:::CIVIC CLUB THAILAND:::

 ;) ;) ;)

คือผมสงสัยมานานละ  ไอตัวชดเชยรอบเดินเบาเนี้ย มันรับสัญญาณจากโหลดอะไร 

จากรอบเครื่อง  เช่น  รอบเครื่องต่ำกว่า 500 มันจะทำการเปิดชดเลยให้รอบเครื่องคงระดับไม่ต่ำกว่า 500   

จากการเปิดอุปกรณ์ต่างๆในรถยนต์  เช่น  เปิดแอร์  มันชดเชยทันที  เปิดไฟมันชดเชยทันที  โดยไม่เกี่ยวกับรอบเครื่องรถยนต์

มันเอาสัญญาณมาจากไหนครับ  ขอบคุณครับผม 

พอดีอยากจะทำอะไรสักหน่อยจ้า  ;) ;) ;)

อันนี้คือคำถามใช่ไหมครับ   ขอตอบว่าเอาสัญญาณมาจากกล่อง ECU ครับ
ตัวกล่องทำหน้าที่สั่งให้ชดเชยรอบ จะมาก จะน้อยอยู่ที่กล่องสั่งครับ  :-*

ขอบคุณครับ   ประมาณว่าถ้ารอบเดินเบาต่ำกว่าค่ามาตรฐานที่รถรุ่นนั้นๆ กำหนด  กล่องจะสั่งงานให้มันทำงานใช้ใหมครับ ไม่ว่าจะเกิดโหลดอะไรก็ตาม  ;) ;)

ถามต่ออีกนิดครับ  ถ้าตอนถอดปลั๊กออก  กับตอนใส่ปลั๊ก  แล้วสตาทร์เครื่อง 

รอบเครื่องตอนเอาปลั๊กออกกับตอนเสียบปลั๊ก  รอบเครื่องมันจะเท่ากันใหมครับ

ตอนนี้ผมเอาออกรอบเครื่องมันเท่ากันเลยทั้งตอนใส่กับไม่ใส่  (ลองวัดไฟตรงปลั๊กแล้วมีไฟครับ)  ;) ;) ;)



พอดีผมได้เวคคั่มของโตโยต้ามาอันว่าจะลองใช้สัญญาณเดิมมาเพิ่มเอากาศเอานะครับ  ;D ;D

เท่าที่รู้ เครื่องแต่ระตัวมันมีเงื่อนไขไม่เหมือนกัน บางรุ่น มี ELD บ้างรุ่น วัดทั้งอากาศ ความร้อน บางรุ่นก็จับรอบเฉยๆ โดยสัญญาณจะมาจากกล่อง
วันนี้ปรับรอบ ปรับ TPS ใหม่ ถอดสายตัวคุมเดินเบาออกรอบสูงขึ้นเป็น1500 เอาไปลองวิ่ง พอปล่อยไหล รอบกระตุกๆๆ ;D ;D ;D

นั่นดิ... ไฟเครื่องโชว์  แล้วรอบเครื่องก็กระพือ ด้วย   ::) ::)

โชว์ครับ แต่รอบเครื่องก็นิ่งเหมือนไม่ได้ถอด  ว่าแต่เวลาถอดออกนี้มอเตอร์คุมรอบเดินเบามันจะปิดใช้ใหมครับ  ::) ::)

งั้นแสดงว่ามอเตอร์รอบเดินเบาผมมันคงค้างแล้วละ คงเปิดตลอดแล้วเปิดไม่สุด   เพราะตอนถอดกับตอนใส่ไม่เห็นความแตกต่าง

ผมลองวัดไฟที่สายสัญญาณดูแล้ว  ไฟก็มาปรกติ

ลิ้นปีกผีเสื้อผมก็ปิดสนิท   :( :(

ถอดออกมาล้างมาเช็คดูครับ ;)

เดียวจะลองเอามาล้างอีกรอบครับ 

ผมว่าสงกะสัยมอเตอร์มันคงค้างแล้วละครับ 

อาจจะต้องได้เปลี่ยนล่ะ ;D ;D ;D ;D

ผมถามต่ออีกนิด  คือถ้าถอดปลั๊กออกเนี้ย  มอเตอร์รอบเดินเบามันจะเด้งกลับมาปิดรูอากาศให้สนิทหรือเปล่าครับ  เพราะเห็นหลายๆท่านเวลาถอดปลั๊กออกแล้วเครื่องกระพือก็เท่ากับว่ารูอากาศที่ปล่อยอากาศมามันปิดใช้ใหมครับ   :o :o :o

เพราะตอนนี้ผมถอดปลั๊กออก ลองสตาทร์เครื่องดู  ฮ่าๆ  รอบเครื่องเหมือนกับตอนเสียบปลั๊กเลยครับ  อิอิ  ;D ;D

ไม่แน่ใจนะครับ แต่ผมว่าลิ้นที่คอยเปิดปิดมันน่าจะไม่อยู่นิ่งเพราะไม่มีสัญญาณมาควบคุมอ่ะ :D

ใช้ครับสัญญาณที่มาจากกล่อง ecu มันจะเปลี่ยนแปลงไปตามรอบเครื่องยนต์ด้วยครับ

ผมลองวัดไฟตอนหมุนกุญแจมาที่ on ไฟขึ้นมาระดับหนึง   พอติดเครื่องลองวัดไฟใหม่  ไฟที่มาจากกล่องมันเยอะกว่าเดิมด้วยนะครับ  ;) ;)

คือตอนนี้ผมก็เลยจะลองแปลงแวคคั่มของโตโยต้ามาใส่ดู  กำลังดูสัญญาณไฟอยู่ว่าจะใช้ด้วยกันได้ใหม  ;D ;D

ต้องลองครับ :-\ :-\ :-\ :-\ ราคามันถูกกว่ามาก

แปลงแวคคั่มช่วยได้ในระดับนึงแตมันไม่เกี่ยวครับ แต่ที่แน่ๆ มอเตอร์เดินเบามีปัญหาแน่ๆ ไม่มอเตอร์ก็ชุดสายไฟ ครับ ถอดปลั๊กกับเสียบปลั๊ก อาการรอบเครื่องจะต่างกันชัดเจน ถอดปลั๊กรอบเคื่องจะอยู่ที่ พันกว่ารอบเสมอและกระพรือด้วย ไฟเครื่องจะโชว์ แก้โดย ดับเครื่อง ดึงฟิวส์แบ็คอัพออกสัก 30 วิ แล้วเสียบใหม่

การทำงานของระบบคอนโทรลรอบเดินเบาของเครื่องยนต์  ในเครื่องยนต์ที่ควบคุมด้วยระบบสมองกล ECU  จะมีหลายภาคส่วนที่เข้ามาคอนโทรลทำงานร่วมกัน และก็ไม่ได้หมายความว่าจะมีการคอนโทรลระบบอากาศช่วยรอบเดินเบา  ที่คอยช่วยเปิดช่องให้อากาศผ่านจากหน้าลิ้นปีกผีเสื้อไปยังห้องหรือท่อไอดี  โดยการทำงานของตัวสเต็ปมอเตอร์  โรตารี่โซลินอยวาวล์
( civic ตาโต ใช้โรตารี่โซลินอยวาวล์  ไม่ใช่สเต็ปมอเตอร์ตามที่เรียกกัน) และตัวช่วยอากาศอื่นๆ 
การทำงานของระบบการคอนโทรลรอบเดินเบา จะเริ่มที่ตัว  Map sensor or Vacuum sensor  ที่ทำหน้าคอยตรวจจับกำลังอัดหรือแรงดูดภายในท่อไอดี  ที่เครื่องยนต์ยังอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ จากโรงงานครั้งแรก  กำลังอัดภายในกระบอกสูบที่สมบูรณ์ 
ย่อมทำให้เกิดแรงดูดหรือแว็คคั่มในท่อไอดี สมบูรณ์ตามไปด้วย  ดังนั้นเจ้าตัว map sensor จะอ่านค่าแรงดูดที่กระทำต่อตัวของมัน แล้วเปลี่ยนให้เป็นระบบโวลเต็จ  ทางวิศวกรผู้ออกแบบ จะนำระดับค่าโวลเต็จที่ได้นี้ เป็นค่า default  โปรแกรมลงใน ECU เพื่อให้ระบบการคอนโทรลระยะเวลาการฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงของหัวฉีด ฉีดน้ำมันให้มีอัตราส่วนผสมใน
จังหวะรอบเดินเบาของเครื่องยนต์  มีการจุดระเบิดที่สมบุรณ์  ค่า default ที่ถูกโปรแกรมในครั้งแรก  จะมีผลแปรผันกับกำลังอัดของเครื่องยนต์  และเมื่อใดก็ตามที่กำลังอัดภายในกระบอกสูบของเครื่องยนต์ เกิดตกต่ำลง  อันมาจากสาเหตุผนังกระบอกสูบ แหวนลูกสูบหลวม หรือระบบบ่าวาวล์รั่ว ปิดไม่สนิท วาวล์ยัน  อันมาจากการใช้งานรถเป็นเวลานานหรือเก่าลง  กำลังอัดก็จะตก   
เมื่อกำลังอัดตก แรงดูดของแว็คคั่มก็ตก ผลก็คือแรงดูดที่กระทำต่อ vacuum sensor ต่ำลงด้วย ทำให้ระดับค่าโวลเต็จเปลี่ยนแปลง  ผลก็คือ ทำให้ระบบการคอนโทรลระยะเวลาการฉีดน้ำมันเชื้อเพลิง  เปลี่ยนไป อาจจะสั่งให้ฉีดน้ำมันเพิ่มขึ้นไปในทางหนา ในอัตราส่วนผสม การจุดระเบิดไม่สมบูรณ์  รถไม่มีกำลัง(ในจังหวะรอบเดินเบา) ผลที่ตามมาก็คือรอบเดินเบาเครื่องยนต์ต่ำและสวิง  ที่กล่าวมาข้างต้นก็ถือว่าเป็นการคอนโทรลรอบเดินเบาของเครื่องยนต์ ว่าด้ายเรื่องกำลังอัด
การที่เครื่องยนต์ มีกำลังต่ำก็ทำให้รอบเดินเบามีปัญหา  ช่างหลายแห่งบางครั้งก็หลงประเด็น
ไปทำการล้างตัวเรือนปีกผีเสื้อ ปรับโน้นแต่งนี้  ก็ไม่หายมีรอบเดินเบาต่ำและสวิง  แต่พอมาแก้ไขเรื่องบ่าวาวล์ วาวล์ยัน ปรับตั้งใหม่ อาการที่ว่านี้ก็หายเป็นปลิดทิ้ง
ประการที่สองตัวที่ทำหน้าที่ช่วยคอนโทรลรอบเดินเบา ก็คือ ตัว TPS sensor  เจ้าตัวที่ว่านี้เครื่องยนต์อยู่ในตำแหน่งรอบเดินเบา  และปิกผีเสื้อเปิด เริ่มเปิด หมายถึงเครื่องยนต์กำลังอยู่ในตำแหน่งของอัตราเร่ง  ก็เช่นเดียวกัน ตัว TPS sensor ก็จะทำหน้าที่ส่งค่าระดับของโวลเต็จ  ที่ได้จากองศาการเปิดของลิ้นปีกผีเสื้อ  ส่งไปให้ ECU ทราบ  ว่าขณะนั้น เครื่องยนต์อยู่ในตำแหน่งรอบเดินเบาหรืออัตราเร่ง  จะได้สั่งให้ระบบควบคุมเวลาการฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงให้เหมาะสมกับรอบเครื่องยนต์ในขณะนั้น  นี้ก็เป็นการคอนโทรลการฉีดน้ำมันในรอบเดินเบาเช่นกัน แต่เป็นการสั่งฉีดในระบบน้ำมัน ตามตำแหน่งรอบเดินเบาและอัตราเร่ง
ภาคต่อไปก็จะมาถึงเรื่องระบบอากาศ  ที่หลายๆท่านว่าเป็นตัวคอนโทรลรอบเดินเบาของเครื่องยนต์เพียงภาคเดียว  ก็คงไม่ถูกต้องนัก  การทำงานของระบบอากาศช่วยรอบเดินเบา
จะถูกการอ่านผลจากตำแหน่งมุมองศาการปิดเปิดของลิ้นปีกผีเสื้อก่อน  คือตัว TPS sensor เมื่อลิ้นปีกผีเสื้อปิด หมายถึงเครื่องยนต์อยู่ในตำแหน่งรอบเดินเบา  ตัว ECU ก็จะส่งโวลเต็จส่วนหนึ่ง ป้อนให้กับตัวสเต็ปมอเตอร์  หรือโรตารี่โซลินอยวาวล์ เพื่อให้ทำงานเปิดให้อากาศที่หน้าลิ้นปีกผีเสื้อ ผ่านช่องพอร์ทในตัวเรือน โรตารี่โซลินอยวาวล์หรือสเต็ปมอเตอร์  ไปยังท่อไอดี  การจะเปิดมากหรือน้อยก็อาศัยผลของตัว O2 sensor  ที่อ่านผลของการจุดระเบิดของภายในกระบอกสูบ ว่ามีอัตราส่วนผสมในการจุดระเบิด  ที่ได้จากการมิ๊กอากาศกับน้ำมัน หากอากาศมากหรือน้อยในอัตราส่วนผสม  ก็จะทำให้การจุดระเบิดไม่สมบูรณ์  หลงเหลืออากาศออกซิเจนในระบบท่อไอเสีย  O2 sensor ก็จะทำหน้าที่ส่งค่าโวลเต็จที่ได้จากการเปลี่ยนแปลงทางฟิสิกส์ในโครงสร้างสารของตัว  O2 sensor  จากอ๊อกซิเจนที่หลงเหลือหลังการจุดระเบิด 
โวลเต็จที่ส่งไปให้ ECU จะทำให้ ECU ส่งระดับค่าโวลเต็จที่เป็นพัลส์(สำหรับสเต็ปมอเตอร์) หรือโวลเต็จโดยตรงให้กับโรตารี่โซลินอยวาวล์ เปิดให้อากาศผ่านมากหรือน้อยตามการส่งผลของ O2 sensor  ที่ควบคุมในเรื่องอัตราส่วนผสมระหว่างอากาศกับน้ำมัน
นอกจากที่กล่าวมาแล้วข้างต้น ก็ยังมีส่วนอื่นๆที่เกี่ยวข้องอีก  เอาจุดหลักๆแค่นี้ก่อนครับ  เรื่องมันต้องกล่าวกันอีกมากในระบบการคอนโทรลรอบเดินเบา
สำหรับคำถามเรื่องที่ว่า เวลาเปิดแอร์ เปิดไฟหน้ารถ หรืออื่นๆที่ใช้โหลดของของเครื่องยนต์ โดยมากจะอาศัยการป้อนกระแสไฟโวลเต็จ ให้กับ ECU เพื่อให้ ECU สั่งให้ระบบการฉีดน้ำมันเชื้อของหัวฉีด เพิ่มระยะเวลาในการฉีดน้ำมันเพิ่มขึ้น  เพื่อรักษารอบเดินเบาให้คงที่เมื่อเครื่องยนต์มีโหลด   
เราสามารถโมดิไฟนด์ ที่จุดนี้หลอก ECU สั่งฉีดน้ำมันเพิ่มขึ้นได้ ตามที่คุณต้องการ(ในรอบเดินเบา)

ลึกซึ้ง.....ข้าน้อยขอคารวะ
ตอนแรกรถผมก็สวิง แต่พอตั้งวาล์วมาใหม่ นิ่งเลย แต่รอบเดินเบาสูงมาก สตาร์ทใหม่ 1700  ตอนนี้ตั้งใหม่แล้ว นิ่ง...และ...เนียน

รถผมรอบไม่สวิง  รอบนิ่งๆ  เดินเบาเรียบสุดๆไม่มีปัญหา

เพียงแต่มันไม่ชดเชยให้เท่านั้นเอง  ตอนนี้สงสัยมันจะเสียจริงๆ เพราะถอดปลั๊กออก  รอบเท่าเดิม  เสียบปลั๊กก็รอบเท่าเดิม   ;D ;D

ตอนนี้ก็เลยคิดว่าจะลองถอดออกมา 

แล้วเอาตัวที่เสียนี้ละ  ลองแปลงเอาสัญญาณมาใส่แวคคั่มโตโยต้าดู  ท่อน้ำก็ยังคงไว้  เพียงแต่จะเจาะรูใส่เหล็กที่ตัวชดเชยเดินเบาอันเดิม (รูอากาศเข้า รูอากาศออก)  โดยใช้สัญญาณเดิมที่มันเสียบอยู่   ;) ;)