หัวข้อ: พรบรถยนต์ กับ ภาษีรถ เริ่มหัวข้อโดย: barame ที่ 26 สิงหาคม 2009, 19:56:19 ขอถามพวกพี่ๆ ในนี้หน่อยครับ พอดีผมซื้อรถยนต์มือสองมา เมื่อ เดือนมีนาคม 2552 ป้ายทะเบียนภาษีรถยนต์หมดเดือน กันยายน 2552 แต่พอดีผมตรวจสอบกับบริษัทประกันภัยเค้าบอกว่า พรบ ผมขาดตั้งแต่ ตุลาคม 2552 แล้วอย่างงี้ผมจะโดนค่าปรับเท่าไรเหรอครับที่ไม่ต่อ พรบ
เพระวันก่อนเกิดอุบัติเหตุคุณตัวแทนประกันก็สุดยอดไม่สนใจคู่กรณีผมเลยบอกว่าหา พรบผมไม่เจอ รอหาเจอก่อนแล้วค่อยว่ากัน ทั้งๆ ที่คู่กรณีผมก็บาดเจ็บ บริษัท สิน....... เสียดายที่ผมทำประกันชั้น 1 แต่ไม่ได้ช่วยไกล่เกลี่ยให้ผมเลย ดังนั้นผมจึงอยากขอถามพวกพี่หน่อยครับว่า ผมจะโดนค่าปรับเท่าไรเหรอครับ เพราะต้องไปไกล่เกลี่ยกันที่โรงพักเมื่อคู่กรณีออกจาก รพ. (เมื่อผมรู้ว่า พรบ หมด ก็ได้รีบทำการต่อทันทีเลยครับ) ขอบคุณล่วงหน้าที่ให้คำตอบนะครับ หัวข้อ: Re: พรบรถยนต์ กับ ภาษีรถ เริ่มหัวข้อโดย: BugJhoY ที่ 26 สิงหาคม 2009, 20:45:52 พูดถึงเรื่อง ภาษี(ทะเบียน) Vs พรบ
และเมื่อเราต่อทะเบียนจะต้องมี พรบ ด้วยทุกครั้ง มันเป็นภาคบังคับ และส่วนมากเด่วนี้ พรบและทะเบียนจะหมดพร้อมกันครับ ภาษีนั้นมีค่าปรับ ร้อยละ1บาท ต่อเดือนครับ และ พรบ นั้นไม่มีค่าปรับใดๆทั้งสิ้น วงเงินในการรักษาจาก พรบ ถ้าจำไม่ผิดไม่น่าจะเกิน50000 แต่ถ้ามี ประกันชั้น1(ป.1) ก้อรักษาเกินนี้ได้ครับ ส่วนคนที่มาดูหน้างานของคุณแล้วไม่สนใจนั้นเราสามารถร้องเรียนบริษัทได้ครับ(คุณต้องแน่ใจก่อนนะว่ารถคุณมี ป1 คุ้มครองอยู่ ถ้าไม่มีเด่วหน้าแตก ) สำหรับ ป1 และ พรบ นั้นจะมีกรมธรรณ์อยู่คุณสามารถดูวันหมดอ่ายุได้ *****พรบ ผมขาดตั้งแต่ ตุลาคม 2552 ขาดตั้งแต่51 หรือ52 ครับ อันนี้มันเดือนสิงหา 52 อยู่เลยน๊าจาขาดด้ายงายอ่า งง ***** หัวข้อ: Re: พรบรถยนต์ กับ ภาษีรถ เริ่มหัวข้อโดย: Paris ที่ 26 สิงหาคม 2009, 21:39:09 ขอถามพวกพี่ๆ ในนี้หน่อยครับ พอดีผมซื้อรถยนต์มือสองมา เมื่อ เดือนมีนาคม 2552 ป้ายทะเบียนภาษีรถยนต์หมดเดือน กันยายน 2552 แต่พอดีผมตรวจสอบกับบริษัทประกันภัยเค้าบอกว่า พรบ ผมขาดตั้งแต่ ตุลาคม 2552 แล้วอย่างงี้ผมจะโดนค่าปรับเท่าไรเหรอครับที่ไม่ต่อ พรบ พรบ. หมดอายุ ไม่เสียค่าปรับ แต่จะไม่มีความคุ้มครองสำหรับบุคคลที่ 3 ในวงเงิน 15,000 ฿ แรก เราสามารถซื้อ พรบ. ให้หมดอายุตรงทะเบียน หรือ ประกันภาคสมัครใจต่าง ๆ ได้ จะเกินปี หรือไม่ถึงปี ก็ได้ เพระวันก่อนเกิดอุบัติเหตุคุณตัวแทนประกันก็สุดยอดไม่สนใจคู่กรณีผมเลยบอกว่าหา พรบผมไม่เจอ รอหาเจอก่อนแล้วค่อยว่ากัน ทั้งๆ ที่คู่กรณีผมก็บาดเจ็บ บริษัท สิน....... เสียดายที่ผมทำประกันชั้น 1 แต่ไม่ได้ช่วยไกล่เกลี่ยให้ผมเลย ดังนั้นผมจึงอยากขอถามพวกพี่หน่อยครับว่า ผมจะโดนค่าปรับเท่าไรเหรอครับ เพราะต้องไปไกล่เกลี่ยกันที่โรงพักเมื่อคู่กรณีออกจาก รพ. (เมื่อผมรู้ว่า พรบ หมด ก็ได้รีบทำการต่อทันทีเลยครับ) ขอบคุณล่วงหน้าที่ให้คำตอบนะครับ พรบ.ที่ซื้อใหม่ เมื่อทราบว่าขาด ไม่ทราบว่าของบริษัทเดียวกันกับประกันชั้น 1 หรือเปล่า ถ้าบริษัทเดียวกัน ก็จะสามารถหาได้จากบริษัทนั้น ๆ หากไม่ใช่ก็เอาใบเสร็จรับเงินของบริษัทประกันนั้น ๆ ไปติดต่อกับบริษัท เพื่อขอรายละเอียดกรมธรรม์ พรบ. และแจ้งเคลมต่อไป หากไม่สามารถหา พรบ. มาได้ ก็คงต้องจ่าย 15,000 ฿ แรกเอง และส่วนที่เกินค่อยเบิกจากประกันชั้น 1 อีกที ต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม PM มาถามได้ครับ ยินดีให้คำปรึกษา :) หัวข้อ: Re: พรบรถยนต์ กับ ภาษีรถ เริ่มหัวข้อโดย: barame ที่ 29 สิงหาคม 2009, 11:47:56 ขอบคุณมากครับทุกท่านที่มีตอบ ตอนนี้ผมโชคดีแล้วที่ติดต่อเจ้าของรถเดิมได้และหา พรบ เจอ + ยังไม่หมดอายุด้วย แต่ในระบบส่วนกลางของการเช็ค พรบ บอกของรถบ้าน พรบ ไม่มีการต่อขาดตั้งแต่ 08-2008 เวรกรรม วิ่งหา พรบแทบตาย ไปทั้งบริษัทประกันภัย -> ขนส่งหมอชิต ก็ไป เค้าบอกว่ารถผมต่อภาษี ที่ ศรีราชา ทางหมอชิตไม่มีข้อมูล ถ้าอยากได้ให้ไป ศรีราชา หาดู แล้วถ้าเจ้าของรถผมหา พรบ ไม่เจอ ผมไม่ต้องไป ศรีราชา หรือเนี่ย ??? ???
หัวข้อ: Re: พรบรถยนต์ กับ ภาษีรถ เริ่มหัวข้อโดย: barame ที่ 09 กันยายน 2009, 13:08:12 ขอ update ผลครับ ไปไกล่เกลี่ยกันที่ สน.บางรัก ตอนแรกประกันจะไม่รับผิดชอบคู่กรณีเพราะจากที่คุณตำรวจ ฉีดเส้นไว้ ณ ที่เกิดเหตุ มอเตอร์ไซค์วิ่ง สวนเลนมา และผมก็เลี้ยวขวาในที่ ๆ ห้ามเลี้ยว ดังนั้นทางประกันภัยจึงมองว่าเป็นการประมาณร่วม และที่ซวยไปกว่านั้นคือตัวผมซื้อรถตอน มี.ค. 52 และไฟแนน บังคับทำประกันสินมั่นคง ชั้น 1 ด้วย แต่ขณะเกิด ประกันชั้น 3 ++ ของ AZCP ยังไม่หมด และตามกฎกรมประกันเค้าบอกว่าถ้ามีประกันที่ไหนก่อนให้ที่แรกรับผิดชอบ
แต่ผมเห็นใจเค้าเพราะว่ามีการบาดเจ็บและสะโพกร้าว จะต้องเข้า ผ่าตัดจึงคุยกับรองผู้กำกับว่าขอเป็นคนรับผิดเอง 8) และเสียค่าปรับ 500 บาทและให้ประกันเคลียร์ค่าใช้จ่ายทั้งหมด แต่เรื่องไม่หมดแค่นั้นครับวันนี้คู่กรณีโทรมาหาผมบอกว่า ประกันจ่ายค่าสินไหมให้เค้า 4500 เนื่องจากเค้าประกอบอาชีพค้าขายและไม่มีสลิบเงินเดือน ทางคุ่กรณีจึงมาเรียกร้องจากผมอีก 4000 เพราะเค้าหวังว่าจะได้จากประกัน 10000 บาท ตอนแรกเค้าบอกผมว่าอยากได้จากผม 6000 ค่าทำขวัญ ผมจึงบอกว่าไปเรียกกับประกันแล้วกัน คำถามอย่างนี้ผมต้องให้เค้าหรือเปล่าครับรบกวนผู้มีประสบการณ์ช่วยแนะนำให้หน่อยครับ ขอบคุณครับ หัวข้อ: Re: พรบรถยนต์ กับ ภาษีรถ เริ่มหัวข้อโดย: Paris ที่ 11 กันยายน 2009, 16:24:22 ขอ update ผลครับ ไปไกล่เกลี่ยกันที่ สน.บางรัก ตอนแรกประกันจะไม่รับผิดชอบคู่กรณีเพราะจากที่คุณตำรวจ ฉีดเส้นไว้ ณ ที่เกิดเหตุ มอเตอร์ไซค์วิ่ง สวนเลนมา และผมก็เลี้ยวขวาในที่ ๆ ห้ามเลี้ยว ดังนั้นทางประกันภัยจึงมองว่าเป็นการประมาณร่วม และที่ซวยไปกว่านั้นคือตัวผมซื้อรถตอน มี.ค. 52 และไฟแนน บังคับทำประกันสินมั่นคง ชั้น 1 ด้วย แต่ขณะเกิด ประกันชั้น 3 ++ ของ AZCP ยังไม่หมด และตามกฎกรมประกันเค้าบอกว่าถ้ามีประกันที่ไหนก่อนให้ที่แรกรับผิดชอบ กรณีที่ประกันชั้น 1 คุ้มครองแล้ว สามารถให้ประกันรับผิดชอบค่าสินไหม กับคู่กรณีได้ ส่วนกรณีนี้ถ้าตำรวจชี้มาเป็นประมาทร่วมก็ซ่อมใครซ่อมมัน ถ้าชี้มาเราผิด ประกันก็รับผิดชอบไป แต่ผมเห็นใจเค้าเพราะว่ามีการบาดเจ็บและสะโพกร้าว จะต้องเข้า ผ่าตัดจึงคุยกับรองผู้กำกับว่าขอเป็นคนรับผิดเอง 8) และเสียค่าปรับ 500 บาทและให้ประกันเคลียร์ค่าใช้จ่ายทั้งหมด ในกรณีนี้มีการลงบันทึกประจำวันแล้ว และระบุว่าคุณเป็นผู้ผิด และมีการปรับในคดีจราจร ก็จะจบในชั้นโรงพัก ส่วนในเรื่องการชดใช้สินไหม ประกันจะดูแลทั้งหมด (แต่ไม่เกินที่ระบุในกรมธรรม์) ในส่วนเรื่องค่าทำขวัญ ไม่มีระบุไว้ ขึ้นอยู่กับเราว่าจะให้ก็ได้ ไม่ให้ก็ได้ แต่เรื่องไม่หมดแค่นั้นครับวันนี้คู่กรณีโทรมาหาผมบอกว่า ประกันจ่ายค่าสินไหมให้เค้า 4500 เนื่องจากเค้าประกอบอาชีพค้าขายและไม่มีสลิบเงินเดือน ทางคุ่กรณีจึงมาเรียกร้องจากผมอีก 4000 เพราะเค้าหวังว่าจะได้จากประกัน 10000 บาท ตอนแรกเค้าบอกผมว่าอยากได้จากผม 6000 ค่าทำขวัญ ผมจึงบอกว่าไปเรียกกับประกันแล้วกัน คำถามอย่างนี้ผมต้องให้เค้าหรือเปล่าครับรบกวนผู้มีประสบการณ์ช่วยแนะนำให้หน่อยครับ ขอบคุณครับ ให้ทางฝ่ายโน้นไปเรียกร้องกับประกัน หากประกันไม่จ่าย ก็ต้องให้ฝ่ายโน้นฟ้องแพ่งเอา โดยเราอาจเป็นจำเลยร่วม แต่ประกันจะสู้คดีแทนเรา การจะให้ค่าทำขวัญขึ้นอยู่กับเรา ไม่ให้ก็ไม่ผิด แต่ที่เล่ามา ฝ่ายโน้น สะโพกร้าว ค่ารักษาพยาบาลน่าจะสูงอยู่ ยังไงลองไปเยี่ยมและพูดคุยเบื้องต้นดู แต่ไม่แนะนำว่าต้องจ่ายเงิน หากคิดจะจ่ายเงินให้มาเคลียร์คดีให้เรียบร้อยด้วย เพราะไม่เช่นนั้น อาจมีตามมาฟ้องภายหลังได้ |