ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
29 มีนาคม 2024, 08:02:13
หน้าแรก ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก
ข่าว: มีปัญหาการใช้งานเว็บไซต์ หรือติดต่อลงโฆษณา ติดต่อ admin [ไม่ใช่ผู้ขายสินค้า] ที่ 0876889988   หรือ theerachai@siamrx.com หรือ line id: @welovecivic




Custom Search
:::CIVIC CLUB THAILAND:::  |  คุยคุ้ย Civic  |  Civic Club Alternative Energy => พลังงานทางเลือก  |  หัวข้อ: สอบถามเรื่องความร้อน ตอนใช้แก๊สค๊ 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1] ลงล่าง พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: สอบถามเรื่องความร้อน ตอนใช้แก๊สค๊  (อ่าน 16656 ครั้ง)
darkblue96
ศิษย์น้อง
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 51


line ID: vertex96


« เมื่อ: 23 ธันวาคม 2013, 17:08:03 »



ปกติใช้ แก๊สโซฮอล95 ค๊.   ใช้ไม่เยอะเรยมะค่อยรุสึกว่าเปลืองอ่ะค๊  อายจัง.         แต่คือช่วงปีใหม่ต้องไปสุราษฎร์เรยต้องใช้แก๊สสะแร้ว.       ใช้อีซูซุ เวอร์เทค 96 เครื่อง d16y8 ค๊  เวลาใช้น้ำมันความร้อนก้อเกือบครึ่งของเกจ์วัด.     แต่ถัาเปลี่ยนมาใช้แก๊สแถมวิ่งทางไกล.      ความร้อนแค่ไหนถึงเรียกว่าปกติค๊.  แร้วมีข้อควรฏิบัติอะรัยบ้าง.   เช่น วิ่งติดต่อกันได้กี่กิโล   พักนานเท่าไหร่.     แร้วถ้าจะสับใช้น้ำมันไปด้วยคนละถังจะได้มั้ยค๊.    รบกวนท่านผู้รู้ในบอร์ดตอบหั้ยหน่อยน๊ค๊.  แอบกังวลถ้าจะต้องใช้แก๊สอ่ะค๊.   อายจัง อายจัง อายจัง.  ม.    ขอบคุณมากน๊ค๊.  ขยิบตา ขยิบตา ขยิบตา
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24 ธันวาคม 2013, 14:09:02 โดย darkblue96 » บันทึกการเข้า
Experience
ศิษย์น้อง
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 117


« ตอบ #1 เมื่อ: 23 ธันวาคม 2013, 19:49:01 »

ถ้าเปลี่ยนมาใช้แก๊สแถมวิ่งทางไกล. ความร้อนแค่ไหนถึงเรียกว่าปกติคะ
ความร้อนที่เรียกว่าปกติ  ก็คือความร้อนกรณีที่ใช้น้ำมันปกตินั่นแหละครับ ( เวลาใช้น้ำมันความร้อนก้อเกือบครึ่งของเกจ์วัด.)  แต่เดินทางไกลสังเกตเข็มวัดความร้อนบ่อยขึ้นกว่าเดิมนิดนึง  แต่ไม่ใช่ดูจนกลายเป็นความวิตกกังวล
แล้วมีข้อควรปฏิบัติอะไรบ้าง
ข้อควรปฏิบัติก็ไม่มีอะไรมาก  ก็ปฏิบัติเหมือนการเดินทางไกลปกติโดยทั่วไป  คือ
1. ตรวจสภาพรถก่อนออกเดินทาง เช็คลมยาง ถ้ามีสัมภาระบรรทุกมาก ก็ควรเติมลมยางเพิ่มอีกประมาณ 2-4 ปอนด์ต่อล้อ (ลมยางล้อstandard ขนาด 185/65 R14  หน้า 30 หลัง 29 ตามคู่มือรถยนต์)
2. ตรวจระดับน้ำกลั่นแบตเตอรี่  ระดับน้ำล้างกระจก  ระดับน้ำหม้อน้ำ  ระดับน้ำถังพักหม้อน้ำ ให้อยู่ระดับ max หรือไม่ควรจะต่ำกว่าระดับ min
3. ตรวจเช็คไฟส่องสว่างไฟหรี่  ไฟหน้า ไฟสูง  ไฟหลัง ไฟถอย  ไฟเบรก  ไฟเลี้ยว  และไฟฉุกเฉิน ว่าติดครบหรือไม่  ก้านปัดน้ำฝนทำงานปกติหรือไม่
4. การวิ่งรถติดต่อกันสามารถทำได้ตลอดจนเดินทางถึงสุราษฎร์  ตามที่คุณเองมีแรงที่จะขับไปถึง  แต่ทางที่ดีควรหยุดพักสักประมาณ 2-3 ชม.ต่อครั้ง แวะล้างหน้า  เข้าห้องน้ำ  เพื่อไม่ให้ร่างกายเกิดความเมื่อยล้า  หรือง่วงขณะขับรถ
5. สูตรการเดินทางไกลโดยใช้แก๊สและน้ำมัน เท่าที่ผู้ใช้หลายท่านใช้ มักจะใช้ สูตร แก๊ส 2 ถัง แล้วใช้น้ำมัน 1 ถัง (สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความเหมาะสม) หรือจะใช้แก๊สอย่างเดียวเดินทางยังได้เลย (เพียงแต่ว่าผู้สันทัดหลายท่านมองว่าการใช้แก๊สร่วมกับน้ำมันจะช่วยให้ถนอมเครื่องยนต์) สรุป ไม่ต้องวิตกกังวลกับเรื่องแก๊สครับ  การใช้เหมือนน้ำมัน ดูแลบำรุงรักษาเหมือนใช้น้ำมันปกติครับ
โชคดี เดินทางโดยสวัสดิภาพ ครับ
บันทึกการเข้า
darkblue96
ศิษย์น้อง
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 51


line ID: vertex96


« ตอบ #2 เมื่อ: 23 ธันวาคม 2013, 20:48:32 »

ถ้าเปลี่ยนมาใช้แก๊สแถมวิ่งทางไกล. ความร้อนแค่ไหนถึงเรียกว่าปกติคะ
ความร้อนที่เรียกว่าปกติ  ก็คือความร้อนกรณีที่ใช้น้ำมันปกตินั่นแหละครับ ( เวลาใช้น้ำมันความร้อนก้อเกือบครึ่งของเกจ์วัด.)  แต่เดินทางไกลสังเกตเข็มวัดความร้อนบ่อยขึ้นกว่าเดิมนิดนึง  แต่ไม่ใช่ดูจนกลายเป็นความวิตกกังวล
แล้วมีข้อควรปฏิบัติอะไรบ้าง
ข้อควรปฏิบัติก็ไม่มีอะไรมาก  ก็ปฏิบัติเหมือนการเดินทางไกลปกติโดยทั่วไป  คือ
1. ตรวจสภาพรถก่อนออกเดินทาง เช็คลมยาง ถ้ามีสัมภาระบรรทุกมาก ก็ควรเติมลมยางเพิ่มอีกประมาณ 2-4 ปอนด์ต่อล้อ (ลมยางล้อstandard ขนาด 185/65 R14  หน้า 30 หลัง 29 ตามคู่มือรถยนต์)
2. ตรวจระดับน้ำกลั่นแบตเตอรี่  ระดับน้ำล้างกระจก  ระดับน้ำหม้อน้ำ  ระดับน้ำถังพักหม้อน้ำ ให้อยู่ระดับ max หรือไม่ควรจะต่ำกว่าระดับ min
3. ตรวจเช็คไฟส่องสว่างไฟหรี่  ไฟหน้า ไฟสูง  ไฟหลัง ไฟถอย  ไฟเบรก  ไฟเลี้ยว  และไฟฉุกเฉิน ว่าติดครบหรือไม่  ก้านปัดน้ำฝนทำงานปกติหรือไม่
4. การวิ่งรถติดต่อกันสามารถทำได้ตลอดจนเดินทางถึงสุราษฎร์  ตามที่คุณเองมีแรงที่จะขับไปถึง  แต่ทางที่ดีควรหยุดพักสักประมาณ 2-3 ชม.ต่อครั้ง แวะล้างหน้า  เข้าห้องน้ำ  เพื่อไม่ให้ร่างกายเกิดความเมื่อยล้า  หรือง่วงขณะขับรถ
5. สูตรการเดินทางไกลโดยใช้แก๊สและน้ำมัน เท่าที่ผู้ใช้หลายท่านใช้ มักจะใช้ สูตร แก๊ส 2 ถัง แล้วใช้น้ำมัน 1 ถัง (สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความเหมาะสม) หรือจะใช้แก๊สอย่างเดียวเดินทางยังได้เลย (เพียงแต่ว่าผู้สันทัดหลายท่านมองว่าการใช้แก๊สร่วมกับน้ำมันจะช่วยให้ถนอมเครื่องยนต์) สรุป ไม่ต้องวิตกกังวลกับเรื่องแก๊สครับ  การใช้เหมือนน้ำมัน ดูแลบำรุงรักษาเหมือนใช้น้ำมันปกติครับ
โชคดี เดินทางโดยสวัสดิภาพ ครับ

ต้องขอบคุณมากๆค๊ ที่หั้ยความรู้ดีๆ แต่ความร้อนจะเท่ากับ ตอนใช้น้ำมันเรยหรอค๊ เพราะเคยมีความคิดว่าเครื่องจะร้อนกว่าตอนใช้น้ำมันจนเกจ์วัดขึ้นจนสังเกตได้  ต้องขอบคุณอีกครั้งน๊ค๊  ยิ้ม ยิ้ม
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24 ธันวาคม 2013, 14:13:00 โดย darkblue96 » บันทึกการเข้า
Experience
ศิษย์น้อง
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 117


« ตอบ #3 เมื่อ: 23 ธันวาคม 2013, 21:13:31 »

แต่ความร้อนจะเท่ากับ ตอนใช้น้ำมันเรยหรอคะ

ไม่เท่าครับ  ตอนใช้แก๊สความร้อนจะสูงกว่า ตอนใช้น้ำมันครับ  แต่ความร้อนไม่สูงจนเกจ์วัดความร้อนสังเกตุได้ครับ
เครื่องเดิมผม d16y8 vtec LEV  ก็ใช้แก๊สครับ  ขับแช่ลงอ่าวมะนาว ประจวบฯ  ขับแช่ 170-190 เป็นช่วงๆ  บางช่วงก็ความเร็วต่ำ
ไม่ได้ใช้น้ำมัน  ความร้อนยังปกติ เท่าเดิมเลยครับ  ขับขึ้นดอยสุเทพ เชียงใหม่ หรือเขาค้อก็ไปมา  ความเร็วเดินทางส่วนใหญ่ก็ 140-160
โดยประมาณ  ความร้อนก็ปกติครับ
        ถ้าเป็นเพียงแค่มีความคิด อย่างกังวลเลยครับ  ถ้าเครื่องรถเรายังปกติอยู่ไม่ต้องกังวลครับ   แต่ถ้าขับไปแล้วเข็มวัดความร้อนขึ้นสูงผิดปกติ
คงต้องตรวจสอบแล้วครับ  อันนั้นน่ากังวล
อ้อเมื่อสักครู่รู้สึกว่าตกไปคือ  ควรตรวจดูระดับน้ำมันเครื่องก่อนออกเดินทาง  และเมื่อเดินทางไปถึงขณะเครื่องยนต์เย็นหรือตอนเช้า  ดูระดับน้ำมันเครื่องให้ปกติด้วยก็จะดีครับ
บันทึกการเข้า
darkblue96
ศิษย์น้อง
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 51


line ID: vertex96


« ตอบ #4 เมื่อ: 24 ธันวาคม 2013, 08:03:11 »

แต่ความร้อนจะเท่ากับ ตอนใช้น้ำมันเรยหรอคะ

ไม่เท่าครับ  ตอนใช้แก๊สความร้อนจะสูงกว่า ตอนใช้น้ำมันครับ  แต่ความร้อนไม่สูงจนเกจ์วัดความร้อนสังเกตุได้ครับ
เครื่องเดิมผม d16y8 vtec LEV  ก็ใช้แก๊สครับ  ขับแช่ลงอ่าวมะนาว ประจวบฯ  ขับแช่ 170-190 เป็นช่วงๆ  บางช่วงก็ความเร็วต่ำ
ไม่ได้ใช้น้ำมัน  ความร้อนยังปกติ เท่าเดิมเลยครับ  ขับขึ้นดอยสุเทพ เชียงใหม่ หรือเขาค้อก็ไปมา  ความเร็วเดินทางส่วนใหญ่ก็ 140-160
โดยประมาณ  ความร้อนก็ปกติครับ
        ถ้าเป็นเพียงแค่มีความคิด อย่างกังวลเลยครับ  ถ้าเครื่องรถเรายังปกติอยู่ไม่ต้องกังวลครับ   แต่ถ้าขับไปแล้วเข็มวัดความร้อนขึ้นสูงผิดปกติ
คงต้องตรวจสอบแล้วครับ  อันนั้นน่ากังวล
อ้อเมื่อสักครู่รู้สึกว่าตกไปคือ  ควรตรวจดูระดับน้ำมันเครื่องก่อนออกเดินทาง  และเมื่อเดินทางไปถึงขณะเครื่องยนต์เย็นหรือตอนเช้า  ดูระดับน้ำมันเครื่องให้ปกติด้วยก็จะดีครับ
   

อ่ะเครคร้า  ยิ้ม   จะได้คอยสังเกตเกจ์วัดความร้อนไว้ค๊   แต่พีชมะได้ขับเร็วมาก   ยังไม่เกิน  120 สักที     แบบว่าสงสารเค้าค๊อายุมากแระจะได้อยู่ด้วยกันไปนานๆ   ก้อดูแลกันไปแก่พอกันค๊ทั้งรถทั้งคน อิอิ   ;Dขอบคุณน๊ค๊  สวัสดีปีใหม่ล่วงหน้า เฮงๆรวยๆ ตลอดไปน๊ค๊ ยิ้ม
บันทึกการเข้า
Sitti2519
อาจารย์ปู่
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,352



« ตอบ #5 เมื่อ: 18 มกราคม 2014, 15:12:47 »

ถ้าไม่ปล่อยให้น้ำหม้อน้ำขาดก็ไม่ต้องกลัวอะไรหรอกครับ
บันทึกการเข้า
darkblue96
ศิษย์น้อง
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 51


line ID: vertex96


« ตอบ #6 เมื่อ: 22 มกราคม 2014, 20:56:41 »

ถ้าไม่ปล่อยให้น้ำหม้อน้ำขาดก็ไม่ต้องกลัวอะไรหรอกครับ



ขอบคุณค๊ ตอนนี้ความร้อนกลายเป็นปัญหารองสะแระค๊ แหะๆ   คือว่าตอนนี้มีปัญหาใหม่   เบรคติดไฟแดงรึรถติด รอบจะตกและดับ เวลาคอมแอร์ทำงานค๊
ปล. ล้างลิ้นตั้งวาล์วและจูนแก๊สแร้วอ่ะค๊ มะรุจะทำงัยต่อ แต่เวลาใช้น้ำมันปกติดีค๊ไม่มีอาการที่ว่ามา เศร้า
บันทึกการเข้า
Experience
ศิษย์น้อง
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 117


« ตอบ #7 เมื่อ: 22 มกราคม 2014, 22:07:55 »

ลิ้นล้างแล้ว  วาล์วตั้งแล้ว  แก๊สก็จูนแล้ว  แล้วยังมีอาการรอบตก
ขณะที่น้ำมันไม่เป็น

คงต้องกลับไปดูการตั้งวาล์วแล้วครับ ว่าช่างตั้งค่า ไอดี  ไอเสีย ถูกต้องหรือเปล่าครับ
ปกติเครื่องรุ่นนี้ช่างทั่วไปจะตั้ง ไอดี 8  ไอเสีย 10
และต้องตั้งตอนเครื่องเย็น

ของผมเคยไปตั้งวาล์ว  ร้านดังเลย  แต่เห็นแล้วจบเลย
จอดรถจนเครื่องเย็นอยู่นาน ช่างดันขับรถเปลี่ยนที่ สักพัก  แล้วมาตั้งวาล์วจบเลย
แต่ก็นึกในใจช่างมัน  ไว้ตั้งใหม่รอบหน้า  คราวนี้มันคงไม่เพี้ยนเยอะหรอก (นึกปลอบใจตัวเอง)

แล้วก็คงต้องให้ช่างจูนแก๊ส เช็คการจูนใหม่ครับ  บอกช่างเลย ใช้น้ำมันไม่เป็น
และตรวจเช็คระบบแก๊สด้วย  กรองแก๊สสกปรกหรือเปล่า   หรือหม้อต้มแก๊สเริ่มไม่ดี
ตรวจเช็คว่าติดแก๊สมานานหรือยัง

ของผมใช้หัวฉีดก็ยังเป็นบางครั้ง  ยังแก้ไม่ตกเหมือนกัน ขนาดเปลี่ยนหม้อต้มแก๊สใหม่

สรุป ว่าควรดูการตั้งวาล์ว  กับระบบแก๊สใหม่ครับ   คงไม่มีท่อแว็คคั่มรั่งหรอกครับ
เพราะเป็นเฉพาะตอนใช้แก๊ส
ลองให้ช่างดูอีกครั้งครับ
บันทึกการเข้า
Sitti2519
อาจารย์ปู่
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,352



« ตอบ #8 เมื่อ: 22 มกราคม 2014, 23:41:33 »



ขอบคุณค๊ ตอนนี้ความร้อนกลายเป็นปัญหารองสะแระค๊ แหะๆ   คือว่าตอนนี้มีปัญหาใหม่   เบรคติดไฟแดงรึรถติด รอบจะตกและดับ เวลาคอมแอร์ทำงานค๊
ปล. ล้างลิ้นตั้งวาล์วและจูนแก๊สแร้วอ่ะค๊ มะรุจะทำงัยต่อ แต่เวลาใช้น้ำมันปกติดีค๊ไม่มีอาการที่ว่ามา เศร้า
ถ้าน้ำมันเดินได้ปกติ มีอาการตอนใช้แก๊ส ให้จูนแก๊สใหม่เลยครับ แก๊สไม่พอครับอาการนี้คือจูนยังไม่ถูกต้องครับ ว่วนการตั้งวาล์วคงไม่ใช่แล้ว ถ้าใช้น้ำมันได้ปกติ แสดงว่าวาล์วไม่มีปัญหา
แก๊สเป็นหัวฉีดหรือมิกครับ
บันทึกการเข้า
Sitti2519
อาจารย์ปู่
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,352



« ตอบ #9 เมื่อ: 22 มกราคม 2014, 23:46:32 »

ลองอ่านดูครับ
http://www.welovecivic.com/forum/index.php?topic=184829.0
บันทึกการเข้า
Sitti2519
อาจารย์ปู่
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,352



« ตอบ #10 เมื่อ: 22 มกราคม 2014, 23:47:34 »

http://www.welovecivic.com/forum/index.php?topic=190240.0
บันทึกการเข้า
darkblue96
ศิษย์น้อง
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 51


line ID: vertex96


« ตอบ #11 เมื่อ: 23 มกราคม 2014, 12:17:04 »

ลิ้นล้างแล้ว  วาล์วตั้งแล้ว  แก๊สก็จูนแล้ว  แล้วยังมีอาการรอบตก
ขณะที่น้ำมันไม่เป็น

คงต้องกลับไปดูการตั้งวาล์วแล้วครับ ว่าช่างตั้งค่า ไอดี  ไอเสีย ถูกต้องหรือเปล่าครับ
ปกติเครื่องรุ่นนี้ช่างทั่วไปจะตั้ง ไอดี 8  ไอเสีย 10
และต้องตั้งตอนเครื่องเย็น

ของผมเคยไปตั้งวาล์ว  ร้านดังเลย  แต่เห็นแล้วจบเลย
จอดรถจนเครื่องเย็นอยู่นาน ช่างดันขับรถเปลี่ยนที่ สักพัก  แล้วมาตั้งวาล์วจบเลย
แต่ก็นึกในใจช่างมัน  ไว้ตั้งใหม่รอบหน้า  คราวนี้มันคงไม่เพี้ยนเยอะหรอก (นึกปลอบใจตัวเอง)

แล้วก็คงต้องให้ช่างจูนแก๊ส เช็คการจูนใหม่ครับ  บอกช่างเลย ใช้น้ำมันไม่เป็น
และตรวจเช็คระบบแก๊สด้วย  กรองแก๊สสกปรกหรือเปล่า   หรือหม้อต้มแก๊สเริ่มไม่ดี
ตรวจเช็คว่าติดแก๊สมานานหรือยัง

ของผมใช้หัวฉีดก็ยังเป็นบางครั้ง  ยังแก้ไม่ตกเหมือนกัน ขนาดเปลี่ยนหม้อต้มแก๊สใหม่

สรุป ว่าควรดูการตั้งวาล์ว  กับระบบแก๊สใหม่ครับ   คงไม่มีท่อแว็คคั่มรั่งหรอกครับ
เพราะเป็นเฉพาะตอนใช้แก๊ส
ลองให้ช่างดูอีกครั้งครับ


ที่เหลือยังไม่ได้ทำน่าจะเป็นกรองแก๊สอ่ะค๊ แร้วอาจจะลองจูนแก๊สใหม่ เพราะตอนที่ทำเข้าร้านจูนแก๊สก่อน แล้วถึงเข้าล้างลิ้นตั้งวาล์ว อาการแก๊สจึงยังไม่หาย ขอบคุณน๊ค๊ สำหรับคำตอบเปนแนวทางสำหรับแก้ไขเพิ่มเติม ขอบคุณมากๆคร้าส์ ยิ้ม ยิ้ม ยิ้ม
บันทึกการเข้า
darkblue96
ศิษย์น้อง
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 51


line ID: vertex96


« ตอบ #12 เมื่อ: 23 มกราคม 2014, 16:21:09 »


ขอบคุณน๊ค๊สำหรับข้อมูล ความรู้ดีๆทั้งนั้นเรยค๊ อยากทำเองหั้ยได้บ้างจังเรย เพราะถ้าเราไปทำที่ร้านเราก้อไม่กล้าบอกรายละเอียดอีก  เด่วเค้าจะหาว่ามารู้มากกว่าช่างได้งัย รูดซิบปาก  ได้แต่บอกเค้าว่า ตั้งวาล์ว ล้างลิ้น จูนแก๊ส แร้วก้อได้แต่นั่งรอรับรถ มะกล้าสั่งว่า ตั้งวาล์วเท่านี้ ล้างตรงนั้นด้วย หรือ จูนเท่านี้น๊  แอบอิฉาคนที่ทำได้เองน๊ค๊ ทำได้ตามจัยสั่งเรยอ่ะ (รุแบบนี้ตอนเรียนน่าจะเลือกช่างยนต์) ขอบคุณน๊ค๊ ถ้าได้ทำแร้วจบจะมาอัพอีกทีค๊ว่าเป็นที่อะรัยกันแน่ เพื่อเป็นแนวทางหั้ยกับผู้อื่นที่มีปัญหาเมิลๆกัน ขอบคุณที่นำความรู้ดีๆมาเผยแแผ่หั้ยกับผู้ไมม่มีความรู้น๊ค๊ ยิ้ม จุมพิต ยิ้ม
บันทึกการเข้า
Sitti2519
อาจารย์ปู่
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,352



« ตอบ #13 เมื่อ: 23 มกราคม 2014, 17:47:05 »

ไม่มีปัญหาครับผม การล้างลิ้น ต้องล้างก่อนจูนแก๊สครับ ล้างลิ้น ล้าง IACV เสร็วแล้วค่อยมาจูนแก๊สครับ ที่ถูกต้องต้องทำแบบนี้ครับ ลองดูตามกระทู้ไป แล้วหมั่นไปดูที่รถตัวเองว่าเหมือนกันไหม ตรงไหนเขาเรียกอะไร ดูไปเรื่อยๆ มั่นใจแล้วค่อยลองทำงานง่ายๆก่อนครับ เมื่อเก่งบวกความมั่นใจแล้ว ค่อยลุยงานยากๆขึ้นทีละหน่อยครับ เรียนหรือไม่เรียนช่างยนต์มาไม่ใช่ปัญหาครับ ผมก็ไม่ได้เรียนมาสายช่างยนต์ครับ เรียนทางศิลปะมา แต่พอมีรถแล้วเข้าหาช่างบ่อย ผลิตเงินไม่ทันให้เป็นค่าช่างครับ เลยคิดว่าไม่ไหวแล้ว เขายังทำได้ทำไมเราจะทำไม่ได้ จึงลงทุนไปเรียนภาคค่ำที่โรงเรียนฝึกอาชีพครับ ลองดูครับ เผื่อมีช่างหญิงเท่ห์ๆสักคน ทำเองได้สนุกนะครับ
บันทึกการเข้า
darkblue96
ศิษย์น้อง
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 51


line ID: vertex96


« ตอบ #14 เมื่อ: 23 มกราคม 2014, 18:27:04 »

ไม่มีปัญหาครับผม การล้างลิ้น ต้องล้างก่อนจูนแก๊สครับ ล้างลิ้น ล้าง IACV เสร็วแล้วค่อยมาจูนแก๊สครับ ที่ถูกต้องต้องทำแบบนี้ครับ ลองดูตามกระทู้ไป แล้วหมั่นไปดูที่รถตัวเองว่าเหมือนกันไหม ตรงไหนเขาเรียกอะไร ดูไปเรื่อยๆ มั่นใจแล้วค่อยลองทำงานง่ายๆก่อนครับ เมื่อเก่งบวกความมั่นใจแล้ว ค่อยลุยงานยากๆขึ้นทีละหน่อยครับ เรียนหรือไม่เรียนช่างยนต์มาไม่ใช่ปัญหาครับ ผมก็ไม่ได้เรียนมาสายช่างยนต์ครับ เรียนทางศิลปะมา แต่พอมีรถแล้วเข้าหาช่างบ่อย ผลิตเงินไม่ทันให้เป็นค่าช่างครับ เลยคิดว่าไม่ไหวแล้ว เขายังทำได้ทำไมเราจะทำไม่ได้ จึงลงทุนไปเรียนภาคค่ำที่โรงเรียนฝึกอาชีพครับ ลองดูครับ เผื่อมีช่างหญิงเท่ห์ๆสักคน ทำเองได้สนุกนะครับ

เรียนภาคค่ำโรงเรียนฝึกอาชีพ     ว้าวน่าสนค๊  อยากเรียนบ้างแหะๆผลิตเงินไม่ทันจ่ายช่างจิงๆค๊   ต้องหาข้อมูลที่เรียนบ้างสะแร้วค๊  THK  4  IDOL  IDEAL  KRA    จุมพิต จุมพิต จุมพิต
บันทึกการเข้า
Sitti2519
อาจารย์ปู่
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,352



« ตอบ #15 เมื่อ: 24 มกราคม 2014, 08:50:35 »

ค่าเรียนไม่เยอะหรอกครับ แค่ค่าสมัครหลักสูตรละ 105 บาทครับ
จะให้เก่งเรียนให้ครบทุกอย่างเลยครับ
มี
1 ช่างเครื่องยนต์เบนซิน เรียนเกี่ยวกับการผ่า ประกอบเครื่อง (โอเวอร์ฮอล) การปรับตั้งวาล์ว การตั้งไฟจุดระเบิด จากเครื่องกองๆอยู่เอามาประกอบกันทำให้เครื่องยนต์ติดได้เลยนะครับ สภาพเครื่องยังกะเศษเหล็ก ตอนเรียนเอามาทำให้มันติดได้เลยครับ
2 ต่อด้วย ช่างเครื่องยนต์เบนซินหัวฉีด เรียนการอ่านวงจรสาย ระบบอิเล็คทรอนิกส์ เซ็นเซอร์ต่างๆ การตั้งไฟจุดระเบิด การแก้ไขปัญหารถยนต์หัวฉีด
3 ต่อด้วย ช่างติดตั้งแก๊สธรรมชาติสำหรับยานยนต์ เรียนการติดตั้งแก๊ส การต่อวงจรสายไฟแก๊สแบบมิกเซอร์ การติดตั้งแก๊สระบบหัวฉีด ลงมือทำจริงทุกขั้นตอน จนถึงการจูนแก๊สทั้ง มิกเซอร์ และหัวฉีด
4 ช่างเครื่องล่างรถยนต์ เรียนระบบกันสะเทือน เบรค ฯลฯ
5 ช่างไฟฟ้ารถยนต์ เรียนพวกระบบสวิตซ์กุญแจ จานจ่าย ไฟหน้า ไฟต่างๆ มอเตอร์สตาร์ท ไดชาร์ท ฯลฯ
แต่ละหลักสูตรๆละ 150 ชั่วโมง เรียนวันละ 3 ชั่วโมง จาก 17.30-20.30 น
ที่โรงเรียนฝึกอาชีพดินแดง 1 ครับ
บันทึกการเข้า
Sitti2519
อาจารย์ปู่
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,352



« ตอบ #16 เมื่อ: 24 มกราคม 2014, 09:02:29 »

http://www.welovecivic.com/forum/index.php?topic=124875.0
ที่นี่ใหญ่ที่สุดแล้วครับ มีวิชาช่างยนต์มากที่สุดครับ
บันทึกการเข้า
Sitti2519
อาจารย์ปู่
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,352



« ตอบ #17 เมื่อ: 24 มกราคม 2014, 09:04:33 »

การดูในเว็บนี้มันก็แค่ส่วนหนึ่ง แต่ถ้าต้องการพื้นฐานด้านช่างยนต์ที่แน่นๆหน่อย แนะนำให้เรียนดีกว่าครับ
บันทึกการเข้า
Sitti2519
อาจารย์ปู่
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,352



« ตอบ #18 เมื่อ: 24 มกราคม 2014, 09:08:18 »

เรื่องไหนที่ได้ยินมาเหมือนนิทานอีสป เกี่ยวกับรถยนต์เรียนไปถามไปวิเคราะห์ไป จะแน่นอนกว่า คราวหลังจะต่อยอดเองได้ครับ
แต่ถ้าตั้งใจจะเรียนจริง อาจารย์อาจสอนช้าหน่อย ก็อยากให้อดทนไปเรียนทุกวันให้ครบตามเวลาเขารับรองเรียนจบทำได้แน่ครับ
บันทึกการเข้า
Sitti2519
อาจารย์ปู่
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,352



« ตอบ #19 เมื่อ: 24 มกราคม 2014, 09:17:22 »

แต่ถ้าเรียนวิชาช่างเครื่องยนต์เบนซินหัวฉีด ท่านอาจารย์จะดุมาก ออกแนวโหดว่างั้น แต่ใจจริงอาจารย์เป็นคนดี ให้ทนเรียนเอานะ เรียนกับท่านได้ความรู้เยอะครับ แต่ให้ตั้งใจฟัง ถ้าไม่ตั้งใจฟังโดนด่า มาแต่ละวันให้ท่องวงจรอิเล็คทรอนิกส์มาทุกวัน เมื่อท่านถามต้องตอบได้ คนที่ไม่ค่อยรู้เรื่องจะกลัวและหายไปหมด เช่อๆหมว่ารุ่นผมจาก 25 คน เหลือผมกับพี่อีกคนที่เรียนจนถึงวันสุดท้าย ที่เหลือหายหมดเกลี้ยงห้องเลย สิ่งที่ได้คุ้มครับ เชื่อผมเถ๊อะ ปกติอาจารย์เปิดสอนพิเศษที่บ้านท่านคอร์สละหมื่นกว่าบาทเลยนะครับวิชานี้ จะเน้นการวายริ่งวางเครื่องใหม่น่ะครับ
บันทึกการเข้า
Sitti2519
อาจารย์ปู่
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,352



« ตอบ #20 เมื่อ: 24 มกราคม 2014, 09:21:42 »

มีอะไรถามได้ครับ ถ้ารู้จะตอบครับ ถ้าไม่รู้ก็จะตอบว่าไม่รู้ครับ เจ๋ง
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24 มกราคม 2014, 11:54:39 โดย Sitti2519 » บันทึกการเข้า
darkblue96
ศิษย์น้อง
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 51


line ID: vertex96


« ตอบ #21 เมื่อ: 24 มกราคม 2014, 09:51:24 »

ค่าเรียนไม่เยอะหรอกครับ แค่ค่าสมัครหลักสูตรละ 105 บาทครับ
จะให้เก่งเรียนให้ครบทุกอย่างเลยครับ
มี
1 ช่างเครื่องยนต์เบนซิน เรียนเกี่ยวกับการผ่า ประกอบเครื่อง (โอเวอร์ฮอล) การปรับตั้งวาล์ว การตั้งไฟจุดระเบิด จากเครื่องกองๆอยู่เอามาประกอบกันทำให้เครื่องยนต์ติดได้เลยนะครับ สภาพเครื่องยังกะเศษเหล็ก ตอนเรียนเอามาทำให้มันติดได้เลยครับ
2 ต่อด้วย ช่างเครื่องยนต์เบนซินหัวฉีด เรียนการอ่านวงจรสาย ระบบอิเล็คทรอนิกส์ เซ็นเซอร์ต่างๆ การตั้งไฟจุดระเบิด การแก้ไขปัญหารถยนต์หัวฉีด
3 ต่อด้วย ช่างติดตั้งแก๊สธรรมชาติสำหรับยานยนต์ เรียนการติดตั้งแก๊ส การต่อวงจรสายไฟแก๊สแบบมิกเซอร์ การติดตั้งแก๊สระบบหัวฉีด ลงมือทำจริงทุกขั้นตอน จนถึงการจูนแก๊สทั้ง มิกเซอร์ และหัวฉีด
4 ช่างเครื่องล่างรถยนต์ เรียนระบบกันสะเทือน เบรค ฯลฯ
5 ช่างไฟฟ้ารถยนต์ เรียนพวกระบบสวิตซ์กุญแจ จานจ่าย ไฟหน้า ไฟต่างๆ มอเตอร์สตาร์ท ไดชาร์ท ฯลฯ
แต่ละหลักสูตรๆละ 150 ชั่วโมง เรียนวันละ 3 ชั่วโมง จาก 17.30-20.30 น
ที่โรงเรียนฝึกอาชีพดินแดง 1 ครับ




ขอบคุณค๊ ข้อมูลละเอียดเรยบันทึกเก็บไว้แระค๊  เอาไว้หาเวลาไปลงเรียนบ้าง อย่างน้อยก้อจะได้มีความรู้ติดตัวไว้บ้างถึงจะไม่เก่งแบบผู้ชายก้อไม่เปนรัย ขอบคุณน๊ค๊
บันทึกการเข้า
darkblue96
ศิษย์น้อง
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 51


line ID: vertex96


« ตอบ #22 เมื่อ: 24 มกราคม 2014, 09:54:14 »

มีอะไรถามได้ครับที่ ไอดี czp01rugersp101 ครับ ถ้ารู้จะตอบครับ ถ้าไม่รู้ก็จะตอบว่าไม่รู้ครับ เจ๋ง

ขอบคุณค๊ จะแอดไปทันที เผื่อมีเรื่องรบกวนแบบกระทันหันไม่ว่ากันน๊ค๊  อายจัง อายจัง อายจัง
บันทึกการเข้า
Sitti2519
อาจารย์ปู่
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,352



« ตอบ #23 เมื่อ: 24 มกราคม 2014, 10:39:58 »

ครับผม ถ้าตอบได้ก็จะตอบครับ อันไหนที่ไม่ชำนาญก็คงตอบไม่ได้ ก็จะบอกว่าตอบไม่ได้ครับผม
บันทึกการเข้า
TWISTER
Verified
เข้าวงการ
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 19


« ตอบ #24 เมื่อ: 22 กุมภาพันธ์ 2014, 11:19:41 »

ตอบคำถามนะครับ
1.การเปลี่ยนเชื้อเพลิงความร้อนเปลี่ยนแปลงไหม
ตอบ ไม่เปลี่ยนแปลงครับ ถ้าความร้อนมีการเปลี่ยนแปลงสูงขึ้น แสดงว่าระบบระบายความร้อนมีปัญหา เช่น พัดลมไฟฟ้าไม่ทำงาน หรือระบบน้ำระบายความร้อนได้ไหมดี(หม้อน้ำรถยนต์) เกณฑ์ความร้อนควรอยู่ในระดับเดียวกับการใช้น้ำมันเชื้อเพลิง
2.การวิ่งรถเป็นระยะเวลานาน อาจทำให้เครื่องยนต์สึกหรอได้เร็วขึ้น แต่มีปัจจัยร่วมดังต่อไปนี้
ตอบ 2.1 ควรวิ่งรถในระยะ 300 กม.หรือ 2-3 ชม. พัก 15-20 นาที เพื่อเช็คความร้อน และความพร้อมของตัวคุณเองว่ายังมีสติขับไหมหรือไม่
        2.2 น้ำมันเครื่องคือสิ่งที่สำคัญมากอีกประการในการขับระยะทางไกล เพราะ การใช้น้ำมันเครื่องคุณภาพต่ำ จะทำให้การสึกหรอสูงขึ้นเพราะความร้อน และรอบเครื่องที่จัดเป็นเวลายาวนาน (ลองสังเกตุนะครับ ถ้าใช้น้ำมันเครื่องคุณภาพต่ำรถสามารถวิ่งได้เช่นกัน แต่สิ่งที่แตกต่าง คือ 1.ความร้อนหน้าเครื่องจะมีไอร้อนสูงกว่า 2.จังหวะการเดินรอบเครื่องยนต์เหมือนคนวิ่งหายใจไม่ทัน)
       2.3 การวิ่งด้วยแก๊สมีอัตราการใช้งานที่เหมาะสมคือ วิ่งด้วยแก๊ส 100 กม. ควรวิ่งด้วยน้ำมันเชื้อเพลิง 10 กม. หรืออัตรา 10/1 ครับ
*หากใช้รถเป็นประจำครับมั่นดูแลรักษาอย่างสม่ำเสมอไม่ว่าจะระดับของน้ำมันเครื่อง น้ำในระบบหม้อน้ำ ขาดไหม และสุขภาพของคุณเอง
บันทึกการเข้า
หน้า: [1] ขึ้นบน พิมพ์ 
:::CIVIC CLUB THAILAND:::  |  คุยคุ้ย Civic  |  Civic Club Alternative Energy => พลังงานทางเลือก  |  หัวข้อ: สอบถามเรื่องความร้อน ตอนใช้แก๊สค๊
กระโดดไป:  


.: Powered by :.
.: Link Exchange :.
civic, civic club, new civic 2017 civic, civic club, new civic 2017 civic, civic club, new civic 2017 civic, civic club, new civic 2017 civic, civic club, new civic 2017 civic, civic club, new civic 2017 civic, civic club, new civic 2017 civic, civic club, new civic 2017


Powered by MySQL Powered by PHP Copyright 2004-2014 www.welovecivic.com All rights reserved
Contact: theerachai@siamrx.com
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
Civic Club | ย่อลิงค์ |