ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
23 กรกฎาคม 2025, 05:04:03
หน้าแรก ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก
ข่าว: มีปัญหาการใช้งานเว็บไซต์ หรือติดต่อลงโฆษณา ติดต่อ admin [ไม่ใช่ผู้ขายสินค้า] ที่ 0876889988   หรือ theerachai@siamrx.com หรือ line id: @welovecivic




Custom Search
:::CIVIC CLUB THAILAND:::  |  คุยคุ้ย Civic  |  Civic Club Discuss => ห้องคนขับ  |  หัวข้อ: CIVIC EK ใช้น้ำมันเบรค DOT 4 ได้มั๊ยครับ 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1] ลงล่าง พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: CIVIC EK ใช้น้ำมันเบรค DOT 4 ได้มั๊ยครับ  (อ่าน 5720 ครั้ง)
taxman : ปทุมธานี
= ประธานคลับ . . . โอมเหม่ง =
ประธานคลับ
อาจารย์ปู่
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 23,937


Work hard, Play hard


« เมื่อ: 07 กรกฎาคม 2008, 09:59:14 »



ตามชื่อกระทู้ครับ เลยไม่แน่ใจว่าสามารถใช้ได้หรือเปล่า



ขอบคุณล่วงหน้า
บันทึกการเข้า

beer4353
Gold Member
อาจารย์ปู่
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 8,890


เก้ง แว่น...โชคชัย4 ^~^


« ตอบ #1 เมื่อ: 07 กรกฎาคม 2008, 10:12:08 »

ตามชื่อกระทู้ครับ เลยไม่แน่ใจว่าสามารถใช้ได้หรือเปล่า



ขอบคุณล่วงหน้า

อย่าเชียวนะพี่โอม....  เพราะว่ามันแพง     อายจัง


น้ำมันเบรค

           ระบบเบรคที่รถในปัจจุบันใช้กันอยู่นี้ เป็นแบบเบรค ไฮดรอลิค โดยมีของเหลว หรือน้ำมันเบรคทำหน้าที่ไฮดรอลิคในระบบห้ามล้อ  เมื่อเรากดคันเหยียบเบรคลงไป แรงดันที่เราเหยียบไปบนแป้นเบรคจะถุกถ่ายทอดผ่านของเหลวในระบบไปยังเบรค ซึ่งทำให้ความเร้วของรถลดลงหรือหยุดตามที่เราต้องการได้ ระบบไฮดรอลิคเบรคนี้เริ่มมีการใช้ครั้งแรกที่สหรัฐอเมริกาเมื่อปี ค.ศ. 1992 แล้วแพร่หลายออกไป จนกลายเป็นระบบมาตราฐานสำหรับรถทั่วไปในช่วงปลายปี ค.ศ. 1930 ซึ่งในตอนนั้นชิ้นส่วนที่เป็นยางของระบบเบรค อย่างเช่นลูกยาง ซีลยาง ตลอดจนท่อยางทำมาจากพวกยางธรรมชาติ ซึ่งจะทำปฎิกริยากับน้ำมันปิโตรเลี่ยม ( Petroleum Oil ) ทำให้ยางพองและเปื่อย ดังนั้นน้ำมันเบรคในสมัยก่อนจึงทำมาจากน้ำมัน ระหุ่ง ภายหลังจึงมีการพัฒนามาใช้พวกของเหลวสังเคราะห์  (Synthetic ) แทนซึ่งประกอบไปด้วย Polyglycol และ Glycol Ether รวมกับสารเคมีเพิ่มคุณภาพ

                 คุณสมบัตของน้ำมันเบรคที่ดี

             น้ำมันเบรคที่ดีนั้นนอกจากทำหน้าที่ไฮดรอลิคแล้ว ยังจำเป็นต้องมีคุณสมบัติอื่นอีกคือ

             

1.       หล่อลื่นส่วนต่างๆ ในระบบห้ามล้อ เช่น แม่ปั๊ม และ ลูกปั๊ม

2.       มีความหนืดเหมาะสม ซึ่งหมายความว่าสามารถใช้ได้ในอุณภูมิต่างๆ ไม่ว่าร้อนหรือเย็น

3.       ไม่เป็นอันตรายต่อลูกยาง และชิ้นส่วนที่เป็นโลหะในระบบห้ามล้อ

4.       มีจุดเดือดสูง ไม่ระเหยง่าย

5.       คงทน ไม่เสื่อมสภาพง่าย

 ภายหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 สมาคมวิศวกรยานยนต์แห่งสหรัฐอเมริกา ( Society Of Automotive Engineer หรือ SAE )ได้เริ่มกำหนดมาตราฐานน้ำมันเบรคขึ้นในปี ค.ศ. 1946 โดยเรียกชื่อมาตราฐานนี้ว่า  SAE 70 R1 และกำหนดมาตราฐานน้ำมันเบรคไว้ว่าต้องมีจุดเดือดไม่ต่ำกว่า 302 องศาฟาเรนไฮต์

        ในปี ค.ศ. 1964 ทางสมาคมวิศวกรยานยนต์แห่งสหรัฐอเมริกา ได้มีการปรับปรุงมาตราฐานน้ำมันเบรคขึ้นมาใหม่อีกครั้ง เรียกชื่อว่า SAE 70 R 3 เพิ่มกำหนดจุดเดือดของน้ำมันเบรคให้สูงขึ้นไปกว่าเดิมอีก โดยกำหนดเอาไว้ว่าจุดเดือดขั้นต่ำจะต้องไม่ต่ำกว่า 374องศาฟาเรนไฮต์

        ต่อมาช่วงปี ค.ศ. 1968 ได้มีการเปลี่ยนชื่อมาตราฐานน้ำมันเบรคกันใหม่ โดยใช้ชื่อว่า SAE J 1703 ส่วนจุดเดือดนั้นยังคงไว้ที่ 374 องศาฟาเรนไฮต์ เท่ากับมาตราฐาน SAE 70 R 3

        ปี ค.ศ. 1972 กระทรวงคมนาคมแห่งสหรัฐอเมริกา ( Department of Transportation หรือ DOT )ได้มีออกประกาศปรับปรุงมาตราฐานความปลอดภัยของยานพาหนะใหม่โดยกำหนดชื่อมาตราฐานสำหรับน้ำมันเบรคว่า DOT และได้กำหนดจุดเดือดของน้ำมันเบรคสำหรับมาตราฐาน DOT 3 ไม่ต่ำกว่า 401 องศาฟาเรนไฮต์  มาตรฐาน DOT 4  กำหนดเอาไว้ที่ 446 องศาฟาเรนไฮต์ พร้อมทั้งมีคุณสมบัติดูดซึมความชื้นต่ำกว่าน้ำมันเบรคมาตราฐาน DOT 3

        และในการกำหนดมาตราฐานของน้ำมันเบรคนั้น ไม่ว่าจะเป็นระบบ SAE หรือ  DOTก็ตามจะกำหนดตรงจุดเดือดเป็นหลัก ทั้งนี้เพราะในการเหยียบห้ามล้อยิ่งเป็นรถที่วิ่งด้วยความเร็วสูง หรืบรรทุกของหนัก อุณหภูมิที่ผ้าเบรคและจานเบรคจะสูงมาก ถ้าน้ำมันเบรคมีจุดเดือดต่ำก็จะระเหยเป็นไอได้ น้ำมันเบรคก็จะไม่ทำหน้าที่ของเหลวไฮดรอลิค ทำให้เกิดอาการที่เรียกว่า ? เบรคแตก ? ไม่สามารถหยุดรถได้

        สาเหตุที่ต้องกำหนดจุดเดือดของน้ำมันเบรคไว้สูง เนื่องจากสารเคมี Polyglycol นั้นมีคุณสมบัติในการดูดซึมความชื้นสูง โดยเฉพาะบ้านเราที่เป็นเขตร้อนชื้นมีความชื้นสูง โอกาสที่ความชื้นในอากาศจะแทรกตัวเข้าไปปนในน้ำมันเบรคจึงมีมากความชื้นจะทำให้จุดเดือดของน้ำมันเบรคลดลงมา ดังนั้นน้ำมันเบรคที่ดีจึงต้องมีจุดเดือดสูงตั้งแต่แรก แม้จะมีความชื้นเข้าไปปนขณะใช้งาน จุดเดือดก็ไม่ต่ำมากจนถึงกับระเหยกลายเป็นไอเมื่อเหยียบห้ามล้อ

        สีตามธรรมชาติของน้ำมันเบรคคือ ขาวใสจนถึงเหลืองอ่อน ที่เราพบเห็นเป็นสีต่างๆไม่ว่าจะเป็นสีแดง สีฟ้า หรือสีอื่นๆนั้นเป็นสีที่เติมเข้าไป เรื่องของสีจึงไม่เป็นผลต่อคุณภาพของน้ำมันเบรคแต่ประการใด คุณสมบัติที่ดีของน้ำมันเบรคคือจุดเดือดของน้ำมันเบรค อย่างน้ำมันเบรค DOT3 เค้ากำหนดให้ค่าความหนืดที่ 100 องศาเซลเซียส ไม่ต่ำกว่า 1.5 cSt และที่ ?40 องศาเซลเซียส  ไม่สูงกว่า 1,500cSt   เทียบกับน้ำมันเบรค DOT 5

ก็มีกำหนดให้ค่าความหนืดที่ 100 องศาเซลเซียส ไใต่ำกว่า 1.5 cSt และที่ ?40 องศาเซลเซียส ไมีสูงกว่า 900 cSt

น้ำมันเบรคที่ซื้อจะต้องบรรจุอยู่ในภาชนะที่มีความจุมิดชิด ยิ่งปากภาชนะมีซีลปิดอีกชั้นเพื่อป้องกันความชื้นยิ่งดีใหญ่เลย และน้ำมันเบรคต้องมีคุณสมบัติเทียบเท่าหรือเหนือกว่ามาตรฐานสากล คือ มาตรฐาน SAE J 1703 หรือมาตราฐาน DOT 3,DOT 4 หรือ DOT5 โดยสังเกตได้จากที่พิมพ์ติดเอาไว้ข้างภาชนะบรรจุ ไม่ควรซื้อน้ำมันเบรคที่ไม่ได้ระบุมาตราฐานเอาไว้ที่ภาชนะบรรจุอย่างเด็ดขาด และเมื่อมีการเปิดกระป๋องหรือภาชนะบรรจุน้ำมันเบรคออกมาใช้งานแล้วใช้ไม่หมดมีน้ำมันเบรคส่วนหนึ่งเหลืออยู่ ต้องปิดฝาให้สนิทและเก็บไว้ในที่แห้ง หากมีความต้องการเอาไว้ใช้งานในคราวต่อไป ไม่ควรเปิดฝาน้ำมันเบรคทิ้งไว้ ตลอดจนไม่ควรใช้น้ำมันเบรคที่เปิดใช้แล้ทิ้งไว้นานเพื่อให้ระบบห้ามล้ออยู่ในสภาพสมบูรณ์ ให้ความมั่นใจและปลอดภัยทุกครั้งที่มีการใช้เบรค

น้ำมันเบรคเป็นตัวละลายที่ดีโดยเฉพราะสีรถหากถูกน้ำมันเบรคจะย่น หรือละลายหลุดล่อนออกมา จึงไม่ควรถูกผิวสีรถหรือผิวหนัง และควรเก็บไว่ให้ห่างมือเด็กด้วยเพื่อความปลอดภัยหากมีการเติมหรือใช้น้ำมันเบรคให้เตรียมภาชนะบรรจุน้ำเอาไว้ใกล้มือก่อน เพราะน้ำมันเบรคถูกน้ำจะหมดฤทธิ์ทันที ดังนั้นในการเติมน้ำมันเบรคหลังจากเติมและปิดฝาเรียบร้อยแล้ว ช่างบางคนนิยมเทน้ำราดลงไปที่กระปุกเติมน้ำมันเบรค และบริเวณใกล้เคียง เพื่อจัดการกับน้ำมันเบรคที่หยดและตกค้างเอาไว้โดยไม่ได้ตั่งใจ มิฉะนั่นกว่าจะรู้ตัวสีรถก็จะหลุดออกมาเป็นรอย ตามที่น้ำมันเบรคตกค้างอยู่

ควรเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเบรคทุก 1-2 ปี หรือประมาณ 20,000-30,000 กม. โดยดูจากคู่มือประจำรถเป็นหลัก หรือมีรายการขับรถลุยน้ำลุยฝนก็ควรเปลี่ยนน้ำมันเบรคกันปีละครั้ง เนื่องจากน้ำมันเบรคก็มีลักษณะเดียวกันกับผลิตภัณฑ์หล่อลืนอื่นๆซึ่ใช้ในรถยนต์ที่ต้องมีการเปลี่ยนถ่าย ทั้งนี้เป็นคุณสมบัติของน้ำมันเบรคจะเริ่มเสื่อมลง

หลังจากการใช้งานไปเป็นระยะเวลาหนึ่ง สาเหตุที่สำคัญที่สุดเกิดจากความชื้นที่เข้าไปปนในเนื้อน้ำมันเบรคทำให้จุดเดือดของน้ำมันเบรคลดต่ำลง ผลจาการทดลองพบว่าภายในระยะเวลา 12-15 เดือน น้ำมันเบรคสามารถดูดซึมความชื้น ทำให้จุดเดือดของน้ำมันเบรคลดลงเหลือประมาณ 300 องศาฟาเรนไฮต์ หรือต่ำกว่านี้ซะอีก ซึ่งถ้ามีการใช้น้ำมันเบรคเหล่านี้ต่อไปอาจเกิดความไม่ปลอดภัยได้ นอกจกนี้ผลจากการดูดความชื้นเข้าไปปะปนในเนื้อน้ำมันเบรค จะทำให้เกิดการกัดกร่อนและเกิดสนิมจากความชื้นหรือน้ำ กับท่อทางเดินน้ำมันเบรคที่เป็นเป็บเหล็ก และเกิดเป็นสนิมขุมในในชุดกระบอกแม่ปั๊ม ทำให้เกิดการชำรุดสึกหลอ อายุการใช้งานสั้นลง และอาจเกิดมีผลต่อการทำงานเกิดเป็นอันตรายได้ จึงควรมีการตรวจสอบระบบห้ามล้อ และเปลี่ยนถ่านน้ำมันเบรคตามกำหนดหากเป็นน้ำมันเบรคในกระปุดเดิมพร่องไป มักมีสาเหตุจากผ้าเบรคบางลงจากการใช้งาน หรือลูกยางเบรคเสื่อมสภาพ น้ำมันเบรคมีการรั่วไหลจากระบบ ควรนำรถไปให้ช่างตรวจสอบโดยเร็ว และควรเติมน้ำมันเบรคให้เต็มไว้เสมอ

น้ำมันเบรคต่างยี่ห้อกัน แต่ได้มาตรฐานเดียวกันเสมอใช้ปนกันได้

มาจาก

www.cm-motorsports.com

 ยิ้ม
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07 กรกฎาคม 2008, 10:17:28 โดย beer4353 » บันทึกการเข้า

taxman : ปทุมธานี
= ประธานคลับ . . . โอมเหม่ง =
ประธานคลับ
อาจารย์ปู่
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 23,937


Work hard, Play hard


« ตอบ #2 เมื่อ: 07 กรกฎาคม 2008, 10:29:29 »

 :'(  ปกติผมก็ใช้ DOT 3 อยู่น่ะ 
บันทึกการเข้า

pop96
Gold Member
อาจารย์ปู่
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,208

EK96 TypeR/Domani จนๆ


« ตอบ #3 เมื่อ: 07 กรกฎาคม 2008, 12:51:26 »

ข้อมูล สุดยอดเลยเบียร์
บันทึกการเข้า

EK96 TypeR/Domani => http://www.welovecivic.com/forum/index.php?topic=21818.0

CIVIC CLUB NO.409
dear3231
ผู้คุมกฎ
อาจารย์ปู่
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,382


I ROCK COUPE !


« ตอบ #4 เมื่อ: 07 กรกฎาคม 2008, 21:16:04 »

ถ้าจำไม่ผิด คู่มืออ่านว่าให้ใช้น้ำมันเบรคของ Honda ไม่ต่ำกว่าเกรด DOT3 ครับ
บันทึกการเข้า

My_Mint
ผู้คุมกฎ
อาจารย์ปู่
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 7,647



« ตอบ #5 เมื่อ: 07 กรกฎาคม 2008, 21:37:01 »

น้ำมันเบรคศูนย์ก็หัวทิ่มแล้วพี่เอ้ย   รูดซิบปาก
บันทึกการเข้า

NEO
หนุ่มโสดย่านชิดลม
Gold Member
อาจารย์ปู่
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 7,065

My Name is NEO


« ตอบ #6 เมื่อ: 07 กรกฎาคม 2008, 21:40:07 »

แล้วเราใช้อะไรไปหว่า  หัวทิ่มเหมือนกัน   ขยิบตา
บันทึกการเข้า

Vitty
เจ้าสำนัก
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 725


« ตอบ #7 เมื่อ: 07 กรกฎาคม 2008, 22:24:44 »

แล้วเราใช้อะไรไปหว่า  หัวทิ่มเหมือนกัน   ขยิบตา

คาดว่า BLACK LABEL ป่าวครับ
บันทึกการเข้า

~ รั บ ซ่ อ ม ใ จ ~


http://lonelysecret.hi5.com
NEO
หนุ่มโสดย่านชิดลม
Gold Member
อาจารย์ปู่
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 7,065

My Name is NEO


« ตอบ #8 เมื่อ: 07 กรกฎาคม 2008, 23:05:01 »

คาดว่า BLACK LABEL ป่าวครับ

เชี่ยงชุนครับ    ยิงฟันยิ้ม
บันทึกการเข้า

taxman : ปทุมธานี
= ประธานคลับ . . . โอมเหม่ง =
ประธานคลับ
อาจารย์ปู่
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 23,937


Work hard, Play hard


« ตอบ #9 เมื่อ: 08 กรกฎาคม 2008, 09:57:34 »

คาดว่า BLACK LABEL ป่าวครับ

แบบนี้เรียก มาวหัวทิ่มแล้ว  ยิงฟันยิ้ม
บันทึกการเข้า

best
ho ho ho
เจ้าสำนัก
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 832


« ตอบ #10 เมื่อ: 08 กรกฎาคม 2008, 13:26:52 »

 ยิ้ม น้ำมันเบรคตามสเปคแต่ผ้าซิ่งก็โอเคแร้วครับ
บันทึกการเข้า

ตอบช้า ก็ยังดีกว่าไม่ตอบ
ไม่ถูกใจอะไร pm. มาได้
beer4353
Gold Member
อาจารย์ปู่
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 8,890


เก้ง แว่น...โชคชัย4 ^~^


« ตอบ #11 เมื่อ: 08 กรกฎาคม 2008, 19:31:08 »

ข้อมูล สุดยอดเลยเบียร์

ขอบคุณครับ ป๊อบ              ยิ้ม   





(ก๊อปเขามาอีกที )    จุ๊ๆ           อายจัง                 
บันทึกการเข้า

Regis100
ม่อนเงาะ ณ เชียงใหม่
ผู้คุมกฎ
อาจารย์ปู่
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 18,639


ผมก็แค่ผู้โง่เขลาคนนึงที่พยายามอยากฉลาด@ เชียงใหม่เจ้า


« ตอบ #12 เมื่อ: 20 กรกฎาคม 2010, 12:47:37 »

ขุดมาดัน สรุปว่า รถเรา ใช้น้ำมันเบรค Dot 3 4 5 ได้หมดนะครับ แล้วแต่กำลังเพราะอันสุดท้ายนี่แพงกว่าอันแรกหลายเท่าเลย
บันทึกการเข้า

ค้นคำตอบก่อนรอคำตอบนะครับ พิมพ์ไว้เยอะแล้ว หาอ่านกันดู
เชื่อผมไม่เชื่อผมไม่มีปัญหา
หน้า: [1] ขึ้นบน พิมพ์ 
:::CIVIC CLUB THAILAND:::  |  คุยคุ้ย Civic  |  Civic Club Discuss => ห้องคนขับ  |  หัวข้อ: CIVIC EK ใช้น้ำมันเบรค DOT 4 ได้มั๊ยครับ
กระโดดไป:  


.: Powered by :.
.: Link Exchange :.
civic, civic club, new civic 2017 civic, civic club, new civic 2017 civic, civic club, new civic 2017 civic, civic club, new civic 2017 civic, civic club, new civic 2017 civic, civic club, new civic 2017 civic, civic club, new civic 2017 civic, civic club, new civic 2017


Powered by MySQL Powered by PHP Copyright 2004-2014 www.welovecivic.com All rights reserved
Contact: theerachai@siamrx.com
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
Civic Club | ย่อลิงค์ |