:::CIVIC CLUB THAILAND:::

คุยคุ้ย Civic => Civic Club Cafe => ห้องนั่งเล่น => ข้อความที่เริ่มโดย: KING 99 ที่ 24 กรกฎาคม 2007, 16:22:03



หัวข้อ: ข่าวดี หนี้น้ำมันหมดแน่นอน ไตรมาส 1 ปีหน้า
เริ่มหัวข้อโดย: KING 99 ที่ 24 กรกฎาคม 2007, 16:22:03
  ข่าวดี หนี้น้ำมันหมดแน่นอน ไตรมาส 1 ปีหน้า

    การเข้ามาบริหารประเทศ ของรัฐบาลพลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี เมื่อปลายปี 2549 และกระทรวงพลังงานภายใต้การดำเนินงานของ นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ส่วนหนึ่งของนโยบายพลังงาน คือ มาตรการเร่งชำระหนี้การตรึงค่าน้ำมันให้หมดสิ้นโดยเร็ว โดยเมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2549 ที่ผ่านมา การประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ที่มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เป็นประธาน จึงมีมติเห็นชอบให้ปรับอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงของน้ำมันเบนซิน น้ำมันแก๊สโซฮอล์ น้ำมันดีเซล และไบโอดีเซล จากเพดานสูงสุดไม่เกิน 2.50 บาทต่อลิตร เป็นไม่เกิน 4 บาทต่อลิตร เพื่อเตรียมไว้สำรองสำหรับการชำระหนี้การตรึงราคาน้ำมันที่ผ่านมา (ปี 2547-2548) และใช้สำหรับการส่งเสริมพลังงานทดแทนน้ำมัน ได้แก่ น้ำมันแก๊สโซฮอล์และไบโอดีเซล การเพิ่มเพดานการเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ทำให้ปัจจุบันน้ำมันเบนซินออกเทน 95 ส่งเงินเข้ากองทุน จำนวน 3.46 บาทต่อลิตร เบนซินออกเทน 91 ส่งเงินเข้ากองทุน 3.26 บาทต่อลิตร น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 ส่งเงินเข้ากองทุน 60 สตางค์ต่อลิตร น้ำมันดีเซล ส่งเงินเข้ากองทุน 1.50 บาทต่อลิตร และน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว B5 (ไบโอดีเซล) ส่งเงินเข้ากองทุน 30 สตางค์ต่อลิตร ส่งผลให้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงมีเงินไหลเข้าประมาณเดือนละ 3,900 ล้านบาท และเป็นเหตุผลที่ทำให้การชำระหนี้ของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง จากเดิมเมื่อปลายปีงบประมาณ 2549 ที่รัฐบาลชุดนี้เข้ามาบริหารประเทศ มีหนี้สินสุทธิอยู่ประมาณ 50,000 ล้านบาท ตอนนี้เหลือเพียง 25,000 ล้านบาท และคาดว่าจะสามารถชำระหนี้ดังกล่าวได้หมดภายในมีนาคม 2551

กระทรวงพลังงาน ติดตามสถานการณ์น้ำมันใกล้ชิด เชื่อ มิ.ย. 50 ราคาน้ำมันเบนซินลดลง นาย ปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า

    ขณะนี้กระทรวงพลังงานไม่ได้นิ่งนอนใจต่อปัญหาราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้น และติดตามสถานการณ์การเมืองในตะวันออกกลางอย่างใกล้ชิด โดยราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้นในส่วนของน้ำมันเบนซินเป็นหลัก ขณะที่ดีเซลยังปรับขึ้นไม่สูงมากนัก ซึ่งปัจจัยหลักมาจากราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ได้ปรับขึ้น โดยการลดกำลังผลิตน้ำมันของกลุ่มประเทศที่ส่งออกน้ำมันหรือโอเปก มีผลให้การผลิตน้ำมันดิบต่ำกว่าที่ควรวันละ 1.2 ล้านบาร์เรล สถานการณ์ความไม่สงบในประเทศไนจีเรีย ที่ทำให้กำลังผลิตลดลงอีก 8 แสนบาร์เรลต่อวัน รวมถึงปัญหาที่ยืดเยื้อจากการทำสงครามในประเทศอิรักที่ยังไม่มีทีท่าจะสงบลง นอกจากนี้ ปัจจุบันเป็นช่วงที่โรงกลั่นน้ำมันขนาดใหญ่ หยุดเพื่อทำการซ่อมบำรุงรักษาประจำปี ประกอบกับความต้องการน้ำมันเบนซินของโลกเพิ่มขึ้นตามฤดูกาล เนื่องจากเป็นฤดูท่องเที่ยวของสหรัฐฯ และยุโรป จึงส่งผลให้สำรองน้ำมันเบนซินในประเทศสหรัฐอเมริกาลดลงต่ำสุดในรอบ 20 ปี ส่วนความกังวลในการเข้าไปตรวจสอบอาวุธนิวเคลียร์ของสหประชาชาติ ยังไม่เป็นปัจจัยสำคัญต่อการปรับเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมันเพราะมติคณะมนตรีความมั่นคงสหประชาชาติ ยังไม่มีผลต่อการค้าทั่วไปของประเทศอิหร่าน อย่างไรก็ตามเชื่อว่าราคาน้ำมันเบนซินจะเริ่มเข้าสู่ระดับปรกติหลังจากเดือนมิถุนายน 2550 นี้

    รัฐยืนยันไม่เคยแทรกแซงราคาน้ำมัน ระบุโครงสร้างราคาน้ำมันไทยสะท้อนต้นทุนทื่แท้จริง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า

    จากราคาน้ำมันเบนซินที่สูงขึ้นรัฐคงไม่เข้าไปแทรกแซงราคาแต่อย่างใด เพราะเห็นได้ชัดเจนจากผลเสียของการตรึงราคาน้ำมันที่ผ่านมาทำให้เกิดภาระหนี้แก่ประชาชนจำนวนมาก และประชาชนไม่เกิดการประหยัดพลังงาน ทั้งนี้ โครงสร้างราคาน้ำมันไทย โดยเฉพาะน้ำมันเบนซิน 95 นั้น ในส่วนของเนื้อน้ำมัน จะอยู่ที่ระดับ 20.30 บาทต่อลิตร รวมกับค่าการตลาดอีกประมาณ 50 สตางค์ต่อลิตร เป็น 20.80 บาทต่อลิตร ส่วนที่เหลือ คือภาษีต่าง ๆ ได้แก่ ภาษีสรรพสามิต ภาษีเทศบาล ภาษีมูลค่าเพิ่ม ซึ่งเป็นภาษีปกติ และเงินส่งเข้ากองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ซึ่งใช้สำหรับการพัฒนาพลังงานทดแทนภายในประเทศและสร้างสิ่งแวดล้อมที่ดีขึ้นให้กับประเทศ และที่สำคัญคือเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงของเบนซินในระดับ 3.46 บาทต่อลิตร เพื่อชดเชยหนี้กองทุนน้ำมันที่มีอยู่



หัวข้อ: Re: ข่าวดี หนี้น้ำมันหมดแน่นอน ไตรมาส 1 ปีหน้า
เริ่มหัวข้อโดย: Ray ที่ 24 กรกฎาคม 2007, 17:03:02
ดีมากเลยครับ ท่าน KING