:::CIVIC CLUB THAILAND:::

มุมสมาชิก => Civic Club Travel => ข้อความที่เริ่มโดย: Uncle_T ที่ 17 มีนาคม 2010, 23:32:25



หัวข้อ: สงกรานต์หลวงพระบาง 52 (day 4 "เชียงแมน" 12 เมสา 2009)
เริ่มหัวข้อโดย: Uncle_T ที่ 17 มีนาคม 2010, 23:32:25
ทริปนี้เราออกเดินทางจากกรุงเทพคืนวันที่ 8 เมษายน 52 และเริ่มรีวิว ในวันที่ 9 จนถึงวันที่ 18 ครับ เชิญชมแต่ละวันได้ตาม URL ข้างล่างนะครับ

วันที่  9 เมสา 2009 ที่ http://www.welovecivic.com/forum/index.php/topic,55189.0.html
วันที่ 10 เมสา 2009 ที่ http://www.welovecivic.com/forum/index.php/topic,55625.0.html
วันที่ 11 เมสา 2009 ที่ http://www.welovecivic.com/forum/index.php/topic,55917.0.html

 มาเรียนภาษาลาวกันเถอะ


หัวข้อ: Re: สงกรานต์หลวงพระบาง 52 (day 4 "เชียงแมน" 12 เมสา 2009)
เริ่มหัวข้อโดย: Uncle_T ที่ 17 มีนาคม 2010, 23:44:56
12 เมษายน 2552  ยังคงพักอยู่ที่เฮือนพักสักกะลิน หลวงพระบาง

ผมตื่นตอนที่ตาไก่กลับมา นึกขึ้นได้ว่าจะไปตักบาตรข้าวเหนียว ไม่ต้องอาบน้ำแปรงฟันละครับ คว้ากล้องได้รีบเดินออกมาที่ถนน เลี้ยวซ้ายตรงไปทางหน้าโรงเรียนอนุบาล

พระกำลังเดินบิณฑบาตรอยู่พอดี ถ่ายได้ไม่กี่รูป ยังไม่ได้หาซื้อข้าวเหนียวเลย พระไปหมดแล้ว ที่นี่พระท่านเดินเร็วมาก

สังเกตุดูให้ดีเด็กที่ใส่เสื้อสีชมพู  สองปีที่แล้วผมก็มาใส่บาตรตรงนี้ ยังไม่มีเด็กพวกนี้ แต่มาปีนี้มีนับสิบคนตรงจุดนี้ เราใส่บาตร พอพระเดินมาถึงเด็กพวกนี้ พระจะจกข้าวเหนียวบางทีกล้วยออกจากบาตรใส่ลงไปในกระบุงหรือกล่องที่เด็กวางอยู่ ? ? ? ?



หัวข้อ: Re: สงกรานต์หลวงพระบาง 52 (day 4 "เชียงแมน" 12 เมสา 2009)
เริ่มหัวข้อโดย: Uncle_T ที่ 17 มีนาคม 2010, 23:49:35
พระไปหมด ผมก็เลยต้องกลับมาที่ห้องพัก ชวนไก่ออกไปหาข้าวเช้ากินก่อน ค่อยกลับมานอน  วันนี้ก็เดินผ่านตลาดเช้าเหมือนเดิม แต่มีฝนนิดหน่อย ในตลาดก็ยังเป็นที่สนใจของตาไก่อยู่เหมือนเดิม


หัวข้อ: Re: สงกรานต์หลวงพระบาง 52 (day 4 "เชียงแมน" 12 เมสา 2009)
เริ่มหัวข้อโดย: Uncle_T ที่ 17 มีนาคม 2010, 23:55:40
เดินทะลุตลาดสด ออกมามีร้านขายเฝ๋อ 2-3 ร้านคนแน่น เลยไปต่อถึงร้านกาแฟประชานิยมเหมือนเดิม  ที่วางเหมือนท่อนฟืนอยู่หน้าร้านในภาพมุมล่างซ้ายก็คือ "บาแก๊ตต์" ขนมปังมรดกที่ฝรั่งเศสทิ้งไว้ให้ลาวมาจนทุกวันนี้  

โปรดสังเกตุมาดตาไก่ซะก่อน มีการหมุนกลับมาเหล่สาวหน้าร้านเฝ๋ออีก....555


หัวข้อ: Re: สงกรานต์หลวงพระบาง 52 (day 4 "เชียงแมน" 12 เมสา 2009)
เริ่มหัวข้อโดย: Uncle_T ที่ 18 มีนาคม 2010, 00:01:05
เสร็จจากอาหารเช้าเดินข้ามถนนมาเห็นที่พักริมน้ำ "หลวงพระบาง ริเวอร์ลอดจ์" สวยดีแต่แพงอ่ะ  

ตรงนี้ใกล้กับท่าเรือหลวงพระบางนิดเดียว เรามองข้ามไปอีกฝั่งของแม่น้ำโขง ที่เรียกว่า "ฝั่งเชียงแมน"   แค่น้ำขวางกัน แต่ความเจริญห่างกันไกลกับหลวงพระบาง  

วันนี้เราจะข้ามไปดู


หัวข้อ: Re: สงกรานต์หลวงพระบาง 52 (day 4 "เชียงแมน" 12 เมสา 2009)
เริ่มหัวข้อโดย: Uncle_T ที่ 18 มีนาคม 2010, 00:11:33
จากนั้นเดินกลับที่พักนอนเอาแรงก่อน backpack มันก็ดีอย่างนี้ละครับ ไม่เหมือนชะโงกทัวร์ ทุกอย่างตามใจเรา

ขาเดินกลับ ลัดผ่าน "วัดโพนชัยชนะสงคราม" ข้างตลาดสด เป็นวัดสวยงามอีกวัด

ใกล้วันสรงน้ำพระ ทุกวัดจะขนเอา อุปกรณ์อย่างหนึ่งเป็นรางน้ำ สลักลวดลายพญานาคสีทองอร่ามตา เข้าไปถามเณร ได้ความว่าเป็นอุปกรณ์สำหรับให้ชาวบ้านมาเทน้ำลงด้านหางพญานาค น้ำจะไหลไปส่วนหัวพญานาคซึ่งจะมีช่องน้ำไหลลงสู่พระพุทธรูปที่ตั้งไว้บริเวณนั้น ดีไปอย่างนะครับ จะได้ไม่เผลอเอาขันไปโดนหัวองค์พระพุทธรูปเหมือนบางประเทศ


หัวข้อ: Re: สงกรานต์หลวงพระบาง 52 (day 4 "เชียงแมน" 12 เมสา 2009)
เริ่มหัวข้อโดย: Uncle_T ที่ 18 มีนาคม 2010, 00:17:18
บนทางเดินกลับที่พัก โรงแรมรามายะนะ ติดป้ายหน้าทางเข้าโรงแรม "ห้ามจอดรถและขายของตรงทางเข้าหน้าโรงแรมอย่างเด็ดขาด" ? , ซอยข้างพิพิธภัณฑ์ , หน้าหอศิลปหลวงพระบาง และ หน้าวัดใหม่


หัวข้อ: Re: สงกรานต์หลวงพระบาง 52 (day 4 "เชียงแมน" 12 เมสา 2009)
เริ่มหัวข้อโดย: Uncle_T ที่ 18 มีนาคม 2010, 00:25:15
เห็นร้านข้างทางขายธงชาติลาว และธงค้อนเคียว ตาไก่สนใจเดินเข้าไปซื้อ แถมของขึ้นถอดเสื้อโชว์ เอ๊ยไม่ใช่ เสื้อตัวที่ใส่ซื้อจากตลาดคนเดินเมื่อคืนยังไม่ทันได้ซัก ตรงจั๊กกะแร้ ขาดซะแล้ว เลยถอดมาให้ร้านที่ขายธงช่วยเย็บให้ อีกร้านเห็นแม่ค้าสวยน่ารักเลยหาเรื่องซื้อถุงใส่โทรศัพท์กันน้ำ...

เกือบเก้าโมงเช้าต่างคนก็กลับเข้าไปนอนต่อ ตื่นมาอีกทีเที่ยงพอดี.....อิจฉามั๊ยครับท่านผู้ชม


หัวข้อ: Re: สงกรานต์หลวงพระบาง 52 (day 4 "เชียงแมน" 12 เมสา 2009)
เริ่มหัวข้อโดย: Uncle_T ที่ 19 มีนาคม 2010, 21:35:19
ตื่นนอนอาบน้ำอาบท่าเสร็จ ออกจากที่พัก เดินมุ่งหน้าไปทางแม่น้ำ ผ่าน "วัดป่าไผ่มีชัยยาราม"


หัวข้อ: Re: สงกรานต์หลวงพระบาง 52 (day 4 "เชียงแมน" 12 เมสา 2009)
เริ่มหัวข้อโดย: Uncle_T ที่ 19 มีนาคม 2010, 21:38:32
ซุ้มประตูโบสถ์ ของวัดป่าไผ่ฯ อลังการณ์มาก บริเวณภายในวัดก็แสนสงบร่มรื่น


หัวข้อ: Re: สงกรานต์หลวงพระบาง 52 (day 4 "เชียงแมน" 12 เมสา 2009)
เริ่มหัวข้อโดย: Uncle_T ที่ 19 มีนาคม 2010, 21:42:56
ออกจากวัดป่าไผ่ฯ ไปท่าน้ำมีที่พักสวย ๆ หลายแห่งราคาไม่แพง เช่นเฮีอนพักป่าไผ่ , วิลล่าดวงจำปา และ แม่โขงริเวอร์ไซด์ เป็นต้น


หัวข้อ: Re: สงกรานต์หลวงพระบาง 52 (day 4 "เชียงแมน" 12 เมสา 2009)
เริ่มหัวข้อโดย: Uncle_T ที่ 19 มีนาคม 2010, 21:49:40
ถึงริมน้ำแวะหาอาหารกลางวันแถวนั้นมีหลายร้าน นั่งมองวิวข้ามไปฝั่งเชียงแมน ตรงที่เห็นบนเนินเขาคือ "วัดจอมเพ็ด"  ส่วนดอนทรายกลางลำน้ำจะเห็นเพิงชั่วคราวที่สร้างขึ้นใหม่


หัวข้อ: Re: สงกรานต์หลวงพระบาง 52 (day 4 "เชียงแมน" 12 เมสา 2009)
เริ่มหัวข้อโดย: Uncle_T ที่ 19 มีนาคม 2010, 21:51:33
วิวกลางลำน้ำโขงระหว่างข้ามเรือ


หัวข้อ: Re: สงกรานต์หลวงพระบาง 52 (day 4 "เชียงแมน" 12 เมสา 2009)
เริ่มหัวข้อโดย: Uncle_T ที่ 19 มีนาคม 2010, 21:54:19
ข้ามมาถึงฝั่งเชียงแมน แล้วถ่ายรูปย้อนกลับไปฝั่งหลวงพระบาง เป็น Panorama เล็ก ๆ รูปหนึ่ง


หัวข้อ: Re: สงกรานต์หลวงพระบาง 52 (day 4 "เชียงแมน" 12 เมสา 2009)
เริ่มหัวข้อโดย: Uncle_T ที่ 19 มีนาคม 2010, 22:02:26
เรือมาส่งเราขึ้นฝั่งที่ท่าน้ำ "วัดเชียงแมนชัยยะเสดถาราม" พอดี ชุมชนฝั่งนี้ไม่เจริญเท่าฝั่งโน้นแต่สงบกว่า มีถนนเลนเดียว กว้างพอให้มอเตอร์ไซค์วิ่งสบาย ๆ เท่านั้น ไม่มีรถยนต์แม้คันเดียว


หัวข้อ: Re: สงกรานต์หลวงพระบาง 52 (day 4 "เชียงแมน" 12 เมสา 2009)
เริ่มหัวข้อโดย: Uncle_T ที่ 19 มีนาคม 2010, 22:05:02
ซุ้มประตูโบสถ์ และพระประธานภายใน สวยงามตามแบบฉบับล้านช้าง

พรุ่งนี้มาต่อนะครับ


หัวข้อ: Re: สงกรานต์หลวงพระบาง 52 (day 4 "เชียงแมน" 12 เมสา 2009)
เริ่มหัวข้อโดย: Uncle_T ที่ 20 มีนาคม 2010, 22:09:20
ออกจากวัดเดินเข้าไปในหมู่บ้าน เราเตรียมขนม สมุดวาดเขียน และ ดินสอสีจากเมืองไทยมาแจกเด็ก ๆ ที่นี่ด้วย


หัวข้อ: Re: สงกรานต์หลวงพระบาง 52 (day 4 "เชียงแมน" 12 เมสา 2009)
เริ่มหัวข้อโดย: Uncle_T ที่ 20 มีนาคม 2010, 22:33:45
เราเจอเด็กบ้านแรก ก็ถามว่าโรงเรียนอยู่ตรงไหน แล้วแจกขนมและสมุดดินสอไปชุดแรก

จากนั้นเดินไปที่ "โรงเรียนประถมสมบูรณ์บ้านเชียงแมน" วันนี้ปรากฏว่าโรงเรียนปิด แต่สักพักมีทั้งเด็กและผู้ใหญ่ตามเรามาที่หน้าโรงเรียน ก็เลยแจกกันตรงนั้น


หัวข้อ: Re: สงกรานต์หลวงพระบาง 52 (day 4 "เชียงแมน" 12 เมสา 2009)
เริ่มหัวข้อโดย: Uncle_T ที่ 20 มีนาคม 2010, 22:48:13
ของแจกยังไม่หมด เดินมาถึงสามแยกมีร้านปิ้งเครื่องในเป็นไม้ขาย เลยแวะแจกของที่นี่จนหมด ตาไก่ถือโอกาสอุดหนุนปิ้งไก่ด้วย

โปรดสังเกตุอาชีพทำเล็บ ฝั่งนี้ยังมีอีก ภาพแรกมีลูกค้านั่งรอทำ 1 คน กำลังทำ 1 คน แต่ละคนเอาเท้าแช่ในขันพลาสติกคนละข้าง แปลกดีนะ


หัวข้อ: Re: สงกรานต์หลวงพระบาง 52 (day 4 "เชียงแมน" 12 เมสา 2009)
เริ่มหัวข้อโดย: Uncle_T ที่ 20 มีนาคม 2010, 22:55:28
พักเดียวแค่พอทำเล็บเสร็จ บริเวณนั้นก็เต็มไปด้วยทั้งเด็กและผู้ใหญ่


หัวข้อ: Re: สงกรานต์หลวงพระบาง 52 (day 4 "เชียงแมน" 12 เมสา 2009)
เริ่มหัวข้อโดย: Uncle_T ที่ 20 มีนาคม 2010, 23:13:19
จากสามแยกเดินต่อไปอีกนิดก็จะเป็นท่าเรือข้ามฟากไปฝั่งหลวงพระบาง ตรงทางลงท่าน้ำ จะมีป้ายประกาศของทางการ พยายามอ่านแล้วแปลกดี สักพักก็มีชาวบ้านหาบปลาขึ้นมาจากแม่น้ำ ตัวใหญ่ไม่เบาเลย


หัวข้อ: Re: สงกรานต์หลวงพระบาง 52 (day 4 "เชียงแมน" 12 เมสา 2009)
เริ่มหัวข้อโดย: Uncle_T ที่ 20 มีนาคม 2010, 23:21:28
เราเดินมาสุดบ้านเชียงแมน (เมืองจอมเพ็ด)  ด้านใต้แล้ว แต่ความที่เรือตอนมาส่งเราครั้งแรก ดันมาขึ้นกลางหมู่บ้าน ฉนั้นเราจึงต้องเดินย้อนกลับไปที่วัดเชียงแมน และเดินมุ่งหน้าไปทางเหนืออีก ในภาพเป็นร้านตัดผม "ลมโชยบาร์เบอร์" ระหว่างทาง ผมตั้งให้เองละ...


หัวข้อ: Re: สงกรานต์หลวงพระบาง 52 (day 4 "เชียงแมน" 12 เมสา 2009)
เริ่มหัวข้อโดย: Uncle_T ที่ 20 มีนาคม 2010, 23:27:28
ก๊อกน้ำประปาสาธารณะของหมู่บ้าน ถือว่าระบบสาธารณะสุขของที่นี่ดีขึ้นมากพอสมควร


หัวข้อ: Re: สงกรานต์หลวงพระบาง 52 (day 4 "เชียงแมน" 12 เมสา 2009)
เริ่มหัวข้อโดย: Uncle_T ที่ 20 มีนาคม 2010, 23:40:53
บรรยากาศระหว่างเดินย้อนกลับไปทางเหนือ แค่เลยวัดไปนิดเดียว ก็สุดถนนปูน กลายเป็นถนนดิน เดิม ๆ จริง ๆ


หัวข้อ: Re: สงกรานต์หลวงพระบาง 52 (day 4 "เชียงแมน" 12 เมสา 2009)
เริ่มหัวข้อโดย: Uncle_T ที่ 21 มีนาคม 2010, 00:01:32
ชาวบ้านมุงดูแม่ค้าเอาปลาหมึกแห้งมาขาย สินค้าที่มาจากทะเลไกลแสนไกล

แล้วเหยื่อกล้องตาไก่ก็วิ่งเขามาหา แกร้องว่า "ขอบิ๊ก ๆ"  ยืนคิดอยู่ตั้งนานว่าแกขออะไร

จนพี่สาวแกวิ่งมาหลังจากซักถาม บิ๊ก ก็คือ ปากกาบิ๊ค ยี่ห้อหนึ่งที่เลือนหายไปจากประเทศไทยแล้ว


หัวข้อ: Re: สงกรานต์หลวงพระบาง 52 (day 4 "เชียงแมน" 12 เมสา 2009)
เริ่มหัวข้อโดย: Uncle_T ที่ 21 มีนาคม 2010, 00:19:56
เดินต่อไป สภาพทางยิ่งแคบและข้างทางรกทึบขึ้น ไม่ใช่ถนนแต่เป็นแค่ทางเดิน ในที่สุดเราก็มาถึง "วัดจอมเพ็ด"  วัดร้างที่ไม่มีพระสงฆ์ ระหว่างทางมียุวมัคคุเทศน์ มาเสนอตัวนำเที่ยววัดเหมือนเมืองไทยเลย

ตรงตีนบันไดขึ้นสู่วัด หันกลับมาอีกฝั่งเราจะเห็นยอดภูสีอยู่ใจกลางเมืองหลวงพระบาง


หัวข้อ: Re: สงกรานต์หลวงพระบาง 52 (day 4 "เชียงแมน" 12 เมสา 2009)
เริ่มหัวข้อโดย: Uncle_T ที่ 21 มีนาคม 2010, 00:30:36
ที่บันไดทางขึ้น จะมี (เจ้าหน้าที่) เก็บค่าเข้าชมวัดคนละ 5,000 กีบ พร้อมขายผ้าปักเป็นของที่ระลึกให้นักท่องเที่ยวด้วย ส่วนน้องเสื้อน้ำเงินเป็นมัคคุเทศของเรา


หัวข้อ: Re: สงกรานต์หลวงพระบาง 52 (day 4 "เชียงแมน" 12 เมสา 2009)
เริ่มหัวข้อโดย: Uncle_T ที่ 21 มีนาคม 2010, 00:51:44
ความที่ สว. ไปหน่อย ทำให้ผมเดินขึ้นไปถึงข้างบนช้ากว่าคนอื่น(ก็บันไดตั้งร้อยกว่าขั้นน่ะ) พอเข้าไปภายในพระอุโบสถ ภาพที่เห็นน่าเสียดายที่สภาพทรุดโทรมมาก ไกด์ตัวน้อยของเรามีรำโชว์ให้ดูด้วย เสร็จแล้วออกมานั่งถ่ายรูปข้างหลังเป็นวิวแม่น้ำโขง จากมุมสูง


หัวข้อ: Re: สงกรานต์หลวงพระบาง 52 (day 4 "เชียงแมน" 12 เมสา 2009)
เริ่มหัวข้อโดย: Uncle_T ที่ 21 มีนาคม 2010, 01:18:01
จากวัดจอมเพ็ด ไกด์ตัวน้อยพาเราเดินสู่ "วัดล่องคูณ"   พอไปถึงสะพานที่จะข้ามคูน้ำไปสู่วัดแกก็บอกว่า พาต่อไปไม่ได้ เพราะคนละเขต เรามองเห็นข้างหน้ามีเด็กอีกคนยืนรออยู่ถึงเข้าใจ เรายังไม่ได้จ่ายค่าเหนื่อยเด็ก แกก็บอกจะรอที่สะพาน


หัวข้อ: Re: สงกรานต์หลวงพระบาง 52 (day 4 "เชียงแมน" 12 เมสา 2009)
เริ่มหัวข้อโดย: Uncle_T ที่ 21 มีนาคม 2010, 01:21:35
เราข้ามสะพานสู่เขตวัดล่องคูณโดยไม่เอาไกด์อีกคน เพราะกะว่าจะดูไม่นาน ตัววัดร่มรื่น สงบมาก ไม่มีถนนให้รถยนต์เข้ามาได้ นอกจากทางเรือ และทางเดินที่เราเข้ามา


หัวข้อ: Re: สงกรานต์หลวงพระบาง 52 (day 4 "เชียงแมน" 12 เมสา 2009)
เริ่มหัวข้อโดย: Uncle_T ที่ 21 มีนาคม 2010, 01:33:05
เป็นอีกจุดหนึ่ง ที่วัดอยู่ริมฝั่งโขง เลยได้ภาพพาโนราม่า จากวัดล่องคูณ มาฝั่งท่าน้ำวัดเชียงทอง ของหลวงพระบาง


หัวข้อ: Re: สงกรานต์หลวงพระบาง 52 (day 4 "เชียงแมน" 12 เมสา 2009)
เริ่มหัวข้อโดย: Uncle_T ที่ 21 มีนาคม 2010, 02:12:47
เย็นมากแล้ว ถึงเวลาต้องกลับ เด็ก ๆ ยังรออยู่ที่สะพาน เราจ่ายเงินแกไป 80 บาท (จากที่แกเรียกตอนแรก 5 พันกีบ)

เวลาที่เด็กอยู่กับเราประมาณ 2 ชั่วโมง แถมดอกไม้สีส้มที่แกถือมาให้ไหว้พระ และยังยืนรอเราที่สะพานอีกตั้งนาน

แกจะได้ไปแบ่ง 2 คนกับพี่ชายที่ตามมาด้วยกัน เดินกลับได้สักระยะหนึ่งเด็กก็แยกตัวจากไป เพราะถึงบ้านแกที่อยู่ใกล้ ๆ


หัวข้อ: Re: สงกรานต์หลวงพระบาง 52 (day 4 "เชียงแมน" 12 เมสา 2009)
เริ่มหัวข้อโดย: Uncle_T ที่ 21 มีนาคม 2010, 02:22:02
ระหว่าทางตาไก่เจอนักเลงเหล่อยู่ข้างทาง...555

ภาพวิถีชิวิตชุมชนในเชียงแมนยามเย็น


หัวข้อ: Re: สงกรานต์หลวงพระบาง 52 (day 4 "เชียงแมน" 12 เมสา 2009)
เริ่มหัวข้อโดย: Uncle_T ที่ 21 มีนาคม 2010, 02:27:09
ในที่สุดเราก็เดินมาถึงท่าเรือฝั่งเชียงแมน รอจะข้ามกลับ ค่าเรือคนละ 5 พัน (ตอนมาโดนไปคนละหมื่นแต่ไม่ใช่ท่านี้) ส่วนฝรั่งคนหนึ่งเดินตามเราลงมาโดนไปหมื่นสองพันกีบ (ฉนั้นเพื่อน ๆ ไปหลวงพระบางขึ้นรถลงเรือถามให้แน่ใจก่อน)


หัวข้อ: Re: สงกรานต์หลวงพระบาง 52 (day 4 "เชียงแมน" 12 เมสา 2009)
เริ่มหัวข้อโดย: Uncle_T ที่ 21 มีนาคม 2010, 02:31:54
ท่าเรือฝั่งหลวงพระบางยามเย็น เรือโดยสาร (ส่วนใหญ่เป็นเรือช้า) จอดเรียงเป็นระเบียบเต็มไปหมด ดูยอดเสาธงที่ปักบนเรือแล้วบอกไม่ถูก มันเป็นกลุ่มก้อนปลิวไสว ไม่เหมือนบ้านเราที่แตกแยกร้าวลึกเข้าไปทุกที


หัวข้อ: Re: สงกรานต์หลวงพระบาง 52 (day 4 "เชียงแมน" 12 เมสา 2009)
เริ่มหัวข้อโดย: Uncle_T ที่ 21 มีนาคม 2010, 02:36:42
เดินขึ้นจากท่าน้ำสู่ที่พัก ผ่านเกสต์เฮาส์อีกแห่ง "เฮือนพักบัวคำ จันทะสัก" ห่างจากท่าน้ำไม่ถึง 50 เมตร


หัวข้อ: Re: สงกรานต์หลวงพระบาง 52 (day 4 "เชียงแมน" 12 เมสา 2009)
เริ่มหัวข้อโดย: Uncle_T ที่ 21 มีนาคม 2010, 02:49:24
เลยมาอีกนิดตลาดกลางคืนวางแผง รอรับนักท่องเที่ยวแล้ว  ข้อเท้าเริ่มออกอาการอีก กลับไปอาบน้ำที่ที่พักแล้วหาอาหารเย็นที่ "พิซซ่าหลวงพระบาง"  แวะเข้าร้านเน็ท ก่อนกลับห้องยังแวะไปซื้อเสื้อฝากตาโอมกะเจ้ามิวอีกคนละตัวตามสั่ง (วันนี้เหลือตัวละ 70 บาท)

ผมกลับมานอน ส่วนตาไก่ไปเต้นบัดสะหลบที่ร้าน "เมืองสวา"  วันนี้กลับไม่เช้าแฮะ....555

เรื่องตลกไม่ออก ตอนกลับเข้าไปอาบน้ำ มีแมงเม่าในห้องเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ปิดไฟก็ยังมาอีก ในที่สุดก็สังเกตุว่ามีรูอยู่ตรงมุมห้อง แมงเม่าออกมาจากรูนั้นเพิ่มจำนวนจนเด็กที่เฝ้าเกสต์เฮาส์เอายามาฉีด มันก็ไม่น้อยลง สุดท้ายเราต้องหอบกระเป๋าอพยพ เปลี่ยนห้อง ดีนะที่มีห้องว่างอีกห้อง ไม่งั้นอาจต้องย้ายที่พัก

จบการเดินทางวันที่ 12 เมษายน แล้วครับ ขอบคุณที่ติดตามชมครับ