน่อยจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: Nong-EK ที่ 18 สิงหาคม 2011, 23:18:53
ว้าว!! โหดได้ใจ เล่นเอาโอลิงยางละลายเลยหรอแบบนี้น้ำไม่รั่วหรอครับ :(
วันนี้ผมก็เบิกอะไหล่มาที่ YSC ลาดพร้าว มีวาล์วน้ำด้วย ราคา 741 ก่อนภาษี ลด10% จร้า แล้วก็เลยเช็คราคาตัวอื่นๆไปด้วยเลย ;D


หัวข้อ: Re: หัวเทียนที่ 80000+ กับ วาวล์น้ำที่ 192303 ลองมาดูหน่อยจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: tikky ที่ 19 สิงหาคม 2011, 00:23:23
    ไล่จากสายท่อน้ำที่ต่อจากหม้อน้ำเส้นล่างปลายอีกข้างที่มันเสียบกับเครื่อง
จะเห็นมีเซนเซอร์กับเปลือกมันอยู่ ตรงเปลือกจะมีน๊อตเบอร์10 อยู่ ก็ถอดดึงยัดเลย ;D ;D

  ขอบคุณครับ


หัวข้อ: Re: หัวเทียนที่ 80000+ กับ วาวล์น้ำที่ 192303 ลองมาดูหน่อยจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: EK Sir ที่ 19 สิงหาคม 2011, 01:42:52
แล้วถ้าไม่ใส่วาล์วน้ำเรยล่ะ พังมั้ย,,,


หัวข้อ: Re: หัวเทียนที่ 80000+ กับ วาวล์น้ำที่ 192303 ลองมาดูหน่อยจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: tea_auto1981 ที่ 19 สิงหาคม 2011, 02:20:48
เปลี่ยนง่ายครับลองดูผมก็เปลี่ยนเอง


หัวข้อ: Re: หัวเทียนที่ 80000+ กับ วาวล์น้ำที่ 192303 ลองมาดูหน่อยจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: Nong-EK ที่ 19 สิงหาคม 2011, 04:42:05
แล้วถ้าไม่ใส่วาล์วน้ำเรยล่ะ พังมั้ย,,,
ก็ไม่พังนะครับ รถผมก็ไม่มีวาล์วน้ำมาเกือบ2เดือนและ สาเหตุคือถอดมาดูเพราะว่าน้ำหายพอมาเจอวาล์วน้ำ เลยลองถอดมาต้มดูก็ปกติครับ แต่ดันเป็นของเทียมติดรถมา เลยถอดออก นี่ก็เพิ่งไปเบิกของแท้มาเมื่อวานนี้
กรณีไม่มีวาล์วน้ำที่ผมเจอคือ ความร้อนขึ้นช้ากว่าปกติ


หัวข้อ: Re: หัวเทียนที่ 80000+ กับ วาวล์น้ำที่ 192303 ลองมาดูหน่อยจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: su_wit ที่ 19 สิงหาคม 2011, 08:02:51
ว้าว!! โหดได้ใจ เล่นเอาโอลิงยางละลายเลยหรอแบบนี้น้ำไม่รั่วหรอครับ :(
วันนี้ผมก็เบิกอะไหล่มาที่ YSC ลาดพร้าว มีวาล์วน้ำด้วย ราคา 741 ก่อนภาษี ลด10% จร้า แล้วก็เลยเช็คราคาตัวอื่นๆไปด้วยเลย ;D
แพงจัง :-[ :-[ :-[


หัวข้อ: Re: หัวเทียนที่ 80000+ กับ วาวล์น้ำที่ 192303 ลองมาดูหน่อยจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: mecivic ที่ 19 สิงหาคม 2011, 08:41:59
ดำ เปื่อย เชียว  สงสัย จะผ่าน การใช้งานหนัก ;D ;D


หัวข้อ: Re: หัวเทียนที่ 80000+ กับ วาวล์น้ำที่ 192303 ลองมาดูหน่อยจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: MANUTS ที่ 19 สิงหาคม 2011, 10:13:24
นี่มันของรถแข่งหรือรถบ้านครับ  ;)


หัวข้อ: Re: หัวเทียนที่ 80000+ กับ วาวล์น้ำที่ 192303 ลองมาดูหน่อยจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: Regis100 ที่ 19 สิงหาคม 2011, 10:32:20
หลังจากที่โทรมาถาม ไม่นึกว่าจะขนาดนี้  :o :o
ตอนนี้ใส่วาว์ลน้ำใหม่ไปล่ะยัง ถ้ายัง แนะนำให้ วันจันทร์มาหาผมที่อู่ เช้าๆ คงต้อง ล้างหม้อน้ำและทางเดินน้ำใหม่ วาว์ลน้ำเดี๋ยวพาไปซื้อ ไม่เกิน 5-600  ของแท้
ส่วนหัวเทียน จริงๆตอนไปซะเมิงก็ถอดออกมาดูก็ปกติดีนี่นา  ;D ;D ;D


หัวข้อ: Re: หัวเทียนที่ 80000+ กับ วาวล์น้ำที่ 192303 ลองมาดูหน่อยจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: ham_ter ที่ 19 สิงหาคม 2011, 11:29:25
หลังจากที่โทรมาถาม ไม่นึกว่าจะขนาดนี้  :o :o
ตอนนี้ใส่วาว์ลน้ำใหม่ไปล่ะยัง ถ้ายัง แนะนำให้ วันจันทร์มาหาผมที่อู่ เช้าๆ คงต้อง ล้างหม้อน้ำและทางเดินน้ำใหม่ วาว์ลน้ำเดี๋ยวพาไปซื้อ ไม่เกิน 5-600  ของแท้
ส่วนหัวเทียน จริงๆตอนไปซะเมิงก็ถอดออกมาดูก็ปกติดีนี่นา  ;D ;D ;D
    ตอนไปสะเมิง เพิ่ง 40000+ เองอ่ะ :'( :'(
เด๋ววันจันทร์ จะโทรหาเน้อ :D :D


หัวข้อ: Re: หัวเทียนที่ 80000+ กับ วาวล์น้ำที่ 192303 ลองมาดูหน่อยจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: cyu ที่ 19 สิงหาคม 2011, 11:37:59
ก็ไม่พังนะครับ รถผมก็ไม่มีวาล์วน้ำมาเกือบ2เดือนและ สาเหตุคือถอดมาดูเพราะว่าน้ำหายพอมาเจอวาล์วน้ำ เลยลองถอดมาต้มดูก็ปกติครับ แต่ดันเป็นของเทียมติดรถมา เลยถอดออก นี่ก็เพิ่งไปเบิกของแท้มาเมื่อวานนี้
กรณีไม่มีวาล์วน้ำที่ผมเจอคือ ความร้อนขึ้นช้ากว่าปกติ

เหมาะกับอากาศบ้านเราคับ ร้อนได้ไจ


หัวข้อ: Re: หัวเทียนที่ 80000+ กับ วาวล์น้ำที่ 192303 ลองมาดูหน่อยจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: Regis100 ที่ 19 สิงหาคม 2011, 11:41:41
    ตอนไปสะเมิง เพิ่ง 40000+ เองอ่ะ :'( :'(
เด๋ววันจันทร์ จะโทรหาเน้อ :D :D
โห :o :o

เรื่องวาว์ลน้ำใครอยากถอดๆก็ถอดไป รถใครรถมัน ผมขี้เกียจ อธิบายล่ะ ว่าทำไมต้องมี ถ้าถอดออกมาแล้วมันก็สตาทติด วิ่งได้ ความร้อนไม่ขึ้น คำว่าปกติของคนเราไม่เหมือนกัน
ของผมเคยไม่มีวาว์ลน้ำ พอมาใส่ ก็ไม่รู้สึกแตกต่างอะไร แต่ถ้าถอด บางอย่างออกมาดู อ้อเป็นอย่างนี้นี่เอง


หัวข้อ: Re: หัวเทียนที่ 80000+ กับ วาวล์น้ำที่ 192303 ลองมาดูหน่อยจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: pui BIG CAR ที่ 19 สิงหาคม 2011, 12:13:07
โห :o :o

เรื่องวาว์ลน้ำใครอยากถอดๆก็ถอดไป รถใครรถมัน ผมขี้เกียจ อธิบายล่ะ ว่าทำไมต้องมี ถ้าถอดออกมาแล้วมันก็สตาทติด วิ่งได้ ความร้อนไม่ขึ้น คำว่าปกติของคนเราไม่เหมือนกัน
ของผมเคยไม่มีวาว์ลน้ำ พอมาใส่ ก็ไม่รู้สึกแตกต่างอะไร แต่ถ้าถอด บางอย่างออกมาดู อ้อเป็นอย่างนี้นี่เอง

ใจเยนครับพี่ :( :( :(


หัวข้อ: Re: หัวเทียนที่ 80000+ กับ วาวล์น้ำที่ 192303 ลองมาดูหน่อยจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: Regis100 ที่ 19 สิงหาคม 2011, 12:27:17
ใจเยนครับพี่ :( :( :(
:P :P :P

รถไปทำเสต็บไหนล่ะ


หัวข้อ: Re: หัวเทียนที่ 80000+ กับ วาวล์น้ำที่ 192303 ลองมาดูหน่อยจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: lucifer_ek97 ที่ 19 สิงหาคม 2011, 14:31:11
วาล์วน้ำ  นึกว่า งมเจอในซาก ไททานิค   ;D ;D ;D

เออ  เจ้าส้ม ใช้หัวเทียน ยี่ห้อไร เบอร์ไรอ่ะ  กำลังจะเปลี่ยนสิ้นเดือน    8) 8) 8)
 


หัวข้อ: Re: หัวเทียนที่ 80000+ กับ วาวล์น้ำที่ 192303 ลองมาดูหน่อยจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: onizuka_tc ที่ 19 สิงหาคม 2011, 14:47:13
น้ำประปาเป็นสาเหตุ ให้วาวน้ำสนิมกินด้วยครับ

ต้องใช้น้ำสะอาด หรือ น้ำกัน ผสมคูลแลนท์   ถึงจะดีครับ

หรือเปิกศูนย์เลยครับ แกลลอนละ 270 บาท


หัวข้อ: Re: หัวเทียนที่ 80000+ กับ วาวล์น้ำที่ 192303 ลองมาดูหน่อยจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: Regis100 ที่ 19 สิงหาคม 2011, 16:11:54
           ผมว่าผมต้องห่างๆเวบนี้บ้างแล้ว  พออ่านเรื่องแอร์ก็ไปมุดดูแอร์รถตัวเอง อ่านเรื่องตั้งวาวล์ก็แจ้นไปเปิดฝาครอบวาวล์ตั้ง เมื่อกี้อ่านเรื่องวาวล์น้ำกับหัวเทียน นี่ก็รื้อวาวล์น้ำมาต้มดู เปลี่ยนโอริงวาวล์น้ำหมดไป 50 บาท เปลี่ยนหัวเทียนหมดไปอีก 520  ซื้อบล๊อกเบอร์ 16 ยาว มาขันหัวเทียนอีก 120  นี่ก็เพิ่งล้างมือเสร็จ
           ขอความกรุณาสมาชิกว่าช่วงนี้ อย่าถามเรื่องยกเครื่องนะครับ ไม่งั้นผมเอาด้วยอีก  :o

;D ;D ;D ;D  มีอีกเยอะ


หัวข้อ: Re: หัวเทียนที่ 80000+ กับ วาวล์น้ำที่ 192303 ลองมาดูหน่อยจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: MANUTS ที่ 19 สิงหาคม 2011, 16:45:54
+1 กว่าจะได้เป็นอาจารย์ปู่หนทางยังอีกไกล  ;)


หัวข้อ: Re: หัวเทียนที่ 80000+ กับ วาวล์น้ำที่ 192303 ลองมาดูหน่อยจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: Nong-EK ที่ 19 สิงหาคม 2011, 19:00:07
เหมาะกับอากาศบ้านเราคับ ร้อนได้ไจ
ส่วนตัวผมต้องการมีครบๆมากกว่าครับที่มันไม่ได้ใส่เพราะถอดมาเจอของเทียมแต่พอรู้ก็ไม่อยากใช้  :(
แล้วอีกอย่างนึงรถผมมันเป็นแก๊สหัวฉีดต้องรอ อุณหภูมิได้ถึงจะตัดเป็นแก๊ส (เล่นเอาเปลืองน้ำมันมากกว่าเดิมอีก) พรุ่งนี้วันหยุดจะรื้อใส่วาล์วน้ำและก็เอาหม้อน้ำไปส่งล้างระบบจะได้สะอาด ;D


หัวข้อ: Re: หัวเทียนที่ 80000+ กับ วาวล์น้ำที่ 192303 ลองมาดูหน่อยจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: p jung ที่ 19 สิงหาคม 2011, 19:15:23
ใช้coollant ซะด้วยนะ  :-*


หัวข้อ: Re: หัวเทียนที่ 80000+ กับ วาวล์น้ำที่ 192303 ลองมาดูหน่อยจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: ham_ter ที่ 19 สิงหาคม 2011, 20:07:43
วาล์วน้ำ  นึกว่า งมเจอในซาก ไททานิค   ;D ;D ;D

เออ  เจ้าส้ม ใช้หัวเทียน ยี่ห้อไร เบอร์ไรอ่ะ  กำลังจะเปลี่ยนสิ้นเดือน    8) 8) 8)
 

    ดูที่ตารางที่อู่ของ NGK ตัวท้ายมันจะลงด้วย 11 อ่ะ ถ้า IREDIUM รหัสจะลงท้ายด้วย ER-11 เงี้ย
ส่วนมันคืออะไร ก็ไม่รู้สิ เรื่องหัวเทียนไม่สันทัด พึ่งมีรถที่ใช้หัวเทียนกับเค้าคันแรก 5555+ ;D ;D
            ที่จริงจากรูปของเจ้าของกระทู้ วาวล์น้ำไม่น่าเสียแต่ที่ยับเยินนั้นมันเป็นโอริง งัดออกเปลี่ยน 50 บาท เท่าที่เจอมาวาวล์น้ำที่เสียเพราะ
          1.สปริงมันกร่อนเนื่องจากสนิมกิน
          2.สองแกนปิดเปิดมันคด
          3.มีตะกรันไปเกาะหรือขัดทำให้วาวล์เปิดหรือปิดไม่ได้ อันอาจจะเป็นตะกรันที่สะสมหรือตะกรันที่หลุดจากระบบ
          4.ยางซีลวาวล์เสื่อมหรือฉีกขาด ครับ
          5.แผ่นแพลท ปิ้นล๊อก หรือแผ่นเรือนเทอร์โมสตัท มันกร่อน



 

    แต่เห็นสภาพมันก็อยากโยนแล้วอ่ะ ลองไปต้มดู มันก็นิ่งสนิทเลยอ่ะคุณพี่ :-[ :-[
ใช้coollant ซะด้วยนะ  :-*
    ใช้อยู่ของ PERRY 50 บาท สีฟ้าสวยเชียว อิอิ :D :D


หัวข้อ: Re: หัวเทียนที่ 80000+ กับ วาวล์น้ำที่ 192303 ลองมาดูหน่อยจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: apinont007 ที่ 21 สิงหาคม 2011, 22:47:27
ถามนิดนึงครับ แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าวาวล์มันเสียหรือไม่เสีย ถ้าไม่แกะมาดูอ่ะครับ มันมีอาการบอกรึเปล่าครับ ::)


หัวข้อ: Re: หัวเทียนที่ 80000+ กับ วาวล์น้ำที่ 192303 ลองมาดูหน่อยจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: ham_ter ที่ 21 สิงหาคม 2011, 22:57:22
ถามนิดนึงครับ แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าวาวล์มันเสียหรือไม่เสีย ถ้าไม่แกะมาดูอ่ะครับ มันมีอาการบอกรึเปล่าครับ ::)
    อัดรอบ 4-5000+ ยาวๆ สัก 10-20 กิโลขึ้นไปแล้ว ความร้อนขึ้น แต่ถ้าลดลงมาขับธรรมดา ความร้อนก็ลงมาเท่าเดิม
แต่เมื่อจอดดูเครื่องเย็น น้ำไม่หาย ก็สงสัยวาวล์น้ำกับหม้อน้ำ 2 อย่างนี้เลย :D :D


หัวข้อ: Re: หัวเทียนที่ 80000+ กับ วาวล์น้ำที่ 192303 ลองมาดูหน่อยจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: apinont007 ที่ 22 สิงหาคม 2011, 00:07:23
    อัดรอบ 4-5000+ ยาวๆ สัก 10-20 กิโลขึ้นไปแล้ว ความร้อนขึ้น แต่ถ้าลดลงมาขับธรรมดา ความร้อนก็ลงมาเท่าเดิม
แต่เมื่อจอดดูเครื่องเย็น น้ำไม่หาย ก็สงสัยวาวล์น้ำกับหม้อน้ำ 2 อย่างนี้เลย :D :D
งั้นของผมยังไม่น่าล่าโลก ตอนไปเชียงใหม่ 140 ตลอดย่าน ความร้อนไม่ขึ้นเลยครับ  8)


หัวข้อ: Re: หัวเทียนที่ 80000+ กับ วาวล์น้ำที่ 192303 ลองมาดูหน่อยจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: p jung ที่ 22 สิงหาคม 2011, 10:32:39
          อาการวาวล์น้ำเสีย สำหรับช่างบ้านนอกอย่างผม ผมสังเกตุอย่างนี้ครับ ติดเครื่องอยู่กับที่จนความร้อนขึ้นให้พัดลมทำงาน จากนั้นก็จำตำแหน่งของเกจ์ความร้อนไว้ ในกรณีที่รถเราขับทุกวันเราจะจำได้ จากนั้นก็ปล่อยให้เครื่องยนต์ทำงานต่อไป ถ้าวาวล์น้ำปกติ ความร้อนมันจะคงที่ แต่ถ้าเกจ์ยังสูงขึ้นไปเรื่อยๆ อันนี้ให้สงสัยว่าวาวล์น้ำไม่เปิด ที่จริงถ้าเป็นหม้อน้ำรถกระบะก็จะสามารถตรวจสอบได้ว่าวาวล์น้ำค้างหรือเปล่าได้ง่ายๆ แต่ฮอนด้าดูยากสักหน่อยเพราะหม้อน้ำรถฮอนด้าเหมือนกับหม้อน้ำรถยุโรปคือแนวรังผึ้งวิ่งทางนอน ถ้าเป็นกระบะจะเป็นแนวตั้ง ครับ
         อันนี้เป็นวิธีการส่วนตัวของผม ไม่มีในตำรานะครับ

         ส่วนอาการวิ่งเร็วความร้อนขึ้นสูงแต่วิ่งปกติไม่ขึ้น ในความเห็นส่วนตัวของผม ผมว่าหม้อน้ำกับปั๊มน้ำน่าสงสัยกว่า รถฮอนด้าออกแบบมาให้หม้อน้ำมีขนาดเล็กแต่เดินโล่งน้ำเดินสะดวกและรถฮอนด้าในความเห็นส่วนตัวของผมผมคิดว่าเป็นรถที่ระบายความร้อนในห้องเครื่องยนต์ได้ดี จะสังเกตุว่าท่านวิ่งมาร้อยสองร้อยกิโล พอจอดเปิดฝากระโปรงหน้า ไม่กี่นาทีเครื่องยนต์ก็เย็นปกติแล้ว ดังนั้นเมื่อมีอะไรผิดปกติเกี่ยวกับระบบระบายความร้อน เกจ์จะขึ้นผิดปกติทันที ผิดกับรถของพ่อผม 300e จอดเป็นชั่วโมงเดินผ่านยังอุ่นๆอยู่เลย ครับ

8) 8) 8)


หัวข้อ: Re: หัวเทียนที่ 80000+ กับ วาวล์น้ำที่ 192303 ลองมาดูหน่อยจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: cyu ที่ 22 สิงหาคม 2011, 12:20:07
          อาการวาวล์น้ำเสีย สำหรับช่างบ้านนอกอย่างผม ผมสังเกตุอย่างนี้ครับ ติดเครื่องอยู่กับที่จนความร้อนขึ้นให้พัดลมทำงาน จากนั้นก็จำตำแหน่งของเกจ์ความร้อนไว้ ในกรณีที่รถเราขับทุกวันเราจะจำได้ จากนั้นก็ปล่อยให้เครื่องยนต์ทำงานต่อไป ถ้าวาวล์น้ำปกติ ความร้อนมันจะคงที่ แต่ถ้าเกจ์ยังสูงขึ้นไปเรื่อยๆ อันนี้ให้สงสัยว่าวาวล์น้ำไม่เปิด ที่จริงถ้าเป็นหม้อน้ำรถกระบะก็จะสามารถตรวจสอบได้ว่าวาวล์น้ำค้างหรือเปล่าได้ง่ายๆ แต่ฮอนด้าดูยากสักหน่อยเพราะหม้อน้ำรถฮอนด้าเหมือนกับหม้อน้ำรถยุโรปคือแนวรังผึ้งวิ่งทางนอน ถ้าเป็นกระบะจะเป็นแนวตั้ง ครับ
         อันนี้เป็นวิธีการส่วนตัวของผม ไม่มีในตำรานะครับ

         ส่วนอาการวิ่งเร็วความร้อนขึ้นสูงแต่วิ่งปกติไม่ขึ้น ในความเห็นส่วนตัวของผม ผมว่าหม้อน้ำกับปั๊มน้ำน่าสงสัยกว่า รถฮอนด้าออกแบบมาให้หม้อน้ำมีขนาดเล็กแต่เดินโล่งน้ำเดินสะดวกและรถฮอนด้าในความเห็นส่วนตัวของผมผมคิดว่าเป็นรถที่ระบายความร้อนในห้องเครื่องยนต์ได้ดี จะสังเกตุว่าท่านวิ่งมาร้อยสองร้อยกิโล พอจอดเปิดฝากระโปรงหน้า ไม่กี่นาทีเครื่องยนต์ก็เย็นปกติแล้ว ดังนั้นเมื่อมีอะไรผิดปกติเกี่ยวกับระบบระบายความร้อน เกจ์จะขึ้นผิดปกติทันที ผิดกับรถของพ่อผม 300e จอดเป็นชั่วโมงเดินผ่านยังอุ่นๆอยู่เลย ครับ


ช่วยขยายนิดนึงครับ งง ใช่ครีบ ที่ระบายความร้อนใช่มั้ยครับ :o :o

และ ผมเห็นด้วย ที่ฮอนด้า ทำระบบความร้อนได้ดี จากที่ได้ เคยอ่าน เรื่องเครื่องยนต์มาบ้าง เป็น ข้อได้เปรียบยี่ห้ออื่นๆ เลยครับ เป็น ผลทำให้ใช้วัสดุในการทำเครื่องยนต์ เป็น โลหะผสม เหลก และอลูมีเนียม รึไรไม่แน่ใจครับ นานละลืมไปละ และ ข้อเสียเปรียบที่่ตามมาก้คื ไม่ประเก็นฝาสูบ แตกก้ ฝาสูบโก่งครับ และ แม้แต่จะใช้งานปรกติ ย้ำนะครับว่าปรกติ ก้มีโอกาส เกิด ฝาสูบโก่งได้ ตามอายุการใช้งาน คับ แต่จะ เป็นช้ากว่า น้ำแห้ง จนเครื่องน็อคคับผ๋ม :-*


หัวข้อ: Re: หัวเทียนที่ 80000+ กับ วาวล์น้ำที่ 192303 ลองมาดูหน่อยจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: ham_ter ที่ 22 สิงหาคม 2011, 13:53:59
          อาการวาวล์น้ำเสีย สำหรับช่างบ้านนอกอย่างผม ผมสังเกตุอย่างนี้ครับ ติดเครื่องอยู่กับที่จนความร้อนขึ้นให้พัดลมทำงาน จากนั้นก็จำตำแหน่งของเกจ์ความร้อนไว้ ในกรณีที่รถเราขับทุกวันเราจะจำได้ จากนั้นก็ปล่อยให้เครื่องยนต์ทำงานต่อไป ถ้าวาวล์น้ำปกติ ความร้อนมันจะคงที่ แต่ถ้าเกจ์ยังสูงขึ้นไปเรื่อยๆ อันนี้ให้สงสัยว่าวาวล์น้ำไม่เปิด ที่จริงถ้าเป็นหม้อน้ำรถกระบะก็จะสามารถตรวจสอบได้ว่าวาวล์น้ำค้างหรือเปล่าได้ง่ายๆ แต่ฮอนด้าดูยากสักหน่อยเพราะหม้อน้ำรถฮอนด้าเหมือนกับหม้อน้ำรถยุโรปคือแนวรังผึ้งวิ่งทางนอน ถ้าเป็นกระบะจะเป็นแนวตั้ง ครับ
         อันนี้เป็นวิธีการส่วนตัวของผม ไม่มีในตำรานะครับ

         ส่วนอาการวิ่งเร็วความร้อนขึ้นสูงแต่วิ่งปกติไม่ขึ้น ในความเห็นส่วนตัวของผม ผมว่าหม้อน้ำกับปั๊มน้ำน่าสงสัยกว่า รถฮอนด้าออกแบบมาให้หม้อน้ำมีขนาดเล็กแต่เดินโล่งน้ำเดินสะดวกและรถฮอนด้าในความเห็นส่วนตัวของผมผมคิดว่าเป็นรถที่ระบายความร้อนในห้องเครื่องยนต์ได้ดี จะสังเกตุว่าท่านวิ่งมาร้อยสองร้อยกิโล พอจอดเปิดฝากระโปรงหน้า ไม่กี่นาทีเครื่องยนต์ก็เย็นปกติแล้ว ดังนั้นเมื่อมีอะไรผิดปกติเกี่ยวกับระบบระบายความร้อน เกจ์จะขึ้นผิดปกติทันที ผิดกับรถของพ่อผม 300e จอดเป็นชั่วโมงเดินผ่านยังอุ่นๆอยู่เลย ครับ

    ปล่อยเครื่องยนต์ทำงานต่อไป คือ จอดติดเครื่องไว้เฉยๆหรือ ::) ::)
แล้วปั๊มน้ำเสียนี่คือ แบบว่า วิ่งแล้วความร้อนสูงป่าว แบบนั้น เพราะหม้อน้ำก็ล้างมาแล้ว :D :D


หัวข้อ: Re: หัวเทียนที่ 80000+ กับ วาวล์น้ำที่ 192303 ลองมาดูหน่อยจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: cyu ที่ 22 สิงหาคม 2011, 13:58:20
    ปล่อยเครื่องยนต์ทำงานต่อไป คือ จอดติดเครื่องไว้เฉยๆหรือ ::) ::)
แล้วปั๊มน้ำเสียนี่คือ แบบว่า วิ่งแล้วความร้อนสูงป่าว แบบนั้น เพราะหม้อน้ำก็ล้างมาแล้ว :D :D

น่าจะจอดรถทิ้งไว้ เหมือนกับไล่ลมนะ

ปั้มน้ำเสีย ก้ น่าจะน้ำไม่ไหลเวียน น่าจะอาการเดียวก้บ วาวน้ำเสียไม่ยอมเปิด แต่จากประสบการณ์ตรงนั รถ ที่ไมล์ 300000 จะปั็มน้ำเสียทุกคัน ที่บ้าน เปลี่ยน ปั้มน้ำมาสสามคันละ อาการคือ น้ำจะหายโดยไม่ทราบ สาเหตุ ของฮอนด้านน้ำจะรั่ว ใน ปั็มน้ำ แถวๆ สายพานทามมิ่ง หายังไงก้ไม่มีทางเจอว่า น้ำรั่วที่ไหน ส่วนอีกคัน คาริบเบี้ย เหนน้ำ ไหลออกมาเลย ไหลโจ๊กๆๆๆๆ เลย ล่ะ  ;D ;D ;D


หัวข้อ: Re: หัวเทียนที่ 80000+ กับ วาวล์น้ำที่ 192303 ลองมาดูหน่อยจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: ham_ter ที่ 22 สิงหาคม 2011, 15:22:11
         ส่วนมากจะรั่วตรงท่อที่ต่อมาจากวาวล์น้ำมันจะมีโอริงหัวท้าย มันรั่วทางดูดเลยดูยากและมันอยู่ลึกลับคืออยู่ใต้ท่อร่วมไอดี ปั๊มน้ำเสียมีสองอย่างคือ รั่วกับสนิมกินใบพัดจนกร่อน ทำให้ปั๊มไม่มีกำลัง
        ส่วนหม้อน้ำผมหมายถึง ตัวหลอดท่อน้ำ ไม่ใช่แผ่นครีบระบายความร้อน ครับ
        อย่าเอานิยายกับผมมากเพราะผมอยู่บ้านนอกเทคโนโลยี เครื่องไม้เครื่องมือสู้เมืองบางกอกบ่อได้ดอก ครับ

    พอดีอยู่เจียงใหม่ มิใช่บางกอก :-[ :-[
บางทีภาษาชาวบ้านแบบนี้ ก็เข้าใจง่ายกว่า ศัพย์แสงวิชาการนา ;) ;)


หัวข้อ: Re: หัวเทียนที่ 80000+ กับ วาวล์น้ำที่ 192303 ลองมาดูหน่อยจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: Regis100 ที่ 22 สิงหาคม 2011, 20:53:33
          อาการวาวล์น้ำเสีย สำหรับช่างบ้านนอกอย่างผม ผมสังเกตุอย่างนี้ครับ ติดเครื่องอยู่กับที่จนความร้อนขึ้นให้พัดลมทำงาน จากนั้นก็จำตำแหน่งของเกจ์ความร้อนไว้ ในกรณีที่รถเราขับทุกวันเราจะจำได้ จากนั้นก็ปล่อยให้เครื่องยนต์ทำงานต่อไป ถ้าวาวล์น้ำปกติ ความร้อนมันจะคงที่ แต่ถ้าเกจ์ยังสูงขึ้นไปเรื่อยๆ อันนี้ให้สงสัยว่าวาวล์น้ำไม่เปิด ที่จริงถ้าเป็นหม้อน้ำรถกระบะก็จะสามารถตรวจสอบได้ว่าวาวล์น้ำค้างหรือเปล่าได้ง่ายๆ แต่ฮอนด้าดูยากสักหน่อยเพราะหม้อน้ำรถฮอนด้าเหมือนกับหม้อน้ำรถยุโรปคือแนวรังผึ้งวิ่งทางนอน ถ้าเป็นกระบะจะเป็นแนวตั้ง ครับ
         อันนี้เป็นวิธีการส่วนตัวของผม ไม่มีในตำรานะครับ

         ส่วนอาการวิ่งเร็วความร้อนขึ้นสูงแต่วิ่งปกติไม่ขึ้น ในความเห็นส่วนตัวของผม ผมว่าหม้อน้ำกับปั๊มน้ำน่าสงสัยกว่า รถฮอนด้าออกแบบมาให้หม้อน้ำมีขนาดเล็กแต่เดินโล่งน้ำเดินสะดวกและรถฮอนด้าในความเห็นส่วนตัวของผมผมคิดว่าเป็นรถที่ระบายความร้อนในห้องเครื่องยนต์ได้ดี จะสังเกตุว่าท่านวิ่งมาร้อยสองร้อยกิโล พอจอดเปิดฝากระโปรงหน้า ไม่กี่นาทีเครื่องยนต์ก็เย็นปกติแล้ว ดังนั้นเมื่อมีอะไรผิดปกติเกี่ยวกับระบบระบายความร้อน เกจ์จะขึ้นผิดปกติทันที ผิดกับรถของพ่อผม 300e จอดเป็นชั่วโมงเดินผ่านยังอุ่นๆอยู่เลย ครับ

ผมว่ามันตั้งไม่ใช่หรอหลอดมันอ่ะ :-\ :-\ :-\ :-\ :-\  หรือผมจำสรับกันหว่า ระหว่าง แผงแอร์กับหม้อน้ำ  :o :o :o :o


หัวข้อ: Re: หัวเทียนที่ 80000+ กับ วาวล์น้ำที่ 192303 ลองมาดูหน่อยจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: cyu ที่ 22 สิงหาคม 2011, 21:33:03
ผมว่ามันตั้งไม่ใช่หรอหลอดมันอ่ะ :-\ :-\ :-\ :-\ :-\  หรือผมจำสรับกันหว่า ระหว่าง แผงแอร์กับหม้อน้ำ  :o :o :o :o

ผมก้ว่างั้นนะ


หัวข้อ: Re: หัวเทียนที่ 80000+ กับ วาวล์น้ำที่ 192303 ลองมาดูหน่อยจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: Regis100 ที่ 22 สิงหาคม 2011, 21:52:40
         โอ้กราบขออภัย อย่างนี้แหละครับ คนบ้านนอก ไม่ค่อยฉลาดเท่าไหร่ พอดีบ้านอยู่ไกลบางกอกไปหน่อย ครับ  มันตั้งจริงๆครับ ไปหลงกับเซนทรา บอกแล้วอย่าฟังผมขี้โม้มาก อย่างนี้เวลาวาวล์ค้างก็พอสังเกตุได้  :-[
;D ;D ;D ;D ดีแล้วแหละครับแลกเปลี่ยนความรู้กันผมก็คนบ้านนอก :) :) :)


หัวข้อ: Re: หัวเทียนที่ 80000+ กับ วาวล์น้ำที่ 192303 ลองมาดูหน่อยจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: cyu ที่ 23 สิงหาคม 2011, 08:20:13
;D ;D ;D ;D ดีแล้วแหละครับแลกเปลี่ยนความรู้กันผมก็คนบ้านนอก :) :) :)

ก้คนบ้านนอกกันเยอะครับ คนกรุงไม่ค่อยมาตอบกันเท่าไหร่คงไม่ค่อยมีเวลาว่างกันหรอกครับ รถติดจะตาย จะเอาเวลาที่ไหนมาเล่นกัน อีกอย่าง คนกรุงนั่นแหละ่ พอมีปัญหาอะไรก้เข้าอู่ลูกเดียว เอารถทิ้งไว้ ให้ช่าง ทำตามสบาย เพราะไม่มีเวลานี่แหล่ะคับ ผมไม่ได้ว่าใครใน wlc หรอกนะคับ แค่ พบเหนได้บ่อยๆ ว่า หลายคนไม่ค่อยจะรู้เรื่องอะไรเลย เลยโดนอู่ฟันหัวแบะมาเยอะละก้ มีปัญหาตามมาทีหลังเยอะคับ