หัวข้อ: ขอถามเป็นความรู้เกี่ยวกับการสตาร์ทเครื่องที่ถูกวิธี เริ่มหัวข้อโดย: dazz_nakrab ที่ 07 สิงหาคม 2011, 22:51:37 เนื่องจากเวลาเราบิดสวิทช์กุญแจไปที่ตำแหน่งON ไฟหน้าปัดจะโชว์ทั้งหมดรวมถึงไฟ Engine ด้วยแล้วจำเป็นมั๊ยว่าเราต้องรอให้ไฟ Engine ดับก่อน
ถึงค่อยสตาร์ท ถ้าสตาร์ททั้งที่ไฟ Engine โชว์อยู่จะมีผลอะไรกับเซนเซอร์ต่างๆชองเครื่องมั๊ยครับ ::) ::) หัวข้อ: Re: ขอถามเป็นความรู้เกี่ยวกับการสตาร์ทเครื่องที่ถูกวิธี เริ่มหัวข้อโดย: p jung ที่ 07 สิงหาคม 2011, 22:53:23 จริงๆมันก็สตาร์ทได้เลยไม่มีปัญหาอะไร
แต่ผมก็รอให้ไฟเอ็นจิ้นดับครับ เมื่อก่อนไม่เคยรอ แต่พอมาเข้าคลับนี้ เห็นพี่ๆเขารอ ผมเลยรอมั่ง ;D ;D ;D หัวข้อ: Re: ขอถามเป็นความรู้เกี่ยวกับการสตาร์ทเครื่องที่ถูกวิธี เริ่มหัวข้อโดย: dazz_nakrab ที่ 07 สิงหาคม 2011, 22:56:05 จริงๆมันก็สตาร์ทได้เลยไม่มีปัญหาอะไร แล้วจะมีผลอะไรกับเซนเซอร์ตัวเครื่องหรือป่าวครับ :-*แต่ผมก็รอให้ไฟเอ็นจิ้นดับครับ เมื่อก่อนไม่เคยรอ แต่พอมาเข้าคลับนี้ เห็นพี่ๆเขารอ ผมเลยรอมั่ง ;D ;D ;D หัวข้อ: Re: ขอถามเป็นความรู้เกี่ยวกับการสตาร์ทเครื่องที่ถูกวิธี เริ่มหัวข้อโดย: p jung ที่ 07 สิงหาคม 2011, 22:58:01 แล้วจะมีผลอะไรกับเซนเซอร์ตัวเครื่องหรือป่าวครับ :-* ไม่เห็นมีผลอะไรนะครับ ผมเห็นส่วนใหญ่เลยก็บิดกุญแจสตาร์ทเลย แต่เป็นผม ผมเลือกที่จะรอให้ไฟมันดับก่อน หัวข้อ: Re: ขอถามเป็นความรู้เกี่ยวกับการสตาร์ทเครื่องที่ถูกวิธี เริ่มหัวข้อโดย: NooniD ที่ 07 สิงหาคม 2011, 22:58:44 จริงๆมันก็สตาร์ทได้เลยไม่มีปัญหาอะไร แต่ผมก็รอให้ไฟเอ็นจิ้นดับครับ เมื่อก่อนไม่เคยรอ แต่พอมาเข้าคลับนี้ เห็นพี่ๆเขารอ ผมเลยรอมั่ง ;D ;D ;D งั้นต้องรอด้วยคนล่ะ ค่ะ อิอิ :) หัวข้อ: Re: ขอถามเป็นความรู้เกี่ยวกับการสตาร์ทเครื่องที่ถูกวิธี เริ่มหัวข้อโดย: dazz_nakrab ที่ 07 สิงหาคม 2011, 23:02:20 ไม่เห็นมีผลอะไรนะครับ คงเป็นเพราะความเคยชินของระบบหัวเผามั้งเนาะ ;D ;D ;Dผมเห็นส่วนใหญ่เลยก็บิดกุญแจสตาร์ทเลย แต่เป็นผม ผมเลือกที่จะรอให้ไฟมันดับก่อน หัวข้อ: Re: ขอถามเป็นความรู้เกี่ยวกับการสตาร์ทเครื่องที่ถูกวิธี เริ่มหัวข้อโดย: p jung ที่ 07 สิงหาคม 2011, 23:03:02 คงเป็นเพราะความเคยชินของระบบหัวเผามั้งเนาะ ;D ;D ;D หัวเผาคืออะไรเหรอครับ :-[หัวข้อ: Re: ขอถามเป็นความรู้เกี่ยวกับการสตาร์ทเครื่องที่ถูกวิธี เริ่มหัวข้อโดย: dazz_nakrab ที่ 07 สิงหาคม 2011, 23:08:48 หัวเผาคืออะไรเหรอครับ :-[ ตามความเข้าใจผมคือตัวอุ่นห้องเผาไหม้ของเครื่องยนต์ดีเซลรุ่นเก่าๆ ที่จะต้องมีการอุ่นห้องเผาไหม้ให้ร้อนก่อนสตาร์ทไม่งั้นจะสตาร์ทไม่ติดอ่ะครับที่เคยเจอก็จะเป็นเครื่องTOYOTA 2Lอ่ะครับ รอผู้รู้มาตอบชัดๆอีกทีนะครับ :-[ หัวข้อ: Re: ขอถามเป็นความรู้เกี่ยวกับการสตาร์ทเครื่องที่ถูกวิธี เริ่มหัวข้อโดย: p jung ที่ 07 สิงหาคม 2011, 23:13:13 ตามความเข้าใจผมคือตัวอุ่นห้องเผาไหม้ของเครื่องยนต์ดีเซลรุ่นเก่าๆ ที่จะต้องมีการอุ่นห้องเผาไหม้ให้ร้อนก่อนสตาร์ทไม่งั้นจะสตาร์ทไม่ติดอ่ะครับ แต่รถสมัยนี้ไม่ต้องรอก็สตาร์ทเลยได้ครับ ที่เคยเจอก็จะเป็นเครื่องTOYOTA 2Lอ่ะครับ รอผู้รู้มาตอบชัดๆอีกทีนะครับ :-[ หัวข้อ: Re: ขอถามเป็นความรู้เกี่ยวกับการสตาร์ทเครื่องที่ถูกวิธี เริ่มหัวข้อโดย: dazz_nakrab ที่ 07 สิงหาคม 2011, 23:15:32 แต่รถสมัยนี้ไม่ต้องรอก็สตาร์ทเลยได้ครับ ใช่ครับเดี๋ยวนี้พัฒนาแล้วครับ :)หัวข้อ: Re: ขอถามเป็นความรู้เกี่ยวกับการสตาร์ทเครื่องที่ถูกวิธี เริ่มหัวข้อโดย: Regis100 ที่ 08 สิงหาคม 2011, 09:00:06 ;) ;) ;)
เท่าที่ทราบมานะ ถ้าEK เนี่ยที่มันต้องรอ มันจะเป็นการตรวจสอบระบบเซนเซอร์ต่างๆครับแล้วก็รอให้เซนเซอร์ต่างๆพร้อมจะทำงาน(เช่นอ๊อคซิเจนเซนเซอร์สังเกตุดูจะมีแค่สายเดียวไม่รวมกราว์ด) แต่ถ้ารถรุ่นใหม่ๆระบบกล่องECU มันทำงานได้รวดเร็วกว่ากัน (รุ่นใหม่ๆอ๊อคซิเจนเซนเซอร์มีสาย4เส้นทำงานได้เร็วกว่า) แต่จริงๆถ้าไม่รอก็ไม่มีปัญหาอะไรหรอกครับ ถ้ามันจะมีเซนเซอร์ปัญหายังไงมันก็มีปัญหา ผมอยากเสริมเรื่องอื่นมากกว่าในเรื่องการสตาทรถเนี่ยโดยยึดเอาหลักความปลอดภัยของผู้ขับและผู้ร่วมทางโดยมีขั้นตอนดังนี้ 1 ขึ้นไปนั่งบนเบาะโดยให้แผ่นหลังแนบกับเบาะทั้งแผ่นหลังและปรับหัวเบาะให้เสมอกับศรีษะแล้วเอาข้อมือด้านในวางบนพวงมาลัยโดยที่แผ่นหลังและศรีษะยังแนบกับเบาะอยู่ทั้งหมดถ้าวางไม่ได้ก็ให้เลื่อนเบาะเข้าไปหาพวงมาลัย การปรับแบบนี้จะทำให้เราควบคุมพวงมาลัยได้สะดวก และเวลารถมาชนด้านท้ายศรีษะแต่ต้นคอเราจะปลอดภัยกว่า 2 เมื่อได้ตำแหน่งเบาะที่ถูกต้องแล้วก็มาปรับกระจกมองข้างให้มองเห็นได้ชัดเจนมากที่สุด 3 คราวนี้ก่อนเริ่มสตาทเครื่องก็ปิดอุปกรณ์ไฟฟ้าทั้งหมด เช่น เครื่องเสียง แอร์ และเช็คเกียร์ให้อยู่ในน้ำแหน่ง N หรือ P (ของผมออโต้ใช้ N ตลอด) 4 เหยีบคันเบรคลงไปจนสุด 5 เปิดกุจแจออน์ รอจนไฟอินจิ้นดับ 6 สตาทเครื่องได้ ถ้าเครื่องติดแล้ว คันเบรคจะจมลงเล็กน้อยแสดงถึงหม้อลมเบรคที่ทำงานได้ปกติ และไฟเตือนน้ำมันเครื่องกับไฟชาร์ทแบตจะต้องดับ แสดงถึง น้ำมันเครื่องได้ขึ้นมาเลี้ยงฝาแล้ว และไฟชาร์ทเข้าแบตแล้ว เยอะเนาะ :-[ :-[ :-[ ส่วนระบบเผาหัวเนี่ย มันคือระบบที่ทำให้ห้องเผาไหม้ของเครื่องยนต์ดีเซลมันร้อนขึ้นจะได้จุดระเบิดเองได้ง่ายขึ้นครับ มีอยู่ในเครื่องยนต์ดีเซลรุ่นเก่าๆ(เครื่องยนต์ดีเซลไม่มีหัวเทียนนะครับใช้การจุดระเบิดเองของเชื่อเพลิงจากกำลังอัดที่สูงๆ) หัวข้อ: Re: ขอถามเป็นความรู้เกี่ยวกับการสตาร์ทเครื่องที่ถูกวิธี เริ่มหัวข้อโดย: dazz_nakrab ที่ 08 สิงหาคม 2011, 10:22:08 ;) ;) ;) ความรู้ๆทั้งนั้นครับละเอียดมาก ขอบคุณครับ :-*เท่าที่ทราบมานะ ถ้าEK เนี่ยที่มันต้องรอ มันจะเป็นการตรวจสอบระบบเซนเซอร์ต่างๆครับแล้วก็รอให้เซนเซอร์ต่างๆพร้อมจะทำงาน(เช่นอ๊อคซิเจนเซนเซอร์สังเกตุดูจะมีแค่สายเดียวไม่รวมกราว์ด) แต่ถ้ารถรุ่นใหม่ๆระบบกล่องECU มันทำงานได้รวดเร็วกว่ากัน (รุ่นใหม่ๆอ๊อคซิเจนเซนเซอร์มีสาย4เส้นทำงานได้เร็วกว่า) แต่จริงๆถ้าไม่รอก็ไม่มีปัญหาอะไรหรอกครับ ถ้ามันจะมีเซนเซอร์ปัญหายังไงมันก็มีปัญหา ผมอยากเสริมเรื่องอื่นมากกว่าในเรื่องการสตาทรถเนี่ยโดยยึดเอาหลักความปลอดภัยของผู้ขับและผู้ร่วมทางโดยมีขั้นตอนดังนี้ 1 ขึ้นไปนั่งบนเบาะโดยให้แผ่นหลังแนบกับเบาะทั้งแผ่นหลังและปรับหัวเบาะให้เสมอกับศรีษะแล้วเอาข้อมือด้านในวางบนพวงมาลัยโดยที่แผ่นหลังและศรีษะยังแนบกับเบาะอยู่ทั้งหมดถ้าวางไม่ได้ก็ให้เลื่อนเบาะเข้าไปหาพวงมาลัย การปรับแบบนี้จะทำให้เราควบคุมพวงมาลัยได้สะดวก และเวลารถมาชนด้านท้ายศรีษะแต่ต้นคอเราจะปลอดภัยกว่า 2 เมื่อได้ตำแหน่งเบาะที่ถูกต้องแล้วก็มาปรับกระจกมองข้างให้มองเห็นได้ชัดเจนมากที่สุด 3 คราวนี้ก่อนเริ่มสตาทเครื่องก็ปิดอุปกรณ์ไฟฟ้าทั้งหมด เช่น เครื่องเสียง แอร์ และเช็คเกียร์ให้อยู่ในน้ำแหน่ง N หรือ P (ของผมออโต้ใช้ N ตลอด) 4 เหยีบคันเบรคลงไปจนสุด 5 เปิดกุจแจออน์ รอจนไฟอินจิ้นดับ 6 สตาทเครื่องได้ ถ้าเครื่องติดแล้ว คันเบรคจะจมลงเล็กน้อยแสดงถึงหม้อลมเบรคที่ทำงานได้ปกติ และไฟเตือนน้ำมันเครื่องกับไฟชาร์ทแบตจะต้องดับ แสดงถึง น้ำมันเครื่องได้ขึ้นมาเลี้ยงฝาแล้ว และไฟชาร์ทเข้าแบตแล้ว เยอะเนาะ :-[ :-[ :-[ ส่วนระบบเผาหัวเนี่ย มันคือระบบที่ทำให้ห้องเผาไหม้ของเครื่องยนต์ดีเซลมันร้อนขึ้นจะได้จุดระเบิดเองได้ง่ายขึ้นครับ มีอยู่ในเครื่องยนต์ดีเซลรุ่นเก่าๆ(เครื่องยนต์ดีเซลไม่มีหัวเทียนนะครับใช้การจุดระเบิดเองของเชื่อเพลิงจากกำลังอัดที่สูงๆ) ที่จริงมันก็แค่ไม่เกิน 5 วินาทีนะครับ ;) การที่รอให้มันดับก็เพื่อจะได้เชคว่าเครื่องมันยังอยู่ดีหรือเปล่า ถ้ามันไม่ดับจะได้ตรวจตราเสีย แต่ก็แล้วแต่นะครับ ส่วนตัวผมยังไม่เคยได้ยินว่ามีใครออกมาบ่นว่ารถพังเพราะเหตุนี้ ส่วนตัวผมเวลาขนาดนี้ ถ้าไม่รีบเพราะเมียหรือแม่ยายบ่น ผมจะรอครับ ใช่ครับจริงๆก็ใช้เวลาไม่นาน ปกติผมก็รอจนมันดับก่อนอ่ะครับและก็ยังจะรอให้มันดับต่อไป แต่แค่อยากรู้ไว้เป็นขอมูลเฉยๆอ่ะครับ :-[หัวข้อ: Re: ขอถามเป็นความรู้เกี่ยวกับการสตาร์ทเครื่องที่ถูกวิธี เริ่มหัวข้อโดย: nakarin ที่ 08 สิงหาคม 2011, 10:27:27 ;) ;) ;) ชัดเจนกันไปเท่าที่ทราบมานะ ถ้าEK เนี่ยที่มันต้องรอ มันจะเป็นการตรวจสอบระบบเซนเซอร์ต่างๆครับแล้วก็รอให้เซนเซอร์ต่างๆพร้อมจะทำงาน(เช่นอ๊อคซิเจนเซนเซอร์สังเกตุดูจะมีแค่สายเดียวไม่รวมกราว์ด) แต่ถ้ารถรุ่นใหม่ๆระบบกล่องECU มันทำงานได้รวดเร็วกว่ากัน (รุ่นใหม่ๆอ๊อคซิเจนเซนเซอร์มีสาย4เส้นทำงานได้เร็วกว่า) แต่จริงๆถ้าไม่รอก็ไม่มีปัญหาอะไรหรอกครับ ถ้ามันจะมีเซนเซอร์ปัญหายังไงมันก็มีปัญหา ผมอยากเสริมเรื่องอื่นมากกว่าในเรื่องการสตาทรถเนี่ยโดยยึดเอาหลักความปลอดภัยของผู้ขับและผู้ร่วมทางโดยมีขั้นตอนดังนี้ 1 ขึ้นไปนั่งบนเบาะโดยให้แผ่นหลังแนบกับเบาะทั้งแผ่นหลังและปรับหัวเบาะให้เสมอกับศรีษะแล้วเอาข้อมือด้านในวางบนพวงมาลัยโดยที่แผ่นหลังและศรีษะยังแนบกับเบาะอยู่ทั้งหมดถ้าวางไม่ได้ก็ให้เลื่อนเบาะเข้าไปหาพวงมาลัย การปรับแบบนี้จะทำให้เราควบคุมพวงมาลัยได้สะดวก และเวลารถมาชนด้านท้ายศรีษะแต่ต้นคอเราจะปลอดภัยกว่า 2 เมื่อได้ตำแหน่งเบาะที่ถูกต้องแล้วก็มาปรับกระจกมองข้างให้มองเห็นได้ชัดเจนมากที่สุด 3 คราวนี้ก่อนเริ่มสตาทเครื่องก็ปิดอุปกรณ์ไฟฟ้าทั้งหมด เช่น เครื่องเสียง แอร์ และเช็คเกียร์ให้อยู่ในน้ำแหน่ง N หรือ P (ของผมออโต้ใช้ N ตลอด) 4 เหยีบคันเบรคลงไปจนสุด 5 เปิดกุจแจออน์ รอจนไฟอินจิ้นดับ 6 สตาทเครื่องได้ ถ้าเครื่องติดแล้ว คันเบรคจะจมลงเล็กน้อยแสดงถึงหม้อลมเบรคที่ทำงานได้ปกติ และไฟเตือนน้ำมันเครื่องกับไฟชาร์ทแบตจะต้องดับ แสดงถึง น้ำมันเครื่องได้ขึ้นมาเลี้ยงฝาแล้ว และไฟชาร์ทเข้าแบตแล้ว เยอะเนาะ :-[ :-[ :-[ ส่วนระบบเผาหัวเนี่ย มันคือระบบที่ทำให้ห้องเผาไหม้ของเครื่องยนต์ดีเซลมันร้อนขึ้นจะได้จุดระเบิดเองได้ง่ายขึ้นครับ มีอยู่ในเครื่องยนต์ดีเซลรุ่นเก่าๆ(เครื่องยนต์ดีเซลไม่มีหัวเทียนนะครับใช้การจุดระเบิดเองของเชื่อเพลิงจากกำลังอัดที่สูงๆ) หัวข้อ: Re: ขอถามเป็นความรู้เกี่ยวกับการสตาร์ทเครื่องที่ถูกวิธี เริ่มหัวข้อโดย: mecivic ที่ 08 สิงหาคม 2011, 10:35:05 ;) ;) ;) เท่าที่ทราบมานะ ถ้าEK เนี่ยที่มันต้องรอ มันจะเป็นการตรวจสอบระบบเซนเซอร์ต่างๆครับแล้วก็รอให้เซนเซอร์ต่างๆพร้อมจะทำงาน(เช่นอ๊อคซิเจนเซนเซอร์สังเกตุดูจะมีแค่สายเดียวไม่รวมกราว์ด) แต่ถ้ารถรุ่นใหม่ๆระบบกล่องECU มันทำงานได้รวดเร็วกว่ากัน (รุ่นใหม่ๆอ๊อคซิเจนเซนเซอร์มีสาย4เส้นทำงานได้เร็วกว่า) แต่จริงๆถ้าไม่รอก็ไม่มีปัญหาอะไรหรอกครับ ถ้ามันจะมีเซนเซอร์ปัญหายังไงมันก็มีปัญหา ผมอยากเสริมเรื่องอื่นมากกว่าในเรื่องการสตาทรถเนี่ยโดยยึดเอาหลักความปลอดภัยของผู้ขับและผู้ร่วมทางโดยมีขั้นตอนดังนี้ 1 ขึ้นไปนั่งบนเบาะโดยให้แผ่นหลังแนบกับเบาะทั้งแผ่นหลังและปรับหัวเบาะให้เสมอกับศรีษะแล้วเอาข้อมือด้านในวางบนพวงมาลัยโดยที่แผ่นหลังและศรีษะยังแนบกับเบาะอยู่ทั้งหมดถ้าวางไม่ได้ก็ให้เลื่อนเบาะเข้าไปหาพวงมาลัย การปรับแบบนี้จะทำให้เราควบคุมพวงมาลัยได้สะดวก และเวลารถมาชนด้านท้ายศรีษะแต่ต้นคอเราจะปลอดภัยกว่า 2 เมื่อได้ตำแหน่งเบาะที่ถูกต้องแล้วก็มาปรับกระจกมองข้างให้มองเห็นได้ชัดเจนมากที่สุด 3 คราวนี้ก่อนเริ่มสตาทเครื่องก็ปิดอุปกรณ์ไฟฟ้าทั้งหมด เช่น เครื่องเสียง แอร์ และเช็คเกียร์ให้อยู่ในน้ำแหน่ง N หรือ P (ของผมออโต้ใช้ N ตลอด) 4 เหยีบคันเบรคลงไปจนสุด 5 เปิดกุจแจออน์ รอจนไฟอินจิ้นดับ 6 สตาทเครื่องได้ ถ้าเครื่องติดแล้ว คันเบรคจะจมลงเล็กน้อยแสดงถึงหม้อลมเบรคที่ทำงานได้ปกติ และไฟเตือนน้ำมันเครื่องกับไฟชาร์ทแบตจะต้องดับ แสดงถึง น้ำมันเครื่องได้ขึ้นมาเลี้ยงฝาแล้ว และไฟชาร์ทเข้าแบตแล้ว เยอะเนาะ :-[ :-[ :-[ ส่วนระบบเผาหัวเนี่ย มันคือระบบที่ทำให้ห้องเผาไหม้ของเครื่องยนต์ดีเซลมันร้อนขึ้นจะได้จุดระเบิดเองได้ง่ายขึ้นครับ มีอยู่ในเครื่องยนต์ดีเซลรุ่นเก่าๆ(เครื่องยนต์ดีเซลไม่มีหัวเทียนนะครับใช้การจุดระเบิดเองของเชื่อเพลิงจากกำลังอัดที่สูงๆ) ผมก็ทำตามนี้ตลอด ;) ;) แต่ผมจะทำต่ออีกนิดนึง คือ จะวอร์มเครื่อง ให้รอบคงที่ เกจ ความร้อน กระดิกขึ้นมา จากการใช้งานสักครึ่งนึง แล้วค่อย ออก ตัวครับ แล้วรอให้ความร้อนคงที่ จึงจะ ตัดเป็นแก๊สเพื่อใช้แก๊สอ่ะครับ :-* :-* :-* ใส่ใจรายละเอียดย่อย ๆ ทำให้ รถอยู่กับเราได้นานขึ้นอีกเยอะ :-* :-* หัวข้อ: Re: ขอถามเป็นความรู้เกี่ยวกับการสตาร์ทเครื่องที่ถูกวิธี เริ่มหัวข้อโดย: BlaZter ที่ 08 สิงหาคม 2011, 13:09:20 ;) ;) ;) เท่าที่ทราบมานะ ถ้าEK เนี่ยที่มันต้องรอ มันจะเป็นการตรวจสอบระบบเซนเซอร์ต่างๆครับแล้วก็รอให้เซนเซอร์ต่างๆพร้อมจะทำงาน(เช่นอ๊อคซิเจนเซนเซอร์สังเกตุดูจะมีแค่สายเดียวไม่รวมกราว์ด) แต่ถ้ารถรุ่นใหม่ๆระบบกล่องECU มันทำงานได้รวดเร็วกว่ากัน (รุ่นใหม่ๆอ๊อคซิเจนเซนเซอร์มีสาย4เส้นทำงานได้เร็วกว่า) แต่จริงๆถ้าไม่รอก็ไม่มีปัญหาอะไรหรอกครับ ถ้ามันจะมีเซนเซอร์ปัญหายังไงมันก็มีปัญหา ผมอยากเสริมเรื่องอื่นมากกว่าในเรื่องการสตาทรถเนี่ยโดยยึดเอาหลักความปลอดภัยของผู้ขับและผู้ร่วมทางโดยมีขั้นตอนดังนี้ 1 ขึ้นไปนั่งบนเบาะโดยให้แผ่นหลังแนบกับเบาะทั้งแผ่นหลังและปรับหัวเบาะให้เสมอกับศรีษะแล้วเอาข้อมือด้านในวางบนพวงมาลัยโดยที่แผ่นหลังและศรีษะยังแนบกับเบาะอยู่ทั้งหมดถ้าวางไม่ได้ก็ให้เลื่อนเบาะเข้าไปหาพวงมาลัย การปรับแบบนี้จะทำให้เราควบคุมพวงมาลัยได้สะดวก และเวลารถมาชนด้านท้ายศรีษะแต่ต้นคอเราจะปลอดภัยกว่า 2 เมื่อได้ตำแหน่งเบาะที่ถูกต้องแล้วก็มาปรับกระจกมองข้างให้มองเห็นได้ชัดเจนมากที่สุด 3 คราวนี้ก่อนเริ่มสตาทเครื่องก็ปิดอุปกรณ์ไฟฟ้าทั้งหมด เช่น เครื่องเสียง แอร์ และเช็คเกียร์ให้อยู่ในน้ำแหน่ง N หรือ P (ของผมออโต้ใช้ N ตลอด) 4 เหยีบคันเบรคลงไปจนสุด 5 เปิดกุจแจออน์ รอจนไฟอินจิ้นดับ 6 สตาทเครื่องได้ ถ้าเครื่องติดแล้ว คันเบรคจะจมลงเล็กน้อยแสดงถึงหม้อลมเบรคที่ทำงานได้ปกติ และไฟเตือนน้ำมันเครื่องกับไฟชาร์ทแบตจะต้องดับ แสดงถึง น้ำมันเครื่องได้ขึ้นมาเลี้ยงฝาแล้ว และไฟชาร์ทเข้าแบตแล้ว เยอะเนาะ :-[ :-[ :-[ ส่วนระบบเผาหัวเนี่ย มันคือระบบที่ทำให้ห้องเผาไหม้ของเครื่องยนต์ดีเซลมันร้อนขึ้นจะได้จุดระเบิดเองได้ง่ายขึ้นครับ มีอยู่ในเครื่องยนต์ดีเซลรุ่นเก่าๆ(เครื่องยนต์ดีเซลไม่มีหัวเทียนนะครับใช้การจุดระเบิดเองของเชื่อเพลิงจากกำลังอัดที่สูงๆ) จริงครับ.. ;) EK ตอนสตาร์ทรอให้ไฟหน้าปัทม์ดับก่อนค่อยบิดกุญแจสตาร์ทครับ เพื่อที่ว่าให้ไฟจากแบตฯมันวิ่งไปไดสตาร์ทและเชค error ต่างๆของ ECU ครับ อีกอย่างเป็นการรักษาแบตฯด้วยนะครับ ผมทำแบบนี้มานานมากแล้วแบตฯลูกนึงใช้ได้เกินสองปีเป็นอย่างต่ำ ถ้าสตาร์ททันทีปีเดียวแบตฯก็เริ่มเสื่อมแล้วครับ หัวข้อ: Re: ขอถามเป็นความรู้เกี่ยวกับการสตาร์ทเครื่องที่ถูกวิธี เริ่มหัวข้อโดย: Regis100 ที่ 08 สิงหาคม 2011, 22:59:44 :-* :-* :-* :-* อ่านกันเยอะๆ
หัวข้อ: Re: ขอถามเป็นความรู้เกี่ยวกับการสตาร์ทเครื่องที่ถูกวิธี เริ่มหัวข้อโดย: p jung ที่ 08 สิงหาคม 2011, 23:03:28 :) :) :) เยี่ยมมาก
หัวข้อ: Re: ขอถามเป็นความรู้เกี่ยวกับการสตาร์ทเครื่องที่ถูกวิธี เริ่มหัวข้อโดย: Tak..ek ที่ 09 สิงหาคม 2011, 00:18:29 จริงๆมันก็สตาร์ทได้เลยไม่มีปัญหาอะไร แต่ผมก็รอให้ไฟเอ็นจิ้นดับครับ เมื่อก่อนไม่เคยรอ แต่พอมาเข้าคลับนี้ เห็นพี่ๆเขารอ ผมเลยรอมั่ง ;D ;D ;D ตั้งเเต่ซื้อรถ EK มาผมก็รอให้ไฟเอ็นจิ้นดับก่อนสตาร์ททุกครั้ง :) :) หัวข้อ: Re: ขอถามเป็นความรู้เกี่ยวกับการสตาร์ทเครื่องที่ถูกวิธี เริ่มหัวข้อโดย: nus.ek ที่ 09 สิงหาคม 2011, 01:01:37 ที่ต้องรอก็เพื่อเช็คความพร้อมแค่นั้น ครับ ทุกอย่างปกติไหมมีสัญญาณตัวไหนค้างบ้างเท่านั้นเอง ทำให้เป็นนิสัยครับ ผมก็รอทุกครั้ง
แต่ถ้าหนีพี่รวจไม่ต้องรอครับ แนะนำว่าสตาร์ทให้เร็วสับให้ไว :) :) ;D ;D หัวข้อ: Re: ขอถามเป็นความรู้เกี่ยวกับการสตาร์ทเครื่องที่ถูกวิธี เริ่มหัวข้อโดย: Regis100 ที่ 09 สิงหาคม 2011, 10:32:07 ที่ต้องรอก็เพื่อเช็คความพร้อมแค่นั้น ครับ ทุกอย่างปกติไหมมีสัญญาณตัวไหนค้างบ้างเท่านั้นเอง ทำให้เป็นนิสัยครับ ผมก็รอทุกครั้ง ใช่ครับใช่ ;D ;D ;D ;Dแต่ถ้าหนีพี่รวจไม่ต้องรอครับ แนะนำว่าสตาร์ทให้เร็วสับให้ไว :) :) ;D ;D หัวข้อ: Re: ขอถามเป็นความรู้เกี่ยวกับการสตาร์ทเครื่องที่ถูกวิธี เริ่มหัวข้อโดย: green_zone ที่ 10 สิงหาคม 2011, 10:01:19 บอกให้รอก็จะเฝ้ารอ...รอเธอไปอย่างนี้... :-X
หัวข้อ: Re: ขอถามเป็นความรู้เกี่ยวกับการสตาร์ทเครื่องที่ถูกวิธี เริ่มหัวข้อโดย: neang ที่ 10 สิงหาคม 2011, 21:54:43 ผมรอให้ดับก่อนแล้วถึงสตาร์ทไม่มีความรู้ไรหรอกคับ แค่คิดว่ามันคงมีประโยชน์กับเครื่องยนต์เลยรอคับ :-*
หัวข้อ: Re: ขอถามเป็นความรู้เกี่ยวกับการสตาร์ทเครื่องที่ถูกวิธี เริ่มหัวข้อโดย: Tassanai ที่ 11 สิงหาคม 2011, 07:23:52 ของผมใช้ Ek 2000 พอเปิด on แล้วไฟ เอนจิ้น ไฟแบต จะขึ้นไม่ดับครับ จนกว่าจะ สตาร์ท จึงจะดับ แล้วอย่างนี้ผิดปกติไหมครับ
หัวข้อ: Re: ขอถามเป็นความรู้เกี่ยวกับการสตาร์ทเครื่องที่ถูกวิธี เริ่มหัวข้อโดย: Regis100 ที่ 11 สิงหาคม 2011, 12:07:37 ของผมใช้ Ek 2000 พอเปิด on แล้วไฟ เอนจิ้น ไฟแบต จะขึ้นไม่ดับครับ จนกว่าจะ สตาร์ท จึงจะดับ แล้วอย่างนี้ผิดปกติไหมครับ ไฟแบตจะดับต่อเมื่อเครื่องติดแล้วเท่านั้นครับ อันนี้ปกติส่วนไฟอินจิ้น จะดับลงพร้อมกับปั้มติ๊กหยุดทำงาน ในกรณีที่เปิดกุจแจ แล้วรอซักพักจะได้ยินเสียงรีเลย์ปั้มติ๊กดังแล้วไฟอินจิ้นจะต้องดับถ้าไม่ดับ อาจจะมาจากกล่องเองหรือเซนเซอร์บางตัว ลองถอดขั้วแบตออกแล้วเปิดกุจแจออนซัก ห้านาทีแล้วใส่ขั้วแบตคืนแล้วลองดูอาการอีกีครับ หัวข้อ: Re: ขอถามเป็นความรู้เกี่ยวกับการสตาร์ทเครื่องที่ถูกวิธี เริ่มหัวข้อโดย: MANX ที่ 11 สิงหาคม 2011, 23:03:54 จริงครับ.. ;) EK ตอนสตาร์ทรอให้ไฟหน้าปัทม์ดับก่อนค่อยบิดกุญแจสตาร์ทครับ เพื่อที่ว่าให้ไฟจากแบตฯมันวิ่งไปไดสตาร์ทและเชค error ต่างๆของ ECU ครับ อีกอย่างเป็นการรักษาแบตฯด้วยนะครับ ผมทำแบบนี้มานานมากแล้วแบตฯลูกนึงใช้ได้เกินสองปีเป็นอย่างต่ำ ถ้าสตาร์ททันทีปีเดียวแบตฯก็เริ่มเสื่อมแล้วครับ เห็นด้วยครับแบตรถผมเกินสองปีแล้วครับ :) หัวข้อ: Re: ขอถามเป็นความรู้เกี่ยวกับการสตาร์ทเครื่องที่ถูกวิธี เริ่มหัวข้อโดย: Tassanai ที่ 11 สิงหาคม 2011, 23:23:12 ไฟแบตจะดับต่อเมื่อเครื่องติดแล้วเท่านั้นครับ อันนี้ปกติ ขอบคุณมากครีบ หายแล้วครับส่วนไฟอินจิ้น จะดับลงพร้อมกับปั้มติ๊กหยุดทำงาน ในกรณีที่เปิดกุจแจ แล้วรอซักพักจะได้ยินเสียงรีเลย์ปั้มติ๊กดังแล้วไฟอินจิ้นจะต้องดับถ้าไม่ดับ อาจจะมาจากกล่องเองหรือเซนเซอร์บางตัว ลองถอดขั้วแบตออกแล้วเปิดกุจแจออนซัก ห้านาทีแล้วใส่ขั้วแบตคืนแล้วลองดูอาการอีกีครับ หัวข้อ: Re: ขอถามเป็นความรู้เกี่ยวกับการสตาร์ทเครื่องที่ถูกวิธี เริ่มหัวข้อโดย: Regis100 ที่ 11 สิงหาคม 2011, 23:33:00 ขอบคุณมากครีบ หายแล้วครับ :) :) :) :)หัวข้อ: Re: ขอถามเป็นความรู้เกี่ยวกับการสตาร์ทเครื่องที่ถูกวิธี เริ่มหัวข้อโดย: dazz_nakrab ที่ 15 สิงหาคม 2011, 21:13:16 ไฟแบตจะดับต่อเมื่อเครื่องติดแล้วเท่านั้นครับ อันนี้ปกติ โหความรู้ใหม่ครับ เพิ่งรู้ว่าเวลาถอดขั้วแบตออกแล้วต้องบิดสวิทช์กุญแจไปที่ตำแหน่ง on ด้วยเหรอครับคิดว่าถอดออกเฉยๆแล้วก็ใส่เลย ::) ::)ส่วนไฟอินจิ้น จะดับลงพร้อมกับปั้มติ๊กหยุดทำงาน ในกรณีที่เปิดกุจแจ แล้วรอซักพักจะได้ยินเสียงรีเลย์ปั้มติ๊กดังแล้วไฟอินจิ้นจะต้องดับถ้าไม่ดับ อาจจะมาจากกล่องเองหรือเซนเซอร์บางตัว ลองถอดขั้วแบตออกแล้วเปิดกุจแจออนซัก ห้านาทีแล้วใส่ขั้วแบตคืนแล้วลองดูอาการอีกีครับ หัวข้อ: Re: ขอถามเป็นความรู้เกี่ยวกับการสตาร์ทเครื่องที่ถูกวิธี เริ่มหัวข้อโดย: Regis100 ที่ 15 สิงหาคม 2011, 23:17:01 โหความรู้ใหม่ครับ เพิ่งรู้ว่าเวลาถอดขั้วแบตออกแล้วต้องบิดสวิทช์กุญแจไปที่ตำแหน่ง on ด้วยเหรอครับคิดว่าถอดออกเฉยๆแล้วก็ใส่เลย ::) ::) ออนกุจแจให้มันมีโหลดอ่ะครับ คล้ายๆช๊อคให้ไฟที่ค้างเลี้ยงหน่วยความจำมันหมดไวๆ เท่านั้นเอง จะไม่ออนกุจแจก็ได้ครับแต่อาจจะต้องถอดทิ้งไว้นานหน่อย จาก 10 เป็น5 อะไรแบบนี้ แต่เรื่องเวลานี่ไม่มีตายตัวรถบางคันระบบเครื่องเสียงเยอะ ถอดแป๊บเดียวกล่องก็ล้างข้อมูลหมดล่ะ เรื่องตรงนี้ไม่ต้องซีเรียสครับหัวข้อ: Re: ขอถามเป็นความรู้เกี่ยวกับการสตาร์ทเครื่องที่ถูกวิธี เริ่มหัวข้อโดย: dazz_nakrab ที่ 16 สิงหาคม 2011, 11:47:20 ออนกุจแจให้มันมีโหลดอ่ะครับ คล้ายๆช๊อคให้ไฟที่ค้างเลี้ยงหน่วยความจำมันหมดไวๆ เท่านั้นเอง จะไม่ออนกุจแจก็ได้ครับแต่อาจจะต้องถอดทิ้งไว้นานหน่อย จาก 10 เป็น5 อะไรแบบนี้ แต่เรื่องเวลานี่ไม่มีตายตัวรถบางคันระบบเครื่องเสียงเยอะ ถอดแป๊บเดียวกล่องก็ล้างข้อมูลหมดล่ะ เรื่องตรงนี้ไม่ต้องซีเรียสครับ ชัดเจนครับ :)หัวข้อ: Re: ขอถามเป็นความรู้เกี่ยวกับการสตาร์ทเครื่องที่ถูกวิธี เริ่มหัวข้อโดย: neang ที่ 16 สิงหาคม 2011, 12:12:11 ความรู้ทั้งนี้น............ :D :D :D
|