อยากเล่าให้เพื่อนๆในclubรู้ไว้เป็นประสบการณ์ครับ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (10สค) ประมาณสี่ทุมกว่าๆ ผมขับเจ้าขาวมุกที่เพิ่งถอยมาได้แค่สามวันจากบ้านแถวคลองประปาไปหาเพื่อนในซอยเสนา ผมขับมาทางงามวงศ์วานจนกระทั่งติดไฟแดงเพื่อจะเลี้ยวขวาเข้าถ.พหลโยธินที่แยกม.เกษตร (ตรงที่มีทางลอดใหม่)
พอจังหวะไฟเขียวผมก็เร่งเครื่องจนผ่านแยกนั้นมาได้ก็ผ่อนคันเร่งแล้วเหยียบเบรค แต่เสียงเครื่องกลับดังขึ้นรถก็กระชากพุ่งตัวอย่างแรงและเบรคไม่อยู่ ขณะที่ผมเหยียบ(กระทืบ)เบรคนั้นรอบเครื่องอยู่ที่ 4,000กว่าและขยับสูงขึ้นเรื่อยๆจนถึง-5,000 รอบ ความเร็วรถเป็นเท่าไรไม่ได้ดูแล้ว ช่วงนั้นรถไม่เยอะนักแต่ก็ยังต้องหักหลบรถที่ขับช้ากว่าทั้งสามเลนเพราะผมควบคุมความเร็วรถไม่ได้ นึกถึงเรื่องspeedภาคแรกยังไงยังงั้น ผมเลยตัดสินใจเปลี่ยนเกียร์จาก P เป็น N....ได้ผลครับ รถมาหยุดเกือบถึงแยกเสนาตามแรงเบรคแต่เสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นกว่าเดิมอีก รอบเครื่องตีไปเกินกว่า 7,000 รอบ ผมรีบก้มหน้าลงดูที่คันเร่งปรากฏว่าส่วนปลายของยางรองพื้น(ที่เพิ่งซื้อตอนบ่าย) มันเกยทับปลายคันเร่งอยู่ครับ ผมรีบเลื่อนยางรองออกจากแป้นเบรค รอบเครื่องเลยตีกลับเป็นปกติ
นั่งทำใจอยู่ในรถพักใหญ่เลยครับ ออกรถมาไม่กี่วันขับยังไม่ถึง200กิโลเลยต้องมาเจอเหตุการณ์ง่ายๆที่เกือบทำให้เกิดอุบัติเหตุ แล้วอีกใจก็สงสารรถอย่างแรงไม่รู้ว่าเครื่องจะเป็นอย่างไรจากรอบสูงที่ตีไปจนเกือบสุด รันองรันอินไม่ต้องพูดถึงแล้ว ขับไปอีกหน่อยจนถึงที่นัดแล้วดับเครื่อง...ตามคาดครับ กลิ่นไหม้หึ่งเลย หลังจากรอจนเครื่องเย็นประมาณ3-4 ชั่วโมงก็กลับ ตอนนี้ไม่มีอะไรผิดปกติครับ
ที่เล่ามานี่คืออยากให้ทุกคนระวังอุบัติเหตุที่อาจเกิดจากสาเหตุเล็กๆน้อยๆ ผมคิดว่าผมโชคดีที่มีประสบการณ์จากการขับรถตั้งแต่สมัยเรียนมามากกว่า20ปีและที่สำคัญคือมีสติในวันนั้น ยังคิดอยู่ว่าถ้าเป็นคนอื่นอย่างพ่อแม่หรือแฟนที่ไม่ได้ขับรถเองบ่อยๆมาขับคงเกิดอะไรแย่ๆขึ้นแน่ ช่วยกันระวังครับ
แล้วจากเหตุการณ์นี้ต้องรบกวนผู้รู้ในclubช่วยแนะนำว่าต้องตรวจเช็คส่วนไหนและทำอะไรหรือเปล่าครับ