ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
09 พฤษภาคม 2024, 14:27:32
หน้าแรก ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก
ข่าว: มีปัญหาการใช้งานเว็บไซต์ หรือติดต่อลงโฆษณา ติดต่อ admin [ไม่ใช่ผู้ขายสินค้า] ที่ 0876889988   หรือ theerachai@siamrx.com หรือ line id: @welovecivic




Custom Search
:::CIVIC CLUB THAILAND:::  |  คุยคุ้ย Civic  |  Civic Club Car Knowledge => คลังความรู้คู่รถ  |  หัวข้อ: เอาความรู้มาฝากครับ ว่าด้วยเรื่อง โช้คอัพ ครับ 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1] ลงล่าง พิมพ์
โพลล์
คำถาม: เป็นคุณ คุณจะใช้โช้คอัพแบบไหน
แบบน้ำมัน   -3 (23.1%)
แบบแก็ส   -4 (30.8%)
แบบแก็สกึ่งน้ำมัน   -6 (46.2%)
จำนวนผู้โหวตทั้งหมด: 12

ผู้เขียน หัวข้อ: เอาความรู้มาฝากครับ ว่าด้วยเรื่อง โช้คอัพ ครับ  (อ่าน 16355 ครั้ง)
anodite_studbar
เจ้าสำนัก
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 902

I love my CIVIC.


« เมื่อ: 20 พฤศจิกายน 2006, 00:56:18 »



ผมเห็นว่าเป็นความรู้ดี ก็เลยเอามาให้แชร์ให้เพื่อนๆดูด้วยกันครับ

โช้คอัพ มาจากคำว่า Shock Absorber เป็นตัวช่วยหน่วงเวลาไม่ให้สปริงมีการเคลื่อนตัวเร็วเกินไป ช่วงล่างของรถยนต์ไม่ได้ใช้โช้คอัพรองรับน้ำหนักนะครับ เซียน(หรือไม่)แต่งรถกลุ่มนั้นเข้าใจกันว่าโช้คมีไว้รองรับน้ำหนักรถ ซึ่งเข้าใจผิดมหันต์เลยครับ จริงๆแล้ว ตัวรับน้ำหนักและแรงกระเทกทั้งปวงคือสปริงครับ แต่ถ้ารถคุณมีแต่สปริง พอเจอถนนขรุขระ รถคุณก็จะเด้งขึ้นเด้งลงตามค่า K ของสปริงกันจนมึนไปเลย, Shock Ab จึงถือกำเนิดขึ้นมา เพื่อหน่วงไม่ใช้สปริงมีการเคลื่อนตัวได้มากนัก เวลาเลือกโช้คอัพมาใส่รถ คุณต้องได้อย่างเสียอย่างเสมอ ถ้ารถคุณอยากได้โช้คนิ่ม มันจะหน่วงสปริงได้น้อย นั่งแล้วนิ่มขึ้น แต่เวลาเข้าโค้ง รถเอียงข้างเลยครับ แรงจากศูนย์กลางมาเพียบเลย แต่ถ้าคุณเลือโช้คหนึบ ความนิ่มจะหายไป สปริงจะเคลื่อนที่ได้น้อยมาก แต่เวลาเข้าโค้ง หรือขับซิกแซก รุถคุณนิ่งอย่างแรงครับ ไม่มีเอียง

โช้คอัพเดิมทีคือการใช้น้ำมันในการหน่วงโดยน้ำมันนี้ จะมีอยู่ในกระบอกโช้คนะครับ แท่งแกนโช้คถูกสอดลงไปในกระบอกนี้ มีก้อนวาล์วอยู่ตรงปลาย กั้นทำให้เกิดห้องสองห้องขึ้นในกระบอกโช้ค มีห้องบน และห้องล่าง ทั้งสองห้องมีน้ำมันอยู่ครับ
เวลาจังหวะโช้คยืดตัวขึ้น น้ำมันจากห้องบนจะต้องถูกดันให้หนีลงมาห้องล่าง แต่วาล์วที่กั้นห้องนั้น มีรูและซอกเล็กมากให้น้ำมันผ่านได้จำกัดมาก ทำให้น้ำมันผ่านได้ช้าลง ผลก็คือเกิดการหน่วงไม่ให้ก้านสูบเลื่อนขึ้นเร็วเกินไป
ในจังหวะโช้คกดตัวลงก็เช่นกันครับ น้ำมันจากห้องล่างจะพยายามหนีขึ้นห้องบนเพราะโดนดัน (ลองวาดรูปตาม น่าจะเข้าใจง่ายขึ้น) วาล์วก็เป็นตัวหน่วงอีกเช่นกัน
การไหลผ่านร่องวาล์วเล็กๆในกระบอกสูบ หนืดไม่หนืด ขึ้นอยู่กับขนาดวาล์วและการออกแบบช่องทางเดินน้ำมันในวาล์วครับ
ส่วนโช้คแก้ส คือการพัฒนาเอาโช้คเดิม มากั้นห้องไว้ข้างล่างสุดหนึ่งห้องเป็นห้องโล่งๆแล้วอัดแก้สลงไป มีจุดประสงค์หลักคือทำให้มีแรงดันเพิ่มขึ้น ฟองอากาศที่จะเกิดในน้ำมันซึ่งเป็นปัญหาเดิมจะลดลง (เวลาโช้คทำงานปกติที่ถนนธรรมดา โช้คมีการขยับขึ้นลงมากกว่า 10 ครั้งต่อวินาที มีความร้อนเกิดจากการขยับนี้เป็นจำนวนมาก ทำให้น้ำมันเกิดฟองอากาศครับ) โช้คแก้สจึงมีความแข็งมากกว่า
ประเด็นสำคัญ สิ่งที่เรียกว่าโช้คน้ำมันกึ่งแก้สนั้น เป็นความเข้าใจผิดครับ
โช้คแก้ส ก็ยังใช้น้ำมันในการไหลผ่านวาล์วเหมือนเดิม แก้สไม่เกี่ยวเลย อยู่ห้องข้างล่างอย่างเดียว
ดังนั้น ขอให้เข้าใจกันใหม่ด้วยนะครับ ว่าโช้คนั้นมีแค่เป็นน้ำมันล้วน กับแบบเอาแก้สมาอัดช่วยดันห้องล่าง แค่นั้น โช้คแก้สเปล่าๆ ไม่มีแน่นอนครับ (ถ้ามีแต่แก้สเปล่าๆ เค้าเรียกแก้สสปริง ซึ่งมีไว้แทนสปริงตรงฝาท้ายพวกรถแวกอนนะครับ คนละเรื่องกับการหน่วงในระบบช่วงล่าง แต่คนไทยเรียกเหมาหมดว่าโช้คอะ)
ข้อสังเกตุสำคัญว่า โช้คคุณเป็นน้ำมันหรือมีแก้สด้วย ให้ลองวางตั้งกะพื้นนะครับ เอามือกดก้านสูบลงไปจนสุด แล้วปล่อย ถ้าเป็นโช้คน้ำมัน มันจะจมอยู่งั้นแหละ แต่ถ้าเป็นโช้คที่มีแก้สอยู่ด้วย มันจะค่อยๆยืดขึ้นมาเองช้าๆจนสุด ที่เป็นอย่างนี้ เพราะมีห้องแก้สอยู่ล่างสุดช่วยดันให้น้ำมันในห้องล่างดันลูกสูบขึ้นไปในตำแหน่งปกติ

ึความหนืดของโช้คอัพ จริงๆแล้วขึ้นอยู่กับการออกแบบวาล์วที่ลูกสูบเท่านั้น ดังนั้น อย่างเช่น Volvo 940 or 960 ติดรถมาจากสวีเดน ก็เป็นโช้คน้ำมันครับ แล้วก็หนึบโคตรๆด้วย
ถ้าคุณเปลี่ยนโช้คไปเป็นแก้ส ก็มั่นใจได้อย่าง ว่ามันแข็งขึ้นแหงๆครับ ถ้าวาล์วถูกออกแบบมาเหมือนกัน

ปัญหาของโช้คอัพ มีเรื่องสำคัญๆอยู่เรื่องเดียว คือน้ำมันรั่วออกมาทางด้านบน ทำให้โช้คอัพสูญเสียน้ำมันไปเรื่อยๆ ซึ่งก็จะทำให้มันสูญเสียความสามารถในการหน่วงไป ทำให้รถคุณวิ่งเหมือนเด้งอยู่บนสปริง ถ้าเป็นไม่มาก เช็คยางดูก็ได้ครับ ถ้าสึกเป็นบั้งๆในแนวขวาง รถคุณมีปัญหากะโช้คอัพแล้วล่ะ
สาเหตุสำคัญที่น้ำมันจะรั่วได้ ก็มาจากซีลยางที่อยู่ด้านบนของกระบอกโช้คนะครับ ซีลยางนี้ มีการเสื่อมสภาพไปตามกาลเวลาอยู่แล้ว ตามระยะของผู้ผลิตโช้ค คุณควรเปลี่ยนโช้คอัพเมื่อรถวิ่งไปได้ 100000 กิโล หรือห้าปี โดยไม่ต้องรอให้รั่ว เพราะซีลมันเสื่อมแล้ว ถ้ารถคุณไม่ค่อยได้ใช้เลย ซีลยางคุณจะยิ่งแย่กว่าปกติ เพราะทุกครั้งที่โช้คขึ้นลง ก้านแกนโช้คจะนำเอาน้ำมันออกมาเล็กน้อยด้วยช่วยหล่อลื่นซีลครับ ถ้าคุณไม่ใช้รถเลย จอดไว้เป็นอาทิตย์เฉยๆ ซีลจะแข็งเป๊ก และฉีกง่ายมากๆ โช้ครั่วก็จะตามมาแน่นอนครับ
อ้อ เวลาติดตั้งโช้ค อย่าลืมเตือนช่างไม่ให้ใช้คีมในการจับแกนโช้คตอนขันน้อตนะครับ เพราะมันจะทำให้แกนโช้คเป็นรอย ซึ่งเมื่อคุณเอารถไปข้บ รอยนี้มันจะไปเสียดสีให้ซีลยางมันขาด ซึ่งก็จะนำมาซึ่งการรั่วอีกน่ะแหละ ดังนั้นเวลาเจอโช้ครั่วเร็ว บางทีก็อย่าโทษแต่ผู้ผลิตโช้คล่ะครับ มันมีปัจจัยเพียบเลย
ตอนขันน้อตก็เหมือนกัน ถ้าคุณขันแน่นเกินไปก่อนเอาลงจากฮอยส์ ลงมาปุ๊ป โช็คงอปั๊ปเลยครับ เพราะตอนอยู่บนฮอยส์ ช่วงล่างคุณทั้งยวงมันห้อยครับ มันไม่ได้อยู่ในตำแหน่งปกติ
วิธีที่ถูกคือต้องขันแต่พออยู่ อย่าแน่น พอเอารถลงแล้ว ค่อยขันแน่นครับ เพราะเมื่อโช้คท่านงอ เวลาเอาไปวิ่ง มันก็ไปขูดซีลยางอีกน่ะแหละ (แหม ไอ้ซีลยางนี่ช่างเจ้าปัญหาซะจริงเลยนะ)
อธิบายมาซะยาว ขอสรุปแล้วนะครับ

เวลาคุณเปลี่ยนโช้ค
๑.คุณควรเปลี่ยนทั้งสองข้างพร้อมกัน
๒.คุณควรเปลี่ยนให้ได้รุ่นที่ผู้ผลิตโช้คทำมาเพื่อรถรุ่นนั้นๆ ไม่ควรดัดแปลง เพราะคุณไม่มีทางรู้ parameter อื่นๆเลย ร้านที่รับทำ หรือแก้โช้คนั้น ทำให้โช้คคุณอายุสั้นแน่นอนครับ เพราะโรงงานที่เยอรมันลงทุนกันเป็นหมื่นๆล้าน R&D กันเกือบตายกว่าจะ Design ออกมาให้เบนซ์ให้บีเอ็มแต่ละรุ่น คุณว่าร้านข้างทางของคุณเอาโช้คมาผ่า อัดน้ำมันเข้าไปใหม่ มันก็ใช้ได้แล้วเหรอครับ)
๓. หมั่นก้มดูโช้คบ่อยๆครับ ว่ามีคราบน้ำมันรั่วหรือไม่
๔. เวลาให้ช่างนอกเปลี่ยน ทำตามคำแนะนำทีผมให้ไว้ด้านบนนะครับ จะได้ไม่เจอปัญหาโช้ครั่วเร็ว
ู๕. โช้คอัพ ที่เยอรมัน ถือเป็นชินส่วนสำคัญเกี่ยวกับเรื่องความปลอดภัยเทียบเท่ากับระบบเบรคเลยทีเดียว คุณควรใส่ใจกับมันให้มาก อย่าเห็นแกของถูก หรือเงินเพียงเล็กน้อยครับ

คนไทยเรา ยังมีอุปนิสัยไม่สนใจโช้คอัพ ไม่รั่ว ไม่มีวันเปลี่ยน จริงๆแล้ว คุณควรเปลี่ยนมันเมื่อวิ่งไปได้ 100,000 กิโล หรือห้าปีครับ เพราะซีลยางมันออกแบบมาให้มีอายุแค่นั้น

ถามว่า โช้คไม่ดี ไม่เห็นเป็นไร ไม่เปลี่ยนไม่ได้เหรอ ขับมาสิบปีแล้ว ไม่เห็นเคยเปลี่ยนสักครั้ง
ตอบเลยนะครับ ว่าถ้าคุณวิ่งปกติดี มันก็แล้วไปครับ แต่ถ้าคุณไปเจอสถานการณ์คับขัน เบรคกะทันหัน เมื่อถึงเวลานั้น คุณจะเข้าใจว่า โช้คนั้นสำคัญกับการทรงตัวของรถขนาดไหน คุณจะแลกเงินไม่กี่พันบาท กับความปลอดภัยของชีวิตหรือครับ

เปลี่ยนทัศนคติกันใหม่นะครับ ที่เยอรมัน เค้าบอกว่า "Shock Absorber condition cannot be compromised." ครับ

อ้อ มักมีคนถามผม เรื่องโช้คปรับได้ ปรับไม่ได้ ว่าเป็นอย่างไรนะครับ
ผมเคยยกมือถามที่เยอรมันแล้วครับ เค้าบอกว่า จริงๆแล้ว มันแทบจะไม่ได้ช่วยปรับอะไรได้มากสักเท่าไหร่ ถ้าคุณไม่ใช่คนบ้ารถมากจริงๆ คุณจะไม่เห็นความแตกต่างมากนักครับ จุดสำคัญคือ ใช้ให้ตรงรุ่น ตรงสเป็ก เป็นใช้ได้ครับ

บันทึกการเข้า

anodite_studbar
เจ้าสำนัก
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 902

I love my CIVIC.


« ตอบ #1 เมื่อ: 20 พฤศจิกายน 2006, 00:57:02 »

มีต่อครับ

"โช๊ค" ยี่ห้อและความเหมาะสม

[1] ARRAGOSTA เป็นSHOCK ab
แบบสตรัทปรับเกลียวซึ่งสามารถปรับระดับความสูงต่ำของตัวรถได้ตามที่ต้องการแถมยังสามารถปรับระดับความหนืดของ
SHOCK ได้หลายระดับซึ่งจะทำให้รถมีประสิทธิภาพในการทรงตัวมากยิ่งขึ้น SHOCKตัวนี้เหมาะสำหรับรถทั่วไปและทุกรุ่นเลยนะครับ

[2 ] CUSCO ZERO 2
นี่เลยครับเหมาสำหรับขา Drift โดยเฉพาะ SHOCK ab
ตัวนี้ออกแบบออแบบได้สวยงามอย่างยิ่งมีสตรัทปรับเกลียวทั้งด้านหน้า-หลัง
แถมยังตั้งค่า K ของสปริง ทุกๆSet มาสำหรับขา Drift โดยเฉพาะเลยนะครับ
ส่วนด้านหน้าจะมีball joint และยังสามารถปรับค่าความหนืดได้ถึง5ระดับ
เพื่อความมั่นใจในการเข้าโค้งอีกต่างหาก

[3]Frfolgkie
หลายท่านอาจจะงงนะครับว่ามีด้วยเหรอshock ชื่อนี้
ชื่อนี้อาจจะไม่เป็นที่คุ้นหูนักนะครับสำหรับคนเล่นรถในบ้านเราซักเท่าไหร่นักแต่ผมขอรับรองได้ถึงความแข็งแรงของshockab ชุดนี้เลยนะครับ สังเกตุด้ายจากแกนของshock ีup ว่าจะมีขนาดแกนที่ใหย่กว่าเมื่อนำไปเทียบกับ shock ab ปรกติทั่วๆไปจึงมีมั่นใจได้ถึงประสิทธภาพของshock มันใจได้ขนาดไหน?มั่นใจได้ขนาดที่ว่าshock ชุดนี้มีให้เล่นกับ NISSAN ในตรุกูลSKY line และSilviaทุกรุ่นก้อแล้วกันน่า(แน่ไม่แน่หระ)

(4) HKS Hyper max Pro Gymkhana
แหมแค่ได้ยินชื่อ HKS ก้อคงไม่ต้องอธิบายสรรพคุณกันยืดยาวหรอกนะครับ Shock รุ่นนี้เป็นรุ่นที่ HKS ออกแบบสำหรับแข่งขัน Gymkhana โดยเฉพาะเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเข้าโค้งอย่างมั่นใจในสนามแข่งเป็นแบบสตรัทปรับเกลียวแบบสปริง2ชั้นพร้อม Ball joint ทั้ง4ตัวสำหรับรถตระกูล MITSUBISHI และ HONDA

[5]Buddy club Racing space
โช๊คคู่นี้เป็น Shock Up ที่ออกแบบสำหรับ Honda โดยตรงซึ่งนิยมกันมากในการแข่งขันทางเรียบโดยเฉพาะ Shock Up ทำจากสตรัทปรับเกลียวพร้อม Ball Joint ที่ช่วยในการปรับมุม Camber สำหรับสาวกลัทธิ HONDA โดยเฉพาะเอ้า....สาวกHONAขอเสียงหน่อยยยยยย

(6) ฺBliz shachs Damper SP711
สำหรับโช๊ครุ่นนี้เป็นการร่วมมือกันของทางสำนัก Bliz และสำนัก sachs ช่วยกันทำShock Up ชุดนี้จึงมั่นใจได้ในประสิทธิภาพและมาตรฐาน แถมยังสามารถปรับแต่งระดับความสูง-ต่ำได้แถมเหมาพสำหรับรถทุกรุ่น

(7)El sport
นี่เลยครับสำหรับสาวก TOYOTA Starlet สำหรับ Shock Up ตัวนี้ทางสำนักได้ออกแบบมาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพแทนของเดิมให้ดียิ่งขึ้นแถมยังออกแบบมาเพื่อรองรับกับสปริงเดิมได้เลย

(เจ๋งฺBilstein S2000
เป็นShock ab สตรัทปรับเกลียบพิเศษคู่หน้าเป็นแบบสปริง2ชั้นและมี Sub Tank มาให้ด้วยจึงทำให้มีประสิทธิภาพมากกว่าเดิมแถมยังให้การตอบสนองที่นุ่มนวลกว่าเดิมและให้ความมั่นใจเต็มประสิทธิภาพสำหรับ S2000 โดยตรง

(9)Tein Type Flex Damper
แฮ่...แค่เอ่ยชื่อก้อร้องอ๋อกันเป็นแถวแล้วซินะครับไม่ให้ร้องอ่อได้ไงครับก้อยี่ห้อนี้เป็นที่นิยมกันมากในบ้านเราเนื่องจากมีความสวยงามอละรูปทรงที่ทันสมัยแถมยังสามารถปรับระดับค่าความแข็งอ่อนได้มากถึง16ระดับ(มากแบบนี้จะไม่นิยมได้ไงครับ)และเป็นแบบสตรัทปรับเกลียวพร้อม Ball ่joint แถมยังมีให้เลือกใช้ได้กับรถหลายรุ่นอีกด้วย

(10)Yashio Factory
เป็นสเต็ปต้นๆหรือที่เรียกกันว่าแบบ Street เพื่อเพิ่ม ความสามารถในการขับขี่ให้ดียิ่งขึ้นโดยคู่หน้าเป็นแบบ Ball joint สตรัทแบบเกลียวเหมาะสำหรับรถทุกรุ่น

(11)Apexi N1 Damper type Pro
เป็นสำนักที่เหล่าวัยแรงรู้จักกันดีทั้งในและนอกประเทศเหมาะสำหรับการเข้าโค้งและใช้ใน Racing อีกด้วยเป็นแบบ Ball joint สตรัทปรับเกลียวซึ่งเพิ่มความสามารถในการขับขี่สำหรับรถทุกรุ่น

(12) ๋JIC Elt2
นี่ก้อเป็นอีกสำนักหนึ่งซึ่งดังไม่น้อยหน้ากว่าสำนักอื่นๆเลยทีเดียว Shock Up คู่นี้ได้ออกแบบให้เหมาะสมทั้งในแบบทั่วไปและ Racing รูปทรงแบบสตรัทปรับเกลียวพร้อม Ball ่joint ซึ่ง Shock Up ชุดนี้ทำมาสำหรับเหล่าสาวก HONDA Mania ทั้งหลายโดยเฉพาะเอ้าขอเสียงสาวกฮอนด้าอีกครั้ง(555.)

(13)ฺBiot Suspention Kit
ในการใช้งานที่ต้องการความแน่นอนและแน่ใจในการขับขี่การเข้าโค้งที่มั่นใจปลอดภัย biot ตอบสนองให้รถของท่านได้ โช๊คชุดนี้ถูกออกแบบให้มี สตรัทปรับเกลียวพร้อม Ball ่joint และมีสีสันรูปทรงที่สวยงามสามารถใช้ได้กับรถทุกรุ่น

14) Rise version 2
shock Up ชุดนี้เหมาะสำหรับผุ้ที่ชอบความนิ่มเป้นพิเศษเพราะสามารถปรับระดับความแข็งอ่อนได้ถึง 30ระดับ ทำออกมาสำหรับรถทุกรุ่นมีรูปทรงที่สวยงามและสีสันเป็นแบบสตรัทปรับเกลียว เหมาะสำหรับการใช้งานทั่วไป

(15)Arita Speed
ชื่อนี้อาจจะไม่คุ้นหูกันซักเท่าไหร่แต่เป็นโช๊คแบบสตรัทปรับเกลียวพร้อม Ball joint เหมาะสำหรับใช้งานทั่วไปและ Raci
บันทึกการเข้า

anodite_studbar
เจ้าสำนัก
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 902

I love my CIVIC.


« ตอบ #2 เมื่อ: 20 พฤศจิกายน 2006, 00:57:51 »

ต่อไปครับ

ว่าด้วยเรื่องของโช้พอัพแก๊ส - น้ำมัน

--------------------------------------------------------------------------------

โช้พอัพแก๊ส-น้ำมัน
โช้กอัพ หนึ่งในอุปกรณ์ที่สร้างความเข้าใจผิดในวงกว้าง เช่น โช้กอัพแก๊สต้องแข็งกว่าน้ำมันเสมอ หรือโช้กอัพแก๊สทำงานด้วยแก๊สล้วน ๆ หรือมีโช้กอัพแก๊สผสมน้ำมัน

ชิ้นส่วนหลักของโช้กอัพ ประกอบด้วยกระบอกบรรจุของเหลว แกนโลหะที่มีลูกสูบติดอยู่ตรงปลาย เรียกกว่า MAIN PISTON และวาล์ว ซึ่งอยู่บนลูกสูบ สร้างความหนืดด้วยของเหลวที่ไหลผ่านวาล์ว แบ่งเป็น 2 ประเภทหลัก คือ โช้กอัพน้ำมัน และโช้กอัพแก๊ส


จากชื่อเรียกว่าน้ำมันหรือแก๊สนั่นเอง ที่ทำให้หลายคนเข้าใจผิดว่า โช้กอัพทั้ง 2 แบบ สร้างความหนืดด้วยของเหลวต่างชนิดกัน ทั้งที่ความจริงแล้ว ทั้งโช้กอัพน้ำมันและโช้กอัพแก๊ส ก็ทำงานด้วยของเหลวชนิดเดียวกัน คือ ?น้ำมัน?

โช้กอัพน้ำมันล้วน กระบอก 2 ชั้น
เวลาที่โช้กอัพยุบหรือยืด ต้องมีแต่น้ำมันเท่านั้นที่ไหลผ่านวาล์ว จะมีอากาศไหลผ่านไม่ได้ ถ้ามีก็คือ พัง

ถ้าโช้กอัพน้ำมันล้วนทำกระบอกชั้นเดียว ภายในบรรจุน้ำมันไว้เต็ม (เพราะต้องไม่มีอากาศปนอยู่) เมื่อโช้กอัพยืดตัวสุด ด้านล่างของลูกสูบมีน้ำมันอยู่เต็ม โช้กอัพจะไม่สามารถยุบตัวได้ เนื่องจากแกนลงมาแทนที่น้ำมันไม่ได้ และกระบอกโช้กอัพก็ขยายตัวไม่ได้

ถ้าจะแก้ปัญหาโดยใส่น้ำมันไม่เต็มกระบอก เพื่อให้มีอากาศอยู่ภายในบ้าง แกนจะได้ยุบตัวได้ (อากาศพอจะยุบตัวได้) เมื่อโช้กอัพอยู่ในจังหวะยืดตัวสุด ลูกสูบและวาล์วก็จะเจอกับอากาศ

ดังนั้น โช้กอัพน้ำมันล้วนจึงต้องทำกระบอก 2 ชั้น โดยมีอากาศอยู่ที่กระบอกชั้นนอก เมื่อลูกสูบเลื่อนลงมาก็จะดันน้ำมันให้ไหลผ่าน FOOT VALVE ซึ่งอยู่ด้านล่างของกระบอกชั้นใน เข้าไปที่กระบอกชั้นนอก ไล่อากาศขึ้นไปอยู่ด้านบนของกระบอกชั้นนอก เมื่อลูกสูบเลื่อนขึ้นก็จะดูดน้ำมันที่กระบอกชั้นนอกกลับเข้ามา ที่กระบอกชั้นใน

ความหนืดของโช้กอัพแบบน้ำมันล้วนทั้งในจังหวะยุบหรือยืด ขึ้นอยู่กับวาล์วบนลูกสูบ และบน FOOT VALVE (ถ้ามี)

โช้กอัพแก๊ส ทำงานด้วยน้ำมัน
เมื่อได้ยินว่าเป็นโช้กอัพแก๊ส หลายคนเข้าใจว่าภายในกระบอกโลหะนั้นบรรจุแก๊สไว้เต็ม ใช้แก๊สในการสร้างความหนืด และคิดว่าแก๊สดีกว่าน้ำมัน เมื่อนำมาทำเป็นโช้กอัพจึงต้องดีกว่า และมีความหนืดมากกว่าโช้กอัพน้ำมันเสมอไป ซึ่งเป็นความคิดที่ผิด

ที่ถูกต้อง คือ แม้จะได้ชื่อว่าเป็นโช้กอัพแก๊ส แต่ก็สร้างความหนืดด้วยน้ำมันเป็นหลัก ส่วนจะหนืดมากน้อยแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับการออกแบบวาล์ว ไม่ใช่ว่าโช้กอัพแก๊สต้องหนืดกว่าโช้กอัพน้ำมันเสมอไป

ที่เรียกว่าโช้กอัพแก๊ส เพราะมีการเพิ่มห้องแก๊สเล็ก ๆ อยู่ภายในกระบอก เป็นแก๊สที่มีแรงดันพอประมาณ ไม่ถึงกับสูงมาก วัตถุประสงค์จริง คือ ต้องการให้เป็นกระบอกชั้นเดียว ระบายความร้อนได้ดี และตัวลูกสูบมีขนาดใหญ่ โดยมี FLOATING PISTON กันระหว่างห้องแก๊สและน้ำมัน แก๊สมีคุณสมบัติคล้ายอากาศ คือ สามารถยุบตัวได้เล็กน้อย ดังนั้น เมื่อโช้กอัพยุบตัว ลูกสูบเลื่อนลง จึงบีบห้องแก๊สให้เล็กลง หมายความว่าต้องน้ำมันขยายใหญ่ขึ้น และเมื่อโช้กอัพยืดตัว ก็จะดูดน้ำมันกลับ ห้องแก๊สที่ถูกบีบก็จะยืดตัวกลับ

ทั้ง 2 แบบ มีทั้งข้อดี-ข้อเสีย
โช้กอัพน้ำมันล้วน
ข้อดี ? ผลิตง่าย เพราะในขั้นตอนการประกอบมีแค่น้ำมัน ไม่ต้องอัดแก๊ส ซึ่งยุ่งยากกว่า มีจุดรั่วน้อยกว่า เพราะไม่มี FLOATING PISTON ถ้าจะทำแบบปรับความหนืดได้ก็ไม่ยาก เพราะมีจุให้ปรับทั้งที่ลูกสูบ และ FOOT VALVE

ข้อเสีย ? ระบายความร้อนไม่ค่อยดี เพราะเป็นกระบอก 2 ชั้น แต่ถ้าขับทางเรียบและเลือกใช้น้ำมันที่ทนความร้อนได้สูง ๆ ก็จะดีขึ้น และถ้าถูกจำกัดขนาดของกระบอก ลูกสูบภาในจะมีขนาดเล็ก เพราะเป็นกระบอก 2 ชั้น ทำให้ถูกจำกัดการออกแบบ

โช้กอัพแก๊ส
ข้อดี ? ระบายความร้อนได้ดี รองรับการใช้งานหนัก

ข้อเสีย ? ผลิตยาก เพราะต้องมีขั้นตอนการอัดแก๊ส รั่วง่าย ไม่ใช่รั่วออกมาภายนอก แต่เป็นการรั่วมาปนกันของน้ำมันและแก๊ส ผ่านทางซีลของ FLOATING PISTON

การออกแบบให้เป็นแบบปรับความหนืดได้ ทำได้ยากกว่า เพราะปรับได้เฉพาะวาล์วบนลูกสูบเท่านั้น ยิ่งถ้าต้องการให้แยกปรับได้ทั้งจังหวะยืดและยุบ ความสูงและต่ำ เรียกว่า 4 WAY ADJUSTABLE ก็จะยิ่งซับซ้อน สามารถทำได้ แต่ราคาแพงมาก

การที่เป็นกระบอกชั้นเดียว ถ้ากระบอกมีรอยตรงที่ลูกสูบวิ่งผ่าน ประสิทธิภาพก็จะไม่ดีเหมือนเดิม ซึ่งมีโอกาสเป็นไปได้สูง โดยเฉพาะโช้กอัพแก๊สมือสองในเชียงกง ซึ่งมักขนส่งแบบไม่ค่อยระมัดระวัง

โช้กอัพรถแข่ง กระบอกชั้นเดียว
สำหรับรถแข่งที่ขับกันดุเดือดโดยเฉพาะแรลลี โช้กอัพทำงานหนักสุด ๆ จึงมักเน้นการระบายความร้อนด้วยการทำโช้กอัพเป็นกระบอกชั้นเดีย ว แต่อาจเป็นแบบน้ำมันล้วนก็ได้ โดยแยกห้องเล็ก ๆ หรือที่เรียกว่า SUB-TANK ติดตั้งไว้ในส่วนที่รับลมได้ดี ส่งน้ำมันระหว่างกระบอกหลักกับ SUB-TANK ผ่านทางท่อยางหรือสายสเตนเลสถัก
บันทึกการเข้า

JOBBY
ศิษย์น้อง
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 121



« ตอบ #3 เมื่อ: 07 กุมภาพันธ์ 2007, 10:57:48 »

ขอบคุณหลายๆ ครับ  ยิ้ม
บันทึกการเข้า



+++++ Sale Honda Civic EK (ตาโต) บ้านๆ แจ่มๆ สักคันคับ ++++++
http://www.welovecivic.com/forum/index.php/topic,124407.0.html
Regis100
ม่อนเงาะ ณ เชียงใหม่
ผู้คุมกฎ
อาจารย์ปู่
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 18,639


ผมก็แค่ผู้โง่เขลาคนนึงที่พยายามอยากฉลาด@ เชียงใหม่เจ้า


« ตอบ #4 เมื่อ: 12 เมษายน 2011, 12:54:44 »

ไปอ่านมาจากต้นทางเหมือนกัน  เอาอ่านกันเข้าไป ยิ้มกว้างๆ
บันทึกการเข้า

ค้นคำตอบก่อนรอคำตอบนะครับ พิมพ์ไว้เยอะแล้ว หาอ่านกันดู
เชื่อผมไม่เชื่อผมไม่มีปัญหา
maxke
เข้าวงการ
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 46



« ตอบ #5 เมื่อ: 18 เมษายน 2011, 16:30:34 »

ผมใช้ ซีวิค ไดเมนชั่น 2002 ติดแก๊ซถัง 76 ลิตร ควรใช้โช๊คแบบไหน ยี่ห้อไหนดีครับ แบบว่าของเดิมเหมือนมันจะแข็งไปหน่อย วิ่งทางขรุขระ มันดังมากเลย แล้วก็ท้ายห้อยด้วยครับ   ขยิบตา
บันทึกการเข้า

ทำไมถึงรัก ซีวิค?
ham_ter
อาจารย์ปู่
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 9,223



« ตอบ #6 เมื่อ: 18 เมษายน 2011, 19:29:02 »

ผมใช้ ซีวิค ไดเมนชั่น 2002 ติดแก๊ซถัง 76 ลิตร ควรใช้โช๊คแบบไหน ยี่ห้อไหนดีครับ แบบว่าของเดิมเหมือนมันจะแข็งไปหน่อย วิ่งทางขรุขระ มันดังมากเลย แล้วก็ท้ายห้อยด้วยครับ   ขยิบตา
    ท้ายห้อยให้เปลี่ยน สปริง หรือรองสเปเซอร์หลัง
โช้คอัพไม่เกี่ยวกับความสูงต่ำจ้า ยิ้มกว้างๆ ยิ้มกว้างๆ
บันทึกการเข้า

หน้า: [1] ขึ้นบน พิมพ์ 
:::CIVIC CLUB THAILAND:::  |  คุยคุ้ย Civic  |  Civic Club Car Knowledge => คลังความรู้คู่รถ  |  หัวข้อ: เอาความรู้มาฝากครับ ว่าด้วยเรื่อง โช้คอัพ ครับ
กระโดดไป:  


.: Powered by :.
.: Link Exchange :.
civic, civic club, new civic 2017 civic, civic club, new civic 2017 civic, civic club, new civic 2017 civic, civic club, new civic 2017 civic, civic club, new civic 2017 civic, civic club, new civic 2017 civic, civic club, new civic 2017 civic, civic club, new civic 2017


Powered by MySQL Powered by PHP Copyright 2004-2014 www.welovecivic.com All rights reserved
Contact: theerachai@siamrx.com
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
Civic Club | ย่อลิงค์ |